ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ].....ก็ผมรักฮีชอลนี่!!!......yaoi

    ลำดับตอนที่ #4 : .....ก็ผมรักฮีชอลนี่ (ตอนจบ และ ตอนพิเศษ)............

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 51


    "เอาล่ะ ทุกคนเข้าใจแล้วก็ดี งั้นเตรียมตัวออกเดินทางกันได้แล้ว..."

    ทึกกี้ตัดบทก่อนที่บรรยากาศจะมาคุเสียมากไปกว่านี้ ....คนที่ทำให้บรรยากาศเป็นแบบนี้ก็ได้แต่นิ่ง และ เงียบ ไม่พูดไม่จา และ ก็
    ไม่กินอะไรซักอย่าง....
     
     
    "..แล้ว...พี่ฮีชอลอยู่ไหนล่ะเนี่ย...."
    ด๊องแด๊งผู้แสนใจกล้าเอ่ยปากถามถึงบุคคลที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้....บุคคลที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่มีใครรู้...

     
    "นั่นสินะ...หายไปไหนของเค้.....อ้าวนั่นไง...มาพอดี....ไปเร็วฮีชอล ขึ้นรถ!"

    ทึกกี้เอ่ยปากเรียกคนที่เพิ่งเปิดประตูออกมาจากห้องนอนตัวเอง ในสภาพที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว....ทุกอย่างดูโอเค


     
    ยกเว้นเฉพาะ......ใบหน้าล่ะมั้ง ที่ทรุดโทรมอย่างบอกไม่ถูก......


     
    ขอบตาที่คล้ำ....ดวงตาแดงๆ.......แต่ใครจะกล้าเอ่ยทักออกไปได้กัน.....


     
    ....ใครจะกล้าถามออกไปได้กัน.......ว่าร้องไห้ทำไม......

     
     
    "เอ้าขึ้นรถกันเถอะ"

    ลีทึกเอ่ยปากก่อนจะดันเหล่าลิงขึ้นรถ.....ซึ่งโดยปกติแล้ว.....


     
    คนบางคนแถวนั้น จะรีบขึ้นไปจองที่อย่างแสนเอาแต่ใจ.....


     
    "ฮีชอล ผมจะนั่งกับฮีชอล....ฮีชอลขึ้นมาตรงนี้มา~ "
    ถ้าเป็นแต่ก่อนคนตัวสูงคงพูดแบบนี้ แล้วตบเบาะให้ร่างบางขึ้นไปนั่งเชิงบังคับ 
     
    "ไม่เอาน่า นายไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ซีวอน...นั่งตรงไหนก็นั่งเถอะน่ะ ฮยอกนายขึ้นไป~ไป ฉันจะช่วยทึกกี้ดูแผนที่"

    ฮีชอลเอ่ยตอบ ใจจริงก็คงอยากนั่งกับเจ้าเด็กน้อยจอมดื้อดึงนั่นแหละ แต่นั่งทีไร ตัวเองต้องกลายเป็นหมอนให้สิงโตเอาเปรียบทุกทีสิหน่า.....ก็เลยหลีกเลี่ยงดีกว่า....เดี๋ยวเจ็บไหล่ เต้นไม่ได้ หัวสิงโตก็ใช่จะเบาๆ
     
    "ไม่เอานะ! ผมไม่อยากกินไก่ ฮีชอลอ่าาา นั่งกับผมเถอะน้า ไม่งั้นผมไม่มีแรงทำงานจริงๆนะ!"

    เจ้าเด็กดื้อยังคงเอาแต่ใจต่อไป บทอึนฮยอกจะขึ้นไปนั่งก็ไม่ยอมท่าเดียว คุณชายที่แสนเรียบร้อยเอาเท้าพาดที่นั่งจองที่ให้คนตาโตซะอย่างงั้น.....

     
    "เออๆๆๆๆ นายนี่มันน่า....จริงๆ จะให้นั่งก็หลบสิ!"

    เหมือนทำกรรมด้วยกันมา ในเมื่อสุดท้ายก็ใจอ่อนเหมือนทุกครั้ง ยอมนั่งแต่โดยดี ไม่มีข้อแม้....ก็นะ เจ็บไหล่นิดนึงก็ไม่เป็นไรหรอกน่า.....ตามใจเด็กมันหน่อยแล้วกัน....
     
     


     
    ไม่เคยจะสู้ตาสิงโตนี่ได้เลยให้ตายสิ!~
     
     
    หากแต่ทั้งหมด....มันก็เป็นเพียงความทรงจำในอดีตเท่านั้น.......เพียงในอดีต...ที่ไม่รู้ว่าจะมีวันเป็นจริงอีกครั้งเมื่อไร......

     
    คราวนี้ไม่มีการแย่งที่นั่ง....ไม่มีการจองที่นั่ง....ซีวอนก็เข้าไปนั่งในรถประจำที่เหมือนเดิม......แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้ใครขึ้นไปนั่งด้วยเหมือนทุกครั้ง...ทุกคนมองหน้าฮีชอลเหมือนกับว่าที่นั่งข้างๆคนหล่อนั่น คือที่ประจำของฮีชอล....หากแต่คนตัวเล็ก กลับกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆคนขับรถตู้เสียแล้ว.....
     

    "อึนฮยอกขึ้นมาสิ จะยืนตรงนั้นอีกนานมั้ย...."

    คนตัวโตเรียกเพื่อนให้ขึ้นไปนั่งข้างๆ.....เท่านั้นแหละ ไอที่งงๆกันมาตั้งนานก็เข้าใจแต่โดยดีว่า
     

     
    ซิมซินเค้ายังไม่ดีกันเป็นแน่แท้........
     
     
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "ปกติก็เห็นหายเร็วนี่นา ทำไมคราวนี้มันงอนกันข้ามวันเลยวะ"

    ชินดงที่นั่งจุ้มปุ๊กกินขนมอยู่ข้างๆซองมินหันไปกระซิบกระซาบขอความคิดเห็นจากเพื่อนตัวเล็ก 
     

    "...."

    ซองมินได้แต่ส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่ตอบคำถาม แต่จะบอกให้เข้าใจว่า ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...ก็ปกติไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่นา.....
     
    "บรรยากาศโคตรมาคุเลย.....ไม่มีใครพูดอะไรกันซักหน่อยรึไงนะ!"
    เจ้าตัวอ้วนยังคงกระซิบกระซาบกับเจ้าตัวเล็กต่อไป...แต่รถคันเล็กๆแบบนั้นมีหรือ คนอื่นๆจะไม่ได้ยิน
     

     
    ได้ยินเต็มสองรูหู ทั้งสมาชิก และ เจ้าของเรื่องนั่นแหละ!
     

     
    "พี่ซึงฮวาน เดี๋ยวช่วยแวะ มินิมารท์ข้างหน้าด้วยนะฮะ ท่าทางหมูจะหิว พูดมากซะเหลือเกิน"

    อารมณ์ที่แปรปรวนของซีวอน ทำเอาทุกคนแทบหวั่นวิตก 


     
    ปกติเคยเป็นแบบนี้ซะทีไหนกันเนี่ยยยย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!

     
     
    ชินดงฟังแล้วแทบอยากลดความอ้วนให้รู้แล้วรู้รอดทีเดียว (เกี่ยวมั้ย??)

     
    หลังจากนั้นก็ทั้งรถก็กลายสภาพประหนึ่งป่าช้า....ที่ไม่มีแม้แต่เสียงของจิ้งหรีดร้อง มีเพียงเสียงอากาศที่ดังมาจากเครื่องปรับอากาศประจำรถเท่านั้น.....

     
     
    สามสิบนาที ที่ช่วงเวลาแห่งความมาคุผ่านพ้นไป เงียบขนาดที่ว่า คังอินยังไม่กล้ากระดิกเท้า - -" เยซองยังไม่กล้าขยับขนจมูก - -" 

     
    (กลายเป็นฟิกตลกไปแล้วหรือนี่!")

