ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิค all80 reborn

    ลำดับตอนที่ #3 : นางฟ้าผู้มีปีกสีดำทมิฬ 1880 จบ.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 564
      6
      18 พ.ค. 57


    นางฟ้าผู้มีปีกสีดำทมิฬ  1880



    เทพผู้มีปีกสีขาวบริสุทธิ์ มีพลังอำนาจเหนือมนุษย์  แต่ถ้ามีเทพองค์หนึ่งเกิดหลงรักกับมนุษย์ที่ถูกสาป  มันจะเป็นเช่นไรต่อไป  ถ้าโชคชะตาไม่ได้ลิขิตให้พวกเขารักกัน

     

     

           กาลครั้งหนึ่ง  มีเทพเจ้าองค์หนึ่งถูกซาตานทำร้ายจนตกลงมาสู่โลกมนุษย์  เพราะปีกได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถบินหนีได้  ทำได้เพียงนอนรอซาตานมาเด็ดปีกออกเท่านั้น 

     

    ท่าน......มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ...”   ในยามที่ข้ากำลังหมดหวังก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น  เมื่อข้าลืมตาขึ้นก็พบชายร่างสูงที่ใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัว  ยื่นมือมาที่ข้า  ทั้งสีผมและสีตาก็เป็นสีดำไปหมดผิดกับผิวที่กลับขาว  ชวนน่าหลงใหลยิ่ง 

     

          ข้าได้รับความช่วยเหลือจากชายชุดดำ  เขาอุ้ม(?)ข้ามาที่บ้านของเขา  และช่วยรักษาแผลตามร่างกายและปีกของข้าอย่างทะนุถนอม  และยังให้ข้านอนพักที่ห้องของเขาอีกต่างหาก 

     

    ทำไม  ถึงช่วยข้า....” 

     

    ผมคงรัตกหลุมรักกท่านซะแล้วสิครับ”  ชายผู้นั้นพูดออกมาพลางลูบใบหน้าของข้าเบาๆ  มันทำให้ใบหน้าของข้าขึ้นสีเล็กน้อย

     

    ท่านนอนพักเถอะ  เดี๋ยวผมจะไปทำอาหารให้ท่านทานนะ”  ชายคนนั้นจับตัวข้าให้เอนหลังนอนกับเตียงแล้วก็ออกไปนอกห้องทันที

     

            ข้าก็ไม่อยากจะคิดแบบนี้กับมนุษย์หรอก  การหลงรักพวกมนุษย์ถือเป็นบาปหนักของเหล่าเทพเจ้า  ข้าเองก็จำเป็นต้องเป็นเทพเจ้าต่อไปเพื่อคอยดูแลเหล่ามนุษย์ทั้งโลก  แต่ข้าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้าเองนั้นก็หลงรักชายผู้นั้นสุดหัวใจเช่นกัน

     

    เทพเจ้าผู้มีปีกสีขาวบริสุทธิ์  ได้ทำผิดกฎของเหล่าเทพเจ้าโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว

     

    เคียวยะ.....วันนี้ไปเดินเที่ยวในตลาดกับฉันไหม”   มีเสียงของใครก็ไม่รู้ดังขึ้นอยู่ด้านล่าง  ทำให้เทพเจ้าที่นอนอยู่ตื่นขึ้น

     

    ไม่  ต้องให้ผมบอกคุณกี่ครั้งว่าผมไม่ไป  ออกไปซะ  และก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นตอบโต้

     

    โธ่...ขอร้องละ เคียวยะ  ไปกับฉันหน่อยเถอะน่า นะ   เสียงของใครก็ไม่รู้ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ

     

    เคียวยะรึ.... ใครกัน  ลงไปดูดีกว่า”   ข้าได้ยินเสียงคนคุยกันเสียงดังเลยลงมาดูให้แน่ใจ  เมื่อผมลงมาถึงบันไดก็นั่งยองๆเพื่อแอบดูการสนทนาของคนสองคนที่ยืนเถียงกันอยู่หน้าประตู  ข้า...เห็นชายหนุ่มหน้าตาดี ผมทอง และแววตาสีน้ำตาเข้มเป็นประกาย  กำลังยืนถือดอกไม้และกำลังนั่งอ้อนวอนกับชายผมดำอย่างเอาเป็นเอาตาย...

