คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Patch : 5
Patch : 5
ท่ามกลางกลุ่มควันลอยบางเบาอยู่ในอากาศเงาของผู้เล่นทั้งห้าแฝงตัวอยู่ใต้ไอหนาวเย็นของน้ำแข็งชั้นสุดท้ายของดันเจี้ยนการผจญภัยครั้งนี้ เสียงเล็กๆของเด็กหนุ่มลอดผ่านกำแพงกั้นที่สัมผัสได้ไปยังส่วนลึกสุดของสมองสั่งการ
“ทุกคนได้ยินผมหรือเปล่า?”
ป้องหันกลับไปดูเพื่อนชายที่นั่งมึนงงกับสถานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ ก่อนจะตะโกนเรียกสติของเขากลับมา
“กาย ลุกขึ้น!”
สกายได้ยินเสียงเรียกของป้องก็เรียกสติกลับมาได้ เด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างเขาตอนนี้มีวงแหวนสีฟ้าเรืองแสงออกมาจากใต้เท้าของเขา ร่างสูงพยายามจะเรียกสติของเด็กหนุ่มกับคืนแต่ทว่า
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง” บลูไม่ได้ขยับปากแม้แต่น้อยแต่สียงยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเพื่อนๆ “พลังของผมทำหน้าที่ขยายความคิดและติดต่อสื่อสารถึงคนที่อยู่ไกลออกไปได้โดยไม่ต้องพูดหรือเห็นหน้า”
“แค่คิดก็ได้งั้นหรอ?”
“ครับ”
สกายใช้พลังพิเศษของเขานึกภาพร่างจำลองเหตุการณ์การสู้ขึ้นมา ไม่นานภาพเหล่านั้นถูกส่งไปให้กับเพื่อนอีกสามคนนอกเหนือจากบลูที่อยู่ไกลออกไป
“พวกแกเห็นที่เราส่งไปไหม?”
“เห็นชัดแจ่มแจ้งเลยล่ะ” น้ำฟ้าตอบกลับคำถามของสกาย
“ทำตามแผนที่วางไว้นะ”
ห้านาทีหลังจากนั้นสกายเข้าไปยืนแทนที่ขงปิ่นซึ่งตอนแรกยืนชนรับการโจมตีจากบอสมอนสเตอร์อยู่ จากนั้นให้ปิ่นกลับไปตั้งลำกล้องปืนไรเฟิลในระยะที่ไกลออกไป ซื้อเวลาให้ปิ่นและน้ำฟ้าร่ายเวทย์ประสานกัน หากวีนี้ได้ผลค่าพลังโจมตีที่ได้จะเพียงพอสำหรับการโจมตีบอสในครั้งเดียว
“ป้องอุ้มบลูออกไปให้ห่างจากวงแหวนเวทย์ที”
“ได้”
ป้องใช้ความเร็วระดับสองวิ่งไปคว้าตัวของบลูที่ยืนอยู่หน้าเส้นวงแหวนจนตัวลอย ให้อยู่ห่างจากวงเวทย์ตามที่สกายสั่ง แต่ทว่าการอยู่ในโหมดความสามารถพิเศษของบลูอาจจะนานเกินขีดจำกัดของเด็กไปสัญญาณจึงถูกตัดหายกลางคันทันทีที่บลูหมดสติ ร่างกายเล็กๆของเด็กอายุเพียงสิบขวบคงดึงความสามารถพลังที่แม่เขาใช้ตอนวัยรุ่นออกมาใช้ได้ไม่เก่งพอ
ตามแผนที่สกายวางไว้ให้ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนรู้ตำแหน่งตัวเองดีว่าควรยืนอยู่จุดไหนและทำอะไรบ้าง น้ำแข็งก้อนโตโอบล้อมร่างของบอสสิงโตไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ปิดท้ายด้วยกระสุนปืนสายฟ้าและดาบธาตุไฟฟ้าของปิ่นประสานร่วมกับ สกิลของน้ำฟ้าสร้างความเสียหายให้กับร่างของบอส
“Thunder Shoot!”
