ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SFIC SJ] :::Wind's love...หัวใจสายลม:::[YAOI]

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF]::::Wind's love....หัวใจสายลม::::

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 51


    http://bignose.exteen.com/20071214/jennifer-kim

    คลิกด้วยค่า พลีสสสสสสส


    TITLE : สายลม...

    AUTHOR : SuNA!

    PAIRING : SIWON & HEECHUL
    TYPE : SHORT FICTION

     

    ......สายลมที่พัดผ่าน....กระทบใบหน้า.....ปลายผมที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม.....ราวกับใครคนนั้น.....กำลังลูบไล้มันอย่างบางเบา...อ่อนโยน....

     

     

    .....สัมผัสอบอุ่น.........ที่ยังคงตราตรึง........ไม่ว่าที่กาย.....หรือใจ.....ก็ไม่เคยเลือน.......

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "ฮัน...วันนี้..."

    ร่างเล็กตากลมคมโตเอ่ยบอกกับหนุ่มชาวจีนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ดื่มกาแฟอยู่นอกระเบียงเหมือนทุกวันในยามรุ่งอรุณเช่นนี้......มือเรียวของคนที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยกำลังเก็บเครื่องมือสื่อสารสีแดงเครื่องเล็กใส่กระเป๋าสะพายข้างสีขาวเป็นสิ่งสุดท้าย...

     

    "อืม...รู้แล้วล่ะครับ....วันนี้วันเกิดคุณนี่นะ.....ยังไงคืนนี้ก็อย่ากลับดึกนักล่ะ....ผมอยากแฮปปี้เบิร์ดเดย์คุณอีกที..."

    ชายหนุ่มชาวจีนที่คนตัวเล็กเรียกว่า "ฮัน" ละสายตาจากหนังสือพิมพ์แล้วหันมายิ้มให้อย่างแสนอ่อนโยน.....

     

     

    ...ใช่สินะ.......วันนี้.....10...กรกฎาฯ.....วันเกิดเค้า....

     

     

     

     

    .....วันสำคัญ....สำคัญที่สุด...ของฮีชอล.........กับ......ใครคนนั้น....

     

     

     

     

    .....คนที่เค้า.....ไม่เคยลืม......

     

     

     

    "ได้ข่าวว่าแฮปไปแล้วเมื่อคืน จะแฮปอะไรกันหนักหนาฮัน...หึหึ"

    คนตัวเล็กเอ็ดเข้าให้...แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก.....

     

     

    "แฮปแล้วก็แฮปอีกได้หน่า....ผมมีแรงแฮปคุณตลอดอยู่แล้ว~หึหึ"

    ชายหนุ่มยิ้มตาปิดเอ่ยตอบอารมณ์ดีทีเล่นทีจริง จนคนตัวเล็กต้องค้อนเข้าให้!

     

     

     

    "เดี๋ยวนี้ทะลึ่งนะฮัน! เดี๋ยวเหอะ!"

    "ฮ่าฮ่าฮ่า แซวเล่นน่า รีบไปเถอะคุณ เดี๋ยวก็สายหรอก ยิ่งสายแดดยิ่งร้อน เดินตากแดดผิวดำไม่รู้ด้วยนา~"

     

    ฮันเกิงหัวเราะร่วนก่อนจะเดินมาหาคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว....ยิ้มหวานส่งให้ก่อนจะลูบหัวเบาๆหนึ่งที

     

     

    "รีบไปรีบกลับนะครับ ผมรออยู่.....แล้วก็......ฝากทักทาย"เค้า"ด้วยนะ"

     

    ชายหนุ่มสบตาคนตัวเล็ก จ้องเข้าไปในตาลึกสื่อให้รับรู้ว่าคำที่พูดล้วนแต่กรองมาจากใจ ไม่ใช่ใส่หน้ากากเพื่อให้ดูเป็นคนดีแม้แต่นิด...

     

     

    ฮีชอลได้ฟังก็ต้องยิ้ม.......คนคนนี้.......แสนดีเหลือเกิน....แสนดี.....จนรู้สึกว่าตัวเอง......เห็นแก่ตัว.....เห็นแก่ตัวกับเค้ามากเหลือเกิน.....

     

     

     

    .....ที่ไม่อาจ....."รัก".....เค้าได้ซักที.....

     

     

    "ขอบคุณนะฮัน....ขอบคุณนะ...."

     

     

    ขอบคุณในความแสนดี......ขอบคุณในความรัก...ความจริงใจ......ที่มีให้มาเสมอ......แม้ว่า.....ฉัน.....ไม่อาจตอบแทนความรักเหล่านั้นได้เท่านายก็ตาม......

