ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ....ก็ผมรักฮีชอลนี่!!! *1
TITLE : ก็ผมรักฮีชอลนี่!
PART : 1 (SF)
AUTHOR : SuNA!
"ออมม่าคับ โตขึ้นนะ ชีวอนจาแต่งงานกับฮีชอลนะฮับ"
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสิบขวบดังขึ้นกลางโต๊ะอาหาร เด็กชายน้อยที่แสนไร้เดียงสา ....ถึงจะมีแก่นแก้วแก่นซนไปบ้างแต่ก็ดูน่ารักในสไตล์ของเค้าเอง ......ลักษณะการแต่งตัวที่ดูภูมิฐานราวกับผู้ดีอังกฤษ
ทำให้บ่งบอกถึงฐานะทางบ้านได้ไม่ยากนัก....มาดคุณชายที่ควรจะเงียบขรึม
...กลับกลายเป็นการประกาศปาวๆต่อหน้าสมาชิกในครอบครัวเรื่องอนาคตอันยาวไกลของตนเอง...
"แต่งงาน?? กับ ฮีชอล?? ฮ่าฮ่าฮ่า
นี่ฮีชอลไปทำอะไรให้ติดใจเข้าถึงขนาดต้องแต่งงานด้วยเลยหรือเนี่ย"
หญิงสาวที่ถึงแม้จะดูรู้ว่าอายุอยู่ในช่วงวัยกลางคน แต่ก็ยังคงความงามสะพรั่ง และ ความสง่าอย่างน่าภูมิฐาน ชุดเฟอร์สีดำตัวยาวราคาแพง ก็บ่งบอกความมีฐานะได้เฉกเช่นลูกชายของเธอ
หลังจากได้ฟังคำประกาศแต่งงานของลูกชายตัวเล็กก็หัวเราะร่า~
ก่อนจะยิ้มไปให้เด็กชายอีกคนนึงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
.....เด็กชายที่โตกว่าในชุดลำลองสบายๆ เสื้อยืดสีขาวมีฮุท กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน
อวดเรียวขาที่เรียวยาวตั้งแต่เด็ก.... กำลังทำหน้างงๆกับสิ่งที่คนตัวเล็กกว่าข้างๆได้พูดออกมา
"ผะ ผมไม่รู้เรื่องนะครับคุณผู้หญิง"
เด็กผู้ชายร่างบางรีบหันไปตอบ ....ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปหนึ่งที
สิบขวบใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องซักหน่อย....
"ใครจะแต่งงานกับนายกันซิมบ้า แล้วก็บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกว่าฮยองน่ะ
นี่แน่ะๆๆๆๆ"
คนตัวโตกว่าในขณะนั้น หยิกแก้มเจ้าเด็กอ้วนพูดมากไปหลายที โดยไม่เกรงกลัวสายตาของพ่อแม่ของเด็กน้อยแต่อย่างใด
ก็เค้าเป็นคนอย่างนี้ อยากทำอะไร ก็ทำ ตามใจตัวเองมาตั้งนานแล้ว
ถึงแม้จะเป็นงานก็เถอะ หากต้องทำตามหน้าที่เสมอไป
เด็กนิสัยอย่างคิม ฮีชอลคนนี้ก็ทนไม่ได้หรอกนะ!
"อ๋าๆๆๆๆ อะไรกานอ๊า ฮีชอลอ๊า ไหนบอกจะเป็นเจ้าฉาวของชีวอนไง~ "
เด็กตัวน้อยเริ่มร้องกระจองงอแง ไม่ได้ร้องเพราะความเจ็บปวดที่ถูกหยิกแก้ม
แต่ร้องเพราะความไม่ได้ดั่งใจอย่างที่ตัวเองหวังไว้ต่างหาก
ก็จะแต่งงานกับฮีชอลอ๊ะ!
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนี่มันดื้อใช้ได้เลยนะเนี่ย
ฮีชอลปราบอยู่นี่เก่งมากนะเนี่ย ฮ่าฮ่า"
ผู้ชายร่างท้วมอีกคนที่นั่งข้างคุณผู้หญิงของบ้านยิ้มขำ ชุดสูทสีน้ำตาลเบจดูดีไม่ต่างกัน ผ้าเช็ดหน้าประดับที่กระเป๋าเสื้อราคาแพงชนิดที่เรียกได้ว่า
ถ้าคนธรรมดาอยากจะซื้อคงต้องเก็บเงินเป็นปี!
หากแต่ถามว่า คิมฮีชอลมาทำงานที่นี่เพราะความรวยของตระกูลชเวหรือ
ก็เปล่า~
เหตุผลเดียวที่ทำให้คนตัวเล็กสมัครใจอยากทำงานที่นี่ ก็คงเป็นเพราะ '
สายตาอ้อนๆของเจ้าตัวกลม ' นี่ล่ะมั้ง~
" ไม่เก่งหรอกครับท่าน จริงๆ ซีวอนเป็นเด็กน่ารัก แค่บางทีก็ดื้อเป็นบางเรื่องเท่านั้นเอง~"
คนตัวเล็กยิ้มให้เจ้าของบ้านอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวอ้วนที่นั่งมองหน้าตาแป๋วไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรซักเท่าไรอยู่หน้าจานไส้กรอก ก่อนจะยิ้มให้อย่างน่ารัก
"ฮีชอล~"
"หื๊อ"
"ทำไมสวยจัง..."
