คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : SF แกล้ง [กันริท]
ฟิคสั่นคั่นเวลา ของกันริทอีกเรื่อง ไม่ได้แต่งกันริทตั้งนาน คิดถึงอ่ะ ขอบคุณแรงบันดาลใจของฟิคเรื่องนี้นะคะ เป็น OPV เพลง แกล้ง กันริท พอดีดู youtube ไปเรื่อยๆแล้วเจอ นั่งดูแล้วคิดว่าน่ารักดี เลยไปก่อกำเนิดเป็นฟิคเรื่องนี้ ว่ะฮ่ะฮ่าๆๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ส่วนตัวชอบโมเมนท์นี้นะ แกล้งเพื่อให้ได้ง้อ ง้อเสร็จก็คืนดี น่ารักอ่ะ ว่าแล้วทำไมคู่นี้เขาชอบแกล้งกัน สาเหตุมันอยู่ที่ตรงนี้นี่เอง (แฟนโน่ริทกระทืบ) ไม่ผิดที่จิ้นสองคู่ 555 เอาล่ะ ไปอ่านกันโลดดดดด
____________________________________
SF แกล้ง [กันริท]
“ไอ่บ้าาา!!”เสียงโวยวายดังลั่นจนทำให้ภาคิณต้องหันไปมองข้างหลังตัวเอง แล้วก็เจอกับคู่กัดสองคนที่ทะเลาะกันไม่ได้หยุด จนคนเป็นพี่ใหญ่ต้องปราม
”อะไรกัน หืม สองคน ทะเลาะไรกันอีกอ่ะ”
”ก็ไอ่กันอ่ะดิ ดูมันใช้ Ipad แต่งรูปริทดิ แต่งบ้าไรก็ไม่รู้!”คนขี้ฟ้องก็ได้ที แล้วยื่น Ipad ในมือให้พี่ชายเพื่อเป็นหลักฐาน
“คิดไรมากมาย กันก็แต่งเล่นเอง”จำเลย
“แล้วกูเล่นกับมึงเหรอ!”โจยก์
”ก็ไม่เห็นมีไรเลย น่ารักดีออก 555”ไม่ทันที่จะหัวเราะไปมากกว่านี้ คนเป็นพี่ก็โดนฝ่ามือของน้องตีพลั๊วเข้าให้ที่ไหล่แข็งแรง
”พอเลย อยู่ด้วยกัน รวมหัวกันแกล้งริทตลอดอ่ะ!!”เมื่อเหวี่ยงจนพอใจแล้ว คนตัวเล็กก็เดินหนีไป ทิ้งให้สองคนข้างหลังหัวเราะกันอย่างบ้าคลั่ง
”แกล้งมันอยู่ได้ สนุกรึไง”เมื่อเห็นน้องลับตา พี่ใหญ่ก็พูดกับน้องกลางด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
”ก็แค่แกล้งเล่น..”
”เพื่อ..”คนน้องพี่ไม่ทันจบ พี่ใหญ่ผู้รู้ทันก็แทรกขึ้น แล้วมองเข้าไปนัยน์ตาแพรวพราวที่มีตลอดเวลา
”ก็เห็นมันทำหน้างอน เหวี่ยง วีนแล้วน่ารักดี ก็แค่นั้น”คนถูกถามไปไม่ถูก เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบแกล้งริทนัก รู้แค่ว่าได้แกล้งแล้วสนุก ยิ่งเห็นใบหน้าขาวที่แดงเพราะความโกรธแล้ว มันทำให้เขามีความสุข
”แค่นั้นของมึงอ่ะ แค่ไหน…แล้วแค่นั้นน่ะ แค่นั้นจริงๆเหรอ”พี่ใหญ่ที่มองออกกลายๆถาม จริงๆเขาก็สงสัยอยู่แล้วแหละ ว่าพฤติกรรมแปลกๆของน้องชายคนกลางที่ชอบแกล้งน้องชายสุดที่รักของเขาน่ะเป็นเพราะอะไร แต่เอาให้รู้ใจตัวเองทั้งสองคนเองดีกว่า
”อะไรของพี่เนี่ย ทำงานหนักจนมึนรึไง”ว่าจบแล้ว ตัวพ่อของเดอะสตาร์ก็เดินตามริทออกไป แกล้งแล้วก็ต้องง้อ เป็นกิจวัตรที่คนอย่างนภัทรคนนี้ทำเป็นประจำ