     
    รถตู้คันงาม แต่คนในรถงามกว่า ก็ได้จอดเทียบลานจอดรถ ของร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่งที่ดูเหมือนมันจะเป็นสถานที่ทำงานของวันนี้.....
     
     

    ปึก..~
     
    เสียงประตูเปิดออกเป็นคนแรก และ เจ้าตัวคนที่นั่งข้างคนขับอยู่หน้าสุด ก็ลงจากรถไป โดยไม่ได้บอกได้กล่าวผู้ใด.....


     
    สมาชิกทั้งหลายที่เริ่มปรับตัวทำความเคยชินกับอารมณ์ที่เป็นอยู่ก็เริ่มจะรับได้ ถึงแม้จะมีสะดุ้งบ้างนิดหน่อย...แต่จริงๆแล้วก็ไม่มีใครพิศวาสอารมณ์แบบนี้หรอกนะ....เพราะถึงทุกคนจะยังปกติ และ ถึงแม้จะมีคนคู่เดียวที่ทะเลาะกัน.....แต่ซุปเปอร์จูเนียร์ก็เปรียบเสมือนเพื่อนเหมือนพี่น้อง ที่มีสายใยผูกพันซึ่งกันทางใจ......เอาเป็นว่า


     
    นายเจ็บ ฉันเจ็บ


     
    นายรู้สึก ฉันรู้สึก ก็แล้วกัน....

     
    คนอื่นๆถึงไม่อยากให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ซักเท่าไร....หลายคนหันไปหาทึกกี้หลายครั้งเหมือนจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือ....ซึ่งพูดออกไปเป็นคำพูดไม่ได้.....พี่ใหญ่ได้แต่ทำหน้าปลงๆ
     


     
    ช่วยจนไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วสิหน่า~
     
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------
    "เอาล่ะครับ....วันนี้ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าเราจะมาถ่ายทำดีวีดีรีแพ็คเกจกัน โดยให้แต่ละพูดถึงสมาชิกอีกคนหนึ่ง และ คนที่ถูกพูดถึง จะนั่งอยู่ด้วย แต่จะนั่งอยู่ไกลๆ เหมือนเป็นแบ็คกราวน์ โดยที่จะต้องเขียนการ์ดให้กับสมาชิกคนที่เรากำลังจะพูดถึงไปด้วยนะครับ ไม่ทราบว่า ลีทึกอธิบายรายละเอียดให้สมาชิกฟังรึยังครับ"
    ทีมงานคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้กำกับในการถ่ายโฆษณาครั้งนี้เดินออกมาต้อนรับ กับชุดลำลองสบายๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มต้อนรับทุกคนที่ยืนเป็นวงล้อมอยู่....อธิบายงานก่อนจะหันไปถามหัวหน้าวงผู้แสนดี
     
     

    "เรียบร้อยแล้วครับ เริ่มถ่ายได้เลยครับ...."
     

     
    "เอ...แล้วจะเริ่มจากใครก่อนดี....อืมมม......ฮีชอลกับซีวอนได้มั้ย!"
     



    ตึง!!! เหมือนฟ้าผ่ากลางกองถ่าย


     
     
    สมาชิกมีตั้ง สิบสาม ไม่ทราบว่า อะไรดลใจผู้กำกับคะ!!!!! ไม่รู้จะเรียกว่า กามเทพ หรือ ยมทูตดี โอยยยยย ให้ตายสิ!


     
    หน้าแต่ละคนซีดเผือกราวกับว่ากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ ที่แม้จะอยากให้มันหยุดเท่าไร แต่มันก็หยุดไม่ได้เลยสักนิด....


     
    ความเงียบเริ่มเข้าครอบงำ....ก่อนที่จะ..

     
    "ครับ ตกลงครับ..."

    คนหน้าสวยขอบตาคล้ำเป็นคนที่เอ่ยคำตอบออกมา ก่อนจะเดินไปหาช่างแต่งหน้าประจำตัว ให้ดำเนินงานอย่างเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ผู้กำกับที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ได้แต่ยิ้มแฉ่งให้



    ซิมบ้าที่ได้รู้ว่าจะต้องพูดเป็นคนแรกทำหน้าเครียดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะคลายออกอย่างรวดเร็วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....



     
    งานก็คืองาน นายจำไว้ ซีวอน นายจำไว้....




     
    นายต้องทำงานร่วมกับเค้าอีกเยอะ....
     
     
     
    เฉยเมย....เย็นชา....
     
     
     
    แต่......
     
     



    ทำไมทำใจไม่ได้เลย....
     

     
    "ผู้กำกับครับ เดี๋ยวผมมานะครับ....ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะรีบมาถ่าย..."
    ซีวอนเอ่ย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางด้านข้างร้านอาหาร เพื่อเข้าห้องน้ำ


     
    เข้าเพื่อปลดทุกข์.....ก็ไม่ใช่....
     
     



    หากแต่....เข้าไปเพื่อ.....
     
     
     

    .....หลั่งน้ำตา......
     

     
    ใครบอกว่าเค้าเข้มแข็ง.....ใครบอกว่าเค้าตัดใจได้......มันไม่ใช่เลย....มันไม่ใช่เลย......
     
     
     



    ทำไม....ทำไมการที่จะเลิกรักใครสักคน....มันทรมาน......มันทรมานเจียนจะขาดใจอย่างนี้นะ........
     


     
    "ซีวอน....นายโอเคมั้ย..."


     
    เสียงเรียกจากด้านนอกดังเข้ามาในห้องน้ำ.....หัวหน้าวงช่างแสนดี.....แสนดีจนคนที่อยู่ในห้องน้ำคิดไปว่า....ถ้าเค้ารักคนคนนี้....
     


     
    คงจะดีกว่าไม่น้อย.....


     
     
    แต่เค้ารักไม่ได้.......รักไม่ได้........



     
    ....เพราะหัวใจของเค้า.....รักใครไม่ได้อีกแล้ว.....



     
     
    .....นอกจาก.....คนคนนั้น......
     

    "....."


     
    "ซีวอน ตอบพี่สักคำเถอะ....ถ้านายโอเค...แล้วพี่จะไป..."


     
    "ฮึก...ถ้าผมรักพี่...ก็ดีสินะ.....ฮึก...ถ้าผมไม่รักเค้า....ฮึก...ก็คงจะดีกว่านี้...."

    เสียงสะอื้นดังออกมาจากห้องน้ำ.....ทึกกี้เปรียบเสมือน พ่อ เหมือนพี่ เหมือนเพื่อน ที่เป็นไม้หลักให้เค้าไว้ค้ำตัวยามลุกขึ้นเองไม่ไหว....ยามที่เค้าทรุด เค้าท้อ เค้าเหนื่อย......ทึกกี้สำคัญสำหรับซีวอน....เกินกว่าใครๆ.....แต่มีอย่างเดียว....ที่ทึกกี้ทำไม่ได้......
     

     
    คือ ทำให้ซีวอนรักไม่ได้.......

     
    "ซีวอน......ออกมาหาพี่ดีกว่ามั้ย....."
     

    "......."


     
    "ถ้าเจ็บนัก ก็อย่าเก็บไว้คนเดียวสิ.....ออกมาหาพี่มั้ย...."


     
    ตึก~ ประตูห้องน้ำเปิดออก....สภาพของซีวอนไม่ได้ต่างอะไรกับฮีชอลเลยสักนิด ดวงตาที่บวมแดงเหมือนคนที่ผ่านการเสียน้ำตามาอย่างหนัก.....จมูกแดง หู แดง .....

     
     
    คงไม่มีใครดูไม่ออกว่า เค้าร้องไห้.....
     


     
    หากแต่มันกลั้นไม่ไหว......ไม่รู้จะทำยังไงดี.....


