ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ESP Online

    ลำดับตอนที่ #3 : Client:2 Game Master (ตรวจสอบ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 57


    บทที่ 2

                ความรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆบางอย่างมาวางไว้ที่หน้าผาก แต่มันก็รู้สึกอบอุ่นไปด้วยถึงตั้งใจจะขอนอนต่อสักพักแต่เสียงของใบพัดลมในห้องพยาบาลนั่นหนวกหูกว่าเสียงเด็กวิ่งเล่นข้างนอกห้องพยาบาลเสียอีก  เมื่อหทัยลืมตาขึ้นมาก็พบกับนทีที่กำลังจะแอบใช้น้ำร้อนในห้องพยาบาลชงโกโก้ดื่มเล่นอยู่พอดี หทัยจึงส่งเสียงเรียกเพื่อนไว้เพื่อความสะใจ

    “โธ่! นึกว่าครูมาซะอีกตกใจหมดเลย”

    “อยากแอบใช้น้ำร้อนเล่นก่อนทำไมละ  แล้วนี่กี่โมงแล้ว?”

    หทัยจำได้อยู่ว่าเธอเป็นลมหมดสติไปแต่ไม่ทราบว่านานแค่ไหนกันจึงถามเพื่อนนทีถึงเวลาในขณะนั้น

    “ตอนนี้เที่ยงแล้ว น้องเธอไปเอาข้าวกล่องให้น่ะพึ่งออกไปเมื่อกี้เอง”

    “แล้วคนอื่นๆล่ะ”

    “หมายถึงใคร?

    ตอนนั้นเองเพื่อนสนิทของนทีก็เดินเข้ามาในห้องพยาบาลพร้อมกับถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยบอกอะไรบางอย่างกับพวกเรา

    “เมื่อกี้เจอครูพยาบาลบอกว่าถ้าตื่นแล้วก็กลับไปเรียนได้เลยนะ  ฉันไปซื้อข้าวกลางวันมาให้ไอ้นทีมันมาใช้ได้ใช้ดีจริงๆนะเอ็งคราวหน้าแกต้องออกไปซื้อให้บ้างล่ะ”

    ร่างสูงเจ้าของผมสีดำสนิทพูดพลางส่งข้าวกล่องให้นที และส่งอะไรบางอย่างให้กับหทัยมันเป็นถ้วยเล็กๆสีเหลืองที่มีอะไรบางอย่างสีน้ำตาลเข้มอยู่ก้นถ้วย

    “นี่มัน  พุดดิ้งนี่นา”

    หทัยทำหน้าตาตื่นกับถ้วยเล็กๆที่ได้มาจากเพื่อนของนที  เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเพื่อนคนนี้จะสามารถเดาใจเธอถูกว่าตอนนั้นกำลังอยากทานเจ้าสิ่งนี้อยู่พอดี

    “ชอบก็ดีแล้ว ฉันเลี้ยงเองกินตามสบายเลย”

    ร่างสูงหยิบถุงพลาสติกร้านสะดวกซื้อขึ้นมาโชว์ให้หทัยดูในถุงนั้นต้องมีพุดดิ้งอย่างน้อยถึงห้าถ้วยเห็นจะได้  เพราะได้ทานเจ้าถ้วยเล็กไปก็เลยกลับมาร่าเริงอีกครั้งเนื่องจากมันมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณที่สูงก็เป็นได้

    หลังจากที่หทัยกลับไปเรียนตามปกติทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดียกเว้นเพียงแต่สาวนางหนึ่งที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันซักเท่าไหร่

    “แหม แกล้งเป็นลมอ่อยผู้ชายหรือไง”

    “หึ! ฉันแสดงละครไม่เก่งเหมือนใครบางคนแถวนี้นะ”

