ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ESP Online2 ภาค ผู้สืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #5 : Patch : 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 58


    Patch : 3

                เสียงคลื่นของทะเลพัดเข้าชายฝั่งท่าเรืออยู่เป็นระลอกตามแรงของลมและกระแสน้ำจากจักรกลของเรือสำเภาขนาดใหญ่ ผู้คนในดินแดนเดินซื้อของในตลาดกันวุ่นวายเพราะเทศกาลลดราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อกลับมีเด็กหนุ่มอีกสองคนยืนคุยกันอย่างเงียบๆข้างสะพาน

    “นายตามพวกเรามางั้นสิต้องการอะไร?

    “ไม่ได้ตามแต่มาเนียให้มาทางนี้” หนุ่มน้อยยืนหน้าบึ้งตึงพิงกับขอบของสะพาน

    “มาเนียไม่ได้เข้ามาเล่นเกมนี้ด้วยเพราะหล่อนมีพลังจิตอยู่ในระดับห้าแล้ว!” สกายหันไปตะคอกเสียงดังใส่ผู้อายุน้อยกว่า

    “แต่มันบังเอิญต่างหาก” บลูเถียงด้วยถ้อยคำชัดเจนก่อนจะน้อยใจวิ่งหนีหายไป

    “ไปได้ก็ดี ถ้าต้องให้มาตามใจเด็กอย่างเจ้านั่นเราคงสติแตกไปก่อนแน่”

    สกายเดินทางกลับสู่ห้องพักที่ปิ่นแก้วไปจองไว้ให้ก่อนหน้านี้  ป้องเอ่ยถามความคืบหน้าจากเขาก็ได้รับคำตอบชวนผิดหวังว่าผู้เล่นคนอื่นๆมีกลุ่มกันหมดแล้ว

    “ไม่ได้เรื่องกะอีแค่หาคนเพิ่มแค่นี้เองนะ” ปิ่นเดินทางกลับจากซื้อของพร้อมกับน้ำฟ้าบังเอิญมาได้ยินเข้าจึงตำหนิออกไป

    “งั้นก็ไปหาเองสิ” เด็กหนุ่มนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งที่ในใจของเขารู้ดีว่าได้ทำผิดต่อเด็กคนนั้นไปเสียแล้ว “ไม่รู้ด้วยแล้วจะนอน”

    “ย่ะ” ปิ่นวางถุงกระดาษสีน้ำตาลหลายกองกระแทกเข้าใส่หน้าของสกายอย่างจังก่อนจะประกาศออกไปว่า

    “คอยดูนะ เราจะพาคนใหม่มาให้ดู“

    เวลาเดินทางไปไวเหมือนเรื่องโกหกตอนนี้ผ่านไปกว่าสองชั่วดมงแล้วที่ปิ่นแก้วรีบรุดออกไปจากโรงแรมแล้วยังไม่กลับมา

    “เราว่าขอออกไปดูปิ่นหน่อยดีกว่า” ป้องรู้สึกใจคอไม่ดีที่พี่สาวของตนเองหายไปนาน

    “อีกไม่นานก็กลับมาเองแหล่ะ”สกายนอนเล่นอยู่โบซาฟาเหมือนไม่มอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เพื่อนทั้งสองของเขายังคงกระวนกระวานใจอยู่

    ก็อก!ก็อก!ก็อก!

    เสียงเคาะประตูเบาๆก็ดังขึ้นก่อนจะมีเสียงของกุญแจไขเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสามหยุดชะงักฟังเสียงไปสักพักก่อนจะเกี่ยงกันไปเปิดประตู

    “ป้องเปิดประตูดิ” เด็กหนุ่มส่งสายตาไปให้ผู้เป็นเพื่อน

    “เออ”ปกป้องคอยๆแง้มประตูออกอย่างช้าๆก็พบกับร่างของหญิงสาวและเด็กชายอีกหนึ่งคนยืนคิ้วขวมดอยู่ด้านนอก “อุย  พี่ปิ่นกับ….!

