ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 16 : ขับไล่เทวา 3(จบ)
ภายในโถงใต้ดินที่เป็นห้องของผู้นำเผ่าเอลฟ์โบราณ ดาราธาร ได้มีเตียงที่ถูกสร้างขึ้นจากใบของต้นไม้แลไผ่ว่างเอาไว้ใจกลาง โดยที่ในเตียงนั้นมีร่างของผู้เป็นน้องชายหลับใหลอยู่อย่างสงบโดยที่บาดแผลตามร่างกายนั้นได้ถูกริเก็นริวรักษาจนหายหมดแล้ว
" นี่ อาธารน้องข้า . . . รอก่อนนะ ใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มแก้แค้นให้แก่พวกเจ้าแล้ว " บุปผาที่อยู่ใกล้กับดาราธารเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคริสตันสีใสที่ละดอกจนกระทั้งกลายเป็นทุ่งดอกไม้คริสตันที่เปรียบเสมือนความโกรธแค้นของเหล่าเอลฟ์โบราณที่มารวมตัวกันอยู่ในตัวของผู้นำตนนี้
ดอกไม้คริสตันที่มีสรรพคุณเหลือล้นแต่ถือกำเนิดขึ้นอย่างโหดร้ายจากความสิ้นหวัง ความโกรธ ความแค้น ของเอลฟ์โบราณนับหลายร้อยตน
" ท่านผู้นำ . . . ได้เวลาแล้วขอรับ " เสียงของ1 ในผู้พิทักษ์ของหมู่บ้านดังขึ้นหน้าทางเข้าโถงทำให้ดาราธารดึงสติของตนกลับมาจากความแค้น ก่อนจะก้มลงไปกระซิบบอกน้องชายเบาๆ
" พี่ไปก่อนนะอาธาร . . . แล้วจักรีบกลับมา "
ดาราธารเดินมาหยุดอยู่ข้างๆริเก็นริวที่ตอนนี้อยู่ในชุดยูกาตะที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กเนื้ออ่อน ผมสีเงินยาวถูกมัดรวบเป็นทรงหางม้าสูงประดับไหมถักสีแดงที่ต้นเป็นผู้สร้าง พอริเก็นริวเห็นว่าผู้นำเผ่าเอลฟ์มายืนอยู่ข้างตนเป็นที่เรียบร้อยก็ตระโกนขึ้นอย่างห้าวหาล!!
" จงฟังเหล่าเอลฟ์โบราณทั้งหลาย ! ในวันนี้เราจักบุกจู่โจมเจ้าพวกเทวาจอมปลอมกัน !! เพื่อขับไล่พวกมันออกจากสวนสรรค์แห่งพ้องเรา จงลุกขึ้นสู้อย่างชาญฉลาด !! และ มีชีวิตรอดกลับมาหาครอบครัวของพวกเจ้าซะ !!! "
" เฮ !!!!!!!! "
เสียงตระโกนปลุกใจของริเก็นริว ทำให้จิตใจของเหล่านักรบเผ่าเอลฟ์โบราณฮึกเหิมขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องสวนสรรค์อันเป็นบ้านเกิดอย่างไม่เกรงกลัวใดๆปรากฎขึ้นในรูปแบบของการตอบรับอย่างก้องกังวาล
" ขอให้วาโย แล นภาอวยพรแด่พ้องข้าให้มีชัยเหนือเหล่าเทวาที่รุกรานเข้ามา " ดาราธารที่เริ่มร่ายเวทย์อวยพรตั้งแต่ตอนที่ริเก็นริวกล่าวปลุกใจก็ได้เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นแววตาแน่วแนนของครอบครัวก็ได้ยิ้มออกมาเบาๆแล้วเริ่มร่ายเวทย์ต่อทันที
" ทิวากาลอวยชัย ทอแสงนำทาง รัตติกาลปกปักคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดภัยร้ายที่ก้าวก่าย " ละอองแสงค่อยๆโปรยลงมาจากวงเวทย์ ปกคลุมร่างของเหล่านักรบที่กำลังจะออกไปปกป้องและทวงคืนผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักกลับคืนมา
" เป็นวงเวทย์ที่อบอุ่นจังน้า " ถึงจะถูกร่ายจากผู้ที่ค่อยแบกรับความแค้นของพวกพ้องเอาไว้ก็เถอะ ผมคิดในใจก่อนจะออกคำสั่งเมื่อเห็นว่าทุกตนพร้อมแล้ว
