คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Client:11 The Beast Event (ตรวจสอบ100%)
บทที่ 11
ภายหลังจากการต่อสู้ที่คาดไม่ถึงทีมช่วยเหลือทั้งห้าคนได้ขึ้นพาหนะมังกรบินข้ามผ่านเมืองต่างๆจนใกล้ถึงจุดหมายแล้วเพียงแต่ว่ายังไม่มีใครคาดได้ว่าต่อจากนี้พวกเขาจะเจออะไรอีกบ้าง
“พวกเราบินต่ำหน่อยดีกว่าใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว”
นริศาออกความเห็นให้กับเพื่อนๆทุกคนเพราะระดับความสูงของมังกรที่กำลังบินอยู่นั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นผู้คนและเมืองด้านล่างสักเท่าไหร่
“ข้ามตรงเขตนั่นไปก็เข้าสู่เมืองคริสตัลแล้วล่ะ”
สาวน้อยร่างบางเจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่าชี้ไปยังเส้นขอบฟ้าบริเวณรอยต่อของเมืองให้กับเพื่อนๆดูพร้อมกับเร่งความเร็วของมังกรเพิ่มขึ้นเพื่อหวังที่จะถึงเมืองดังกล่าวก่อนค่ำ
แต่เมื่อพวกเขาทั้งห้าคนบินข้ามผ่านแผนที่ไปยังเมืองคริสตัลซึ่งเป็นจุดหมายก็ถูกถอดสถานะการขี่มังกรออกไปทำให้ทั้งห้าคนกำลังหล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วสูง
“ทำไมมันถึงขี่สัตว์พาหนะไม่ได้ล่ะ”
“คงเป็นเพราะเมืองนี้เป็นเมืองหลักไง การจะมีสัตว์พาหนะมาบินเยอะๆอาจทำให้แผนที่นี้ไม่เสถียรได้”
นพดลตอบกลับปัญหาที่หทัยค้างคาใจเนื่องจากพวกเธอไม่เคยขี่สัตว์มาที่เมืองนี้มาก่อนจึงไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“ไม่ต้องห่วงนะทุกคน ผมคิดอะไรดีๆออกแล้ว”
สิ้นเสียงตอบรับจากเพื่อนๆเด็กชายตัวน้อยก็เริ่มร่ายเวทย์มนต์อะไรบางอย่างใต้เท้าของเขาในขณะที่กำลังลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ทุกคนจะลงไปที่พื้นก็มีปุยของหิมะนุ่มๆมารองรับไว้ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกับพื้นมากนัก
“ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้หิมะกองนี้ หทัยคงกลับจุดเซฟแน่นอน เพราะในบรรดาพวกเราเธอเลือดน้อยที่สุด”
“เหอๆ ก็จริงอ่ะแบบนั้นได้เดินใหม่จากเมืองแรกแน่”
“ในเมื่อเราลงพื้นเรียบร้อยแล้วก็ตามหาคนอื่นดีกว่านะ”
จิราภัทรเสนอความคิดเห็นให้กับคนในกลุ่ม ไม่ใช่แค่เธอแต่ทั้งนพดลและนริศาก็อยากรู้ว่าเพื่อนๆของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างและได้รับเบาะแสเพิ่มเติมจากเร็นหรือไม่
ทั้งห้าคนใช้วิธีเดินด้วยเท้าไปยังจุดหลักของเมืองตรงกลางน้ำพุแต่ปรากฏว่าไม่มีผู้คนผ่านไปมาเท่าไหร่นักจึงไปสอบถามเหตุการณ์จาก NPCรอบเมืองแทน
“อีกไม่กี่ชั่วโมง Event The Beast จะเริ่มแล้วทุกคนคงไปหาที่หลบภัยกัน”
คำตอบของ NPCหนุ่มผู้ดูแลรักษาประตูเมืองกล่าวกับพวกหทัยด้วยสีหน้าที่กังวลเนื่องจากบอสมอนสเตอร์ของกิจกรรมนี้ปราบได้ยากและจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นระดับสูงกว่าสิบคนถึงจะปราบมันได้ ซึ่งของตอบแทนจากมันก็คุ้มค่าที่จะให้ผู้เล่นเสี่ยงมาปราบอยู่เหมือนกัน
“เราจะไปหาที่หลบภัยที่ไหนกันดี คาดว่าตอนนี้พวกที่พักคงจะเต็มไปด้วยผู้เล่นหมดแล้ว”
เอ็นกล่าวด้วยสีหน้ากังวลเพราะเขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นจำนวนหนึ่งที่ไม่อยากเผชิญหน้ากับบอสมอนสเตอร์ตัวใหญ่แบบนั้นสักเท่าไหร่
“ปล่อยเป็นหน้าที่ฉันเอง”
