คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #48 : ผมรักนายขนมหวาน เริ่ม...(เก่งเซน) [โน่ริท เก่งเซน ไอซ์กัน]
ผมรักนายขนมหวาน เริ่ม...(เก่งเซน) [โน่ริท เก่งเซน ไอซ์กัน]
Gang part
“ริท ไม่เป็นไรแน่นะครับ”หลังจากตรวจคนไข้รายล่าสุดเรียบร้อย ผมที่เช้านี้ค่อนข้างกระวนกระวายใจก็เหมือนหลุดพ้น ส่งผลตรวจให้กับพยาบาลแล้วขอตัวเลย มือหยิบสมาร์ทโฟนต่อสายถึงอีกคนที่เป็นต้นเหตุ
[ไม่เป็นไรครับ พี่เก่ง]เสียงที่ตอบกลับมาดูสดใส ทว่าไม่รู้ทำไมผมไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไร
”งั้น ริทอยู่ไหนครับเนี่ย”
[ริทมาคุยงานข้างนอกกับคุณภาคิณครับ แต่ตอนนี้เขาไปเข้าห้องน้ำ]ผมทำใจแล้วละครับ ไม่รู้ไอ่โน่มันคิดจะทำอะไรของมัน แต่ผมไม่ชอบใจชะมัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมไม่อยากให้ริทคิดมาก ถ้าผมมีเรื่องกับไอ่โน่ ริทก็ต้องคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุแน่
”อืม..แล้วไอ่โน่มันทำอะไรริทรึเปล่า?”ผมถาม ผมรู้สึกไม่ไว้ใจเพื่อนตัวเอง ตั้งแต่วันที่ผมไปพาริทกลับมา มือที่เป็นแผลของริท นั่นทำให้ผมรู้สึกโกรธไอ่โน่อยู่หน่อยๆ ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้ เหมือนใครมาแย่งของเล่นแล้วพาลอย่างนั้นแหละ ฮึ่ย! แต่เมื่อริทตัดสินใจแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ ว่าริททำอย่างนั้นทำไม
[ปะ…เปล่าครับ ไม่…นี่คุณ!!]
[อยู่เฉยๆเถอะ! ไอ่เก่ง แค่นี้นะ]
ปิ๊บ
”เดี๋ยว! ไอ่โน่ๆ”ฮึ่ย! มันจะทำอะไรริทอีกหรือเปล่า ผมไม่ไว้ใจมันเลย ผมมองโทรศัพท์ในมือพร้อมกับความกังวลที่ก่อขึ้น
พี่เป็นห่วงริท…
Zen part
”เซนยังไปไหนไม่ได้ เซน! เดี๋ยว!”ผมเดินดุ่มๆไม่สนใจเสียงเรียกข้างหลัง ทว่าความไวของอีกคนกลับได้เปรียบกว่าซะจนผมหงุดหงิด
”เซนไม่มีอะไรจะคุยกับพ่อ”ผมพูดเสียงเรียบ พยายามเกาะมือพ่อที่เกาะกุมข้อมือผมอยู่ออก กลับต้องนิ่วหน้าเพราะพ่อจงใจที่จะบีบข้อมือผมและลากเข้าบ้าน และอาจเลยถึงห้องนอน…
”ไม่นะ! ปล่อยเซน!”ผมขืนตัวเองไว้ที่ตีนบันได ไม่ยอมก้าวตามความต้องการของพ่อที่ลากผมขึ้นชั้นบน
”เซน! อย่าดื้อ…”
”พ่อ…เซนคุยกับพ่อก็ได้ แต่คุยข้างล่าง…”
”แน่ใจ?! เซนแน่ใจเหรอว่าเซนอยากคุยกับพ่อข้างล่าง”ไม่ว่าเปล่า สองแขนของพ่อคว้าตัวผมไว้แล้วกักขังของในอ้อมกอด จะหนี ก็เหมือนยิ่งจำกัดอิสระมากขึ้นไปทุกที
รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าทำให้ผมหยั่งความคิดตอนนี้ของพ่อไม่ออกเลย ให้ทำหน้าบึ้งเหมือนโกรธตอนก่อนหน้านี้เสียดีกว่า เพราะอย่างน้อย เขายังรู้อารมณ์ของคนตรงหน้า
”เซนแน่ใจ ว่าจะคุยกับพ่อข้างล่าง?”เสียงแผ่วเบาคล้ายกระซิบ ใบหน้าคมของพ่อก้มลงข้างหูพร้อมกับเลียเบาๆที่ใบหู เป็นผลให้กำปั้นผมทุบอั่กบนแผงอกแกร่ง
”พ่อ…เซน…”
”ไปคุยกับพ่อข้างบน”น้ำเสียงที่อ่อนลงทำให้ผมเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า ใบหน้าคมคล้ายจะเหนื่อยใจแล้วเหมือนกัน มือใหญ่ที่เคยบีบข้อมือคลายออก เปลี่ยนเป็นจูงมือ ‘ด้วยกัน’ แล้วพาเดิน
”อื้ออ..อืม..ไหนพ่อบอกจะคุยไง..”เรียกครางหวือร้องออกมาไม่ดังนัก เมื่อถูกคนที่บอกว่าจะคุย เอาแต่จ้องจะทำมากกว่าคุย คนตัวสูงยิ้มกริ่ม แค่คุยมันจะไปสนุกอะไรล่ะ หึหึ
”พ่อ…คะ..ครับ”มือบางดันแผงอกที่เริ่มคุกคามเป็นพลัดวัน ขาเรียวยาก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับโดนรุกรานทั้งริมฝีปากและฝ่ามือใหญ่ วงแขนแข็งแรงเหมือนเกราะที่ขังให้ร่างบอบบางไม่ให้หนีไปไหน ไม่กอดเปล่าทั้งยังซุกซนกับแผ่นหลังโค้งเว้าให้รู้สึกได้แม้เสื้อผ้ากั้น
”พ่อ..เซ..”ริมฝีปากที่เอ่ยคำคัดค้านถูกปิดลงพร้อมกับเสียงในห้องที่เงียบลงไปเช่นกัน แต่ทว่าความเร่าร้อนเริ่มก่อขึ้นทดแทน ร่างสูงไม่ได้บดเบียดร่างกายกับร่างบอบบางอีกแล้ว เพียงแต่ยืนเป็นหลักให้อีกคนยึดไว้เป็นที่พึ่งไม่ให้ทรุดไป
”…”ริมฝีปากทั้งสองทำหน้าที่ของมันเองตามความรู้สึกที่ต้องการส่งผ่าน ศุภรุจเลาะเล็มเนื้ออวบอิ่มไปเรื่อยๆซึ่งแม้จะมีขัดขืนบ้าง แต่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำให้คล้อยตาม เชื่อฟัง ลิ้นอุ่นๆเข้าไปซุกซนในโพรงปากอย่างเคย พยายามเล่นกับลิ้นอีกฝ่ายที่คิดแต่จะหนีลูกเดียว
ก๊อกๆๆ
สองร่างหยุดชะงักเหมือนมีใครมากดสวิตซ์ปิด ศุภรุจหลับตาลงคล้ายจะทำให้ใจเย็นลง เป็นฝ่ายปฏิภาณที่มีปฏิกิริยาก่อนได้ผละตัวเองออกจากจูบที่อีกฝ่ายมอบให้เมื่อครู่ เหงื่อชื่นที่ผลุดพรายที่ซอกคอและใบหน้าเนียนตอบได้ดีว่าร่างสูงได้มอบ ‘ความอบอุ่น’ ให้เพียงใด ร่างสูงยังไม่ยอมปล่อยให้คนตรงหน้าเป็นอิสระจนคนถูกกอดเอ่ยเตือน
”ไม่เปิดประตูเหรอครับ”ซ้ำยังเอียงคอมองถาม ดวงตาเรียวคมมีประกายระริกในแววตา ในใจคิดแต่เพียงว่า ถ้าคนที่เคาะไม่มีเหตุสำคัญ เขาจะไม่ปล่อยไว้แน่!
