ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ESP Online2 ภาค ผู้สืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #6 : Patch : 4

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 58


    Patch : 4

                แสงแวววับจากคมดาบคู่เรียวบางสาดส่องฉายอยู่กลางลานประลองฝีมือ เสียงโห่ร้องยินดีกับชัยชนะที่เหล่าผู้เล่นพิชิตได้จากความท้าทายฝ่ายตรงข้าม  ป้ายกระดาษสีขาวหม่นมีข้อความอักษรเชิงท้าทายแจกปลิวอยู่ตามพื้นถนนเกลื่อนกลาด เด็กสาวก้มลงหยิบกระดาษแผ่นบางใต้ฝ่าเท้าขึ้นมาคลี่ออกดู

                “PvP (Party VS Party) สำหรับชิงเงินรางวัลในเกม หนึ่งแสนลีออน!

    “เป็นอะไรปิ่น” เด็กหนุ่มเดินตามมาติดต้องหยุดชะงักเมื่อเพื่อนสาวของเธอตะโกนเสียงลั่น มือข้างซ้ายของเขาจับไว้กับเด็กหนุ่มร่างเล็กอีกคนที่ยืนมองเด็กสาวอย่างงุนงง

    “ก็กระดาษใบนี่ไง มันบอกว่าเงินรางวัลตั้งหนึ่งแสนแน่ะ” เด็กสาวส่งกระดาษให้กับผู้เป็นเพื่อนร่วมทีมดู

    กระดาษสีขาวหม่นบางๆกล่าวถึงข้อจำกัดในการลงแข่งประลองเพื่อหาผู้แข็งแกร่งและเหมาะสมที่จะครอบครองอาวุธในตำนานที่มีอยู่เพียงสอบชิ้นในเกม ESP Online2 ขณะนี้

    “ขอผมดูหน่อยครับ” เด็กหนุ่มตัวเล็กเอ่ยแทรกขึ้นมา

    “ว่าแต่พวกแกเถอะทะเลาะ ตีกันยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์เลย ญาติดีตัวติดกันเสียแล้ว” ปิ่นมองเด็กหนุ่มสองคนที่ทำตัวเหมือนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ

    “นั่นสิฟ้าเองยังอิจฉาเลย พอสกายโดนน้องบลูติดแจไปก็ไม่มีใครมาคอยดูแลฟ้าบ้างเลย” เด็กสาวอีกคนพึ่งกลับจากการเดินเที่ยวรอบเช้าเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย ขาดก็เพียงแต่เด็กหนุ่มอีกคนที่ยังนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มของโรงแรมอยู่เพราะไม่ชอบอากาศหนาวๆในตอนเช้า

    “บลูเก่งจังเลยนะ ตื่นเร็วกว่าไอ้ป้องอีก” ปิ่นลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน

    “แก่กว่าน้องตั้งสี่ถึงห้าปี ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีได้เลย”

    ปิ่นได้แต่ส่ายหัวไปมากับพฤติกรรมของน้องชายตัวเองก่อนจะวนกลับมาคุยเรื่องใบปลิวสุดตื่นตาตื่นใจแผ่นนั้นต่อ

    “แต่มันกำหนดว่าเลเวลต้องถึงห้าสิบเลยนะปิ่น” น้ำฟ้ากังวลว่าในกลุ่มของพวกเธอตอนนี้ยังไม่มีใครจะไต่เลเวลได้เร็วขนาดนั้นนอกจากบลูที่อยู่เกินครึ่งทางแล้ว

    “ไม่เป็นไรยังมีเวลา  ตรงนี้ไงอีกห้าวัน(ในเกม)หรือก็คืออีกหนึ่งวัน(เวลาจริง)หลังจากนี้….พวกเราที่อยู่เลเวลสามสิบต้นๆตามได้ไม่ยากหรอก” เด็กสาวเอ่ยด้วยความมั่นใจ

    “แต่เราก็ต้องมีทุนในการเก็บเลเวลอยู่ดี” สกายแทรกความฝันของปิ่นเล็กน้อย

    “ไม่เป็นไร ยืมผมก่อนก็ได้” บลูกระตุกชายแขนเสื้อของปิ่นเบาๆ

    “เอ๊ะ!

    ไม่ใช่แต่สาวน้อยปิ่นที่แสดงท่าทีตกใจเพื่อนอีกสองคนต่างพากันอึ้งไปกับคำพูดของบลู  เด็กชายหยิบถุงเงินของขวัญที่ได้จากตอนเริ่มแรกให้ทุกคนดูว่าเขาเองยังไม่เคยเปิดไอเทมขึ้นมาใช้สักครั้งเดียว

    “แล้วที่ผ่านมานายเก็บเลเวลมาได้อย่างไร?