ร่างมหึมาของบอสเริ่มจางหายไป ปิ่นรีบวิ่งเข้าไปเก็บไอเท็มตามระเบียบคนงก แต่ว่าช่องเก็บของเธอดันเต็มเสียก่อนทำให้ดาบธาตุไฟในตำนานตกไปอยู่ในกระเป๋าของป้องแทน
“ป้อง ส่งคืนพี่มาเลย…”
“ท่าจะยากพี่ปิ่น มันแลกเปลี่ยนให้ใครไม่ได้เมื่อเก็บเข้ากระเป๋าแล้ว” ผู้เป็นน้องอธิบายเหตุผล
“ดวงซวยสุดๆเลย…..เอ้า บลูเป็นอะไรไปน่ะ”
“สงสัยจะหมดสติไป” ป้องพลิกตัวของบลูให้หงายหน้าขึ้นมาดู เด็กชายตัวน้อยกลับนอนนิ่งไม่ขยับ
“เดี๋ยวจัดการเอง”
สกายรับบลูจากมือของป้องไปอุ้มเอง นับวันทั้งสองดูเหมือนจะเป็นพี่น้องกันมากขึ้นอาจเป็นเพราะพ่อและแม่เคยเป็นเพื่อนซี้กันมาก่อน หรือว่าสกายจะเคยพบบลูมาก่อนหน้านี้
“ยังไงก็กลับไปที่เมืองก่อน ตาม NPC Doc มาดูอาการละกัน คนรักษามาเจ็บเองแบบนี้คงยากหน่อย…”
โรงแรมไม้สามชั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองวินเซนต์เมืองอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารและอาวุธเครื่องมือสำหรับนักสู้ ชื่อของเมืองถูกตังตามชื่อของโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนทราบว่าเมืองนี้เป็นเมืองหลักของเกม ผู้เล่นส่วนใหญ่มีเพียงสามถึงสี่ร้อยคนเท่านั้นเนื่องจากผู้เล่นระดับเลเวลสี่สิบขึ้นไปถึงจะสามารถผ่านประตูเมืองเข้ามาได้
“ถึงจะเก็บค่าประสบการณ์ได้ไว แต่เสี่ยงตายแบบนั้นก็ไม่คุ้มเท่าไหร่เนอะ” เด็กสาวเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น เพราะเกรงว่าห้องจะเงียบเกินไป
“ชู่” ปิ่นแสดงท่าทีกังวลให้กับน้ำฟ้าเมื่อเห็นว่าสกายไม่ยอมเล่นด้วย
NPC Doc ตรวจดูอาการของบลูอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหันไปบอกกับชายหนุ่มอีกคนที่นั่งข้างๆว่าไม่ต้องเป็นห่วงแล้วหายตัวไป
“รักษาตามประวัติการรักษาเบื้องต้นในแฟ้มแล้ว อีกไม่นานคงฟื้น”
สกายลูบหัวน้องชายตัวเล็กอย่างอ่อนโยน โดยมีป้องยืนดูอยู่ห่างๆไม่เข้าไปขัดจังหวะอะไร
“พวกแกสองคนสนิทกันเร็วดีนะ” ป้องทัก
“ที่จริงเราเคยเจอบลูมาก่อนหน้านี้แล้วแต่กลับลืมไป พึ่งจะจำได้ไม่นานนี้เอง”
“ที่ไหนหรอ?”
“โรงพยาบาล” สกายเว้นช่วงคำพูดไว้ “เมื่อตอนอายุห้าขวบไปเล่นกับอานันทกรที่โรงพยาบาลพร้อมกับพวกคุณแม่…เจอชายร่างสูงผมสีดำวาวและผู้หญิงผมสีน้ำตาลสวยดวงตาสีเข้มอุ้มเด็กทารกอยู่ เด็กคนนั้นน่าจะเป็นบลู”
“อย่างนี้นี่เอง” ปิ่นแสดงท่าทีเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างได้
“??”
