คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Patch : 1
Patch : 1
แสงแดดยามรุ่งอรุณฉายส่องลงผ่านหน้าต่างกระจกใสของห้องนอน เสียงนกกระจอกและนกเขาตัวน้อยที่เกาะอยู่ตรงขอบหน้าต่างคุยกับจ้อกแจ้กไปมาสร้างความรำคาญให้กับผู้ได้ยินแต่เสียงที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั้นคงจะเป็นนาฬิกาปลุกดิจิตอลสีขาวสะอาดที่ตั้งโปรแกรมปลุกไว้เวลาหกนาฬิกาของทุกวัน
กริ๊ง!!
“สกาย หกโมงแล้วลงมาอาบน้ำ ทานข้าวเช้าเร็ว” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มบ่นเหมือนกับเป็นคุณแม่ดังขึ้นมาจากชั้นล่างของตัวบ้าน
“ครับๆ คุณอา”
สกายเด็กหนุ่มชั้นมัธยมศึกษาปีที่สองทับสองของโรงเรียนเซนต์วินเซนดีดตัวออกจากเตียงนอนอันหนานุ่มกว่าสี่ฟุตรีบวิ่งลงไปยังชั้นหนึ่งของบ้านก่อนที่เสียงประกาศิตของชายหนุ่มอีกคนจะดังขึ้นเป็นรอบที่สอง เขาพบว่าผู้เป็นอายังทำอาหารเช้าไม่เสร็จแต่กลับปลุกเขาขึ้นมาก่อนเสียแล้ว
“โธ่อา ผมถึงว่าอาหารเช้าเสร็จแล้ว”
“ไปอาบน้ำก่อนเลย ถ้าไปสายอาจะบอกแม่แกนะ”
“อย่านะๆ ไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ”
คุณอาของสกายมีชื่อว่า นันทกร น้องชายสุดรักสุดหวงของจิราภัทรปัจจุบันเป็นคุณหมอแผนกเด็กเล็กและทำหน้าที่ดูแลหลานชายตัวแสบให้กับพี่สาวที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศกับสามี สกายกลัวการลงโทษของแม่มากกว่าของนันทกรเสียอีกดังนั้นผู้เป็นอาจึงเอาจิราภัทรมาใช้เป็นคำขู่แก่สกายเสมอ
“ไข่ดาวอีกแล้วหรอ?” เด็กหนุ่มเริ่มบ่นทันทีที่เห็นข้าวเช้าเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน
“มีimagination ไม่ใช่หรอจินตนาการข้าวเช้าหรูๆเอาเองละกัน อาจะต้องรีบไปเข้าเวร…อ่อ อย่าลืมล้างจานด้วยนะ ปิดบ้านให้ดีก่อนออกไปด้วย” นันทกรรัวคำสั่งใส่หลานเป็นชุดก่อนจะรบเร่งออกจากบ้านไปด้วยท่าทีที่ร้อนลน
“ให้ตายสิ…” สกายใช้ส้อมจิ้มไข่ดาวแตกออกเป็นสี่ชื้นเหมือนกับพิซซ่าแล้วใช้ขนมปังประกบก่อนใส่ซอสมะเขือเทศทาน
ก่อนออกจากบ้านสกายไม่ลืมที่จะปิดน้ำ ไฟฟ้าและเตาแก๊สก่อนทุกครั้งตามคำสั่งของผู้เป็นอาเพราะตอนนี้บ้านหลังนี้มีเพียงเขากับนันทกรเท่านั้นที่อาศัยอยู่ โรงเรียนเซนต์วินเซนไม่จำเป็นต้องเอากระดาษ สมุด หรือปากกาไปเรียนเพราะเขาสอนทุกอย่างด้วยวิวัฒนาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านทางระบบเสมือนจริงฮอโลแกรมและหนังสือระบบสัมผัส นอกจากนี้เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนเฉพาะเด็กที่มีความสามารถพิเศษอย่างเขาเท่านั้นซึ่งตอนนี้มีเพียงสามพันกว่าคนจากทั่วมุมโลก