    “ไปเป็นกลุ่ม ผมอยู่แนวหลังคอยสนับสนุนเพื่อนๆเลยไม่เปลืองเงินค่ายาเท่าไหร่  ส่วนค่าใช้จ่ายจะได้มาจากตอนลงดันเยอะพอตัวอยู่”

    จากคำบอกเล่าของบลูทำให้สกาย ปิ่นและน้ำฟ้าดูเป็นคนฟุ่มเฟือยกับการใช้เงินมากขึ้นทั้งสามจึงตั้งใจไว้ว่าจะพยายามเก็บเงินให้ได้พอแล้วนำมาคืนบลูในภายหลัง

    “เจ้าเปี๊ยกมีเคล็ดลับการเก็บเงินดีๆแนะนำบ้างไหม?

    ระหว่างทางสำรวจอาวุธเพื่อใช้เปลี่ยนสลับกันกันเก่าสกายเอ่ยเริ่มบทสนทนากับเด็กหนุ่มตัวน้อยที่เขาจูงมือมาด้วย คนนอกที่เดินผ่านไปมาเห็นภาพน่ารักๆของสองคนก็นึกว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆเสียอีก

    “เก็บทุกอย่างที่ขวางหน้า

    ??

    “จริงๆ เริ่มแรกอย่าไปเกี่ยงว่ามันเป็นขยะราคาถูกไม่ต้องเก็บเพราะกลัวว่าจะเก็บของแพงๆในภายหลังไม่ได้”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเก็บขยะพวกขนสัตว์หรือเศษหินกันล่ะ”

    “พี่กายลองคิดดูนะ ขยะหนึ่งชิ้นราคา สองลีออน ถ้าพี่เก็บได้ร้อยชิ้นพี่จะได้ สองร้อยลีออนถูกไหม?

    “ก็ถูกนะ แต่มันก็ช้าไปอยู่ดี” สกายเริ่มงงกับคำอธิบายของบลูแต่ก็ยังยอมฟังต่อไป

    “แต่ขยะในดันเจี้ยนนะชิ้นหนึ่งต้องไม่ต่ำกว่าร้อยแน่นอน เอาหนึ่งร้อยคูณไปสักห้าสิบชิ้นก็จะได้ห้าพันแล้วไง ดีกว่าเก็บอาวุธเลเวลต่ำกินพื้นที่ราคาไม่แพงมาให้รกช่องเก็บของเปล่าๆ”

    “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”

    แนวทางการเก็บสะสมเงินออมของทั้งสามยังเดินหน้าต่อไปโดยที่ปกป้องไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย  ทั้งสามตั้งใจว่าหากเพิ่มค่าประสบการณ์ไปเรื่อยๆจนเพียงพอต่อการลงดันเจี้ยนแล้วก็จะเข้าไปเก็บขยะจากมอนสเตอร์ขายได้

    “อย่าเก็บขยะนะ เราจองหมดแล้วนี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าทีม” ปิ่นรีบสั่งอย่างเสียงแข็งขันเพราะกลัวใครจะแย่งไป

    “อะไรกัน ขี้โกงนี่ปิ่น” สกายและน้ำฟ้าประสานเสียงกัน

    “ไม่เป็นไรพี่เก็บไปเถอะผมเอาแต่ขยะที่ตกจากบอสก็ได้มันมีชั้นละตัวเอง” ป้องยอมถอยให้กับผู้เป็นพี่สาว

    “ก็ดี”

    ระหว่างทางขึ้นชั้นดันเจี้ยนไปเรื่อยๆสกาย ปิ่นและน้ำฟ้าผลัดกันเก็บของและขยะทุกชิ้นที่ตกจากมอนสเตอร์จนช่องเก็บของเต็มกันหมดโดยไม่รู้ตัว

    เสียงรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆอยู่ด้านบนสุดของดันเจี้ยน สกายหวังที่จะได้ไอเทมดีๆก่อนใครจึงรีบเร่งเข้าไปโจมตีบอสมอนสเตอร์ก่อนเป็นคนแรก

    เคร้ง!

    โล่กระจกบานใหญ่ปะทะเข้ากับกรงเล็บของสิงโตยักษ์เข้าอย่างจัง ร่างสวมชุดเกราะหนักอย่างสกาย กระเด็นออกไปกระทบกับพื้นอย่างแรง ค่าความเสียหายที่ได้รับกลับไปบั่นทอนพลังชีวิตของเขาลง

    “ถอยมาก่อนไอ้กาย” เด็กสาวตะโกนเรียกเพื่อนชายของเธอให้ออกมานอกโซนต่อสู้

    “เชอะ”

    เด็กหนุ่มหันหลังวิ่งกลับไปรวมกลุ่มกับผองเพื่อนของตน  หนุ่มน้อยในชุดผ้าคลุมสีน้ำเงินเริ่มร่ายเวทย์ใส่ตัวของไนท์หนุ่มผู้ทะเยอทะยานกว่าเหตุ

    Miracle Heal!..