     
    "ฮึก....ฮึก....ฮึก...ผมอยากรักพี่....ผมอยากรักพี่!!! ผมจะได้ไม่ต้องเจ็บแบบนี้ เค้าไม่รักผม เค้าไม่รักผมเลย เค้าไม่เคยสนใจผมเลย ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง เค้าไม่สนใจผมเลย ฮึก...ฮึก...เค้าทำงานได้อย่างหน้าตาเฉย เค้าแทบจะไม่รู้สึกเลย ว่าผมเปลี่ยนไป เค้าแทบจะไม่แคร์ผมเลยที่ผมไม่เหมือนเดิม ฮึก ฮึก เค้าทำได้ยังไง เค้าทำได้ยังไง...ในเมื่อเค้าก็รู้ว่า ผมรักเค้ามากขนาดไหน เค้าเกลียดผมหรอฮะพี่ ฮึก ฮึก เค้าใจร้าย ฮึก เค้าใจร้าย!!!!~"


     
    ซีวอนตวาดลั่นทั้งน้ำตา ตอนนี้ต่อให้ใครเดินมาก็คงไม่อายแล้ว...ตอนนี้มันกลั้นอะไรต่อไปไม่ไหวแล้ว น้ำหู น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ราวกับเด็กน้อยที่น่าสงสาร


     
     
    ท่าทางจะเจ็บ...เจ็บจนจะทนไม่ไหว......

     
     
    ซีวอนไม่ใช่คนเปิดเผยอารมณ์ตัวเองง่ายๆ ถ้าไม่ใช่กับคนที่ไว้ใจ หรือ ถึงขีดสุด....แต่ตอนนี้ มันคงเป็นทั้งสองอย่าง เลยทำให้เค้า...น่าสงสารเช่นนี้...
     


    คนรับฟังได้แต่น้ำตาไหลไปด้วย....
     
     
    สงสารน้องชายตัวดีจับใจ....
     
    "ซีวอนรักพี่ไม่ได้หรอก เพราะว่าพี่ไม่ใช่คนที่ซีวอนรัก.... หัวใจน่ะ มันบังคับให้รักคนนู้นคนนี้ไม่ได้หรอกนะรู้มั้ย.....ตอนนี้หัวใจทางนู้นเป็นยังไงพี่ก็ไม่รู้ แต่ซีวอนก็รู้นี่นา ว่าเวลาฮีชอลทำอะไรมักจะมีเหตุผลเสมอ พี่ว่าที่เค้าเป็นอย่างนี้ เค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้าก็ได้นะ"

    ลีทึกเอ่ยปลอบน้องชายที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้....คนตัวโตโดนลูบหัวเหมือนเด็กๆ
     
    "พี่ทึกกี้ครับ...."

    ซิมบ้าดูเหมือนจะสงบลงได้ หลังจากได้ระบายความในใจออกมา เรียกชื่อพี่ชายเสียงเบา....


     
    "หืม..."

     
    "ผมตัดสินใจแล้ว...."


     
    "ว่า"


     
    "คราวนี้...ผมจะพูดความรู้สึกออกไปให้หมด.....ความรู้สึกที่ผมมี ผ่านดีวีดีออกไปให้หมด....ให้เค้ารู้....แล้วหลังจากนั้น....."

     
    คนตัวโตเงียบไปซักพักหนึ่ง จนทึกกี้ต้องขมวดคิ้วสงสัย....
     
     


    "ผมจะไม่มาเจอหน้าเค้าอีกเลย......ผมจะไม่มาให้เค้าเห็นหน้าอีกเลย เค้าจะได้ไม่ต้องเจอคนที่เค้าเกลียดแสนเกลียด สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมพอจะทำให้เค้าได้.....สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมจะทำให้คนที่ผมรักได้......ซุปเปอร์จูเนียร์.....มีสิบสองคน...คงไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ....."




     
     
    ซีวอน~
     


     
    "นาย......"
    ทึกกี้ส่ายหน้าราวกับไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองได้ยิน........ราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงความฝัน....
     
     

    "ซีวอน....นายไม่ได้ประชดใช่มั้ย..."
    ลีทึกถามย้ำ....ฟังคำยืนยันจากคนตรงหน้า.....จ้องตาราวกับว่าอยากให้คนตรงหน้าบอกว่า โกหก....
     

     
    "ครับ ในเมื่อผมไม่เคยทำอะไรเพื่อเค้าได้เลย....ผมคิดว่าเค้าน่าจะดีใจที่ไม่มีผมคอยตาม คอยตื๊อให้รำคาญใจอีก แล้วอีกอย่าง อาจจะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ผมทำใจไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสภาพนี้ ไม่เจอหน้ากัน อาจจะทำให้ตัดใจได้เร็วกว่า...."
     



    คนเอ่ยก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด.....ถ้าเป็นฮีชอลได้ยิน อาจจะดีใจ....หรือไม่....ก็อาจจะตบซีวอนหน้าหัน....ในฐานะที่เห็นแก่ตัวเช่นนี้.....
     

     
    แต่ถ้าเห็นหัวใจซีวอนแล้ว....อาจจะเข้าใจได้.....ว่ามันช้ำแทบจะสลายอยู่แล้ว....
     



     
    ใจคน....ก็เหนื่อยเป็น.....

     
    "นายคิดหรอว่าฮีชอลจะดีใจ นายคิดหรอ ว่าเค้าจะดีใจที่ทำให้สมาชิกคนอื่นๆต้องเดือดร้อน...นายคิดหรอว่าฮีชอลจะดีใจน่ะห๊ะ!"


    หัวหน้าวงที่เริ่มทนไม่ไหวตะคอกใส่แบบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ทั้งน้ำตา.....
     

     
    เราคือซุปเปอร์จูเนียร์ เรามีกันและกัน จึงเป็นซุปเปอร์จูเนียร์.....
     
     
     
    .....เราขาดใครไม่ได้....นายเข้าใจมั้ยซีวอน......
     


     
    ....มันไม่ใช่แค่เรื่องงาน.....แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจ.....นายไม่เข้าใจเลยหรือ....ชเว..ซีวอน...
     


     
    ตึง!
     
    เสียงอะไรบางอย่างล้มดังอยู่หน้าห้องน้ำ....ดังเหมือน.....
     
    อะไรบางอย่างล้ม......
     
     
     
    และอะไรบางอย่าง....ที่ซีวอนและลีทึกออกมาเห็น.....
     
     
    "ฮีชอล!!!!!"
     
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------
    สายน้ำเกลือระโยงห้อยอยู่ที่เข็มที่เจาะอยู่ปลายมือเรียว ใบหน้าซีดเซียวราวกับไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง.....สีปากเองก็ไม่ได้ต่างกัน.....ขนาดโดนเครื่องสำอางแล้ว ยังเห็นรอยคล้ำของคนสูบบุหรี่ได้.....
     


    แต่คนที่ดูจะซีดยิ่งกว่า....คงเป็นบุคคลที่กอบกุมมือ เอาแต่นั่งเสียน้ำตาอยู่ข้างเตียง......
     


    "ฮีชอล.....ฮีชอล...."
     


    ตอนนี้ความทิฐิที่เคยมี ความน้อยใจตัวเองที่เคยมี มันถูกกลับด้วยความห่วงหาที่แทบจะบรรยายไม่ถูกตั้งแต่เห็นคนตัวเล็กล้มอยู่หน้าห้องน้ำ...น้ำตาที่เคยไหลกลับไหลหนักกว่าเก่า แต่ไม่ได้ไหลเพราะคนตัวเล็กไม่รัก...
     



    แต่มันหลั่งออกมาเพราะความเป็นห่วง.....
     


    ฮีชอลผู้เข้มแข็ง.....
     

     
    ...ทำไมอยู่ๆอ่อนแอถึงเพียงนี้......


     
    และยิ่งหลังจากทึกกี้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง......ทำเอาซีวอนบ่อน้ำตาแตกอย่างแทบไม่ต้องสั่งแอคชั่นเลยทีเดียว....
     