    หทัยตอกกลับสาวน้อยที่คอยพูดจิกกัดเธออยู่เป็นประจำคงเป็นเพราะว่าหทัยสนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้องมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆคงจะอิจฉาละสิ  นางผู้นี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า พิมพ์ผกา  หรือ พิมพ์  เธอได้รับเกียรติจากเพื่อนสาวๆในห้องให้เป็นคู่หูคู่จิ้นกับเพื่อนของนที ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้โวยวายหรือปฏิเสธแต่อย่างใดคิดว่าคงเป็นแฟนกันจริงๆมั้ง

    เมื่อเดินกลับไปนั่งที่หทัยจึงกล่าวถึงเพื่อนของนทีว่าใจดีมากที่ซื้อพุดดิ้งเลี้ยงตั้งห้าถ้วย  นฤนาถจึงบอกความจริงให้ฟังว่าคนที่พาหทัยไปห้องพยาบาลก็คือนายคนนั้นอีกนั่นแหล่ะ

    “แย่จังเลยนะ ฉันดันกลับจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไรนี่สิเสียมารยาทจัง”

    “หา? นี่จำไม่ได้จริงหรืออำกันเล่น  นายคนนั้นเคยอยู่ห้องพี่ตอนเข้าเรียนที่นี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งไง แต่ตอนหลังก็อยู่คนละห้อง  พึ่งจะมาสนิทกันตอนมอสี่ มอห้านี่เอง มีมอหกปีนี้แหล่ะที่ได้คุยเยอะขึ้นรู้สึกว่าจะชื่อ ศิลา นะ”

    “เอ้ะ!?

    หทัยรู้สึกตัวช้าไปห้าวินาทีเมื่อทราบความจริงจากผู้เป็นน้องสาวเธอไม่เคยสังเกตเลยว่าศิลานั้นอยู่ชั้นเดียวกับเธอมานานแค่ไหนแล้ว  จึงเอาหัวไปโขกกับโต๊ะตนเองแสดงถึงความรู้สึกผิดต่อศิลา

    “ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวก็หัวโนหรอก”

    ร่างสูงเจ้าของผมสีดสนิทเห็นหทัยที่กำลังโขกกับโต๊ะก็รีบเข้ามาห้ามไว้ก่อนที่จะได้รับอันตรายไปมากกว่านี้ ศิลารีบคว้าผ้าเช็ดหน้าของตนไปชุบกับน้ำเย็น(น้ำดื่มที่วางข้างโต๊ะ)แล้วมาแปะที่หน้าผากของหทัย

    “เจ็บนะ! ศิลา”

    “นึกว่าจะลืมชื่อกันซะแล้ว ไม่เห็นเคยเรียกชื่อเลย”

    จะบอกว่าที่จริงก็ลืมแล้วแหล่ะพึ่งนึกได้เมื่อกี้เองแต่ก็บอกเขาออกไปไม่ได้มันเสียมารยาทอย่างมากได้แต่หัวเราะยิ้มแหยะๆตอบกลับไปเท่านั้น เมื่อหยิบผ้าเช็ดออกมาดูลายมันดูน่ารักเกินตัวเขาไปหรือเปล่านะ

    “เอ่อ กระต่ายน้อย? เดี๋ยวฉันไปซักแล้วพรุ่งนี้เอามาคืนให้นะ”

    “ไม่ต้อง นั่นมันของเธอ”

    คำพูดทิ้งท้ายปริศนาจากร่างสูงก็ก่อความสงสัยให้กับพี่น้องทั้งสองอีกครั้งเพราะไม่รู้ว่านั่นหมายความว่าอย่างไรกันแน่ หมายถึงยกให้? หรือมันคือของเราอยู่แล้ว?