     

    ผมไม่เคยชอบคุณเลยสักนิด  คุณก็รู้นี้น่า  ผมเป็นผู้ชายนะ ก็ต้องชอบผู้หญิงมากกว่าสิ!”  ข้าที่แอบฟังอยู่ ถึงกับหายใจไม่ออกไปช่วงหนึ่งทันที....  จริงสิ  มนุษย์นะ  ชายก็ต้องคู่กับหญิงสินะ  ทำไมข้าถึงโง่แบบนี้  .....ทำไมข้าถึงเจ็บปวดแบบนี้

     

    เลิกตามตื้อผมเสียที  ผมจะนอนแล้ว  คุณกลับไปซะ”   ชายผมดำรีบปิดประตูโดยไม่ฟังเสียงของอีกฝ่ายแต่อย่างใด  ข้าจึงรีบกลับเข้าไปในห้องและทำเหมือนยังไม่เคยลุกขึ้นจากเตียง  สักพักชายผมดำก็เข้ามาในห้องพร้อมถาดอาหาร

     

    ท่านลุกขึ้นมาทานอาหารก่อนนะครับ  เดี๋ยวผมป้อน”   ชายผมดำคนนั้นนั่งลงข้างๆข้าและค่อยๆประคองข้าให้ลุกขึ้นมานั่ง

     

    ข้าเป็นเทพเจ้านะ  ไม่ต้องกินของพวกมนุษย์หรอก”   น้ำเสียงของเทพเจ้าเริ่มเปลี่ยนไปจนชายผมดำทำหน้างงๆเล็กน้อย  ในเมื่อเห็นว่าเทพเจ้าไม่ยอมทานอาหารชายผมดำก็จับแก้มแล้วบีบเพื่อให้ปากอ้าออกแล้วก็เอาข้าวใส่ปากเทพเจ้าและรีบเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้คายออกมา(นั้นเทพเจ้านะเว้ย!!)

     

    แต่ท่านก็ยังบาดเจ็บได้เลยนี้น่า  ถึงจะเป็นเทพเจ้ายังไงก็ต้องกินครับ   ชายผมดำพูดเสร็จก็เตรียมจะป้อนคำต่อไป

     

    ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้  เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันแน่”  คำถามจากเทพเจ้าทำให้ชายผมดำเอียงคอเล็กน้อยเหมือนจะนึกอะไรบางอย่าง  แล้วก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

     

    ผมเคยบอกแล้วไง  เพราะผมรักท่านยังไงละครับ”  ชายผมดำดึงตัวเทพเจ้ารางบางเข้ามากอดแน่น

     

    ......... .........เจ้าชื่ออะไร”   ในเวลานี้ข้าสับสนมากถึงมากที่สุด  ข้าอยากจะผลักออกจากชายคนนี้ แต่ทำไมข้าถึงทำไม่ได้กัน  หรือว่าข้ารักชายคนนี้แล้วจริงๆ 

     

    ผมชื่อฮิบาริ  เคียวยะ ครับชายร่างสูงผมดำตอบคำถามกับข้าแต่ก็ยังคงกอดข้าอยู่ไม่ยอมปล่อยแล้วท่านละ

     

    ข้าชื่อ......ทาเคชิ”   ทำไมข้าถึงต้องบอกชื่อให้ชายคนนี้รู้ด้วยนะ  ข้าจะทำเช่นไรดี  ป่านี้บนสวรรค์คงโวยวายที่ข้าหายตัวเป็นแน่  แต่ข้าก็ไม่อยากห่างจากชายคนนี้เลย  แต่ถึงอย่างนั้น ชายก็ต้องคู่กับหญิงนี้น่า  ถึงข้าจะอยู่กับเจ้าก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอก...

