ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนผึกทักษะผู้ใช้เทพอลเวง

    ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 21 ด้านมืด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 223
      0
      31 ก.ค. 58

    เวลารุ่งเช้า

    ทางฝั่งของกลุ่มมิกิที่กำลังเดินทางห่างออกไปจากพระราชวังประมาณ 10 กิโลเมตร อธีน่าเทพประจำตัวของมิกิสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล

    มิกิ สัมผัสพลังของคอลซิสมันหายไปนานมากแล้วบริเวณแถวนั้นไม่มีการมาถึงเทพอสูรด้วย คาดว่ามันน่าจะถูกอันเชิญโดยใครสักคนเธอส่งกระแสจิตสื่อสารเข้ามาในหัวมิกิ

    อืม ฉันรู้สึกผิดสังเกตมาได้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว..ตอนแรกฉันคิดว่าพรรคพวกมาพามันหนี..มิกิส่งกระแสจิตตอบกลับก่อนจะเอะใจถึงอะไรบางอย่าง ถ้ามันหายตัวไปเพราะถูกอัญเชิญ งั้นก็หมายความว่า..

    ใช่ ถ้านับจากเหตุการณ์แรกที่มีมังกรเข้ามาโจมตีที่ปราสาทก็เดาได้ไม่ยากว่าอันที่อัญเชิญคอลซิสตั้งแต่แรก..มันต้องเป็นคนในแน่นอนอธีน่าตอบ

    แย่แล้วแบบนี้เราต้องรีบเดินทาง ฉันจะไปบอกกับรุ้ง

    ไม่ต้องกังวลหรอกน่า มันกำลังบาดเจ็บสาหัสอยู่คงทำอะไรไม่ได้มาก

    อ้อใช่ ลิขิตก็อยู่ที่นั่นคงจะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

    เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะกระโดดไปนั่งข้างๆรุ้งทันที รุ้งเหลือบตาไปมองมิกิเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าจ้องมองเพรชเม็ดโตน้ำดีที่อยู่ในมืออย่างชื่นชม

    ‘’ มิกิเธอดูมันสิ เจ้านี่มันช่างงดงามหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ ‘’  คำพูดของรุ้งทำให้มิกิชะโงกหน้าไปมองเล็กน้อย ‘’ ขอฉันดูหน่อยสิ ‘’ รุ้งใช้ผ้าเช็ดเพรชเม็ดงามเบาๆอย่างถะนุถนอมก่อนจะค่อยส่งให้มิกิด้วยความระวัง

    ‘’ โฮ่ ลักษณะเจ้านี่เพิ่งเจียระไนมาหมาดๆ เห็นนั่งเงียบๆคนเดียวก็นึกว่าทำอะไร ‘’ มิกิกล่าวชมก่อนจะพลิกเพรชเม็ดงามในมือไปมาก่อนจะชูขึ้นแยงแสงอาทิตย์ ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ ‘’ ว้าว ทำให้ฉันบ้างสิ ‘’

    ‘’ ปกติเธอต้องบอกว่าไร้สาระไม่ใช่หรือไง ‘’ รุ้งหัวเราะจนตัวงอจนมิกิต้องหันมามองค้อนใส่ ‘’ อันนี้มันสาระเต็มๆเลยจ่ะ ทำให้ฉันสักหน่อยสิ ‘’ มิกิพูดพร้อมกับทำตาแป๋ว

    ‘’ คิกคิก ถ้าคนอื่นในห้องมาเห็นหัวหน้าห้องผู้โหดเหี้ยมเย็นชามาทำหน้าตาแบ๊วๆแบบนี้คงจะซ็อคกันน่าดู ‘’ คิ้วเรียวงามของมิกิขมวดเข้าหากันเบาๆก่อนจะสบัดผมสีชมพูให้ลอยไปตามลมอย่างไม่ใส่ใจ ‘’ ไร้สาระ ใครจะไปสน ‘’ เธอพูดเสียงใสออกมา