    ตกเย็นทั้งห้าคนก็นั่งรถกลับบ้านกันมีเพียงแต่ริสาที่พ่อมารับเองจึงต้องแยกทางกันตรงหน้าโรงเรียนแทน เธอบอกว่าชุดที่ให้ทำนั้นเสร็จตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเพราะเปิดเครื่องทิ้งไว้ทั้งคืนวันนี้ก็ไปรับมาใส่ได้เลย

    “เจอกันตอนหกโมงครึ่งที่โรงแรมหนูน้อยหมวกแดงนะ”

    “อืม”

    หทัยและนฤนาถกลับมาถึงบ้านในเวลาห้าโมงเย็นได้พบกับกระดาษโน๊ตบางอย่างแปะอยู่ตรงตู้เย็น

    “ข้าวเย็นทำกินเองนะจ้ะ ป้าซื้อของไว้ให้แล้ว”

    “ว้า  วันนี้ป้ากลับดึกอีกแล้วหรอ  เย็นนี้จะกินอะไรดีล่ะโย”

    เมื่ออยู่บ้านหรือในเกมเธอจ้ะกลับมาเรียกชื่อของตัวละครในเกมแทนชื่อจริงเพราะมันสั้นและคุ้นเคยกว่า หน้าที่นอกจากเรียนและเล่นเกมของวานั้นคือ งานบ้านในช่วงนี้ป้าไม่อยู่นั่นเอง  ทั้งสองคนรีบทำการบ้านของวันนี้ให้เสร็จ อาบน้ำแต่งตัวเพื่อเข้านอนได้เลยแต่ไม่ใช่นอนเลยเพียงแค่เตรียมตัวพร้อมสำหรับการเข้าเกมต่างหาก หทัยขึ้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบปรับการเอนได้แล้วสวมแว่นตาของESPไว้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นระบบการฉายภาพแบบแก้วได้ถูกนำมาใช้ในการเล่นเกมเป็นครั้งเรียก   เมื่อกดปุ่มเริ่มที่แว่นตาจะมีจอแก้วบางๆขนาดสามมิลลิเมตรจำนวนสามส่วนลอยขึ้นมาจากตัวของเก้าอี้  ภาพฮอร์โลแกรมของแกมจะถูกฉายลงบนแก้วทันที

    “เราเข้าไปรอก่อนนะ ตามมาเร็วๆล่ะ”

    ภาพในกระจกได้เปลี่ยนไปทั้งสามส่วนด้านซ้ายคือภาพแผงควบคุมและคีย์ลัดต่างๆที่ใช้ในเกมรวมถึงข้อมูลเบื้องต้นของตัวละครด้วย  ตรงกลางคือภาพการมองเห็นของตัวละครแบบเรียลไทม์คือเมื่อเรากำลังมองคนอื่นๆและสุดท้ายด้านขวามือเป็นภาพที่ซูมมองเห็นตัวละครของตนเองจากมุมมองของสัตว์เลี้ยงติดตาม  แต่เมื่อเริ่มเกมสามารถที่จะสั่งเก็บกระจกด้านว้ายและขวาออกไปให้เหลือเพียงบานตรงกลางอย่างเดียวได้

    “ยินดีต้อนรับสู่ ESP WORLD

    “ออนเกมกี่ที่ภาพทิวทัศน์ก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ”

    แว้บ!!

    ร่างของตัวละครแบบสาวน้อยเวทมนต์ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของวาเธอเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ โย น้องสาวของ วา เมื่อมองไปรอบๆจึงรู้ว่าตอนนี้พวกเขายังอยู่ที่โรงแรมหนูน้อยหมวกแดงก่อนหน้านี้และรอให้คนอื่นๆล็อคอินเกมเข้ามาในเวลาหกโมงครึ่ง   เมื่อถึงเวลานัดตามกำหนดทุกคนก็ทยอยเข้าเกมกันมาทีละคนโดยเริ่มจากริสา ซิล และนัทตามลำดับ

    “นี่ไงเสื้อที่ทำเสร็จแล้วลองใส่ดูนะจะได้แก้ขนาดได้”

    “มันไม่น่ารักไปหน่อยหรอครับ คือ ผู้ชายใส่แล้วมัน

    “ไม่เป็นไร นายใส่ขึ้นออก”

