ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ]อุ้มรัก ฉบับ (ฉบับวอนซิน)[YAOI]

    ลำดับตอนที่ #6 : อุ้มรักฉบับวอนซิน ตอนที่ 6 จ้า !!!

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 50


    ฟิกอุ้มรัก (เวอร์ชั่นวอนซิน) #6แง่มๆ..ขอโทษที่มาต่อช้าค่ะ

    สำหรับภาคนี้ยังคงรันทดเช่นเดิม 5555 แต่ตอนหน้ารับรองหวานน้ำตาลเรียกยายเลยล่ะ เอิ๊กๆ เอาเป็นว่า มันจะได้มีครบทุกรสเน้อ....ฟิกมันก็ต้องต่อเนื่องกันไป..อิอิ ซึ้ง 



    "เอ่อ...ผมต้องขอโทษแทนฮีชอลด้วยนะครับ...ผม...ผมไม่คิดว่าเค้าจะเป็นแบบนี้.." ซีวอนลงประโยคท้ายเสียงเบา...แทบจะขาดหายไปมีก้อน อะไรสักอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ...ขณะนี้เค้าได้ขับรถออกมาส่งเจ้านายที่บ้านแล้ว...ผ้าเช็ดตัวผืนหนาของเค้าที่ตอนนี้ซับบนตัวนางจิ้งจอกเรียบร้อย... ซีวอนไม่แม้แต่จะอยู๋ให้ยูริล้างตัว... 





    เค้าไม่อยากอยู่.....เค้าไม่อยากเห็นหน้าที่ทำให้เค้าต้องคิ้วขมวดอยู่เช่นนี้.... 





    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..ฉันไม่เป็นไร...แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแฟนคุณถึงไม่ชอบฉันนะคะ...^-^"..ถ้ามีบทนางเอกให้เล่นยัยนี่คงตีแตกตั้งแต่ยัง ไม่ได้จับบทเลยมั้ง...รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าราวกับแสนดี...ส่งยิ้มพร้อมส่ายหน้าน้อยว่าไม่เป็นไร...






    โห...พูดมาได้ไม่เป็นไร..พูดมาได้อฮีชอล ไม่ชอบตัวเอง...  ช่างกล้านัก...จางยูริ!!!





    "นั่นสิ...ปกติเค้าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะครับ....ถึงแม้จะอารมณ์ร้อนก็เถอะ...ผม..ไม่เข้าใจเค้าเลย...ก่อนหน้านั้นคุณได้ทะเลาะอะไรกับเค้ารึ เปล่าครับ..."ซีวอน เสียงขาดเป็นช่วงๆ ตอนนี้เค้ายังไม่อยากจะพูดอะไรกับใคร....




    ปกติเวลาทะเลาะกับฮีชอลสิ่งที่ชอบทำที่สุด...ก็คงหนีไม่พ้นกัน อยู่คนเดียว...ทบทวนจิตใจตัวเอง.....แต่สำหรับเรื่องนี้เค้าคงต้องถาม...ไม่งั้น...เค้าคงคาใจตายแน่...




    "เอ่อ..คือ....ฉันแค่จะไปช่วยเค้าทำกับข้าว...แล้วทีนี้...." ยูริจังผู้แสนดีในสายตาของคนซื่อ(บื้อ)เงียบไป 



    ทำเป็นอ้ำอึ้งไม่อยากพูด เหมือนว่าถ้าพูด ไปอีกฝ่ายจะยิ่งติดลบในสายตาผู้ฟัง...หากแต่ยูริคงรู้ดี..พูดให้อยากแล้วจากไป..เป็นใครก็ต้องเค้นต่อ 




    "แล้วอะไรครับ" คนซื่อบื้อถึงกับหยุดรถข้างทางถาม...อาจจะดูว่าเค้าเวอร์แต่สำหรับเรื่องทุกอย่างของฮีชอล...เค้าจะเป็นต้องรับฟัง..เพราะเค้า...อาจจะ เข้าใจผิดฮีชอลก็ได้...