    ทางฝั่งของเมอลินที่นั่งอีกด้านหนึ่งของเกวียนได้แต่แอบมองมิกิอย่างหลงใหล ส่วนเคมิสที่นอนพักอยู่ด้านหลังลอบกลืนน้ำลายคำใหญ่ ถ้าตนไม่โดนเจ้าตัวอัดกระเด็นไปนอนกลิ้งกับพื้นก็คงไม่ทราบถึงวีรกรรมความโฉดจากรูปลักษณ์ภายนอกเธออย่างแน่นอน เขาสังเกตเธอคุยกับรุ้งสักพักก่อนจะกระโดดมาอยู่ตรงหน้าเคซิสทันที

    ‘’ มีอะไรหรอครับ ‘’ เคมิสถาม

    ‘’ นายหายบาดเจ็บหรือยัง ‘’

    ‘’ ใกล้แล้วแหละครับ ด้วยหัวใจของเทมิสทำให้พลังชีวิตผมฟื้นตัวเร็วกว่าเดิมหลายเท่า ‘’ เขาพูดพร้อมกลับลูบหน้าอกตัวเองเบาๆ มิกิพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ‘’ งั้นนายช่วยอะไรฉันหน่อนสิ ‘’

    ‘’ ช่วยอะไรครับ ‘’

    ‘’ นายรู้จักแร่ชนิดนี้มั้ย ‘’ มิกิพูดพร้อมกับยื่นเพรชเม็ดดีให้เคมิสดู

    ‘’ อ่าครับ มันอยู่ห่างจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ‘’

    มิกิจับมือของเคมิสด้วยความยินดีก่อนจะดึงเขาลุกขึ้น ‘’ นายต้องช่วยฉันหาเจ้าเพรชนี่หน่อยนะ และขอบคุณมาก ‘’ พูดจบเธอก็เดินไปหารุ้งที่อยู่ข้างหน้าต่อก่อนจะกระซิบกระซากกันเล็กน้อย เคมิสสัมผัสถึงลางไม่ดีเข้าเต็มๆ ‘’ บอกว่าป่วยตอนนี้ยังทันมั้ยนี่ ‘’ เขาบ่นพึมพำคนเดียวก่อนจะเงยหน้ามองแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องที่มาพร้อมกับสายลมเย็นสบาย ภายใต้เสียงนกเสียงกากับทิวทัศน์ของป่าใหญ่

    ‘’ ไปกันได้แล้ว ‘’ มิกิพูดพร้อมกับส่งดาบคาตานะให้ชายหนุ่มผมสีแดง ‘’ ว้าว เก็บไว้ด้วยหรอครับ ขอบคุณมาก ‘’ เคมิสรับดาบคู่กายมาด้วยความยินดี

    ‘’ ปกตินายไม่แปลงร่างสู้หรอกหรอ ทำไมต้องใช้ดาบด้วย ‘’ มิกิถามอย่างสงสัย

    ‘’ เป็นของที่ผมกับเทมิสร่วมกันต่อสู้กับบุรุษคนหนึ่งอย่างยากลำบากจนชนะและได้มันมา ‘’ เขาพูดก่อนจะนั่งเหม่อย้อนมองอดีต

    ‘’ มีคนที่เก่งขนาดนั้นด้วยหรอ ‘’ มิกิถามด้วยความสงสัย

    ‘’ ใช่ครับ คนพวกนั้นเรียกตัวเองว่ากลุ่มสาวกของเทพธิดา ‘’ เคมิสตอบก่อนจะเหน็บดาบเข้ากับเอว ‘’ จะไปกันตอนไหนครับ ‘’ คำพูดของเคมิสทำให้มิกิที่กำลังเหม่อใช้ความคิดอยู่สะดุ้งเบาๆก่อนจะก้าวพริบตาไปโผล่บนยอดไม้ต้นหนึ่ง

    ‘’ งั้นเรารีบล่วงหน้าไปกันดีกว่า ‘’ พูดจบทั้งสองก็หายไปจากบริเวณที่มีขบวนออร์คขนสมบัติอยู่ ส่วนเมอลินเห็นการเคลื่อนที่ของทั้งสองคนก็อ้าปากค้างก่อนจะสะกิดรุ้งที่นำขบวน

    ‘’ เอ่อ ทั้งสองเป็นใครกันหรอครับ ‘’

