ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนผึกทักษะผู้ใช้เทพอลเวง

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 13 ระบบเก็บแต้ม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 401
      2
      24 เม.ย. 58


           ห้องเรียนคาส SSพิเศษ 

           บรรยากาศภายในห้องค่อนค่างอึมครึม มีการเขม่งกันบ้างตามประสาของผู้ทรงพลังอำนาจ ถ้าไม่มีกฎบอกไว้ว่าห้ามก่อความรุนแรงไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม ฝ่าฝืนไล่ออกพร้อมบทลงโทษแสนสาหัสป่านนี้ห้องเรียนคงจะเละไปเรียบร้อย สำหรับนักเรียนคาสนี้แค่ทักกันเบาๆก็สามารถสร้างพลังทำลายในระยะ 50 เมตรได้ง่ายๆ

           คิลซึ่งเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่เรียนนัก เขาจึงแยกตัวออกมาจากพวกไรท์และเดินสำรวจไปรอบๆลักษณะห้องเรียนนั้นมีขนาดกว้างมาก ตามผนัง เพดานห้องถูกสร้างขึ้นมาจากหินชนิดพิเศษเพื่อดูดซัพพลังต่างๆโดยเฉพาะ ปกติที่นี่จะนิยมใช้ในการประลองจัดลำดับในฤดูใบไม้ร่วงเพราะมันกว้างและทนทานต่อแรงโจมตี

    '' เฮ้ ไอ้เด็กใหม่ ''  เสียงชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมากอย่างไม่เป็นมิตร

           ซึ่งเขาก็หันกลับมาด้วยความสงสัย  ก่อนจะตกใจเพราะชายคนนั้นโจมตีมาที่เขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มันง้างหมัดขนาดมหึมาของมันต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของเขา

    '' เฮ้ยยยย !! '' คิลอุทานอย่างตกใจ ก่อนจะใช้ฝักดาบคาตานะที่เขาเก็บมาจากหุ่นผู้เฝ้าประตูกระแทกที่ข้อมือมันเพื่อเปลี่ยนทิศทางการโจมตี

    ตู้มมม !! หมัดของอีกฝ่ายปะทะเข้ากับพื้นรุนแรงจนกลายเป็นรูลึก ส่วนคิลก็กระโดดถอยหลังออกจากจุดปะทะเล็กน้อย

    '' สัณชาตญาณดีนี่ '' มันกล่าวชม

    '' อะไรของแกวะ '' คิลตะโกนกลับไปหาอีกผ่ายแบบเคืองๆ

           ถ้าการโจมตีเมื่อครู่ไม่พลาดสิ่งที่จะกลายเป็นรูก็คงไม่พ้นร่างเพียวๆของเขา ซึ่งอีกผ่ายเห็นปฏิกริยาตอบกลับของผ่ายตรงข้ามก็หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเดินมากอดคอคิลอย่างสนิทสนม

    '' ทักทายน่ะๆ เป็นธรรมเนียมของห้องเรา ''

           คิลมองไปที่หลุมก่อนจะกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ถ้ามันเป็นไปตามที่ชายคนนั้นบอกแสดงว่าเขาต้องตื่นตนแทบจะตลอดเวลาที่เรียนในห้อง ก่อนจะนึกเสียใจที่หลวมตัวมาเรียนที่แห่งนี้ แต่เพื่อเป้าหมายที่วางเอาไว้ยังไงเขาก็ต้องอดทน

    '' แบบนี้ผมก็ลำบากแย่ดิ ถ้ามานั่งระแวงที่จะโดนโจมตีตลอดแบบนี้มีหวังเรียนไม่รู้เรื่องแน่ '' คิลบ่นอุบอิบ

    ชายคนนั้นหัวเราะก่อนะจะตบบ่าคิลเบาๆ '' ห้อง SSพิเศษน่ะเขาไม่เรียนกันหรอก เพราะการใช้พลังหรือขีดจำกัดพวกเรายังเหนือกว่าพวกอาจารย์บางคนอีก ที่ห้องนี้เขาจะใช้ระบบเก็บแต้มแทนคะแนนเอาน่ะ ''

