ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนผึกทักษะผู้ใช้เทพอลเวง

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 14 แข่งขันล่าแต้ม/สะสมเสบียง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 339
      2
      24 เม.ย. 58


           หลังจากที่พวกนักเรียนคาส SSพิเศษจับกลุ่มกันเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ทยอยลงดันเจี้ยงอย่างไม่รอรี มีการแข่งขันกันลับๆระหว่างคนในห้องในเรื่องของการเก็บวิญญาณ ซึ่งเหตุหลักๆก็เกิดมาจากการแข่นระหว่างกลุ่มดาร์ดและกลุ่มไวท์ แต่ภายหลังคนอื่นๆเห็นว่ามันน่าสนุกดีเลยเอาบ้าง

    '' คนแพ้ต้องมาเป็นลูกน้องคนชนะ 1 เทอม '' ไวท์ประกาศลั่น

    '' เฮอะ จำคำพูดตัวเองไว้ละกัน ผู้ชนะก็คือข้า '' ดาร์ดแสยะยิ้มพูดอย่างมั่นใจ

    '' เรื่องน่าสนุกแบบนี้ฉันขอร่วมด้วยได้ป่ะ '' 

           รุ้งที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พูดแทรกขึ้นกลางวง ไวท์และดาร์ดมองหน้ากันก่อนจะส่งซิกหา 

    '' เฮ้ย รุ้งจะเล่นด้วยว่ะ เอาไงดีวะ ''  ดาร์ดถาม จะปฏิเสธตรงๆก็ไม่ได้เพราะศักดิ์ศรีค้ำคอ

    '' ตามน้ำไปก่อน แล้วเรารีบไปเก็บวิญญาณเลย ถ้าแพ้ผู้หญิงมามีหวังขายหน้าแหง๋ๆ '' ไวท์ตอบ สีหน้าเคร่งเครียด

    ดาร์ดถอยหายใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ พูดง่ายๆคือกลัวเสียฟอร์มนั่นเอง '' เอาเหอะ ใครจะสิ้นคิดมาแข่งก็เข้ามา กฎคือคนแพ้ต้องทำตามผู้ชนะบอกทุกอย่าง '' ดาร์ดพูดจบก็หันมาหารุ้ง '' ฉันว่าเธออย่ามายุ่งดีกว่าเพราะฉันชอบสั่งอะไรแผลงๆด้วย ''

    รุ้งยิ้มรับอย่างไม่ใส่ใจ '' เรื่องน่าสนุกแบบนี้ แพ้มามีบทลงโทษก็ไม่แปลก จะสั่งอะไรก็มาเถอะฉันไม่กลัวหรอกน่า  ''

    ดาร์ดกับไวท์คิดพร้อมกันในใจ '' ที่น่ากลัวนั่นมันเธอต่างหาก '' 

           การสทนากันทำให้เหล่านักเรียนคนอื่นเริ่มสนใจ พวกเขาจึงเดินตรงมาที่ดาร์ดกับไวท์ก่อนจะกอดคอทั้งสองอย่างสนิทสนม

    '' ฉันขอเล่นด้วยคนสิ '' อันเชนพูดกับไวท์

    ไวท์หัวเราะในคอเบาๆ '' หึ พวกแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ''

    '' แสดงว่าอนุญาติสินะ เฮ้ คุณมิกิช่วยจดรายชื่อคนที่จะเข้าร่วมการแข่งล่าวิญญาณหน่อย '' อันเชนตะโกนลั่น

    '' ฉันจดไว้หมดแล้วรู้สึกว่าจะเล่นหมดกันทุกคนนะ ในฐานะหัวหน้าห้องฉันจะขอเป็นกรรมการละกันเผื่อพวกนายสั่งอะไรแผลงๆกับพวกผููู้หญิง '' มิกิเก็บรายชื่อทั้งหมดใส่กระเป๋า

           ส่วนดาร์ดกับไวท์ต่างก็แอบร่ำไห้กันในใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายได้ถึงขนาดนี้ เรื่องแมงเม่าที่พูดนี่น่าจะเป็นพวกเขามากกว่า แมงเม่าผู้โง่เขลาสองตัวที่ริอาจเผาตัวเองด้วยคำพูดพลอยๆ ลำดับแรกในความคิดพวกเขาสองคนคือล่าๆๆๆจนกว่าจะจบภาคบังคับ