     

    1 อาทิตย์ต่อมา  เวลา  23:50

     

         ข้ากำลังเดินอยู่ในวิหารเทพเจ้าที่พวกมนุษย์สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาในตัวของพวกเรา  ทำไมข้าถึงมาที่นี้คนเดียวนะหรือ  เพราะข้าไม่ได้บอกกับฮิบาริ  เคียวยะ นะสิ  ข้าเดินมาหยุดอยู่ตรงรูปปั้นเทพเจ้าองค์ใหญ่  ที่กำลังปล่อยปีกขนาดใหญ่ออกมาอย่างสง่างาม  ยืนมือมาข้างหน้าเหมือนจะคอยรับบาปที่พวกมนุษย์ทำทั้งหมดเอาไว้คนเดียว  ใบหน้าที่แสนดูสงบนิ่งและเมตตาราวกับจะอภัยให้กับบาปที่มนุษย์ได้ทำทั้งหมด

     

         ในยามที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่ใกล้ตรงกลางวิหารปีกของเทพเจ้าได้กระพือออกอย่างสง่างาม  มิได้เพื่อบินแต่อย่างใด  แต่เพื่อแสดงตนว่า ตนเป็นเทพเจ้าเช่นกัน

     

    ท่านพ่อ.....  บาปที่ข้าได้กระทำต่อเหล่าเทพเจ้านั้น  ท่านจะยกโทษให้ข้าได้รึไม่”  ข้านั่งคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้นของพ่อข้า 

     

    ทาเคชิ  นั้นท่านจะทำอะไรนะ!”   เสียงของฮิบาริ  เคียวยะ  ดังขึ้นอยู่ข้างหลังข้า

     

    อย่าเข้ามาใกล้ข้าให้มากกว่านี้เลย......”   ข้าพูดออกไปโดยไม่หันหลังกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลังเด็ดขาด

     

    แต่ว่า  ทำไมละ”  ทำไมท่านถึงต้องไปจากผมด้วย  ผมทำอะไรผิดงั้นเหรอ  การที่ผมหลงรักเทพเจ้ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยรึ  ฮิบาริคิดในใจ

     

    เพื่อให้เจ้ายังคงรักข้าอยู่  การที่ข้ายังเป็นเทพเจ้า  ข้ากับเจ้าก็คงอยู่ร่วมกันได้ไม่นานหรอก  ดังนั้นข้าจำเป็นต้องไปจากเจ้า   เสียงที่แผ่วเบาลงเรื่อยๆทำให้ฮิบาริกังวลยิ่งขึ้น  และนั้นก็ทำให้ฮิบาริรีบวิ่งตรงเข้าไปหาเทพเจ้าที่ตนรักทันที  เพื่อหวังจะกอดเอาไว้ไม่ให้เขาบินหนีหายไป  แต่เมื่อวิ่งไปถึงแล้ว ระยะห่างแค่ปลายเล็บ

     

     

    เกร็ง   เกร็ง! 

    เสียงระฆังในยามเที่ยงคืนดังไปทั่วเมือง  บ่งบอกถึงเวลาแห่งการร่ำลาจากคนรัก

     

    ลาก่อน  เราคงจะเจอกันอีก....ในไม่ช้า”  สิ้นเสียงของเทพเจ้า  ปีกก็กระพือออกอีกครั้ง  ร่างของเทพเจ้าได้หายไปในพริบตา  นั้นคือช่วงเวลาเดียวกับฮิบาริกอดร่างไว้  แต่สุดท้าย.....ก็ได้เพียงกอดขนนกที่หลุดจากปีกเท่านั้น

     

