คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Client:12 พบกันอีกครั้ง (ตรวจสอบ100%)
ตอนที่ 12
กลุ่มฝุ่นควันที่เกิดจากการสาดกระสุนอย่างรัวแบบไม่นับเม็ดได้เริ่มจางหายไป ปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวดูสูงเพรียวผู้มีผมสีน้ำตาลแดงและสวมชุดคล้ายกับกี่เผ้าสไตล์จีนสีฟ้าสดใสยืนอยู่ตรงหน้านันทกร
“......”
“ดูสิเนื้อตัวมอมแมมไปหมดเลย”
หญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนเช็ดใบหน้าให้กับเด็กชายที่นั่งเข่าอ่อนอยู่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะเริ่มเอ่ยอะไรออกมา
“พะ พี่ภัทร”
ไม่ใช่เพียงนันทกรเท่านั้นที่แปลกใจถึงการมาเยือนของจิราภัทรแบบไม่ได้บอกกล่าวทั้งศิลา นฤนาถและคนอื่นๆก็ต่างอึ้งไปตามกัน
“พี่มานี่ได้ไงอ่ะ”
“ถามแปลกก็ตามพวกเอ็งมาอ่าดิ ไม่ใช่ฉันคนเดียวนะคนอื่นๆก็อยู่ที่นี่ด้วย”
จิราภัทรหันไปมองที่ด้านหลังพุ่มไม้ดอกสีขาว ไม่นานนักก็มีผู้เล่นอีกสามถึงสี่คนเดินตามมาซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เป็นพวกหทัยจากทีมช่วยเหลือนี่เอง
“แสดงว่าพวกเราต้องขึ้นไปปิดเกมบนเกาะลอยฟ้านั่นงั้นหรอ หรือมีอีกทางคือตามหาเบาะแสฆาตกรของเร็น”
“ใช่ครับ ผมเองขนาดเป็นน้องชายยังไม่ทราบเลยว่าพี่ชายตายเพราะสาเหตุอะไรเหมือนกัน”
หลังจากที่เอ็นอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกับทั้งสองฝ่ายเป็นอันเรียบร้อยแล้วจะถึงตาพี่น้องได้เคลียร์เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นบ้าง
“ภัทรเก่งจังเลย ยิงกระสุนทีเดียวพวกมอนสเตอร์ก็หายไปหมดแล้ว”
“ดูเลเวลสิยะ จะ91อยู่แล้วยังไม่ได้ไปเปลี่ยนอาชีพเลย”
“ขี้โกงอ่ะ แอบไปเก็บเลเวลก่อนเฉยเลย”
นฤนาภบ่นงอแงที่เพื่อนๆของเธอได้เลเวลนำหน้าไปก่อนแล้วจนถึงขั้นจะเปลี่ยนอาชีพเลยด้วยซ้ำ
“ไม่เท่าสองคนนู้นหรอก”
จิราภัทรชี้ไปที่หทัยและนริศาที่ดูเหมือนจะมีอุปกรณ์และอะไรแปลกๆเพิ่มมาเยอะขึ้นจนแปลกตาไปเลย เมื่อนฤนาถเห็นแส้ทีอยู่ข้างเอวและขนาดของบูมเมอแรงที่ขนาดใหญ่ขึ้นของหทัยก็รู้ได้ทันทีว่าพี่สาวของเธอได้แซงหน้าไปเปลี่ยนอาชีพมาก่อนแล้วพร้อมกับนริศา
“ขี้โกง! พาเราเวลมั่งสิ”
“ให้จบเรื่องนี้ก่อนนะ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เล่นมันต่อหรือเปล่า”
จากนั้นหทัยจริงเดินไปคุยข้างๆนันทกรที่ยืนอยู่กับนฤนาถถึงจำนวนไอเท็มที่หายไปของจิราภัทรว่าทั้งสองคนมีส่วนรู้เห็นอะไรหรือเปล่า
“ผมแค่ยืมไปเปลี่ยนเป็นเงินเองอ่า”
“ตายซะเถอะไอน้อง!”