    "ซีวอน...พี่มีเรื่องจะบอกนาย....ไหนๆก็ไหนๆ...มันอาจจะช่วยให้นายคิดอะไรได้ดีขึ้น....นายรู้มั้ยว่าเมื่อคืน ที่นายเมากลับมาน่ะ.....พี่ไม่ได้อยู่คนเดียว....มีอีกคนนึง....ที่นั่งสูบบุหรี่ตากลมคอยนายตั้งแต่นายหายตัวไป....สูบไปหลายซอง ไม่ใช่หลายมวนนะ หลายซอง.....พี่ห้าม ฮันเกิงห้าม ทงแฮห้าม ก็ไม่ยอมฟัง ไม่พูดกลับใครตั้งแต่กลับมา เอาแต่นั่งเหม่อ คิดอะไรออกไปข้างนอกก็ไม่รู้...ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน..พอตกกลางคืน พี่บอกให้เข้าไปนอน เดี๋ยวพี่จะรอนายเอง ก็ไม่ยอมเข้า บอกให้เข้ามานั่งข้างใน ก็ไม่ยอม จะนั่งอยู่ข้างนอก แล้วยังไม่เปิดไฟระเบียงด้วย แถมยังบอกพี่ว่า ถ้านายมา อย่าบอกว่าเค้านั่งอยู่ตรงนั้น เพราะเค้าไม่ได้รอนาย แต่จะมีใครให้รออีกล่ะ นอกจากนาย...นายคิดว่าฮีชอลไม่สนใจ...พี่ว่ามันไม่ใช่แล้ว....นายคิดว่าฮีชอลไม่รัก...พี่ว่ามันไม่ใช่....ไม่งั้น...หลังจากที่ได้ยินนายพูดเมื่อคืน....เค้า...จะร้องไห้ทำไมกัน...."

     
    "....."


     
    ฟังเรื่องทั้งหมด...คนตัวโตแทบพูดอะไรแทบไม่ออก....เค้าเคยคิดว่าฮีชอลรักเค้า...แต่มันก็เป็นการโกหกตัวเอง....แต่วันนี้.....
     


     
    ขอได้มั้ย....ขอซีวอนเข้าข้างตัวเองได้มั้ยฮีชอล.....
     
     


    ว่าฮีชอล.....รักซีวอนเหมือนกัน......


     
    ได้มั้ยฮีชอล....
     

    "ฮีชอลร้องไห้...จริงหรือครับพี่ทึกกี้....จริงหรือครับ!!!!"

     
    ซีวอนยิ้มแก้มปริอย่างดีใจ....ไม่ใช่ดีใจที่ฮีชอลร้องไห้...แต่มัน.....ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก....มันเหมือน....ความมีคุณค่าในตัวเองเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว....


     
    ฮีชอลไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น....ฮีชอลไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครในชีวิต....นอกจากตอนนั้น...ตอนที่ซีวอนโดนรถชนบาดเจ็บตอนเด็กๆ ซีวอนยังจำได้.....
     
     

     
    ฮีชอลร้องไห้แค่ครั้งนั้น....หลังจากนั้น....ฮีชอลไม่เคยร้องไห้อีกเลย....
     
     

    แต่คราวนี้....ฮีชอลร้องไห้......
     
    "พี่โกหก มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ถึงแม้พี่จะอยากให้นายสองคนดีกัแค่ไหน แต่นายก็รู้ว่า พี่ไม่ชอบการโกหก"
     
    ทึกกี้จ้องตาตอบอย่างมุ่งมั่น และ ทำให้ซีวอนแน่ใจ....ว่ามันคือเรื่องจริง......
     


    สองขารีบวิ่งก้าวเข้าไปในห้องพักฟื้น ก่อนจะไปนั่งกุมมือเรียวเล็กภาวนาให้ลืมตาตื่นมาฟังคำรักจากเค้าอีกครั้ง.....
     


    ฮีชอลครับ....แม้ว่าฮีชอลจะปฎิเสธมัน...แม้ว่าฮีชอลจะสร้างกำแพงกั้นระหว่างความรักของเรา......แต่ซีวอน...ซีวอนคนนี้......
     
     

    ....จะทำลายมันเอง....แม้จะต้องเจ็บปวดสักแค่ไหน....เพียงรู้ว่าทำไปแล้วไม่สูญเปล่า....ซีวอนจะทำ....
     
     



    ....มันจะต้องมีวันนั้นใช่มั้ยครับฮีชอล....วันที่ฮีชอล.....
     
     
     
     
     
    .......กล้ารักซีวอนอย่างเต็มหัวใจ.....ใช่มั้ยครับ....
     
     
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    "หืม...."

    เสียงครางเบาๆ ดังขึ้น.....ก่อนคนตาโตจะตวัดสายตาไปรอบตัว....มีแต่สีขาว....ขาว...และ ขาว....
     
     

    จนคิดว่า....หลุดมาในห้องลีทึกหรือไงกัน!!!
     

    (ได้ข่าวว่าทึกกับซิน นอนห้องเดียวกัน..)

     
    "อ๊ะ...เจ็บ.."



    หน้านิ่วตามเสียงดังขึ้นหลังจากขยับตัวนิดหนึ่ง...ก่อนจะสังเกตุมองรอบห้อง ถึงตระหนักได้ว่าที่นี่มันเป็นที่สำหรับคนป่วย...



     
    ก่อนจะแสยะยิ้มให้ตัวเองเหมือนสมเพช....
     
     
    "หึ....ถ้าจะป่วยหนักนะเรา.....เฮ้อ..."

    ถอนหายใจให้ตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองไปรอบห้องสีขาว....ทุกอย่างคงดูเหมือนปกติ....
     
     


    จะยกเว้นก็แต่.....
     
     
    คนข้างกายที่หลับปุ๋ยเอามือเกาะกุมมือเค้าไว้เท่านั้นเอง....
     
     

     
    เห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ.....จะทำยังไงกับหัวใจตัวเองดีนะ.....
     

     
    "ฉันรักนายไม่ได้...ฉันรักนายไม่ได้....จะให้ฉันทำยังไง...."


     
    ในใจก็คิดถึงตอนที่ซีวอนร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง.....เป็นห่วงมาตลอด ยิ่งเห็นแบบนี้จะให้ใจแข็งอยู่ก็ใช่ที่.....
     


     
    มือเรียวเกาะกุมที่หัวใจตัวเอง.....
     
     
    ....เจ็บจัง......


     
     
    ก๊อกๆๆ
     
    แอ๊ด....
     
    เสียงเคาะประตู ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเปิดประตู....นางฟ้าประจำโรงพยาบาลเดินเข้ามา ก่อนจะส่งเสียงประหลาดใจ...
     

     
    "อ้าว คุณฮีชอลตื่นแล้วหรอคะ....อ๋า ตื่นนานยังคะเนี่ย"
    นางพยาบาลสาวเอ่ยเสียงตกใจเล็กๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆขอบเตียง...
     


     
    "แหม...คุณซีวอน ก็น่ารักเชียวนะคะ อึดมากเลยนะคะเนี่ย เฝ้าตั้งสองวันสองคืน..."

    พยาบาลสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูเหมือนเธอจะรับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ทางใจอะไรบางอย่างของคนสองคนนี้...
     

     
    "อะไรนะครับ...ผมหลับนานขนาดนั้นเชียวหรอ...."
    คนฟังตกใจ ก่อนจะก้มหน้าไปมองคนที่หลับปุ๋ย ขอบตาคล้ำข้างๆ.....
     



     
    ....นาย...จะบ้าไปแล้วหรอเนี่ย....
     
     
    "ค่ะ คุณฮีชอล เป็นลมไปเพราะร่างกายพักผ่อนน้อย แถมเลือดยังจาง และ เกล็ดเลือดสร้างเลือดใหม่ไม่ทัน หมอเลยให้ยานอนหลับคุณไปนะค่ะ อยากจะให้พักผ่อนเต็มที่ คุณก็หลับไปตั้งสองวัน สองคืน..."


    นางพยาบาลสาวยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะเอาเครื่องวัดความดันไปวัดที่รอบแขน...แต่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้ ก็....
     
     
     


    ....มันมีคนครอบครองอยู่นี่นา...
     

     
    "แล้วหมอนี่...."
     