    ไม่  ......!!?”   ชายร่างสูงผมดำแค้นใจตัวเองที่ไม่สามารถรั้งคนที่ตนรักไว้ได้  มีเพียงขนนกสีขาวบริสุทธิ์จำนวนมากลอยไปมาตามลม  ทำได้เพียงกอดตัวเองอีกครั้ง  น้ำตาที่ไหลอาบแก้มก็ไม่ทำให้ชายผมดำบรรเทาความเจ็บปวดลงได้เลยแม้แต่น้อย

     

    2 วันต่อมา

     

          ผมออกมาเดินเล่นนอกบ้านหลังจากสองวันที่ผ่านมาผมเอาแต่นอนร้องไห้ไม่ทำอะไรทั้งนั้น  วันนี้ผมคิดจะมาซื้อของที่ตลาดเพื่อทำอาหารค่ำ ระหว่างเดินทางกลับบ้าน  ผมเดินเลี้ยวไปที่ป่าที่ผมกับคนรัก(??)เจอกันครั้งแรก  ในใจผมยังคิดถึงและโหยหาท่านผู้นั้นอยู่ตลอดเวลา  

     

    อยากเจอท่านอีกจังเลย....”  ผมนั่งลงตรงจุดที่ผมเจอคนรักครั้งแรก  แล้วก็หยิบขนมปังขึ้นมา2ก้อน  ผมกินไปหนึ่งชิ้น ส่วนอีกชิ้นก็วางไว้ข้างๆ

     

    อยากเจอใครงั้นเหรอคะ?”  มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นข้างหลังผม  เมื่อผมหันไปผมก็เจอกับ........หญิงงามในชุดสีดำทั้งตัว  ผมยาวสีน้ำตาลออกเลือง  และดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูคุ้นเคยนั้น  กำลังยืนยิ้มอย่างเป็นมิตรและอ่อนโยนให้กับผม  อะไรกัน  ความรู้สึกแบบนี้   เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ  และทำไมหัวใจถึงเต้นผิดปกติแบบนี้นะ

     

    คุณ....เป็นใคร”   ผมถามออกไปพร้อมกับใจที่เต้นรัว

     

    มิสะ.....ยามาโมโตะ  มิสะ คะ”  หญิงงามคนนั้นตอบผมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม  ช่างดูงดงามจริงๆ

     

    ผมชื่อ ฮิบาริ  เคียวยะ ครับ  ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”  สุดท้ายแล้วเราทั้งสองคนก็นั่งคุยกันอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน  นานมากเสียจนดวงอาทิตย์หายลับไปจากขอบฟ้า

     

    ชายผมดำได้ตกหลุมรักหญิงงานผมดำยาวตั้งแต่แรกที่สบตากัน  เกิดรู้สึกถึงสิ่งที่เอ่อล้นออกมาจากหัวใจในทันใด

     

    มิสะ  ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว  จะให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านไหม”  ผมอาสาเป็นคนดี1วันเลยนะเนี้ย  อย่าตกใจที่ผมเปลี่ยนสรรพนามนะ 

     

    เออคือ... ฉันเพิ่งย้ายมาที่เมืองนี้วันนี้นะคะ  ยังไม่มีที่พักหรอก  ตั้งใจว่าจะหาโรงแรมแถวนี้ไปก่อนนะคะ”  มิสะพูดไปก็เกาแก้มแก้เขิน 

     

    งั้นไปพักที่บ้านฉันก่อนไหมละ  ที่บ้านออกจะใหญ่ เลยมีห้องว่างเยอะนะ”  ทำไมผมแอบดีใจนะที่ได้ยินแบบนั้น(อ้าวเห้ย!