จิราภัทรเข้าไปล็อคคอน้องชายไว้แน่น นันทกรจึงวิ่งไปหลบหลังศรศิลป์เพื่อให้เขามารับเคราะห์แทนซึ่งเขาเองก็ยินดีให้มาลงที่เขาแทนนันทกร
“แบบนี้น่าเบื่อเลยอ่ะ”
“สองคนนั้นเขาเป็นเกี่ยวข้องอะไรกันหรือครับพี่หทัย?”
ศิลาจึงเข้ามาอธิบายถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนให้กับเอ็นผู้เข้าร่วมทีมตัวน้อยได้ฟังว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร
ซึ่งทุกคนก็มองตามสภาพความเป็นจริงแล้วว่านิสัยและอารมณ์อย่างจิราภัทรนั้นเหมาะสมและสมควรอย่างยิ่งที่จะส่งต่อให้ศรศิลป์เป็นคนดูแลในอนาคต :ซึ่งนันทกรเองก็ไม่ได้ค้านอะไรแต่อย่างใด
“งั้นพวกเรากลับไปพักที่ห้องกันก่อนดีกว่านะ พวกฉันอยู่ชั้นสาม พวกนายอยู่ชั้นสี่มีอะไรก็ลงมาหาได้ถ้าได้ความคืบหน้าอย่างไรจะติดต่อไป แยกย้ายได้!”
ด้วยเหตุนี้จึงมีการสลับที่นอนกันใหม่ดังนี้
ห้อง |
คู่ |
301 |
นันทกร : ศรัญ |
302 |
หทัย : นฤนาถ |
303 |
จิราภัทร : นริศา |
401 |
นที : ศิลา |
402(ห้องใหญ่) |
ศรศิลป์ : นพดล : เอ็น |
เมื่อทั้งสิบเอ็ดคนแยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัยแล้วนั้นหทัยได้ถามไถ่ถึงเหตุการณ์วันนั้นที่เธอและจิราภัทรไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากภารกิจสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัย
“เบาะแสมีเพียงอย่างเดียวคือฆาตกรมีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมนี้และยังอยู่ในเกม”
นฤนาถบอกเบาะแสเพียงอย่างเดียวที่เอ็นทิ้งไว้ให้หลายคนไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดีเพราะเบาะแสที่มีมันน้อยเกินไปที่จะออกตามหา
“แกจะหาตัวคนร้ายหรอ?”
“เอาจริงๆก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าใครเป็นคนร้ายอ่ะ”
แต่บทสนทนาของสองพี่น้องก็ต้องถูกขัดจังหวะเพราะเพื่อนชายที่กำลังเดินมาหา นพดลอยากคุยเรื่องส่วนตัวและหลายอย่างกับนฤนาถมากกว่าด้วยการส่งสัญญาณให้หทัยเป็นนัยว่าช่วยหลบไปก่อน