    (และซีวอนก็อยากให้เป็นเช่นนั้น) 




    "แล้วฉันก็แค่บอกเค้าเรื่องที่เราจะต้องไปประเทศไทยในวันมะรืนนี้แล้ว..แล้วเค้าก็ขอฉันไปด้วย...แต่ฉันก็ลำบากใจ...นายก็รู้กฎของบริษัท...มัน เปลี่ยนได้ซะที่ไหน" ยูริทำหน้าลำบากใจอย่างที่พูด





    หากแต่สายตากับวาววับเต้นระริกราวกับรื่นเริงที่ได้สร้างเรื่องโกหกได้แทบจะคนละเรื่องกับสิ่งที่ เกิดขึ้นแบบนี้...การแต่งเรื่องคงต้องยกให้จางยูริเป็นที่หนึ่งควบไปกับบทนางเอกด้วยละมั้ง...




      ซีอวนทำตาโตราวกับไม่เชื่อ...เรื่องเล็กๆแค่นี้...ฮีชอลทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!! 





    "ฉันเข้าใจว่านายอาจจะไม่เชื่อ....ฉันก็ตกใจเหมือนกัน...อยู่เค้าก็เอาน้ำแกงมาราดฉันเลย..แล้วก็บอกว่า...เอ่อ...บอกว่า..." 





    "บอกว่าอะไรครับ~!" ซีวอนแทบจะทนไม่ได้...กับเรื่องราวทุกเรื่องที่เปล่งออกมาจากปากผู้หญิงคนตรงหน้า...ที่แววตาดูแสนจะจริงใจ.. 





    "บอกว่าฉันคิดจะจับนายใช่มั้ย....กะจะใช้เวลาที่ประเทศไทยเอ่อ...อ่อยนาย..แล้วก็..." 





    "พอเถอะครับ!!!" เสียงดังตวาดกลับไปจนทำให้คนได้ยินตาโต...ทำตัวลีบอย่างหวาดๆ...





    หรือว่าซีวอนจะรู้แล้ว..ว่าเราโกหก...ส่วนอีกฝ่ายได้แต่ซบหน้าลงกับพวงมาลัย..ไม่จริง..ฮีชอล...ฮีชอล...ฮีชอล!!!!!!!!! เสียงร่ำร้องตะโกนเรียกชื่อที่โหยหาอยู่ในใจ..ทำไม..นาย...ทำเรื่องอย่างนี้ได้...ฉันไม่อยากจะเชื่อ...ไม่อยากจะเชื่อเลย...





    ถึงแม้อาจจะดูเว่อร์...ที่เค้าผิดหวังกับฮีชอลขนาดนี้...แต่ความรู้สึกตอนนี้...ใครจะรู้ดีไปกว่า..ใจของซีวอน... สับสน...ไม่เข้าใจ..ผิดหวัง..เสียใจ..มันรวมอยู่ด้วยกัน...จะทำยังไงกับก้อนเนื้อสีแดงก้อนนี้ดี...ใจให้มันเจ็บ..หรือ...จะปล่อยให้มันชาไปดี.. 





    "ผม...ขอโทษ...แต่...ผมไม่อยากฟังอีกแล้วครับ...ผมขอโทษจริงๆ" สุภาพบุรุษของเราตอนนี้...ได้แต่เงียบ...เงียบ...และเงียบ  เสียงเครื่องยนต์ยังดังอีกครั้งหนึ่งก่อนตัวรถจะแล่นทะยานไปข้างหน้า....




    หากแต่ก็มีแต่เสียงเครื่องยนต์..และ ลมหายใจของคนสองคนเพียงเท่า นั้น....สภาวะของซีวอนตอนนี้ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะปริปากเรื่องราวใดๆออกมาทั้งสิ้น...




    ส่วนนังยูริเองก็ไม่อยากพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะขณะนี้ทุกสิ่ง ก็ดำเนินการมาตามแผนที่วางไว้ทุกประการแล้ว...




    สิ่งที่ยูริมีก็คงเพียงแค่...รอยยิ้มแห่งชัยชนะ...ที่ปรากฎมาตลอดเส้นทางกลับบ้าน ก็เท่านั้น!!! 





    "ขอบคุณนะซีวอนที่มาส่ง...เอ่อ.....ยังไง..ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน...จะอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะถ้าไม่รังเกียจ




    "น้ำเสียงอ่อนโยนคล้ายจะปลอบใจ...เอ่ยปาก ชวน"ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว" ให้อยู่บ้านตัวเอง...ราวกับจะเป็นคนดามใจ...ในใจคงระริกระรี้อยากจะให้ซีวอนเซย์เยสแทบตัวสั่น.....ทำไมความด้านของคนมามากขนาดนี้ก็ไม่รู้นะ!!!