”555 ตลกอ่ะพี่เวียร์”เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของคนคุ้นเคย ดึงให้คนตัวพ่อที่ออกมาตามหาคนตัวเล็กต้องหันไปมอง แล้วก็จริงดังคาด นัยน์ตาที่เคยหวานกลับเป็นความไม่พอใจ
”ริท!! มาทำอะไรตรงนี้เนี่ย”คนตัวพ่อเดินเข้าไปแล้วดึงแขนคนตัวเล็กที่กำลังคุยกับนักแสดงรุ่นพี่อยู่ ริทหันมามองคนที่ดึงแขนตัวเองอย่างไม่พอใจแล้วต่อว่า
”ไม่มีมารยาท ไม่เห็นเหรอว่าริทคุยกับพี่เวียร์อยู่อ่ะ กัน ปล่อยริทนะ”ไม่พอแค่นั้น มือเรียวก็เอื้อมไปตีมือใหญ่ให้ปล่อยจากแขนตัวเอง คนหน้าคมมองการกระทำนั้นอย่างไม่พอใจ ยิ่งประโยคเมื่อกี้ไม่ต้องพูดถึง
”มานี่!”
”ปล่อย!”
”ริท!! อย่ามาดื้อนะ พี่เวียร์ครับ ขอโทษนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับริท ขอตัวนะครับ”ว่าจบ คนตัวพ่อก็ดึงแขนของคนตัวเล็กกว่าไปทางเดิมที่เขามา แล้วเข้าไปยังห้องซ้อมห้องหนึ่งที่ว่างอยู่
”จะแกล้งอะไรอีก! กันสนุกรึไง แต่ริทไม่สนุกด้วยนะ”มาถึง คนตัวเล็กสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วเดินไปยังมุมห้องให้ห่างจากร่างสูงที่สุด
”กันแกล้งเพราะอะไร มันก็เรื่องของกันดิ”
”แต่คนที่โดนแกล้งคือริทนะ! มึงเริ่มจะบ้าไปทุกทีแล้ว ไอ่บ้าาาา ขอด่าหน่อยเหอะ”
”แล้วไงอ่ะ ด่ายังไง กันก็ชอบแกล้งริทอยู่ดี เพราะ..”ตัวพ่อหยุดตัวเองไว้แค่นั้น ก่อนจะเผลอพูดอะไรแปลกๆออกไป สายตาหวานของริทได้แต่มองคนตัวพ่อแต่กันก็หลบตา จนคนตัวเล็กนึกอยากจะแกล้งคืนบ้าง
”ทำไมล่ะ บอกไม่ได้เหรอ..”คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงของเพื่อนอย่างนึกสนุก มือเรียวจับปกเสื้อของร่างตรงหน้าพร้อมกับบังคับให้ก้มลงมา นภัทรที่ไม่เคยได้ใกล้กับร่างบางขนาดนี้ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อใกล้กันเรื่อยๆอะไรสักอย่างก็บอกให้ร่างสูงก้มลงไปชิมริมฝีปากหวานของคนตรงหน้า
….
เงียบจนไม่มีเสียง แต่ริมฝีปากของทั้งสองได้ประกบกันอย่างแผ่วเบาแล้ว ริทที่จะแกล้งเพื่อนก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ แล้วก็แปลกใจตัวเองที่หัวใจเต้นแปลกๆ ได้แต่ยืนอยู่นิ่งค้างเหมือนโดนคำสาปไปแล้ว
นภัทรก็เช่นกันเขาไม่แม้แต่ขยับตัว ริมฝีปากยังแนบอยู่กับร่างตรงหน้า ดวงตาหวานที่เบิกกว้างด้วยความตกใจหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้นภัทรยิ้มย่องในใจ คิดว่าแกล้งร่างตรงหน้าได้อีกแล้ว
”….”
”….”