    '' งั้นเจอกันหลังเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง เราจะวัดความข้มข้นของสร้อยมรกตที่หน้าดังเจี้ยง '' คาร์ดพูด จากนั้นเขาก็แผ่ออร่าสีดำทมิฬออกมารอบตัวก่อนจะหายไปในเงาพร้อมกับกลุ่มของเขา

    '' ตามนั้นนะเพื่อน เจอกัน '' ไวท์พูดก่อนจะกระโดดออกจากหน้าต่างหายไป

           เมื่อนักเรียนในห้องต่างคุยกันพอสมควรพวกเขาก็แยกย้ายไปเก็บวิญญาณแน่นอนว่าไม่มีอยากจะแพ้อยู่แล้ว เหลือเพียงกลุ่มคิลที่ยังไม่ไปไหนเพราะต้องรอต้าตื่นก่อน เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนขี้เทราทำให้ปลุกยาก ฝั่งมิกิที่รีบนำกุญแจห้องเรียนไปคืนอาจารย์ ทนรอไม่ไหวจึงเดินมาปลุกต้าด้วยตนเอง

    '' เฮ้ ผมว่าผมลืมกระเป๋าไว้ใต้โต๊ะนะ '' 

           อันเชนเปิดประห้องเข้ามาพูดด้วยรอบยิ้ม มิกิจึงหันไปมองต้นเสียงเพียงชั่วครู่ เป็นเวลาเดียวกับที่ต้าตื่นขึ้นมาพอดี เขาบิดขี้เกียจเบาๆก่อนชูมือไปสุดแขนเพื่อผ่อยคลายกล้ามเนื้อ เหตุนี้เองทำให้คนที่เหลืออยู่ในห้องรวมทั้งอันเชนหันมามองต้าเป็นตาเดียว

    '' หาวววว หลับสบายจัง ว่าแต่ทำไมทุกคนมองผมอย่างงั้นล่ะ '' ต้าถามอย่างสงสัย

    '' ว้าวว นายทำเควสผมเสร็จจนได้นะ '' ไรท์อุทานออกมา ทำให้ต้างงหนักขึ้นไปอีก

    ต้ายิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีก '' เควสอะไร ? ''

           ไรท์ไม่ตอบเขาชี้ไปที่ด้านข้างของต้า ซึ่งภาพที่เห็นคือมือขวาที่เขายืดออกไปสุดแขนนั้นดันไปเกี่ยวกระโปรงมิกิลกขึ้นถึงเอว เผยให้เห็นขาอ่อนเรียวๆของหล่อนพร้อมกับกางเกงซัพในสีดำ ซึ่งเจ้าตัวนั่นมองต้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ส่อไปด้วยรังสีอัมหิต ต้ารีบชักมือกลับก่อนจะรีบพูดแก้ตัวทันทีและทันใด

    '' ผมเปล่านะๆ มันคืออุบัติเหตุ '' 

    มิกิยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย '' เควสที่ไรท์บอกคืออะไร? ''

    ต้ากำลังจะพูดต่อ แต่ไรท์พูดแทรกขึ้นมาอย่างร่าเริง '' ต้าบอกว่าจะเปิดประโปรงเธอน่ะ ตอนแรกผมคิดว่าเขาพูดเล่นซะอีกเลยไม่ได้ห้าม ''

    ' ไอ้เพื่อนทรยศ ' ต้าคิดในใจ อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

    '' แต่นายเป็นคนมอบเควสใช่มั้ย? '' มิกิหันไปหันหาไรท์ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ยิ้มรับ เธอเลยพูดต่อ '' พวกนายจะไม่เห็นฉัน 3 วัน ''

    '' ห๊ะ '' ต้าอุทานออกมาอย่าง งงๆ

    เปรี้ยงงงงๆ เสียงปะทะดังเบาๆพร้อมกับร่างของไรท์และต้ากระเด็นออกนอกหน้าต่าง บริเวณข้างล่างมีเสียงเอะอะเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสู้ความสงบอย่างรวดเร็ว

          ฝ่ายคิลไม่อยากโดนลูกหลงเขาจึงเดินตามอันเชนออกมาติดๆ เพราะถือคติคนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย (เมื่อก็พากันตายไปแล้วสองคน) ทั้งสองเดินมาได้สักพักอันเชนก็หันมาหาคิล