ได้รับคำตอบมาทำเอาหน้าคนฟังแดงเป็นลูกตำลึงสุก ให้ตายสิหน่าเ ด็กบ้า อย่ามาทำอย่างนี้ได้มั้ย~ ถึงจะสิบขวบ แต่มันก็หวั่นไหวแปลกๆนะเฟ่ย เจ้าเด็กบ้า....
คนเขินท่าจะมีคนเดียว เพราะพ่อแม่ของเด็กน้อย หัวเราะลั่นไปไหนต่อไหนแล้ว ก็รู้ๆอยู่ว่าฮีชอลเป็นผู้ชาย แต่ก็คงไม่แปลกใจที่ลูกชายเค้าจะเข้าใจผิด
หน้าหวานซะขนาดนั้น~!!
"จะบ้าหรอไง! ชเว ชีวอน ฉัน เป็นผู้ชายนะ ผู้ชาย ต้องหล่อสิ"
คนตัวเล็กแก้ตัวให้ตัวเอง แต่ดูเหตุผลจะขัดใจคนฟังนัก
มันไม่เข้ากับหน้าของฮีชอลน่ะสิ แล้วเด็กที่ไหนมันจะเชื่อ!
"ไม่จริง ฮีชอลเป็นผู้หญิง!"
"ผู้ชาย"
"ผู้หญิง"
"ก็บอกว่าผู้ชายไงล่ะ เด็กดื้อนี่ !"
จะบอกว่าให้พิสูจน์ก็กะไรอยู่
พ่อแม่เด็กก็ยังอยู่เดี๋ยวจะหาว่าเค้าประสาทซะเปล่าๆ!
"ผู้หญิงสิ ผู้หญิง เก๊าะ ฮีชอลบอกชีวอนเองว่าถ้าเกิดฮีชอลเป็นผู้หญิง ฮีชอลจะแต่งงานกับชีวอน ชีวอนอยากแต่งงานกับฮีชอล เพาะชานั้น
ฮีชอลก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ!"
เด็กดื้อยังไม่เลิกเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
นิสัยนี้ดูไม่ต่างจากฮีชอลไปเสียเท่าไรนัก หากแต่เวลาซีวอนอยากได้อะไรจะใช้วิธีอ้อนก่อน ถ้าอ้อนไม่ได้ผล
วิธีอื่นถึงจะถูกงัดขึ้นมา...เพราะคติประจำใจของเด็กน้อยมีอยู่ว่า "อ้อนเท่านั้นที่จะครองโลก" คนฟังได้แต่หน้าเบ้
เด็กบ้า เอาแต่ใจชะมัด!
"เอาเถอะๆ จะผู้หญิงหรือผู้ชายตอนนี้ก็ยังไม่ใช่เวลาที่ลูกจะแต่งงานนะซีวอน....เอ่อ ฮีชอลจ๊ะ คราวนี้ฝากอีกสักสองอาทิตย์นะ"
คุณนายประจำบ้านยิ้มให้คนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน ก่อนจะมอบหมายงานให้ทำต่อ
"อ๋า ท่านจะไม่อยู่กันอีกแล้วหรอครับ"
ฮีชอลทำหน้ายุ่ง จริงๆก็ไม่สามารถว่าอะไรเจ้านายเค้าได้หรอกนะ
เพียงแต่ว่า...สงสารเจ้าเด็กน้อยคนนี้เท่านั้นเอง....ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ.....
นี่แหละ
เหตุผลที่เค้ารับงานดูแลเด็กข้างบ้านคนนี้ทันทีที่คุณๆเจ้าของบ้านเค้าเสนอมาให้
ก็เห็นเวลาพ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศทีไร
นั่งหน้าละห้อยที่ชิงช้าหน้าคฤหาสน์ทู้กที....