    "ไม่เป็นไรหรอกครับ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ" ...ยังไม่ทันจะได้ปล่อยพิษต่อ..




    นายชอยก็ขอเสียมารยาทขับรถออกไปโดยยูริไม่ได้ทันตั้ง ตัวอะไรทั้งนั้น...ใบหน้านางฟ้าถอดออกมาแล้ว...สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแต่เนื้อในของปีศาจร้ายเท่านั้น...  






    "หึ..อย่าคิดว่าจะรอดไปง่ายๆ...นายหนีฉันไม่พ้นหรอก....ชอยซีวอน.."






    --------- สายลมพัดโบกพลิ้วเหมือนเส้นผมที่กำลังระใบหน้าคมอยู่นะบัดนี้....หยดน้ำบางอย่างไหลรินออกมาจากขอบตาไล้มาที่แก้ม..



    .น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ ได้ไหลมานานแสนนาน...กับเรื่องแค่นี้...ทำไมมันมาไหลเอาง่ายๆอย่างนี้นะ....คนร้องให้ไม่ได้ปาดน้ำตาออก....สายตาที่จดจ้องไปไกลแสน ไกลทำให้ไม่ได้สนใจสถานภาพที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่....




    ความอ่อนแอที่เข้าครอบงำความเข้มแข็ง....หัวใจที่เสียใจไม่แพ้หัวใจอีกดวง....ถ้านับได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ทะเลาะกันแรงที่สุดเลยนะ...ฮีชอล...  




    บรรยากาศทุ่งหญ้าเขียวขจี...อีกทั้งต้นไม้ใหญ่ระรานตาทำให้ร่างสูงสบายใจขึ้น...สถานที่พักผ่อนใจของเค้าคือนอกตัวเมืองเช่นนี้....เงียบสงบ และ ปราศจากความวุ่นวาย....    




    เรื่องที่เกิดขึ้น...เค้าไม่ได้โกรธ...เพราะเป็นห่วงยูริ...เค้าไม่ได้ร้องให้...เพราะยูริเจ็บตัว  หากแต่มันคือความผิดหวัง...ของการกระทำของคนรักของเค้าต่างหาก...ทำไมใจร้ายจังนะ....ฮีชอล...  




    ซีวอนเงยหน้าหวังให้น้ำตามันไหลย้อนกลับเข้าไป...เหมือนกับที่เค้าหวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน...เค้าไม่รู้เลยว่าตัวเองควรทำอย่างไร ตอนนี้.... เวลาล่วงเลยไปสักพัก...ความเงียบสงบคงช่วยให้ซีวอนอารมณ์เย็นลง..ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน...




    ซีวอนจะชอบอยู่คนเดียวเพื่อ ไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ...เพราะมันจะทำให้เค้าได้คำตอบที่ดีหลังจากเค้าสงบสติลงได้ท่ามกลางความปลอบประโลมของสายลมที่พัดมาช่วยผ่อน คลายความเครียดของเค้าเช่นนี้.....




    ซีวอนเริ่มคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น....ฮีชอลอาจจะทำไปเพราะมีเหตุผลก็ได้....ยังไงก็ตามเมื่อกี้เค้าเองก็รีบผลุนผลันออกมามากเกินไป...ทั้งๆที่ยังไม่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆจากปากคนรักเลย....อารมณ์เค้าตอนนั้นมันเชื่อภาพที่ เห็นมากกว่า....ความรู้สึกผิดเริ่มก่อขึ้นเล็กน้อย...เพราะซีวอนเองก็รู้นิสัยฮีชอลดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่ฮีชอลทนไม่ได้จริงๆ....ฮีชอลจะเป็นคนนึงที่ค่อน ข้างเก็บอารมณ์ได้ดี.....




    แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่คนรักเค้าเหลืออดล่ะก็....อีกฝ่ายคงได้ตายกันไปข้างเลยทีเดียว...ยิ่งคิดซีวอนก็เริ่มเครียด...อยากจะ กลับไปคุยให้รู้เรื่องเสียตอนนี้....แต่มันคงเร็วเกินไป...รอให้เค้าอารมณ์สงบกว่านี้ดีกว่า....  