”เซนรอพ่ออยู่ในนี้นะ เดี๋ยวมา”ปฏิภาณเพียงแต่พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ นั่นทำให้ศุภรุจยอมปล่อยร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขน แล้วจำใจเดินไปเปิดประตู
”มีอะไร”ร่างสูงเพียงแง้มประตูเปิดออกแล้วถามด้วยท่านิ่งๆเท่านั้น
”คุณอรุณพงศ์มาครับ”คำตอบที่ได้รับ ไม่ได้ทำให้ศุภรุจดีขึ้นเลย ไอ่เชี้ยดิว! มึงจะมาทำเชี้ยไร อาการที่แสดงออกทางสีหน้าชัดเจน ทำให้ผู้เป็นลูกน้องต้องกล่าวอีกประโยคที่ทำให้คนฟังนิ่งเข้าไปอีก
”คุณอรุณพงศ์บอกว่า ถ้าคุณชายไม่ลงไป คุณจะขึ้นมาเองครับ”ว่าจบเจ้าตัวก็ขอตัว ให้ศุภรุจเป็นคนคิดเองว่าจะทำอย่างไร
จะทำยังไงได้ล่ะ
เขาก็ต้องละจากลูกแมวน้อย
ไปหาไอ่เพื่อนเลวข้างล่างไง!
Zen part
ผมง่วนอยู่กับจัดการร้านในช่วงเย็น ที่เริ่มจะมีแขกกันเข้าร้านแล้ว คิดไปคิดมาแล้วผมก็ไม่เข้าใจไอ่ริทมันอยู่ดีแหละ อะไรทำให้มันตัดสินใจแบบนั้น ทั้งแต่ก่อนยังต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่เท่าไม่มีมันแล้วมันจะคิดถึงขนาดนี้หรอก ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายเก่งก็พาริทกลับมาได้แล้วก็นึกว่าเรื่องมันจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย กลับแย่ลงไปอีก ผมเชื่อแล้วว่านายภาคิณอะไรนั่นจองเวรจองกรรมกับริทจริงๆ
และเรื่องของริททำให้ผมทะเลาะกับพ่ออีกครั้ง หลังจากที่เราได้คุยกันอย่าง ‘จริงจัง’ ในรถระหว่างทางมาคลับ ผมไม่เห็นว่าริทจะเหมาะสมกับนายภาคิณขึ้เก๊กนั้นเลยสักนิด สักนิดก็ไม่มีจริงๆ
”นี่คุณ”ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีคนมาเรียก ยังมาเงียบๆอีกด้วย
”อะไร”ผมไม่หันหน้าไปถามก็รู้ว่าใคร น้ำเสียงแบบนี้ มาได้ทุกวันสิน่า
”ริทเป็นไงมั้ง”แล้วก็เหมือนเดิม อยากจะตะโกนให้รู้ว่าผมชื่อ ‘เซน’ ไม่ใช่ ‘ริท’ ฮึ่ย!! เจอมาทุกวันแต่มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี
”ผมชื่อเซน ไม่ใช่ริท ถามผิดคนแล้วไหมคุณ”อดไม่ได้จริง ผมถามพลางตีหน้านิ่งๆ
”ไม่เอาน่า คุณก็รู้ ผมติดต่อริทไม่ได้”หึหึ แน่สิ นายภาคิณอะไรนั่นจริงจังขนาดล็อกเบอร์ไม่ให้นายเก่งนี่คุณกับริทเลยล่ะ อะไรจะขนาดนั้น
”ผมยังไม่ได้โทร.หาริทน่ะ วันนี้งานยุ่ง”ผมบอกตามความจริง วันนี้เมื่อเหยียบเข้ามาในร้าน งานกองพเนินเทินทึกทำผมได้แต่มองแล้วฮึดทำๆไปให้เสร็จ
”แล้วงานคุณเสร็จเมื่อไร?”ได้ฟังคำถาม ผมก็ชักสีหน้าให้รู้ว่าไม่พอใจ เสร็จเมื่อไรก็เรื่องของผมสิ!