น่าสงสารชะมัด~
"อย่าพูดให้รู้สึกผิดอย่างงั้นสิจ๊ะ เราสองคนติดงานจริงๆ ฝากหน่อยนะฮีชอล
ฮีชอลเป็นคนเดียวที่จะดูแลซีวอนได้ ถึงเราจะอายุแค่สิบสี่
แต่ซีวอนก็เชื่อเราไปซะทุกอย่างแล้ว...อ้อ ยกเว้นเรื่องนึง"
"เรื่องอะไรครับ"
"เรื่องที่ฮีชอลเป็นผู้ชายไงจ๊ะ"
T T
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
10 ปี ล่วงเลยมา
Life couldn't get better (hey~)
nan nol pume ango nara
purun darul hyanghe nara (ho~)
jamdun noui ib machul koya
life couldn't get better (hey~)
noui mame munul yoro jwo
gude ne sonul jabayo
life couldn't get better
เสียงเพลงดังสนั่นไปทั่วทั้งฮอลล์ กว้างที่ใจกลางกรุงโซล
เด็กหนุ่มทั้งสิบสามคนกำลังร้องเพลงที่พวกเค้าเคยใช้ในการเดบิวต์มาก่อน
เสียงกรี๊ด เรียกร้องจากแฟนเพลงเป็นกระแสตอบรับที่ดี ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก
จนอัลบั้มชุดสอง ความดังของเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในนามของ
"ซุปเปอร์จูเนียร์"
"วันนี้พวกเราได้มาร้องเพลงสมัยที่เดบิวต์แรกๆอีกครั้งรู้สึกประทับใจจัง"
ชายหนุ่มใส่แว่น ในชุดสูทสีขาวดูดีที่ใช้ขับร้องเพลงขอแต่งงานประจำอัลบั้มที่สองอย่างแมรี่ยู
กำลังเอ่ยอ้างถึงเพลงที่ใช้ร้องเมื่อกี้ตามสคริปต์ที่ถูกจัดสรรออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
"พี่อีทึกพูดเหมือนเราแก่แล้วยังไงยังงั้นล่ะ"
ชายหนุ่มร่างอวบในชุดขาวคนนึงในนั้นกล่าวโต้ตอบคำพูดของคนที่เค้าเรียกว่า
"พี่อีทึก" ก่อนจะหันไปเล่นกับแฟนเพลงอย่างอารมณ์ดี
"อ้าว ก็แหมเราก็ทำอัลบั้ม กัน ออกซิงเกิ้ล ร้องเพลงประกอบนู่นประกอบนี่มาเยอะแยะแล้วนี่นา
หลายๆคนในที่นี้ก็ผ่านประสบการณ์บันเทิงมามาก ดูอย่างซีวอนสิ เดี๋ยวนี้ก็ดังใหญ่แล้ว เล่นหนังจง หนังจีน
ฮีชอลเองก็มีละครที่กำลังออนแอร์อยู่ สมาชิกคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน มันดูเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่หรือไง ดูเหมือนว่าพวกเราผ่านประสบการณ์กันมาแล้วตั้งมากมาย เพราะฉะนั้น พวกเราต้อง "รัก"กันไว้ให้มากๆ จริงรึเปล่า"
อีทึกเอ่ยก่อนจะหันไปมองทั้งสองคนที่ถูกเอ่ยอ้างชื่อ เหมือนจะมีเลศนัยอะไรบางอย่างสื่อไปถึงผู้รับข้อความนั้น
"เกี่ยวกันตรงไหน?"
คนนิสัยตรงๆอย่างฮีชอลมีหรือจะทนได้ ต้องโต้กลับไปทุกทีสิหน่า แต่อย่างไรก็ตาม ฮีชอลก็เข้าใจอีทึกดีว่ากำลังทำอะไรอยู่!
"เกี่ยวสิ ก็พวกเราอยู่ด้วยกันมานาน ก็ต้อง"รักๆ"กันไว้ไม่ใช่หรือไง เนอะซีวอน"
หัวหน้าวงยิ้มร่า อารมณ์ดี อย่างน้อยบนเวที ฮีชอลก็คงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าพูดล่ะนะ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มพูดมากจนคนดูเริ่มเอะใจ....
ทำไมต้องมีแต่ ฮีชอล กับ ซีวอน ~
"ครับ ต้องรักกันมากๆ"
คนตัวโตได้แต่ตอกย้ำคำพูดของอีทึก โดยมองหน้าคนเถรตรงราวกับต้องการจะส่งคำๆนี้ไปให้ถึงหัวใจ....
"........"
หากแต่ไร้ซึ่งปฎิกริยา.......
.....จะโกรธผมไปถึงไหนนะ ฮีชอล.......
แค่ผมเล่า"เรื่องของเรา"ให้สมาชิกในวงฟังเท่านั้นเอง~
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ฮีชอล ฟังผมก่อน ฮีชอล โธ่ เมื่อไรจะเลิกโกรธผมได้ซักทีนะ"
คนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะตัวโตขึ้นมากกว่าตอนสมัยเด็กเดินตามง้อ คนที่เคยดูแลเค้า
ไม่สิ ถึงตอนนี้ก็ยังดูแล ดูแลมาตลอด
แต่ในฐานะที่ต่างกัน....
"....."
คนตัวเล็กไม่ยอมตอบ กลับเดินดุ่ยๆมุ่งหน้าขึ้นลิฟท์คอนโดทันที่ที่รถตู้จอด....
ตึง!!!
"ฮีชอล....ผมแค่เล่าเรื่องของ "เรา" ให้ทุกคนฟังเองนะ"
คนตัวโตโพล่ง หลังจากไปดันประตูลิฟท์ของคนที่กำลังจะ "หนีหน้า" ให้กลับมา
"เผชิญ" หน้ากันให้ได้
"เรื่องของเรา เรื่องของเราอะไรกัน ซีวอน !!!!!