ไม่มีใครพูดอะไร ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ คนหนึ่งเงียบเพราะตกใจ อีกคนเงียบเพราะกำลังคิดในใจว่าแกล้งให้โกรธได้อีกแล้ว เงียบแบบนี้ต้องรอระเบิดอยู่แน่เลย แต่ผิดคาด คนตัวเล็กได้แต่มองหน้าอีกคน แล้วเดินออกไปเงียบๆ
งอนอีกแล้วเหรอเนี่ย
ต้องง้อใช่ป่ะ
”ฮือๆๆ…มันแกล้งริทอีกแล้วอ่า พี่โน่ ริทเกลียดมันแล้ว!! ไอ่บ้ากัน ฮึกๆ…ฮืออๆๆๆ”เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางคนตัวพ่อก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของคนที่กำลังตามหา ใบหน้าหวานกำลังซบอยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายที่ปลอบเขาทุกครั้งที่มีปัญหา ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในการกอดปลอบครั้งนี้ของพี่ชาย ทำให้คนตัวพ่อไม่อยากดูภาพนั้นแม้แต่วินาทีเดียวที่ได้เห็น
ริทเกลียดมันแล้ว!!
ริทเกลียดมันแล้ว!!
ริทเกลียดมันแล้ว!!
คำๆนี้ของคนตัวเล็กยังดังก้องในหัวของคนตัวพ่อแม้จะเดินออกมาไกลมากพอ
”โธ่เว่ยยยยย!!”หมัดหนักหน่วงถูกซัดไปโดนกำแพงแถวนั้น เลือดแดงสดไหลลงตามแขนแต่คนตัวพ่อก็ไม่สนใจสักนิด
”ริท ไหนบอกสิว่าไอ่กันแกล้งอะไรอีก แปลกๆนะ ครั้งนี้ริทไม่ยักกะฟ้องพี่เหมือนครั้งก่อนๆ”เมื่อคนตัวเล็กเงียบจากการร้องไห้แล้ว คนเป็นน้องเงยหน้ามองพี่ชาย รู้แล้วว่าไม่สามารถปิดบังเรื่องอะไรก็ตามจากพี่ชายคนนี้ได้หรอก
”ไอ่กัน…”
”…”
”ไอ่กันมัน…เอ่อ..”
”…”
”กันมัน…จะ…จูบริท”
”ว่าไงนะ!”เสียงดังของคนเป็นพี่ทำให้น้องชายจะร้องอีกแล้ว ครั้งนี้ก็เหมือนเดิมอ้อมแขนของพี่ชายเอื้อมไปโอบร่างบางเข้ามาอีกครั้ง
”มันเกลียดริทรึไง...ฮึก..ที่แกล้งกันอยู่แบบ…ฮืออๆๆ นี้อ่ะ พี่โน่”น้องเล็กกอดเอวพี่ชายแล้วร้องไห้เหมือนกับเด็กๆ ภาคิณมองร่างในอ้อมกอดก่อนจะถอนหายใจ
”ไม่เอาน่า…ไอ่กันน่ะเหรอจะเกลียดริท”
”ก็ถ้าไม่เกลียด มันจะแกล้งให้ริทเป็นบ้าอยู่แบบนี้นะเหรอ ฮือออๆ พี่โน่”ว่าแล้วก็ก้มลงไปซุกหน้ากับเสื้อพี่ชายอีกครั้ง
”เฮ้อ!!”ภาคิณมองร่างหลับใหลอยู่ตรงหน้า หลังจากที่เขาปลอบคนตัวเล็กที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่อย่างนี้ไปกว่าชั่วโมง คนตัวเล็กก็หลับคาอกเขา พี่ชายที่แสนดีจึงจำเป็นต้องพาคนตัวเล็กมานอนที่เตียง ก่อนจะออกจากห้อง ร่างสูงก็ก้มลงห่มผ้าให้น้องชาย ก่อนจะปิดไฟแล้วเดินไปห้องตัวเอง
”ไอ่กัน วันนี้ไปหาริทป่ะ”เป็นคำถามที่เป็นกิจวัตรแล้วสำหรับคนสองคน หลังกองถ่ายเรือนแพ(ซึ่งจบไปแล้ว) พี่ชายที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าหันหน้าหาน้องชายที่สังเกตดูวันนี้มันไม่กาก ไม่กวน ไม่ยิ้ม ไม่อะไรเลยเว้ยยยยยย
”ไม่ไป”ตอบไปแค่นั้น ก่อนจะหันหลังให้พี่ชายแล้วเดินออกไปเหมือนไม่สนใจอะไรอีกเลย
”…ฮะ พี่โน่เหรอ อ้อๆกำลังจะกลับเนี่ย รู้แล้วว่าห่วงอ่ะ ครับๆ เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้วเนี่ย”คนตัวเล็กคุยโทรศัพท์กับพี่ชายไปพลาง เก็บของไปพลาง หลังเลิกกองแบบนี้ทุกครั้งเขาต้องโทรรายงานพี่ชายทุกครั้ง วันไหนลืมก็โดนบ่นอีกตามเคย
”ครับๆๆหวัดดีครับ”
….