    ‘’ ก็บอกไปตั้งแต่เมื่อวานละไง คนที่ชื่อมิกิเป็นเพื่อนฉันส่วนเคมิสเป็นมังกรที่อยู่ในร่างมนุษย์ ‘’ คำว่ามังกรทำให้เมอลินทึ่งอีกครั้งนี่เมื่อคืนนี่เขานอนกับมังกรใช่มั้ย ‘’ ผมคิดว่าพวกคุณพูดเล่นกันเสียอีก ‘’ เมอลินพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะนั่งชมวิวทิวทัศน์เงียบๆคนเดียว รุ้งเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงมานั่งขัดเพรชในมือต่ออย่างชื่นชม

    ทางฝั่งของคิล เขายืนจ้องคอลซิสยืนกุมแผลที่ถูกคาตานะแทงทะลุแขนจนเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดสีดำพุ่งกระฉูดไหลนองจนเต็มพื้น มันหอบหายใจเข้าออกแรงๆเพื่อข่มความเจ็บปวดก่อนจะกัดฟันมองคิลด้วยสายตาแข็งกร้าว คิลยิ้มอย่างพึงพอใจในท่าทีอีกผ่ายก่อนจะก้าวเท้าเข้าหาผ่ายตรงข้ามช้าๆพื้นดินที่ถูกขัดจนเรียบจะปรากฏรอยร้าวทุกย่างก้าวของเขา

    เปรี้ยงๆๆๆ เสียงแผ่นหินที่ประดับกลางห้องค่อยๆปริแตกออกจากกันช้าๆเป็นเศษเล็กเศษน้อยก่อนจะลอยขึ้นสูง กำแพงรอบนอกค่อยๆพังทลายลง ลิขิตสังเกตเหตุการณ์รอบๆก่อนจะลอบกลืนน้ำลายถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆรับรองได้ว่าห้องใต้ดินแห่งนี้พังถล่มฝังร่างพวกเธอแน่

    ‘’ บัดซบ ‘’ มันสถบออกมาก่อนจะหยิบดาบขนาดยักษ์ของมันพุ่งเข้าโจมตีคิลอย่างรวดเร็ว ‘’ เปล่าประโยชน์ ‘’ เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะเอื้อมไปแตะดาบของมันเบาๆ เพล้งงง!! เสียงดาบแตกกระจายอย่างง่ายดายราวกับแก้ว มันโยนดาบที่มีแต่ด้ามทิ้งก่อนจะเร่งพลังถึงขีดสุดพุ่งเข้ากระแทกคิลทะลุเพดาน ตู้มมม!! ร่างของคิลยังแหวกผ่านพื้นธรณีขึ้นไปเรื่อยๆโดยมีคอลซิสพุ่งตามอย่างไม่ห่าง น้ำหนักของเม็ดดินและก้อนหินหลายพันตันไม่สามารถหยุดการพุ่งได้แม้แต่นิดเดียว

    เหนือห้องใต้ดินของบิชอปเป็นที่ตั้งของโบถส์ขนาดใหญ่ สถานที่แห่งนี้ถูกประดับอย่างประณีตงดงามแสดงถึงฝีมือขั้นสูงของช่าง บนยอดมีกางเขนสีเงินประกายเงาวับสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อนๆ บริเวณรอบๆของโบถส์แห่งนี้มีเหล่าบรรดาแม่มดกับทหารในพระราชวังยืนจ้องภายนอกอย่างเป็นกังวล ตอนนี้พวกเขาก็อพยพกษัตริย์กับชนชั้นสูงคนอื่นๆหนีกันหมดแล้ว ทหารส่วนหนึ่งประมาณสามพันคนจึงเร่งฝีเท้ามาป้องกันอย่างเร่งด่วน ถึงแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากเทริจนทำให้คอสโม่ปลอดภัย แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะวางใจเลยแม้แต่นอก

    สักพักพวกเขาก็สังเกตตัวโบถส์ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆปริออกจากกันอย่างช้าๆพร้อมกับพื้นหินที่เป็นรากฐานค่อยๆนูนขึ้นมาเรื่อยๆจนเรียกสายตาของพวกทหารกับแม่มดเป็นอย่างดี