ฉันจำไม่ได้ว่าเคยมีเรื่องของเราที่ไหน นายเข้าใจผิดอะไรไปเองรึเปล่า"
คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเรียบเยือกเย็นดูมีพลังอำนาจใส่คนที่ตัวโต
แต่ดูเหมือนทางด้านจิตใจจะดูเล็กกว่าคนตรงหน้านิดนึง
....ถึงได้ยอม ยอม และ ยอม
ซินเดอเรลล่าประจำวงขนาดนี้
"ฮีชอลอ่า~ ฮีชอลก็รู้ว่าผมระ"
"ยังไม่เลิกอีก! ก็บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง คำไม่เป็นคำ
นายจะมารู้สึกพิศวาสอะไรฉันได้ยังไง ในเมื่อฉันเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกับนาย
ไม่เข้าใจหรือไง!"
"ผู้ชายแล้วรักกันไม่ได้หรือครับ!!"
"ขอโทษที....แต่ฉันไม่นิยมเกย์!!!"
ฮีชอลตวาดเสียงก้องไปทั่วบริเวณ...ก่อนจะผลักตัวชายหนุ่มลงไปกองกับพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี
แล้วกดปิดลิฟท์อย่างอัตโนมัติแทบไม่ทันตั้งตัว
อีกครั้งแล้วสินะ ที่ต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้....
จริงๆมันก็ดูเป็นเรื่องสำหรับเค้าอยู่หรอก...แต่ทว่า สำหรับคนตัวเล็กที่เพื่งผลักเค้าออกจากลิฟท์เมื่อกี้...
กลับมองข้ามความรู้สึกของเค้าตลอดเวลา...ให้ตายสิหน่า~
.......อาจจะเรียกไม่ได้ว่ามองข้ามความรู้สึก...
......แต่คงเป็น...ไม่ยอมรับความรู้สึกเสียมากกว่า......
....ความรักของผม...
..............มันส่งไปไม่ถึงฮีชอลเลยหรือไงครับ........
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เฮ้ออออออ"
เสียงคนตัวโตที่กำลังพิงตู้น้ำอัตโนมัติข้างมินิมาร์ทหน้าที่พักถอนหายใจเสียงดังเฮือกใหญ่ เค้ายังไม่อยากจะขึ้นไปเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กตอนนี้ ....เค้ารู้จักคนตัวเล็กดีพอ...
พอที่จะรู้ว่า....ขึ้นไปง้อตอนนี้ก็คงไม่เกิดประโยชน์.......
....ยังไงก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา.....
"ยังไม่ดีกันอีกหรอ อุตส่าห์ช่วยเกลี้ยกล่อมบนเวทีนะเนี่ย"
เสียงคนอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในตัวคอนโด ตบไหล่คนที่กำลังยืนหน้าเครียดอยู่....จริงๆไม่ต้องถามพี่คนโตที่เดินเข้ามาปลอบใจน้องชายก็รู้แล้วว่าเด็กดื้อประจำวงยังไม่หายงอนผู้ชายตัวโตหน้าหล่อคนนี้ แหงมๆ ....ทึกกี้ได้แต่ถอนหายใจเป็นเพื่อน แล้วบีบไหล่น้องชายแล้วก็ยิ้มบางๆให้
"ครับ ยังไม่ดีกันเลยพี่...เฮ้อ เป็นอย่างนี้ทุกที พูดเรื่องแค่นี้ทำไมต้องโกรธก็ไม่รู้ เค้าก็น่าจะชินได้แล้ว"
ซีวอนไม่ได้สบตาลีทึกตรงๆ กลับมองเหม่อออกไปไกล เหมือนกำลังรำพึงรำพันกับตัวเอง.....ซึ่งอีกใจก็คงอยากให้คนที่กำลังอารมณ์เสียได้ยินเช่นกัน...เผื่อจะตอบเหตุผลที่เค้าอยากรู้ได้....
"นายก็รู้นี่...ว่าเจ้าเด็กดื้อของนายเค้าไม่ชอบให้คนมาว่าเค้าเป็นเกย์ แล้วเค้าก็ไม่เคยยอมรับว่าเค้าเป็นเกย์ด้วย~"
พี่คนโตยิ้มให้บางๆ ก่อนจะพร่ำพรรณานิสัยของฮีชอลที่ซีวอนเองก็รู้ดี....และข้อนี้เองก็ทำให้เค้าทะเลาะกับฮีชอลตั้งแต่เด็กจนมาถึงทุกวันนี้.....
...."ฉันไม่ได้เป็นเกย์!!!"......
คำนี้ได้ยินทุกครั้งจากปากของซินเดอเรลล่าเมื่อเพื่อนๆ หรือ แม้กระทั่งแฟนคลับ หยอกล้อเรื่องความรักระหว่างเค้า กับ ฮีชอล....
