ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนผึกทักษะผู้ใช้เทพอลเวง

    ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 23 หินแห่งชีวิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 174
      0
      8 ส.ค. 58

    ภายในห้องผู้อำนวยการ ณ โรงเรียนฝึกทักษะผู้ใช้เทพ

    หญิงสาววัย 25 เศษ นั่งไขว้ขาเอนตัวผิงเก้าอี้อย่างสบายๆก่อนจะเหม่อมองผ่านหน้าต่างออกไปไกล มือขวามีวัตถุทรงกลมสีมรกตเข้มข้นส่องสว่างเหนือฝ่ามือเล็กน้อย ชั้นหนังสือภายในห้องถูกรื้อค้นออกมาจนโล่งทำให้บนโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยมฝืนผ้าของเธอเต็มไปด้วยหนังสือปกหนากองรวมๆกันหลายเล่มและยังมีบางส่วนยังถูกวางระเกะระกะอยู่บนพื้น

    ก๊อกๆ!! หญิงสาวหมุนเก้าอี้ไปมองต้นเสียง

    ‘’ มาแล้วสินะคะ ‘’ เธอพูดพร้อมกับมองชายชราที่เปิดประตูห้องเข้ามา เขามีรูปร่างไม่สูงนักใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่น แค่มองผ่านๆก็ทราบว่าชายคนนี้มีทั้งความรู้และประสบการณ์มาเกือบทั้งชีวิต หนวดเคราสีขาวถูกปล่อยยาวลงมาถึงระดับหน้าอกขยับเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา

    ‘’ มีอะไรให้ผมช่วยเหลือหรอ คุณผู้อำนวยการ ‘’

    หญิงสาวหัวเราะ ‘’ ปู่ไม่ต้องเรียกเต็มยศแบบนั้นก็ได้ เรียกคุณหนูเหมือนเดิมดีกว่า ‘’

    ชายชราพยักหน้า ‘’ แล้วคุณหนูมีอะไรให้ช่วยหรอ ‘’

    ‘’ มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อยจากพวกนักเรียนที่อยู่ชั้น 4-SSพิเศษน่ะ ‘’

    ผู้อำนวยการสาวพูดก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งเล่นเกมอยู่ตรงโซฟานข้างๆเขามีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งจิบชากลิ่นหอมกรุ่นอยู่ไม่ห่างนัก

    ‘’ ให้อาจารย์ประจำชั้นอธิบายดีกว่า ‘’

    ชายหนุ่มเงยหน้าจากเกมกดก่อนจะหันไปหาชายชราพร้อมกับผายมือไปยังโซฟาตัวตรงข้าม

    ‘’ ก่อนอื่นเชิญท่านผู้อาวุโสนั่งก่อน เรามีเรื่องที่ต้องอธิบายกันอีกยาว ‘’ พูดจบชายชราก็วาปมานั่งฝั่งตรงข้ามกันที อาจารย์หนุ่มหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูด

    ‘’ ท่านจำเหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อนได้มั้ย ‘’

    ชายแก่พยักหน้า ‘’ จำได้ สมัยนั้นแกยังเป็นเด็กจอมอวดดีอยู่เลย ‘’ ชายแก่หัวเราะจนหนวดกระเพื่อมก่อนจะพูดต่อ ‘’ มีพวกนักเรียนย้อนเวลาอีกแล้วใช่มั้ย ‘’

    ‘’ ใช่ ผมจึงขอให้คุณช่วยใช้พลังติดต่อกับพวกนักเรียนให้หน่อย ‘’

    ‘’ ได้สิ พวกนั้นมีชิ้นส่วนของอัญมณีแห่งพันธสัญญาอยู่กับตัวหรือเปล่า ‘’

    ‘’ ก่อนไปผมได้แจกสร้อยมรกตที่มีชิ้นส่วนนั่นไปแล้ว ‘’