    เปรี้ยงงง!! โคร้มมม!! เสียงของตัวโบถส์ถูกทำลายจากการพุ่งทะลุของเงาบางอย่างก่อนจะพลังทลายลงอย่างรวดเร็ว ร่างของชายทั้งสองลอยอยู่เหนือพื้นโดยมีคิลก้มหน้ามองคอลซิสอยู่ด้านบน เขาแสยะยิ้มก่อนจะฟันศอกใส่คิ้วขวาของมันจนแตกเป็นแผล เปรี้ยงง!! แรงโจมตีทำให้มันพุ่งกระเด็นลงอัดกับซากโบถส์ ตู้มมม!!

    คิลหันมามองพวกทหารกับแม่มดด้วยสายตาเย็นชาไร้อารมณ์ ‘’ ถ้าไม่ออกไปจากที่นี่ภายในหนึ่งนาทีจะฆ่าให้หมด ‘’ พูดจบเหล่าทหารและแม่มดต่างก็วิ่งฮือเป็นผึ้งแตกรัง บนคนถูกพลักล้มลงกับพื้นก่อนจะถูกเหยียบซ้ำจนหมดสติ คิลไม่ใส่ใจความโกลาหนของพวกแม่มดกับทหารมากนัก เขามองร่างของคอลซิสที่นอนแผ่อยู่ภายใต้เศษซากอาคารก่อนจะพุ่งลงมาเหยียบซ้ำ ตู้มมม!! คลื่นจากแรงปะทะกระจายแหวกอากาศออกไปจากจุดศูนย์กลางเป็นวงกลมพัดพาเศษอิฐเศษหินกระเด็นไปรอบนอกก่อนจะเผยให้เห็นร่างของคอลซิสในสภาพปางตายอย่างชัดเจน

    ‘’ หึหึ ‘’ คิลหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

    ‘’ ย..ยังไม่..จ..จบ..ห..หรอก ‘’ มันพูดเสียงแผ่วก่อนจะเอื้อมมือมาจับขาเขาไว้

    เปรี้ยงงง!! ร่างของคิลถูกกระแทกลอยขึ้นฟ้าอีกครั้งพริบตาที่เกิดขึ้นคอลซิสคืนร่างกลับเป็นมังกรดำทมิฬตัวขนาดเท่าภูเขาย่อมๆดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้าง เกล็ดมันวาว ปีกขนาดกว้างมันแผ่สยายกว้างบดบังแสงอาทิตย์จากบริเวณเวณรอบๆจนถึงตัวปราสาทจนมิด มันเงยหน้ามองบุรุษที่ลอยอยู่บนหัวก่อนจะพ่นลูกไฟใส่

    พุบบบ!! เขาหมุนร่างหลบกลางอากาศไปอย่างเฉียดฉิวก่อนจะรับรู้ความร้อนหลายพันองศาผ่านใบหน้าเพียงไม่กี่นิ้ว กรรร!! มันคำรามอย่างขัดใจก่อนจะบินโฉบกระแทกร่างของคิลปลิวว่อนเป็นตุ๊กตาเชือกขาดกระเด็นไปหลายกิโลเมตร อั้กกก!! เขากระอักเลือดออกมาเบาๆก่อนจะเร่งออร่าสีแดงเข้มมาห่อหุ้มร่างกาย ฟิ้ววว!! ระยะห่างหลายกิโลเมตรกลายเป็นเรื่องโกหกเมื่อคิลใช้เวลาเพียงพริบตามาปรากฏตรงหน้ามัน