"แต่เค้ารักผมนี่นา!!! พี่ก็รู้"
คนตัวโตตระโกนตอบ ราวกับว่ากำลังเถียงเหตุผลกับคนที่เค้ารัก หากแต่ คนตรงหน้าไม่ใช่ฮีชอล...เพราะฮีชอลไม่มีวันจะมารับรู้ประโยคนี้...หากได้ยิน ซีวอนอาจมีตายได้~
T T
"เค้าเคยบอกนายหรือไง"
ทึกกี้ยังพูดอย่างสงบ...หากแต่คำถามที่ยิงไปจะดูแทงใจซีวอนเหลือเกิน.....เสียงเรียบและน่าเกรงขาม บวกทั้งคำถามทำให้คนที่กำลังอารมณ์ไม่ดีเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ลงสักนิดนึง......
"ก็..ก็ผมรู้นี่....ผมรู้...ผมรู้ว่าเค้ารักผม......ผมสัมผัสความรักของเค้าได้นะพี่..."
คนตัวโตจอมดื้ออีกคนเริ่มเสียงอ่อนลง....หากแต่ก็ยังไม่วายงัดหาเหตุผลที่ดูแสนจะเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ไร้ซึ่งหลักฐาน มาอ้างเป็นเหตุผลต่อไป....
"เค้าอาจจะดูเหมือนรักนายเพราะว่าเค้าผูกพันกับนายต้องแต่เด็กก็ได้นี่นา...เค้าก็เลยดูแลนายดีเป็นพิเศษ"
ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วทึกกี้จะมั่นใจว่าฮีชอลไม่ได้คิดกับซีวอนแค่ คำว่าผูกพันแน่ๆ ....หากแต่การที่จะทำให้คนดื้อแสนดื้ออย่างฮีชอลมายอมรับว่าตัวเองรักผู้ชายด้วยกันนั้น ดูจะเป็นการยากซะจนน่ากลัวว่าจะไม่มีวันนั้นให้ซีวอนได้ชื่นใจ...พี่ใหญ่ก็เลยได้แต่โกหกคำโตไปเพื่อให้น้องทำใจไว้ก่อน....ก่อนที่จะเจ็บไปมากกว่านี้....
"......"
คนตัวโตไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่คิ้วเรียวเริ่มขมวด หน้าหล่อเริ่มก้มลงมองกับพื้น หัวสมองดูเหมือนกำลังครุ่นคิดกับสิ่งที่ได้ฟัง.....ก่อนที่.....
...น้ำตาหยาดเล็กจะรื้นริมขอบตาและ....ไหลออกมาเป็นสาย.....
"พี่ทึกกี้โกหก ฮึก..ฮึก"
คนตัวโต ร้องไห้ราวกับเด็กๆอย่างไม่เข้ากับหน้า ก่อนคนขี้แยจะเดินไปโดยไร้ซึ่งการร่ำลา ...ดูเหมือนจะยังรับไม่ได้กับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเขากับฮีชอลจากพี่ใหญ่..
ภายนอกแล้วซีวอนอาจจะดูสภาพเป็นเหมือนสุภาพบุรุษแสนดีที่ทุกคนนับถือ หากใครจะรู้...หลังไมค์ก็ไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆที่ถูกเลี้ยงดูอุ้มชูราวกับไข่ในหินคนหนึ่ง....ดูไปดูไป ซีวอนจะเป็นบุรุษที่อ่อนไหวง่ายกว่าคนอื่นเสียอีกด้วยมั้ง......
และเรื่องที่ดูจะอ่อนไหวเกินงามก็คงจะหนีไม่พ้น......
เรื่องทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนหน้าสวยอารมณ์รุนแรงบนห้องนั้นล่ะมั้ง.....
อีทึกเห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้า....
"เฮ้อออออ....เด็กทั้งคู่...."
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตึง !!!!
เสียงปิดประตูห้องอย่างแรง ทำเอาลูกลิงแถวนั้นสะดุ้งเกรียวกันเป็นแถวราวกับโดมิโน....ชายหนุ่มชาวจีนของวงที่แสนซื่อ ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องรู้ราวที่เกิดขึ้น ทำหน้างงๆ ให้กับสมาชิกคนอื่นๆหลังจากมองไปที่ประตูเจ้ากรรมนั้น...ก่อนจะเอ่ยปากถามเสียงเบาๆว่า
"เจ๊ใหญ่เป็นอะไรไปอีกแล้วน่ะ ก่อนขึ้นคอนฯยังเห็นดีๆอยู่เลยนี่นา"
เมื่อเพื่อนรักอารมณ์เสีย เค้าเองก็ควรไปปลอบ หากแต่เค้ารู้นิสัยฮีชอลดี....ขืนเข้าไปตอนนี้มีหวัง ไม่ว่าหน้าจีน หน้าไทย หน้าเกาหลีที่ไหน มีหวังถูกกินหัวเละเป็นแน่แท้~
"คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้พี่...."