    ‘’ ดีๆแบบนี้ก็ไม่เสียเวลาตามหาให้วุ่นวายแบบ 5 ปีก่อน ’’ ชายชรามองหน้าผู้อำนวยการสาวก่อนจะหัวเราะดังๆ ‘’ โฮะๆ ตอนนั้นคุณหนูกับเคียวจิโร่ดันหลงไปผิดยุคผิดเวลากับเพื่อนๆด้วย ทำเอาซะครูสมิงนี่ตามหาเป็นเดือนๆ ‘’

    ‘’ คุณปู่! ‘’ ผู้อำนวยสาวหน้าแดงก่อนจะรีบทำสีหน้าเป็นปกติ ‘’ อืม พูดแล้วก็คิดถึงเจ้าหมอนั่นไม่ยอมเข้าพิธีจบการศึกษาพร้อมพวกเรา ก่อนจะมาโผล่เมื่อเร็วๆนี้ พอได้เอกสารรับรองการจบก็หายไปซะดื้อๆเลย ‘’

    ‘’ อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องเมื่อก่อนเลย เรามาติดต่อพวกนักเรียนก่อนดีกว่า ‘’ หญิงสาวที่นั่งข้างๆครูประชั้นห้อง 4-SSพิเศษพูดขัดขึ้นมา

    ครูประชั้นหนุ่มปรายตามองเธอเล็กน้อย ‘’ ไม่นึกไม่ฝันว่าคุณครูประจำชั้นห้อง 5-SSพิเศษแสนสวยจะมาสนใจปัญหาห้องเล็กๆอย่างห้องผมด้วย ‘’

    ‘’ ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าสมองหัวขี้เลื่อยอย่างนายจะแก้ปัญหานี้ยังไง ‘’ หญิงสาววางแก้วน้ำชาก่อนจะพูดแดกดัน

    ‘’ คุมเด็กห้องเธอไม่ให้มาหาเรื่องเด็กฉันดีกว่าน่า ‘’

    ‘’ พวกนั้นอยู่ระหว่างทำภารกิจสำคัญอยู่ ไม่มีเวลามายุ่งกับพวกรุ่นน้องตัวเองหรอกน่า ‘’

    ‘’ แล้วหลังจากกลับมาล่ะ ‘’

    ทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกันเรื่อยๆจนผู้อำนวยก่อนกุมขมับก่อนจะตบโต๊ะดังๆจนห้องทั้งห้องสั่นไหว เปรี้ยงง! เสียงดังก้องราวสายฟ้าฟาดทำให้อาจารย์ทั้งสองรีบหุบปากด้วยความรวดเร็ว

    ‘’ พอๆๆ แสง หยก! ถ้าพวกเธอจะมาทะเลาะกันล่ะก็ ไปทะเลาะข้างนอกก่อนแล้วค่อยเข้ามา  ‘’  เธอพูดเสียงเข้ม

     ‘’ เหวอ แผ่นไหวเกิดอะไรขึ้นนี่ ‘’ เสียงนักเรียนที่อยู่ข้างนอกเริ่มส่งเสียงเอะอะโวยวายจนฟังไม่ได้ศัพท์ ‘’ เฮ้ย อาคารหลักมีรอยร้าวบนพื้นรูใหญ่มากเลยว่ะ ‘’

    ‘’ โฮะๆคุณหนูยังแกร่งเหมือนเดิมเลยนะครับแต่ช่วยเพลามือหน่อย เดี๋ยวเกาะถล่ม ‘’ ชายแก่พูดก่อนจะเสกไม้เท้าขนาดเหมาะมือออกมาเคาะกับพื้นเบาๆ แรงสั่นสะเทือนก็หายไปหมด

    ‘’ เราเสียเวลากันมามากพอแล้วนะแสง นายมีอะไรจะไหว้วานท่านผู้เฒ่าก็พูดมา ‘’

    ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะพูดออกมาเสียงแผ่ว ‘’ อย่างที่บอกไปข้างต้น ช่วยติดต่อสื่อสารพวกนักเรียนได้หรือเปล่าครับ ‘’

    ‘’ ได้สิ ‘’ ชายชราพูดก่อนจะหันไปมองผู้อำนวยการ ‘’ ผมขอยืมอัญมณีแห่งพันธสัญญาหน่อยนะครับ ‘’