แล้วก็ปกติอีกตามเคย หลังจากโทรศัพท์ของพี่ชายจะมีของอีกคนตามมาเสมอ แต่วันนี้กลับเงียบสนิท ในหัวของคนตัวเล็กมีแต่ภาพเมื่อวานในห้องซ้อมไหลวนไปเวียนมา น้ำตาก็เริ่มจะปริ่มๆขึ้นมาอีกแล้ว
”ไอ่บ้าเอ้ยย! เกลียดกันไปก็ดี ไม่ต้องโทรมานะ!”คนตัวเล็กสบถกับตัวเอง แล้วหันไปหยิบของกลับบ้าน
3 วันผ่านไป
ภาคิณได้แต่มองคนเป็นน้องที่เอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง อยากจะถามนักว่าบนฟ้ามียาน UFO รึไง ถึงมองไม่กระพริบอย่างนั้น แต่ขืนถามไป เขาก็คงจะได้รอยข่วนจากอีกคนแน่ เขาเลยได้แต่ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้
ด้านกองถ่ายก็เหมือนกัน ไอ่น้องชายคนกลางก็มึนๆงงๆเหมือนใจไม่อยู่กับตัวตลอดเวลา คุยด้วยก็เดินหนี ไอ่ภาคิณอยากจะบ้า สถานการณ์ไม่เคยอึดอัดแบบนี้มาก่อนระหว่างสามคน บ่อยครั้งที่น้องทั้งสองทะเลาะกัน แล้วก็จบลงด้วยดี แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป ภาคิณเริ่มเห็นอาการผิดปกติจากน้องชายที่นั่งมองแต่โทรศัพท์มือถือทั้งวัน และอีกคน ที่มีอาการอยากจะโทร แต่ก็ไม่โทร
สงสัยต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
ก๊อก ๆ ๆ
”…”
คนตัวเล็กตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู สายตาเริ่มกวาดไปทั่วห้อง หวังได้เจอพี่ชายได้ให้ไปเปิดประตูหน่อย แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อไม่เห็นใครสักคน นี่ขนาดไม่รู้ตัวว่าพี่ชายออกจากห้องไปตอนไหนเลยเหรอริท
”ครับ แปปครับ”แล้วก็เดินเหนือยๆไปที่ประตู
กริ๊ก…
ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นสภาพของผู้มาเยือน ใบหน้าคมที่มีแผลถูกต่อยเลือดออกหลายแห่ง ไม่นับที่บวมช้ำอีกราวๆสามสี่แผล มือเรียวคว้าแขนแข็งแรงลากไปนั่งที่โซฟาไม่พูดอะไร ส่วนตัวเองก็ไปหยิบผ้าขาว น้ำแข็งและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
”ริท…”น้ำเสียงทุ่มนุ่มขึ้นเมื่อร่างบอบบางเริ่มทำแผลบนหน้าเขา ไม่แม้อีกคนจะสนใจ มือเรียวทำหน้าที่ทำแผลไปเรื่อยๆ จนคนตัวพ่อต้องเงียบปากไป
เมื่อแผลสุดท้ายถูกปิดด้วยผ้าก๊อชเสร็จแล้ว มือเรียวก็ไปจัดการกับประคบน้ำแข็งที่จะใช้ประคบแผลบวมช้ำ คนตัวพ่อมองการกระทำนั้นแล้วยิ้มกับตัวเอง แต่ยังไม่พ้นสายตาของเรืองฤทธิ์ เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้าทีไร คล้ายกับว่าตัวเองถูกแกล้งหยั่งไงหยั่งงั้น
”อะไรเนี่ย”มือเรียวที่ส่งประคบให้ แต่คนตัวพ่อไม่ได้รับไว้ ได้แต่มองใบหน้าหวานที่ยังไม่ยิ้มและไม่พูดกับเขาสักแอะ ไม่พูดใช่ไหมริท
”กันถามว่าอะไร”ยังไม่เลิก คนตัวพ่อไม่วายจะแกล้งคนตรงด้วยแววตายิ้มๆที่คนถูกมองต้องเสหลบ ให้ตายเหอะ ร่างบางคิดในใจ จะแกล้งกันให้ได้เลยใช่ไหม
“เดี๋ยวสิ ไปไหนน่ะ”เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กจะเดินหนี มือแข็งแรงก็คว้าแขนเรียวไว้แล้วบังคับให้นั่งบนตัก
”ปล่อยนะ! ไม่ให้แกล้งแล้ว ปล่อยสิ ไอ่ดำ!!”
