Genesis Zwei ตำนานรักเทพอัคคี

ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

บทนำ

            อาเมเลียนครรัฐที่ไม่มีวันตายของโลกแห่งเบื้องบนอย่างสวรรค์ ยังมีแต่ความวุ่นวายของบรรดาทูตสวรรค์และผู้คนจากโลกหลังความตายออกมาสังสรรค์กันโลกที่อยู่เหนือศีรษะของเหล่ามนุษย์ผู้ถูกทิ้งให้อยู่เบื้องล่างกลายเป็นแหล่งชุมนุมที่สำคัญของผู้วิเศษและผู้เยี่ยมเยียนผ่านไปมา

            เซนต์อาเมเลียโรงเรียนสอนทหารชั้นนำของโลกสวรรค์ ทุกปีพวกเขาจะผลิตนักรบฝีมือฉกาจออกมาวาดลวดลายอยู่ในประวัติศาสตร์สำคัญต่างๆ  แต่ทว่าภารกิจที่นักเรียนได้รับนั้นมันแตกต่างไปจากการสอนของโรงเรียนอื่นอยู่มากไม่ว่าจะเป็นการปราบปีศาจ กำจัดสิ่งชั่วร้ายรวมถึงมนุษย์ที่ไร้ทางสู้ในยุคก่อนเจเนซิสจะเริ่มมีการปฏิวัติถึงหนึ่งหมื่นปี

            ฟุซึจิเด็กหนุ่มผมยาวสลวยสีแดงดุจเพลิง  ผู้เป็นดั่งผู้นำกองทัพในสนามรบโน้มตัวลงบนโซฟาสีแดงสดที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางห้องโถงกว้างรอบกายของเขาคือเพื่อนที่แสนสำคัญและไว้ใจได้ในสถานการณ์ต่างๆ  ชายผมสีทองเอ่ยหัวข้อสนทนาที่ชวนให้เขานึกคิดอยู่ตลอดเวลาว่าผู้ชายที่ฝึกมาแต่การรบอย่างพวกเขานั้นจะเอาอะไรไปคล้องใจของสาวคนไหนได้ในเมื่อมือของพวกเขาทั้งสองยังคงจับดาบอันมหึมาเข้าสู่สนามรบตลอดเวลา  ชายสีเพลิงได้แต่ถอนหายใจทิ้งไปวันๆกับชีวิตประจำวันอันแสนน่าเบื่อของพวกระดับหัวกะทิอย่างเขา โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่มืดมนกำลังเกิดขึ้นอยู่ภายหลังฉากของโลกสวรรค์ที่สว่างและเจิดจ้า

            เสียงฝีเท้าหนึ่งคู่ส่งเสียงก็อกแก็กอยู่ตลอดเวลาที่มีการวิ่งทำให้แม้แต่เด็กหนุ่มขี้เบื่ออย่างฟุซึจิต้องหันไปสนใจ ไม่เพียงแม้แต่เขาทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนอาเมเลียก็ถูกดึงดูดความสนใจไปที่ชายร่างบางผู้มีผมสีครามอ่อนเหมือนกันเสียงตะโกนไล่ตามหลังมาของบรรดาทหารเทวดาทำให้เหตุการณ์เริ่มชุลมุนมากขึ้น หนุ่มร่างบางเจ้าของผมสีดำชี้ให้เพื่อนของเขาได้เห็นว่าภายใต้ชายผ้าคลุมของชายผู้นั้นยังมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งแอบอยู่  ทันทีที่ฟุซึจิได้มองหน้าของเด็กหนุ่มหัวใจของเขาก็เหมือนหยุดเต้นไปชั่วเวลาหนึ่งเขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันมีความหมายว่าอย่างไร

            เด็กหนุ่มผมสีเงินสะท้อนแสงราวกับแสงของดวงดาวยามค่ำคืน  ดวงตาของเขาเหมือนกับยกท้องฟ้าทั้งผืนใส่เข้าไปข้างใน ตัวของเด็กหนุ่มเองรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมาที่เขาจึงคิดจะหันกับไปมองแต่ทว่าบรรดาทหารรักษาความปลอดภัยได้แต่ยืนยันกับแม่ของเขาที่จะพาเขากลับไป  ถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่จะปฏิเสธเสียงแข็งก็ตาม

            “เด็กคนนี้เป็นลูกของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์พรากเขาไป!”

            สิ้นน้ำเสียงตัดพ้อจากชายผู้อยู่ในฐานะแม่ของเด็กเขาได้ใช้อ้อมแขนช้อนลูกชายตัวน้อยขึ้นมาไว้ที่อ้อมอกก่อนจะกระโดดลงไปยังผืนแผ่นดินที่โลกสวรรค์เกียจชังหนักหนาอย่างโลกมนุษย์ สร้างความตื่นตกใจให้กับบรรดาทูตสวรรค์ที่เข้ามาพบเห็นเหตุการณ์  จากนั้นมาก็ไม่มีใครพูดถึงชายชุดขาวที่กระโดดลงไปพร้อมเด็กชายอีกเลย