     
    "เฝ้าทั้งสองวันสองคืนไม่ยอมกินอะไรเลยค่ะ พอดิฉันบอกว่าให้ทาน เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวรอคุณฮีชอลตื่นแล้วค่อยกินพร้อมคุณฮีชอล...แล้วก็นั่งกุมมืออย่างนี้ตลอดเลยค่ะ....น่ารักจังเลยนะคะ..."
     
     

    "...."

     
    ฮีชอลไม่ได้ตอบรับ สายตากลม กลับจดจ้องไปที่ใบหน้าที่นอนหลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง...
     
     
    ....นาย....รักฉันขนาดนั้นเลยหรือไงกัน.....ซีวอน....
     
     
     

    "จริงๆแล้ว ถ้าคุณสองคนรักกันจริงๆก็คงจะดีนะคะ..."
     
    อยู่ๆนางพยาบาลสาวก็พูดขึ้นมา เหมือนพูดเล่นๆ แต่ก็มีความจริงจังแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นไม่น้อย....
     
     
    "ผมไม่นิยมรักเพศเดียวกันหรอกครับ"
    ตอบคำถามนี้เหมือนเป็นคำถามปกติ ที่ชีวิตประจำวันจะต้องตอบ เหมือนเป็นสคริปที่ท่องไว้อยู่ตลอดเวลา
     
     


     
    เป็นคำพูดที่ไม่ได้มาจากใจ.....
     
    "น่าเสียดายยยยย จริงๆแล้วเหล่ากลีบดอกไม้เชียร์คุณฮีชอล กับคุณซีวอนมากเลยรู้มั้ยคะ...."
    นางพยาบาลสาวค่อยๆแกะมือฮีชอลออกมาวัดความดัน...
     


    แต่แกะยังไง....
     
     
    ก็แกะไม่ออก....เหมือนกับ เด็กหวงของ....ที่แม้แต่หลับ....ก็ยังไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง....
     
     
    "เห...อะไรนะครับ...."
    คนฟังดูเหมือนแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน.....ก็ที่เค้ารู้มาดูคน....แอนตี้จะตายไม่ใช่หรือไง!
     
     


    "จริงๆนะคะ กลีบดอกไม้ของคุณน่ะ แทบจะทุกคนบอกว่า ถ้าคุณสองคนรักกันจริงๆก็คงจะดี....คุณฮีชอลก็จะได้มีคนดูแลอยู่ตลอดเวลา.....เค้าก็จะได้สบายใจ....แต่ช่างเถอะค่ะ....ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของคุณฮีชอลล่ะนะคะ..เพราะว่ายังไงคุณฮีชอลก็เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณฮีชอลจะชอบเพศไหน กลีบดอกไม้ก็คงรับได้หมด ถึงแม้จะไม่ตรงกับใจพวกเค้า แต่ยังไงก็เป็นสิ่งที่คุณฮีชอล เลือกแล้ว...เพราะฉะนั้น มันก็คงเป็นสิ่งที่ตรงใจคุณฮีชอลมากที่สุด เพราะฉะนั้น เหล่ากลีบดอกไม้ก็คงจะต้องชอบตามคุณฮีชอลแหล่ะค่ะ"
     
    พยาบาลสาวอธิบายเป็นฉากๆๆๆ ทำให้คนตาโตตาโตขึ้นอีกเมื่อรู้อะไรบางอย่าง....
     
     
     
     
    "อ๋า ท่าทางจะวัดไม่ได้แฮะ...เอาไว้คุณซีวอนตื่นมาเมื่อไร...กดเรียกดิฉันอีกครั้งนะคะ...แล้วดิฉันจะมาวัดให้ใหม่....อ้อ...แล้วนี่คุณลีทึกฝากไว้ให้ค่ะ.."

     
    พยาบาลสาวเก็บอุปกรณ์วัดความดันไว้ที่เดิม ก่อนจะเดินไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลอะไรบางอย่างมาให้ฮีชอล....ก่อนจะก้มหัวร่ำลา..
     
     
    "เดี๋ยวครับ...."
     
     
    "คะ??"
     
    คนตัวเล็กเอ่ยเรียกพยาบาลสาวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากก้มหัวตอบรับ...ก่อนจะเอ่ยปากถาม
     
     
    "คุณรู้เรื่องกลีบดอกไม้ของผมได้ยังไงครับ..."
     
     
    พยาบาลสาวยิ้มกลับก่อนจะตอบออกมาให้หายข้องใจ...
     
     
     
    "ก็เพราะดิฉันเป็นกลีบดอกไม้ไงคะ" ^-^
     
     
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    ' ไง ตื่นแล้วล่ะสิท่า เจ้าตัวยุ่ง ตอนนี้ฉันกับคนอื่นๆ ลัลล้า~ อยู่ที่คอนโดกันนะ ไม่ต้องตกใจที่ไม่เห็นฉัน และ คนอื่นๆ แหะๆ ไม่ใช่ไม่ห่วงนะ ก็แค่อยากปล่อยให้นายสองคนได้คุยกัน เผื่อบางที อะไร อะไรมันจะดีขึ้น .. ฮีชอล นายน่ะน้า....เปิดใจซักทีเห๊อะ...ฉันรู้
    ว่าถ้าฉันพูดกับนายโดยตรงนายคงไม่ฟัง ก็เลยต้องนั่งเขียนจดหมายเนี่ย....เมื่อยมือชะมัดให้ตายสิ ! (- -") แต่ก็นะ ทุกคนอยากให้นายสองคนกลับเป็นเหมือนเดิมจริงๆ ถึงแม้นายอาจจะไม่ฟัง แต่นายก็น่าจะรับรู้สิ่งที่ซีวอนพูด และ สิ่งที่ซีวอนกำลังจะทำ (นั่นก็คือการออกจากวง) เจ้านั่นมันทำเพื่อนายทุกอย่าง นายก็น่าจะรับรู้ (โตแล้วไม่ใช่เด็กๆ) แล้วฉันก็คิดว่า คุณยูริ(คุณพยาบาลสุดสวยน่ะ)คงพูดอะไรเกี่ยวกับกลีบดอกไม้ให้นายฟังบ้างล่ะ...ให้ตายสิ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่านายกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้รึเปล่า นายกังวลกับการที่คนนอกจะมองว่านายรักเพศไหนรึเปล่า แต่ถ้านายกังวล นี่ก็คงเป็นสิ่งยืนยันที่จะเป็นข้อพิสูจน์แล้ว ว่า ขนาดทุกคนที่รักนาย ยังยอมรับ แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมรับตัวเอง ซักที ทั้งๆที่ใจนายน่ะ มันยอมรับไปแล้วทั้งใจ (อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ถึงฉันไม่ใช่ตัวนาย แต่ซุปเปอร์โปรด้านความรักอย่างฉันน่ะมองออก) นายมันก็แค่ไอขี้ขลาดที่ปิดตัวเอง ออกจากโลกแห่งปัจจุบัน นายอ่ะ ปกติก็เป็นตัวของตัวเองไม่ใช่หรือไง เรื่องแค่นี้ มองหาตัวเองไม่เจอหรือไงกันเจ้าบื้อ ~ แค่มองลงไปในหัวใจ และยอมรับสิ่งที่มันเป็น นายก็น่าจะทำได้....และทำได้ดีไม่ใช่หรือไง.....

     
    สุดท้ายนี้ที่ฉันนั่งเขียนมาทั้งหมด ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันไม่ใช่ตัวนายหรอกนะ....ฉันก็เป็นตัวฉัน บางทีฉันอาจจะเดาผิดที่ว่านายรักซีวอน

     
    ฉันไม่ได้บังคับให้นายรักใคร.....ฉันแค่อยากให้นายทำตามใจตัวเอง....ส่วนใจนายมันตอบว่าอะไร....


     
    มีนายเท่านั้นที่รู้....
     
    เป็นตัวของตัวเองหน่อยไอน้องชาย....(อย่างน้อยฉันก็เกิดก่อนนายน่ะนะ)


    ป.ล.แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากไม่ได้ทำให้นายมีความสุขหรอกนะ....ชีวิตนาย นายต้องแฮปปี้เข้าใจมั้ย...