    '' ที่ตามผมมามีอะไรหรอ '' อันเชนถาม

    '' คือผมอยากลองลงดันเจี้ยงดูน่ะก็เลยจะถามทาง '' คิลตอบ

    อันเชนทำสีหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบกลับ '' ได้ๆ แต่นำหน้าทางเข้า จากนั้นห้ามตามผมมาอีกล่ะ '' ที่เขาพูดแบบนี้เพราะเกรงว่าที่เก็บวิญญาณทำเลดีจะถูกแย่ง ซึ่งคิลก็เข้าใจดีในส่วนนี้

    คิลตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม '' โอเค แค่หน้าดันเจี้ยงก็พอ ''

           ระหว่างทางทั้งสองเดินผ่านตลาด พวกเขาได้ยินเสียงเอะอะกันในร้านแห่งหนึ่งก่อนจะเดินไปดูด้วยความสงสัย ทั้งคู่มองไม่เห็นข้างในก็เลยฟังจากบทสนทนาของพวกนักเรียนแทน

    '' คนนั้นคือดาร์ดผู้นำกิลคนนั้นนี่ ทำเขามาซื้ออาหารแห้งมากมายขนาดนี้ '' นักเรียนคนหนึ่งพูด

    '' ท่านผู้นำคงจะสะสมเสบียงทำสงครามหลังจบภาคเรียนบังคับแน่ คงเพราะเกรงว่าจะสะสมเสบียงไม่ทันเลยมาซื้อแต่เนิ่นๆ สมที่เป็นหัวหน้าจริงๆ '' สมาชิกกิลของดาร์ดพูดชูฮกหัวหน้าตัวเองอย่างเลื่อมใส

    '' ฝั่งของไวท์ก็เหมือนกัน ดูเหมือนเขาจะแข่งสะสมเสบียงกับดาร์ดนะ '' นักเรียนอีกคนพูด


    อันเชนที่ยืนฟังอยู่นานเริ่มเข้าใจจุดมุ่งหมายของทั้งสองดี '' โอ้โห ดูท่าพวกนั้นจะเอาจริงนะ สงสัยผมต้องเอามั่งซะแล้ว '' คำพูดของเขาทำให้นักเรียนคนอื่นๆหันมาหาเขา

    '' นายไม่เข้าใจความหมายหรอ สงครามเลยนะพวกกระจอกอย่างเราแค่ยืนดูใกล้ๆก็ตายได้ง่ายๆเลย..เอ๊ะ '' นักเรียนคนนั้นหยุดพูดเพราะเขาเพิ่งสังเกตใบหน้าของอีกผ่าย เขาผงะถอยหลังจนไปชนกับคนข้างหน้า 

    '' อะ..อันเชน '' นักเรียนคนนั้นพูดอย่างแผ่วเบา แต่ก็ทำให้คนโดยรอบแตกตื่นได้

    '' ชายผู้ไม่มีอะไรมาผูกมัดได้ ชายผู้ล่ามโซ่ไว้ไม่อยู่ !! '' เขาพูดเสียงสั่น

    อันเชนหัวเราะ '' ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวผมขนาดนั้นก็ได้ หน้าตาผมดูเหมือนจะฆ่าใครหรอ '' คำพูดนั้นไม่ทำให้เหล่านักเรียนคนอื่นๆคลายความกลัวแม้แต่น้อย

    '' พะ...พวกเราไปกันเถอะ '' นักคนนั้นพูดตะกุกตะกักก่อนจะวิ่งหายไปพร้อมกับเหล่าบรรดานักเรียนคนอื่นๆก็แตกตื่นเหมืองผึ้งแตกรัง ทำให้บริเวณนั้นโล่งในพริบตา

    ดาร์ดที่อยู่ข้านในร้านเดินออกมาหลังจากที่ซื้ออาหารแห้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว '' ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมข้างนอกเอะอะ ที่แท้พวกนายนี่เองอันเชน เอ่อแล้วก็... ''

    '' คิล '' คิลพูดสั้นๆ

    '' อ้อคิล ฮ่าๆยังไงก็ขอบใจพวกนายที่สลายม็อบละกัน '' ดาร์ดพูดอย่างอารมณ์ดี

    อันเชนยักใหล่ '' ผมเปล่าพวกนั้นก็แค่กลัวมากเกินไปแค่นั้น ''