หทัยที่นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีสถานที่อีกที่หนึ่งที่คาดว่าผู้เล่นส่วนน้อยจะรู้จักเพราะหากไม่ผ่านเควสดังกล่าวแล้วราคาห้องจะแพงจนไม่มีปัญญาจ่ายเลยทีเดียว
ทุกคนจึงเดินตามทหัยไปเรื่อยๆผ่านพุ่มไม้ โพรงหญ้าและต้นไม้ใหญ่มายังด้านหลังของหมู่บ้าน และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของทุกคนก็คือคฤหาสน์หลังหนึ่งจำนวนสี่ชั้นที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ที่เหมือนกับโลกแห่งความเป็นจริง ไม่นานนักก็มีเมดสาวจากระบบ AI ของคฤหาสน์หลังนี้ออกมาต้อนรับพาไปยังห้องโถงสำหรับการจองห้อง
“เอาห้องชั้นสี่ประจำดีกว่า”
“ขออภัยด้วยค่ะ ห้องดังกล่าวได้มีผู้เล่นกลุ่มหนึ่งจองไปเรียบร้อยแล้ว”
“ใครมันบังอาจมาจองห้องประจำฉันเนี่ย ช่วยไม่ได้งั้นเอาชั้นสามละกัน สามห้อง”
“ทุกท่านเชิญตามดิฉันมาได้เลยค่ะ”
เมดสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายก่อนจะพาพวกเราทั้งห้าคนไปยังห้องพักชั้นสามซึ่งพวกเราก็ตกลงกันดีแล้วว่าใครจะนอนกับใคร ฝ่านหทัยต้องนอนคนเดียวเพราะจิราภัทรไปนอนเป็นเพื่อนนริศาแทน
“ถ้าแหงาก็มาหาที่ห้องละกันนะ วา”
“ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”
“จ้าๆ”
จิราภัทรเอ่ยแซวหทัยเล็กน้อยที่เธอต้องนอนคนเดียวอาจจะเหงาก็ได้เพราะโลกแห่งความเป็นจริงเธอมักจะนอนกับน้องสาวนฤนาถเป็นประจำ
ประตูไม้สีครามจัดเรียงเป็นแถวเดียวกันบนชั้นที่สามเพียงแต่ด้านตรงหน้าประตูเท่านั้นที่มีพรมสีน้ำเงินเข้มเรียงรายอยู่ สีฟ้าเข้มเป็นสีโปรดของหทัยสาวน้อยผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่มาพักยังคฤหาสน์แห่งนี้
“ขออภัยค่ะ เพื่อความปลอดภัยแนะนำไม่ให้ออกไปด้านนอกนะคะเพราะกิจกรรมล่าบอสได้เริ่มขึ้นแล้ว”
เสียงอันอ่อนหวานของเมดสาวที่คอยต้อนรับบรรดาแขกที่มาเยี่ยมชมยังบ้านพักคฤหาสน์หลังนี้ได้ประกาศให้แขกทุกคนระมัดระวังที่จะออกจากห้องพักในกลางดึก
ด้านของฝั่งพวกศิลาที่อยู่ชั้นสี่ไม่ทราบเลยว่าเพื่อนพ้องของตัวเองนั้นได้มาพักที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยเช่นกันเพียงแต่อยู่คนละชั้นกันเท่านั้นเอง
“เขาประกาศอะไรหรอพี่ศรศิลป์”
ศรัญได้ยินเสียงประเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับเสียงโวยวายของบรรดาเพื่อนๆที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานในห้องของโยสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์คิดไปเองว่ามีผีสาวอยู่ของบรรดาเด็กผู้ชาย
“นี่พวกนายไม่คิดจะกลับไปนอนที่ห้องตัวเองหรือไง”
“ทำไงได้ล่ะพี่ มันกลัวจนตาค้างนอนไม่หลับไปเสียแล้ว”
นันทกรน้องชายของเพื่อนสนิทอธิบายในนฤนาถเข้าใจถึงความกังวลของพวกผู้ชายที่เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
“เพราะแกนั่นแหล่ะไอศรัญ”
“ผมไม่ผิดนะ พวกพี่ทิ้งผมก่อนเอง”
ศรัญวิ่งไปหลบหลังนฤนาถเพื่อหวังให้เธอเข้าข้างเขาแทนที่จะโกรธเหมือนกับคนอื่นๆ
บึ้ม!
“เสียงอะไรน่ะ”
“ไหนพี่โยผมไม่เห็นอะไรเลย?”
“ตรงนั้น”
นฤนาถชี้ไปยังจุดที่มีควันสีขาวลอยขึ้นมาจากหลังป่าสร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกนฤนาถเป็นอย่างมากทำให้พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนชุดพร้อมรบออกไปดูยังที่เกิดเหตุทันที แต่เมื่อพวกเขาไปถึงก็พบว่ามีผู้เล่นจำนวนหนึ่งกำลังหนีตายจากการโจมตีของลูกน้องบอสสิงโต
“จะเข้าไปช่วยดีไหม?”