TO BE CON แบบโคตรค้าง (รึเปล่า) ฮ่าฮ่า
--------------------------------------------------------------------------------------
ฟิกเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมากจากหลายอย่าง ฮ่าฮ่า
เป็นชอร์ทฟิก คาดว่า อีกตอนสองตอนก็คงจบแล้ว แต่จะต่อเร็ว ต่อช้า ขึ้นอยู่กับว่า คนอ่านชอบมากแค่ไหน ฮี่ฮี่
สุดท้ายนี้
อย่าลืมเม้นน้าค้า
ขอบคุณค่า~
PART : 1 (SF)
AUTHOR : SuNA!
"ออมม่าคับ โตขึ้นนะ ชีวอนจาแต่งงานกับฮีชอลนะฮับ"
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสิบขวบดังขึ้นกลางโต๊ะอาหาร เด็กชายน้อยที่แสนไร้เดียงสา ....ถึงจะมีแก่นแก้วแก่นซนไปบ้างแต่ก็ดูน่ารักในสไตล์ของเค้าเอง ......ลักษณะการแต่งตัวที่ดูภูมิฐานราวกับผู้ดีอังกฤษ
ทำให้บ่งบอกถึงฐานะทางบ้านได้ไม่ยากนัก....มาดคุณชายที่ควรจะเงียบขรึม
...กลับกลายเป็นการประกาศปาวๆต่อหน้าสมาชิกในครอบครัวเรื่องอนาคตอันยาวไกลของตนเอง...
"แต่งงาน?? กับ ฮีชอล?? ฮ่าฮ่าฮ่า
นี่ฮีชอลไปทำอะไรให้ติดใจเข้าถึงขนาดต้องแต่งงานด้วยเลยหรือเนี่ย"
หญิงสาวที่ถึงแม้จะดูรู้ว่าอายุอยู่ในช่วงวัยกลางคน แต่ก็ยังคงความงามสะพรั่ง และ ความสง่าอย่างน่าภูมิฐาน ชุดเฟอร์สีดำตัวยาวราคาแพง ก็บ่งบอกความมีฐานะได้เฉกเช่นลูกชายของเธอ
หลังจากได้ฟังคำประกาศแต่งงานของลูกชายตัวเล็กก็หัวเราะร่า~
ก่อนจะยิ้มไปให้เด็กชายอีกคนนึงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
.....เด็กชายที่โตกว่าในชุดลำลองสบายๆ เสื้อยืดสีขาวมีฮุท กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน
อวดเรียวขาที่เรียวยาวตั้งแต่เด็ก.... กำลังทำหน้างงๆกับสิ่งที่คนตัวเล็กกว่าข้างๆได้พูดออกมา
"ผะ ผมไม่รู้เรื่องนะครับคุณผู้หญิง"
เด็กผู้ชายร่างบางรีบหันไปตอบ ....ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปหนึ่งที
สิบขวบใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องซักหน่อย....
"ใครจะแต่งงานกับนายกันซิมบ้า แล้วก็บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกว่าฮยองน่ะ
นี่แน่ะๆๆๆๆ"
คนตัวโตกว่าในขณะนั้น หยิกแก้มเจ้าเด็กอ้วนพูดมากไปหลายที โดยไม่เกรงกลัวสายตาของพ่อแม่ของเด็กน้อยแต่อย่างใด
ก็เค้าเป็นคนอย่างนี้ อยากทำอะไร ก็ทำ ตามใจตัวเองมาตั้งนานแล้ว
ถึงแม้จะเป็นงานก็เถอะ หากต้องทำตามหน้าที่เสมอไป
เด็กนิสัยอย่างคิม ฮีชอลคนนี้ก็ทนไม่ได้หรอกนะ!
"อ๋าๆๆๆๆ อะไรกานอ๊า ฮีชอลอ๊า ไหนบอกจะเป็นเจ้าฉาวของชีวอนไง~ "
เด็กตัวน้อยเริ่มร้องกระจองงอแง ไม่ได้ร้องเพราะความเจ็บปวดที่ถูกหยิกแก้ม
แต่ร้องเพราะความไม่ได้ดั่งใจอย่างที่ตัวเองหวังไว้ต่างหาก
ก็จะแต่งงานกับฮีชอลอ๊ะ!
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนี่มันดื้อใช้ได้เลยนะเนี่ย
ฮีชอลปราบอยู่นี่เก่งมากนะเนี่ย ฮ่าฮ่า"
ผู้ชายร่างท้วมอีกคนที่นั่งข้างคุณผู้หญิงของบ้านยิ้มขำ ชุดสูทสีน้ำตาลเบจดูดีไม่ต่างกัน ผ้าเช็ดหน้าประดับที่กระเป๋าเสื้อราคาแพงชนิดที่เรียกได้ว่า
ถ้าคนธรรมดาอยากจะซื้อคงต้องเก็บเงินเป็นปี!
