คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Patch : 7
Patch : 7
-โลกแห่งความเป็นจริง-
เสียงฮือฮาของเหล่าบรรดาอาจารย์สอนวิชาต่างๆภายในโรงเรียนดังกระหึ่มขึ้นเมื่อทราบว่าเกิดปัญหาบางอย่างกับเกมและนักเรียนของพวกเขา ทางบริษัทเองยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากระบบของเกมเพราะก่อนหน้านี้ได้ทดสอบการใช้งานมากว่าห้าปีแล้วก่อนนำมาใช้กับเด็ก
“กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้าแล้ว แบบนี้เราจะช่วยพวกเด็กๆยังไงดี” ครูสาวรองอธิการโรงเรียนหวั่นวิตกอย่างหนัก
“ต้องรอตรวจสอบต่อไป ตอนนี้เราขาดการติดต่อกับพวกเด็กๆแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น”
นักวิจัยหนุ่มผู้มีส่วนในการพัฒนาเกมออกมาช่วยแก้ไขปัญหาให้อย่างเร่งด่วน เพราะกลัวว่าหากเรื่องนี้ได้ยินไปถึงหูบรรดาผู้ปกครองเข้าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
“มาเนียจ้ะ หนูช่วยอยู่เป็นลูกมือให้ทีนะ” หญิงสาวลูกมือทีมวิจัยยิ้มหวานให้กับเด็กสาวที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ค่ะ”
มาเนียรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าปัญหาเกี่ยวกับเระบบเครือข่ายนอกจากเธอแล้วในที่นี้ไม่มีใครเข้าถึงชิ้นส่วนเครือข่ายที่ละเอียดเหล่านั้นได้ ตอนนี้ทางโรงเรียนติดต่อแม่ของเธอไปแล้วแต่ทว่าธุรกิจที่ร้านยังคงน่าเป็นห่วงจึงปลีกตัวมาได้ยาก
“เดี๋ยวจะส่งคนไปช่วยแทนก่อนนะคะ”หญิงสาวกล่าวกับทีมวิจัยทางโทรศัพท์
“มาเนีย เดี๋ยวพวกคุณอาจะไปถึงที่นั่นอีกไม่ช้าหนูรอสักพักนะจ้ะลูก”
“ค่ะคุณแม่….แต่น้องยังอยู่ด้านใน…”
“ไม่ต้องห่วงจ้ะ กำลังเสริมหลักกำลังจะไปถึง”
“??”
เด็กสาวยังไม่เข้าใจคำพูดของผู้เป็นแม่เสียเท่าไหร่ แต่ที่มาเนียเข้าใจถูกอย่างหนึ่งว่าอาในที่นี้คือนันทกรและศรัญ แต่กำลังเสริมอาจจะหมายถึงพ่อและแม่ของปิ่นอย่างจิราภัทรและศรศิลป์ก็ได้
ไม่นานนักนันทกรก็ขับรถมาถึงโรงเรียนอย่างรวดเร็วรีบตรงไปหามาเนียทันที ถามไถ่ความคืบหน้าของสถานการณ์จากเธอ
“ตอนนี้ติดต่อพวกน้องๆไม่ได้กว่าหกชั่วโมงแล้วค่ะ สาเหตุไม่ได้มาจากเซิฟเวอร์หรือตัวเกมแน่นอน” เด็กสาวตอบอย่างมั่นใจ
ศรัญรีบขนเอกสารกองโตไปวางบนโต๊ะทำงานของทีมวิจัยเขาชี้จุดอะไรบางอย่างให้กับนันทกรดู
“ไอ้นัทแย่แล้วว่ะ ถ้าเป็นอย่างที่เราคิด….”
หน้าจอโน๊ตบุ๊คของศรัญเปิดกล่องรับขาเข้าอีเมลล์ไว้ จดหมายจากผู้ส่งคนเดียวกันปรากฏขึ้นเป็นลำดับห่างกันไม่กี่ชั่วโมงถึงคำขู่ทำลายโรงเรียนและเด็ก
“เจ้านี่มัน….”
“พวกนายคิดถูกแล้วล่ะ”
เสียงทุ้มต่ำของชายร่างสูงดังขึ้นจากด้านนอกของประตู ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปยังห้องวิจัยศรัญและนันทกรเองก็คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี ชายผู้มีผมสีดำสนิทรูปร่างสูงโปร่งมีภูมิฐานดี บุคลิกดูสง่าสมกับเป็นผู้นำคนอื่น
“พี่ศิลา!”
