ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ESP Online

    ลำดับตอนที่ #19 : Client:18 Flying Island (ตรวจสอบ100%)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 57


    บทที่  18

                เสียงรอยเท้านับร้อยกำลังเดินผ่านป่าและทุ่งหญ้าที่แสนกว้างใหญ่ไปสู่จุดหมายที่ได้ตั้งใจไว้  วันนี้ท้องฟ้ามีแดดส่องตลอดทั้งวันแต่มันก็ไม่ทำให้ความตั้งใจของเหล่าผู้กล้าลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย

                “ดูนั่น!

                เสียงร้องทักของหนุ่มน้อยชวนให้ทุกสายตาจับจ้องไปยังจุดที่เขาชี้ไปด้านหน้า

                “บรรยากาศดูเข้ากับเกาะลอยฟ้าดีเนอะ”

                นฤนาถพูดเสียงอ่อยๆเธอรู้ดีว่าหลังจากที่ก้าวข้ามผ่านหลังประตูบานนั้นไปคงได้เจอเรื่องอะไรที่แย่อีกแน่นอน

                หลังจากที่พวกจิราภัทรได้ขึ้นบอลลูนลอยฟ้าขึ้นไปบนเกาะลอยฟ้า  บรรยากาศรอบตัวได้ดูเปลี่ยนไปหมอกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในเวลากลางวันได้ลงอย่างหนาทึบทำให้มองไม่เห็นทาง  เบื้องหน้าของพวกเขามีประตูบานใหญ่สีเงินสูงกว่าขนาดยักษ์เดินผ่านไม่มีใครรู้ว่าควรจะเปิดมันอย่างไรดี

                “วิ่งชนเสียก็สิ้นเรื่อง!

                นทีหวังเอาแรงชนเข้าว่าแต่ว่าแม้จะมีกำลังพลมากเท่าไหร่ก็ตามประตูก็ยังไม่ยอบขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

    “ช่วยไม่ได้  ต้องมาวางแผนกันใหม่”

    จิราภัทรเสนอให้ตั้งฐานอยู่ตรงหน้าประตูก่อนเนื่องจากยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถเปิดประตูบานใหญ่ยักษ์ขนาดนั้นได้นอกจะมีจินนี่มาเสกเวทมนต์แบบอาลาดินให้   แต่ในขณะที่ทุกคนยังเครียดกับการเปิดประตูเสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูก็ดังขึ้น

    “ประตู เปิดแล้วล่ะ”

    สาวน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนยิ้มกระโดดไปมาอย่างสนุกสนาม ดูเหมือนว่าเธอจะจัดการปัญหาหนักใจของเพื่อนๆได้อย่างง่ายดาย

    “ประตูเปิดได้ไงอ่ะ พี่โย”

    “พาร์-ติ-เคิล ยังไงละจ้ะ”

                ดูเหมือนว่าหลายๆคนจะลืมไปแล้วว่าพลังพิเศษของนฤนาถนั้นสามารถจะแก้ไขรหัสลับ รหัสเอกสารหรือของอะไรก็ตามที่เป็นรหัสอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับเลยศูนย์และหนึ่งก็ตาม เธอสามารถที่จะปลดล็อดแก้ไขมันได้เพียงแต่ข้อจำกัดของการใช้พลังนั้นต้องแลกกับรอยยิ้มของเธอในบางเวลา  อธิบายไปอาจจะไม่เข้าใจเรียกได้ว่าหลังจากใช้พลังไปก็จะกลายเป็นคนมืดมนแทนร่าเริงนั่นแหล่ะ

                “ทุกคนเดินหน้าได้”

                เมื่อเปิดประตูออกก็ไม่มีเวลามาให้พักเสียแล้วกลุ่มที่รวมตัวเป็นกลุ่มขนาดใหญ่รีบตั้งฐานที่อยู่และหน่วพยาบาลพร้อมกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ในขณะที่มีกลุ่มเล็กๆออกลาดตะเวน ค้นหาจำนวนและประเภทของมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างในนี้ 

                “แปลกมากที่พวกเราเข้ามาได้ง่ายๆ”

                จิราภัทรเริ่มกังวลใจมากขึ้นเพราะปกติแล้วพวกเธอไม่น่าที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าเกาะลอยฟ้ามาได้ง่ายดายขนาดนี้

                “ไม่เกิดอะไรขึ้นก็ดีแล้วล่ะจ้ะ”

                นริศาที่กลับมาจากการลาดตะเวนกับนทีเดินมาสมทบ เธออธิบายถึงสภาพแวดล้อมภายในเกาะลอยฟ้า