    ‘’ เจ้าคนตายยาก ‘’ คอลซิสในร่างมังกรดำพูดอย่างไม่พอใจ

    ‘’ พลังเท่าเด็กน้อยหัดเดินอย่างแกน่ะ ‘’ คิลพูดพร้อมกับง้างหมัดขวาที่ถูกห่อหุ้มด้วยออร่าสีแดงเข้ม มันลุกโชติช่วงราวกับเปลวเพลิงร้อนระอุ ‘’ อ่อนหัดโว้ย ‘’ พูดจบเขาก็ต่อยใส่กลางหัวของมันจนเกล็ดหนาๆสีมันวาวหลุดออกมานับสิบแผ่น ตู้มมม!! ร่างขนาดเท่าภูเขาย่อมๆของมันกระเด็นไปหลายร้อยเมตรก่อนจะกางปีกต้านลมเพื่อลดแรงต้าน สายตามันมองหาคู่ต่อสู้ของตนเองก่อนจะพบว่าเขาหายไปจากบริเวณนั้นเรียบร้อย

    ‘’ มองหาใครหรอ ‘’ เสียงคิลดังออกมาจากด้านหลังมันอย่างเรียบเฉย มันใจหายก่อนจะรีบหันไปหาอีกผ่ายแต่ถูกคิลยกส้นเท้าขึ้นสูงตอกส้นลงมาใส่ปีกข้างขวามันเต็มๆ เปรี้ยงงง!! ร่างของคอลซิสลอยถลาลมก่อนจะพุ่งกระแทกกับพื้น โคร้มมม!! ‘’ อ้ากก!! ก..แก..ไอ่บัดซบเอ้ย ‘’ คอลซิสคำรามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของชายผู้หนึ่งพุ่งเข้าโจมตีกลางหลังมันอย่างไม่ทันตั้งตัว ‘’ ตายซะคอลซิส ‘’

    ฉั๊วะ!! เลือดสีทมิฬกระฉูดออกจากบาดแผลขนาดใหญ่ราวกลับน้ำพุง คอลซิสกัดฟันข่มความเจ็บปวดก่อนจะจ้องมองผู้ที่มาใหม่ด้วยสายตาแข็งกร้าว

    ‘’ บาเอล!! ‘’ คอลซิสคำราม เมื่อพบกับชายแววตาเจ้าเล่ห์ ไว้ผมสั้นสีดำขลับเสยขึ้นมารวบหลวมๆ ใบหน้าเรียวได้รูปจมูกและริมฝีปากเล็ก ผิวขาวซีดคล้ายกับมนุษย์ทั่วไปเพียงแต่มีเขาแหลมคมงอกออกมาตรงขมับทั้งสองข้าง รูปร่างสูงโปร่ง ถือสามง่ามเป็นอาวุธ เปลือยท่อนบนสวมกางเกงขาสั้น

    ‘’ ไหนๆแกก็จะตายอยู่แล้ว จงตายด้วยน้ำมือข้าคงจะดีกว่าตายภายใต้เงื้อมือสาวกของเทพธิดาจริงมั้ย ‘’ มันพูดก่อนจะสร้างพลังสีทองมาห่อหุ้มสามง่ามของมันเอาไว้ก่อนจะจ้วงแทงสามง่ามเป็นคลื่นขนาดยักษ์พุ่งใส่กลางตัวมังกรดำทันที

    เปรี้ยงงง!! ชั่วพริบตาที่คลื่นสีทองจะโจมตีถูกอีกผ่ายคิลได้เคลื่อนร่างพริบตามาขวางเอาไว้ก่อนจะใช้ฝ่ามือขยี้คลื่นพลังนั่นแหลกละเอียดอย่างไม่มีชิ้นดี

    ‘’ จ..เจ้า ‘’ บาเอลพูดอย่างไม่เข้าใจ ส่วนคอลซิสหัวเราะอย่างสะใจเล็กน้อย

    ‘’ บังอาจมายุ่งกับเหยื่อของฉัน อภัยให้ไม่ได้ ‘’ พูดจบคิลก็เคลื่อนร่างพริบตาเข้าโจมตีบาเอลอย่างต่อเนื่องจนมันต้องควงกระบองตั้งรับเพียงฝ่ายเดียว เช้งๆๆๆ ดาบคาตานะปะทะกับสามง่ามถี่ยิ๊บจนเกิดประกายไฟออกมานับไม่ถ้วน บาเอลเป็นช่องโหว่จึงย่อตัวพุ่งผ่านสีข้างของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