     

     

    คนตัวเล็กเอ่ยขอบคุณฮันเกิงในอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้น......ก่อนจะจุมพิตเบาๆที่ข้างแก้มชายหนุ่ม.....แล้วยิ้มให้....

     

    "ไม่เป็นไรครับ......"

     

    ยิ้มจางๆถูกส่งมาให้.......คนตัวเล็กค่อยๆผละตัวออกจากอ้อมกอด ก่อนจะหันหลังก้าวออกจากประตูบ้านหลังเล็กสีขาวไป......ก้าวออกไป......

     

     

     

    .......ไปหาที่หมายที่ตั้งใจ.................

     

     

    โดยไม่อาจสังเกตุเห็นความเจ็บปวดของนัยน์ตาที่มองตามหลังไปได้เลย........แม้รอยยิ้มบางๆจะฉาบอยู่ที่ปาก........แต่นัยน์ตา....ช่างแสนเศร้า......เศร้าเหลือเกิน.......

     

     

    ......ไม่ว่ายังไง......คุณคงไม่สามารถ...มอบหัวใจ.....ให้ผมได้เลยสินะ....ฮีชอล.....

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    .....สายลมเบาๆที่พัดผ่านมา ต้นไม้ที่ลู่ไหวไปตามแรง....ปลายผมที่พลิ้วไม่ต่างจากต้นไม้เหล่านั้น......ราวกับมีคนมาสัมผัสให้มันไม่ระรานใบหน้า....สัมผัสที่แสนอ่อนโยน......

     

     

    ...ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่งหลับตาพริ้มอยู่ที่เก้าอี้ไม้สียาวสีขาว.......ในมือถือเค้กวนิลาทรงกลมชิ้นเล็กน่าทานไว้ชิ้นหนึ่ง....เทียนสีขาวเล่มเล็กที่ปักอยู่ข้างเชอรี่อยู่คู่กันสองอัน....บัดนี้กำลังสว่างไสวกับไฟสีเหลืองทองที่กำลังโชติช่วงอยู่บนเทียนทั้งสองเล่ม......

     

     

    "....มาแล้วสินะซีวอน......"

     

    ร่างเล็กเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ยังหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น.......ยิ้มที่เปื้อนหน้ายังคงไม่เลือนหายไป......

     

    "ขอฉันอธิษฐานก่อนนะ......"

     

    มือเล็กสองมือประสานกันไว้.....เค้กชิ้นเล็กถูกวางไว้ข้างตัว......คนตัวเล็กเอ่ยพึมพำเบาๆถึงพระเจ้าที่อยู่เบื้องบน....ขอให้รับรู้ถึงคำอธิษฐานของเค้า.....

     

     

    น่าแปลกนะ.....จากคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องนี้.......แต่ตอนนี้....กลับศรัทธาจนเต็มหัวใจ....

     

     

     

    ...คงเพราะ....คนที่เค้าเรียกชื่อคนนั้นล่ะมั้ง......

     

     

    "เป่าเทียนพร้อมกันเลยนะซีวอน....หนึ่ง....สอง....สาม!!!!"

     

     

    เทียนเล่มเล็กทั้งสองเล่มดับวูบลองพร้อมกัน.....ฉลองวันเกิดของคนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงนั้น....

     

     

    "ขอให้คำอธิษฐานเป็นจริงด้วยเถอะนะ...พระเจ้า..."

     

    สายลมบางเบาพัดผ่านไป.....ราวกับจะตอบรับ....คำอธิษฐานนั้น.......ราวจะตอบรับ....ความรู้สึกของหัวใจ....ของคนที่ขอพรจากท่าน........

     

    ......ราวกับจะอวยพร.....ให้หัวใจดวงน้อย....ได้สมหวังเสียที........

     

    กาลเวลาล่วงเลยไป.....เหมือนสายลมที่พัดไป....ไม่มีวันหยุด...ไม่มีวันพัก....

     

    "วันนี้เราจะทำอะไรกันดีน้า...ซีวอน....เธอชอบดูหนังนี่นะ! ไปดูหนังกันดีกว่าเนอะ..."

    คนตัวเล็กเอ่ยขึ้น....พลางหยิบสัมภาระทั้งหมด รวมถึงกล่องเค้กวนิลาที่ได้บริโภคจนหมดเกลี้ยงแล้ว  รสชาติอร่อยของมันยังตราตรึงอยู่ในใจคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี....ร้านประจำ...ที่ชอบเลย....

    ฮีชอลยิ้มหวานก่อนจะวิ่งไปโบกแท็กซี่ที่กำลังขับเคลื่อนมาหา.....