    “จะเรียกว่าเกาะก็ได้ละนะ แต่ยังไงมันก็มีพื้นที่รอบข้างแค่นิดเดียวถ้าเดินมั่วๆคงหล่นไปเกมโอเวอร์ตายแน่  ที่เห็นจะเข้าทางหน่อยคงเป็นประตูที่อยู่ตรงบันไดทางทิศเหนือเพราะดูเหมือนมันจะเปิดได้นะส่วนสภาพอากาศก็ฤดูร้อนบ้านเราดีๆนี่แหล่ะ”

    “งั้นเราต้องรีบชิงลงมือก่อนแล้วล่ะ”

    จิราภัทรสั่งให้นฤนาถและนพดลรวบรวมกำลังคนเพื่อนตั้งทีมไปบุกชั้นต่อไปทันทีโดยทิ้งให้พวกเลเวลน้อยๆและหน่วยแพทย์บางส่วนคอยอยู่ข้างล่าง

     .
                 .
                 .

    กำลังพลมากกว่าห้าสิบร่วมเดินทางไปกับพวกจิราภัทรแต่ก็ต้องประหลาดใจที่ประตูสำหรับขึ้นชั้นที่สองมันถูกปกคลุมไปด้วยป่าและต้นไม้รายล้อมเต็มไปหมด คาดว่าคงจะต้องมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

    “อย่าบอกนะว่ามีคนเฝ้าประตู?

    ศรัญคิดว่ามันคงจะเหมือนนิทานของเด็กๆที่เวลาจะเข้าไปหาสมบัติจะต้องสู้กับคนเฝ้าประตูก่อนเสมอ

    “ปิ๊งป่อง ถูกต้องจ้า”

    ไม่ทันขาดคำของศรัญเสียงของระบบเอไอตอบรับอัตโนมัติของประตูก็ทำงาน  เบื้องหน้าของพวกเขาคือสาวน้อยแสนน่ารักขนาดไซส์มินิมายืนขวางไว้

    “จะให้สู้กับเด็กเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก”

    นทีชี้ไปยังสาวน้อยผมสีเขียวที่ดูเหมือนว่าข้างหลังเธอจะเป็นปีกมังกร

    “ไม่ใช่เด็กนะ! ฉันแก่กว่าพวกนายอีก”

    นิสัยเด็กๆของระบบเอไอสร้างได้เหมือนคนจริงขนาดนี้หากเอาไปใส่ให้หุ่นยนต์ได้คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

    “โธ่เอ้ย ช่วยไม่ได้    พวกเจ้าอยากดูถูกข้าเองนะ”

    ทันใดนั้นสาวน้อยผมสีเขียวเข้มก็คว้างระเบิดออกจากกระเปากระโปรงของเธอทำให้ภาพที่อยู่ตรงหน้ากลายเป็นเขาวงกตพุ่มไม้ขนาดยักษ์

    “หากพวกเจ้าอยากไปหาพี่ชายของข้าก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยตัวเองนะ  มีเวลาให้แค่สามชั่วโมงเท่านั้นหากใครไม่ผ่านจะถูกส่งกลับจุดเซฟโซนทันที(คาดว่าจะหมายถึงฐานที่ตั้ง)โดยห้ามกลับขึ้นมาอีก”

    กลังจากอธิบายวิธีการไปสู่ประตูชั้นที่สองสาวน้อยคนนั้นก็หายตัวไป ทิ้งให้พวกจิราภัทรหลงอยู่ในเขาวงกตอยู่อย่างนั้น

    “ทำไงดีครับพี่ พวกพี่ศรศิลป์ถูกแยกออกไปแล้ว”

    “ใจเย็นไอนัท กำลังคิดอยู่นี่ไง”

    จิราภัทรดูท่าจะเป็นคนที่สงบและเยือกเย็นที่สุดแล้วในตอนนี้  เธอนั่งคิดอยู่ซักครู่ใหญ่ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเพราะรู้ว่าจะสามารถหาทางออกได้อย่างไร

    “นัทเรียกมาริโอเน็ตของแกออกมาซักห้าตัวที”

    “พี่จะทำอะไรอ่ะ?