    ฉั๊วะ!! เสียงเลือดกระฉูดออกจากบาดแผลอย่างแรงทำให้มันยิ้มอย่างพอใจเล็กน้อย ‘’ ยิ้มอะไรของแกวะ น่าขนลุกชิบเป๋ง ‘’ คิลที่ปรากฏมาโผล่ข้างหน้ามันพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย สภาพร่างกายเขาปกติทุกอย่างถ้าไม่นับจากเสื้อผ้าที่ขาดและรอยบอกช้ำที่เกิดจากการต่อสู้กับคอลซิสก่อนหน้า ไม่ปรากฏรอยแผลที่เกิดจากการฟันเลยสักนิด

    มันก้มมองแผลที่ถูกฟันเป็นทางยาวเป็นแนวขวางลงมาถึงเอว อ้ากก!! มันตะโกนลั่นก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีคิลอย่างบ้าคลั่งบาเอลเรียกออร่าสีทองมารวมที่สามง้ามจนเข้มข้นก่อนจะเกร็งกล้ามเนื้อออกแรงฟาดใส่เป้าหมายสุดแรง แต่เขายกดาบคาตานะรับทัน เปรี้ยงงง!! ร่างของเขากระเด็นไปกระแทกต้นไม้ขนาดไม่ต่ำกว่าสามคนโอบในป่าล้มระเนระนาด

    ‘’ ชิ ‘’ คิลสถบคำสั้นๆก่อนเร่งพลังพุ่งใส่เป้าหมาย

    ‘’ รู้สึกอะไรได้หรือเปล่า ‘’ มิกิที่กำลังดึงแร่เพรชบริสุทธิที่ฝังอยู่ในหินใส่ถุงพูดออกมา ก่อนจะหันไปมองเคมิสที่กำลังทำสีหน้าเคร่งเครียด เหงื่อเม็ดโป้งไหลซึมออกมาจากหน้าผากอย่างชัดเจน ‘’ ครับ พลังที่ชั่วร้ายและทรงอำนาจมากกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ ‘’ เขาตอบก่อนจะหันไปมองฝั่งชายป่าที่อยู่ใกล้ๆปราสาท

    ‘’ สงสัยเราต้องรีบไปแล้วล่ะ ส่วนแร่นี่ไว้รอบหน้าละกัน ‘’ มิกิพูดอย่างเสียดายก่อนจะเร่งพลังทยานออกไปพร้อมกับเคมิสด้วยความเร็วสูง

    อธีน่าระบุได้มั้นว่าเป็นตัวอะไรมิกิส่งกระแสจิตถามเทพประจำตัว

    คอลซิสกับบาเอล สองคนนี้มันเป็นคู่ปรับกันมานานอธีน่าตอบ

    แล้วอีกคนหนึ่งละ

    ฉันไม่แน่ใจ รู้แค่ว่ามันทรงอำนาจพอๆกับฉัน

    เข้าใจละมิกิตอบก่อนจะเร่งความเร็วพุ่งออกไปโดยมีเคมิสตามมาติดๆ

    เปรี้ยงงง!! ตู้มมม!! ร่างของบาเอลกระเด็นไปไกลเมตรก่อนจะถูกคิลเคลื่อนที่พริบตามาโผล่ตรงหน้าตามคอนเซ็ป เตะดักอัดทุบตามด้วยซ้ำ โคร้มม!! ร่างของมันจมลึกลงไปในดินก่อนที่คิลจะก้าวเท้าเข้ามาหามันก่อนจะเรียกออร่าสีแดงมาห่อหุ้มเท้าขวาก่อนจะทำสิ่งที่คาดไม่ถึง

    กร๊อบบ!! ส้นเท้าที่เต็มไปด้วยพลังของเขากระทืบใส่แขนข้างซ้ายของมันจนพื้นยุบ อ้ากก!! บาเอลร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แขนปรากฏรูปร่างบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัดเจน ‘’ ดูไม่ได้เลยนะบาเอล ‘’ พูดจบเขายิ้มเหี้ยมออกมาก่อนจะเหยียบแขนอีกข้าง กร๊อบ!! โอ้ยย!! มันร้องลั่นน้ำตาไหลพราก คิลนั่งย่องๆต่อหน้ามันก่อนจะกระชากผมมันขึ้นมา ดวงตาสีเลือดมองใบหน้าที่เป็นไปด้วยแผลแตกและรอยช้ำของบาเอลอย่างพึงพอใจ