”ก็ไม่ได้จะแกล้ง จะคุยเฉยๆ”
”ไม่เชื่อ!เดี๋ยวก็แกล้งอีก ปล่อยริทนะ!!”ร่างบางเริ่มดิ้นด้วยความไม่ยอม ทั้งศอกทั้งถีบ ทั้งข่วน ก็ทำใส่คนตัวสูงไปหมดแล้ว ไม่มีวี่แววว่าจะเจ็บเลยสักนิด ไอ่หนังหนาเอ้ย!!
”ฮืมๆ..”
”เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นคุยกันได้ยัง”ไม่จบ มันยังมีหน้ามาถาม ไม่คุยโว้ยยยย!!
”ไม่คุย!!ปล่อยสักทีสิ!!”
”ก็กันจะคุยอ่ะ ริทอยากให้มันค้างคาอยู่อย่างนี้เหรอ??”คนตัวพ่อเริ่มในสิ่งที่เขาคิดทบทวนมาตั้งแต่เมื่อหลายๆวันก่อน เขาก็เริ่มสงสัยในพฤติกรรมของตัวเอง ว่าทำไมถึงได้อยากแกล้งคนบนตักนัก แล้วก็ไม่ค่อยพอใจเมื่อมีใครมาวอแวกับคนตรงหน้านี้ด้วย แบบนี้มันเรียกว่าอะไรน่ะ
”กันรู้นะ ว่าริทก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน ว่าทำไมวันนั้น เราถึงใจเต้นแปลกๆ…”ใบหน้าหวานแดงซ่านเพราะที่คนตัวพ่อพูดมาเป็นความจริงทุกอย่าง แม้จะหันหลังให้กัน แต่จิตใจตอนนี้มันก็เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด หยุดเต้นแรงได้แล้ว ไอ่หัวใจบ้า!
”ตอนนี้กันก็ยังไม่แน่ใจ แต่…เรามาทำให้ชัดเจนไปเลยดีกว่าไหม”
”…”
”จูบกันอีกครั้ง แล้วก็บอกว่ารู้สึกยังไง ริทครับ ได้ไหม”คนตัวพ่อพูดแล้วหันให้ใบหน้าหวานมาเผชิญหน้า ใบหน้าที่ซับเลือดอยู่ขณะนั้น ทำให้ร่างสูงต้องกลั้นยิ้มแล้วแสร้งทำหน้าจริงจัง คนตัวเล็กที่ไม่เคยเห็นสีหน้านี้ของตัวพ่อก็ใจยิ่งเต้นแรงเข้าไปอีก สีหน้าซีเรียสของคนตรงหน้าทำให้นภัทรต้องกลั้นยิ้มเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่ไม่ได้ๆ แผนเสียหมด
”ว่าไงครับ”เมื่อไม่เห็นเสียงตอบรับจากร่างบางที่ให้เขาต้องถามอีกรอบ
”ริท..”