" บุกได้ !!!! " สิ้นเสียงเหล่านักรบก็ได้ทยอยพากันออกไปตามแผ่นที่ว่างเอาไว้ โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มล่ะ 20 -25 ตนไปตามเส้นทางตั้ง 8 ที่จะนำพาเอลฟ์โบราณเกือบสองร้อยตนไปสู่ค่ายของพวกเทวาจากการสำรวจและเบิกทางของริเก็นริว
เอลฟ์โบราณเกือบ 200 ตนที่ออกมาจากโพลงใต้ดินค่อยๆย่องเข้าไปในค่ายด้วยเวทย์อำพราง พอไปถึงจุดที่กำหนดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยก็ได้รับสัญญาณมือจากริเก็นริวให้ทำการจู่โจมได้
เหล่าเทวาจอมปลอมที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายใจในค่ายถูกบุกจู่โจมอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไปทั่วทั้งค่าย
" ศัตรูบุก !!!!! "
เคร้ง !
อ๊ากกกก
" กลุ่มที่มีหน้าที่วางเพลิงรีบลงมือซะ !! " เสียงของหัวหน้าหน่วยบุกจู่โจมตระโกนขึ้นพร้อมกับการวางเพลิงของเด็กๆ*ได้เริ่มขึ้น
(* เอลฟ์โบราณที่อายุไม่เกิน 1000 ปีถือว่าเด็กอยู่ เลย 1000 ปีไปคือวัยรุ่น 1500 ปีขึ้นไป คือผู้ใหญ่ 2500 ปีอัพคือ ผู้สูงอายุ )
เปลวไฟจากการวางเพลิงเสบียงค่อยๆลามไปทั่วทั้งค่าย เสียงของคมดาบ และ ร่ายเวทย์ปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อปะทะกับบรรดาอาวุทของเหล่าเอลฟ์โบราณที่ซุ่มโจมตีตามมุมอับและเงาเพื่อสนับสนุนสหายที่เป็นนักรบระยะประชิดที่ไล่สังหารเหล่าเทวาจอมโลภที่หลงมัวเมาในกิเลสที่อยู่ตรงหน้าจนกระทั้งเหล่าเอลฟ์โบราณทั้ง 8 กลุ่มได้ทุ่งหน้ามาถึงกระโจมของแม่ทัพเป็นที่เรียบร้อย
ร่างของริเก็นริวเดินออกมาโดยที่ทั้งตัวไร้ซึ่งบาดแผลใดๆ มือซ้ายถือกรงนกขนาดเล็กที่ภายในมีร่างของแม่ทัพเผ่าเทวาที่ถูกย่อส่วนนั่งอย่างเหม่อลอยไร้สิ้นราศีใดๆที่เคยบ่งบอกว่านี่คือ 1 ในแม่ทัพคนสนิทของริชาเดล เดอะ ฟาร์ ที่ได้รับฉายาว่า ผู้ลงทัณฑ์ เลยแม้แต่น้อย
" จบแล้วนะครับ ทุกคน " ผมยิ้มออกมาเบาๆให้แก่เหล่าเอลฟ์โบราณที่รวบจู่โจม
" ในที่สุดก็ได้บ้านกลับคืนมาแล้วนะครับ "
ย้อนกลับไปหลังจากที่ริเก็นริวให้สัญญาณมือแก่เหล่าเอลฟ์ ก็ได้วาร์ปเข้าไปโผล่ในกระโจมของแม่ทัพ ที่ตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของกำลังนั่งทวนคำสั่งที่ได้รับหมอบหมายมาจากผู้เป็นนายอยู่
" บ้าเอ๊ย !!!! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ !!" แม่ทัพหนุ่มตระโกนอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อแผนการที่ว่างเอาไว้ผิดพลาดไปหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ที่ตนจับนักบวชเผ่าเอลฟ์โบราณตนนั้นมาเพื่อจะบังคับใช้มนตร์ควบคุมกลับถูกชิงตัวไปเสียแล้ว แบบของวทแหวนเวทย์ก็ถูกใครไม่รู้ทำลายจนหมดสิ้น
" หัวเสียงั้นเหรอครับ ? คุณแม่ทัพเอ๋ย " เสียงของชายหนุ่มดังก้องไปทั่วกระโจมก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมา
ร่างของชายหนุ่มที่มีสีผมและดวงตาดำสนิดรามกับว่าคนผู้นี้คือส่วยหนึ่งของรัตติกาล ชุดกรีซโบราณสีดำเช่นเดียวกับสีผมขับให้ร่างของคนผู้นี้ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ยิ่งนัก ใช่แล้ว นี้คือร่างในชาติที่แล้วของริเก็นริวนั้นเอง
" แกเป็นใครกัน !!! " แม่ทัพหนุ่มชักดาบออกมาชี้ไปที่ร่างของคนตรงหน้า
" ไม่ต้องรู้หรอก " ผมบอกก่อนจะไปโผล่ด้านหลัง มือทั้งสองวางอยู่บริเวณขมับของเทวาหนุ่มเอาไว้พลางแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าสยดสยอง
" เอา . . . เจ้าจะทนได้สักเท่าไรกันเทวาเอ๋ย " สิ้นเสียงคำสาปแช่ง และ วงเวทนานาชนิดที่ใช้ประสบการณ์ของชาติที่แล้วและจากที่ศึกษาตามแหล่งต่างๆก็ปรากฎขึ้นใต้เท้าของทั้งสองพร้อมกับเริ่มทำงานโดยมีเป้าหมายคือผู้มีปีกเพียงผู้เดียว
" อ๊ากกกกกกกกกก !!!!!!!" เสียงกรีดร้องดังขึ้นโดยที่ไม่สามารถเล๊ดรอดออกไปนอกกระโจมได้เพราะเขตแดนของริเก็นริว ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งไล่ดูความทรงจำของแม่ทัพเทวาอยู่ ก่อนจะรีบหยุดเวทอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับรู้อะไรบางอย่าง
" ช่างชั่วร้ายจริงนะ พวกเจ้า " ผมมองไปยังผู้ที่อยู่ในร่างของเทวาตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดอีกไม่กี่คำที่ทำให้เทวาตรงหน้าเหงื่อตกด้วยความหวาดกลัว
" ยึดกาย ทำลายวิญญาณ "
" เจ้ารู้ได้ไง!!!!!! "
" . . . โซทเตอร์ " ผมไม่ตอบแต่เอ่ยเรียกผู้พิทักษ์ธาตุวิญญาณขึ้นมาแทน
ร่างของชายผมเท่าในชุดยมฑูตโผล่ขึ้นมาจากความมือด้านหลังของริเก็นริวตวัดเคียวไปยังร่างของเทวาเพื่อเก็บบางสิ่งตามประสงค์ของผู้เป็นนาย แล้วหายตัวไปเมิ่อทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย
" ขอบคุณนะ . . . " ผมฝากคำขอบคุณไปกับสายลม เดินไปนั่งอยู่เบื้องหน้าของร่างที่ไร้วิญญาณแต่ยังคงหายใจได้อยู่
" ขอโทษนะที่ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้มากว่านี้ พักผ่อนได้แล้ว ... "
ไม่ทันที่ริเก็นริวจะพูดจบร่างที่คิดว่าไร้วิญญาณก็ได้ขยับปากขึ้นเพื่อส่งคำพูดจากใจ ความปราถนาสุดท้ายออกไปให้รู้
ช่วย ทำ ข้า เป็น ข้า รับ ใช้ ท่าน ที ท่าน ผู้ มี พระ คุณ
" . . . . ถ้าเจ้าต้องการเราสัญญาณว่าจะให้ แต่ได้โปรด รอเราอีกนิดเถอะ " ร่างของเทวายิ้มออกมาเบาๆก่อนจะล้มลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยไป
" ขอให้เจ้าไปสู่ภพภูมิที่ดี "
" นี่ อาธารน้องข้า . . . รอก่อนนะ ใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มแก้แค้นให้แก่พวกเจ้าแล้ว " บุปผาที่อยู่ใกล้กับดาราธารเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคริสตันสีใสที่ละดอกจนกระทั้งกลายเป็นทุ่งดอกไม้คริสตันที่เปรียบเสมือนความโกรธแค้นของเหล่าเอลฟ์โบราณที่มารวมตัวกันอยู่ในตัวของผู้นำตนนี้
