คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Client:13 ความรักของเพื่อน (ตรวจสอบ100%)
ตอนที่ 13
ภายใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่สูงตะง่านอยู่บนเนินเขาที่ไกลจากท่าน้ำไม่มากนักมีเด็กหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งนั่งสนทนากันอย่างจริงจังโดยมีหัวข้อสนทนาที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองเลย
“ตกลงว่าศรศิลป์ชอบจิราภัทรจริงๆสินะ”
“คิดว่า…ถ้าฟังจากที่ผมจะเล่าต่อจากนี้คงได้คำตอบเอง”
- ศรศิลป์ Part
หลังจากพวกเราทั้งหมดได้มารวมตัวกันเพราะความบังเอิญก็ได้พบกับเธอคนนั้นที่ตัวผมเองแอบติดตามมาปีกว่าแล้วโดยมีเหตุผลที่ว่าพลังพิเศษของผมมักจะฉายภาพเกี่ยวกับเธอให้เห็นอยู่เป็นประจำ ล่าสุดผมรู้ว่าเธอเป็นทีมอาสาที่จะเข้ามาช่วยเหลือพวกเราก็ดีใจมาก อย่างน้อยก็ได้เจอหน้ากันก่อนจะไม่ได้เห็นอีก ทั้งๆที่รู้ว่าจุดประสงค์ของเธอคือช่วยเหลือน้องชายกับเพื่อนของเธอ
"เจอกันอีกแล้วนะ"
“ไม่ได้อยากเจอด้วยซักหน่อย”
จิราภัทรตอบกลับคำทักทายไปอย่างไม่มีใยดีแต่ศรศิลป์รู้มาจากหทัยว่าเพื่อนของเธอคนนี้ขี้อายและปากไม่ตรงกับใจมากกว่า
“แต่ผมคิดถึงคุณนะไม่ได้เจอหน้าตั้งสามวันเลย”
“…..”
“เขินหรอ ไม่ตอบอ่ะ”
“ไม่ใช่!”
จิรภัทรปาส้มที่อยู่ในมือใส่ศรศิลป์ไม่ยั้งก่อนที่ศิลาจะรีบมารับส้มไว้แล้วเอาไปเก็บใส่ตะกร้าไว้เหมือนเดิม
“ส้มมันหายากนะซิล ปาอย่างอื่นดีกว่า”
ศิลาส่งก้อนกระดาษที่จดอยู่เรียงรายบนพื้นอันเนื่องมาจากเป็นฝีมือของหทัยที่กำลังวางแผนคำนวณค่าประสบการณ์ให้แต่ละคนทั้งคืนจนไม่ได้เก็บและศิลาคอยมาตามเก็บให้
โป้ก!
จิราภัทรปาไปโดนหัวของศรศิลป์เข้าอย่างจังเสียงดังลั่นนั้นเป็นผลมาจากก้อนหินทับกระดาษที่หทัยห่อกระดาษหนังสือพิมพ์รายวันของเกม
“ขอโทษปาเล่นๆไม่นึกว่าจะโดน”
“ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก”
“เราว่าไม่โอเคแล้วมั้งไอศร…….”
ศิลาแตะที่หน้าผากของศรศิลป์ เลือดที่ไหลอาบลงมาถึงแก้มเริ่มไหลไม่หยุดจนสถานะเลือดไหลขึ้นมาเตือนถึงจุดอันตราย อาจเป็นเพราะจิราภัทรมีเลเวลที่ค่อนข้างสูงมากจึงทำให้ศรศิลป์ที่อยู่ระดับแปดสิบต้นๆเกิดการติดสถานะได้ง่ายขึ้น
“เลือด?”
ศรศิลป์ลูบแก้มและข้างใบหน้าของตนเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นมาดูพบว่ามันเต็มไปด้วยสีแดงฉาดเหมือนใครเอาซอสมะเขือเทศมาเทลงบนมือ ตัวเขาเองที่ไม่เคยบอกใครว่าเป็นพวกเห็นเลือดตัวเองไม่ได้นั้นก็ถึงกับหงายหลังหมดสติไปทันที
.
.
.
เสียงกระดิ่งลมดังอย่างแผ่วเบาข้างหน้าต่างห้องที่ถูกฉาบจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อน ทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงเกิดสะดุ้งตื่นขึ้นมาเล็กน้อยแต่เขากับพบใบหน้าอันอ่อนหวานของหญิงสาวที่แอบงีบหลับข้างๆเตียงเขาจึงอดไม่ได้ที่อยากจะเข้าไปลูบหัวอย่างอ่อนโยน
“อือ…..”
สายตางัวเงียของหญิงสาวบ่งบอกว่าการลูบหัวของชายหนุ่มนั้นรบกวนการนอนของเธอมากแค่ไหน
“อ้ะ…โทษทีทำให้ตื่นหรอ”
“อือ”
เธอตอบกลับอย่างไม่มีใยดีให้กับศรศิลป์จนตอนนี้ตัวเขาเริ่มคิดว่าจิราภัทรอาจจะรู้สึกรำคาญที่เขาคอยตามอยู่ก็ได้
“ขอโทษนะที่….”