     

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  ฉันไม่อยากรบกวนคุณถึงขนาดนั้น   ระหว่างที่เรายืนคุยอยู่นั้นเองจู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก  ผมจึงไม่รอช้ารีบดึงมือของมิสะแล้ววิ่งตรงไปที่บ้านของผมทันที (ช่วยด้วย  มีผู้หญิงถูกฉุด!! // โดนตรีนปริศนา)

     

    ต่อไปไรเตอร์จะเป็นผู้อ่านบทเองเนอะ-w- หึหึหึหึหึ

     

    หว่า....เสื้อเปียกหมดเลย”  มิสะบ่นพึมพำออกมาเบาๆพลางบิดเสื้อที่เปียกน้ำ

     

    เดี๋ยวเธอรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อซะ  เดี๋ยวฉันจะทำอาหารค่ำเตรียมเอาไว้ให้”  ฮิบาริโยนผ้าเช็ดตัวให้มิสะ  แล้วก็ชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ  มิสะก็พยักหน้าแล้วก็เดินไปอาบน้ำตามคำสั่ง

     

       มิสะเดินออกมาพร้อมกับใส่เสื้อ(ที่หลวมจนไม่รู้จะหลวมยังไงแล้ว)  แล้วก็เดินตรงไปที่ห้องอาหาร  เห็นฮิบาริ  เคียวยะจัดโต๊ะอาหารอย่างรีบร้อน  มิสะเห็นแบบนั้นก็ยิ้มขึ้นมาบางๆ   ทั้งสองกินอาหารค่ำเสร็จฮิบาริก็เดินนำมิสะมาที่ห้องว่าง

     

    เธอนอนที่ห้องนี้นะ  ฉันนอนห้องข้างๆ”  ฮิบาริเปิดประตูให้มิสะเข้าไปในห้อง

     

    ขะ  ขอบคุณนะ  ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี”  มิสะพูดด้วยแววตาเศร้าๆเหมือนรู้สึกผิด  แต่แววตาและใบหน้าแบบนี้มันทำให้ฮิบาริใจเต้นแรงขึ้นมาทันที  ความรู้สึกแบบนี้มันคือแบบเดียวกับที่เจอทาเคชิเลยจริงๆ....

     

    งั้น........”  ฮิบาริดึงตัวมิสะมากอดและจูบอย่างนุ่มนวล  ฮิบาริผลักมิสะให้ล้มบนเตียงแล้วก็ล็อกประตู(หนังไทยที่สุด!!).............

     

    ทั้งสองได้ทำพันธสัญญาของหัวใจไปในที่สุด  โดยที่ไม่คิดถึงอดีตและอนาคตว่าจะเกิดอะไรต่อไป

     

    4 ปีต่อมา (ไวเหมือนโกหก 5555+)

     

    แม่ฮ่ะ  ผมหิวข้าวแล้วอ่า”  เด็กชายผมสีดำน้ำตาล  และมีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังดึงกระโปรงของมิสะเบาๆ

     

    จร้าๆ  รออีกแป๋บนึงนะ  หนูไปเล่นกับพี่ก่อนนะจ้ะ”  มิสะก้มหน้าลงไปพูดกับ  ลูกชายที่น่ารักของตนอย่างอ่อนโยน  ตอนนี้ฮิบาริกับมิสะมีลูกตัวน้อยๆด้วยกัน2คน  แต่น่าแปลกที่ลูกทั้งสองคนเป็นเด็กผู้ชาย  มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทั้งหมด หรือก็คือ  ทุกคนหน้าเหมือนผู้เป็นแม่หมด  ถ้าคนอื่นเห็นก็คงงงแต่สำหรับฮิบารินั้นกลับไม่เห็นความเหมือนจนเกินไปนี้เลยสักนิด

     

    นี้ มิสะ  ฉันอยากมีลูกเป็นเด็กผู้หญิงบ้างอ่ะ”  ฮิบาริเดินเข้ามาโอบกอดมิสะจากข้างหลังแล้วก็วางคางตรงไหล่ของมิสะ

     

    นี้คุณ...ฉันทำอาหารอยู่นะ  คุณกลับไปเล่นกับลูกๆก่อนดีกว่า”  มิสะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วก็หันมาพูดกับฮิบาริ

     

    แต่ฉันอยากมีลูกผู้หญิงบ้างนี้น่า”  ฮิบาริยังคงอ้อนมิสะไม่เลิก  ทำให้มิสะอยากจะยกซุปที่กำลังต้มมาสาดดีไหมเนี้ย