    ‘’ ได้สิปู่ ‘’ พูดจบหญิงสาวก็โยนลูกแก้วทรงกลมสีมรกตให้ชายชราทันที

    เขาควบคุมให้ลูกแก้วมาลอยตรงหน้าก่อนจะร่ายพิธีจนลูกแก้งส่องแสงสว่างกระจายออกมารอบห้อง

    ‘’ ด้วยอำนาจแห่งกาลเวลาที่อยู่เหนือทุกสิ่ง ผู้ที่มีชิ้นส่วนของลูกแก้วนี้ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดหนใดก็ตามจงได้ยินเสียงของข้า ‘’ เมื่อรายเสร็จลูกแก้วก็ส่องสว่างมากขึ้นเรื่อยๆก่อนจะหยุดลง

    ‘’ สวัสดีพวกนักเรียนคาส 4-SSพิเศษทั้งหลายได้ยินแล้วตอบข้าด้วย ‘’ ชายแก่พูด

    ได้ยินครับ/ค่ะเสียงในลูกแก้วสะท้อนออกมาชัดเจน ชายชราหันไปมองครูประจำชั้นก่อนจะบังคับให้ลูกแก้วมาล้อยตรงหน้าเขา

    ‘’ เอาล่ะ ฉันครูประจำชั้นพวกเธอเอง ฉันทราบปัญหาของพวกเธอดี ‘’ ชายหนุ่มพูดก่อนจะหยุดเพื่อฟังท่าทีตอบกลับ

    ครูจะมารับพวกเรากลับหรอคะเสียงของนักเรียนหญิงดังสะท้อนออกมา

    ‘’ ไม่ พวกเธอต้องหาวิธีกลับเอาเอง ถือเป็นแบบทดสอบละกัน ‘’

    งั้นก็บอกใบ้หน่อยสิคะ ว่างช่องว่างระหว่างมิติอยู่ที่ไหนเสียงนักเรียนหญิงคนเดิมพูด

    ‘’ ช่องว่างระหว่างมิติในยุคนั้นยังไม่เกิดน่ะ ‘’ เสียงผู้อำนวยการดังขัดขึ้นมา

    ว่าไงนะคะ/ครับเสียงนักเรียนสะท้อนออกมาแทบจะพร้อมเพรียงกัน

    ผู้อำนวยการสาวยังคงพูดต่อ ‘’ พวกเธอรู้จักหินแห่งชีวิตหรือเปล่า ว่ากันว่าเป็นแร่ที่เกิดจากการตกผนึกของวิญญาณ ‘’

    ก็เพิ่งได้ยินมาเมื่อไม่นานนี้เองเสียงกวนๆของนักเรียนชายคนหนึ่งพูด

    ผู้อำนวยการยิ้มออกมาเล็กน้อย ‘’ สิ่งนั้นสามารถทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติได้หากสะสมมากพอและอัดพลังมหาศาลลงไป ‘’

    แล้วมีอะไรมารับประกันหรอ ว่ามันจะไม่ส่งเราไปยุคอื่นอีกนักเรียนคนหนึ่งถาม

    เป็นคำถามที่ดีมากผู้อำนวยการสาวพูดอย่างพอใจ ‘’ ช่องว่างระหว่างมิติมักจะถูกดึงไปหาแหล่งพลังที่ใหญ่กว่ามันเสมอไม่ว่าจะยุคใดก็ตาม ซึ่งเวลาปัจจุบันที่นี่มีช่องว่างใหญ่ที่สุด ‘’

    แล้วปัญหาเรื่องการเก็บหินล่ะครับ ถ้ามันใช้จำนวนมหาศาลมากๆพวกผมไม่ลำบากแย่หรอ

    ‘’ สร้อยมรกตสามารถเก็บหินชนิดนี้ได้ อย่าลืมว่ามันเกิดจากจิตวิญญาณ ‘’

    เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ/ค่ะ

    พูดจบลูกแก้วก็ส่องประกายก่อนจะดับลงทันที หญิงสาวเรียกลูกแก้วเข้ามาถือในมือก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับไปมองนอกหน้าต่าง

