ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ESP Online2 ภาค ผู้สืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #7 : Patch : 5

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 58


    Patch : 5

                ท่ามกลางกลุ่มควันลอยบางเบาอยู่ในอากาศเงาของผู้เล่นทั้งห้าแฝงตัวอยู่ใต้ไอหนาวเย็นของน้ำแข็งชั้นสุดท้ายของดันเจี้ยนการผจญภัยครั้งนี้  เสียงเล็กๆของเด็กหนุ่มลอดผ่านกำแพงกั้นที่สัมผัสได้ไปยังส่วนลึกสุดของสมองสั่งการ

    “ทุกคนได้ยินผมหรือเปล่า?

    ป้องหันกลับไปดูเพื่อนชายที่นั่งมึนงงกับสถานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ ก่อนจะตะโกนเรียกสติของเขากลับมา

    “กาย ลุกขึ้น!

    สกายได้ยินเสียงเรียกของป้องก็เรียกสติกลับมาได้  เด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างเขาตอนนี้มีวงแหวนสีฟ้าเรืองแสงออกมาจากใต้เท้าของเขา ร่างสูงพยายามจะเรียกสติของเด็กหนุ่มกับคืนแต่ทว่า

    “ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง” บลูไม่ได้ขยับปากแม้แต่น้อยแต่สียงยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเพื่อนๆ “พลังของผมทำหน้าที่ขยายความคิดและติดต่อสื่อสารถึงคนที่อยู่ไกลออกไปได้โดยไม่ต้องพูดหรือเห็นหน้า”

    “แค่คิดก็ได้งั้นหรอ?

    “ครับ”

    สกายใช้พลังพิเศษของเขานึกภาพร่างจำลองเหตุการณ์การสู้ขึ้นมา ไม่นานภาพเหล่านั้นถูกส่งไปให้กับเพื่อนอีกสามคนนอกเหนือจากบลูที่อยู่ไกลออกไป

    “พวกแกเห็นที่เราส่งไปไหม?

    “เห็นชัดแจ่มแจ้งเลยล่ะ” น้ำฟ้าตอบกลับคำถามของสกาย

    “ทำตามแผนที่วางไว้นะ”

    ห้านาทีหลังจากนั้นสกายเข้าไปยืนแทนที่ขงปิ่นซึ่งตอนแรกยืนชนรับการโจมตีจากบอสมอนสเตอร์อยู่ จากนั้นให้ปิ่นกลับไปตั้งลำกล้องปืนไรเฟิลในระยะที่ไกลออกไป ซื้อเวลาให้ปิ่นและน้ำฟ้าร่ายเวทย์ประสานกัน  หากวีนี้ได้ผลค่าพลังโจมตีที่ได้จะเพียงพอสำหรับการโจมตีบอสในครั้งเดียว

    “ป้องอุ้มบลูออกไปให้ห่างจากวงแหวนเวทย์ที”

    “ได้”

    ป้องใช้ความเร็วระดับสองวิ่งไปคว้าตัวของบลูที่ยืนอยู่หน้าเส้นวงแหวนจนตัวลอย  ให้อยู่ห่างจากวงเวทย์ตามที่สกายสั่ง แต่ทว่าการอยู่ในโหมดความสามารถพิเศษของบลูอาจจะนานเกินขีดจำกัดของเด็กไปสัญญาณจึงถูกตัดหายกลางคันทันทีที่บลูหมดสติ  ร่างกายเล็กๆของเด็กอายุเพียงสิบขวบคงดึงความสามารถพลังที่แม่เขาใช้ตอนวัยรุ่นออกมาใช้ได้ไม่เก่งพอ

    ตามแผนที่สกายวางไว้ให้ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนรู้ตำแหน่งตัวเองดีว่าควรยืนอยู่จุดไหนและทำอะไรบ้าง  น้ำแข็งก้อนโตโอบล้อมร่างของบอสสิงโตไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ปิดท้ายด้วยกระสุนปืนสายฟ้าและดาบธาตุไฟฟ้าของปิ่นประสานร่วมกับ สกิลของน้ำฟ้าสร้างความเสียหายให้กับร่างของบอส

    Thunder Shoot!