     

    ถ้าอยากมีถึงขนาดนั้นละก็ คุณก็ไปขอพระเจ้...เจ้า สะ  สิ.....”  อยู่ๆมิสะก็เริ่มเงียบขึ้นมาเฉยๆจนฮิบาริเอ๊ะใจเล็กน้อย

     

    เป็นอะไรรึเปล่า  ทำไมถึงพูดติดๆขัดๆละ 

     

    ปะ เปล่า ไม่มีอะไร  ตอนนี้ซุปเสร็จพอดีเลย  คุณไปเรียกลูกมากินอาหารหน่อยสิ  มิสะหันกลับมาพูดด้วยรอยยิ้มแต่ในใจนั้นกลับเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    อืม  ได้สิ  ฮิบาริพยักหน้ารับแล้วก็เดินออกไปจากครัว  เมื่อฮิบาริออกไป  มิสะก็ล้มลงแล้วเอามือกุมหน้าอกแน่น  ใบหน้ามีแต่ความวิตกกังวลอย่าหนัก  แย่แล้ว  เผลอเรียกออกไปแล้ว  ถ้าเกิดคนคนนั้นได้ยินขึ้นมาละก็.....’  

     

    ...............หลังรับประทานอาหารเสร็จ...................

     

    มิสะ  เราไปวิหารเทพเจ้ากันหน่อยไหม”  จู่ๆฮิบาริก็เกิดนิมิตอะไรก็ไม่รู้พูดขึ้นตอนมิสะกำลังเก็บจานข้าว

     

    เอ๋  ไปที่นั้นทำไมเหรอ....”  มิสะสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็พยายามหันไปพูดกับฮิบาริให้ปกติที่สุด

     

    ก็ที่นั้นคือที่ที่ฉันกับเธอเจอกันครั้งนี้น่า  นี้ก็4ปีแล้วนะที่ฉันไม่ได้ไปที่นั้นนะ  ฉันอยากให้เธอไปด้วย    ฮิบาริพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

     

    อะ  อืม  ถ้านั้นเป็นความปรารถนาของนายละก็  แต่ฉันขออยู่ข้างนอกวิหารนะ”  มิสะทำหน้าเจือนที่จะต้องเข้าวิหารนั้น

     

    ทำไมละ  หรือว่าเธอกลัวเทพเจ้ารึไง...”  ฮิบาริพูดเหมือนจะหยอกคนที่อยู่ตรงหน้า  แต่เหมือนคนตรงหน้าจะไม่เล่นด้วยสักเท่าไหร่

     

    ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะ  กล้าท้าเหรอยะ  งั้นฉันจะเข้าไปด้วยก็ได้....”  ในที่สุดมิสะก็เผลอพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับใจไปจนได้  แต่ที่เธอกล้าพูดก็เพราะคิดในแง่ดีว่า  มันคงไม่เป็นไรหรอก

     

    เพราะคำพูดของชายซึ่งเป็นที่รัก  หญิงงามจึงยอมตกลงที่จะไปวิหารแห่งเทพเจ้า  ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์

     

        เช้าวันถัดมาฮิบาริกับมิสะเดินออกจากโดยฝากลูกๆไว้กับพี่เลี้ยง  ทั้งสองไปที่วิหารตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น  ทั้งสองเดินเข้าไปในวิหารที่ขาวสะอาดแม้กระทั้งตอนมืดๆก็ยังเห็นประกายของผนังชัดเจน  ขนนกสีขาวเมื่อตอนนั้นยังคงอยู่และถูกประดับตามมุมต่างๆของวิหาร  

     

    เดี๋ยวฉันมานะ  รู้สึกจะของหายตอนระหว่างเดินนะ”  มิสะเพิ่งมาสำรวจตัวเองตอนเดินเข้ามาในวิหาร ก็พบว่ากระเป๋าเงินหายไป  จึงเดินออกไปดูข้างนอกวิหาร 