    ‘’ รุ่นพี่นี่ชอบมองท้องฟ้าจังเลยนะคะ ‘’ เธอปรายตาไปมองต้นสียงเล็กน้อย

    ‘’ เรียกฉันว่าผู้อำนวยการ เข้าใจมั้ยหยก ‘’

    ‘’ ค่ะ ‘’

    ‘’ โฮะๆ พวกเด็กๆคงจะคึกคักกันหน้าดู ‘’ ชายแก่หัวเราะอย่างอ่อนโยนก่อนจะสนทนาเรื่องอื่นต่อ

    กลับมาที่ยุคของพวกลิขิต ภายในจตุรัสห้องโถนรวม

    หลังจากตอนแรกที่พวกเธอได้ยินว่าไม่มีช่องว่างระหว่างมิติก็แอบใจหายไม่น้อย แต่พอมาทราบภายหลังว่ามีวิธีอื่นที่จะกลับไปได้ก็พาก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก

    ‘’ มีเรื่องอะไรให้ดีใจกันหรอคะ ‘’ เสียงจัสมินดังขึ้นมาแต่ไกลก่อนจะเดินมาหาเจ้าตัว

    ‘’ ก็ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่มีอะไรหรอ ‘’ รุ้งหันไปถาม

    ‘’ คุณเมอลินกลับมาแล้วค่ะ แถมยังกำหลาบพวกออร์คได้ด้วย ‘’ เธอพูดอย่างตื่นเต้น

    รุ้งได้ยินก็ทำสีหน้าหลากหลายก่อนจะยิ้มรับเบาๆ ‘’ นั่นสินะ เอ่อพอดีฉันง่วงอ่ะ หาวว! ไปนอนดีกว่า ‘’ พูดจบเธอก็เผ่นแนบทันที

    ‘’ ยัยรุ้งตัวแสบอยู่ไหน ‘’ เสียงเมอลินดังเข้ามาอีกฝั่ง แต่เดินมาถึงก็ไม่พบคนที่เขากำลังตามหา

    ‘’ ตามหารุ้งทำไมหรอคะ ‘’ เจ้าหญิงจัสมินเอียงคอถามอย่างสงสัย

    ‘’ เอ่อเรื่องมันยาวน่ะ ว่าแต่เหตุการณ์ที่มังกรโจมตีปราสาทเธอไม่เป็นไรใช่มั้ย ‘’ เมอลินพูดก่อนจะกุมมือเจ้าหญิงอย่างเป็นห่วง

    ‘’ นี่! เดี๋ยวมีคนมาเห็นมันจะดูไม่ดี ‘’ องค์หญิงหน้าแดงก่อนจะเอะเบาๆ

    ‘’ ผมไม่สนว่าใครจะมาเห็นหรอก ‘’ เขาพูดก่อนจะดึงองค์หญิงเข้ามากอด แต่แล้วก็พบกับสายตาคู่หนึ่งที่ไม่พึงประสงค์นักอยู่หลังเสาสลักลวดลายโบราณขนาดใหญ่

    ยัยรุ้งเมอลินคิดในใจ

    เห็นแล้วนะ เห็นแล้วน้าาาเธอทำสายตาล้อเลียนก่อนจะกอดเสาทำท่าเคลิ้ม

    ‘’ จัสมิน ผมต้องรีบไปเคลียข้าวของก่อนน่ะ ไว้เราค่อยคุยกันนะฝันดี ‘’ เมอลินกล่าวอำลาเจ้าหญิงก่อนจะย่านสามขุมมาหารุ้งอย่างเอาเรื่อง ส่วนเจ้าหญิงที่ไม่ทราบเหตุการณ์ก็เดินออกไปทันที

    ‘’ คุณรุ้งครับ ไม่ก่อกวนสักวันจะตายมั้ยครับ ‘’

    ‘’ ใยหยอ ‘’ เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    ‘’ คราวนั้นก็ทิ้งฉันไว้กลางป่า คราวนี้ก็ล้อเลียนเวลาฉันอยู่กับองค์หญิง คุณทราบมั้ยว่าโอกาสที่จะพวกฉันอยู่สองต่อสองแทบจะไม่มีเลยนะครับ ‘’เมอลินตัดพ้อ

