คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Client:19 ความทรงจำ(ตรวสอบ100%)
บทที่ 19
หลังจากหนุ่มน้อยนันทกรได้ตกลงไปในหลุมปริศนา เขาได้พบกับชายผู้หนึ่งผู้มีผมสีน้ำตาลแดงเข้มอีกทั้งสวมชุดสีแดงขัดกับสภาพอากาศในตอนนี้อย่างมาก
“ข้าถามว่าเจ้าเข้ามาได้อย่างไร? ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใครผ่านเข้ามาทั้งสิ้น”
ชายร่างสูงส่งเสียงตะคอกใส่หนุ่มน้อยด้วยเสียงเย็นชา
“ผมหล่นลงมา…..ตรงนั้น”
นันทรกรชี้ขึ้นไปยังหลุมกว้างขนาดให้ที่อยู่เหนือศีรษะของเขาเพื่อประกอบคำอธิบายสั้นๆของเขาให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจ
“หลุม….อีกแล้ว?”
“อีกแล้ว?”
ชายร่างสูงไม่ได้ตอบคำถามของนันทกรแต่อย่างใด เขาใช้มือปาดไปยังบริเวณปากหลุมที่นันทกรหล่นลงมาทำให้หิมะที่อยู่รอบข้างเคลื่อนที่มาปิดหลุมจนสนิท
“เจ้าออกไปได้แล้ว”
ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงเรียบใส่นันทกร พร้อมกับปาดสายตาอันแหลมคมใส่
“แต่จะให้ออกไปทางไหนล่ะ?”
“หาทางเอาเอง”
“แล้วกัน!”
นันทกรต้องเดินหาประตูทางออกเองเพราะชายหนุ่มร่างสูงได้หายไปจากสายตาของเขาของเขาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเขาเดินไปได้สักพักใหญ่ก็พบว่ามีแมวน้อยสีขาวเหมือนปุยหิมะเดินตามอยู่ตลอดเวลา
“…”
ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่หยุดหันไปมองเจ้าตัวเล็กอยู่นานสองนานก่อนจะทำมือปัดเพื่อไล่ไปให้ไกลๆ
“ไปทางนู้นไป ชิ้วๆ”
”??”
ดูท่าเจ้าตัวเล็กจะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่นันทกรจะสื่อ มันยังคงเดินตามเขาอยู่เหมือนเดิมทำให้นันทกรรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากจนเผลอส่งเสียงดังออกไป
“บอกว่าอย่าตามมาไงล่ะ!”
เจ้าตัวเล็กที่ได้รับเสียงถูกไล่ในระดับคลื่นความถี่สูงก็เกิดตกใจขึ้นมา จึงวิ่งหายไปหลังพุ่มไม้สีขาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ
“ไปได้เสียที”
นันทกรบ่นโล่งอกอย่างสบายใจโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนั้นกำลังพาเรื่องโชคร้ายมาให้เขาเสียแล้ว
เสียงดังโครมครามของบรรดาก้อนหินที่ร่วงลงมาจากปากถ้ำ เศษฝุ่นละอองและหินก้อนเล็กหล่นใส่หัวของนันทกรเป็นพักๆจนสุดท้ายเสียงก็เงียบไปก่อนจะมีเงาประมาณอันใหญ่โตฉายลงบนพื้นที่นันทกรยืนอยู่ ทันทีที่เห็นหน้าเจ้าตัวนั้นเขาก็รู้ได้เลยว่าตอนนี้เขากำลังตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว
“อย่าบอกนะว่านั่น…แม่ของแกน่ะ”
เจ้าแมวยักษ์ตัวโตคงคิดกลับมาแก้แค้นคนที่ทำร้ายจิตใจลูกมันเข้า และคนนั้นก็คือหนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันในขณะนี้แล้ว
“ซวยละ”
เจ้าตัวโตส่งสัญญาณให้กับตัวเล็กกว่าร้อยชีวิตวิ่งเข้าไปหานันทกรเพื่อโจมตี แน่นอนว่าเขาก็ไม่ยืนอยู่เฉยให้โจมตีอย่างเดียวแน่นอน
“งานนี้สู้คงไม่ชนะแน่ ถอยลูกเดียวเลย”
นันทกรใส่วิญญาณนักกรีฑาวิ่งอย่างเต็มตัวเพื่อหาทางออกให้เร็วที่สุดจากเงื้อมือของแนวนับร้อยชีวิต
.
