คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Client:1 รวมพล (ตรวจสอบ100%)
บทที่ 1
เสียงฝีเท้าของผู้คนเดินผ่านไปมาแสดงถึงความคึกครื้นของเมืองที่ปราศจากการรบและสัตว์ร้าย ตลาดกลางเป็นศูนย์รวมใหญ่ที่ผู้เล่นส่วนมากจะมารวมตัวกันเพราะไม่ใช่เพียงแต่ซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนไอเทมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดนัดพบและค้นหาสมาชิกใหม่ๆเข้าสังกัดในกิลของตนเอง
“โห ไม่คิดว่าเมืองคริสตัลจะมีผู้เล่นและ NPC เยอะขนาดนี้นะเนี่ย”
สาวน้อยร่างบางเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนอุทานออกมาด้วยความตกใจเนื่องจากที่ผ่านมาพวกเธอทั้งห้าคนออกตระเวนหาไอเทมและเควสจากเมืองเล็กๆที่ห่างไกลทำให้ยังไม่ชินกับสภาพที่ใหญ่โตมากนัก
“ตอนแรกมีคนบอกต่อกันมาว่าเป็นเมืองหลักของเกม แต่ไม่คิดว่ามันจะกว้างขนาดนี้”
หนุ่มน้อยร่างสูงที่ยืนแอบอยู่หลังของหญิงสาวร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลแดงเริ่มมีอาการตื่นเต้น เนื่องจากภาพของเมืองที่เขาจินตนาการไว้มันน้อยกว่าที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าเสียอีก
“เดี๋ยววากับโยจะไปหาที่พักให้ก่อนนะ ซิลก็ไปรวมที่จุดนัดพบกับริสาละกัน”
ใช่แล้วที่พวกเรามาที่เมืองหลักสุดแสนจะแออัดไปด้วยผู้คนนั้นไม่ได้มาเดินเล่นหรือเข้าร่วมกิจกรรมอะไร เพียงแต่ได้นัดเพื่อนอีกคนที่อยู่ในกิลไว้ เธอมีชื่อว่า นริศา หรือ ริสา พวกเราทั้งห้าที่แยกย้ายกันไปผจญภัยและเก็บเลเวลนั้นตอนนี้จะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งแล้ว ซิลและนัทจึงล่วงหน้าไปหาริสาก่อน
“โรงแรมนั่นน่ารักดีอ่ะ มีรูปของหนูน้อยหมวกแดงด้วย”
โยผู้เป็นน้องสาวซึ่งชอบของน่ารักๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้นชี้ไปที่โรงแรมหลังหนึ่งซึ่งถูกตกแต่งให้คล้ายกับธีมของหนูน้อยหมวกแดงกับหมาป่า ฉันจึงตัดสินใจว่าคืนนี้พวกเราจะค้างที่โรงแรมนี้กันด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่า มันน่ารักดี เท่านั้นเอง
“คนเยอะจริงๆเลย แบบนี้จะเดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก”
“นั่นสิโดยเฉพาะพวก TYPE Robot จะค่อยข้างตัวใหญ่เพราะชุดเกราะด้วย”
โยหันไปมองร้านขายไอเทมฟื้นฟูที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเรา ที่ร้านนั้นเต็มไปด้วยบรรดาผู้เล่นสายโรบอทกรูมาซื้อไอเทมฟื้นฟูที่กำลังลดราคาอยู่ในขณะที่ทำให้พวกบรรดา TYPE Elf และ TYPE Human อย่างพวกเรายากที่จะเข้าไปขอร่วมวงด้วย เมื่อตั้งท่าที่จะเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนแต่ดูเหมือนว่า วาตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างที่ร้านประมูล
“ทำอะไรหรอ วา?”