     

    "อ๊ะ ซีวอนดูสิแท็กซี่มาพอดีเลย~"

     

     

    "ไปโรงหนังxxxครับ..."

    ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับ ฮีชอลยิ้มให้นิดหนึ่ง ก่อนจะละตัวออกมาจากรถ...

     

     

    "เธอขึ้นไปก่อนนะซีวอน เดี๋ยวเราปิดประตูให้"

    คนขับเหลือบมองคนพูดนิดหนึ่งก่อนจะเคลื่อนรถออกไป.....ผ่านสี่แยก...ผ่านทางโค้ง......เลียบมาทางแม่น้ำฮัน....คนตัวเล็กได้แต่ส่งสายตาไปมองภาพนอกหน้าต่างรถนั่นโดยไม่ได้พูดอะไร.....แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลัง

    อบอุ่นไม่ร้อนจนเกินไป...ทำให้คนตัวเล็กยิ้มได้เพราะ..รู้สึกดี....วันเกิดของเค้า...เป็นวันที่อบอุ่นจริงๆเนอะ......

     

    "อ๊าาา ถึงแล้ว ขอบคุณนะครับคุณลุง..."

     

    ฮีชอลยิ้มให้ชายวัยกลางคนผู้ทำหน้าที่เป็นโชเฟอร์ ก่อนจะยื่นเงินไปให้จำนวนหลายวอน....ก็ระยะทางจากที่นั่นจนถึงโรงภาพยนตร์มันไกลอยู่นี่นา~

     

    "ไปซีวอน...ถึงแล้ว.."

     

    คนตัวเล็กในชุดกางเกงสีขาวกับเสื้อสีชมพูแขนยาวน่ารักยิ้มหวานก่อนจะเดินลิ่วๆๆไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า....

     

    "อ๊ะเดี๋ยวก่อน ลืมไป..."

     

    ฮีชอลหยุดชะงักเหมือนจะนึกอะไรได้....ก่อนจะวิ่งๆๆๆไปดูรอบหนังที่ปรากฎขึ้นบนสกรีนที่เขียนว่า NOW SHOWING อยู่....

     

    "ดูเรื่องอะไรดีน้อ.....ซีวอนช่วยคิดหน่อยซิ....ดูเรื่องอะไรดี......เธอชอบดูหนังรักนี่นะ.....อ๊ะ..หนังรักจากประเทศไทย น่าสนใจๆ...THE LETTER หรอ....อืมมม..น่าสนๆ...เอาเรื่องนี้ละกันนะซีวอน..."

     

    ฮีชอลยิ้มหวานหน้าโปสเตอร์หนังรักแผ่นใหญ่จากประเทศไทย.....รูปโรแมนติกของชายหนุ่มของหญิงสาว....ถึงแม้ดูเศร้าอย่างแปลกประหลาด....แต่ก็มีแรงดึงดูอะไรบางอย่างให้เสียเงินหลายวอนเพื่อแลกกับบัตรชมภาพยนตร์....

     

    "THE LETTER รอบบ่ายสอง สองที่ฮะ เอาหลังสุดเลยนะฮะ...."

     

    ฮีชอลยิ้มขอบคุณอีกครั้งกับพนักงานขายตั๋วหลังจากที่ตั๋วของหนังที่อยากดูสองใบถูกยื่นให้.......

     

     

    ....ดูเหมือนวันนี้เค้ายิ้มบ่อยเสียเหลือเกินนะ......

     

    ".....ได้ตั๋วแล้วซีวอน....ไปดูกันเถอะ....โรงไหนน้า...โรงเจ็ดๆ...."

     

    คนตัวเล็กวิ่งลิ่วไปที่โรงที่ต้องการ...ไม่แม้จะเข้าห้องน้ำ...ก็ในเมื่ออีกสองนาทีหนังเรื่องโปรดจะเริ่มแล้วนี่นา...

     

    "อ๊ะ!"

     

    แต่ก็ต้องเบรกกระทันหัน ฮีชอลชะงักงันเหมือนนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง...

     

    "เราลืมไป...เธอชอบกินป๊อปคอร์นนี่นา.....รอเราตรงนี้นะ....เดี๋ยวเราไปซื้อให้...."

     

    ไม่นาน...ป๊อปคอร์นของโปรดของซีวอนก็อยู่ในมีคนตัวเล็ก โดยไม่ลืมที่จะซื้อแป๊ปซี่แก้วโตเสียบหลอดไว้สองอันมาด้วย....เอาไว้แก้หิวน้ำล่ะเนอะ~

     

    "ขอดูตั๋วหน่อยครับ"

     

    เสียงคนตรวจบัตรชมภาพยนตร์ภายในโรงพูดขึ้นเบาๆในเมื่อภาพยนตร์เริ่มไปสักระยะแล้ว....ก่อนจะส่องไฟฉายไปที่ตั๋วที่คนตัวเล็กยื่นให้....