ดอกไม้คริสตันที่มีสรรพคุณเหลือล้นแต่ถือกำเนิดขึ้นอย่างโหดร้ายจากความสิ้นหวัง ความโกรธ ความแค้น ของเอลฟ์โบราณนับหลายร้อยตน
" ท่านผู้นำ . . . ได้เวลาแล้วขอรับ " เสียงของ1 ในผู้พิทักษ์ของหมู่บ้านดังขึ้นหน้าทางเข้าโถงทำให้ดาราธารดึงสติของตนกลับมาจากความแค้น ก่อนจะก้มลงไปกระซิบบอกน้องชายเบาๆ
" พี่ไปก่อนนะอาธาร . . . แล้วจักรีบกลับมา "
ดาราธารเดินมาหยุดอยู่ข้างๆริเก็นริวที่ตอนนี้อยู่ในชุดยูกาตะที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กเนื้ออ่อน ผมสีเงินยาวถูกมัดรวบเป็นทรงหางม้าสูงประดับไหมถักสีแดงที่ต้นเป็นผู้สร้าง พอริเก็นริวเห็นว่าผู้นำเผ่าเอลฟ์มายืนอยู่ข้างตนเป็นที่เรียบร้อยก็ตระโกนขึ้นอย่างห้าวหาล!!
" จงฟังเหล่าเอลฟ์โบราณทั้งหลาย ! ในวันนี้เราจักบุกจู่โจมเจ้าพวกเทวาจอมปลอมกัน !! เพื่อขับไล่พวกมันออกจากสวนสรรค์แห่งพ้องเรา จงลุกขึ้นสู้อย่างชาญฉลาด !! และ มีชีวิตรอดกลับมาหาครอบครัวของพวกเจ้าซะ !!! "
" เฮ !!!!!!!! "
เสียงตระโกนปลุกใจของริเก็นริว ทำให้จิตใจของเหล่านักรบเผ่าเอลฟ์โบราณฮึกเหิมขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องสวนสรรค์อันเป็นบ้านเกิดอย่างไม่เกรงกลัวใดๆปรากฎขึ้นในรูปแบบของการตอบรับอย่างก้องกังวาล
" ขอให้วาโย แล นภาอวยพรแด่พ้องข้าให้มีชัยเหนือเหล่าเทวาที่รุกรานเข้ามา " ดาราธารที่เริ่มร่ายเวทย์อวยพรตั้งแต่ตอนที่ริเก็นริวกล่าวปลุกใจก็ได้เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นแววตาแน่วแนนของครอบครัวก็ได้ยิ้มออกมาเบาๆแล้วเริ่มร่ายเวทย์ต่อทันที
" ทิวากาลอวยชัย ทอแสงนำทาง รัตติกาลปกปักคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดภัยร้ายที่ก้าวก่าย " ละอองแสงค่อยๆโปรยลงมาจากวงเวทย์ ปกคลุมร่างของเหล่านักรบที่กำลังจะออกไปปกป้องและทวงคืนผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักกลับคืนมา
" เป็นวงเวทย์ที่อบอุ่นจังน้า " ถึงจะถูกร่ายจากผู้ที่ค่อยแบกรับความแค้นของพวกพ้องเอาไว้ก็เถอะ ผมคิดในใจก่อนจะออกคำสั่งเมื่อเห็นว่าทุกตนพร้อมแล้ว
" บุกได้ !!!! " สิ้นเสียงเหล่านักรบก็ได้ทยอยพากันออกไปตามแผ่นที่ว่างเอาไว้ โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มล่ะ 20 -25 ตนไปตามเส้นทางตั้ง 8 ที่จะนำพาเอลฟ์โบราณเกือบสองร้อยตนไปสู่ค่ายของพวกเทวาจากการสำรวจและเบิกทางของริเก็นริว
เอลฟ์โบราณเกือบ 200 ตนที่ออกมาจากโพลงใต้ดินค่อยๆย่องเข้าไปในค่ายด้วยเวทย์อำพราง พอไปถึงจุดที่กำหนดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยก็ได้รับสัญญาณมือจากริเก็นริวให้ทำการจู่โจมได้
เหล่าเทวาจอมปลอมที่กำลังพักผ่อนอย่างสบายใจในค่ายถูกบุกจู่โจมอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไปทั่วทั้งค่าย
" ศัตรูบุก !!!!! "
เคร้ง !