“อ่อ แปปเดียวนะโย ของตั้งราคาขายไอเทมก่อน”
“ได้ๆ แต่อย่าลืมแบ่งกันมั่งนะ”
“เธอนี่นะ….ก็ได้เห็นว่าเป็นน้องนะเนี่ย”
ปกติแล้ววามีนิสัยชอบเก็บเงินและหาไอเทมมากกว่าจะที่จะไปยืนต่อสู้กับคนอื่นๆ จุดประสงค์ที่พวกเธอสองพี่น้องและคนอื่นๆมาเล่นเกมนี้นั้นเป็นเพราะเมื่อสองปีที่แล้วได้รับเลือกให้เป็นกิลลำดับที่สามในบรรดากิลทั้งหมดหนึ่งพันกิล ซึ่งรวมผู้เล่นต่างวัยไว้ถึงสามหมื่นคนเข้าร่วมทดสอบกับ ESP Project ถึงแม้จะไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเกมนี้สร้างมาเพื่ออะไรกันแน่ แต่ผู้เล่นกว่าสามหมื่นคนที่มีรหัสยืนยันไอดีก็เข้ามาเล่นเกมแบบปกติโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ ซิลบอกว่ามันก็เหมือนกับเกมแนว MMORPG ทั่วๆไปแต่มีบางอย่างที่แตกต่างตรงที่ผู้เล่นจะได้รับการสุ่มพลังพิเศษขึ้นมาคนละหนึ่งอย่างและสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ถึงแม้ว่าพลังบางอย่างจะมีผลกระทบอยู่บ้างก็ตาม
“เมื่อไหร่ระดับพลังพิเศษมันจะเพิ่มขึ้นละเนี่ย พึ่งระดับสามเอง”
“ของวาตอนนี้อยู่ที่ ระดับเจ็ดเองเห็นมีข่าวลือมาว่าสูงสุดอยู่ที่ระดับเก้าแล้ว”
“โห คนนั้นเขาทำยังไงกันนะ”
พลังพิเศษของแต่ละคนมีข้อจำกัดตรงที่วิธีการพัฒนาพลังนั้นต่างกันออกไปอย่างเช่นพลัง เทเลพาธีของวา จะพัฒนาขึ้นก็ต่อเมื่อนำไปใช้ขยายความคิดการต่อสู้ให้คนอื่นในเกมหรือใช้ส่งกระแสจิตไปบอกเพื่อนๆที่อยู่อีกห้องเรียนมารวมตัวกัน ซึ่งจะแตกต่างจากพลังของซิลที่เป็นการสร้างความคิดและข้อมูลที่รวบรวมมาก่อเกิดเป็นรูปภาพโดยส่งผ่านเทเลพาธีของวาอีกต่อหนึ่งจึงจะสามารถให้คนอื่นแชร์ความคิดด้วยได้
“เอาละไปรวมกับคนอื่นๆทีร้านขายชุดแฟชั่นจินนี่ชายด์กัน”
เมื่อวากับโยเดินเข้าไปในร้านดังกล่าวก็ต้องประหลาดใจที่เห็นเพื่อนของตนทั้งสอง ริศาและซิลกำลังเลือกชุดแฟชั่นไว้เป็นกองภูเขาขนาดมหึมา โดยมีนัท น้องชายสุดแสนจะดวงซวยเป็นคนลองชุดพวกนั้นแทน
“เจ๊วา ช่วยผมด้วยพวกพี่ๆเขาบ้าไปแล้ว!!”
นัทวิ่งมาหลบที่หลังของวาและโยเพราะเขาคาดว่าทั้งสองอาจจะช่วยห้ามปรามพี่สาวของเขาให้ยั้งมือได้
“แต่ชุดอลิซนั่นก็เหมาะกับนายดีนะ”
โยพูดล้อนัทที่ใส่ชุดผู้หญิงขึ้นมากกว่าบรรดาพี่ๆของตนเสียอีกเนื่องจากตอนสร้างตัวละครอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกำให้ตัวละครของนัทหน้าหวานกว่าตัวละครชายคนอื่น
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ?”
“อ้าว วาไม่ได้เจอกันนานเลยคิดถึงมาก!”