หากแต่ถามว่า คิมฮีชอลมาทำงานที่นี่เพราะความรวยของตระกูลชเวหรือ
ก็เปล่า~
เหตุผลเดียวที่ทำให้คนตัวเล็กสมัครใจอยากทำงานที่นี่ ก็คงเป็นเพราะ '
สายตาอ้อนๆของเจ้าตัวกลม ' นี่ล่ะมั้ง~
" ไม่เก่งหรอกครับท่าน จริงๆ ซีวอนเป็นเด็กน่ารัก แค่บางทีก็ดื้อเป็นบางเรื่องเท่านั้นเอง~"
คนตัวเล็กยิ้มให้เจ้าของบ้านอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวอ้วนที่นั่งมองหน้าตาแป๋วไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรซักเท่าไรอยู่หน้าจานไส้กรอก ก่อนจะยิ้มให้อย่างน่ารัก
"ฮีชอล~"
"หื๊อ"
"ทำไมสวยจัง..."
ได้รับคำตอบมาทำเอาหน้าคนฟังแดงเป็นลูกตำลึงสุก ให้ตายสิหน่าเ ด็กบ้า อย่ามาทำอย่างนี้ได้มั้ย~ ถึงจะสิบขวบ แต่มันก็หวั่นไหวแปลกๆนะเฟ่ย เจ้าเด็กบ้า....
คนเขินท่าจะมีคนเดียว เพราะพ่อแม่ของเด็กน้อย หัวเราะลั่นไปไหนต่อไหนแล้ว ก็รู้ๆอยู่ว่าฮีชอลเป็นผู้ชาย แต่ก็คงไม่แปลกใจที่ลูกชายเค้าจะเข้าใจผิด
หน้าหวานซะขนาดนั้น~!!
"จะบ้าหรอไง! ชเว ชีวอน ฉัน เป็นผู้ชายนะ ผู้ชาย ต้องหล่อสิ"
คนตัวเล็กแก้ตัวให้ตัวเอง แต่ดูเหตุผลจะขัดใจคนฟังนัก
มันไม่เข้ากับหน้าของฮีชอลน่ะสิ แล้วเด็กที่ไหนมันจะเชื่อ!
"ไม่จริง ฮีชอลเป็นผู้หญิง!"
"ผู้ชาย"
"ผู้หญิง"
"ก็บอกว่าผู้ชายไงล่ะ เด็กดื้อนี่ !"
จะบอกว่าให้พิสูจน์ก็กะไรอยู่
พ่อแม่เด็กก็ยังอยู่เดี๋ยวจะหาว่าเค้าประสาทซะเปล่าๆ!
"ผู้หญิงสิ ผู้หญิง เก๊าะ ฮีชอลบอกชีวอนเองว่าถ้าเกิดฮีชอลเป็นผู้หญิง ฮีชอลจะแต่งงานกับชีวอน ชีวอนอยากแต่งงานกับฮีชอล เพาะชานั้น
ฮีชอลก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ!"
เด็กดื้อยังไม่เลิกเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
นิสัยนี้ดูไม่ต่างจากฮีชอลไปเสียเท่าไรนัก หากแต่เวลาซีวอนอยากได้อะไรจะใช้วิธีอ้อนก่อน ถ้าอ้อนไม่ได้ผล
วิธีอื่นถึงจะถูกงัดขึ้นมา...เพราะคติประจำใจของเด็กน้อยมีอยู่ว่า "อ้อนเท่านั้นที่จะครองโลก" คนฟังได้แต่หน้าเบ้
เด็กบ้า เอาแต่ใจชะมัด!
"เอาเถอะๆ จะผู้หญิงหรือผู้ชายตอนนี้ก็ยังไม่ใช่เวลาที่ลูกจะแต่งงานนะซีวอน....เอ่อ ฮีชอลจ๊ะ คราวนี้ฝากอีกสักสองอาทิตย์นะ"
คุณนายประจำบ้านยิ้มให้คนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน ก่อนจะมอบหมายงานให้ทำต่อ
"อ๋า ท่านจะไม่อยู่กันอีกแล้วหรอครับ"
ฮีชอลทำหน้ายุ่ง จริงๆก็ไม่สามารถว่าอะไรเจ้านายเค้าได้หรอกนะ
เพียงแต่ว่า...สงสารเจ้าเด็กน้อยคนนี้เท่านั้นเอง....ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ.....
นี่แหละ
เหตุผลที่เค้ารับงานดูแลเด็กข้างบ้านคนนี้ทันทีที่คุณๆเจ้าของบ้านเค้าเสนอมาให้
ก็เห็นเวลาพ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศทีไร
นั่งหน้าละห้อยที่ชิงช้าหน้าคฤหาสน์ทู้กที....