    ดาร์ดถอนหายใจ '' ธรรมดาของพวกคาส SSพิเศษอย่างเราๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ากลัวเสมอแหละ บ้างก็เอาเรื่องของพวกเราไปเล่าต่อๆกันแบบเกินจริงมั่งอะไรมั่ง ขนาดคนที่เงียบๆบางคนยังโด่งดังได้เพราะแค่เรื่องเล่าเท่านั้น ''

    '' เพราะนายเก๊กหน้าเข้ม แถมไปเป็นหัวหน้ากิลสุดโหดด้วยไม่ใช่หรอ '' อันเชนพูดก่อนจะหยิบกระจกในร้านให้ดาร์ดส่อง

    ดาร์ดพิจารนาใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรของตัวเอง '' หน้าผมเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่ แถมใครจะบ้าเดินยิ้มทั้งวันวะ '' ดาร์ดพูดจบก็แบกถุงที่เต็มไปด้วยอาหารก่อนจะเดินจากไป เขาหันมาเล็กน้อย

    '' ถือว่าขอบใจที่สลายม็อบให้ ผมเลี้ยงข้าวละกัน ''

    '' ให้มันได้อย่างงี้สิ '' อันเชนหัวเราะก่อนจะเดินกอดคอคิลตามดาร์ดไปติดๆ 

           จากพฤติกรรมของดาร์ดทำให้ทัศนคติของคิลที่มีต่อดาร์ดเริ่มน้อยลง (ตอนแรกดาร์ดจะลักพาตัวฮินะเพราะต้องการประลองกับเคียวจิโร่ แต่เพราะฮินะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของมิกิเขาเลยต้องปล่อยไป ซึ่งคิลทราบเรื่องนี้มาจากไรท์) 

           ดาร์ดเดินนำทั้งสองมายังร้านอาหารหรูติดดาวก่อนจะผายมือแนะนำ ลักษณะร้านอาหารคล้ายๆกับโรงแรม 5 ดาว ตึกสูงราวๆ 10 ชั้น ข้างบนเป็นด่านฟ้าอย่างดีพร้อมสระว่ายน้ำ ประตูทางเข้ามีบริกรคอยนำทางตั้งแต่ทางเข้าจนถึงโต๊ะอาหาร แน่นอนว่ารสชาดไม่ต้องพูดถึง ใครๆก็ต่างยกนิ้วให้ที่นี่ทั้งนั้น

            แต่ดูเหมือนว่าคิลจะติดใจร้านโทรมๆที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเสียมากกว่า เพราะร้านอาหารติวดาวเป็นที่ดึงดูดลูกค้าค่อนค่างมากทำให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาเลือกที่จะเข้าไปกินในนั้น แตกทว่าท่างกลางสภาพความกดดันทางเศรษฐกิจ ร้านโทรมๆร้านนั้นกลับยืนหยัดได้ราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิลโบกมือให้อันเชนกับดาร์ดก่อนจะชี้ไปที่ร้านโทรมๆนั้น

    '' ผมว่าผมเข้าร้านนี้ดีกว่า พวกนายตามสบายเลยนะ '' คิลพูด

    '' ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก ตอบแทนเล็กๆน้อยๆ '' ดาร์ดพูดพร้อมกับตบกระเป๋าตัวเบาๆ เพื่อบอกว่าตัวเองมีตังเยอะ

    '' คือว่าผมสนใจร้านนี้เป็นพิเศษน่ะ แล้วก็กินเสร็จแล้วห็ต้องรีบไปสะสมเสบียงในการล่าอีก '' คิลบอกเหตุผล

    ทั้งคู่ผยักหน้าอย่างเข้าใจ '' นั่นสิเนอะ นายก็แข่งล่าเหมือนกัน ไว้จบงานนี้ให้ผมเลี้ยงข้าวละกัน '' ดาร์ดพูดก่อนจะเดินเข้าร้านอาหารหรูไปพร้อมกับอันเชน ส่วนคิลก็เดินข้ามฝั่งไปร้านอาหารที่ตนสนใจ