     

    "อ่า สองที่หรอครับ.."

     

    "ฮะ สองที่...."

     

    "เชิญทางนี้ครับ"

     

    พนักงานตรวจบัตรทำหน้าแปลกๆก่อนจะเดินนำทางไปยังที่นั่ง........

     

    ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ.......จนถึงฉากที่เศร้าที่สุด.......ฉากที่พระเอก.....ต้องจากนางเอกไปไกล....ไกลจน.....ไม่รู้ว่าเมื่อไร.....จะได้พบกันอีกครั้ง......

     

    ...น้ำตาเล็กๆไหลเป็นสายโดยไร้เสียงสะอื้น......หลาย....จนไม่มีท่าทีจะหยุด...........เศร้า.....ไปกับบทภาพยนตร์อย่างหยุดไม่อยู่เลยสินะ.....ฮีชอล.....

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    "...หนังเศร้าจังเลยเนอะซีวอน....."

     

    คนตัวเล็กเปรยขึ้นหลังจากชมภาพยนตร์เสร็จ....รอยคราบน้ำตาที่ยังเห็นชัดอยู่.......ไม่บอกก็ต้องรู้ว่าผ่านการร้องไห้มาหนักขนาดไหน....เหมือนเพิ่งผ่านเรื่องราวทุกข์ใจอะไรมากมายอย่างนั้น....

     

    "หึหึ...แต่เราไม่ได้เศร้ามากหรอกนะ..."

     

    ข้อแก้ตัวที่ดูเหมือนจะฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดเอ่ยขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะเจื่อนๆ กับยิ้มจางๆ.....ตากลมยังแดงขนาดนั้น...........ไม่เศร้ามากเลยนะฮีชอล......

     

     

    "หิวแล้วอ่า.....ไปกินข้าวกันเนอะ...ซีวอนเนอะ...."

     

    อีกครั้งที่คนตัวเล็กเอ่ยปากชวน....วันนี้เป็นวันเกิดเรา...เราขอตัดสินใจทุกๆอย่างเอง....เหมือนทุกๆปีนะซีวอนนะ.....

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    กรุ๊ง กริ๊ง  กรุ๊ง กริ๊ง....เสียงกระดิ่งหน้าร้านกาแฟเล็กๆสีขาวที่มีป้ายน่ารักๆเขียนหน้าร้านว่า...SWEET LATTE (ไม่ได้โปรโมตฟิกแต่อย่างใด ฮ่าฮ่า).....สถานที่แห่งความเงียบสงบและอบอุ่นที่ทำให้ลูกค้าหลายคนติดใจในรสชาติความหอมของกาแฟ และ อาหารของที่นี่....รวมถึงบรรยากาศที่น่าดึงดูดอย่างประหลาด...

     

    "สวัสดีครั...อ้าว...ฮีชอล...."

     

    เจ้าของร้านที่คาดผ้ากันเปื้อนสีขาวดูน่ารักสะอาดตา....ยิ้มหวานต้อนรับลูกค้าที่เห็นหน้าเป็นประจำ...ไม่สิ...จะเรียกว่าประจำก็ไม่ได้...ต้องเรียกว่าประจำปีเสียมากกว่า.....

     

    ก็....

     

    "วันนี้วันเกิดฮีชอลสินะ....."

     

    คนตัวเล็กจะมาที่นี่ทุกวันเกิดน่ะสิ....

     

    "สองที่เหมือนเดิมนะ..."

     

    เจ้าของร้านเอ่ยทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบใดๆจากฮีชอลเลย.....

     

     

    "ฮะพี่ลีทึก  สองที่ ผมกับซีวอน ...เหมือนเดิม....ดีใจจังฮะที่พี่ลีทึกจำวันเกิดผมได้ด้วย...^ ^"

     

    คนตัวเล็กยิ้มหวานส่งไปก่อนจะไปนั่งที่ประจำข้างหน้าต่าง.....มองออกไปเห็นสวนสวยของร้านสไตล์ญี่ปุ่นที่เจ้าของร้านจัดตกแต่งไว้อย่างดี.....นี่ละมั้งมุมสงบที่ทำให้ใครหลายคนติดใจ....

    .....แต่คิดไปคิดมา...อาจจะผนวกกับรอยยิ้มหวานๆกับความเป็นกันเองของเจ้าของร้านด้วยล่ะมั้ง.....ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่ยอมไปไหน....

     

     

    "เอาอะไรดีวันนี้...."