    '' เก็บแต้ม? '' คิลทวนอย่างสงสัย

    '' ใช่เก็บแต้ม '' ชายคนนั้นย้ำ

    คิลนึกถึงธรรมเนียมการทักทายก็เกิดอาการขนลุกขึ้นทันที เหงื่อเม็ดใหญ่ค่อยๆใหลออกมาจากหน้าผาก '' อย่าบอกนะว่าให้ฆ่ากันเพื่อเก็บแต้ม ''

    '' ฮ่าๆ นายนี่ดูหนังมากไปหรือเปล่า เราเก็บแต้มจากพวกวิญญาณ ลิ้วล้อของพวกมารที่หลุดมาจากนรกน่ะ ที่นี่เป็นที่เดียวที่มีรอยต่อละหว่างดินแดนแห่งความสิ้นหวังเป็นที่อาศัยของพวกเหล่ามารและวิญญาณชั่วร้าย พวกมันพยายามที่จะออกมาโลกภายนอกผ่านทางใต้ดินซึ่งเป็นเขาวกกตนักเรียนต่างเรียกที่นั่นว่าดันเจี้ยง '' เขาอธิบาย


     คิลเอะใจอะไรบางอย่างก่อนจะถาม '' ถ้าให้เดานะ การจำกัดพวกลิ้วล้อเป็นหน้าที่ของอาจารย์ใช่ป่ะ '' 

    '' อื้ม ก่อนหน้านี้จะเป็นหน้าที่ของพวกอาจารย์น่ะ แต่เขาไม่มีอะไรจะสอนมั้งก็เลยให้นักเรียนมาเก็บประสบการณ์ '' ชายคนนั้นพยักหน้าก่อนจะตอบ

           คิลผยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะคิดชื่นชมอาจารย์ที่คิดระบบนี้เพื่อให้นักเรียนไปไล่เก็บกวาดพวกลิ้วล้อมารที่หลุดมาจากนรกแถมพวกเขาไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากนั่งกระดิกเท้าอย่างเกียจคร้านนั่งห้องพักครู แต่เนื่องจากเขาไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยนอกจากคะแนนที่ได้มาจากการกำจัดลิ้วล้อของพวกมาร

    '' พวกนายไม่คัดค้านหรอ เท่าที่ฟังมาไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลยนอกจากคะแนนที่สูงขึ้น '' 

    ชายคนนั้นทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย '' แปลกจัง นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ว่าสำหรับผู้มีพลังพิเศษอย่างพวกเรา การกำจัดพวกวิญญาณร้ายหรือลิ้วล้อของมารได้นี่จะเกิดการดูดกลืนวิญาณที่ได้และจะกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งขึ้น พูดง่ายๆก็คือเกมเก็บเวลดีๆนี่แหละ ฮ่าๆตายก็เกิด ฆ่ามอนเตอร์เยอะๆก็เก่ง เก็บเวลมากๆก็เปลี่ยนคาสน่าสนุกดีมั้ยล่ะ ''

    คิลเบ้ปากเล็กน้อย '' เกมเก็บเวลหรอแล้วเราจะดูเลเวลยังไงล่ะว่าฆ่ามากหรือน้อย ''

    '' อาจารย์จะแจกสร้อยมรกรตมาคนละเส้นเพื่อวัดค่าความเข้มข้นของวิญญาณ จากนั้นก็.. '' ชายคนนั้นพูดไม่ทันจบ อาจารย์ประจำชั้นก็เดินเข้าห้องมาพอดี เขาโบกมือบ้ายบายคิลก่อนจะเดินไปหากลุ่มเพื่อน '' ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ ผมอันเชนยินดีที่ได้รู้จัก ''