“ไงกาย หน้าบูดแต่เช้าเชียว” ปกป้อง เพื่อนชายที่เรียนชั้นเดียวกับสกายเข้ามาตบตีไหล่ของเด็กหนุ่มอย่างแรงตามมาดด้วยพี่สาวสุดห้าวของเขา ปิ่นแก้ว
“มาเรียนเหมือนกับบังคับมาฆ่าตัวตายอย่างนั้นแหล่ะ” ปิ่นบ่นที่เห็นสกายทำหน้าไม่รับแขกมาเจอเธอกับน้องชายทุกเช้า
ทั้งสามยืนทะเลาะกันได้ไม่นานสาวน้อยสุดสวยไอดอลของมัธยมต้นวินเซนอย่าง น้ำฟ้า ก็โผล่ออกมาแทรกทันที
“แหม ยังสนิทกันเหมือนเคยเลยนะ” เด็กสาวส่งยิ้มต้อนรับให้กับทั้งสาม
“ไม่ใช่เสียหน่อยฟ้า…” ปิ่นปลงกลับความคิดอันใสซื่อของผู้เป็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกัน
“รีบไปเถอะเดี๋ยวแปดโมงก่อนประตูปิดก็เข้าไม่ได้กันพอดี” ป้องรีบเตือนสติเพื่อนๆก่อนรีบวิ่งไปรอทั้งสามที่หน้าประตูก่อนแล้ว ปกป้องได้รับความสามารถพิเศษของผู้เป็นแม่อย่างนริศามาส่วนผู้เป็นพี่สาวได้รับความสามารถในการอ่านความคิดสิ่งของจากผู้เป็นพ่อ นที
“สำหรับแกไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้มั้ง” ปิ่นแซวน้องชายของเธอเอง
เสียงนาฬิกาดังบอกเวลาแปดนาฬิกาตรงหน้าเสาธง ผ้าแถบสีสามสีถูกชักขึ้นช้าๆขึ้นสู่ยอดเสาเด็กนักเรียนหยุดฟังเสียงเพลงสรรเสริญวีรบุรุษและบรรพชนก่อนจะเริ่มเดินต่อไปหลังจากเพลงจบ
ห้องเรียนคลาส ACE มีทั้งหมดสองห้อง(ต่อชั้น)เป็นคลาสสำหรับเด็กที่มีพลังพิเศษระดับสี่ขึ้นไปส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับผู้ที่พ่อแม่เคยมีพลังระดับเลเวลห้ามาก่อนแต่ภายหลังถูกริบคืนเพราะการปิดตัวลงของเกม ESP Online ประกอบด้วยนักเรียนเพียงยี่สิบสี่คนเท่านั้นมีตั้งแต่อายุสิบขวบถึงสิบแปดปี
“ขอให้นักเรียนคลาส ACE ทุกคนไปรวมตัวที่หอประชุมค่ะ” เสียงประกาศตามสายบอกให้นักเรียนระดับพิเศษไปรวมตัวกันสร้างความแตกตื่นให้ไม่น้อยเพราะนี่คงเป็นสัญญาณของการจัดอันดับความแข็งแกร่งของนักเรียนคลาสนี้
“ให้ตายสิขึ้นเทอมใหม่ก็ต้องจัดใหม่อีกหรอ?” สกายบ่นพลางเดินตัวลอยไปรวมกับเด็กคนอื่นๆ
มีเพียงปกป้องเท่านั้นที่ไม่ได้มาเรียนอยู่กลุ่มนี้เนื่องจากพลังของเขาเป็นเพียงผลทางกายภาพไม่มีอิทธิพลต่อความคิดจึงถูกปัดให้เป็นคลาส A แทน
“ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนสู่การศึกษาเทอมใหม่นะคะ ทางโรงเรียนประกาศให้มีการเรียนการสอนวิชากลยุทธ์และการวางแผนเพิ่มขึ้นมาในหลักสูตร ด้วยการจำลองแบบ MMORPG สำหรับคลาส ACE และ A-C นะคะ”
“แบบนี้วิชาเรียนก็เพิ่มขึ้นอ่าดิ อะไรกัน” ปิ่นยืนหน้างิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างน้ำฟ้าและสกาย
“นอกจากนี้มีนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่และเพิ่มระดับคลาสขึ้นมา ขอเชิญแนะนำตัวได้เลยค่ะ”
