คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter : 1
บทที่ 1
ซันชายด์อาณาจักรขนาดเล็กที่อยู่ทางด้านตะวันออกของเมืองหลวงเนเชอรัล สถานที่ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกการเกษตรที่สำคัญสำหรับส่งออกให้แก่อาณาจักรข้างเคียง แต่ทว่าข้อเสียของเมืองอยู่ตรงที่ขาดแคลนกำลังคนในการผลิตพืชผลทางการเกษตร
จากเด็กชายตัวน้อยในวันนั้นได้เป็นหนุ่มแล้วหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาผ่านไปได้กว่าสิบห้าปี ตัวเขาเองหากผู้เป็นแม่ไม่พาหนีตั้งแต่ยังเด็กคงถูกกำจัดทิ้งในฐานะข้อบกพร่องที่เกิดจากความรักต้องห้ามของฝ่ายพ่อและแม่ ทุกวันนี้ลมหายใจของเขายังระลึกถึงเหตุการณ์วันนั้นได้อย่างแม่นยำถึงแม้ว่าบางอย่างจะเริ่มลืมเลือนไปบ้างก็ตาม
“นาโอโตะ!”
เสียงแหลมสูงของหญิงสาวตะโกนดังลั่นเพื่อร้องเรียกให้ปลายทางตอบกลับโดยด่วน คงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นจึงทำให้ ” ชิโอริ ” ผู้เป็นน้าสาวรีบร้อนถึงขนาดนี้
“เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”
“รีบเก็บของเดี๋ยวนี้เลย!”
เหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับนาโอโตะ เพราะหลังจากที่นาราชายผู้อยู่ในฐานะแม่ของเขาได้พาหนีออกจากโลกเบื้องบนตัวเขาและนาราถูกตามล่าจากฝ่ายสภาอาวุโสของสวรรค์ถึงข้อพิพาทเรื่องพลังของนาโอโตะที่ได้รับมาจากการสืบทอดสายเลือดแห่งราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ แต่ทว่าเลือดของมนุษย์อีกครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนอบยู่ในตัวเขานั้นทำให้สภาสวรรค์ต้องการที่จะกำจัดเขาทิ้ง น้าของนาโอโตะจึงจำใจต้องเปลี่ยนที่อยู่ตลอดเวลาเมื่อพบว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเมือง
“ครั้งนี้เราจะไปที่เมืองสตาร์ดัส”
สตาร์ดัสนครแห่งการท่องเที่ยว ไม่ใช่เพียงแต่การพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้นแต่เมืองแห่งดวงดาวนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องของกินและสถานที่สวยงามยามค่ำคืน ชิโอริคาดว่าหากพวกเธอปะปนอยู่กับบรรดาชาวพื้นเมืองอาจจะทำให้หาตัวพวกเขาได้ยากขึ้น
“สตาร์ดัส…”
ท้องฟ้ายามค่ำคืนของเมืองอื่นๆอาจจะดูเงียบเหงาหรือสีสันจากแสงไฟตระการตาไปบ้าง แต่สำหรับนครแห่งดวงดาวนี้ท้องฟ้ายามค่ำคืนกลับเต็มไปด้วยแสงของดวงดาวไม่มีแสงสีของตึกหรือสถานบริการมาบดบังความสวยงามนี้ เพราะพื้นที่แต่ละส่วนถูกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
“คืนนี้เราจะพักที่นี่ พักผ่อนเสียพรุ่งนี้เราจะไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้กัน”
ชิโอริญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของนาโอโตะ เธอมีอายุห่างจากผู้เป็นหลานไม่มากเท่าไหร่ก็ราวสิบกว่าปีได้หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเธอเล่าให้นาโอโตะฟังว่าคืนวันที่พระจันทร์เต็มดวงอยู่กลางผืนฟ้า นาราพี่ชายของตนที่หายไปกว่าห้าปีได้กลับมาพร้อมกับเด็กชายราวห้าขวบพร้อมกับไหว้วานให้เธอดูแลลูกชายแทน จากนั้นเขาก็หายตัวไปไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนหรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ที่รู้นั้นมีอย่างเดียวคือผมต้องตามหาพ่อให้เจอ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเจ้าจะเป็นลูกชายของนาราจริงๆ”
“ทำไมท่านน้าถึงรับปากจะดูแลผมแทนท่านแม่ล่ะครับ?”
ชิโอรินิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากบอกเหตุผลที่เธอเก็บเงียบไว้นานถึงสิบห้าปี
“สักวันหนึ่งเด็กคนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบการปฏิวัติของโลกสวรรค์ ข้าไม่อยากให้เขาไปฆ่าใคร ไม่มีความรู้สึก ทำตามแต่คำสั่งเพียงอย่างเดียว ได้โปรดเถิดน้องสาวของข้าช่วยสอนสิ่งที่เรียกว่าความรักให้กับเด็กคนนี้ด้วย”
“นี่เป็นคำพูดของนาราแม่ของเจ้า…ดูสิตาของเจ้าสีเหมือนนารามากนัก”
หญิงสาวพูดพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือของเธอยังคงสัมผัสกับศีรษะของนาโอโตะอย่างอ่อนโยนทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ตาม
“นอนเถอะพรุ่งนี้พวกเรามีภารกิจต้องทำ”
ใช่แล้วอาชีพของชิโอริคือมือปราบสังหารปีศาจที่ปรากฏอยู่ตามพื้นที่ทั่วไปบนโลกมนุษย์ ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมามนุษย์ได้เข้าใจแล้วว่าสวรรค์ไม่มีทางมาปราบปีศาจให้ชนชั้นต่ำอย่างพวกเขาได้พวกเขาจึงดิ้นรนที่จะหาทางจัดการกับปีศาจเหล่านั้นเองด้วยการสร้างอาชีพอย่างนักล่าขึ้นมา
.