    ร่างมหึมาของบอสเริ่มจางหายไป ปิ่นรีบวิ่งเข้าไปเก็บไอเท็มตามระเบียบคนงก แต่ว่าช่องเก็บของเธอดันเต็มเสียก่อนทำให้ดาบธาตุไฟในตำนานตกไปอยู่ในกระเป๋าของป้องแทน

    “ป้อง ส่งคืนพี่มาเลย

    “ท่าจะยากพี่ปิ่น มันแลกเปลี่ยนให้ใครไม่ได้เมื่อเก็บเข้ากระเป๋าแล้ว” ผู้เป็นน้องอธิบายเหตุผล

    “ดวงซวยสุดๆเลย…..เอ้า บลูเป็นอะไรไปน่ะ”

    “สงสัยจะหมดสติไป” ป้องพลิกตัวของบลูให้หงายหน้าขึ้นมาดู เด็กชายตัวน้อยกลับนอนนิ่งไม่ขยับ

    “เดี๋ยวจัดการเอง”

    สกายรับบลูจากมือของป้องไปอุ้มเอง  นับวันทั้งสองดูเหมือนจะเป็นพี่น้องกันมากขึ้นอาจเป็นเพราะพ่อและแม่เคยเป็นเพื่อนซี้กันมาก่อน หรือว่าสกายจะเคยพบบลูมาก่อนหน้านี้

    “ยังไงก็กลับไปที่เมืองก่อน ตาม NPC Doc มาดูอาการละกัน คนรักษามาเจ็บเองแบบนี้คงยากหน่อย

     

    โรงแรมไม้สามชั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองวินเซนต์เมืองอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารและอาวุธเครื่องมือสำหรับนักสู้ ชื่อของเมืองถูกตังตามชื่อของโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนทราบว่าเมืองนี้เป็นเมืองหลักของเกม  ผู้เล่นส่วนใหญ่มีเพียงสามถึงสี่ร้อยคนเท่านั้นเนื่องจากผู้เล่นระดับเลเวลสี่สิบขึ้นไปถึงจะสามารถผ่านประตูเมืองเข้ามาได้

    “ถึงจะเก็บค่าประสบการณ์ได้ไว แต่เสี่ยงตายแบบนั้นก็ไม่คุ้มเท่าไหร่เนอะ” เด็กสาวเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น เพราะเกรงว่าห้องจะเงียบเกินไป

    “ชู่” ปิ่นแสดงท่าทีกังวลให้กับน้ำฟ้าเมื่อเห็นว่าสกายไม่ยอมเล่นด้วย

    NPC Doc ตรวจดูอาการของบลูอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหันไปบอกกับชายหนุ่มอีกคนที่นั่งข้างๆว่าไม่ต้องเป็นห่วงแล้วหายตัวไป

    “รักษาตามประวัติการรักษาเบื้องต้นในแฟ้มแล้ว อีกไม่นานคงฟื้น”

    สกายลูบหัวน้องชายตัวเล็กอย่างอ่อนโยน โดยมีป้องยืนดูอยู่ห่างๆไม่เข้าไปขัดจังหวะอะไร

    “พวกแกสองคนสนิทกันเร็วดีนะ” ป้องทัก

    “ที่จริงเราเคยเจอบลูมาก่อนหน้านี้แล้วแต่กลับลืมไป  พึ่งจะจำได้ไม่นานนี้เอง”

    “ที่ไหนหรอ?

    “โรงพยาบาล” สกายเว้นช่วงคำพูดไว้ “เมื่อตอนอายุห้าขวบไปเล่นกับอานันทกรที่โรงพยาบาลพร้อมกับพวกคุณแม่เจอชายร่างสูงผมสีดำวาวและผู้หญิงผมสีน้ำตาลสวยดวงตาสีเข้มอุ้มเด็กทารกอยู่  เด็กคนนั้นน่าจะเป็นบลู”

    “อย่างนี้นี่เอง” ปิ่นแสดงท่าทีเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างได้

    ??