อ๊ากกกก
" กลุ่มที่มีหน้าที่วางเพลิงรีบลงมือซะ !! " เสียงของหัวหน้าหน่วยบุกจู่โจมตระโกนขึ้นพร้อมกับการวางเพลิงของเด็กๆ*ได้เริ่มขึ้น
(* เอลฟ์โบราณที่อายุไม่เกิน 1000 ปีถือว่าเด็กอยู่ เลย 1000 ปีไปคือวัยรุ่น 1500 ปีขึ้นไป คือผู้ใหญ่ 2500 ปีอัพคือ ผู้สูงอายุ )
เปลวไฟจากการวางเพลิงเสบียงค่อยๆลามไปทั่วทั้งค่าย เสียงของคมดาบ และ ร่ายเวทย์ปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อปะทะกับบรรดาอาวุทของเหล่าเอลฟ์โบราณที่ซุ่มโจมตีตามมุมอับและเงาเพื่อสนับสนุนสหายที่เป็นนักรบระยะประชิดที่ไล่สังหารเหล่าเทวาจอมโลภที่หลงมัวเมาในกิเลสที่อยู่ตรงหน้าจนกระทั้งเหล่าเอลฟ์โบราณทั้ง 8 กลุ่มได้ทุ่งหน้ามาถึงกระโจมของแม่ทัพเป็นที่เรียบร้อย
ร่างของริเก็นริวเดินออกมาโดยที่ทั้งตัวไร้ซึ่งบาดแผลใดๆ มือซ้ายถือกรงนกขนาดเล็กที่ภายในมีร่างของแม่ทัพเผ่าเทวาที่ถูกย่อส่วนนั่งอย่างเหม่อลอยไร้สิ้นราศีใดๆที่เคยบ่งบอกว่านี่คือ 1 ในแม่ทัพคนสนิทของริชาเดล เดอะ ฟาร์ ที่ได้รับฉายาว่า ผู้ลงทัณฑ์ เลยแม้แต่น้อย
" จบแล้วนะครับ ทุกคน " ผมยิ้มออกมาเบาๆให้แก่เหล่าเอลฟ์โบราณที่รวบจู่โจม
" ในที่สุดก็ได้บ้านกลับคืนมาแล้วนะครับ "
ย้อนกลับไปหลังจากที่ริเก็นริวให้สัญญาณมือแก่เหล่าเอลฟ์ ก็ได้วาร์ปเข้าไปโผล่ในกระโจมของแม่ทัพ ที่ตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของกำลังนั่งทวนคำสั่งที่ได้รับหมอบหมายมาจากผู้เป็นนายอยู่
" บ้าเอ๊ย !!!! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ !!" แม่ทัพหนุ่มตระโกนอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อแผนการที่ว่างเอาไว้ผิดพลาดไปหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ที่ตนจับนักบวชเผ่าเอลฟ์โบราณตนนั้นมาเพื่อจะบังคับใช้มนตร์ควบคุมกลับถูกชิงตัวไปเสียแล้ว แบบของวทแหวนเวทย์ก็ถูกใครไม่รู้ทำลายจนหมดสิ้น
" หัวเสียงั้นเหรอครับ ? คุณแม่ทัพเอ๋ย " เสียงของชายหนุ่มดังก้องไปทั่วกระโจมก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมา
ร่างของชายหนุ่มที่มีสีผมและดวงตาดำสนิดรามกับว่าคนผู้นี้คือส่วยหนึ่งของรัตติกาล ชุดกรีซโบราณสีดำเช่นเดียวกับสีผมขับให้ร่างของคนผู้นี้ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ยิ่งนัก ใช่แล้ว นี้คือร่างในชาติที่แล้วของริเก็นริวนั้นเอง