    ป้องเปิดประตูออกกว้างเผยให้เพื่อนทั้งสองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มที่ทะเลากับสกายเมื่อตอนกลางวันกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง

    “เฮ้ย จะเอาไอเปี๊ยกนี้เข้ากลุ่มหรือไง?” สกายชี้ไปที่ตัวของบลู

    “ก็ใช่น่ะสิ เนี่ยไปช่วยเขาเก็บของมาไม่มีมือเปิดประตู  ไอ้ป้องก็เปิดช้าจริงๆหนักจะตาย” ปิ่นบ่นพลางลากบลูไปนั่งลงกันโซฟาตัวเล็กที่อยู่ตรงข้ามกับสกาย

    “ไม่ เราไม่ยอม”สกายค้านที่จะให้บลูเข้าร่วมทีเพราะคิดว่าเด็กหนุ่มมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างจึงตามพวกเขามา

    “คิดมากไปป่ะ?” ปิ่นถามด้วยความโมโหเหมือนกับรู้ว่าจริงๆแล้วบลูตามมาทำไม “อย่าไปฟังคนแก่ขี้บ่นเลยนะบลู ไอกายมันขี้ระแวงเกินเหตุ เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องด้านบนทางขวามือนะ”

    เด็กหนุ่มรีบคว้าข้าวของของตนขึ้นไปยังชั้นสองอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเสียงของสกายที่ตะวาดใส่ปิ่นแก้ว

    “เฮ้ย ให้มันนอนกับเราอีกก็รู้อยู่ว่าไม่ถูกกัน”

    “เอาน่าบลูเป็นเด็กผู้ชายจะให้นอนกับพวกผู้หญิงได้ไง” ป้องเดินเข้ามาตบไหล่ของสกาย

    “ใจเย็นๆก่อนนะกาย  ปิ่นคงมีเหตุผลที่พาเขามา” น้ำฟ้าเข้าไปจับแขนให้สกายนั่งลงบนโซฟาก่อนที่จะฟังปิ่นแก้วอธิบาย

    “ใช่ๆ แกน่ะนั่งลงไปเลย”

    “ชิ  เห็นว่าน้ำฟ้าขอไว้นะถึงยอม” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาช้าๆพร้อมกับกอดอกแน่น

    “แกรู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ชื่อบลูน่ะอยู่ชั้นเดียวกับพวกเรา….” สกายไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักไปเท่านั้น

    “แกรู้หรือเปล่าว่าบลูเป็นลูกของน้าหทัยกับอาศิลา?”ปิ่นจ้องหน้าสกายอย่างเขม็ง

    “ใครอ่ะ?ไม่เห็นจำได้”

    “อ๋อ  คนที่เป็นเจ้าของบริษัทออกแบบเทคโนโลยีของโรงเรียนใช่ไหม?” น้ำฟ้ารีบขยายความให้สกายฟังทันที

    “แล้วไง  ใช่ว่าเป็นลูกคนรวยจะทำอะไรได้ไปหมด”

    “เปล่าเราแค่จะบอกว่าน้าทหัยเป็นเพื่อนซี้สุดเลิฟของแม่แกไง ถ้าคุณป้าภัทรรู้เข้าว่าแกไปแกล้งน้องแบบนี้คิดว่าชะตาคงขาดอีกในไม่ช้า” ปิ่นพูดพลางส่ายหัวไปมา

    “แกรู้ได้ไง มันอาจจะโกหกก็ได้”

    “ไม่ผิดแน่เด็กที่เป็นดับเบิ้ลเอสเปอร์น่ะมีแค่บลูลูกชายของน้าหทัยกับ น้องอลิสลูกสาววัยสองขวบเศษของคุณโรซารี่เท่านั้น” ปิ่นนั่งลงที่โซฟาพลางครุ่นคิด

    “ดับเบิ้ลเอสเปอร์?” นอกจากปิ่นแล้วยังไม่มีใครรู้ว่าคำนี้มีความหมายว่าอย่างไรกันแน่  เด็กสาวเรียกใช้ฐานข้อมูลเอสเปอร์ออกมาจากเซิฟเวอร์เกม

    แผ่นเอกสารลายโฟลเดอร์สีเหลืองเด่นสะดุดตารายล้อมตัวปิ่นแก้วอยู่เต็มไปหมดจนกระทั่งหยุดการค้นหา แฟ้มหมายเลย 001 เป็นแฟ้มที่ต้องใช้รหัสในการเข้าชมแต่ทว่าปิ่นแก้วสามารถถอดรหัสได้อย่างง่ายดายเพราะเธอมีตัวเลขที่ได้จากพ่อของเธออยู่แล้ว

    “ทำไมน้องไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลยอ่ะ” ป้องพูดด้วยน้ำเสียงชวนน้อยใจ