    “เอาเถอะน่า”

    นันทกรเริ่มร่ายเวทย์เรียกภูตรับใช้รูปร่างเป็นหนูออกมาห้าตัวอยู่รอบข้างตัวเขา  และสั่งให้มันฟังสิ่งที่จิราภัทรจะสั่งหลังจากนี้และปฏิบัติตาม เมื่อจิราภัทรแจกแจงรายละเอียดให้กับบรรดาภูตรับใช้เสร็จแล้วนั้นทั้งห้าตัวก็แยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ

    “ภัทร แกทำอะไรอ่ะ”

    นฤนาถที่อยากรู้อยากเห็นพอๆกับนันทกรดสงสัยไม่ได้ว่าเพื่อนสาวของเธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่

    Imagination ยังไงละ”

    นริศาทำหน้าที่อธิบายแผนของจิราภัทรแทนเจ้าตัวเองเนื่องจาก ตัวจิราภัทรเองนั้นต้องใช้สมาธิอย่างสูงในการสร้างภาพในจินตนาการขึ้นมา

    “ให้พวกหนูไปรวบรวมข้อมูลมาแล้วสร้างขึ้นเป็นภาพในจิตนาการก็จะสามารถบอกได้ว่าทางออกอยู่ทางไหนไง”

    เวลาผ่านไปประมาณสามสิบนาทีพวกหนูทั้งทั้งตัวก็กลับมารายงานผลให้จิราภัทรทราบ  ตอนนี้ที่เธอรู้แล้วว่าควรจะเดินไปทางไหนถึงจะไปหาประตูชั้นถัดไปได้  ทุกคนทำได้แต่เดินตามจิราภัทรไปอย่างเงียบๆเท่านั้นในที่สุดก็มาถึงปากทางออกแต่ก็ยังไม่เห็นพวกศรศิลป์เลย

     

    “พี่ครับ ส่งกระแสจิตไปบอกพี่ศรศิลป์หน่อยสิ”

    “ไม่ใช่หทัยนะที่จะส่ง เทเลพาธีไปบอกได้”

    จิราภัทรพูดพลางโมโหที่เพื่อนสาวของตนไม่ยอมชวนตัวเองไปด้วยปล่อยให้เธอมารับหน้าที่นำกลุ่มที่ไม่ค่อยจะถนัดแทน  ก็ทำได้แต่ทำให้ดีที่สุดก็พอ

     

    ฝั่งศรศิลป์ที่ยังหลงอยู่นั้นเหมือนได้รับกระแสจิตอะไรบางอย่างมาเกิดขึ้นเป็นภาพ เขาเห็นว่าจิราภัทรสามารถหาทางออกได้แล้วจึงคิดจะลองไปตามทางของพวกจิราภัทรดูบ้าง

    “ทุกคนตามผมมา”

    “จะไปไหนอ่ะไอศร”

    นทีรีบห้ามปรามไว้เพราะกลัวว่าเพื่อนจะเดินไปตกกับดักเสียก่อนจะถึงทางเข้า แต่แล้วศรศิลป์ก็พาทุกคนออกมายังปากทางออกเพื่อมารวมกับพวกจิราภัทรได้อย่างปลอดภัย

    “รู้ทางออกได้ไงอ่ะ”

    “ก็ที่รักผมเขาบอกมาน่ะ”

    ศรศิลป์พูดปนตลกให้กับทุกคนเพราะรู้ว่าคนอื่นๆคงจะรู้แล้วว่าตัวเขาเองกับจิราภัทรตกลงเป็นแฟนกันแล้ว

    “จ้าๆ”

    นฤนาถทำได้แต่เพียงตอบแบบปัดๆไปกับคำพูดหวานชวนเลี่ยนของเขา

    ตอนนี้ด้านหน้าของผู้เล่นที่เหลืออยู่ไม่ถึงสามสิบคนคือประตูนขนาดเท่าปกติไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่ดูหรูหราเกินกว่าความเป็นจริง  เพราะตัวประตูประดับด้วยคริสตัลที่ฟ้ามากมายนับราคารวมกับคงไม่ต่ำกว่าสิบล้าน

    “อยากจะงัดไปขายจัง”

    ศรัญสะกิดนันทกรให้รับรู้ความคิดของเขาก่อนจะขอความร่วมมือ  แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาแทน

    แอ๊ด!

    นพดล เปิดประตูเข้าไปอย่างช้าทำให้ไอเย็นด้านหลังประตูลอดผ่านออกมา  กลิ่นน้ำแข็งจางๆลอยไปกระทบกับจมูกของนันทกรทำให้เขาเกิดจามขึ้นอย่างเสียงดัง

    “ฮัดเช้ย!

    “เบาๆสิไอนัท เดี๋ยวพวกมันก็รู้ตัวหรอก”

    จิราภัทรรีบเอาปิดบีบจมูกของน้องชายทันทีเพราะเสียงจามของเขามันดังมากกว่าที่คิด  อาจเป็นเพราะห้องที่ถูกออกแบบมาเป็นสี่เหลี่ยมทึบเสียงจึงก้องกว่าปกติ

    ผู้เล่นทุกคนก้าวผ่านประตูไปก็พบว่า ทิวทัศน์ที่เคยเป็นป่าไม้ได้หายไปเสียแล้วตอนนี้มีแต่สีของหิมะขาวโพลนอยู่เต็มไปหมด จนมองไม่ออกว่าจุดสิ้นสุดอยู่ตรงไหนกันแต่โชคยังดีที่มีต้นไม้และหินถ้ำอยู่จำนวนมาจึงพอที่จะบังลมหนาวให้ได้

    “โอย….หนาว!