จิราภัทรชี้ไปยังจุดที่ศิลาได้ทำแผลไว้ให้กับศรศิลป์ก่อนแล้วแอบหนีไปอู้ที่อื่น
“ไม่เป็นไรหรอก สำหรับคนที่ผมชอบน่ะแค่นี้ก็ทนได้”
ศรศิลป์ส่งยิ้มเล็กๆให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงแต่ก็ได้รับคำตัดพ้อกลับมาแทน
“เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว มีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ”
“…….”
“ขืนยังรั้นตามฉันอยู่ซักวันนายต้องได้ตายจริงแน่ ไม่ใช่แค่ในเกมเท่านั้น”
ศรศิลป์ตีความไปว่าจิราภัทรคงเกลียดเขามากจนอยากให้เขาตายๆไปจากเธอหรือเปล่าถึงพูดแบบนั้นออกมาแต่ไม่ทันจะได้ถามความจริงจิราภัทรก็เดินหนีออกไปจากห้องเสียก่อนทำให้เขาต้องพยุงร่างตัวเองเพื่อวิ่งตามจิราภัทรไป ด้วยสังขารที่ยังไม่ฟื้นตัวดีทำให้เกิดอาการหน้ามืดไปชั่วขณะโชคดีที่มีคนมาเห็นเข้า
“พี่ศรศิลป์ลุกไหวไหมครับ?”
นันทกรน้องชายสุดเลิฟของจิราภัทรมายืนอยู่ตรงหน้าเหมือนเทวดามาโปรดไม่ใช่แค่ขอความช่วยเหลือเพื่อจะกลับไปที่ห้องพักแต่เขาสามารถที่จะถามความคิดของจิราภัทรจากตัวน้องชายของเธอได้
“ขอบใจนะ ช่วยได้เยอะเลย”
“เห็นพี่ศิลาบอกว่าโดนฤทธิ์พี่สาวผมไปเลยแน่นิ่งเลย”
“ก็นิดหน่อยน่ะ”
ศรศิลป์ยิ้มแห้งๆตอบกลับให้กับผู้เป็นรุ่นน้องกว่าเพียงแค่ปีเดียว แต่นันทกรก็นับถือว่าศรศิลป์เป็นรุ่นพี่ของเขาเช่นกัน
“นายคิดว่าพี่สาวนายเกลียดฉันมากไหม? ถึงพี่จะเคยสารภาพรักไปแล้วเขาก็ไม่เคยตอบรับอะไรกลับมาเลย”
“ผมว่าไม่หรอกมั้ง เพราะถ้าเกลียดจริงคงไม่ให้พี่มารังควาญได้ถึงตอนนี้หรอก”
“ก็จริงนะ”
นันทกรนิ่งเงียบไปเพียงชั่วขณะก่อนจะเอ่ยปากบอกถึงสิ่งที่สำคัญให้กับศรศิลป์ได้รู้บ้างเหมือนกับพี่หทัยและนฤนาถรู้ถึงครอบครัวของเขาและต้นเหตุนิสัยแปลกๆของจิราภัทร
“ครอบครัวของผมไม่มีคุณพ่อและคุณแม่แล้วครับ พี่ชายก็ด้วย”
“??”
“พี่เขาโทษว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวเราต้องตาย แม่ พ่อและพี่ชายตายในวันเกิดของพี่เขาเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์”
“พี่ไม่รู้มาก่อนเลย ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ”
ศรศิลป์รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวมันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะพูดให้คนอื่นฟังได้ โดยเฉพาะคนนอกอย่างเขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากให้พี่ช่วยเป็นคนดูแลพี่สาวของผมให้หน่อย อีกไม่นานพี่ก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดีไม่ว่าจากผมหรือพี่จิราภัทรก็ตาม”
“ผมที่อยู่กับย่าเลยไม่ทราบว่าวันที่เกิดเหตุนั้นมันเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ รู้เพียงแต่พี่เขาบอกว่าคนสำคัญของเขาจะทยอยหายไปทีละคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่พี่จิราภัทรเป็นห่วงผมและพี่หทัยมากกว่าเหตุ จากนั้นมาพี่จิราภัทรก็สมัครเข้าเป็นอาสาของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งเนื่องจากความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นหลังจากคืนวันเกิดเหตุ”
จากเรื่องที่นันทกรเล่าให้กับศรศิลป์ได้ฟังทำให้เขารู้ว่าจิราภัทรนั้นกลัวที่จะรักคนอื่นอีกเพราะไม่อยากโดนพรากสิ่งสำคัญไปจากตัวเองเพื่อจะทำความเข้าใจกับเธออีกครั้งผมจึงรบกวนให้นันทกรไปตามจิราภัทรมาพบผมอีกครั้งที่ห้อง
แอ๊ด!