เด็กสาวหันหลังกลับไปมองตามเสียงเรียกของผู้เป็นอา นี่เป็นครั้งแรกของเด็กสาวและใครหลายคนที่ได้พบตัวจริงของหนึ่งในห้าเอสเปอร์ทรงพลังที่ยังหลงเหลือยู่บนโลกนี้จากวิกฤตครั้งนั้น
“นี่หรอ เอสเปอร์ไซโครคิเนซิส?” อาจารย์สาวดวงตาลุกวาวทันทีหล่อนเองไม่คิดว่าผู้ใช้พลังพิเศษจะยังคงหนุ่มและดูดีมากขนาดนี้
สายตาของอาจารย์สาวหลายคนจับจ้องไปที่ชายหนุ่มไม่วางตาพวกหล่อนเองคงจะลืมไปแล้วว่าศิลามีลูกชายอายุได้สิบขวบแล้ว ถึงจะอายุได้สามสิบห้าปีแต่ศิลาถือว่าเป็นพ่อที่ยังหนุ่มอยู่มากผิดกับนทีเพื่อนของเขาที่ทำตัวเป็นคุณพ่อจริงๆไม่ใช่นักธุรกิจไฟหนุ่มไฟแรงเหมือนแต่ก่อน
“รอด้วย…..”
เสียงหวานเล็กๆจากด้านนอกดังขึ้นตามมาด้วยเสียงประหลาดที่ฟังแล้วดูเจ็บแทน
โครม!
“โอ้ย!...ตรงนี้เป็นกระจกหรอเนี่ย” เด็กสาวแตะที่จมูกของตัวเองเล็กน้อย
ศิลาที่เห็นหญิงสาวเข่าอ่อนนั่งลงอยู่กับพื้นก็อดไม่ได้ที่จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอย่างทุกทีไป ถึงแม้ว่าจะเป็นแม่คนแล้วแต่นิสัยของเธอยังไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่
“ระวังหน่อยสิ วา…” ชายหนุ่มหันไปดุหญิงสาวพลางเช็ดหน้าตาที่เลอะให้
“แหะๆ” หญิงสาวยิ้มตอบ
นันทกรเห็นพี่สาวคนสนิทของเขาเดินเข้ามาในห้องก็อดจะทักไม่ได้จึงตะโกนเรียกอย่างสุดเสียงทำให้เสียงสะท้อนของเขาก้องไปทั่วชั้นเรียน
“พี่หทัย…..ทางนี้ครับ!”
“เบาๆไอ้นัท เห็นไหมคนอื่นมองกันหมดแล้ว” ศรัญดุนันทกร
ที่อาจารย์และนักเรียนมองอาจไม่ใช่เพราะว่าเสียงของนันทกรแต่อย่างใดกลับเป็นหญิงสาวอายุราวสามสิบต้นๆปีอย่างหทัยที่ดูขัดกับบทบาทของเธอมาก หลายคนในที่รู้จักศิลาในฐานะนักธุรกิจเทคโนโลยีไฟแรงแต่อาจจะยังไม่เคยเห็นภรรยาสาวเบื้องหลังของเขามาก่อนเพราะความหวงไม่ให้ออกสังคมของศิลา หลังจากคลอดลูกชายออกมาร่างกายของหทัยไม่ค่อยดีนักศิลาพาบลูไปฝากไว้กับญาติทางฝั่งพ่อก่อนจะย้ายมาอยู่กับนฤนาถตอนขึ้นประถม
“ตายจริงยังสาวอยู่เลยนะนั้น ไม่บอกไม่รู้ว่าลูกชายอายุสิบขวบแล้ว…” รองอธิการสาวตื่นตะลึงกับภาพของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า “มิน่าว่าทำไมคุณศิลาถึงหวงนักหวงหนา”
“หลายคนก็พูดอย่างนี้เหมือนกันค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบรับ
หญิงสาวอายุย่างเข้าสามสิบปีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพร้อมกับดวงตาสีเข้มเข้ากับใบหน้า ส่วนสูงที่ดูต่างจากผู้เป็นสามีอยู่มากทำให้เธอดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด หากยังจำกันได้เหตุการณ์ที่หทัยหลับไปนานกว่าห้าปีทำให้ร่างกายและอายุของเธอหยุดเดินตามไปด้วย
“ได้ยินว่าบลูก็ยังอยู่ในนั้น?”
“ค่ะ” มาเนียตอบคำถามของหทัยทันที
“สวัสดีจ้ะมาเนีย นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราพบกันในรอบสิบปีสินะจ้ะ ตอนนั้นหนูยังเด็กตัวนิดเดียวอยู่เลยยังจำกันได้ไหม?” หทัยคุยกับมาเนียด้วยท่าทีเป็นมิตร
“คุณหทัยกับคุณศิลาดังเด่นจะตาย” มาเนียพูดพลางเขินเล็กน้อย
ที่จริงแล้วมาเนียเองไม่รู้ว่าจะเรียกหทัยกับศิลาว่าอย่างไรดีในเมื่อแม่ของเธอเป็นน้องสาวของหทัยแต่ทว่าพ่อของเธอกับแก่กว่าหทัยอยู่เยอะเหมือนกัน
“พี่ศิลารู้หรอครับว่าเป็นฝีมือใคร?”
“จะใครอีกถ้าไม่ใช้เจ้านั่น…”
ศิลาหยิบหนังสือพิมพ์ออกมาจากกระเป๋าให้กับนันทกรและศรัญดู รวมถึงนักวิชาการคนอื่นๆ เขาชี้ไปยังชายหนุ่มวัยกลางคนในรูปผู้ประกาศตัวเป็นนักธุรกิจที่ไปดังถึงเกาหลี
“คุ้นๆไหม?”