    ‘’ แล้วทำไมนายไม่คบกับเธออย่างเปิดเผยล่ะ ‘’

    ‘’ ฉันเป็นแค่ทหารไพร่ธรรมดาๆไม่มีสิทธิทำเช่นนั้นหรอก ‘’ เขาทำท่าหดหู่เล็กน้อย

    ‘’ งั้นนายก็เลิกยุ่งกับองค์หญิงซะสิ ถ้าคิดแค่นั้นก็นะ ‘’ รุ้งเสนอแนะ

    ‘’ ฉันห้ามใจตัวเองไม่ได้ ‘’  เมอลินเอามือเท้าเสาหินทำหน้าเศร้า

    ‘’ เอะ อะไรของนายกลัวน้อยหน้าคนอื่นก็บอกมาตรงๆ ‘’ รุ้งเริ่มรำคาญ

    เมอลินดีดนิ้วเบาๆ ‘’ นั่นแหละอันดับหนึ่งเลย พวกเจ้าชายของอาณาจักรอื่นต้องมางานเลี้ยงที่จะถึงนี้แน่ ‘’  เขาพูดอย่างกังวล

    ‘’ แค่นายดูดีกว่าเจ้าพวกนั้นก็พอน่าง่ายนิดเดียว ‘’

    ณ ห้องภายในปราสาทที่คิลพักรักษาตัวอยู่ ภายในมีมิกิ ลิขิต และเคมิสเคยเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด สายตายังคงจับจ้องไปที่ชายหน้าเรียว ผมสีเขียวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงสีขาวขนาดสามเมตรอย่างไม่วางตา พวกสาวใช้คนอื่นถูกห้ามไม่ให้เข้ามาเพราะยังไม่ค่อยไว้วางใจนัก

    ‘’ นี่เขาจะเป็นอะไรมากมั้ย ‘’ ลิขิตถามอย่างเป็นห่วง

    ‘’ เธอเป็นห่วงเขาหรอ ‘’ มิกิพูดอย่างไม่เชื่อหู

    เธอรีบปฏิเสธ ‘’ ป..เปล่า ฉันแค่สงสัยว่าสิ่งมีชีวิตที่อึดอย่างกับแมลงสาบจะทนอาการบาดเจ็บนี่ได้มั้ย ‘’

    ‘’ แค่หลับไปน่ะ ส่วนเข็มเงินผสานพลังที่ฉันปักเข้าไปตำแหน่งหัวใจก็ไม่มีอันตราย แค่ผนึกพลังนั้นไว้เฉยๆ ‘’

    ‘’ เข้าใจละ ‘’ ลิขิตพูดสั้นๆ

    ‘’ เคมิส ‘’ มิกิเรียกชื่อมังกรหนุ่มออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    ‘’ ครับ ‘’

    ‘’ นายรู้จักแร่ผนึกวิญญาณมั้ย ‘’ มิกิถาม

    ‘’ อืมครับ มันจะกำเนิดที่ส่วนลึกของดินแดนเหล่าปีศาจน่ะ ‘’ เขาตอบฉะฉาน

    ‘’ งั้นหลังจากจบงานนี้พวกเราออกเดินทางกัน ‘’ เธอพูดเสียงเรียบ

    ‘’ หะ! ‘’

    ‘’ เดินทางไง ฉันจะปล่อยให้ใครแซงหน้าไม่ได้เด็ดขาด ‘’ มิกิพูด

    ‘’ ต..แต่ มันอันตรายมากนะครับ พวกเผ่าปีศาจมันค่อนค่างตึงมือพอสมควรเลย ‘’ เคมิสพูดอย่างตื่นตระหนก

    ‘’ ไม่ไปหรอ ‘’ มิกิหันหน้าไปมองหน้าอีกฝ่ายตาปริบๆ

    เคมิสถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

     ‘’ ไปครับ ‘’

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    ณ ชั้นสองภายในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายไรท์กับประมุขแดนเหนือกำลังนั่งกินอาหารก่อนจะพูดคุยเรื่องราวต่างๆในยุทธภพ