.
.
จิราภัทรตื่นมาพร้อมกับความโกลาหล เธอพบว่าน้องชายเพียงคนเดียวของเธอไม่ได้อยู่ภายในถ้ำรวมกับผู้เล่นคนอื่นจึงรีบปลุกให้ศรศิลป์ที่นอนอยู่ข้างๆไปช่วยตามหาทันที
“ศรศิลป์ๆตื่นเดี๋ยวนี้”
จิราภัทรเขย่าร่างของชายหนุ่มอย่างแรงเพราะการสะกิดเพียงเล็กน้อยคงไม่ช่วยให้เขาตื่นได้
“หือ…มีอะไรหรอ?”
สายตาอันงัวเงียของศรศิลป์บ่งบอกว่าเข้ารับฟังสิ่งที่เพื่อนสาวกับกำลังจะพูดแต่ยังไม่คิดจะตื่นง่ายๆแน่นอน
“ไอนัทหายตัวไป”
“เดี๋ยวมันก็มาเองแหล่ะ”
ไม่ทันสิ้นคำของศรศิลป์นันทรกรก็วิ่งฝ่าไอเย็นจากด้านนอกเข้ามาซุกในผ้าห่มของเพื่อนๆทันที
“หนาว!!!”
ศรัญเด็กหนุ่มผู้โชคดีถูกมือของนันทกรไปทาบหน้าอย่างเต็มๆ ทำให้เขาต้องลืมตาตื่นอย่างไม่ตั้งใจ
“ไปทำอะไรมาวะ ไอนัท!”
เสียงบ่นของศรัญพาลทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านในพลอยตื่นกันไปหมดเนื่องจากลักษณะของถ้ำทำให้เสียงมันก้องมากกว่าที่คิดไว้ เมื่อทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมหน้ากันเพราะเสียงที่ไม่ได้ตั้งใจของศรัญแล้วนันทกรจึงคิดจะเล่าสิ่งที่จนไปพบมาให้กับทุกคนฟัง ถึงเรื่องราวของชายลึกลับที่อยู่ในถ้ำและแมวจำนวนร้อยชีวิตที่กำลังไล่เขามา
“ว่าไงนะ ตอนนี้มันคงตามแกมาถึงนี่แล้วมั้ง”
“ผมไม่รู้จะทำไงนี่นา พี่ภัทร”
ไม่นานนักเสียงฝีเท้านับร้อยก็คืบคลานเข้ามาใกล้จุดพักของพวกเขาเข้าทุกที นทีจึงอาสาโผล่หน้าออกไปดูลาดเลาให้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของนอกเป็นอย่างไรและเมื่อเขาได้รับคำตอบจึงหลบเข้าไปยังที่เดิม
“ราวสามร้อยตัวได้ถ้ารวมกับไอตัวใหญ่ด้วย”
“มันตามแกมาทำไมเนี่ย?”
“ผมไปเสียงดังใส่ลูกมันมั้ง?”