    โยกล่าวล้อเลียนตัวของนัทที่มีรูปร่างผิดไปจากตัวละครชายอื่นเล็กน้อยตรงที่หน้าตาสวยเหมือนเด็กผู้หญิง เมื่อทุกคนใส่ครบแล้วจึงออกมาให้ริสาดูความเรียบร้อยอีกทีทุกคนมีเอกลักษณ์ต่างกันไปของซิลจะเป็นแบบแขนสั้นในขณะที่คนอื่นแขนยาว  วามีเสื้อกันหนาวกับกระโปรงที่เหมาะสำหรับการกระโดดและโยที่มีรองเท้าบูทคลุมยาวสำหรับเพิ่มพลังป้องกันสถานะต่างๆถ้าจะดูแบบออริจินอลของจริงคงจะเป็นชุดของริสาที่ไม่มีอะไรเพิ่มนอกจากปกเสื้อที่แตกต่างเท่านั้น

    “หวา น่ารักไปมั้งเนี่ย”

    วาพูดพลางส่งสายตาไปให้ทุกคนหันไปมองเจ้านัทที่ออกมาคนสุดท้าย ชุดของเขาแต่ต่างจากพี่ๆมากตรงที่เป็นกางเกงและมีเครื่องประดับมากกว่า

    “ใส่สบายดีอ่ะ ขอบคุณครับ”

    “ยินดีเสมอจ้า”

    ริศากระโดดกอดคอนัทอย่างรวดเร็วเธอฝันว่าอยากมีน้องชายแบบคนอื่นบ้างแต่มันช่างไม่ยุติธรรมที่แม่ของเธอบอกไม่อยากได้เพิ่มแล้ว

    .

    .

    .

    ทั้งห้าตัดสินใจที่จะออกไปหาเควสทำนอกเมืองอีกครั้งโดยที่คราวนี้ต้องเตรียมเสบียงและยาฟื้นฟูจำนวนมากกว่าเดิมเพราะซิลตั้งใจจะพาไปลงเควสของดันเจี้ยนใต้สมุทร ในขณะที่กำลังเลือกซื้อขออยู่นั้นเองโยสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมีผู้เล่นคนอื่นวิ่งไปมาตรงที่เดิมอยู่ตลอดเวลา ซื้อไอเทมร้านเดิม เดินเส้นทางเดิมกับที่มาเหมือนตามรอยเท้าประมาณนั้นจึงส่งการแลกเปลี่ยนไปคุยด้วยกลับกลายเป็นว่ายังสามารถวิ่งและเดินได้ปกติ

    “วา คนนั้นมันเป็นบอทอ่ะ”

    “สงสัยต้องเรียกหน่วยสังหารลงมาแล้วมั้ง”

    วาค้นไปในกระเป๋าตนเองก่อนที่จะหยิบนกหวีดที่ตัวเกมแจกตอนเริ่มเกมขึ้นมา แล้วเป่ามันดังแบบสุดเสียง

    ปรี้ด!!!!

    วักพักหนึ่งก็มีผู้เล่นในชุดสีขาวและดำที่ดูเด่นสะดุดตาพร้อมกับชื่อสีเหลืองตัวโตๆว่า  GM MANเดินเข้ามาในตลาดพร้อมกับหันมาพูดคุยกับวาถึงเหตุร้าย วาชี้ให้เห็นถึงตัวละครที่ใช้บอทและข้อมูลการอ้างอิงเพราะปกติแล้วคนธรรมดาไม่กดยกเลิกการแลกเปลี่ยนซื้อขายออกจะไม่สามารถเดินหรือขยับไปไหนได้เพื่อป้องกันการโกงไอเทมกัน

    “ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ”

    ชายร่างสูงกล่าวเสียงเรียบง่านก่อนที่จะตั้งท่าเดินจากไป  แต่แล้วเขาก็ถูกล้อมไปด้วยบรรดาผู้เล่นหน้าใหม่และระดับกลางๆเพื่อที่จะขอของและเสกของให้