    “มีอะไรหรอปิ่น?” น้ำฟ้าส่งสัยจึงเอ่ยถามดูเผื่อเพื่อนสาวจะยอมอธิบายให้ฟัง

    “สาเหตุที่บลูติดแกมากคงจะเป็นเพราะอย่างนี้แหล่ะ นอกจากพ่อแม่จะรู้จักกันแล้ว น้องยังเคยเจอนายตอนเป็นทารกด้วย….คาดว่าพลังของเด็กคนนั้นคงจะตื่นขึ้นตั้งแต่เป็นทารกเลยจำได้ว่าแกรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร”

    ปิ่นยืนอธิบายเหตุผลจากข้อสรุปต่างๆข้อมูลที่ฟังจากสกายเล่ามาก่อนจะเอะใจได้ถึงข่าวเมื่อสิบปีก่อน ถึงข้อห้ามในการใช้พลังเกินขีดจำกัดของเด็กสาวคนหนึ่ง

    “ทางที่ดีไม่ควรให้บลูใช้พลังตอนร่างกายของเขายังไม่พร้อม

    “เห็นด้วย” ป้องยืนพยักหน้าอยู่ข้างกำแพง

     

     

    เวลาประมาณช่วงบ่ายของวันเดียวกันกลิ่นหอมอ่อนๆของแซนวิชไก่ลอยคละคลุ้งไปบนอากาศลอดผ่านช่องว่างแคบๆใต้บานประตูไม้ไปเตะจมูกของเด็กหนุ่มเข้า เสียงหัวเราะคิกคักของบรรดาเพื่อนร่วมทีมดังพอที่จะได้ยินทั่วทั้งโรงแรมจนเด็กหนุ่มเองคิดว่าด้านล่างจัดงานรื่นเริงกัน

    ตึก!ตึก!

    เสียงฝีเท้าเล็กของเด็กผู้ชายสวมรองเท้าบูทเพียงหุ้มข้อค่อยๆเดินลงมาจากชั้นสองของโรงแรม แสงสว่างจ้าของดวงไฟหลากสีสาดสองไปทั่วบริเวณด้านล่างของห้องรับรอง

    “เกิดอะไรขึ้น….” บลูอึ้งไปชั่วขณะกับภาพที่เห็นตรงหน้า

    ผู้เล่นจำนวนกว่าสามสิบคนกำลังสังสรรค์กันเป็นหมู่คณะในห้องรังรองแขกขนาดใหญ่ของโรงแรม มีทั้งเพื่อนที่บลูคุ้นหน้าตาดีและพวกรุ่นพี่ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน  เด็กสาวร่างบางในชุดสีชมพูอ่อนหวานโบกมือให้สัญญาณกับเด็กหนุ่ม

    “ทางนี้จ้า…..

    บลูรีบวิ่งตรงไปยังโต๊ะข้างๆบาร์สถานที่ที่เพื่อนของเขานั่งดื่มฉลองกันอยู่โดยไม่มีเขา ก่อนจะถูกเรียกให้นั่งลงคอยฟังอย่างเงียบๆ

    “พี่สกาย พวกเขามาทะไรกันที่นี่หรอครับ?

    “เจ้านั่น” สกายชี้ไปยังชายหนุ่มชุดเกราะหนักสีดำทมิฬวาววับ “พาพวกของเขามาฉลองชัยชนะที่ปราบมังกรได้ กลายเป็นว่าวันนี้ของกินในโรงแรมเจ้านั่นเป็นคนเลี้ยงทั้งหมด”

    “ดีจังเลยเนอะอยู่ๆก็มีคนมาเลี้ยงของกินฟรีๆ” ปิ่นพูดไปพลางหยิบชิ้นน่องไก่ในมือทานไปด้วย