     

         ฮิบาริจึงนั่งรอมิสะตรงที่นั่งข้างหน้ารูปปั้น  ในมือถือตะกร้าปิกนิก(มิสะฝาก)อย่างทะนุถนอม  ระหว่างที่กำรังรออยู่นั้นเองจู่ๆก็มีลมพัดเข้ามาในวิหารอย่างแรงจนขนนกสีขาว 1 อัน หลุดออกมาจากที่ประดับแล้วไปตกตรงกลางของวิหาร  ฮิบาริจึงวิ่งไปเก็บขนนกไปไว้ที่เดิม  แต่ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสปลายขนนกที่ขาวสะอาดและนุ่มนวล.....

     

    ตึก  ตึก  ตึก  ตึก......เสียงรองเท้ากระทบการพื้นวิหารเสียงก้องดังไปทั่ว

     

       ขนนกจำนวนมหาศาลถูกพัดมาจากด้านหลังของฮิบาริ  ขนนกเหล่านั้นบดบังขนนกที่ฮิบาริตั้งใจจะเก็บ

     

    เจ้าไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องขนนกอันนั้น.....ฮิบาริ  เคียวยะ  เสียงๆหนึ่งด้านขึ้นข้างหนัง  เมื่อฮิบาริจะหันไปมองก็ได้ยินเสียงเหมือนเหล็กกระทบกันดังไกลๆ  แต่ฮิบาริรู้ได้ทันทีว่าเสียงนั้นคือ  ปืน  และทันทีที่ฮิบาริหันไปมองคนข้าง

     

    ปัง!?

     

    กระสุนปืนของเทพเจ้าได้ทะลวงร่างลงทัณฑ์กับชายผมดำที่มีแต่บาปมากมาย

     

        วินาทีที่รู้ว่าตนโดนยิง  ฮิบาริได้เห็นแววตาของเทพเจ้าที่ยิงเค้า  ดวงตาสีเขียวมรกตที่โกรธเกรี้ยวและเขียดแค้นนั้นเหมือนมันจะส่งความทรงจำอะไรบางอย่างเข้ามาในหัวของฮิบาริ

     

        ภาพของเทพเจ้าผมสีดำน้ำตาลที่ฮิบาริรู้จักดี  กับ  เทพเจ้าผมสีเงินตาสีเขียวมรกต  ยืนคุยกันอย่างสนุกสนาน  นี้มัน....เพื่อนของทาเคชิงั้นเหรอ.....  แต่ว่า  ทาเคชิน่าจะกลับสู่ที่ของเค้าแล้วนี้นา  ห้วงความคิดสุดท้ายของฮิบาริ ก่อนที่ฮิบาริจะหลับไป........เวาลผ่านไปไม่นานต่อมา

     

    ........ฮะ  ฮิ  บาริ...     น้ำเสียงที่สั่นเคลือของหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาในวิหาร  ก็พบกับคนรักของตนนอนจมกองเลือดโดยมีขนนกสีขาวเปื้อนเลือดอยู่ทั่ววิหาร 

     

    การลงทัณฑ์ของเทพเจ้า....หรือว่า  โกคุเดระ  ฮายาโตะ  งั้นสินะ......ฮิบาริ  เรื่องทั้งหมด  มันเป็น  เพราะฉันแท้”  มิสะยกร่างของฮิบาริขึ้นมากอดแน่น  มิสะเอาแต่กอดฮิบาริแน่นแล้วก็เงียบไปเหมือนจะคิดอะไรสักอย่าง

     

    .......................ที่รัก....   ใบหน้าที่เปื้อนด้วยเลือดสีแดงฉาน  ใบหน้าที่ซีดเซียวมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากเห็น  สิ่งที่ข้ายอมทิ้งทุกอย่างมันก็เพื่อเจ้าแท้ๆ  น้ำเสียงของมิสะเริ่มเปลี่ยนไป  สรรพนามก็เปลี่ยนไปอีกแบบอย่างน่าตกใจ  ลมหายใจที่เริ่มแผ่วเบาจนเหมือนจะหายไปของฮิบาริทำให้คนที่เห็น น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