ริสากระโดดกอดวาและโยที่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะไม่รู้จะตอบรับปฏิกิริยาของริสาอย่างไรดี
“พอดีว่าฉันกับริสากำลังหาแบบเสื้อสวยๆมาเป็นเครื่องแบบของคนในกิลน่ะ”
“เอ๋ น่าสนุกงั้นฉันเอาด้วย”
“แล้วกัน พวกพี่นี่บ้าชุดแฟชั่นกันจริง”
นัทเริ่มห่อเหี่ยวเพราะเขารู้ว่าคงไม่มีใครแล้วที่จะสามารถห้ามพวกพี่สาวและช่วยเหลือเขาจากการเป็นหนูทดลองเสื้อพวกนั้นได้ แต่ก็มั่นใจได้ว่าคงไม่ได้ลองเพียงคนเดียวเพราะตอนนี้โยก็อยู่ด้วย
นัทถอดชุดที่ตัวเองใส่ก่อนหน้านี่กองไว้บนโต๊ะพลางขอโทษขอโพย NPC Jennie เจ้าของร้านเสื้อถึงพฤติกรรมการเลือกเสื้อแบบอลังการของบรรดาพี่สาว เขาจึงขอถอนตัวไปนั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านแทนที่จะเข้าไปแล้วโดนจับใส่ชุดแทนในขณะที่ทอดสายตายมองไปรอบร้านเขาก็พบกับบางอย่างที่พับอยู่ในกล่อง นัทจึงนำสิ่งนั้นออกมาคลี่ดูแล้วจึงรีบนำกลับไปให้บรรดาพี่สาวเป็นคนตัดสินใจ
“พี่ครับ ดูนี่สิ”
“มีอะไร?”
นัทส่งชุดกี่เผ้าผสมแนวญี่ปุ่นให้กับซิลตัวผ้านั้นไม่ได้สวยอะไรมากเพียงแต่มันมีเครื่องประดับและทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่เนื่องจากมันมีอยู่เพียงแค่ตัวเดียวจึงไม่เหมาะที่จะซื้อเป็นเซต
“ตัวนี้ใช้ได้นะ ซื้อแค่ตัวเดียวก็พอเดี๋ยวฉันออกแบบให้ใหม่”
“อ้ะ ลืมไปเลยว่าคลาสรองของริสาคือช่างเย็บผ้า”
“งั้นเอาตัวนี้ละกัน อ่ะ…วาเอาไปจ่ายสิ”
“ว่าแล้วว่าฉันต้องเป็นคนจ่าย ”
วาทำหน้าบูดเมื่อรู้มันต้องมาอีหรอบเดียวกับที่คิดไว้แน่นอน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเพราะซิลที่เป็นหัวหน้ากิลโอนสิทธิ์ให้เธอสามารถครอบครองคลังเก็บของและธนาคารกิลไว้ใช้เก็บบรรดาหิน อาวุธและชุดราคาแพงของเธอแทนเพราะลำพังตัวละครเธอคนเดียวมีจำนวนช่องคลังเก็บไม่พอถึงแม้ว่าจะใช้บัตรขยายช่องเก็บของแล้วก็ตาม
“เท่าไหร่คะ”
“12,350 ลีออนค่ะ”
“แม่เจ้า! พะ พะ แพง อยู่นะเนี่ย”
วาเริ่มเสียดายเงินอย่างสุดซึ้งเพราะไม่ใช่แพงแค่ราคาของชุดนี้แต่เธอยังต้องจ่ายค่าผ้าและอุปกรณ์สำหรับการตัดเย็บชุดให้คนในกิลถึงสองแสนกว่าลีออนเลยทีเดียว
“วันนี้ฉันโดนปล้นมาเยอะแล้วขอทำใจกลับไปนอนก่อนดีกว่า”
“ฮ่าๆ จ้างั้นวันนี้ไปรวมที่โรงแรมแล้วออกจากระบบกันดีกว่า ”
“จ้า”
ทุกคนจึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมหนูน้อยหมวกแดงแล้วทำการออกจากระบบเกมกัน
Log Out------------------
“ปิดไฟนอนละนะ ตอนนี้มันตีหนึ่งแล้ว”
“เอ้ะเอ่อ ปิดได้เลยขอดูอะไรนิดหน่อยก่อนเดี๋ยวจะนอน”
ถึงแม้ว่าเพื่อนๆและน้องสาวของตนจะนอนแล้วแต่ว่าก็ยังตั้งตาอ่านหนังสือต่อไปเพราะเธอรู้ว่าการเอาพลังที่ได้จากเกมมาใช้นั้นจะทำให้เธอเสียความจำของการเรียนและกิจวัตรประจำวันไปบ้างทำให้เธอต้องมานั่งทบทวนใหม่ทุกครั้งที่ออกจากเกม เนื่องจากพลังเทเลพาธีที่ส่งผลกระทบต่อความทรงจำตัวเองเพราะแลกเปลี่ยนความคิด คำพูด และความทรงจำของคนอื่นทำให้เกิดการสับสนอยู่บ้างว่าจริงๆแล้วเธอทำอะไรไปบ้างในแต่ละวัน
.