    แสงสว่างสีขาวนวลฉายลงบนร่างของสกายช่วยฟื้นค่าพลังชีวิตของเขากลับมา ตัวเลขของพลังชีวิตยังคงเด้งขึ้นเหนือศีรษะของเขาอยู่ตลอดขณะที่สกิลแสดงผลเป็นระยะเวลาสามสิบวินาที

    “จะรีบไปตายหรือไง” เด็กสาวยืนบ่น

    “อย่าพึ่งทะเลาะกัน มาวางแผนก่อน” ป้องห้ามปราบเสียงโวยวายของผู้เป็นพี่สาว

    ปิ่นพาทุกคนไปแอบอยู่ก้อนหินใหญ่ด้านล่างน้ำตกเพื่อให้อยู่ไกลจากสายตาของมอนสเตอร์ เธอแตะที่ก้อนหินแถวนั้นดูชั่วครู่จึงเริ่มเอ่ยออกมา

    “เจ้าตัวนั้นมันบอสใหญ่ที่นี่ มีคนเอาชีวิตมาทิ้งไว้เยอะเลเวลมันเลยสูงตาม” พลังการอ่านความทรงจำจากสิ่งของปิ่นยังคงใช้การได้ดีในสถานการณ์คับขัน

    “เดี๋ยวเราจะวิ่งไปดูรอบๆแถวนั้นให้ว่ามีลูกน้องตัวอื่นอีกไหม”

    “ฝากด้วยล่ะป้อง”

    “กายแกใช้เวลารวบรวมสมาธิงั้นทีเด็ดแกมาใช้เลยเดี๋ยวเรากับน้ำฟ้าจะถ่วงเวลาไว้ให้” ปิ่นสั่งให้สกายใช้พลังของเขา”บลูอย่าลืมคอยฟื้นฟูพลังของพี่กับฟ้าด้วยนะ”

    “ครับ!

    ขณะที่ปิ่นยืนชนเป็นตัวล่อให้กับบอสเด็กชายบลูเองก็ต้องคอยระวังค่าพลังชีวิตของปิ่นและน้ำฟ้าถึงสองคนไม่เหมือนปกติที่ดูแต่สกายเพียงคนเดียว งานของผู้อยู่สายสนับสนุนใช้ว่ามีสกิลฟื้นฟูแล้วจะทำให้เพื่อนที่อยู่ในทีมไม่ตายได้ สายตาที่ไวและสังเกตการณได้ทีเท่านั้นจะช่วยให้ผู้เล่นในทีมอยู่รอดทุกคน

    “ยังไม่ได้อีกหรอกาย” เด็กสาวเริ่มเร่งให้ชายหนุ่มช่วย

    สกายยืนจ้องดูการโจมตีและเคลื่อนไหวของบอสมอนสเตอร์สิงโตอยู่นานกว่านาทีจึงเริ่มเคลื่อนไหว เขาพยายามที่จะเข้าไปร่วมวงกับเพื่อนทั้งสองแต่ทว่าจังหวะที่เขาส่งสัญญาณให้เพื่อนสาวทั้งสองกลับไม่เห็น มีเพียงแต่ป้องที่ยืนอยู่วงนอกเท่านั้นที่สังเกต

    “แบบนี้จะเข้าไปในวงได้ไง” สกายเริ่มกระวนกระวายใจ

    บลูที่ยืนใช้สกิลอยู่บนที่สูงด้านหลังเพื่อนทั้งสี่เห็นว่าท่าจะไม่ดีเสียแล้ว  หากปิ่นล่าถอยออกมาคนละจังหวะที่สกายเข้าไปยืนแทนหญิงสาวทั้งสองต้องโดนบอสปัดกระเด็นจนเกมโอเวอร์แน่นอน

    “สกาย!

    บลูตะโกนเรียกให้สกายหันไปสนใจเขาแทนเพื่อนทั้งสองพลางกระโดดลงจากหน้าผาที่เขายืนอยู่  ร่างเล็กๆของเด็กผู้ชายตัวน้อยหล่นทับบนตัวของไนท์ในชุดเกราะหนักทันที  เสื้อคลุมเวทย์ของบลูคงทำให้ตัวเขาเบาลงบ้าง

    “ทำอะไรน่ะ ไอ้เปี๊ยก” ชายหนุ่มสะบัดความมึนงงออกจากหัว

    “อยู่เฉยๆเหอะน่า….

    ร่างเล็กใช้ฝ่ามือเรียวบางทั้งสองข้างประกบเข้าที่แก้มของสกายเบาๆก่อนที่จะใช้หน้าผากของตนชนเข้ากับหน้าผากหนาๆของสกาย

    Telepathy Connection!

    แสงสีฟ้าอ่อนยาวเป็นสายคล้ายกับโบว์สีฟ้าโปร่งแสงไหลโอบรอบตัวสกายผ่านไปยังเพื่อนผู้เล่นอีกสามคนที่ยืนอยู่ไกลออกไป ข้อมูลตัวเลข เสียง ความคิดและความรู้สึกของสกายถูกถ่ายทอดให้เพื่อนทั้งสามคนโดยไม่รู้ตัว

    “ทุกคนได้ยินผมไหม?.......

     

    ..............................................................................................................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×