    “พอเถอะทุกคน GM ก็ผู้เล่นเหมือนพวกเรานี่แหล่ะเผลอๆเลเวลจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ”

    “จริงครับ”

    ร่างสูงหัวเราแห้งๆก่อนจะเกาหัวแก้เขิล  มีไม่กี่คนที่จะเข้าใจเหล่าผู้ดูแลเกมอย่างGMว่าจริงแท้แล้วเขาก็เหมือนผู้เล่นคนหนึ่งเท่านั้นไม่มีอำนาจอะไรไปโกงให้เก่งกว่าผู้เล่นคนอื่นๆได้เว้นเสียแต่มีอำนาจในการแบนและเตะผู้เล่นที่ทำผิดออกจากเกมเท่านั้น

    “สิ่งที่ผมทำได้ก็มีเพียงแค่นี้ครับ”

    ขณะนั้นก็เกิดแสงประหลาดขึ้นรอบๆตัวผู้เล่นทุกคน นี้คือบัพพิเศษจากผู้ดูแลที่มอบให้กับผู้เล่นที่จะสามารถดำเนินการเก็บเลเวลได้ง่ายขึ้น

    “ขอให้สนุกนะครับ และอย่าลืมพักผ่อนกันล่ะ”

    ชายร่างสูงจากไปพร้อมกับคำแนะนำสุดคลาสสิคสำหรับผู้เล่นทั่วไปถึงแม้จะบอกให้ไปพักผ่อนแต่ก็มีส่วนน้อยที่จะยอมไปง่ายๆ

    หลังจากที่GMได้ไปแล้วทั้งห้าคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตนตามเดิม จิราภัทรได้พูดถึงงานกีฬาสีของโรงเรียนที่จะจัดขึ้นก่อนปิดเรียนเทอมสุดท้ายนี้เธอแค่โมโหที่ว่าได้คนละสีกับวา  นัทบอกว่าได้อยู่สีเดียวกับว่าและเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า ศรัญ 

    “ตกลงว่าพวกเราถูกแยกออกจากกันสินะ  สีฟ้า: จิราภัทร นริศา     สีชมพู:นฤนาถ ศรศิลป์ นที   สี่ม่วง: หทัย ศิลา นันทกร และศรัญ”

    “ไม่ยุติธรรมอ่ะสีม่วงคนเยอะกว่าเห็นๆ มีแต่ผู้ชายไม่เจริญหูเจริญตาเลย”

    โยเริ่มโวยวายที่รู้ว่าตนเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่ไม่มีเพื่อนผู้หญิงตามไปอยู่ด้วยเลย 

    “เอาน่าวันจริงแกก็ไปกับพี่นพอยู่ดี”

    “เอ๋ พี่นพมาหรอดีจังบอกอย่าลืมของฝากด้วยละ”

    นภดล หรือ นพ เป็นแฟนหนุ่มของโยปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยB ปีสองซึ่งโยก็จะตามไปเรียนที่นั่นด้วยในปีหน้าที่จะถึงนี้ ไม่นานนักก็มีข้อความจากนทีส่งมาหาวา “ตอนนี้อยู่ที่น้ำพุคริสตัลมาหาหน่อยดิ

    “พวกเธอไปหาของก่อนเลยเดี้ยวครบแล้วเจอกันที่โรงแรมนะ แยกย้ายได้”

    วามุ่งหน้าไปที่ลานน้ำพุตามที่นทีบอกไว้ที่นั่นมีตัวละครของนทีสายไนท์ยืนอยู่ ข้างๆมีผู้เล่นที่ไม่ค่อยคุ้นหน้ายืนอยู่ด้วยสองคน  เมื่อเข้าไปทักทายก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเหมือนกัน คือศรศิลป์และ ศิลา