”เรื่องของผม”อะไรก็ไม่รู้ทำให้ผมหงุดหงิด ยิ่งมองหน้าอยากรู้ซะเต็มแก่นั่น ทำให้ผมเม้มปาก หมั่นไส้!!
”เดี๋ยวดิ คุณเป็นอะไรเนี่ย”
”มันก็เรื่องของผมอีกนั้นแหละ!”ว่าจบผมก็เดินจากไป ทิ้งให้นายนั่นนั่งอยู่อย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าผมเป็นอะไร ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เสนอหน้ามาได้ทุกวัน ฮึ่ย! ริทไปชอบหมอนั่นลงได้ยังไงนะ
แล้วนี่ผมเป็นอะไรเนี่ย?
”ปล่อยเซนไปซะ!”
”…หึ ทำไมกูต้องทำแบบนั้น”
”…หึ ก็ถ้ามึงไม่ทำ มึงก็จะได้รู้ว่ากูทำอะไรได้บ้าง…”
ภายในห้องส่วนตัวในคลับหรูซึ่งใช้เป็นที่พักในยามทำงานของเจ้าของ ซึ่งตอนนี้กลับเป็นสนามรบย่อมๆก็พูดได้ สายตาคมประสานกันอย่างไม่ยอม ดูไม่ออกเลยว่าใครจะชนะ
”ให้ตายเหอะว่ะรุจ มึงจะดื้ออะไรกับกูหนักหนา ก็กู..”
”ทำไม เรื่องของกูทั้งนั้น มะ…”
”เรื่องของกูด้วยเหมือนกัน! อย่าให้กูต้องพูด กูรู้ว่ามึงไม่อยากฟัง!”ศุภรุจเม้มปากทันทีที่อีกคนพูดจบ รู้อยู่ว่าเรื่องนั่นคือเรื่องอะไร
”เมื่อไรมึงจะเลิกยุ่งกับกู…”
”รุจ…”
”กูรักเซน เรื่องกูกับมึง มันก็แค่พลาด! มึงเมา กูเมา! ลืมๆไปก็หมดเรื่อง!! เมื่อไรมึงจะเลิกยุ่งกับกูสักที!!“ว่าจบศุภรุจก็หันหน้าหนี น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มเนียน ก่อนที่เจ้าตัวจะปัดมันออกอย่างไม่สนใจ
”…”แผ่นหลังที่สะอื้นจากเบาๆเริ่มไหวแรงขึ้น เรียวแขนยกขึ้นกอดอกพยายามบังคับตัวเองไม่ให้
แสดงความอ่อนแอไปมากกว่านี้
”พลาดเหรอ?…ลืมเหรอ?...ง่ายไปมั้ง”พูดแค่นั้น อรุณพงศ์มองอีกคนยกยิ้มเย้นหยันกับตัวเอง อยากเข้าไปกอดปลอบแต่ทำไม่ได้ เค้ากลัว กลัวว่าถ้าทำแบบนั้น ศุภรุจจะโกรธจนหนีมาแบบนี้อีก
และมึงจะเข้าใจ…ว่าเซนก็ไม่ได้รักมึง
เซนรักคนอื่น…
แล้วมึงจะเข้าใจ กูไม่ได้พลาด…
กูตั้งใจ….