“แหม ตื่นเต้นดีจัง”
นริศาที่ยืนอยู่ข้างนทีเอ่ยเสียงแสดงความรู้สึกของเธอออกมาทำให้เพื่อนที่ได้ฟังพากันหนาวไปตามๆกันถึงรสนิยมอันแปลกประหลาดของเธอ ถ้ำที่ทุกคนอยู่เริ่มพังทลายลงอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนต้องออกไปตั้งหลักกันด้านนอกจนกลายเป็นเป้านิ่งกลางแจ้งกันเสียแล้ว
“ดูๆไปแมวก็น่ารักอยู่นะเนี่ย”
นฤนาถชี้ไปที่ลูกแมวตัวเล็กสุดในบรรดาพี่น้องของมัน ก่อนที่จะอุ้มมันขึ้นมาแต่ถูกนพดลห้ามไว้
“อย่าไปจับมันนะ”
“แบบนี้เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแล้วล่ะ”
ศรศิลป์เสนอให้นันทกรที่เป็นต้นเหตุคอยล่อมันไปเรื่อยๆจนกว่าเพื่อนจะหาทางออกกันเจอ
“ไม่ยุติธรรมเลยอ่า”
นันทกรทำได้แต่บ่นไปวิ่งไปโชคยังดีที่ตัวเองเป็นสายสนับสนุนจึงร่ายเวทย์เพิ่มความไวทิ้งห่างเจ้าลูกแนวนับร้อยได้มาก แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นสิ่งปกติอยู่บนยอดต้นไม้ชายร่างสูงก่อนหน้านี้ที่เขาพบที่ถ้ำด้านล่างของหลุมที่เขาตกลงไปกำลังยิ้มอย่างสะใจในขณะที่กำลังมองเขา
“จงออกมาข้ารับใช้ของข้า”
นันทกรเรียกผู้รับใช้ประเภทหนูออกมาวิ่งกันมั่วไปหมด ด้วยสัญชาตญาณของแมวนั้นหนูคือของกินและของเล่นชั้นเลิศจึงทำให้พวกมันวิ่งตามหนูไปแทนที่จะวิ่งตามนันทกร
(แกเป็นใครกันแน่)
นันทกรอาศัยจังหวะชุลมุน ปีนขึ้นไปยังต้นไม้ที่ชายคนนั้นยืนอยู่เพื่อขอร้องให้เขาช่วยหยุดเจ้าพวกแมวให้ที แต่เมื่อปีนขึ้นไปบนยอดไม้หวังจะขอเจรจากับชายผมแดงนันทกรก็พลาดไปคว้าดึงเอาชายเสื้อเข้าทำให้ทั้งสองคนตกลงมาด้วยกัน
ภาพในความคิดของชายปริศนาได้ถูกฉายผ่านตาให้กับนันทกรผู้มีพลังในการอ่านความรู้สึกในจิตใจ ได้ขึ้นมาทับซ้อนกันเป็นจำนวนมากภาพถูกเรียงเป็นเรื่องราวจนถึงปัจจุบันซึ่งปรากฏเป็นรูปบุคคลอยู่สามคนที่นันทกรรู้จักเป็นอย่างดี
“Aka?”
ทันทีที่นันทกรเอ่ยชื่อของชายหนุ่มคนนั้นออกมาเขาก็เปลี่ยนร่างเป็นแมวตัวผู้สีมีขนสีน้ำตาลแดงอายุราววัยหนุ่มของแมว นันทกรจึงรีบคว้าร่างของอะคะไว้ก่อนที่จะตกลงไป
“แมว?”
ในอ้อมแขนของเขามีแมวตัวใหญ่สีน้ำตาลแดงนอนอยู่ เจ้าแมวนับร้อยที่เห็นผู้เป็นนายกลับคืนสู่ร่างเดิมก็พลอยหายตัวไปกันทีละตัวจนในที่สุดตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็คือเจ้าตัวเล็กก่อนหน้านี้ มันใช้อุ้งเท้าแตะที่ปลายเข่าของนันทกรที่นั่งอยู่บนพื้นที่มีแต่หิมะปกคลุม
“เราแค่จะขอร้องให้ท่านช่วยพาอะคะไปส่งให้กับเจ้านายเขาที เขาไม่ควรที่จะต้องรออีกต่อไปแล้ว”
นันทกรได้แต่พยักหน้าตอบเจ้าตัวเล็ก ตอนนี้เขาเข้าใจดีแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะอะไรผ่านทางความคิดของอะคะ
“นั่นแมวนี่?”