    “ก็กะจะบอกแกตอนที่ถึงเวลาแล้วต่างหาก  แต่มันไม่มีโอกาสเท่าไหร่” เด็กสาวแตะที่ไอคอมสีเหลืองสดเบาๆรูปภาพของเด็กชายตั้งแต่วันแรกเกิดถึงปัจจุบันก็ปรากฏขึ้นมา  ภาพทั้งหมดเป็นรูปของบลูที่มีลายเซ็นของผู้เป็นพ่อกำกับอยู่ทุกใบ  ปิ่นอธิบายว่าทุกคนในที่นี้ก็มีโฟลเดอร์ข้อมูลของตัวเองอยู่ขึ้นอยู่กับว่าผู้เป็นพ่อและแม่ได้นุญาตให้เข้าชมได้หรือไม่

    “ดูตรงนี้

    ปิ่นแก้วชี้ไปยังหนังสือเล่มสีน้ำเงินขอบสีขาวที่มีอักษรอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่เมื่อลองอ่านดูดีๆแล้วมันเป็นประวัติการเกิด ความสามารถและผลการวิจัยที่บริษัทอีเอสพีได้ทำไว้ให้กับเด็กที่เป็นเอสเปอร์ทุกคนตอนแรกเกิด ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะเติมเต็มเอง

    Blue 

    Code : Double Esper [Psychokinesis and Telepathy]

    Age : 10……………………..



    “ทำไมมีแต่พวกบลูที่เป็นดับเบิ้ลเอสเปอร์ล่ะในเมื่อ พ่อแม่ของพวกเราก็เคยเป็นเหมือนกัน” น้ำฟ้ายังสงสัยกับความสามารถที่ซ้อนทับกัน

    “ไม่ใช่เคยเป็น  แต่พ่อและแม่ของบลูและอลิสยังมีพลังของเอสเปอร์อยู่….ไม่เชื่อก็ลองถามเจ้าตัวดูเองสิ” เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปมองยังชั้นสองของโรงแรมหนุ่มน้อยที่แอบฟังอยู่นานแล้ว

    “อ่า….” บลูค่อยๆเดินลงบันไดอย่างช้าๆเพราะกลัวจะโดนดุเอาถ้าส่งสียงดังพลางชายตามองสกายที่นั่งหงุดหงิดอยู่บนโซฟา

    “ถึงจะเป็นดับเบิ้ลเอสเปอร์แต่ผมก็ยังใช้พลังของคุณพ่อไม่เก่งเท่าไหร่…..” เด็กหนุ่มนั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนโซฟา

    “คิดว่าพลังของเจ้าเปี๊ยกนี้จะมีประโยชน์กว่าของเราหรือไง” สกายขมวดคิ้ว

    ปิ่นลากตัวของป้องและสกายให้ยืนขึ้นพร้อมกับเข้าไปใกล้ตัวของเด็กชายอีกคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม  ก่อนที่จะรวบทั้งสามคนเข้ามากดไว้แน่น

    “แต่ที่เราพาบลูมาไม่ใช่เพราะพลังหรอก แต่ เพราะบลูเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพวกเราน่ะสิ” เด็กสาวยิ้มอย่างมีความสุข

    “ฝากตัวด้วยนะครับ” บลูเข้าไปกอดปิ่นกลับแต่กลับถูกป้องดันเอาไว้

    “เฮ้ยๆอย่าเล่นที่เผลอนะ ไปทางนู้นเลย” ปกป้องดันให้เด็กชายตัวน้อยไปเกาะติดกับสกายที่หน้าไม่รับแขกแทนก่อนจะภาวนาให้มันปล่อยผ่านไป

    …..

    สกายไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจแต่อย่างเพียงแต่จับคเสื้อของบลูขึ้นมาคุยใกล้ๆ

    “อย่าก่อเรื่องก็แล้วกัน”

    “ครับ”

    บลูใช้มือทั้งสองข้างจับเข้าที่แก้มของสกายก่อนจะเข้าไปหอมฟอดใหญ่ๆใกล้ สร้างความตื่นตกใจให้น้ำฟ้าและป้องอย่างมาก ผิดกับปิ่นที่ดูเฉยๆไม่โวยวายอะไร

    “ก็บลูเกิดที่เมืองนอก นั่นถือว่าเป็นการทักทายไงเจ้าโง่”

    ปิ่นปิดเอกสารที่แสดงอยู่รอบตัวเธอลงก่อนจะปิดสมุดเล่มสีน้ำเงินหนาที่กดออกมาใช้ใส่ลงในกระเป๋าเดินทางของเธอเสมือนว่าสมบัติชิ้นนี้ผู้เป็นน้าและอายกให้กลับเข้าห้องนอนไป

    “หวังว่าเจ้าตัวเล็กจะมีอะไรสนุกๆให้ดูนะ”

    ...............................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×