Gang part
”นี่คุณ เมื่อไรคุณจะโทร.หาริทล่ะ คุณไม่ห่วงเพื่อนเลยไง”ผมถามไอ่หน้าแมวนี่ไม่รู้กี่หนแล้ว หมอนี่ไปโกรธใครมานะ ทำไมต้องเมินหน้าผมด้วย ทั้งๆที่ผมก็มาที่นี่ทุกวันจนน่าจะชินได้แล้ว
”ผมทำงานอยู่ คุณไม่เห็นหรือไง”ผมได้แต่ถอนหายใจ กี่ทีๆก็บอกว่าทำงานๆ โทร.หาเพื่อนแค่ไม่กี่นาทีมันเสียเวลางานขนาดนั้นเลยหรือไง
”คุณโกรธอะไรผมหรือเปล่า หรือคุณไม่พอใจ?”ผมตั้งข้อสงสัย ไอ่เหมียวเงยหน้ามองผมนิดหน่อยก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานตา โว้ยยย ผมไม่เคยอดทนขนาดนี้นะ ฉันไม่ต่อยนายก็บุญแล้วไอ่เหมียวเอ้ย
”นี่! คุณเป็นอะไร? หรือจะแกล้งอะไรผมอีก ไหนคุณบอกจะช่วยผมไงล่ะ!”ผมที่ทนไม่ไหวกับความเงียบของอีกคน เดินเข้าไปกระชากไอ่เหมียวที่ทำงานอยู่ให้เผชิญหน้าคุยกัน
”นี่คุณ! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลยนะ”ไอ่เหมียวพยายามแกะมือผมออกจากแขนตัวเอง แล้วไง? ทำไมผมต้องทำตามด้วย ในเมื่อเห็นอยู่ชัดๆว่าไอ่เหมียวนี่พยายามจะกวนประสาทผมน่ะ ไหนบอกจะช่วยๆ ไม่เห็นได้เรื่องสักอย่าง
”ทำไมผมต้องทำตามที่คุณบอกด้วย?”ผมถามพลางตีหน้ากวนกลับ
”บอกให้ปล่อยไงล่ะ!”จากที่เริ่มขึ้นเสียง ทั้งยังสะบัดข้อมือหนี อาการทั้งหมดนั้นทำให้ผมอยากเอาชนะ
”หึ..”ผมหัวเราะในลำคอ กระชากคนที่พยายามจะถอยห่างให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ดูสิว่าถ้าอยู่ในสภาพนี้ ยังปฏิเสธผมได้อีกหรือเปล่า
”โอ๊ย!”เสียงร้องที่ดังให้ได้ยินนั่น ของไอ่เหมียวเองแหละครับ
”จะโทร.หาริทให้ผมได้รึยัง”ผมก้มลงไปกระซิบชิดใบหู รู้สึกได้เลยว่าคนที่ผมกอดอยู่ เกร็งไปทั้งตัว
”คุณขอร้องคนอื่นเขาดีๆไม่เป็นรึไงน่ะ ไอ่คนใช้กำลัง!”
”ก็คุณดื้อเอง ผมก็ต้องทำอย่างนี้แหละ เอ้า! โทร.สิ”ผมยิ้มมุมปากเมื่อได้อย่างใจ คนในอ้อมแขนกระฟัดกระเฟียดเล็กน้อยคล้ายเจ็บใจ แต่ก็โทรให้ผมโดยดี
ปึง!