    แล้วจะไปรับที่โรงพยาบาล อย่าทำโรงพยาบาลเค้าแตกล่ะ...

     
    อ้อ แล้วก็ ซุปเปอร์จูเนียร์ มีสิบสามคนนะ 

     
    เพราะฉะนั้น หน้าที่รักษาให้ครบสิบสามได้ ตอนนี้ก็มีนายคนเดียวที่ทำได้น่ะนะ....ช่วยหน่อยละกัน...^-^

     
    จากหัวหน้าวงผู้แสนดี และ ลิงอีกสิบตัว..'
     
     
    "ให้ตายสิ ทำตัวเหมือนคนแก่เลย...เขียนเหมือนไม่บังคับ แต่มันบังคับกันชัดๆ เจ้าหัวหน้าวงบ้า..."
     


    คนตัวเล็กยิ้มขำ ก่อนจะเหลือบมองกระดาษที่แนบมาด้วย..


     
     
    "อะไรเนี่ย...โพลแบบสำรวจ...หัวข้อ...อยากให้คู่ซิมซินเป็นเรื่องจริงมั้ย.....อะไรเนี่ย..อยากร้อยเปอร์เซ็น...ให้ตายสิ!! ฉันดูรักนายขนาดนั้นเลยหรอไงเจ้าซิมบ้า..."


     
    คนตัวเล็กยิ้มกับความบ้าบิ่นของเพื่อนร่วมวง ที่น่าจะเป็นคนตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาสำรวจความชื่นชอบของเหล่ากลีบดอกไม้ของเค้า....
     

     
    เค้าไม่เคยคิดว่าทุกคนจะอยากให้มันเป็นจริง....ทั้งๆที่เกาหลีแอนตี้เรื่องนี้จะแย่...
     
     
     
     
    เค้าก็เลยปิดบังมันตลอด เพราะฐานะทางบ้านของคนตัวโตที่กุมมือเค้าอยู่ตอนนี้ เพราะวัฒนธรรมที่ยังไม่เปิดกว้างสำหรับชายรักชาย 


     
    เพราะเหล่ากลีบดอกไม้ของเค้า...เค้ากลัวว่าจะรับไม่ได้....
     

     
    เค้าดูเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง....
     
     
    ไม่ใช่เพื่อใคร.....แต่เพื่อคนข้างเตียงคนนี้.......กลัวไปซะหมด...กลัวว่าจะโดนต่อต้าน กลัวว่าจะโดนเหล่ากลีบดอกไม้ของเค้าเกลียด 


     
    ....กลัวสังคมจะรับไม่ได้....
     
     
     
     
    กลัวคนตัวโตเจ็บ....จนต้องปิดกั้นกำแพงหัวใจเอาไว้......
     
     
     
    แต่ตอนนี้.....มันเหมือน....


     
    โล่งอก.......โล่งใจ......ในเมื่อทุกอย่างดูเป็นใจเหลือเกินที่จะให้เค้ารักผู้ชายคนนี้.....
     
     


    รักอย่างไม่ต้องกลัวอะไร...
     
     
     
    สังคมของโลกใบนี้นี้เป็นอุปสรรคอยู่....แต่หลังจากดูความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนตรงหน้าแล้ว...
     
     
     
     
     
    ทำให้คนตัวเล็ก...เลิกที่จะปฎิเสธความรักอีกต่อไป....ก็ในเมื่อ....เค้ามั่นใจ.....
     

     
    "ไม่ว่าอะไร....นายก็จะทำให้ฉันได้ใช่มั้ย...ชเว...ซีวอน...."
     
     
     
    "ครับ ซีวอนทำให้ฮีชอลได้...ทุกอย่าง....แม้ต้องให้ชีวิต..."

    คนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตอบ และก็ยังกำข้อมือเล็กอยู่ไม่เสื่อมคลาย....
     
     
     
    "เจ้าบ้า แกล้งหลับหรือไงกัน!!!"


    ฮีชอลทุบอักไปที่สิงโตเจ้าเล่ห์หนึ่งทีก่อนจะเบือนหน้าหนี.....ไม่ใช่เพราะโกรธ...แต่มันยังไม่พร้อมที่จะสบตาตอนนี้นี่นา...
     


     
    "โอยยย เจ็บนะครับฮีชอล...อย่ารุนแรงสิครับ.."

    คนตัวโตลูบบ่าตัวเองหนึ่งที ก่อนจะทำหน้าเบ้ แต่มือใหญ่ก็ยังกำข้อมือเล็กไม่เปลี่ยน....
     
     
    "ฮีชอลครับ..."
     
     
    "อะไร!"
     
     
    "หันมาสบตาซีวอนหน่อยได้มั้ยครับ..."

    เจ้าเด็กดื้อร้องเรียกอย่างเว้าวอน มือแกร่งก็ยังคงกอบกุมมือเล็ก แต่ตัวนั้นอัญเชิญตัวเองโยกย้ายขึ้นไปบนเตียงเรียบร้อยแล้ว....
     
     
    "นะครับคนดี...."
     
     
    "เย่...หันมาแล้ว...^-^"
     
     
    "จะ.."
    ร่างเล็กกำลังจะด่าด้วยความเขิน แต่มือใหญ่เอามาทาบปากแดงนั้นไว้เสียก่อน.....
     
     
    "ฮีชอลครับ....ฮีชอลฟังซีวอนหน่อยนะ....สิ่งที่ซีวอนกำลังจะพูดต่อไปนี้....อาจจะไม่ใช่สิ่งที๋ฮีชอลอยากฟัง...อาจจะเป็นสิ่งที่ฮีชอลรำคาญใจ....แต่วันนี้ซีวอนขอพูดเถอะนะครับ....ซีวอนขอพูดไม่ใช่ในฐานะเด็ก และ พี่เลี้ยง ไม่ใช่ในฐานะ เพื่อนร่วมวง ไม่ใช่ในฐานะคนข้างบ้าน ไม่ใช่ในฐานะคนร่วมหอ แต่เป็น....ฐานะคนที่รักฮีชอล.......
     
    ฮีชอลครับ...ซีวอนไม่รู้หรอกนะครับ ว่าฮีชอลรู้สึกยังไงกับซีวอน...แต่ซีวอนอยากจะบอกฮีชอลว่า...ซีวอน "รัก" ฮีชอล...รักฮีชอลมาก...มากจริงๆ.....ไม่ใช่รักไปตามประสาเด็ก ไม่ใช่รักตามกระแสนิยม ไม่ใช่รักเพราะซีวอนชอบผู้ชาย แต่เป็น รัก ที่ซีวอนไม่
    สามารถให้ใครได้....ซีวอนไม่เคยสนใจว่าฮีชอลจะเป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิง ซีวอน รักที่ตรงนี้....ตรงหัวใจของฮีชอลนี้....และ..ซีวอนรักทั้งหมดที่เป็นตัวของฮีชอล...รักที่ฮีชอลเป็นฮีชอล........แต่ถ้าฮีชอลไม่ได้รักซีวอน....เอาเรื่องจริงตอนแรกซีวอนยอมรับครับว่าท้อ....ท้อจนแทบอยากจะเลิกรัก...แต่....มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง....(ลีทึกไง - -") มาบอกว่าจะเลิกรักไม่ได้....เลิกรักฮีชอลไม่ได้......หัวใจซีวอนมันดื้อครับ....มันก็เลยประท้วงไม่ยอมให้เลิก......ก็ฮีชอลน่ารักนี่ครับ....หัวใจมันก็เลยอยากจะครอบครอง...
     
    สุดท้ายนี้.....ซีวอนขอถามฮีชอลเป็นครั้งสุดท้าย.....ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง....ซีวอนจะยอมรับทั้งหมด....ขอให้ฮีชอล....ตัดสินใจออกมาจากใจของฮีชอลนะครับ......ไม่เอาคนอื่น มาเกี่ยวข้อง เอาแค่ใจ....ของฮีชอลเท่านั้น....
     
     
    ฮีชอล....รัก....ซีวอนได้มั้ยครับ...."
     