    ภาพฮีชอลยิ้ม...หัวเราะ...แจ่มชัดในมโนภาพของซีวอน....ซีอวนไล่ความคิดเรื่องที่เกิดขึ้นออกไป...เค้ายิ้มให้กับความทรงจำดีๆระหว่างเค้ากับ ฮีชอลที่เคยมีด้วยกันก่อนจะส่ายหัวเมื่อคิดถึงตอนที่ฮีชอลซุ่มซ่าม....ยิ้มน้อยๆปรากฎแทนน้ำตาที่หยุดไหล...สายลมที่พัดผ่านทำให้เค้าผ่อนคลาย กับเรื่องต่างๆ....ร่างสูงเอนตัวราบไปกับฝากระโปรงรถด้านหน้า....ก่อนจะหลับตาพริ้มปล่อยใจให้ล่องลอยไปในภวังค์ 






    ฉันรักนายนะ...ฮีชอล...  --------- 





    "มะม๊า...เป็นอารายฮับ...มะม๊าร้องให้ทำไม...มะม๊า.."เจ้าตัวเล็กผู้น่ารักเป็นห่วงมะม๊าของตัวเองรีบเดินเตาะแตะเข้ามาคนที่ทรุดนั่งน้ำตานองหน้า อยู่ในห้องครัว...





    เค้ายังคงช๊อคกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น....เด็กตัวเล็กเดินไปหยิบทิชชู่สีขาวมาซับน้ำตาให้ให้คนร้องให้อย่างแสนเป็นห่วง... อ้อมกอดเล็กๆโอบล้อมตัวคนหน้าหวาน...ถึงแม้จะไม่รอบ....แต่ก็อบอุ่นแสนจะบรรยาย...ฮีชอลเริ่มได้สติ...แขนยาวโอบตอบลูกน้อยก่อนจะเอื้อน เอ่ยด้วยเสียงอันสั่นเทา 





    "ม๊า..ฮึก...ม่ะม๊า..ฮึก..ไม่ได้เป็นอะไรลูก...ไม่ได้เป็..ฮึก..เป็นอะไรเลย...."ฮีชอลตอบปฎิเสธทั้งๆที่เสียงสะอื้นยังคงไม่หมดไปจากร่างอันสั่นเทานั้น...  






    เด็กน้อยละจากอ้อมกอด...ก่อนจะเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ด้วยหน้าตาจริงจัง....ความฉลาดเฉลียวที่ไม่รู้ได้มาจากโครโมโซมตัวไหนของพ่อเซียทำให้ อินฮวานตัวน้อยเอ่ยปากเสียงหนักแน่นเล็กๆ





    "ไม่จิงๆ มะม๊าร้องให้....ร้องให้เพราะป๊ะป๋าซีวอนใช่มั้ย...มะกี้ป๊ะป๋าเสียงดังใส่มะม๊า....ป๋มก็ไม่ค่อยจาเข้าจายหรอกว่าเรื่องอาราย...มะม๊า...ยังไม่ ได้ทำอารายผิดเลย...ก็แค่ช่วยคุณน้าคนนั้นที่ล้ม..มะช่ายหรอฮะ...ก็มะกี้...น้ำมานหกใส่คุณน้า...หมดเยยนี่...แล้วมะม๊าลงไปช่วยแล้วทำมาย... ป่ะป๊า...ต้องดุมะม๊าด้วย..ป๋มไม่เข้าใจ...ป๋ม..ป๋มไม่รัก..ฮึก...ไม่รักป่ะป๊าแย้ว...ป๊ะป๋า..ฮึก..ใจร้ายยย..ฮือ...แงๆๆๆๆๆๆ" เด็กหนอเด็ก...เล่าเรื่องทั้ง หมดจบก็ร้องให้ด้วยความเป็นห่วงแม่ หรือ ว่าความกลัวป่ะป๊าของเค้าก็ไม่รู้...แต่สิ่งที่อินฮวานเล่าก็ทำให้ฮีชอลตาโตได้อย่างตกใจ... 