    นี้เธอพูดเรื่องอะไรกัน  มิสะ  สติที่เลือนรางของฮิบาริยังพอจับคำพูดของหญิงสาวได้

     

    การที่ข้ายอมแลกปีกแห่งเทพเจ้าให้กับซาตานนั้น  มันเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์  แต่ข้าก็ละทิ้งมันเพื่อให้ได้อยู่กับเจ้าตลอดไป  และถ้าการสละปีกของข้าอีก  ในครั้งนี้  มันช่วยเจ้าได้ละก็....ข้าก็จะทำ”  น้ำเสียงในตอนนี้กลายเป็นเสียงของผู้ชายโดยสมบูรณ์  แต่ฮิบาริไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้

     

    อะไร  ปีกแห่งเทพเจ้างั้นเหรอ  หมายความว่าอะไรกันแน่? 

     

    มีแสงสีส้มอ่อนๆสดใสส่องสว่างขึ้นห้อมล้อมไปทั่วของทั้งสองคน  และเหมือนกับว่าแสงนั้นจะทำให้แผลของฮิบาริค่อยๆหายไป  จนฮิบาริเริ่มดีขึ้นจนค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ

     

    ล่าก่อน   ที่รักของฉัน  ฮิบาริ  เคียวยะ”  ใบหน้าที่มีรอยยิ้มแต่เต็มไปด้วยน้ำตาของยามาโมโตะ  ทาเคชิ  และปีกสีดำที่ค่อยๆสลายไปเรื่อยๆ   ฮิบาริตกใจกับสิ่งที่ตนเห็นแต่ก็ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง

     

    ทาคะ....!!?”    ฮิบาริกำลังจะเอามือไปสัมผัสร่างกายคนที่อยู่ตรงหน้า  แต่แล้ว

     

      เพล้ง!!!?   ร่างกายแตกกระจายเหมือนแก้วน้ำที่ตกลงพื้น

     

    ร่างกายของยามาโมโตะ  ทาเคชิ  แตกสลายจนกลายเป็นเพียงฝุ่นละอองคามือของฮิบาริที่กำลังจะเอื้อมไปจับร่างนั้นไว้  สิ่งที่สัมผัสได้กลับเป็นเพียงฝุ่นละออง และอากาศที่ว่างเปล่า  เหลือเพียง  ขนนกสีดำทมิฬ 1 อัน  ค่อยๆร่วงลงมาอยู่บนตักของฮิบาริ

     

    ทาเคชิ.......มิสะ......อะ   อะ  อ๋าาาาาาาาาาา”  ฮิบาริค่อยๆประคองขนนกสีดำขึ้นมาแล้วก็ปล่อยโฮเสียงดัง  น้ำตาไหลรินลงมาไม่ขาดสาย  ไหลหยุดลงบนขนนกจนเปียกชุ่มไปทั้งอัน  แต่ฮิบาริก็ไม่หยุดร้องเลยแม้แต่น้อย  พลางเรียกชื่อของ ทาเคชิ และ มิสะ วนไปวนมาอยู่ซ้ำๆ

    .

    ...

    .....

    ........

    ...............

    .............................

    ................................................................................................................

     

    จบแล้วละคะ-w-  เรื่องนี้จบไม่สวยเลยแหะ

    แต่ทำไงได้  เราชอบแต่งแนวดราม่านี้อ่ะ//โดนแฟนคลับรุมกระทืบ

    แงๆๆๆๆ เอาเป็นว่ามาเลิฟซีนตอนอื่นก็แล้วกันน่า

    ถ้าอยากให้จบดีกว่านี้ก็เม้นขอก็แล้วกันนะค่ะ  เดี๋ยวจะทำตอนพิเศษให้ก็แล้วกัน

    5555555555555555555555+
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×