“มีอะไรหรอปิ่น?” น้ำฟ้าส่งสัยจึงเอ่ยถามดูเผื่อเพื่อนสาวจะยอมอธิบายให้ฟัง
“สาเหตุที่บลูติดแกมากคงจะเป็นเพราะอย่างนี้แหล่ะ นอกจากพ่อแม่จะรู้จักกันแล้ว น้องยังเคยเจอนายตอนเป็นทารกด้วย….คาดว่าพลังของเด็กคนนั้นคงจะตื่นขึ้นตั้งแต่เป็นทารกเลยจำได้ว่าแกรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร”
ปิ่นยืนอธิบายเหตุผลจากข้อสรุปต่างๆข้อมูลที่ฟังจากสกายเล่ามาก่อนจะเอะใจได้ถึงข่าวเมื่อสิบปีก่อน ถึงข้อห้ามในการใช้พลังเกินขีดจำกัดของเด็กสาวคนหนึ่ง
“ทางที่ดีไม่ควรให้บลูใช้พลังตอนร่างกายของเขายังไม่พร้อม…”
“เห็นด้วย” ป้องยืนพยักหน้าอยู่ข้างกำแพง
เวลาประมาณช่วงบ่ายของวันเดียวกันกลิ่นหอมอ่อนๆของแซนวิชไก่ลอยคละคลุ้งไปบนอากาศลอดผ่านช่องว่างแคบๆใต้บานประตูไม้ไปเตะจมูกของเด็กหนุ่มเข้า เสียงหัวเราะคิกคักของบรรดาเพื่อนร่วมทีมดังพอที่จะได้ยินทั่วทั้งโรงแรมจนเด็กหนุ่มเองคิดว่าด้านล่างจัดงานรื่นเริงกัน
ตึก!ตึก!
เสียงฝีเท้าเล็กของเด็กผู้ชายสวมรองเท้าบูทเพียงหุ้มข้อค่อยๆเดินลงมาจากชั้นสองของโรงแรม แสงสว่างจ้าของดวงไฟหลากสีสาดสองไปทั่วบริเวณด้านล่างของห้องรับรอง
“เกิดอะไรขึ้น….” บลูอึ้งไปชั่วขณะกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ผู้เล่นจำนวนกว่าสามสิบคนกำลังสังสรรค์กันเป็นหมู่คณะในห้องรังรองแขกขนาดใหญ่ของโรงแรม มีทั้งเพื่อนที่บลูคุ้นหน้าตาดีและพวกรุ่นพี่ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เด็กสาวร่างบางในชุดสีชมพูอ่อนหวานโบกมือให้สัญญาณกับเด็กหนุ่ม
“ทางนี้จ้า…..”
บลูรีบวิ่งตรงไปยังโต๊ะข้างๆบาร์สถานที่ที่เพื่อนของเขานั่งดื่มฉลองกันอยู่โดยไม่มีเขา ก่อนจะถูกเรียกให้นั่งลงคอยฟังอย่างเงียบๆ
“พี่สกาย พวกเขามาทะไรกันที่นี่หรอครับ?”