     

    ลีทึกเดินเข้ามารับออเดอร์ด้วยตัวเอง......แขกพิเศษนี่นา.....แม้จะมาไม่บ่อย...แต่ลีทึกก็ให้ความสำคัญกับแขกคนนี้มากกว่าคนทั่วไป.....

     

     

    "อ๊ะ ของผมเอาสปาเก็ตตี้กุ้งกับคาปูชิโน่เย็นเหมือนเดิมฮะ ส่วนของซีวอน....."

     

    "สเต็กไก่กับเอสเปรซโซ่ร้อน เหมือนเดิมเนอะ..."

     

    ลีทึกต่อเมนูให้อย่างรู้ใจ.....ก็ทุกปีก็เป็นแบบนี้......สั่งเหมือนเดิมแบบนี้ทุกครั้ง....เมนูโปรดของคนทั้งสอง.......

     

     

    ...ไม่เคยเปลี่ยนแปลง......

     

     

    "ฮะ...พี่ลีทึกนี่จำแม่นจริงๆ...ผมขอโทษนะฮะที่ไม่ค่อยได้มาบ่อยๆ..ผมติดธุระน่ะฮะ...."

    ฮีชอลเอ่ยอ้าง.....ก่อนจะก้มหน้าสำนึกผิด.....

     

    "ไม่เป็นไรหรอก แค่ฮีชอลมาทุกปีก็ดีแล้ว....วันนี้วันสำคัญซะด้วย....พี่ไปสั่งข้าวให้เราก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะช้าเนอะ..."

    ลีทึกยิ้มหวานก่อนจะเดินไปสั่งออเดอร์กับพ่อครัว และ เดินไปชงกาแฟให้สองถ้วย....

     

    "นั่นสินะ...วันสำคัญ.....เพราะฉะนั้น...เธอต้องกินเยอะๆนะซีวอน.....เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปนอนดูดาวที่บ้านเธอกัน....."

     

    ไม่นานนักสปาเก็ตตี้กุ้ง กับ คาปูชิโน่เย็น และ สเต็กไก่ กับ เอสเปรซโซ่ร้อนก็ถูกเสิรฟให้ตามออเดอร์อย่างน่ากิน กลิ่นควันที่หอมฉุยล่องลอยจนทำให้น้ำลายสอ.....กาแฟที่หอมหวานราวกับใส่ความรักลงไปก็อร่อยจนเกินจะบรรยาย.......ความรักความอบอุ่นในหัวใจฮีชอลก็เปี่ยมล้นไม่แพ้กัน......

     

     

    "ฮ้า อร่อยจัง....อร่อยจังเนอะ ซีวอน......พี่ลีทึกฮะ คิดเงินด้วยฮะ~"

     

    คนตัวเล็กลูบหน้าท้องตัวเองที่ตอนนี้ดูเหมือนจะบวมขึ้นมานิดๆขึ้นลงให้รู้ว่ากินหมดเกลี้ยง......ก็มันอร่อยจริงๆนี่นา......

     

    "อ๊ะ ฮีชอล วันนี้พี่ไม่เก็บเงินเรานะ ถือว่าเลี้ยงวันเกิดละกัน...."

     

    ลีทึกยิ้มให้ก่อนจะตะโกนกลับมา ทั้งๆที่ในมือกำลังง่วนอยู่กับการชงลาเต้เย็นให้ลูกค้าประจำอีกคนอยู่ (ไม่ได้โปรโมตฟิกเลยฮ่าฮ่าฮ่า)

     

     

    "ไม่ได้นะฮะ....ไม่ได้ๆ ของซื้อของขาย....เก็บเถอะฮะ..."

     

    ฮีชอลเอ่ยเสียงดังกลับไป...ก่อนจะวิ่งไปหน้าเคาน์เตอร์ยัดเยียดเงินให้ลีทึก....ก็เล่นไม่เก็บเงินเค้าทุกปีอย่างนี้เค้าเกรงใจแย่เลยหน่า....

     

    "เอาน่า ถือว่าพี่เลี้ยงซีวอนด้วยละกันนะ..."

     

    ลีทึกยิ้มให้คนตัวเล็กอีกครั้ง  ก่อนจะยัดเงินกลับคืนไป....

     

    "แต่ว่า...."

     

    "เอาน่า...ยังไงซีวอนมันก็ลูกน้องเก่าพี่...ถือว่าพี่เลี้ยงละกันนะฮีชอลนะ...."

     

    ลีทึกยิ้มจางๆก่อนจะผลักตัวคนตัวเล็กให้กลับไปนั่งที่เดิม......หลังจากชงลาเต้เย็นเสร็จแล้ว...