“นิลดา ชื่อเล่น มาเนีย ย้ายมาจากคลาส A ขอฝากตัวด้วย” เด็กสาวรูปร่างเพรียวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไสวยืนกล่าวแนะนำตัวอยู่เบื้องหน้าเพื่อนๆ
“ภานุวัฒน์ ชื่อเล่น บลู ครับ….พึ่งย้ายมา…ขอฝากตัวด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มอายุราวสิบชวบยืนเขินอายอยู่ข้างมาเนีย
เด็กผู้หญิงหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่าทางเขินอายของเด็กผู้ชายน่ารักผิดกลับฝ่ายหญิงที่ดูน่าเกรงขามและเข้าถึงตัวอยาก แต่ทว่าท่าทีของมาเนียดูเหมือนจะรู้จักหนุ่มน้อยบลูมาก่อนเพราะเขาตามติดหล่อนแจไม่ห่างไปไหน
ที่โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้แบ่งระดับชั้นเหมือนโรงเรียนมัธยมอื่นทั่วไป ไม่ได้เอาอายุมาเป็นเกณฑ์วัดว่าเด็กควรจะอยู่ชั้นไหน ระดับสติปัญญาและความคิดต่างหากที่เป็นตัวตัดสินว่ามีวุฒิภาวะเพียงพอต่อการเรียนชั้นใด
“ดูเหมือนว่าเจ้าหนูนั่นจะอยู่ชั้นเดียวกับพวกเรานะ” ปิ่นส่งสายตาให้สกายหันไปมองกลุ่มนักเรียนหญิงที่มุงกันอยู่
“แล้วไง? ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย”
“ใช่ๆ” เสียงเรียบง่ายของปกป้องแทรกขึ้นกลางคันทำให้ผู้เป็นพี่สาวผงะเล็กน้อย
“มาชั้นนี้ได้ไงเนี่ย!?”
“ก็เขามีประกาศอยู่ไม่ใช่หรอ ว่าจะมีวิชาใหม่ที่พวกเราทุกคลาสจะเรียนพร้อมกัน” ป้องส่งยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสามเพราะนี่เป็นเพียงวิชาเดียวที่เขาจะได้มาเรียนรวมกับเพื่อนๆ
ห้องเรียนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาประมาณไม่ได้ว่าใช้พื้นที่ไปกี่ร้อยกิโลเมตรอาจเป็นเพราะพื้นผนังทาด้วยสีขาวบริสุทธิ์จึงทำให้ดูกว้างกว่าความเป็นจริงก็เป็นได้ ชายหนุ่มวัยกลางคนปรากฏตัวอย่างมีชั้นเชิงรูปแบบภาพเสมือนจริงเดินอธิบายกฎการเรียนวิชาใหม่อย่างชัดเจน
“มันก็เหมือนตอนพวกเธอเล่มเกมนั่นแหล่ะ เพียงแต่มีอะไรที่ซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้นเอง”
“วิชานี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ครับ” เด็กหนุ่มแถวหลังสุดตะโกนถามความเห็นของผู้อำนวยการ
“ทักษะการเอาตัวรอด การตัดสินใจและการอยู่ร่วมกัน มันเป็นพื้นฐานที่พวกเจ้าต้องมีในปัจจุบันนี้ ใช่ว่ามีพลังพิเศษจะสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างตามต้องการ หากพวกเจ้าไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของพลังที่มีแล้วจะเอามันมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร”