“เจ้านั่น…” สกายชี้ไปยังชายหนุ่มชุดเกราะหนักสีดำทมิฬวาววับ “พาพวกของเขามาฉลองชัยชนะที่ปราบมังกรได้ กลายเป็นว่าวันนี้ของกินในโรงแรมเจ้านั่นเป็นคนเลี้ยงทั้งหมด”
“ดีจังเลยเนอะอยู่ๆก็มีคนมาเลี้ยงของกินฟรีๆ” ปิ่นพูดไปพลางหยิบชิ้นน่องไก่ในมือทานไปด้วย
“ไม่ต้องรีบก็ได้ปิ่น” น้ำฟ้าหัวเราะออกมาเล็กน้อย
บลูพยายามเอื้อมมือไปหยิบแก้วสำหรับกินน้ำไม่ว่ามองไปทาไหนบนโต๊ะก็มีแต่พวกไวน์ (สำหรับเด็ก) เครื่องดื่มหน้าตาประหลาดๆ ถึงแม้จะเข้าใจว่าในเกมการดื่มของพวกนี้ไม่มีผลกับร่างกายจริงเท่าไหร่แต่สภานะมึนเมาในเกมยังคงติดได้เหมือนกัน
“นี่…”
สกายหยิบแก้วทรงกระบอกใบใสมาวางอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มก่อนจะยกเหยือกน้ำส้มของน้ำฟ้ามารินให้ช้าๆจนเกือบจะเต็มแก้ว
“เด็ก น่ะ กินแค่น้ำส้มก็พอ” สกายพูดพลางกอดคอเจ้าตัวเล็กเข้ามาใกล้
ภาพรอยยิ้มของสกายเหมือนกับวันแรกที่บลูได้พบกับเขาตอนสมัยยังเป็นเด็กทารก จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย
น้ำฟ้าเป็นสาวสวยหน้าตาดีที่ใครหลายคนก็รู้จักไม่เว้นแม้แต่พวกรุ่นพี่เธอจึงตกเป็นเป้าสายตาง่ายกว่าใคร ผู้เล่นเลเวลสูงคนหนึ่งซัดเบียร์เข้าไปเต็มแก้วใหญ่เกิดอาการมึนเมาขึ้นมาไปลวนลามน้ำฟ้าเข้า ป้องเห็นจึงรีบเข้าไปช่วยแต่กลับโดนปัดอกมา
“อย่ามายุ่ง!”
เสียงตะหวาดอวดใหญ่โตของชายผู้นั้นสร้างความตกใจให้กับผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ในงาน หัวหน้าของเขายืนดูอยู่ไกลๆเพื่อสังเกตการณ์เท่านั้น
“กรุณาปล่อยด้วยครับ เห็นไหมว่าเธอไม่ชอบ” ป้องพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่สำเร็จ
เสียงเอะอะดังไปจนถึงโต๊ะของพวกปิ่นว่ามีเด็กกับผู้ใหญ่ทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง สกายเอะใจอยู่ว่าคงจะเกี่ยวกับน้ำฟ้าหรือเปล่าจึงลุกออกไปมุงกับคนอื่นๆบ้างโดยมีบลูเกาะชายผ้าคลุมตามไปด้วย ทิ้งให้ปิ่นนอนกินอาหารจนพุงกลางไป
“เกิดอะไรขึ้น ป้อง” สกายแตะไหล่ของเพื่อนชายเบาๆ
“เจ้านั้น…มันลวนลามน้ำฟ้า” เด็กหนุ่มชี้ไปยังผู้เล่นผมสีส้มเข้มตรงข้าม
“อ่าว พี่ทำงี้ไม่ถูกนะครับแกล้งเด็กได้ไง” สกายเริ่มกวนบาทาใส่
“อย่านะพี่…”
บลูดึงเสื้อคลุมของสกายไว้ไม่ให้ไปหาเรื่องเขาเพราะจากที่ดูเลเวลของคนนี้คงจะไม่น้อยเลยทีเดียว
“พวกเอ็งก็แค่เด็กอมมืออย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้านนักเลย”
บลูพยายามดึงให้สกายออกจากวงแต่เขาปฏิเสธพร้อมกับอุ้มบลูขึ้นมาแทนเพราะรำคาญที่เด็กชายตัวน้อยพยายามจะหยุดเขา
“!!”
“นั่นสินะ พวกมีกล้ามคงมีแต่เนื้อที่หัวมากกว่าสมองละสิ”
“แน่จริงพรุ่งนี้ ไปเจอข้าที่ลานประลองได้เลย เอาเพื่อนมาด้วยก็ได้อีกสองคน”อัศวินหนุ่มโกรธขึ้นสุดขีดจึงท้าสกายให้ประลองกับเขาในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที
“รับคำท้า…..”
...............................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น