.
.
แสงตะวันสาดส่องลงบนใบหน้าของร่างบาง แต่ใช่ว่ามันจะทำให้เขาลุกจากเตียงได้ง่ายขึ้นตรงกันข้ามนาโอโตะกลับขดตัวนอนในผ้าห่มเพื่อหลีกเลี่ยงแสงจากพระอาทิตย์แทน เหมือนเวลานอนจะไม่ค่อยเป็นใจสำหรับผู้เป็นหลานเมื่อน้าสาวเริ่มรัวเคาะประตูเป็นชุดใหญ่เพราะเห็นว่าผู้เป็นหลานชายไม่ยอมลุกมาเปิดให้เสียที
ปัง!ปัง!ปัง!
“จะนอนไปถึงไหนกัน นาโอโตะ!”
“ครับๆ”
คำสั่งจากน้าสาวถือเป็นประกาศิตจากพระเจ้าก็ว่าได้ นาโอโตะพยายามทำตัวเป็นเด็กดีเพื่อที่จะไม่สร้างความลำบากให้ผู้เป็นน้าอีก การที่เธอรับเขามาเลี้ยงไว้นั้นถือว่าเป็นบุญคุณที่แทบจะทดแทนไม่หมดเลยทีเดียว
ช่วงเช้าของแต่ละวันจะมีการเปิดตลาดสดของกินมากมายในอาณาจักร ผู้ปกครองประเทศแห่งนี้เป็นผู้มีความรู้ด้านการผลิตวัตถุดิบและสูตรการทำอาหารต่างๆจึงทำให้เมืองแห่งดวงดาวนี้เป็นศูนย์รวมอาหารนานาชนิดจากทั่วโลก สองคนน้ากับหลานพากันเดินซื้อของใช้ส่วนตัว เนื่องจากตอนย้ายที่อยู่ทั้งสองแทบไม่ได้หยิบของจิปาถะอื่นมาเลยนอกจากเงินและเสื้อผ้า ถึงแม้ว่าทั้งสองจะแต่งกายคล้ายคลึงกับชนพื้นเมืองของที่นี้แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าอาจจะมีใครจำรูปร่างของพวกเขาได้ ชิโอริจึงบอกให้ผู้เป็นหลานชายคลุมผ้าไว้ตลอดเวลา
ช่วงเวลาของตลาดสดตอนเช้าผู้คนผ่านไปมาค่อนข้างหนาแน่น เด็กหนุ่มผู้ซึ่งตื่นตาตื่นใจไปกับสินค้ามากมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้พลัดหลงกับผู้ปกครองของเขาเสียแล้ว ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็ไม่คุ้นตาหรือว่าเขาจะกลายเป็นเด็กหลงไปเสียแล้ว
“โอ้ย!”
นาโอโตะร้องเสียงดังลั่นเมื่อพบว่ามีใครบางคนเดินชนเขาเข้าอย่างจัง ทำให้ร่างบอบบางของเขาลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นอย่างง่ายดาย ชายร่างสูงผู้มีสีผมที่แปลกตาจากคนทั่วไป สีแดงเข้มของเส้นผมเขานั้นเหมือนถูกย้อมทับด้วยสีดำเพื่อปกปิดอะไรบางอย่างทำให้ไม่เป็นสีธรรมชาติอย่างคนอื่น
“โทษที เจ้าตัวเตี้ยข้าเลยไม่ทันสังเกตน่ะ”
ชายร่างสูงใช้มือของตนรีบดึงให้ร่างบางที่นั่งอยู่ที่พื้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว พลังกำลังอันมหาศาลเหนือกว่ามนุษย์ก็พอทำให้นาโอโตะคาดเดาได้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ชนคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาว่าเราเตี้ยอีก”
นาโอโตะไม่ได้ติดใจเรื่องพลังกำลังของชายคนนี้เสียเท่าไหร่แต่เขากลับ สะกิดใจกับคำพูดเล็กน้อยอย่างคำว่า “เตี้ย”เสียได้
“อ่า…”
ร่างสูงไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับคำพูดของร่างบางที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างไรดี ได้แต่ยืนเกาหัวอ้ำอึ้งไปจนกระทั่งเพื่อนชายของเขาอีกสามคนตามมาสมทบเข้า แต่ทั้งสามคิดแค่เพียงว่าเพื่อนของตนนั้นกำลังจีบสาวอยู่จึงเอ่ยแซวออกไปเล่นๆ
“ข้าเป็นผู้ชายนะ”
“ไม่จริงน่า!”