จุดประสงค์ของรายวิชาผู้อำนวยการได้ให้คำตอบไว้อย่างชัดเจน ถึงแม้คำพูดจะไม่ใช้คำที่ยุ่งยากซับซ้อนแต่หลายคนก็ยังตีความหมายไม่ออกว่าท่านต้องการสื่ออะไร แต่ละทีมแบ่งออกเป็นทีมละสี่คนตามความสนิทสนมของนักเรียน เพียงแต่ภายในเกมจะมีตัวละครลับอยู่ภายในเมืองที่สุ่มขึ้นมาจากบรรดานักเรียนคลาสพิเศษที่ได้รับเลือกจากผู้อำนวยการเท่านั้น
“เราก็อยู่กันสี่คนนี่แหล่ะไม่ต้องการตัวละครพิเศษหรอก” สกายพูดพลางยืนกอดอกโดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาอันแหลมคนคอยจับตาดูเขาอยู่ตลอดเวลา
รายวิชานี้ใช้เวลาในการศึกษานานกว่าหนึ่งสัปดาห์อาจารย์จึงให้นักเรียนเตรียมพร้อมก่อนจะเข้ารับการเรียนของจริงด้วยการฝึกสมาธิ การตัดสินใจเบื้องต้น การดำรงชีพพื้นฐานด้วยวิธีการลูกเสือของสมัยก่อนและเป้าหมายของเกมนี้
“เป้าหมายอยู่ที่ หอคอยบาเบลชั้นสุดท้าย”
“มีไรอยู่ที่นั่นหรือคะ อาจารย์?”
“อันนี้อาจารย์เองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเกมนี้บริษัท อีเอสพี คอเปอเรชั่น พัฒนามาจากเกม ESP Online อีกที” อาจารย์สาวเปิดเอกสารออกดูแต่ละหน้าด้วยความเร็วสูง “ตอนนี้มันเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า ESP Online 2 :The true heir”
แค่ฟังชื่อก็ชวนฉงนใจอยู่แล้วแต่สำหรับนักเรียนชายหลายคนอาจคิดว่ามันคงน่าสนุกดีที่การเรียนสามสิบหน่วยของพวกเขาอยู่ในเกมนี้ทั้งหมด นอกจากจะประหยัดเวลาในการเรียนแล้วคงจะสนุกมากกว่ามานั่งเรียนทฤษฎีตามหนังสือก็เป็นได้
“สวัสดีนักเรียนคลาสพิเศษทุกคน วันนี้ทางโรงเรียนจะเปิดให้สร้างตัวละครตามความชอบของตัวเองทิ้งไว้เพื่อใส่ไอเทม(ของ)สำหรับการผจญภัยเบื้องต้นให้ ขอย้ำว่าควรสร้างตัวละคร เลือกอาชีพให้เข้ากับพลังที่พวกเธอมี ไม่เช่นนั้นการต่อยอดของพลังพิเศษจะไม่ได้รับการเพิ่มระดับขึ้น”
สกายและเพื่อนทั้งสามคนสร้างตัวละครที่หน้าตาใกล้เคียงกับตัวเองเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปแล้วเพื่อนๆจะจำไม่ได้และดูขัดตาไป ESP2 มีอาชีพให้เลือกมากว่าESP เพิ่มขึ้นจึงยากที่นักเรียนจะเลือกซ้ำกันได้ถ้าใจไม่ตรงกัน
รายชื่ออาชีพที่เพิ่มเข้ามาและปรากฏอยู่ในเกม ESP Online 2 : The true heir
Beginner |
Mage |
Speller |
Confessor |
Oracle |
Doll Master |
||
Demeter |
Seraph |
||
Fighter |
Samurai |
Dualist |
|
Swordsman |
Escort |
||
Thief |
Assassin |
||
Hunter |
Trigger |
Air Walker |
|
Gambler |
Slayer |
||
Acrobat |
Crown |
||
Cleric |
Miko |
Kanangi |
|
Priest |
High Priest |
||
Versifier |
Singer |
||
Merchant |
Dealer |
Treasure Hunter |
|
Huntsman |
Seeker |
||
Alchemist |
Beast Master |
ความคิดเห็น