     

    "คิบอม ไปส่งลาเต้เย็นด้วย..."  (ส่งให้ใครนั้นไปติดตามกันเองใน SWEET LATTE นะคะคนอ่าน ฮ่าฮ่า)

     

    "ก็ได้ฮะ...ขอบคุณนะฮะพี่ลีทึก....."

    ฮีชอลก้มหัวให้ลีทึกด้วยความเกรงใจ...ก็ในเมื่อเค้าถูกลีทึกเลี้ยงทุกครั้งเลยสิหน่า....~

     

    "งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะพี่ลีทึก.......ไปกันเถอะซีวอน....กลับบ้านเธอกันนะ...."

    ฮีชอลก้มหัวอีกครั้งเป็นการบอกลา ลีทึกไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มให้ แล้วโบกมือบ๊ายบายเท่านั้น.....

     

    "อ้อ....ฮีชอล...."

    ลีทึกส่งเสียงเรียกไว้อีกครั้ง เหมือนจะนึกอะไรได้...

     

    "ฮะ.."

     

    "สุขสันต์วันเกิดนะ.."

     

    คนตัวเล็กยิ้มกว้างตอบก่อนจะเดินออกจากร้านไป.....และปีหน้า....คงจะได้กลับใหม่อีกครั้ง.....ในวันเดียวกันนี้...

     

    "เฮ้อ....."

    เจ้าของร้านที่ฮีชอลเพิ่งเดินออกมาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่......ไม่ได้ถอนเพราะโล่งอก....แต่ถอนเหมือนคนทุกข์ใจกับอะไรบางอย่าง...

     

     

     

     

    ....บางอย่าง....เกี่ยวกับคนที่เพิ่งเดินออกไป......

     

    "คงจะยังลืมซีวอนไม่ได้สินะ...ฮีชอล..."

     

     

     

    เสียงเล็กเปรยขึ้นเบาๆคนเดียว ก่อนจะมีเสียงอีกเสียงแทรกขึ้นมา.....

     

    "พี่ครับ สเต็กไก่ กับเอสเปรซโซ่ของซีวอน....."

     

    ชายหนุ่มผิวคล้ำนิด แต่หน้าตาดีเอ่ยขึ้นเสียงดัง ก่อนจะเหลือบมองสเต็กที่ยังคงอยู่เต็มจาน ไม่พร่องออกไปแม้แต่นิด....กับกาแฟที่ขอบแก้วยังไม่เปรอะแม้แต่รอยดื่ม...หรือ รอยคน.....ก่อนจะทำหน้าสงสัยระคนสงสาร....ไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...

     

     

    .....สเต็กเต็มจาน.....เหมือนทุกปี...ทุกปีที่ผ่านมา.....

     

    ......ทุกปีที่คนตัวเล็กคนนั้น...จะมานั่งที่นี่....นั่งพร้อมกับ....ใครคนนั้น.....ในความทรงจำของความหลัง........

    ........ที่ไม่เคยลบเลือนไป.......

     

     

    "อืมเก็บใส่กล่องกับถุงร้อนไว้ เดี๋ยวบ่ายๆพี่จะเอาไปทำบุญให้ซีวอนมันน่ะ...."

     

    ลีทึกเอ่ยปาก เหลือบมองสเต็กกับกาแฟ...ก็คิดถึงใบหน้าหล่อของลูกน้องคนเก่าลอยมา.......

     

    เคียงคู่กับใบหน้าของคนอีกคนที่เพิ่งเดินออกกไป....

     

    "...อยู่บนนั้น....นายจะเป็นยังไงบ้างนะซีวอน.....นายจะรู้มั้ยว่าฮีชอลทำแบบนี้ทุกปี.....ตั้งแต่สองปีที่นายจากไป......นายจะรู้มั้ยนะ..."

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    "หนาวเนอะซีวอน....."

     

    ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวงที่แข่งกันเปล่งแสงสว่างสีงดงามตัดกับท้องฟ้าสีดำสนิทนั้นดูงามงดเกินจะบรรยาย....แสงดาวนับล้านที่เห็นเด่นชัดในที่ไร้ความสว่างจากแสงไฟเช่นนี้.....สถานที่ที่เงียบสงบเช่นนี้......สายลมอ่อนๆพัดพาความหนาวเหน็บในยามค่ำคืนมาประทะกับร่างที่นอนคุดคู้อยู่......อยู่ข้างๆกับคนที่เค้ารัก.......ที่นอนอยู่ภายพื้นดินใต้ไม้กางเขน และ ป้ายสีขาว....ที่สลักไว้ด้วยตัวสีทองอย่างงดงามว่า  "ชเว ซีวอน..."