“อืม….” ศรัญจ้องภาพอยู่นานสองนาน
“ไอ้หมอนี่!” ไม่นานทั้งสองก็ร้องอ๋อ ตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนได้กลับมาตามหลอกหลอนพวกเขาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันประกาศภายในเกมว่าจะกำจัดทายาทของเหล่าผู้ใช้พลังพิเศษเพราะอิจฉาและแค้นใจที่ล้มเหลวไปตอนนั้น
“แบบนี้พวกเราต้องขอให้คุณช่วยแล้วล่ะ” นักวิจัยหนุ่มยืนพูดเบาๆข้างศิลาก่อนจะส่งเอกสารให้ตรวจสอบดู
“เซิฟถูกตัดการเชื่อมต่อไปชั่วขณะ แต่มาเนียยังเข้าถึงข้อมูลได้อยู่….” นันทกรเพิ่มเติมข้อมูลให้แก่ศิลา
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรมากความ เขาพาหญิงสาวคนรักไปนั่งที่เก้าอี้ตัวสีข่าวขุ่นเหมือนกับของเด็กคนอื่นๆ
“ได้เวลาไปเยี่ยมเด็กขี้อ้อนสักหน่อยแล้ว” เด็กสาวยิ้มตอบก่อนจะหันไปมองเด็กสาวอีกคนที่ยืนงงอยู่ “ขอแรงหนูอีกคนด้วยนะ”
มาเนียพยักหน้าทันทีเพราะพอเข้าใจถึงแผนการที่ศิลาอธิบายให้ฟังแล้วตอนนี้ทีมสนับสนุนมีนัทกรและศรัญเข้ามาช่วยดูแล นอกจากหน้าที่เป็นหมอดูแลคนไข้แล้วทั้งสองยังเป็นโปรแกรมเมอร์แบบลับๆระดับต้นของประเทศไทยด้วย
“ทางนี้พวกเราจัดการเอง รบกวนพวกคุณช่วยเตรียมของตามที่จดไว้ให้ด้วยครับ” ศิลาส่งกระดาษโน็ตสีครีมให้กับหญิงสาวรองอธิการโรงเรียน
“ไฟล์ข้อมูลประวัติของเด็กๆ บันทึกการรักษาพยาบาล ไอเทมเบื้องต้นของเกมและแผนที่เกม เขาจะเอาพวกนี้ไปทำอะไร” หญิงสาวได้แต่ยืนงงทำตามคำสั่งไปเพราะศิลาไม่ยอมบอกแผนอะไรให้ใครนอกจากทีมวิจัย มาเนีย ศรัญและนันทกร
กล่องสีดำขนาดกว้างยาวสิบนิ้วบรรจุฮาร์ดดิสก์กว่าสิบตัวอยู่ด้านใน เป็นกล่องเก็บข้อมูลจากเกมภาคแรกที่ยังหลงเหลืออยู่ จิราภัทรไปขอร้องเอ็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่จากบริษัทอีเอสพี่ให้นำไปให้หทัยที่โรงเรียนเซตน์วินเซนทันที ตัวกล่องบรรจุข้ามน้ำข้ามทะเลไกลกว่าพันกิโลด้วยเครื่องบิน
“นี่เป็นไพ่ตายของเรา…” ศิลากล่าวกับทุกคนในทีม
หลังจากหทัยและศิลาเตรียมความพร้อมสำหรับเชื่อมต่อเกม มาเนียแตะเข้าที่กล่องสีดำสนิทช้าๆถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดลงไปบนเซิฟเวอร์หลักเกมของโรงเรียน แสงประหลาดสีขาวพุ่งเขาหาศิลาและหทัยในหัวสมองของพวกเธอ
ติ้ด!
“ยินดีต้อนรับคุณ วา และ ศิลาเข้าสู่ ESP Online2 ขอให้สนุกกับเกมนะคะ”
“สนุกหรือเปล่าเดี๋ยวก็รู้” เสียงห้าวหาญของเด็กสาวดังขึ้น
ร่างของสาวน้อยผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่า สวมชุดเสื้อกันหนาวสีเขียวอ่อนติดขนสัตว์ทสีขาวรอบนอก บนหัวของเธอสวมที่ป้องกันหูจากความหนาวเอาไว้
“ไปกันเถอะ…ศิลา”
ชายหนุ่มร่างสูงเรือนผมสีดำสนิทสั้น สวมชุดกันหนาวสีน้ำเงินเข้มเดินออกมาจากหมอกควันของจุดเริ่มเกมก่อนจะเดินตามเด็กสาวไปติดๆพลางจับที่เสื้อกันหนาว
“ทำไมชุดมันยังเป็นชุดเมื่อตอนนั้นอยู่เลย......”
(นี่เป็นคำถามที่ศิลาไม่ต้องการคำตอบแต่ก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน)
..........................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น