ชายผมทองหนึ่งในผู้สมทบทั้งสมเอ่ยคำพูดออกมาด้วยท่าทีที่ตกใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอผู้ชายที่หน้าตาสวยกว่าผู้หญิงอย่างนี้ในชีวิต สายตาที่ดูร้อนลนของนาโอโตะทำให้เรียวชายผู้ใช้ดาบคาตานะเป็นอาวุธจับได้ว่าไม่ใช่มนุษย์เดินดินธรรมดา
“เจ้าเป็นเทพงั้นหรอ…กลิ่นไอต่างจากคนอื่นๆ”
“เอ๊ะ…”
นาโอโตะตกใจสุดขีดเพราะไม่คิดว่าจะมีใครที่แค่ดมกลิ่นก็สามารถบอกได้แล้วว่าเป็นเทพหรือมนุษย์หรือปีศาจกันแน่ เขาจึงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนด้วยการแนะนำสถานที่เที่ยวยามค่ำคืนให้
“อ่อ อย่างนี้นี่เองเจ้าก็แอบมาเที่ยวเหมือนกันล่ะสิ ข้าไม่บอกอาจารย์หรอก”
ซิกฟรีดตีความไปเองว่านาโอโตะนั้นก็เหมือนกับพวกเขาที่หนีจากการทำภารกิจมาเที่ยวเล่นบนโลกต้องห้ามเหมือนกัน จึงแสดงความเห็นอกเห็นใจและสัญญาว่าจะไม่บอกใคร
“ใช่ ครับ”
นาโอโตะได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไปแทน หากพวกเขาเข้าใจอย่างนั้นแล้วเป็นผลดีสำหรับเขา นาโอโตะก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นต่อไป
“งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า”
“เดี๋ยว!”
ทันทีที่นาโอโตะหันหลังกลับเพื่อจะตีออกห่างแต่ทว่าชายร่างสูงเจ้าของผมสีแดงได้คว้าเสื้อคลุมของเขาไว้ ทำให้สีผมประกายเงินดุจละอองแสงของดวงดาวโผล่ออกมาจากผ้าคลุมอย่างง่ายดาย ในขณะที่ร่างสูงยังยืนงงกับภาพที่เห็นตรงหน้านาโอโตะอาศัยจังหวะนี้แย่งผ้าคลุมคืนแล้ววิ่งจากไป
“เด็กคนนั้น…”
“ใครหรอ ฟุซึจิ?”
เพื่อนทั้งสามต่างพากันสงสัยในท่าทีอันประหลาดของเพื่อนตน นานมากแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฟุซึจิอีกเลยหลังจากที่เขาต้องมาเข้าโรงเรียนทหารเพื่อฝึกการเป็นผู้นำทัพคนต่อไป
“ผมสวยจังเลย เป็นลูกบ้านใครจะไปขอเลยนะนี่”
คำพูดเล่นๆของซิกฟรีดทำให้ฟุซึจิเริ่มมองตาขวางใส่เพื่อนของตน เพื่อประกาศว่าเขาสนใจชายคนนี้ก่อน
“เอ้ย ข้าพูดเล่นขืนสนใจหนุ่มหน้าสวย พวกสาวๆก็หนีข้าหมด”
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ”
เรียวได้แต่พูดซ้ำเติมเคนแทนที่จะปลอบใจโดยมีเคนชายหนุ่มผู้เป็นน้องเล็กสุดในบรรดานี้นั่งทานซาลาเปาอยู่ข้างๆอย่างเรียบร้อย
ฝ่ายนาโอโตะที่วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตก็พบว่าโรงแรมที่เขากับชิโอริอยู่นั้นแค่เดินเป็นเส้นตรงกลับมาก็ถึงภายในสิบนาทีเท่านั้นเอง ชิโอริที่เห็นหลานชายกลับมาอย่างปลอดภัยก็โล่งใจพร้อมกับส่งจดหมายงานภารกิจที่กองมากมายให้กับเขาเพื่อตัดสินใจว่าควรจะรับงานไหนดีที่มันไม่อันตราย
“เคยเจอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ”
นาโอโตะโน้มตัวลงนอนกับพื้นของห้องก่อนจะนอนไล่อ่านจดหมายทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับการทำภารกิจต่อไปของน้าสาวของตน พลางนึกถึงหน้าชายหนุ่มผู้มีผมสีแดงที่เขาเจอวันนี้
“จดหมายนี้….ใครส่งมากันนะ”
รูปภาพใบหนึ่งถูกแนบมากับซองจดหมาย ปรากฏเป็นรูปของชายคนหนึ่งผู้มีผมสีดำสนิทเป็นเงามีมังกรตัวเล็กหลายตัวนอนหมอบอยู่ข้างๆ โดยที่ด้านหน้าของซองจ่าหน้าถึงเขาอย่างชัดเจน ตรงขอบล่างของรูปมีอักษรโบราณจารึกชื่อไว้ว่า “เคียราน”
“ท่านพ่อ? ”
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
ความคิดเห็น