     
    "......."
     
    ไม่มีคำตอบรับ....ไม่มีเสียงออกมาจากร่างบาง.....

     
     
    มีเพียง....หยาดน้ำตา....น้อยๆที่รินไหลออกมาเมื่อได้ฟังข้อความตรงหน้าจบ....หยาดน้ำตาที่มันแสนจะไหลยาก....
     
     
    กลับไหลออกมาจากความจริงใจ และความรักของผู้ชายคนนี้.....
     


     
    .....ร่างเล็กโผกอดคนตัวโตโดยไม่เอ่ยปากใดๆ......
     


     
    ........กอด....ด้วยความรัก.......
     
     
     
    .....ที่มีให้ไม่ต่างกัน............
     
     
     
    .....ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้.......
     
     
    ........ขอบคุณสำหรับความรักอันมั่นคงที่มีให้มาตลอด.......
     
     
    ........ขอบคุณสำหรับความอดทน....ที่รอคอยความรักจากคนดื้อดึงอย่างฉันมาตลอด........
     
     
     
    ..........รัก...ซีวอนนะ.........
     
     
    "ผมถือว่านี่เป็นคำตอบนะครับฮีชอล....."
     
    คนตัวเล็กพยักหน้าทั้งน้ำตา.....อ้อมกอดที่กระชับซึ่งกันและกัน......มันอบอุ่นกว่าอ้อมกอดจากที่ใดๆ.....
     
     
    ......ก็เพราะผมรักฮีชอลนี่ครับ.....ฮีชอลก็รักผม.....
     
     
    ......อ้อมกอดแห่งความรัก....มันต้องอบอุ่นอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะครับ.....
     
     
    .....แล้วคุณล่ะครับ......อยากกอดใครขึ้นมารึยัง.......
     
     
     
    .......สู้ๆนะครับ....ความรักย่อมชนะทุกสิ่งอยู่แล้ว.............ผม นาย ชเว ซีวอน เป็นกำลังใจให้ \(^-^)/
     
    ฉันขาดเธอ ชีวิตฉันคงว่างเปล่า
    ไม่มีเรื่องราว ทางเส้นเก่าก็เดินมันไป เหนื่อยก็ยังเดินไป
     
    พบกับเธอ ชีวิตฉันมีคุณค่า
    มองไปข้างหน้า มันสวยกว่าที่เคยเป็นไป
     
    รักยิ่งใหญ่จากชายคนหนึ่ง ที่ทุ่มเทให้มาทั้งใจ
    เธอมาเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ เปลี่ยนชีวิตให้คนอย่างฉัน
     
    รักจากเธอ ให้ฉันมาจนมากมาย
    ตอบแทนเท่าไหร่ สักเท่าไหร่ไม่อาจเพียงพอ
     
     
     
    เพราะว่ารักที่เธอให้มา ทุ่มเทมาให้ฉันหมดใจ
    เธอมาเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ เปลี่ยนชีวิตให้คนอย่างฉัน ให้กับคนอย่างฉัน
     
     
     
    เท่าไหร่ไม่อาจเพียงพอ
     
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------SPECIAL PART~
    (แอบยาวเหมือนกันนะเนี่ยฟิกเรื่องเนี๊ย)
    “เอาล่ะครับ.....หวังว่าคราวนี้ฮีชอลคงจะไม่เป็นลมไปอีกนา....ทีหลังไม่สบายก็บอกรู้มั้ยครับ ทำให้คนบางคนเป็นห่วงถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
    ผู้กำกับอารมณ์ดีคนเดิมพูดก่อนจะยิ้มแซวไปทางคนตัวโตที่นั่งโอบคนตัวเล็กอยู่บนตักอย่างไม่อายสายตาใคร.....
     
     
    “คนรักของผม ผมก็ต้องห่วงสิครับ.....”
    ได้ทีก็เอาใหญ่เลย พ่อสิงห์หนุ่ม พอคนเค้ารับรักเข้าหน่อย ก็เอามากอด เอาหอม ทั้งวันเลยนะ 
     
    “หมั่นไส้จริงจริ๊ง คิดผิดมั้ยเนี่ย ที่ช่วยให้มันรักกันเนี๊ย”

    พี่ใหญ่ของวงบ่นอุบอิบ ก็แหม....คำว่าอิจฉาพูดไม่ยากหรอกนะ ลีทึก.....
    “ผมไม่กล้าว่าอะไรพี่ทึกกี้หรอกค้าบบบ ถ้าไม่ได้พี่ทึกกี้ช่วยคราวนี้ ผมก็คงไม่ได้รักกับฮีชอล เพราะฉะนั้น ผมยอมพี่ทึกกี้ทุกอย่างเลยค้าบบบ....”

    ซีวอนทำท่าติ๊งต๊องยกมือพนมไว้เหนือหัว สร้างรอยยิ้มไปรอบกอง คนที่ถูกล้อทำปากยื่นไม่พอใจ....
     


    งอน!!!

     
    “โอ๋ๆๆๆ อย่างอนไปเลยน่า....ถ้าอยากมีบ้างนู่นไง ไอเจ้าหมีรอกินน้ำผึ้งอยู่นู้นแหนะ...”
    ฮีชอลพยักเพยิดไปทางคนตัวกลมที่นั่งโซ้ยมาม่า มองมาด้วยท่าทางอยากเข้ามาร่วมวงด้วย...แต่ติดอยู่ที่
     


     
    ยังกินไม่เสร็จน่ะสิ!!!
     


    “โหย ตะกละอย่างนั้น ใครจะรักลง”
    รักไม่ลง แล้วทำไมต้องหลบตาด้วยล่ะจ๊ะ แม่คุณ.......


     
    “อ่ะแหน่ะๆๆ รักไม่ลง แต่กินลงใช่มั้ยล่า ฮิ้ววววว”

    ไก่น้อยขอร่วมวงด้วยอีกคน....เห็นพี่ใหญ่เขินทีไร มันสนุกทุกทีสิหน่า....
     
     
     
    “บ้าแล้วพวกแกนี่ พอๆๆ ทำงานๆๆๆ”

    ลีทึกตัวแดงม้วนต้วน ก่อนจะเดินฉับๆๆๆออกไปจากวงสนทนา ที่ถ้าอยู่ต่อไปคงได้กลายเป็นมะเขือเทศเข้าสักวัน....


     
    แต่ยังไม่ทันจะเดินหนีไปไหน....
     

    เสียงจากสวรรค์ (ชั้นกามเทพ) ก็ดูจะเป็นใจเรียกไว้....

     
    “พี่ทึกกี้....ผมหิว!”
     

     
    เฮ้อออออ คงจะต้องติดตามความรักของทั้งคู่ต่อไปล่ะน้า.....
     
    “ซีวอน ต่อไปซีวอนพูดถึงฮีชอลนะ....แต่พี่ขอนิดนึง ให้เรียกฮีชอลว่าพี่ฮีชอล มันจะได้ดูเป็นทางการน่ะนะ โอเคมั้ย...”

    ทีมงานเดินเข้ามาบอกร่างสูงที่กำลังถูกร่างบางจัดเสื้อให้อยู่....ก่อนจะหันไปยิ้มรับ...
     
    “ได้ครับ...เดี๋ยวผมตามไปนะ....”
     
    “โอเค..”
    ทีมงานเดินออกไป แล้วตอนนี้....ก็เหลือกันอยู่สองคน.....คนตัวเล็กยังคงงกๆเงิ่นๆจัดเสื้อคนรักต่อไป...
     
    “ฮีชอลครับ...”
     
    “หืม....”

     
    “ผมมีเรื่องจะบอก.....”

     
    “บอกรักหรอ....รู้แล้วล่ะน่า....”

     
    “ป่าวครับ....ผมแค่จะบอกว่า....ผมอยากให้คนที่ผมจะแต่งงานด้วย.....ไปโบสถ์กับผม และอยากให้เค้ามีความสุขกับพระเจ้าเหมือนผม..แค่นั้นล่ะครับ......”