”นายครับ ทะเลาะวิวาทครับ!”เสียงแตกตื่นที่เข้ามาบอกข่าวกับนายในห้องนั่นทำให้ผมกับไอ่เหมียวผละออกจากกัน
”ว่าไงนะ!”สีหน้าตื่นตกใจของไอ่เหมียวทำให้มือที่ถือโทรศัพท์ชะงักค้างแล้วกดตัดสายไปอย่างไม่รีรอ ขาของผมก้าวตามร่างบอบบางที่วิ่งออกไปเมื่อกี้อย่างนึกห่วง
สังหรณ์ไม่ดี
ร่างของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นนาย เข้ามาอยู่ในสถานการณ์แล้วตอนนี้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีมือที่มองไม่เห็นคว้าเข้าให้ที่ต้นแขนเสียก่อน
”จะเข้าไปรึไง มันอันตราย”เสียงเตือนเจือกระแสความเป็นห่วงความปลอดภัยถูกส่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กหยุดความคิดได้
”ผมต้องหยุดพวกเขา นี่มันร้านของผม ความรับผิดชอบของผม!”ไม่ฟังอะไรแล้วตอนนี้ ในหัวของปฏิภาณคิดเพียงแต่ว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่โต ใครที่ไหนจะมาใช้บริการอีก เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องหยุดพวกนี้ด้วยตัวของเขาและลูกน้องเอง ไม่ต้องมีตำรวจหรือสำนักข่าวให้ต้องเป็นเรื่องใหญ่โต
”นี่!! คุณ เดี๋ยว!!!”ไม่ได้บอกอย่างใจ ปฏิภาณก็สะบัดแขนด้วยแรงทั้งหมดที่มีและมันก็หลุดอย่างง่ายดาย ร่างเล็กที่เข้าไปที่ความชุลมุนนั่นทำเขาใจสั่นแปลกๆ ให้ตายเหอะ!
”โทร.หาพ่อของไอ่เหมียวหรือยัง!”วาโยเมื่อเห็นทางไหนไม่ได้ดีไปกว่ากัน เห็นก็มีแต่ ‘พ่อ’ ที่ไอ่เหมียวมันเคารพนักหนาเท่านั้นที่จะหยุดได้ แต่ก็ได้แต่สีหน้าอึกอักของลูกน้องมาแทน ยิ่งทำให้วาโยโมโหเข้าไปอีก!
”โทร.สิ!”ออกคำสั่งไปแล้ว ไม่คิดว่าทำตามหรือไม่ แต่ตอนนี้ต้องทำ! ลูกน้องของปฏิภาณสองคนช่วยกันติดต่อนายใหญ่ของพวกเขา และมีอีกสองคนขึ้นไปตามถึงห้องชั้นบน
”ครับ แจ้งเหตุทะเลาะวิวาทครับ”
”หยุดเดี๋ยวนี้! บอกให้หยุดไง!!”น้ำเสียงที่คิดว่าดังแล้ว แต่ก็ยังเบาไปในอารมณ์ของคนที่กำลังมีเรื่อง ไฮโซสองกลุ่มที่ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าชั้นดีของที่นี่ ไม่รู้จะไกล่เกลี่ยยังไง ได้แต่พยายามห้ามทัพเอาไว้
”มึง!! ไม่กราบกูก็อย่าอยู่เลย!”
”เหอะ! คิดว่าทำอะไรกูได้เหรอ?”
”ได้ไม่ได้ เดี๋ยวก็รู้ เฮ้ย!!”สัญญาณมือบ่งบอกให้ลงมือได้ แล้วการตะลุมบอนก็เกิดขึ้น ปฏิภาณเสไปมาจากการโดนเบียด แต่ก็ยังพยายามจะหยุดเหตุการณ์ชุลมุนนี้ เขาเห็นการ์ดของร้านช่วยกันจับแยกแต่ก็ไม่เป็นผล การตะลุมบอนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
”เฮ้ย!”
พลั๊ก!
ผลั๊ว!!
ตึง!
ผลั๊ว!!ๆๆๆ
”มึง! ตายซะเถอะ!”ร่างของปฏิภาณถูกกระชากโดยคนแปลกหน้า อาการปวดแปลบบริเวณหน้าท้องทำให้เขาก้มลงไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง คำตอบที่ได้คือเลือดเต็มฝ่ามือ ในหัวมึนเบลอคลายหน้ามืด แล้วสติที่หลงเหลือก็ดับวูบลง
”เซน!”
______________________________
ยังมีคนอ่านอยู่ไหมหว่าาาา เสิร์ฟเก่งเซนสักตอน ><
รักคนอ่านคนเม้นท์ทุกคนคร้าบบบบบ
ความคิดเห็น