    "นี่..นี่...ฮึก..ลูกเห็นทุกอย่างเลยเหรอ..อินฮวาน...บอกมะม๊าซิลูก...ลูกเห็นทุกอย่างเลยเหรอ"ฮีชอลตาโตตกใจ...เด็กน้อยน้ำตานองหน้าเอียงคอมอง แม่เค้าอย่างงง งง 





    ทำไมม่ะม๊าต้องตกใจด้วยล่ะ ฮีชอลเห็นลูกยังไม่หยุดร้องให้เลยลูบหัวปลอบเบาๆ เพื่อจะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเล็กเด็กน้อยปาดน้ำตาออกแล้วหยุดสะอื้น ก่อนจะเล่าเสียงเจื้อยแจ้ว




    "ฮะ...ก็ป๋มเดินมาที่โต๊ะกินข้าวจะเอาคุกกี้ที่วางบนโต๊ะ...แล้วก็กำลังจะเดินไปหาม่ะม๊าเพาะว่า...ป๋มหาคุกกี้มะเจอ..แต่เห็นคุณน้ากำลังปัดมือไป โดนหม้อแล้วลื่นล้มพอดีเลย..แล้วมะม๊าก็ลงไปช่วยเค้าแต่..มะม๊าลื่นลงไปด้วย..แต่ป๋มไม่เข้าใจอย่างนึง..ทำมาย..คุณน้าเค้าต้องตีหน้าตัวเองด้วยล่ะ ฮะ....อ๋อ...หรือว่าเค้ารู้สึกผิด..ที่ทำให้น้ำหก...แต่..ยังไง...ป่ะป๊าก็ผิด...ป๋มไม่รักป่ะป๊าแล่ว!! " เด็กน้อยทำหน้ายู่อีกที จนฮีชอลยิ้มออกมาบางๆ... หลังจากเค้าได้ฟังเรื่องราวของอินฮวานทำให้เค้าเหมือนยกภูเขาออกจากอก.....ถึงแม้ไม่มีใครเชื่อ...ว่าเค้าไม่ผิด..แต่อย่างน้อย...เด็กน้อยก็เห็นความ จริงทุกอย่างล่ะน้า....  




    ฮีชอลยิ้มน้อยๆก่อนจะปาดน้ำตาออก...พร้อมจูงมืออินฮวานออกจากพื้นเลอะๆนั่น....  





    เสียงลมหายใจเฮือกใหญ่ถอนมาตามหลัง.





    ..นายอยู่ไหนนะซีวอน ---------




    "มะม๊า...ไม่กินข้าวเหรอฮะ*-*" เสียงเล็กๆดังขึ้นหลังผู้เป็นแม่วางจานข้าวต้มหมูเพียงที่เดียวสำหรับเค้า...





    อินฮวานเอียงคอมองด้วยความเป็นห่วง... ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวานจนถึงวันนี้...มะม๊าของเค้าไม่ยอมกินอะไรเลยนี่นา...ไอที่ผอมอยู่แล้วมันจะแห้งขึ้นไปอีกมั้ยเนี่ย!!! แถมยังพูดน้อยลงอีก... เฮ้อ...ไม่สมเป็นมะม๊าเลย...




    ทั้งที่ปกติเจื้อยแจ้วออกจะตาย.... ฮีชอลส่ายหน้าปฎิเสธลูกน้อย อินฮวานเห็นแล้วถึงแม้จะเป็นเด็กก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกแสนเศร้าจากนัยน์ตาโตคู่นั้น...




    "มะม๊าฮับ...." เด็กน้อยลุกเดินจากเก้าอี้ตัวเอง...เตาะแตะมานั่งบนตักคนสวยก่อนจะเอาหน้าตัวเองไปซบบนบ่าของฮีชอลพร้อมทั้งโอบกอดด้วย ความรักอย่างน่าเอ็นดู





    "หื๊อ...." อยู่ๆลูกก็มาอ้อน...น่ารักจังนะ...ถ้าเป็นปกติรอยยิ้มของฮีชอลคงกว้างกว่านี้แน่ 




    "ถึงป่ะป๊าจะไม่รักม่ะม๊า....แต่อินฮวานรักม่ะม๊ามากๆๆๆๆเลยนะฮับ" เด็กน้อยเปล่งคำพูดแสนหวานที่จริงใจออกมาจากปากแดงเล็กๆ...





    หยดน้ำน้อยไหลออกจากดวงตาคู่งามให้กับความจริงใจที่เปล่งออกมาจากปากเล็กๆ....ซึ้งใจกับความจริงใจที่เด็กน้อยมีให้เค้า...ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาไม่นาน...แต่อินฮวานกลับเป็นเด็กดีอย่างไม่น่าเชื่อ...อาจจะมีดื้อ บ้างเล็กๆตามประสาเด็ก...แต่อินฮวานกับทำให้เค้ามีความรักให้กับเด็กน้อยมากขึ้นทุกวัน....
     