    ‘’ ร้องออกมาสิ ร้องให้พวกแกมาช่วย ร้องดังๆสิ ‘’

    ‘’ ช..ช่วยด้วย ‘’ บาเอลร้องเสียงสั่น

    ‘’ ดังอีก ‘’ คิลพูดเสียงเรียบ

    ‘’ ช่วยด้วย ‘’

    ‘’ ดังอีก ‘’

    ‘’ ช่วยด้วยย!! ‘’ มันตะโกนลั่น

    ‘’ ฮ่าๆใช่ร้องสิ ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ‘’ คิลหัวเราะอย่างชอบใจ ส่วนคอลซิสก็ได้แต่มองคู่ปรับของมันด้วยสายตาเวทนา

    ‘’ พอแค่นั้นแหละคิล ‘’ เสียงมิกิดังขึ้นข้างหลัง เขารีบหันมาทันทีแต่ถูกเคมิสพุ่งเข้ากระแทกจนร่างเขาลงไปกลิ้งกับพื้นหลายตลบ บาเอลอาศัยจังหวะนี้หนี ส่วนคอลซิสจำแลงร่างเป็นมนุษย์นั่งหอบหายใจจากบริเวณนั้นห่างไม่มาก

    ‘’ คุณมิกิ เจ้านี่แรงเยอะชะมัด ผมจับมันไม่อยู่หรอก ‘’ เคมิสพูดในขณะที่พยายามเกี่ยวแขนทั้งสองข้างของคิลไว้ เป็นเวลาเดียวกับที่รุ้งเทเลพอทมาพอดี ‘’ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเรียกฉันมาที่นี่ ‘’ รุ้งหันไปถามมิกิ

    ‘’ คิลใช้โหมดเทพจำแลงแต่ควบคุมพลังไม่ได้ เธอหยุดการเคลื่อนไหวเขาซะ เดี๋ยวฉันชะลองหาวิธีช่วยเอง ‘’ มิกิพูด ส่วนรุ้งพยักหน้าช้าๆก่อนจะก้าวเท้าไปหาเคมิสที่กำลังรวบตัวคิลอย่างยากลำบาก 

    ‘’ เคมิสออกห่างจากเจ้านั่นมาซะ ‘’

    เคมิสทำท่าลังเลก่อนจะพูดออกมา 

    ‘’ เอ่อ..แต่เจ้านี่มันแกร่งมากนะครับ ถ้าปล่อยมันไปผมเกรงว่า... ‘’

    ‘’ ฉันบอกให้ปล่อยก็ปล่อยสิ ‘’ รุ้งพูดอย่างหงุดหงิด

    ‘’ ครับ ‘’ เคมิสรับคำสั้นๆก่อนจะปล่อยคิลและถอยออกมาทันที เมื่อคิลเป็นอิสระเขาจึงพุ่งเข้าโจมตีเคมิสอย่างกราดเกรี้ยว 

    ‘’ ตาย ‘’ คิลพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะเร่งออร่าสีแดงเข้มข้นอันมหาศาลซัดใส่กลางแผ่นหลังของเคมิสทันที

    แต่พริบตาที่จะโจมตีสำเร็จรุ้งเทเลพอทมาขวางระหว่างคิลกับเคมิสก่อน จะออกแรงเตะคิลกระเด็นไปไกลหลายเมตร 

    เธอชี้ไปที่ร่างของคิลก่อนจะดีดนิ้วเบาๆ

    ‘’ แรงโน้มถ่วงแสนเท่า ‘’  

     

     

    *******************************************************************************************************

    พระเอกสายโฉด ชั่วเลวทราม กำลังเขียนบทเลือดสาดแต่ต้องหยุด นี่มันเว็ปเด็กดีนี่หว่า 555

    บาเอลบอกอยู่ดีๆก็รอดแล้วหาเรื่องเจ็บตัว

    แก้คำผิดครั้งที่ 1 รายงานตัวคับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×