”…”
”อืม…ก็ได้..”นภัทรแสร้งทำใบหน้าจริงจังเมื่อได้รับการตอบรับ แต่ในใจกลับลิงโลด หึ หึ จะไม่ให้เขาแน่ใจได้ยังไง ความรู้สึกที่เขามีต่อเพื่อนตรงหน้ามันเปลี่ยนไปแล้ว ไอ่ความรู้สึก หวง หึงและไม่พอใจทุกครั้งที่มีใครมาแกล้งคนของเขาเนี่ย มันเรียกว่า เพื่อนไม่ได้แล้วล่ะ
ร่างสูงค่อยๆก้มลงไปหาริมฝีปากแสนหวานที่อยู่เบื้องล่าง คนตัวเล็กหลับตาปี๋ด้วยความอาย เลือดในกายสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ไม่ใช่แค่หน้าที่แดงซ่าน กลับเป็นทุกส่วนของร่างกาย แล้วริมฝีปากก็ปิดกันสนิท จากแรกเริ่มคนตัวพ่อยังไม่ได้รุกรานอะไรมาก ร่างบางจึงคิดว่าพอแล้วจึงตั้งใจจะผละออก แต่สิ่งที่ตรงกันข้ามก็เกิดขึ้น ร่างสูงดันให้ร่างบางนอนลงแล้วใช้ตัวเองทับลงไป ร่างบางทำท่าจะประท้วงแต่ริมฝีปากก็ถูกปิดอย่างเร่าร้อน รุกรานอย่างเอาแต่ใจ เมื่อร่างบางคิดจะหนี ใบหน้าหวานก็ถูกจับไว้ไม่ให้หนี ร่างสูงเลาะเล็มอย่างชำนาญจนร่างบางต้องอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่าง
”อื้อออ….อื้ม..”หมัดเล็กๆทุบอกให้ปล่อย เมื่ออากาศหายใจเริ่มหมด
”อืมๆ..”
”อื้อออ…พอแล้วโว้ยยย!!”เมื่อได้ทีร่างบางก็ผลักคนตัวสูงออก แล้วรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถอยห่างจากคนตัวพอให้ได้มากที่สุด
”เห็นไหม มึงก็แกล้งกูอีกแล้ว แกล้งกูประจำแหละ”เมื่อเห็นใบหน้าคมยียวนยิ้มให้อย่างกวนประสาทนัยน์ตาหวานเริ่มคลอด้วยน้ำใสๆเตรียมจะไหลอยู่ล่อมล่อ เห็นดังนั้น คนตัวพ่อก็รีบเข้าไปหวังจะกอดปลอบ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอม
”กันไม่ได้จะแกล้งนะ”
”…ไม่ต้องพูดแล้ว กลับไปเลยไป!”
”กันจูบริท แบบนี้มันเรียกว่าแกล้งตรงไหน”
”ก็…”แกล้งให้หน้าแดง แกล้งให้ใจเต้นแรงไงเล่า!! ไอ่บ้าาา!! คนตัวเล็กนึกในใจ แล้วมองหน้าอีกคนก่อนจะเตรียมหนีเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันความไวของอีกคน แล้วคนตัวเล็กก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของตัวพ่ออีกครั้ง
”รู้ตัวรึเปล่า ทุกครั้งที่โกรธฉัน ท่าทางเธอนั้นมันยิ่งบอกกันว่ารัก…”เสียงทุ้มนุ่มร้องท่อนเพลงออกมา พร้อมกับมองใบหน้าหวานอย่างมีความหมาย แบบที่ไม่ได้ทำบ่อยนะ
”คอยแกล้งเธอทุกวัน อยากให้รู้ว่าเราผูกพันแค่ไหน ถ้าเธอยังงอน ถ้ายังน้อยใจ แสดงว่าเธอยังรักกัน คอยแกล้งเธอเท่าไร ให้รู้ว่าใจตรงข้ามทั้งนั้น…”
”….”
”รักเธอคนเดียว รักเธอทุกวัน ไม่งั้นจะง้อเธอทำไม…”
”….”
”….”
ทั้งสองคนต่างตกอยู่ในความเงียบ มีแต่สายตาที่ทอดมองสบกันอย่างมีความหมายทั้งสองคู่ นัยน์ตาทั้งคู่มีภาพของกันและกันสะท้อนออกมาจากในนั้น
”รักเธอคนเดียว…รักเธอทุกวัน..ไม่งั้นจะง้อเธอทำไม..”ใบหน้าคมยิ้มกริ่มเมื่อเห็นอีกคนหน้าแต้มด้วยสีแดงเต็มหน้า ยิ่งอยากแกล้ง..