     

     

     

    ร่างบางห่อตัวเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย.....ไม่นานนัก.....สายลมอุ่นๆจากที่ใดสักแห่ง......ก็พัดพามาเพื่อคลายความหนาวเหน็บที่เกาะกินทั้งกาย ทั้งใจ ของคนร่างเล็กให้ทุเลาลง...ซึ่งมันก็เหมือนจะได้ผล.......

     

     

     

    ฮีชอลยิ้มออกมา......เพราะสัมผัสได้ถึงแรงลมนั้น.....

     

     

     

    "...อุ่นแล้วล่ะ.......ซีวอน....ดูดาวสิ.....สวยจังเลย....จำได้มั้ยที่เรามานับดาวด้วยกันทุกปีในวันเกิดเรา........วันเกิดเรา....ที่เราจะต้องกินเค้กกัน.......แล้วเราก็ต้องไปดูหนังรักด้วยกัน....ไปกินข้าวร้านพี่ลีทึกด้วยกัน....แล้วปิดท้ายที่เราจะต้องดูดาวด้วยกันที่ระเบียงห้องเธอไง...จำได้มั้ย...จำมันได้รึเปล่า...ฮึก...ฮึก......ซีวอน....เหมือนวันนี้ไง.....จำมันได้มั้ย...."

     

     

     

    .....จำเรื่องราวต่างๆของเราได้มั้ย..ซีวอน......

     

     

    ......จำความรักของเราได้มั้ย........

     

     

     

    "....ฮึก....ฮึก....วัน...วันนี้....สนุกเนอะ....สนุกเหมือนทุกปี....ฮึก....วันนี้..ที่เราได้อยู่ด้วยกัน....ฮึก....ฮึก...วันนี้ที่เราได้อยู่ด้วยกันเหมือนทุกครั้ง....ฮึก....แม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเหมือนเดิม....แต่วันนี้.....ฮึก...วันนี้เธอก็กลับมาหาเราใช่มั้ย...ใช่มั้ย....ฮึก...ฮึก.......วันนี้เธอกลับมาหาเราใช่มั้ยซีวอน...กลับมาเหมือนทุกปี.....ฮึก...ใช่มั้ย.... ฮืออออออ"

     

     

     

    เสียงร้องไห้ดังเหมือนน้ำตาที่ไหลออกมา....ไหลออกมาให้บรรเทาความเจ็บปวดที่อยู่ข้างใน........การจากลา...และความคิดถึงใครบางคน....ทำให้คนเราเจ็บปวดได้ขนาดนี้เลยสินะ.....

     

     

     

    .....วันนี้.....เป็นวันที่เจ็บปวดที่สุด....เพราะเป็นวันที่คนคนนั้นจากไป......จากไป....ทั้งทั้งที่เป็นวันที่สำคัญที่สุดของเค้า.... แต่อีกนัยหนึ่ง......วันนี้....ก็เป็นวันที่มีความสุขที่สุด.......เพราะเป็นวันที่....ได้พบกับคนคนนั้นเช่นเดียวกัน....

     

     

     

    ......พบกัน.......เพื่อรัก.........."รัก"....ที่ไม่สามารถให้ใครได้อีก......

     

     

     

     

    "ฮึก...ฮึก....ฮันเค้าฝากมาสวัสดีเธอด้วยนะ.....เค้าดูแลเราอย่างดีเลยล่ะ...ฮึก....เพราะฉะนั้น...ฮึก....ฮึก...เธอ..เธอ....ไม่..ฮึก..ต้องเป็นห่วงนะ.......ฮึก....ไม่ต้องเป็นห่ว....ฮึก...ห่วง........ฮึก....ถึงแม้เราจะรู้..ฮึก...ว่าเราเห็นแก่ตัวกับเค้ามาก...ฮึก....แต่....ฮึก...จะทำยังไงได้..ฮึก....ก็....ในเมื่อ.....เรา....เรา....ฮึก....รักใครไม่ได้เลยนี่น....นา..ฮึก...นอกจากเธอ.....เธอ...ซีวอน...ฮึก....ฮึก.......เราคิดถึง...ฮึก....คิดถึงเธอ....คิดถึงจังเลย..ซีวอน.....ฮึก...คิดถึง...แทบใจจะขาด.....ฮึก................ฮือออออ...."

     

     

    คิดถึง....ทุกวินาที....ที่ไม่ได้สัมผัส....แม้ไม่ได้เห็นหน้า.....สายลมที่พัดผ่าน....ก็เสมือนประหนึ่งโอบกอดเค้าไว้.....เฉกเช่นเดียวกับสัมผัสของใครคนนั้น.....แม้จะไม่มีตัวตน...แต่ก็สัมผัสมันได้เสมอ......เมื่อเวลาเธอมาหากัน...