.
.
ณ เวลาหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ของสองพี่น้องเนื่องจากพวกเธอสองคนตื่นสายกว่ากำหนดตั้งครึ่งชั่วโมงทำให้พวกเธออาจจะพลาดรถรับส่งของโรงเรียนได้ ที่บ้านในตอนนี้ทั้งสองอยู่กับคุณป้าเพียงสามคนพ่อและแม่ของทั้งสองเป็นนักวิชาการที่ต้องไปทำงานประจำสาขาอยู่ที่ต่างประเทศพวกเธอสองพี่น้องจึงจะพบพ่อกับแม่ได้แค่ปีละสองครั้งในวันเกิดและวันปีใหม่ ถึงแม้จะตั้งเป้าไว้ว่าเป็นชีวิตของมัธยมปลายสุดท้ายแล้วแต่พวกเขาก็ยังตื่นสายอยู่ดี
“วา เร็วเข้าจะเจ็ดโมงแล้วเดี๋ยวรถมารอ”
“ก็รีบอยู่นี่ไง ว้าก!เนคไทหายไปไหนเนี่ย”
“วาเห็นถุงเท้าบ้างไหม”
“ฉันพับไว้ในลิ้นชักด้านล่างอ่ะ”
เป็นรุ่งเช้าที่วุ่นวายมากสำหรับพี่น้องทั้งสองคุณป้าของพวกเธอจะกลับมาในเวลาเที่ยงและออกไปทำงานอีกในเวลาสี่ทุ่มเนื่องจากเป็นงานของแพทย์แผนกผ่าตัดและคนไข้ฉุกเฉิน
“ในที่สุดก็ทันรถพอดี”
“วันนี้ตื่นสายสินะครับ พี่นฤนาถและ พี่หทัย”
นันทกร หรือนัท จะไม่เรียกชื่อพวกเราในเกมออกมาเพราะถ้าเกิดมีใครจำได้เข้าคงคิดว่าพี่น้องสองคนนี้ไม่ปกติแน่นอนถึงขนาดมีโค้ดเนมลับกันเลยทีเดียว
“นันทกรนั่งดีๆเดี๋ยวก็ล้มหรอก”
จิราภัทรที่นั่งอยู่ข้างๆน้องชายกล่าวตักเตือนผู้เป็นน้องที่กำลังจะลุกขึ้นถึงแม้ฟังดูเย็นชาและจอมบ่งการแต่จริงๆแล้วทุกคนรู้ดีว่าเธอเป็นพวกติดน้องยกเว้นแต่นันทกรคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าพี่เธอคิดอย่างไรจึงทำให้พลอยกลัวจิราภัทรอยู่ตลอดเวลา จากนั้นจิราภัทรส่งเสียงจุ๊ปากให้ทุกคนและชี้ไปที่วา ซึ่งกำลังหลับเป็นตายเพราะอาการนอนดึกเป็นประจำ
“วา ชิงหลับไปก่อนแล้วอ่า รีบนอนมั่งดีกว่า”
“จ้า เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุกนะ”
บรรยากาศในการสนทนาก็เงียบลงเพราะคู่สนทนาอีกสองคนได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว คงเป็นเพราะการนอนดึกสะสมที่ไม่มีคนคอยห้ามปราบทำให้พี่น้องสองคนไม่เคยนอนครบแปดชั่วโมงเลยซักครั้งเดียว
เมื่อรถจอดที่ข้างโรงเรียนจิราภัทรก็สะกิดให้ทั้งสองคนตื่นจากฝันแล้วมารับรู้ความเป็นจริงด้วยกัน การมาเรียนนั้นเป็นอะไรที่ยากกว่าการพิชิตบอสเสียอีกนี่เป็นคำพูดที่วาเคยกล่าวไว้เมื่อสองปีก่อนแต่เพื่อลบคำสบประมาทของบรรดาผู้ใหญ่ที่ว่า เล่นเกมแล้วจะโง่เรียนไม่เก่ง นั้นไม่จริง ในห้องเรียนเองวาและโยถือว่าอยู่ในระดับท็อปของห้องเลยก็ว่าได้เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าทั้งสองนั้นเป็นเด็กติดเกม