    พูดจบคนตัวโตก็เดินไปเข้าฉากไม่บอกไม่กล่าว.....ปล่อยให้คนตัวเล็กยืนอึ้งๆ..
     
    ก็ในเมื่อ....


     
    --ดีวีดี รีแพ็คเกจ ขณะถ่ายทำ...
     
    Siwon : มันหลาย ปีแล้ว.. ที่ผมได้พบกับพี่ฮีชอล.. ว้าว~ มัน หลายปีแล้วนิ~ ฮ่าๆ (หมายเหตุ**ขอเปลี่ยนแปลงบางประการเพื่อให้เข้ากับฟิกนะคะ)

    ก่อนอื่น.. ผมคิดว่า หลายคนคงคิดว่าพี่ฮีชอลเป็นคนแปลกๆ..
    คิคิ .. แต่ว่า.. อื้มมม~ มันก็จริงนะ.. แต่ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะสนิทกะเขาไม่ได้.. มันไม่ใช่อย่างนั้น~!!
    ฮ่าๆ~ อื้มมม มันค่อนข้างยากนะ ที่จะแนะนำพี่ฮีชอลให้รู้จัก..
    ผมอยากบอกเกี่ยวกับตัวเขา และนิสัยแปลกๆของเขา..
    เขาเป็นคนแปลกๆ.. แต่เขาก็มีจิตใจอ่อนโยนนะ



    Heechul : อะไรนะ ???



    Siwon : หัวใจของพี่.... มันช่างอ่อนโยน~~ ฮิฮิ~



    Heechul : ไม่ต้องพูดแบบนั้นก็ได้~~.. ^O^



    Siwon : ฮิฮิ~ แล้วก็... ในความคิดของผม.. เขาเป็นคนมีความคิดสร้างสรคค์
    .. เขาจึงสำคัญกับวงของพวกเรามาก... ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น~



    Heechul : นายพูดอะไรน่ะ ?? ^^



    Siwon : ฮิฮิ~ พี่เป็นคนสำคัญ ไง...
    ใช่~ เขาเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์... แต่ว่า..บางทีเขาก็ดื้อ..



    Heechul : อะไรนะ ?? ฮิฮิ~



    Siwon : ฮ่าๆ ~ เขาเป็นคนเก่งแล้วก็สนุกสาน... นั่นเป็นหนึ่งในข้อดีของเขา..



    Heechul : (ยกถ้วยขึ้นมาแล้ววางลง และพูดว่า..) กาแฟไม่ได้เรื่องเลย ~~ 



    Siwon : อ่า.. มันใช้เวลานานที่จะสนิทกับเขา.. ผมหมายถึงว่า ไม่ใช่แค่ พูดว่า "สวัสดี.. สบายดีมั้ย ?" แบบนั้น
    "สนิท" หมายถึง สามารถพูดทุกอย่างได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาด้วยหัวใจ
    หลังจากที่สนิทกับเขาแล้ว... และเขาชอบคุณจริงๆ.. เขาสามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่คุณได้..
    นั่นคือเหตุผลที่ผมชอบเขามากๆ... และบางครั้งผมก็รู้สึกว่าเขาเป็นพี่ชายของผม ^^



    Heechul : อะไรนะ ????????? โอ้~ ซีวอนผู้น่ารัก~~ ^^



    Siwon : ใช่แล้ว~ ^^ .. แต่ ผมชอบเขามากๆ... เขาเป็นคนดี.. ดีจริงๆที่ได้ทำงานร่วมกัน~
    ผมรู้สึกขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่ทำให้ผมได้รู้จักเขา...



    Heechul : ฮิฮิ~ ชั้นคิดอยู่แล้ว ว่านายต้องพูดแบบนั้น.. ฮิฮิ~



    Siwon : ผมอยากให้เค้าไปโบสถ์...
    ถึงเวลาที่ผมจะให้การ์ดกับเขาแล้ว...
    เหมือนที่ ก่อนหน้านี้ คิบอมได้ให้การ์ดผม... ผมจะให้การ์ดเขา
    (แล้วซีวอนเดินไปหาฮีชอล)



    Heechul : ให้ชั้นเหรอ ??



    Siwon : ใช่.. ผมคิดว่า.. พี่ต้องหัวเราะแน่ๆ ถ้าพี่ได้อ่านมัน..



    Heechul : งั้นเหรอ ?? โอเค..



    Siwon : ไม่ขำเหรอ ??



    Heechul : ใช่~~ ชั้นไม่ขำหรอก.



    Siwon : โอเค~ ผมตั้งใจเขียนมันจริงๆนะ ~



    Heechul : นายไม่ได้เขียนว่า.. ไปโบสถ์ ??



    Siwon : เปล่า~ ผมไม่ได้เขียน


    Heechul : มีความสุขกับพระเจ้า... นายเขียนแบบนี้รึป่าว ?? 

     
    คนตัวเล็กคิด แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะคิดว่า.....ซีวอนจะพูดเล่น......แต่.....


    Siwon : ............ ยิ้ม (เดินออกไป โดยไมได้พูดอะไร..)

    Heechul : เฮ้ ~!! .. ชั้นได้แล้วๆ.. !! ... นายเขียนแบบนั้น........ @$#%##
     
    http://www.youtube.com/watch?v=poV6Af9PJ44   ลิ้งประกอบ~

    -------------------------------------------------------------------
    Korean Text: SimCin@Paradox
    English Translate: K.O.YooN
    Thai Translated :kisuki_gift@miraclelove,Green_kappa@OhMyDonghae
     
    “คัท!!!”
    เสียงผู้กำกับสั่งดังขึ้น เมื่องานเสร็จเรียบร้อย และเป็นที่น่าพอใจ
     
    “เยี่ยม เยี่ยม มากๆเลย...เอ้า แล้วนั่น ฮีชอลไม่สบายหรอ ไหงน่าแดงอย่างงั้นอ๊ะ”
    ผู้กำกับเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าของคนตัวเล็ก....
     
    ก็ตอนนี้มัน.....แดง...แดง....และก็แดง.....
     
     
    “หะ เห หรอครับ....สงสัยเพราะอากาศร้อนมั้งครับ..”
    ออกมายังดูมึนๆไม่หาย ก่อนจะเดินไปกินน้ำกินท่าที่ทีมงานเตรียมไว้ให้...
     
    ก็ไอเจ้าเด็กที่ไหนไม่รู้....อยู่ๆก็...นะ...
     
     
    เขิลวุ้ยยยย~
     
     
    “ฮีชอลครับ...”

    นั่นไงมาแล้ว...ไอเจ้าตัวที่ทำให้เค้าเป็นแบบนี้.....
     
     
    “อะไร...”

    อ้อมกอดที่สวมมาจากด้านหลัง พร้อมสายตาคม ก็ยังไม่ทำให้คนตัวเล็กหันมาหาได้.....เขินนี่หว่า...

     
    “ผมอยากให้คนที่ผมขอให้ไปโบสถ์ หรือ ขอให้มีความสุขกับพระเจ้า.....แต่งงานกับผมนะครับ...”
     

    “หรอ ละแล้วใครล่ะ....”

    .....คนตัวเล็กยังไม่ยอมหันมาสบตา.....กลับกินน้ำเข้าไปอีกอึกใหญ่~
     
    “ไม่รู้เหมือนกันซิครับ.....เดี๋ยวคืนนี้ก็คงรู้..”

    เรื่องแค่นี้ มีหรือ หนุ่มซิกแพ็กอย่างซีวอนจะยอม.....สายตาคมเจ้าเล่ห์บัดนี้มันโลมเลียไปทั้งตัวแล้ว...

     
    จากเรื่องแต่งงาน ไหง กลายเป็นเรื่องบนเตียงไปได้ล่ะ พ่อหนุ่ม.....
     
    “ทำไมรู้.....”
     
     
    “ก็คืนนี้....ผมแลกห้องกับพี่ทึกกี้เรียบร้อยแล้วไงครับ....^-^”
    -------------------------------------------------THE END ของจริง -----------------
    ^-^
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×