    ‘’ ถึงฉันไม่เคยท่องยุทธภพมาก่อน แต่ก็พอจะทราบเรื่องพวกนี้จากผู้อาวุโสพอสมควร ‘’ ประมุขสาวพูด

    ‘’ ครับ แต่จะดีหรอที่คุณหลงหลินจะตามมาด้วยแบบนี้ ‘’ ไรท์ยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม

    ‘’ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็ต้องตามหาผ้าคลุมไอสวรรค์เหมือนกัน ‘’

    ‘’ เดินทางกันสองคนเหมือนคู่รักกันเลยนะครับ ‘’ ไรท์พูดก่อนจะจ้องดวงตาสีครามคู่สวยของหลงหลิงอย่างเจ้าเลห์

    หลงหลินหน้าแดงเป็นลูกตำลึงก่อนจะหลบสายตา ‘’ อย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ ‘’ พูดจบประมุขสาวก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับหันหลังหนี ส่วนไรท์ก็เคลื่อนไหวไปโผล่ดักข้างหน้าเธอในพริบตาในเจ้าตัวต้องตกตะลึงก่อนจะผงะถอยหลังไปสะดุดเก้าอี้

    ‘’ ว๊าย!! ‘’ เธออุทานเบาๆก่อนจะเซไปด้านหลัง เขาจึงใช้มือปลาหมึกไปช้อนร่างอ้อนแอ้นของเธอโอบขึ้นมาอย่างช้าๆก่อนจะสบตาคู่สวยอีกครั้ง ‘’ มองกี่ทีก็ไม่เบื่อเลย ‘’

    เธอหน้าแดงก่อนจะสะบัดไรท์ให้หลุดออก ‘’ อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ ฉันไม่ยุ่งกับนายล่ะ ‘’ เธอพูดก่อนจะใช้วิชาตัวเบาทะยานหนีชายหนุ่มทันที

    ‘’ ผู้หญิงนี่น้าาา ยุคสมัยไหนก็น่าแกล้งทั้งนั้น ‘’ ไรท์หัวเราะก่อนจะก้มหน้าไปมองชายวัยกลางคน ท่าทางนักเลงมีบาดแผลเป็นรอยบาดแผลกลางหน้าผาก ไว้หนวดเคราดูน่ากลัวที่นั่งอยู่ชั้นล่างของโรงเตี้ยม เขาเคลื่อนที่แวบเดียวก็มาโผล่ตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอีกผ่ายอย่างง่ายดาย ซึ่งเจ้าตัวก็แปลกใจไม่น้อย

    ‘’ ในยุทธภพคนที่มีวิชาตัวเบายอดเยี่ยมเช่นเจ้านี่หายากพอสมควร ‘’ ชายคนนั้นหยิบสุราในแก้วดินเผามาดื่มก่อนจะหยิบเนื้อแห้งโยนเข้าปาก

    ‘’ ขอบคุณครับ ‘’ ไรท์ยิ้มแป้นก่อนจะรินสุราให้อีกฝ่ายซึ่งเขาก็ยกแก้วมาดื่มทันที

    ‘’ มีธุระอะไรกับข้า หือ? ‘’  เขาพูดก่อนจะสังเกตสุราในแก้ว ‘’ เย็นนี่นา เป็นไปได้อย่างไร ‘’

    ‘’ อาวุธของคุณถูกสร้างด้วยส่วนประกอบของผนึกวิญญาณใช่มั้ยครับ ‘’ ไรท์ถาม เขามองหน้าอีกผ่ายไม่วางตา

    ‘’ ใช่ ทำให้มันเป็นหนึ่งในอาวุธวิญญาณที่ทรงพลังมากที่สุดในยุทธภพนี้ ‘’

    ‘’ คือผมอยากได้อาวุธของคุณน่ะครับ ผมขอได้หรือเปล่า ‘’

     

    *******************************************************************************************************

    ฮุฮิ

    แก้คำผิดครั้งที่ 1 รายงานตัวคับ

    แก้คำผิดครั้งที่ 2 โห่เผาไปเยอะเหมือนกันนะนี่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×