    '' อาเช่นกัน ผมคิล ''

           คิลตอบกลับก่อนจะเดินไปนั่งกับไรท์ซึ่งเขากำลังนั่งคุยกับมิกิอยู่ เมื่อเขาเห็นคิลเดินเข้ามาก็ยกกระเป๋าที่วางไว้บนเก้าอี้ลงกับพื้นก่อนจะหันไปคุยกับมิกิต่อ ซึ่งคิลก็มานั่งฟังบทสนทนาเงียบๆ

    '' จากนั้นนะครับ ผมเตะเจ้านั่นกระเด็นเลยพร้อมกับชี้หน้าด่ามัน '' ไรท์ยังคงโม้ต่อไปเรื่อยๆซึ่งประโยคคำพูดที่ตอบกลับมาจากมิกิก็ไม่พ้นคำพูดเดิมๆ  

    '' ไร้สาระ '' เธอขยับแว่นทรงกลมเบาๆก่อนจะนั่งจดรายชื่อนักเรียนต่อ

           ซึ่งไรท์ก็ยังคงฝอยต่อไปเรื่อยๆอย่างกับไม่ได้พูดมานาน เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายเขาจึงย้ายเป้าหมายมาที่ต้าก็กำลังนั่งสับหงกอยู่ด้านหลัง

    '' จากนั้นนะผมก็.. ''

    '' ไม่เอาไม่ฟัง ง่วงเฟ้ยคนจะนอน '' ต้าเอามือปิดหูตัวเองก่อนจะหลับทันที      

           ก่อนที่ไรท์จะพูดต่อ อาจารย์ประจำชั้นที่เข้ามานั่งอยู่นานแล้วก็พูดขัดขึ้นมาทันที

    '' เงียบๆหน่อยนักเรียน วันนี้เปิดเทอมวันแรกก็ทำตัวดีๆหน่อย อย่าไปก่อเรื่องที่ไหนก่อนเสียล่ะ '' เขาพูดก่อนจะหันมาหามิกิที่กำลังเช็คชื่ออยู่ '' จดรายชื่อมาครบหรือยัง ''

    '' ยังค่ะ ขาดอีกพอสมควร '' เธอตอบสายตายังคงจดจ่อไปที่สมุดรายชื่อ 

    '' งั้นเอาแค่นั้นแหละ ส่วนเรื่องหลักสูตรการเรียนยังใช้ระบบเก็บแต้มเหมือนเดิม อยากเก่งก็ล่าเยอะๆส่วนสร้อยมรกรตรับได้ที่หัวหน้าห้อง โอเคบาย ''

           อาจารย์หนุ่มพูดจบสรุปอย่างง่ายๆก่อนจะหายวับไปพร้อมกับกระดาษรายชื่อที่อยู่ในมือมิกิ ส่วนเธอก็ได้แต่ทึ่งเนื่องจากเธอเป็นคนค่อนค่างระวังตัว การที่อาจารย์มาหยิบกระดาษรายชื่อในพริบตาต่อหน้าเธอโดยที่ไม่รู้ตัวนั้น นั้นทำให้เดาได้ไม่ยากว่าฝีมือระดับมาสเตอร์ของอาจารย์คนนั้นร้ายกาจขนาดไหน

           ไรท์เห็นมิกิที่นั่งข้างหน้านิ่งไปพักใหญ่ เขาจึงลองโบกมือผ่านหน้าเธอเพื่อทดสอบ 

    '' มิกิๆ '' ไรท์เรียก ปฏิกริยาตอบกลับยังคงนิ่งอยู่ 

           ไรท์จึงตีเนียนสวมกอดเธอจากด้านหลังเบาๆ พร้อมกับกระซิบข้างหูหญิงสาวผ่านไรผม

    '' ตกใจจุงเบยยย ''