“อ่าวๆทำไมหน้าโทรมเนี่ยหทัย”
ชายหนุ่มร่างสูงสองคนเดินมาทักทายตามประสาเพื่อนในเกมด้วยกันเพียงแต่อีกคนจะพูดมากกว่าแค่นั้น
“ไม่มีไรนอนดึกไปหน่อยน่ะ วันนี้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่แหะ”
“ตอนพักไปแอบนอนที่ห้องพยาบาลดีกว่ามั้ง”
ชายร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มนั้นมีชื่อเสียงเรียงนามว่า ไอ้ที หรือ คุณนทีที่เพื่อนเขาเรียกกัน นทีมีเพื่อนสนิทมากอยู่หลายคนแต่คนนี้จะเจอบ่อยหน่อยจำชื่อไม่ได้จริงๆขออภัยด้วยนะคุณเพื่อน
“ไม่เป็นไร แอบนอนในห้องก็พอแล้ว”
“นั่นสินะ กิจวัตรประจำวันของพวกเธอคือนอนในห้องสินะ เพราะนั่งอยู่แถวหลังสุดด้วยครูเลยไม่ค่อยเรียกเท่าไหร่”
“ก็ดีกว่านั่งหน้าแบบนายเพราะเรียนไม่รู้เรื่องก็แล้วกัน”
“เอาน่าๆอย่าทะเลาะกัน อีกเดี่ยวจะเข้าแถวเคารพธงชาติแล้วเตรียมตัวดีกว่า”
ชายร่างสูงเจ้าของผมสีดำสนิทเพื่อนของไอ้คุณนทีห้ามปรามพวกเราทั้งสองไว้เพราะไม่อย่างนั้นได้มีทะเลาะกันข้ามชั่วโมงแน่นอน จิราภัทรกับนริศาอยู่คนละห้องกับพวกเธอ ในห้องบี นั้นที่นั่งของหทัยและนฤนาถนั้นอยู่แถวหลังสุดของห้องแต่ไม่ใช่เพราะไม่อยากอยู่ใกล้โต๊ะครูหรอกนะเพียงแค่
“ถึงจะแอบหลับในห้องก็เรียนรู้เรื่องกว่าเพื่อนที่ตื่นอยู่ซะอีกนะ” โยเอ่ยขึ้นมาลอยแต่มันก็แทงใจดำนทีไม่น้อยเลย
เมื่อเคารพธงชาติแล้วนักเรียนห้องบี ต้องเจอกับวิชาที่โหดหินสำหรับพวกเขานอกจากวิชาคณิตศาสตร์แล้วนั่นก็คือวิชาภาษาอังกฤษ คาบแรกนักเรียนห้องบีถึงกับปล่อยออร่าความหดหู่ออกมาตั้งแต่หัววัน
“เหวอ ออร่าความหดหู่มาแล้ว”
เด็กนักเรียนห้องซีที่จิราภัทรอยู่นั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติของห้องบีก็ตามแต่พวกนักเรียนห้องอื่นๆก็ยังเห็นว่ามันเป็นเรื่องประหลาดอยู่ดี
นักเรียนห้องบีทั้งหญิงและชายขณะที่เดินเข้าห้องและนั่งประจำที่ตัวเองได้แต่ภาวนาว่าวันนี้ไม่อยากจะโดนเรียกเลยเพราะเมื่อมีคำถามเมื่อไหร่ครูก็จะให้นักเรียนตอบ แต่ถามไม่มีใครตอบก็จะมีการสุ่มชื่อและเลขที่ขึ้นมาแทน วันนี้เลขผู้โชคร้ายตกเป็นของนทีเพื่อสุดกวนของหทัยและนฤนาถนั่นเอง
“ตอบอะไรจ้ะ?”