จิราภัทรทักนันทกรที่กำลังอุ้มแมวสีน้ำตาลแดงมาทางพวกเธอ เขาจึงอธิบายสาเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี้และเบื้องหลังของเกมที่มอบพลังพิเศษให้กับผู้คนสามารถเอาไปใช้ได้ในชีวิตจริง คาดว่าคงมีคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจอยู่เหมือนกันแต่นันทกรก็ให้ความมั่นใจกับทุกคนได้ว่ากุญแจดอกสุดท้ายหทัยและศิลากำลังนำมันมาที่นี่แล้ว
พวกจิราภัทรเดินตายรอยเท้าของแมวตัวเล็กที่อาสานำทางไปยังประตูบานสุดท้ายให้กับทุกคน ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ประตูปลอกคอของอะคะก็มีปฏิกิริยากับประตูบานสีทอง มันเปิดออกอย่างช้าๆมีควันไอเย็นลอยออกมาตามพื้นแต่มันก็ไม่ได้เย็นเท่ากับชั้นที่สามที่พวกเขาอยู่เลย เจ้าแมวสีขาวตัวเล็กยืนส่งทุกคนจนบานประตูสุดท้ายปิดลงและร่างของมันก็จากไป
“น่าเสียดาย แมวตัวนั้นน่ารักด้วยสิ”
“พี่เลี้ยงมันไม่ได้หรอก เพราะมันเป็น NPC ไม่เหมือนกันเจ้าตัวนี้ที่เป็น Pet”
“NPC หมายความว่าไง?นั่นมันมอนสเตอร์ไม่ใช่หรอ”
นันทกรจึงอธิบายสิ่งที่เขาได้รู้มาจากการสัมผัสกับเจ้าแมวสีขาวว่า เด็กคนนั้นคือพี่สาวคนโตของเร็นและเอ็นมีชื่อว่า กิงกะ เธอตายไปก่อนหน้าที่ทั้งสองจะจำความได้จึงฝากฝั่งให้อะคะเจ้าแมวแสนฉลาดของเร็นคอยดูแลน้องชายของเธอตลอดมาจนกระทั่งถึงวันนั้นที่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป
“เธอต้องการให้ผมพามันไปหาเร็น ไปหาเจ้าของที่มันรอคอยมาแสนนาน”
แต่ไม่ทันได้ฟังฉากสุดซึ้งกินใจอย่างสงบก็มีเถาวัลย์ หนามขนาดใหญ่เลื้อยออกมาล้อมรอบพื้นที่ไว้ ใช่แล้วมันคือพลังที่เกิดจากความสามารถในการบิดเบือนสิ่งที่มองเห็นของไซโครคิเนซิสอย่างเร็นนั่นเอง
“ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึงที่นี่เร็วกว่าที่ข้าคาดไว้เสียอีก”
“พี่ฮะ…”
เอ็นที่ปกติคอยอยู่แต่ข้างหลังของทุกคนได้ออกมายืนอยู่ข้างหน้าเพื่อเจรจากับเร็นผู้เป็นพี่ชาย จากที่ทราบมาว่าตัวเร็นเองนั่นหลงน้องชายมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปทุกคนจึงคิดว่าเขาคงไม่ทำอะไรเอ็นแน่นอน แต่ทุกคนคิดผิดตอนนี้เขาไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกต่อไปเพราะช่วงเวลาที่อยู่ในเกมมานานทำให้ความทรงจำบางเรื่องขาดหายไปรวมถึงมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังสับเปลี่ยนความทรงจำที่แท้จริงของเขา
“เร็น จัดการพวกที่จะขัดขวางแผนการของพ่อให้หน่อยสิ”
ชายหนุ่มร่างท้วมเดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ ชายผู้ที่ตัวเองว่าเป็นพ่อของเร็นนั้นทุกคนรู้จักดีโดยเฉพาะจิราภัทรและนพดลเพราะทั้งสองคนเคยพูดคุยกับผู้ชายคนนี้มาก่อน ไม่ทันที่จะได้ค้านเหตุผลอะไรก็ตามสายเถาวัลย์หนามก็พุ่งตรงมาที่เอ็นเป็นคนแรกในขณะที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว
รองเท้าบูทสีน้ำตาลเข้มและสีดำกระโดดผ่านสิ่งกีดขวางของห้องมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวผู้มีผมยาวประบ่าสีน้ำตาลเข้มที่ตัดกับเสื้อกันหนาวสีเขียวอ่อนและชายหนุ่มผมสีดำในชุดเสื้อโค้ทสกีสีน้ำเงินหยิบอาวุธของตนขึ้นมากั้นเป็นฉากแทนโล่ให้กับเอ็น บุคคลที่หายตัวไปอย่างลึกลับตอนนี้ได้กลับมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หทัย! ศิลา!”
...................................................................................................
ความคิดเห็น