    ตู้มมมมม!! รอบตัวมิกิเกิดระเบิดสีแดงกระจายขึ้นพร้อมกับสะแสไฟฟ้าสิเงินวิ่งวนผ่านรอบเปลวเพลิงอย่างสวยงาม สำหรับผู้พบเห็น แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่โดนนะสิ ไรท์โดนแรงอัดกระเด็นไปหลังหัองก่อนจะนอนแผ่อย่างหมดสภาพ เหล่านักเรียนชายต่างก็เข้ามาชื่นชมในวีรกรรมความกล้าหาญของเขา

    '' นายนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยนะ '' ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาผยุงไรท์ขึ้นจากพื้น

    '' ฮ่าๆหาเรื่องเจ็บตัวจนได้ แค่เจอหน้าหล่อนฉันยังขยาดที่จะเข้าไปใกล้เลย '' อันเชนช่วยผยุงอีกข้าง

           สำหรับนักเรียนในห้องไรท์เป็นประเภทที่ชอยเล่นอะไรแผลงๆอยู่ตลอด วันดีคืนดีก็ไล่ฆ่านักเรียนคนอื่น บางครั้งยังเคยแช่แข็งห้องที่พวกเขากำลังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครรังเกลียดไรท์สักนิด ถ้าไม่นับดาร์ดผู้ไม่เคยชอบใครเลยในสายตาแต่รู้สึกว่าวันนี้ดาร์ดจะมองไรท์อย่างชื่นชม

    ' ทำยังไงถึงจะได้กอดคุณมิกิมั่งน้าาาา ' ดาร์คคิดในใจก่อนจะตีสีหน้าเคร่งขรึมราวกับไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในห้อง เขาเดินไปหามิกิก่อนจะแบมือ 

    '' หัวหน้าห้อง ผมขอสร้องมรกรตหน่อย ''

           ลิขิตที่นั่งข้างๆมิกิเห็นว่ามีคนมาขอสร้อย เธอก็เลยหยิบของในกล่องมาให้แทนเพื่อนสาวของเธอ


    ซึ่งผ่ายที่เดินมาขอทำหน้าฮึดฮัดเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป ''  ตูอยากของได้จากมือคุณมิกิโว้ย ไม่ใช่ยัยเฉิ่มนี่ '' ดาร์ดคิดในใจอย่างหงุดหงิด 

    '' อะไรของเขาน่ะ '' ลิขิตพูดกับตัวเองอย่าง งงๆ

    '' ถ้าให้เดา เขาคิดว่าไม่อยากได้ของจากคนเฉิ่มๆอย่างเธอเลย '' คิลที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกพูดแขวะหญิงสาว

    เธอหันขวับมาทันที '' กลับมาตั้งนานเห็นไม่พูดไม่จานึกว่าจะเป็นใบ้ซะแล้ว ที่ไหนได้สุนัขในปากมันโตขึ้นนี่เองถึงได้ออกเสียงลำบาก '' 

    '' ฉันก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้า ก็เธอมันเฉิ่มจริงนี่หว่า '' คิลพูดก่อนจะมองหัวจรดเท้า '' ดูสิ ชุดอะไรของเธอน่ะ เช๊ยเชย มีแต่ป้าแก่ๆเขาใส่กัน ส่วนรองเท้านี่ก็ไม่ไหวนะ แนะนำยี่ห้อช้างดาวไปใส่น่าจะเหมาะกว่าเยอะ '' คิลวิจารณ์เป็นฉากๆ

    '' หรอยะ ส่วนนายแต่งตัวดีตายแหละ ไม่บอกนี่นึกว่าคนงานก่อสร้างมาซ่อมไฟ แล้ว... '' ลิขิตเถียงกลับ แต่เจ้าตัวดันปิดหูตัวเองก่อนจะลอยหน้าลอยตาใส่

    '' ไม่สนไม่ฟังยายเฉิ่มขี้บ่น~ '' 