”ง้อเธอคนเดียว…ถึงงอนทุกวัน..รักเธอคนเดียวรักเธอทุกวัน…”
”พอแล้ว! ร้องอยู่ได้ น่ารำคาญจริง..”
”รักเธอคนเดียว รักเธอทะ….โอ๊ยยย!”
”สม!! ก็บอกว่าพอแล้วไงเล่า!!”นิ้วเรียวบิดเข้าที่เนื้อตรงเอวของคนร่างสูง ร่างบางเงยสบสายตากับคนตัวพ่อ แต่ก็ต้องเสหลบเมื่อไม่อาจทนต่อสายตาคู่นั้นได้
”กันไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลย รู้ไหม??”
”แล้วไหนเมื่อกี้บอกไม่แน่ใจไง”เวรแล้วไง..
”เอ่อ…ก็คือ..”
”ไอ่บ้า!! ขี้แกล้งชะมัดเลย”ว่าไปงั้น แต่ใบหน้าหวานกลับขึ้นสีเมื่อนึกถึงตอนเมื่อครู่ สายตาเจ้ากรรมมันดันปิดความเขินไมอยู่เป็นผลให้คนตัวพ่อล่วงรู้ แล้วรอยยิ้มกริ่มก็ประดับที่ใบหน้าคมคายอีกครั้ง
”ก็อยากจูบอีกแต่ไม่รู้ใช้วิธีไหน..”
”ก็เลยต้องแกล้งเนี่ยนะ”
”ก็กันชอบแกล้งริทนี่ ก็อยากน่าแกล้งทำไมล่ะ เอาเหอะๆ ที่กันมาหาริทน่ะ กันไม่อยากให้เรื่องของเรามันค้างคาแบบนี้อีกแล้ว กันไม่ชอบให้ริทไปยุ่ง ไปคุยกับคนอื่น แล้วก็ไม่ชอบให้คนอื่นมาวอแวกับริทด้วย เห็นแล้ว มันไม่พอใจอ่ะ เข้าใจป่ะ เพราะอะไรรู้ไหม…”สายตาพร้อมกับรอยยิ้มแพรวพราวได้ถูกประดับที่ใบหน้าคมอีกครั้ง
”ไม่รู้..”ตอบแล้วเสหลบไปทางอื่น เรื่องอะไรต้องรู้เล่า!
”กันรักริทนะครับ”
”//OoO//”
”แล้วริทล่ะ รักกันไหม”
”…เอ่อ….”ให้บอกไงอ่ะ เขินเว้ยยยย
”ก็..รักไง“
”ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน”ได้ทีก็แกล้ง อีกแล้วนะตัวพ่อ
”ก็บอกว่ารัก”
”อีกทีดิ”
”โธ่เว้ยยยยยย!! บอกว่ารักไงเล่า ยิ้มแบบนี้ แกล้งอีกแล้วใช่ไหม ไอ่บ้าเอ้ยยย!!”ด้วยความเขิน คนตัวเล็กก็จัดการข่วนไปเขินไป เสียงหัวเราะของทั้งสองคนก็หายไป เมื่อริมฝีปากประกบกันอีกครั้ง หวานล้ำกว่าครั้งไหนๆ แล้วไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยด้วย
เฮ้อ!! ปล่อยให้พวกมันไปหวานกันเถอะครับ ท่านผู้ชมมม!!<<พี่โน่ที่ช่องประตูแคบๆจากห้องนอน
____________________
ว๊ากกกกก น่ารักอ่า เขินๆๆๆ มีอีกนิดหน่อย แต่ต้องไปเรียนล่ะ ปิดเทอมไม่ได้หยุดกับเพื่อนเขาเลยย ติชมได้นะ ไรท์ไม่กัด 555
ขอบคุณทุกเม้นท์นะคะ เป็นกำลังใจได้มากจริง
รักคนอ่านคนเม้นท์ทุกคนค่ะ
ความคิดเห็น