           คิลเดินเข้าไปในร้านอย่างช้าๆ เสียงเอี้ยดอ้าดตอนเปิดประตูให้ความรู้สึกหลอนนิดหน่อยสำหรับเขา สภาพภายในห้องประกอบไปด้วยโต๊ะไม้กับเก้าอี้ทรงกลมสีเข้ม ตามผนังกำแพงถูกประดับไปด้วยไวท์ยุคเก่าราคาแพง ส่วนที่เหลือก็จะมีกรอบรูปใบใหญ่ที่เป็นภาพวิวทิวทัศน์เขียวขจี โดยรวมในความคิดเขาคือถึงจะเก่าแต่ก็สะอาด

    '' รอแปปนึงนะคะคุณลูกค้า '' หญิงสาวพูดในขณะนั่งอบขนม ที่คิลเห็นคือทั้งร้านไม่มีพนักงานคนอื่นเลยนอกจากผู้หญิงคนนี้

    '' ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ '' คิลตอบกลับก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่ตั้งติดเค้าเตอร์

    เวลาผ่านไปได้ชั่วครู่หญิงสาวลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะเดินมาหาเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม '' คุณเป็นลูกค้าคนแรกในรอบ 3 เดือนเลยนะนี่ ต้องการอาหารแบบไหนเป็นพิเศษคะ ''

    ด้วยใบหน้าที่จัดว่าน่ารักของเธอทำให้คิลมองเหม่อเล็กน้อย เขาคิดถึงคนที่ชื่อรุ้งในอดีต '' รุ้ง !? '' คิลเผลอหลุดคำพูดออกมา

    หญิงสาวทำหน้าสงสัยเล็กน้อย '' รุ้งหรอคะ ? '' 

    '' เอ่อ..เปล่าน่ะ ผมขออาหารสำเร็จรูปที่เก็บไว้ได้นานๆและมีปริมาณเยอะๆได้หรือเปล่า '' คิลพูดอย่างประหม่า

    หญิงสาวหัวเราะ '' คุณนี่แปลกจัง ร้านอาหารแบบนี้เขาไม่มีพวกสำเร็จรูปขายหรอก ถ้าเป็นพวกเซเว่นก็ว่าไปอย่าง ''

    '' ฮะๆ จริงด้วย '' คิลเกาหัวตัวเอง

    '' แต่ถ้าเป็นอาหารที่เก็บไว้นานๆเปี่ยมไปด้วยพลังงานก็มีอยู่นะ รอสักครู่ '' หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องครัวก่อนจะเดินออกมาพร้อมเนื้อแห้งชิ้นหนึ่ง '' เนื้อวัวหมักแห้งสูตรพิเศษค่ะ ลองชิมดู '' คิลรับเนื้อชิ้นนั้นมากินทันที

    '' อร่อย '' เขาอุทาน

    '' แถมยังให้พลังงาน รักษาอาการเหน็ดเหนื่อยได้ดีเหมาะสำหรับคนที่เตรียมตัวลงดันเจี้ยงโดยเฉพาะ '' หญิงสาวอธิบายสรรพคุณ 

    คิลพูดทั้งๆที่ยังกลืนอาหารไม่หมด '' ผมขอทั้งหมดนี่แหละ ''

    .................................................................

    บ้านแสนสุข

    '' ป่านนี้คิลคงออกไปล่าแล้วมั้ง '' เสียงไรท์พูดในขณะที่นอนแผ่อยู่บนโซฟา ห่างไม่มากมีต้านอนอยู่บนโซฟาอีกตัว

    '' ผมว่าทำเกินไปหน่อยมั้ง ตั้ง 3 วันเชียวนะ '' ต้าพูด

    '' นายจะบอกว่านายทำเกินไปที่เปิดกระโปรงมิกิ ทำให้มองไม่เธอ 3 วันหรอ ? '' ไรท์ถาม

    '' เธอนั่นแหละทำเกินไปต่อยมากได้ ดูดิตาบวมเลย ''

           ต้าบ่นในขณะที่ลูบรอยบวมใต้ตายตัวเอง เหตุการณ์เช่นนั้นทำให้ทั้งคู่เก็บแต้มล้าหลังคนอื่นไปหลายวัน ซึ่งต่อมารอยบวมใต้ตาทั้งสองก็หายในเวลา 3 วันจริงๆตามที่มิกิทำนายไว้จริงๆ



    *************************************************************************************************

    โดนต่อยหงายทีสะพรึงไป 3 วัน 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×