    (เพล้งงง !! หลอดความอดทนในหัวของลิขิตระเบิด) เธอลุกขึ้นเหยียบเก้าอี้ก่อนจะกระโจนใส่เป้าหมายทันที เธออ้าปากกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆก่อนจะงับต้นคอคิลอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามดิ้นให้หลุด

    '' แว้กกกก!! ยัยผีดิบกัดคอฉันทำไม ปล่อยนะเฟ้ย '' คิลพยายามจะดันหน้าลิขิตออก ซึ่งเธอก็เพิ่มแรงกัดยิ่งขึ้น เขาจึงหยุดดันหน้าเธอออกเพราะเกรงว่าถ้าฝืนดันต่อไปมีหวังโดนกัดเนื้อหลุดแหง๋ๆ

           บรรยากาศในห้อง SSพิเศษยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายเหมือนเคย ความคิดของคนทั่วไปที่ว่าห้องเรียนคาสพิเศษนั้นเต็มไปด้วยอันตรายนั้น ถ้าเจ้าตัวมาเห็นเองนี่ขอบอกให้โยนความคิดนั้นทิ้งไปได้เลย ห่างออกไปจากบริเวณนั้นมีหญิงสาวนั่งทอดสายตาผ่านทุ่งกว้างตรงมาที่ห้องที่พวกคิลอยู่ ข้างกายเธอมีครูสมิงและเทพหยั่งรู้นั่งอยู่ไม่ห่างนัก

    '' รู้สึกปีนี้รอยต่อมิติจะบี้ดเบี้ยวมากกว่าเดิมนะ ข้าเกรงว่านอกจากพวกลิ้วล้อพวกมารแล้วน่าจะมีพวกมอนเตอร์ตัวเป้งโผล่ออกมาน่ะสิ '' ครูสมิงพูด

    หญิงสาวผยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ '' ถ้ามันออกมาจริงๆก็คงต้องไปต่อว่าที่โรงเรียนนั้นหน่อยที่ควบคุมอาคมไม่ดี ''

    '' พวกนอกรีตน่ะหรอ '' ครูสมิงถามอย่างสงสัย

    '' อย่าพูดอย่างงั้นสิคะครู ในสายตาพวกนั้นก็คงมองเราไม่ต่างกัน '' เทพหยั่งรู้ที่นั่งอีกฝั่งพูดค้านครูสมิง ก่อนจะลุกขึ้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะพึมพัมออกมาเบาๆ '' โชคชะตากำลังหมุนเวียนเข้ามา พวกเรามีหน้าที่แค่เฝ้าดูเท่านั้น ยุคของพวกเรามันจบไปแล้ว ''

           หญิงสาวหัวเราะเบาๆสายตาเธอมองลิขิตที่กำลังไล่ทุบคิล ทั้งห้องปั่นป่วนไปด้วยเสียงเฮฮา 

    '' สายลมลูกเก่าพัดไป สายลมลูกใหม่กำลังจะมา '' หญิงสาวพูด

    '' ไม่อยากแก่เลยแฮะ '' ครูสมิงบ่น

    '' ไว้วันหลังชวนเคียวจิโร่ไปดื่มด้วยกันนะ '' หญิงสาวพูดจบก่อนจะใช้เหินไปบนฟ้าราวกับบินได้

    '' ฮ่าๆ ผู้อำนวยการอัจฉริยะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์จะชวนศิษย์เก่าไปดื่มนี่นะ '' ครูสมิงนั่งหัวเราะจนท้องแข็งก่อนจะพาเทพหยั่งรู้เดินกลับค่ายฝึก เขาหันไปมองที่ห้อง SSพิเศษอีกครั้งก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมา

    ต่อให้เทพหยั่งรู้ไม่บอกข้าก็เดาได้ไม่ยาก พวกเจ้านี่แหละตำนานบทใหม่


    **************************************************************************************************************************************

    เนื้อหาล้วนๆ / แก้ไขนิดหน่อยไม่โกรธกันนะจ๊ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×