    "มะม๊า...ก็รักอินฮวานนะลูก..."ฮีชอลจุ๊บหน้าผากเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู...ก่อนจะถอนหายใจเหมือนจะให้มันส่งไปหาคนที่เด็กน้อยกำลังพูดถึง..

    ว่าเค้าวุ่นวายใจแค่ไหนที่ซีวอนยังไม่กลับมา



    ....  ถ้ากลับมา...เค้าจะยอมง้อ....แม้ไม่ผิด... ถ้ากลับมา...เค้าจะขอโทษ...แม้ไม่เคยยอมใคร.. ถ้ากลับมา...เค้าจะอ้อนวอน...ให้รักเค้าเหมือนเดิม.... กลับมาได้แล้ว...ซีวอน.... --------- 




    "ม่ะม๊า....ม่ะม๊า....อุ๋ย...ทำไมม่ะม๊าตัวเย็นจังฮะ..." อินฮวานที่นั่งบนตักคนหน้าซีดจับใบหน้าของแม่เค้าเบาๆ ก่อนจะทำหน้าเหรอหราตกใจตาม ประสาเด็ก .... 






    "มะม๊า...ไม่ได้เป็นไรหรอกลูก...อินฮวานง่วงยังคับ"ฮีชอลยิ้มบางๆอย่างอ่อนแรงให้กับเจ้าตัวเล็ก...เหมือนอยากให้หายห่วง...ก่อนจะลูบหัวเบาๆ หนึ่งที...ที่ตัวเย็นคงเป็นเพราะเค้าไม่สบายล่ะมั้ง....





    ก็คิดมากจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ...ให้กินก็กินไม่ลง ให้นอนก็นอนไม่ลง...ไม่ใช่ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน แต่มันไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลยจริงๆ...ขนาดพูดยังไม่อยากจะขยับปากเลย...




    ฮีชอลเข้าใจสภาพตัวเองดี...ตอนนี้เค้าก็มึนหัวไปหมด แล้ว...กะว่าหลังจากที่พาอินฮวานไปนอนจะไปกินพาราซักเม็ด...เผื่อมันจะแก้ปวดหัวได้....แต่แก้ปวดใจ...คงหาอะไรมาแก้ไม่ได้ล่ะมั้ง....นอกเสีย จาก....คนๆนั้น  ...... 




    "ฝันดีนะลูกนะ....แม่.. 




    ติ๊ง..ต่องงงง  ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงกดออดหน้าบ้านก็ดังร้องเรียกเป็นสัญญาณให้คนป่วยกายและใจต้องเดินออกไปรับ....




    ฮีชอลทุลักทุเลเดินออกไปอย่างลำบาก ก่อนออกก็จุ๊บหน้าผากและห่มผ้าให้อินฮวานอย่างทุกวัน...  ใครมานะ...ดึกขนาดนี้แล้ว...??  แต่ก่อนที่จะถึงประตู...ความมึนจากการอ่อนแรงทำให้ร่างบางเดินไม่ค่อยจะอยู่ตัว....แต่ก็ยังดันทุรังเอื้อมไปที่ลูกบิดอีก.... แอ๊ด...  




    "ส..วั...ส..ดี..คร..."ตึง!!!! เสียงล้มลงของเจ้าของบ้านที่ตอนนี้ลงไปกองกับพื้น หน้าซีดขาวโพลน ปากที่เคยแดงบัดนี้ขาวเฉกเช่นใบหน้า ร่างกาย เย็นเฉียบเหมือนกับน้ำ...




    "ฮีชอลลลลลลลลล!!!!!" ผู้มาใหม่ตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ...ฮีชอลไม่ทันได้เห็นหน้าคนที่เค้าคิดถึงอย่างสุดใจ...เค้า หมดสติก่อน....มือสั่นเทารีบพาร่างบางที่ตอนนี้เค้าอุ้มได้แทบตัวปลิว...ขึ้นรถ...ก่อนบึ่งออกไปเหมือนใจที่เต้นรัวกับคิ้วที่ขมวดผูกเป็นปมด้วยความ 



    เครียดและความห่วงหาอย่างสุดหัวใจ.....  




    ฮีชอล...นายอย่าเป็นอะไรนะ...นายอย่าเป็นอะไรนะ......ฮีชอล!!!!


    +++To be con in part # 6 +++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×