" แกเป็นใครกัน !!! " แม่ทัพหนุ่มชักดาบออกมาชี้ไปที่ร่างของคนตรงหน้า
" ไม่ต้องรู้หรอก " ผมบอกก่อนจะไปโผล่ด้านหลัง มือทั้งสองวางอยู่บริเวณขมับของเทวาหนุ่มเอาไว้พลางแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าสยดสยอง
" เอา . . . เจ้าจะทนได้สักเท่าไรกันเทวาเอ๋ย " สิ้นเสียงคำสาปแช่ง และ วงเวทนานาชนิดที่ใช้ประสบการณ์ของชาติที่แล้วและจากที่ศึกษาตามแหล่งต่างๆก็ปรากฎขึ้นใต้เท้าของทั้งสองพร้อมกับเริ่มทำงานโดยมีเป้าหมายคือผู้มีปีกเพียงผู้เดียว
" อ๊ากกกกกกกกกก !!!!!!!" เสียงกรีดร้องดังขึ้นโดยที่ไม่สามารถเล๊ดรอดออกไปนอกกระโจมได้เพราะเขตแดนของริเก็นริว ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งไล่ดูความทรงจำของแม่ทัพเทวาอยู่ ก่อนจะรีบหยุดเวทอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับรู้อะไรบางอย่าง
" ช่างชั่วร้ายจริงนะ พวกเจ้า " ผมมองไปยังผู้ที่อยู่ในร่างของเทวาตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดอีกไม่กี่คำที่ทำให้เทวาตรงหน้าเหงื่อตกด้วยความหวาดกลัว
" ยึดกาย ทำลายวิญญาณ "
" เจ้ารู้ได้ไง!!!!!! "
" . . . โซทเตอร์ " ผมไม่ตอบแต่เอ่ยเรียกผู้พิทักษ์ธาตุวิญญาณขึ้นมาแทน
ร่างของชายผมเท่าในชุดยมฑูตโผล่ขึ้นมาจากความมือด้านหลังของริเก็นริวตวัดเคียวไปยังร่างของเทวาเพื่อเก็บบางสิ่งตามประสงค์ของผู้เป็นนาย แล้วหายตัวไปเมิ่อทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย
" ขอบคุณนะ . . . " ผมฝากคำขอบคุณไปกับสายลม เดินไปนั่งอยู่เบื้องหน้าของร่างที่ไร้วิญญาณแต่ยังคงหายใจได้อยู่
" ขอโทษนะที่ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้มากว่านี้ พักผ่อนได้แล้ว ... "
ไม่ทันที่ริเก็นริวจะพูดจบร่างที่คิดว่าไร้วิญญาณก็ได้ขยับปากขึ้นเพื่อส่งคำพูดจากใจ ความปราถนาสุดท้ายออกไปให้รู้
ช่วย ทำ ข้า เป็น ข้า รับ ใช้ ท่าน ที ท่าน ผู้ มี พระ คุณ
" . . . . ถ้าเจ้าต้องการเราสัญญาณว่าจะให้ แต่ได้โปรด รอเราอีกนิดเถอะ " ร่างของเทวายิ้มออกมาเบาๆก่อนจะล้มลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยไป
" ขอให้เจ้าไปสู่ภพภูมิที่ดี "
..............
ไรท์มาแล้วววว
ม.5 แล้วเหนื่อยมากกกก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น