    “เห!! ไม่ยักรู้ว่าพวกเด็กเรียนเขาเล่นเกมด้วย”
     

    “นทีชวนเล่นน่ะ สนุกดีเลยเพลินไปหน่อย”

    ศิลาตอบรับอย่างยิ้มๆไม่รู้ว่ามีความสุขอะไรมา หรือว่าวันนี้จะไปเที่ยวกับพิมพ์มากันแน่นะ  ส่วนทางนี้ศรศิลป์อันที่จริงรู้จักดีเลยล่ะนายคนนี้เป็นสโตรกเกอร์คอยตามจิราภัทรอยู่ห่างๆถึงแม้จะไม่มีใครรู้ตัวแต่หทัยนั้นรู้ดีที่สุด

    “ยินดีที่ได้รู้จัก นายโรคจิต”

    “ไม่ใช่ ศรศิลป์ต่างหาก”

    ศรพยายามอธิบายเรื่องพลังของเขาให้หทัยฟังและนั่นก็ทำให้หทัยเริ่มจะเข้าใจศรศิลป์มากขึ้นทันทีแถมได้รับใบเขียวให้ตามเพื่อนของเธอสบายๆ  หลังจากที่เพิ่มรายชื่อเพื่อนแต่ละคนได้แล้วศิลาก็พูดอะไรบางอย่างขึ้นมา

    “หทัย ไปนอนได้แล้วมั้งเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เป็นลมอีกหรอกเที่ยงคืนแล้วนะ”

    “เพื่อนผมม่ว่างไปช่วยเธอตลอด 24 ชั่วโมงนะ”

    “จ้า เดี๋ยวไปแล้วก็ได้ ไหนๆก็นะ ขอบคุณนะศิลาที่ช่วยเมื่อเช้าน่ะ”

    หทัยกล่าวขอบคุณศิลาเพื่อตอบแทนเรื่องเมื่อเช้าที่เธอเป็นลมไป  แล้วศิลาเป็นคนอุ้มเธอมาส่งที่ห้องพยาบาลให้

    “ไม่เป็น ยินดีเสมอครับ”

    ผิดคาดรอยยิ้มที่ตอบรับกลับมานั้นทำให้หทัยอึ้งไปชั่วขณะ เธอพึ่งได้รู้ว่าเหตุผลที่ศิลานั้นเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆมอปลายคงเป็นรอยยิ้มนี้แน่ๆ ก่อนที่จะอึ้งไปนานกว่านี้นายนทีก็กระแอมไอขึ้นและขอตัวพาเพื่อนไปรับเควสก่อน ทั้งสี่จึงกล่าวลากันตรงนี้และหทัยก็ออกจากเกมไป

    “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเกินหน้าเกินตาเดี๋ยวก็โดนจัดการหรอก”

    “โทษที”

    บทสนทนาหลังจากการออกเกมไปของหทัยแฝงปริศนาหลายอย่างเอาไว้อีกตามเคยไม่รู้ว่าตกลงแล้วทั้งสองคนนั้นวางแผนอะไรกันแน่


    ........................................................................................
    Funtom ค่ะก่อนอื่นขอสารภาพผิดที่ดองนะคะ พอดีวุ่นๆกับอะไหรหลายๆอย่างด้วยกับเนื้อเรื่องกำลังดำเนินไปเหมือนชีวิตประจำวันของเด็กเล่นเกมหลายๆคน  อีกไม่กี่ตอนหลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการเรียนไปได้แล้วนั้นก็จะเข้าสู้การผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบค่ะ อดใจรอกันอีกหน่อยนะคะ
    ปล.ตรวจสอบเรียบร้อย พิมพ์ผิดเยอะมาก ขอบคุณเพื่อนๆที่ค่อยดูให้นะคะว่าเราพิมพ์ผิดบ่อย ฮา
    ติดตามตอนต่อไป>>>>>





     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×