หทัยที่ไม่มีอะไรทำในตอนนี้จึงคิดจะไปวางแผนที่จะพิชิตเกาะลอยฟ้าไปถึงชั้นบนสุดได้โดยไร้รอยขีดข่วนโดยขอคำปรึกษาจากจิราภัทร นริศาและเอ็น
“หากต้องการแบบนั้นพวกเราเองต้องมีทักษะและเลเวลที่สูงขึ้น”
คำแนะนำของเอ็นบอกหนทางที่จะพิชิตเกาะลอยฟ้าคือการเก็บเลเวลเท่านั้น ถึงแม้ว่าเลเวลที่สูงขึ้นจะทำให้ต้องเก็บค่าประสบการณ์มากขึ้นไปอีกแต่ก็มีอยู่หลายหนทางที่จะเพิ่มค่าประสบการณ์โดยไม่ต้องไปสู้กับมอนสเตอร์คือ ปลูกผัก ตกปลาและทำอาหาร
“อย่างพวกฉันก็พอทำอาหารได้หรอกนะ ขาดก็แต่วัตถุดิบ”
“ก็ให้พวกที่ทำอาหารไม่ได้ไปตกปลาและปลูกผักแทนไง”
นริศาเสนอแนะให้พวกที่มีอาชีพเย็บปักถักร้อยอย่างพวกเธอไปปลูกผักแทนเพราะมันจะง่ายกว่าที่จะต้องไปคลุกฝุ่นลุยกับมอนสเตอร์ที่ถูกควบคุมจากเร็นทำให้พวกมันฉลาดกว่าเดิม
“ต้องเอาความเห็นนี้ไปถามกับทุกคนดู”
เมื่อนำความคิดเห็นดังกล่าวไปปรึกษากับสมาชิกในปาร์ตี้แล้วก็มีความเห็นพ้องตรงกันว่าเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดแล้ว
ทีมถูกแบ่งออกเป็นสามทีมใหญ่ๆคือ ทีมวัตถุดิบ ทีมผลิตและทีมช่วยเหลือผู้เล่นที่ก้าวผ่านคลาสสุดท้ายมาแล้วไม่มีปัญหาที่จะกังวลในพลังของตัวเองเพราะว่าคงสูงพอที่จะปราบลูกน้องบอสได้ง่ายๆ ข้อกำหนดอยู่ที่เลเวล91ที่ทุกคนนอกเหนือจาก หทัย นริศา เอ็นและจิราภัทร ซึ่งนพดลก็มีเลเวลที่ใกล้เคียงเพียงพอแล้ว
“คิดว่าจะใช้เวลากี่วันจริงที่จะสามารถไปพิชิตเกาะได้?”
“คาดว่าน่าจะสามวันจริงและหกวันในเกมนะ”
หทัยตอบกลับคำถามของนทีถึงการคาดเดาวันเวลาที่ต้องใช้และหมดไปกับเรื่องเบื่อหน่ายอย่างการเก็บเลเวลจากการปลูกผัก
“ดีหน่อยที่ฉันได้ตกปลา”
ศิลาล้อนทีที่จับได้ไม้สั้นกับศรัญและนพดลทำให้ทั้งสามคนต้องไปปลูกผักแทน ส่วนศิลาและนันทกรก็ไปตกปลาโดยปล่อยให้นฤนาถและศรศิลป์นั่งทำชาและน้ำผลไม้ไปเรื่อยๆ
“ข้าวเย็นวันนี้จะทำบาร์บีคิวนะ”
“เย้!!”
เสียงซ้อนประสานของทั้งหกคนเอ่ยดีใจอย่างมากนับจากวันที่พวกเขาติดอยู่ในนี้ นี่ก็เป็นวันแรกที่พวกเขาจะได้ทานของอร่อยแบบไม่เสียเงินซักที โดยปล่อยให้หทัยงงไปกับความดีใจที่ดูออกจะเวอร์ไปก็ตามที
“สงสัยจะคิดถึงรสมือคุณแม่กันละมั้ง?”