เสียงประตูไม้สุดหรูที่ไม่น่าจะเอามาประดับในห้องได้เลยถูกเปิดออก ปรากฏให้เห็นร่างของหญิงสาวผู้มีผมสีน้ำตาลแดงยืนอยู่ตรงหน้าของศรศิลป์
“เจ้านัทบอกว่านายมีอะไรจะคุยกับฉันงั้นหรอ?”
“ใช่ เรื่องสำคัญด้วย”
“ว่ามา”
จิราภัทรโน้มตัวลงนั่งบนเตียงของศรศิลป์เพื่อรอฟังธุระที่เขาจะพูดด้วย
“ฉันรักเธอ”
“…แล้ว?”
“จิราภัทรเกลียดผมหรือเปล่า?เห็นหลบหน้าอยู่ตลอดเลย”
“เรื่องไร้สาระ ฉันไปดีกว่า”
ไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มๆสีขาวจิราภัทรก็ถูกลากเข้ามาสวมในอ้อมกอดของศรศิลป์แทนทำให้เธออึ้งจนตั้งท่าทำอะไรไม่ถูก
“ปล่อย!”
“ไม่จนกว่าจะบอกว่ารักหรือเกลียดผมกันแน่”
ศรศิลป์กดดันให้จิราภัทรบอกความคิดของเธออกมาเพราะเขาไม่ต้องการให้เรื่องราวมันยืดเยื้อไปมากกว่านี้อีกแล้ว ถ้าผิดหวังจะได้รีบๆทำใจออกห่างทันที
“ก็…ไม่ได้เกลียดหรอกนะ”
“งั้นก็แปลว่ารัก สินะ”
“ไม่….คนที่ฉันรักมักจะตายก่อนฉันเสมอดังนั้นนายอย่ามาทำตัวให้ฉันตกหลุมรักได้ไหม”
จิราภัทรพูดพลางร้องไห้ไปด้วยเธอรู้ว่ามันคงถึงขีดจำกัดแล้วที่จะปิดบังอีกต่อไปแต่ก็ยอมรับไม่ได้ถ้าตัวเองจะเป็นฝ่ายทำให้คนอื่นต้องตายจากไปอีกคน
“ไม่ต้องห่วงผมไม่ตายง่ายๆอย่างนั้นหรอก ผมน่ะดวงดีที่สุดในบรรดาทุกคนเลยนะ”
ศรศิลป์เอ่ยให้กำลังใจจิราภัทรที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก่อนจะลูบหัวเธอเบาๆเพื่อให้สบายใจ
“ผมจะอยู่ดูแลเธอ น้องชายของเธอและครอบครัวของเราจนกว่าร่างกายจะแหลกสลาย”
จิราภัทรสงสัยในคำพูดของศรศิลป์เพราะมันฟังดูเหมือนคำขอแต่งงานเสียมากกว่าคำสารภาพรักด้วยซ้ำเมื่อเธอมองใบหน้าของชายหนุ่มก็ปรากฏรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาแสดงถึงความจริงใจที่เขากำลังมอบให้
“แต่ก่อนอื่น…..”
“อะไรหรอ?”
“ปล่อยได้แล้วมั้ง?”
จิราภัทรผลักให้ศรศิลป์ถอยห่างจากเธออย่างรวดเร็วจนทำให้ไปกระทบกระเทือนถึงแผลที่อยู่บนหัวของศรศิลป์เข้า
“โอ้ย!”
“ปะ เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บมากไหม?”
“สงสัยต้องให้ช่วยรักษาแผลนี้ก่อนมั้งจึงจะให้อภัยได้”
ศรศิลป์หยอกจิราภัทรเล่นเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาขอไปเธออาจจะไม่ทำตามให้ง่ายๆอย่างแน่นอน
“ต้องทำอย่างไร?”
“คงต้องขอแรงมาช่วยงานตามติดผมซักสองสามวันแล้วล่ะ”
“ได้ไม่มีปัญหา”
หลังจากนั้นมาจิราภัทรจึงเดิมตามศรศิลป์อยู่ตลอดแม้กระทั่งน้องชายของตัวเองอย่างนันทกรยังรู้สึกสบายใจที่มีคนมาโดนติดหนึบแทนตัวเองเสียทีจะได้มีสาวๆกล้าเข้ามาจีบเขาบ้าง
“เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละหทัย”
“อย่างนี้เอง ขอบใจนะ”
เรื่องราวทั้งหมดที่ศิลาเล่าให้หทัยฟังสามารถไขข้อข้องใจทั้งหมดของเธอได้ในพริบตา ทำให้รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนสาวของเธอกำลังตกหลุมรักชายหนุ่มที่คอยตามตัวเองมากว่าสองปี
“จะไปไหนต่อหรอศิลา”
“แอบงีบแถวนี้แหล่ะ”
“ช่วยไม่ได้จะนอนเป็นเพื่อนละกัน”
ความคิดเห็น