     

     

    น้ำตาที่ไหลเอ่อเป็นสายหลั่งรินให้รู้ถึงความเจ็บปวดที่อยู่ภายในจิตใจ.....ที่มันไม่ได้บรรเทาลงเลยสักนิด.........คิดถึง....แทบขาดใจ...........

     

     

    ......สายลมที่พัดผ่านหนักแน่นกว่าครั้งอื่นๆ......กระทบใบหน้า.....ปลายผมที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม.....ราวกับใครคนนั้น.....กำลังลูบไล้มันอย่างบางเบา...อ่อนโยน....

     

     

     

    .....สัมผัสอบอุ่น.........ที่ยังคงตราตรึง........ไม่ว่าที่กาย.....หรือใจ.....ก็ไม่เคยเลือน.......

     

     

     

    ...."มาหาเราแล้วสินะ....ซีวอน.....มาแล้วสินะ.....มาหาเราเหมือนทุกครั้งแล้วสินะ...."

     

    ....รอยยิ้ม.......ปรากฎแทนที่.........ต้อนรับสัมผัสที่รู้สึกได้เสมอในทุกครั้งที่ต้องการ.......จากใครบางคน.....ใครบางคนที่ยังอยู่เคียงข้างกันเสมอ.......จากนี้......และ...ตลอดไป.....

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ม่รู้ว่านานเท่าไร ที่ฉันและเธอห่างไกลตั้งแต่วันนั้น

     

    อยากขอแค่เพียงสักวัน ให้เราได้มาพบกันเหมือนวันเก่า

     

    แม้ไม่อาจเป็นดั่งใจที่ต้องการ เราต่างรู้

     

    คงไม่นานเกินเฝ้ารอ จะจำไว้เสมอ

     

    เมื่อใดที่สายลมพัด ดั่งมีความรักมาช่วยปลอบความเหงาใจ

     

    ไม่ว่าตัวเธออยู่ไหน ลมจะเป็นเหมือนใจที่ห่วงใยกัน

     

    เพราะรักแท้ก็เหมือนลมที่โอบกอดฉัน

     

    แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ

     

    แค่นึกว่าได้เจอกัน หรือว่าพบในฝัน ฉันก็สุขใจเหลือเกิน

     

    ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นแบบเดิมและคิดถึงกันหรือเปล่า

     

    ลมจะพัดมาจากทิศใดก็ตาม

     

    สายลมเป็นดั่งเป็นสายใยเชื่อมใจเราไว้ไม่ขาด

     

    ให้เราผูกพันแม้ต้องห่างกัน

     

    แม้มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้เสมอ

    Credit : สายลม by เจนนิเฟอร์ คิ้ม...

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    "นี่นี่.....เด็กคนนั้นมาคนเดียวทำไมดูสองที่วะ...."

    พนักงานเก็บตั๋วหนุ่มกำลังจับกลุ่มนินทาลูกค้าหน้าหวานที่เดินเข้ามายื่นตั๋วหนังสองใบให้ ก่อนจะเดินเข้าไปบริโภคหนังรักแสนเศร้าจากประเทศไทย....ที่เรียกน้ำตาคนดูได้เป็นอย่างดี...

     

    "เอ นั่นดิ เมื่อกี้เห็นพูดคนเดียวด้วยว่ะ อะไร ป๊อปคอร์น ซีวอน อะไรก็ไม่รู้....ประหลาดจังแฮะ หน้าตาก็ดีอยู่หรอกนะ!"

    อีกคนที่ใส่ชุดเดียวกันโต้ตอบ ก่อนจะเหล่มองคนหน้าหวานท่ามกลางความมืด กับเก้าอี้ว่างอีกตัวหนึ่งที่ถูกซื้อบัตรไว้ด้วยเช่นเดียวกัน.....

     

     

    "เออ  แก้วน้ำก็มีสองหลอดนะเว่ย ทำอย่างกับมาสองคน....ประหลาดจังวุ๊ยคนสมัยนี้......เฮ้ย...เจ้านายเรียก....ไปทำงานก่อนนะเว่ย เดี๋ยวค่อยเม้าท์ต่อ"

    บทสนทนานินทากาเลจบลง.....ก่อนจะกระจายตัวกันไปด้วยความสงสัยที่ยังคงรบกวนอยู่ในสมอง....

     

     

    ...........หากสัมผัสดีๆแล้ว....จะรู้ว่าคนตัวเล็ก.....ไม่ได้อยู่คนเดียว.........จิตใจของเค้า.....ยังเต็มไปด้วยอีกคนนึงเสมอ.........

     

    .....และตลอดไป.............

     

                                                                                      ~THE END~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×