“คิดว่านะ”
จิราภัทรที่ออกความเห็นอย่างกำกวมก็จากไปพร้อมกับตะกร้าใบชาในมือ ชวนให้หทัยสงสัยจริงๆว่าตกลงแล้วนั้นความสัมพันธ์ระหว่างศรศิลป์และจิราภัทรไปถึงไหนแล้วกันแน่เพราะหลังจากเจอกับทุกคนจิราภัทรก็เดินตามศรศิลป์อยู่ตลอดเวลาแทนที่จะไปตามนันทกรน้องชายตัวเอง
จากข้อสงสัยที่มีอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะสิบหาเบาะแสความรักของเพื่อนสนิทตนเองด้วยการสอบถามเหล่าผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่หทัยไม่รู้โดยเริ่มจากนันทกรน้องชายของจิราภัทร
“ผมไม่รู้หรอกเห็นเดินตามอย่างนี้มาสองวันละ”
“ลองไปถามพี่นริศาดูสิครับ”
เยี่ยมมากไม่ว่าเรื่องอะไรคนที่จะรู้ก่อนคนอื่นเสมอก็คือนริศานั่นเอง เมื่อเข้าไปที่ห้องดูเมื่อจะขัดจังหวะอะไรหรือเปล่านะเพราะมันดูบรรยากาศแปลกไปเหลือเกินพอถามไถ่ไปมาก็พบว่านริศากับนทีนั้นรู้จักกันมาก่อนหน้านี้เพราะเธอเป็นคู่หมั้นกันตามที่ฝ่ายพ่อแม่ได้ตกลงไว้
“แรกๆอ่ะเกลียดมากเลยล่ะค่ะ”
“อ่าวไหงพูดงี้ละ”
“แต่ตอนนี้ก็พอจะชอบบ้างแล้วล่ะ เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“จ้าๆ จะถามเรื่องของจิราภัทรมากกว่า”
คำถามนี้ทำให้ทั้งสองคนถึงกับอึ้งไปชั่วขณะก่อนนทีจะแนะนำให้หทัยไปลองถามศิลาชายผู้อยู่ในเหตุการณ์อันแสนประหลาดระหว่างสองคนนั้นดูเพราะเขาน่าจะยอมบอกแน่นอน
“ถ้าเป็นแกไปถาม ข้าว่ามันบอกแน่”
“ทำไมล่ะ?”
“…เอาน่า”
ถึงแม้จะติดใจอยู่ไม่น้อยกับคำพูดของนทีที่บอกว่าถ้าเธอลองไปถามศิลาเขาจะต้องยอมบอกแน่นอนนั้นมันหมายความว่าไงหรือว่าศิลาจะสนิทกับเรามากกว่าไอคุณนทีอีก
ขณะที่เดินตามหาศิลาอยู่แถวๆริมน้ำก็พบว่าเขามานั่งตกปลาอยู่ที่ท่าสองคนกับนันทกรอย่างสบายใจทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอได้ถามนันทกรแล้วแต่ไม่ได้มีโอกาสถามศิลาเลยซักครั้ง
“ศิลา?”
“หือ…หะ หทัย!?”
ศิลาถึงกับหงายหลังลงท่าน้ำไปทันทีเพราะความตกใจ ตัวของเขาเปียกปอนไปหมดเพราะท่าน้ำค่อยข้างจะลึกอยู่พอตัว
“โทษที ทำให้ตกใจหรอ?”
“ไม่ใช่ความผิดหทัยหรอก พอดีคิดอะไรเพลินๆน่ะ”
“ว่าแต่พี่วามาทำอะไรหรอครับ”
นันทกรเอ่ยย้ำจุดประสงค์ของหทัยว่าที่จริงแล้วเธอตามหาศิลาเพราะอะไรกันแน่
“จะมาถามเรื่องของศรศิลป์น่ะว่าไปทำอีท่าไหนจิราภัทรถึงได้เดินตามติดขนาดนั้น”
“เรื่องนี้นี่เอง…”
“ช่วยไม่ได้นะถึงจะถูกห้ามไม่ให้บอกก็ตาม….ตามมาสิไปคุยตรงนู้นกัน”
ศิลาชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่สูงที่อยู่บนเนินหญ้าสีเขียวขจี ข้างๆรายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาชนิดแต่พวกเราก็เลือกที่จะไม่นั่งทับดอกไม้เช่นกัน ที่ศิลาบอกให้มาตรงนี้คงเป็นเพราะไม่อยากให้นันทกรได้ยินก็ได้มั้ง
“เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ในวันนั้นหลังจากที่พวกเราได้มารวมตัวกันแล้ว”
........................................................................
ติดตามตอนต่อไป>>>>>
ความคิดเห็น