ครูสาวสุดสวยเอ่ยถามนายนทีที่ยืนนิ่ง เหงื่อตกเพราะไม่ทราบจริงๆว่าต้องตอบว่าอะไรกันแน่ ทั้งๆที่คำนั่นมันเป็นคำง่ายๆที่ปีรากฎอยู่ในเกมบ่อยครั้งเพียงแค่ว่านทีไม่ค่อยได้สังเกตเท่านั้นเอง
“ถ้างั้นจะให้ใครเป็นตัวช่วยดีละจ้ะ ไหนลองเรียกเพื่อนสนิทผู้หญิงซักคนมาตอบสิ”
ตอนแรกถ้าครูไม่เน้นว่าเป็นผู้หญิงคาดว่าคงเรียกเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆมาตอบแน่ ได้ยินมาจากนฤนาถว่านายคนนั้นฉลาดใช่ย่อยเหมือนกันเผลอๆเก่งกว่าทุกคนในห้องเสียอีก
“หทัย กับ นฤนาถครับใครก็ได้”
“งั้นเป็นคนพี่ดีกว่าเนอะ ทหัยจ้ะตื่นมาช่วยเพื่อนก่อนลูก”
นฤนาถเห็นว่าหทัยกำลังเฝ้าพระอินทร์อย่างสบายก็รีบสะกิดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะปลุกยากไปกว่านี้ หทัยที่ถูกสะกิดก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก็แล้วมองไปรอบๆพลางขยี้ตา วันนี้รู้สึกแย่จริงๆคงเพราะความเหนื่อยสะสมหรือเปล่านะที่ทำให้เรามักจะหลับเป็นตายขนาดนี้ เมื่อมองไปที่กระดานหทัยรู้เลยว่าควรจะตอบอะไรจึงเดินไปที่หน้าห้องพร้อมกับหยิบปากกาเคมีสีน้ำเงินขึ้นมา
ในขณะที่เธอกำลังเขียนคำตอบลงไปบนกระดานไวท์บอร์ดเสร็จแล้วนั้นก็ตั้งใจจะเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองผ่านทางโต๊ะครูแต่ก็หยุดนิ่งอยู่ซักพักโดยที่มองหน้าเพื่อนของนทีที่อยู่ข้างๆโต๊ะครู แล้วก็เป็นลมหมดสติไปโดยที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
หทัย---
ตื่นสิ หทัย----
เป็นอะไร วา---
..........................................................................................................
Funtom ค่ะขอตัดจบที่ตอนนี้ก่อนละกันเนอะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นอย่างการแอบหลับเนี่ยเราก็ทำเป็นประจำเลยค่ะพวกเด็กติดเกมมักเวลานอนไม่ค่อยพออยู่ด้วย ยังไงก็ขอฝากติดตามต่อนะคะ อัพเดทใหม่วันศุกร์หน้าค่ะ
ปล.ตรวจสอบเรียบร้อยคะ ขอบคุณคุณเพื่อนมากๆที่คอยเตือนว่าเราพิมพ์ชื่อผิดตลอดเลย อิอิ แต่ถ้ามีตรงไหนที่เราพลาดไปรบกวนแจ้งทีนะคะ
ความคิดเห็น