    “ไม่ต้องรีบก็ได้ปิ่น” น้ำฟ้าหัวเราะออกมาเล็กน้อย

    บลูพยายามเอื้อมมือไปหยิบแก้วสำหรับกินน้ำไม่ว่ามองไปทาไหนบนโต๊ะก็มีแต่พวกไวน์ (สำหรับเด็ก) เครื่องดื่มหน้าตาประหลาดๆ ถึงแม้จะเข้าใจว่าในเกมการดื่มของพวกนี้ไม่มีผลกับร่างกายจริงเท่าไหร่แต่สภานะมึนเมาในเกมยังคงติดได้เหมือนกัน

    “นี่

    สกายหยิบแก้วทรงกระบอกใบใสมาวางอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มก่อนจะยกเหยือกน้ำส้มของน้ำฟ้ามารินให้ช้าๆจนเกือบจะเต็มแก้ว

    “เด็ก น่ะ กินแค่น้ำส้มก็พอ” สกายพูดพลางกอดคอเจ้าตัวเล็กเข้ามาใกล้

    ภาพรอยยิ้มของสกายเหมือนกับวันแรกที่บลูได้พบกับเขาตอนสมัยยังเป็นเด็กทารก จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย

    น้ำฟ้าเป็นสาวสวยหน้าตาดีที่ใครหลายคนก็รู้จักไม่เว้นแม้แต่พวกรุ่นพี่เธอจึงตกเป็นเป้าสายตาง่ายกว่าใคร ผู้เล่นเลเวลสูงคนหนึ่งซัดเบียร์เข้าไปเต็มแก้วใหญ่เกิดอาการมึนเมาขึ้นมาไปลวนลามน้ำฟ้าเข้า  ป้องเห็นจึงรีบเข้าไปช่วยแต่กลับโดนปัดอกมา

    “อย่ามายุ่ง!

    เสียงตะหวาดอวดใหญ่โตของชายผู้นั้นสร้างความตกใจให้กับผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ในงาน หัวหน้าของเขายืนดูอยู่ไกลๆเพื่อสังเกตการณ์เท่านั้น

    “กรุณาปล่อยด้วยครับ เห็นไหมว่าเธอไม่ชอบ” ป้องพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่สำเร็จ

    เสียงเอะอะดังไปจนถึงโต๊ะของพวกปิ่นว่ามีเด็กกับผู้ใหญ่ทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง สกายเอะใจอยู่ว่าคงจะเกี่ยวกับน้ำฟ้าหรือเปล่าจึงลุกออกไปมุงกับคนอื่นๆบ้างโดยมีบลูเกาะชายผ้าคลุมตามไปด้วย ทิ้งให้ปิ่นนอนกินอาหารจนพุงกลางไป

    “เกิดอะไรขึ้น ป้อง” สกายแตะไหล่ของเพื่อนชายเบาๆ

    “เจ้านั้นมันลวนลามน้ำฟ้า” เด็กหนุ่มชี้ไปยังผู้เล่นผมสีส้มเข้มตรงข้าม

    “อ่าว พี่ทำงี้ไม่ถูกนะครับแกล้งเด็กได้ไง” สกายเริ่มกวนบาทาใส่

    “อย่านะพี่

    บลูดึงเสื้อคลุมของสกายไว้ไม่ให้ไปหาเรื่องเขาเพราะจากที่ดูเลเวลของคนนี้คงจะไม่น้อยเลยทีเดียว

    “พวกเอ็งก็แค่เด็กอมมืออย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้านนักเลย”

    บลูพยายามดึงให้สกายออกจากวงแต่เขาปฏิเสธพร้อมกับอุ้มบลูขึ้นมาแทนเพราะรำคาญที่เด็กชายตัวน้อยพยายามจะหยุดเขา

    !!

    “นั่นสินะ พวกมีกล้ามคงมีแต่เนื้อที่หัวมากกว่าสมองละสิ”

    “แน่จริงพรุ่งนี้ ไปเจอข้าที่ลานประลองได้เลย เอาเพื่อนมาด้วยก็ได้อีกสองคน”อัศวินหนุ่มโกรธขึ้นสุดขีดจึงท้าสกายให้ประลองกับเขาในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที

    “รับคำท้า…..

    ...............................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×