    ศรัญบ่นด้วยเสียงสั่นไม่เป็นจังหวะเพราะเสื้อของแต่ละคนอยู่ในโหมดโจมตีทำให้มันบางเกินไปสำหรับอากาศหนาวระดับนี้

    “อะ,,,เอาเสื้อไปใส่สิจ้ะ”

                    ความเตรียมพร้อมของนริศาดูท่าจะเป็นประโยชน์ของเพื่อนๆได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะนอกจากอาชีพรองของเธอจะเป็นช่างตัดชุดแล้วเธอไม่ได้มีแค่เสื้อของผู้หญิง แฟชั่นผู้ชายเธอเองก็มีเหมือนกัน

    “อุ่น…..

    นทีที่รับเสื้อจากนริศามาใส่ก็รับรู้ได้เลยว่าเสื้อแต่ละชุดนั้นมีความเอาใจใส่และความรักอยู่มากแค่ไหน  เพราะนริศาฝันที่จะเป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบชุดมานานมากแล้ว

    “เอาไงต่อละ จะหาประตูชั้นสามเจอไหมเนี่ย?

    “นั่นสิหิมะหนาขนาดนี้”

    จิราภัทรพูดพลางใช้ฝ่ามือของเธอแทงลงไปที่หิมะเพื่อวัดความหนาของมัน

    ระหว่างที่ทุกคนพึ่งแสงอบอุ่นจากกองไฟเล็กๆอยู่ภายในถ้ำก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้  มีเสียงดังเล็กน้อยแถวปากถ้ำแต่ทว่าก็ไม่มีใครอยากจะตื่นขึ้นมาดู  นันทกรที่นอนอยู่ด้านนอกสุดได้ยินเสียงชัดกว่าคนอื่นจึงลุกออกไปดูเขาจึงพบว่าหิมะนั้นได้หยุดตกแล้วตอนนี้มีแต่รอยเท้าของเขาเต็มไปหมด  ส่วนตัวแล้วนันทกรจะชอบหิมะมาก(เพราะมันน่าอร่อยเหมือนน้ำแข็งไส?) เพราะหิมะมันเย็นและขาวสะอาด

    เมี๊ยว!

    “หือเสียงแมว ได้ไง?

    ใช่แล้วแมวอะไรมันจะมาอยู่ในที่แบบนี้ได้กันล่ะ นันทกรจึงตามเสียงร้องของมันไปจนพบกันเจ้าแมวลายทางสีขาวล้วยตัดกับสีเท่าอ่อน ดวงตาสีฟ้าของมันเหมือนกับเพชรสีฟ้าบนสร้อยของของแม่เลย

    “มานี่มา เจ้าแมวน้อย”

    นันทกรพยายามเรียกแมวเข้ามาใกล้แต่แต่ก็ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงพยายามวิ่งตามมันไปโดยไม่รู้ว่าทางด้านหน้านั้นเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ

    เหวอ!

    “เจ็บจัง!

    นันทกรตกลงมาในหลุมที่สูงกว่าสิบฟุตเขาไม่รู้ว่าจะกลับขึ้นไปอย่างไรดีเพราะคนอื่นๆอาจจะยังไม่ตื่นกัน  แต่แล้วก็มีเสียงเอ่ยทักเขาไว้ทำให้นันทกรต้องหันหลังกลับไปดู

    “เจ้าเข้ามาที่นี้ได้ไงเนี่ย?

    ชายหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาลเข้มใส่ชุดสีแดงขัดตากับภาพทิวทัศน์แสยะยิ้มให้กับนันทกรเล็กน้อย  สีหน้าของเขาดูเหมือนเด็กที่เพิ่งจะได้ของเล่นใหม่เลยทีเดียว

     


     

    ...............................................................................................................

    Funtom ค่ะ  ขอภัยที่ลงช้านะคะพอดีฝากเพื่อนพิมพ์ให้เลยลงช้าไปหน่อยค่ะ   แต่หวังว่าอีกสองตอนที่เหลือก็จะตามมาติดๆในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน  ใกล้จบแล้วละคะจะได้ต่อภาคต่อแล้ว ดีใจจัง!
    ติดตามตอนต่อไป>>>>>

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×