“รอดูสถานการณ์ก่อนดีกว่า”
การตัดสินใของศิลานั้นไม่ได้หมายถึงว่าจะไม่เข้าไปช่วยแต่เขาแนะนำให้ดูลาดเลาไปก่อนว่าพวกเขาจะสามารถสู้กับเจ้าตัวนั้นได้หรือไม่ หลังจากสังเกตการณ์ไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าเจ้าลูกน้องบอสตัวนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นักแพงแต่มีจำนวนมากแค่นั้นเองจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ยังเหลือรอดได้
“Thunder Strom”
นฤนาภร่ายเวทย์สายฟ้าเป็นบริเวณกว้างเพื่อลดความเร็วของมอนสเตอร์ให้เดินช้าลงแต่ก็ถือว่าเสี่ยงอันตรายอย่ามากเพราะทุกตัวจะหันไปเล่นงานเธอทั้งหมดแทน แต่ครั้งนี้มีนทีที่ทำหน้าที่เป็นคนกางเขตแดนป้องกันให้จึงไม่ค่อยน่าห่วง
“Heal”
นันทกรคอยร่ายเวทย์สนับสนุนเพื่อนๆของตนยู่ตลอดเพราะเกราะของนทีจะลดเวลาลงเรื่อยๆหากจำนวนแถบ Health Point(เลือด)เหลือน้อยลง
หลังจากระยะเวลาที่ใช้ต่อสู้เริ่มนานขึ้นศรศิลป์เห็นจำนวนมอนสเตอร์ได้เพิ่มขึ้นจนไม่ทันได้สังเกตตั้งแต่แรก เขาส่งสัญญาณให้เพื่อนๆหยุดมองรอบตัวเองก็พบว่าพวกเขาได้ถูกล้อมไว้แล้ว
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฝ่ายเราจะต้องลำบากซะแล้วล่ะ”
“เลเวลมันไม่ใช่ปัญหาแต่จำนวนนี่สิ….”
การต่อสู้ที่ยืดเยื้อทำให้จำนวนยาเพิ่มพลังและแถบ MPเริ่มลดน้อยลงทุกทีๆไม่พอสำหรับนันทกรที่จะใช้พลังฟื้นฟูให้กลับนทีแล้วในตอนนี้
“พี่นที! MP ผมฟื้นไม่ทันแน่ครับ”
“จะให้ถอยไปไหนดีล่ะถ้ามีคนจำนวนเยอะๆคงจพลำบากแน่”
“ถ้าขึ้นไปที่สูงๆมันอาจจะไม่ตามมาก็ได้นะครับ”
ศรัญที่กำลังวุ่นอยู่กับการต่อสู้เอ่ยออกความเห็นให้กับเพื่อนที่กำลังจะหมดหนทางในการต่อสู้เสียแล้ว
ศิลาจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนถอยทัพมุ่งหน้าไปยังภูเขาที่อยู่ด้านหลังพวกเขาแทน หากพวกเขาปีนไปถึงจุดพีกด้านบนมอนสเตอร์ที่ตามมาก็จะล่าถอยไปเอง
แต่เมื่อไปถึงภูเขาดังกล่าวก็สร้างความลำบากใจให้เสียแล้วเพราะอาชีพสนับสนุนอย่างนันทกรและนฤนาถไม่สามารถกระโดดผ่านได้ง่ายๆจึงให้คนอื่นรีบขึ้นไปก่อนโดยนทีจะคอยกันถ่วงเวลาไว้ในแทน ไม่ทันที่จะได้ขึ้นไปหมดบรรดาสิงโตตัวเล็กก็ตามมารังควาญอย่างรวดเร็ว
“Heal! Heal! Heal!”
คราวนี้นันทกรได้ใช้พลังหมดไปกับการฟื้นฟูให้กับนทีจนหมดแล้วแต่มันกลับทำให้เจ้ามอนสเตอร์ทั้งหลายหันไปเล่นงานเข้าแทน ตอนนี้เขาไม่เหลือพลังพอที่จะฟื้นฟูให้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“นัท หนีไป!”
นฤนาถตะโกนสุดเสียงเธอรู้ว่าถึงจะตั้งท่าร่ายเวทย์คงจะไม่ทันที่จะหยุดการโจมตีไว้ได้จึงบอกนัทวิ่งหนีแทน ตามที่เร็นเคยบอกกับผู้เล่นไว้หากตายไม่ว่าสาเหตุใดๆก็ตาม ด้วยมอนสเตอร์ ฆ่าตัวตายเองหรือเผลอตกเหวจะไม่มีวันได้ออกจากที่นี่
ความมันวาวของเขี้ยวเล็บสิงโตตัวเล็กนั้นใกล้จะถึงคอของนันทกรอยู่ไม่กี่นาทีนี้ เขาคิดว่าตัวเองต้องตายแน่นอน ชวนให้คิดถึงวันเก่าๆที่มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นคนที่ช่วยเขาก็ไม่พ้นพี่สาวทั้งสองอย่างหทัยและจิราภัทรเลยซักครั้ง
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
จำนวนกระสุนอย่างนับไม่ถ้วยถูกสาดลงตรงหน้าของนันทกรเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้นทำให้เกิดเป็นฝุ่นควันลอยขึ้นทั่วบริเวณโดยที่ด้านหลังควันเหล่านั้นมีร่างเงาปริศนาของใครบางคนเดินตรงมาที่นันทกร
............................................................................
ติดตามตอนต่อไป>>>>>
ความคิดเห็น