น่าสงสารชะมัด~
"อย่าพูดให้รู้สึกผิดอย่างงั้นสิจ๊ะ เราสองคนติดงานจริงๆ ฝากหน่อยนะฮีชอล
ฮีชอลเป็นคนเดียวที่จะดูแลซีวอนได้ ถึงเราจะอายุแค่สิบสี่
แต่ซีวอนก็เชื่อเราไปซะทุกอย่างแล้ว...อ้อ ยกเว้นเรื่องนึง"
"เรื่องอะไรครับ"
"เรื่องที่ฮีชอลเป็นผู้ชายไงจ๊ะ"
T T
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
10 ปี ล่วงเลยมา
Life couldn't get better (hey~)
nan nol pume ango nara
purun darul hyanghe nara (ho~)
jamdun noui ib machul koya
life couldn't get better (hey~)
noui mame munul yoro jwo
gude ne sonul jabayo
life couldn't get better
เสียงเพลงดังสนั่นไปทั่วทั้งฮอลล์ กว้างที่ใจกลางกรุงโซล
เด็กหนุ่มทั้งสิบสามคนกำลังร้องเพลงที่พวกเค้าเคยใช้ในการเดบิวต์มาก่อน
เสียงกรี๊ด เรียกร้องจากแฟนเพลงเป็นกระแสตอบรับที่ดี ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก
จนอัลบั้มชุดสอง ความดังของเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในนามของ
"ซุปเปอร์จูเนียร์"
"วันนี้พวกเราได้มาร้องเพลงสมัยที่เดบิวต์แรกๆอีกครั้งรู้สึกประทับใจจัง"
ชายหนุ่มใส่แว่น ในชุดสูทสีขาวดูดีที่ใช้ขับร้องเพลงขอแต่งงานประจำอัลบั้มที่สองอย่างแมรี่ยู
กำลังเอ่ยอ้างถึงเพลงที่ใช้ร้องเมื่อกี้ตามสคริปต์ที่ถูกจัดสรรออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
"พี่อีทึกพูดเหมือนเราแก่แล้วยังไงยังงั้นล่ะ"
ชายหนุ่มร่างอวบในชุดขาวคนนึงในนั้นกล่าวโต้ตอบคำพูดของคนที่เค้าเรียกว่า
"พี่อีทึก" ก่อนจะหันไปเล่นกับแฟนเพลงอย่างอารมณ์ดี
"อ้าว ก็แหมเราก็ทำอัลบั้ม กัน ออกซิงเกิ้ล ร้องเพลงประกอบนู่นประกอบนี่มาเยอะแยะแล้วนี่นา
หลายๆคนในที่นี้ก็ผ่านประสบการณ์บันเทิงมามาก ดูอย่างซีวอนสิ เดี๋ยวนี้ก็ดังใหญ่แล้ว เล่นหนังจง หนังจีน
ฮีชอลเองก็มีละครที่กำลังออนแอร์อยู่ สมาชิกคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน มันดูเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่หรือไง ดูเหมือนว่าพวกเราผ่านประสบการณ์กันมาแล้วตั้งมากมาย เพราะฉะนั้น พวกเราต้อง "รัก"กันไว้ให้มากๆ จริงรึเปล่า"
อีทึกเอ่ยก่อนจะหันไปมองทั้งสองคนที่ถูกเอ่ยอ้างชื่อ เหมือนจะมีเลศนัยอะไรบางอย่างสื่อไปถึงผู้รับข้อความนั้น
"เกี่ยวกันตรงไหน?"
คนนิสัยตรงๆอย่างฮีชอลมีหรือจะทนได้ ต้องโต้กลับไปทุกทีสิหน่า แต่อย่างไรก็ตาม ฮีชอลก็เข้าใจอีทึกดีว่ากำลังทำอะไรอยู่!
"เกี่ยวสิ ก็พวกเราอยู่ด้วยกันมานาน ก็ต้อง"รักๆ"กันไว้ไม่ใช่หรือไง เนอะซีวอน"
หัวหน้าวงยิ้มร่า อารมณ์ดี อย่างน้อยบนเวที ฮีชอลก็คงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าพูดล่ะนะ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มพูดมากจนคนดูเริ่มเอะใจ....
ทำไมต้องมีแต่ ฮีชอล กับ ซีวอน ~
"ครับ ต้องรักกันมากๆ"
คนตัวโตได้แต่ตอกย้ำคำพูดของอีทึก โดยมองหน้าคนเถรตรงราวกับต้องการจะส่งคำๆนี้ไปให้ถึงหัวใจ....
"........"
หากแต่ไร้ซึ่งปฎิกริยา.......
.....จะโกรธผมไปถึงไหนนะ ฮีชอล.......
แค่ผมเล่า"เรื่องของเรา"ให้สมาชิกในวงฟังเท่านั้นเอง~
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ฮีชอล ฟังผมก่อน ฮีชอล โธ่ เมื่อไรจะเลิกโกรธผมได้ซักทีนะ"
คนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะตัวโตขึ้นมากกว่าตอนสมัยเด็กเดินตามง้อ คนที่เคยดูแลเค้า
ไม่สิ ถึงตอนนี้ก็ยังดูแล ดูแลมาตลอด
แต่ในฐานะที่ต่างกัน....
"....."
คนตัวเล็กไม่ยอมตอบ กลับเดินดุ่ยๆมุ่งหน้าขึ้นลิฟท์คอนโดทันที่ที่รถตู้จอด....
ตึง!!!
"ฮีชอล....ผมแค่เล่าเรื่องของ "เรา" ให้ทุกคนฟังเองนะ"
คนตัวโตโพล่ง หลังจากไปดันประตูลิฟท์ของคนที่กำลังจะ "หนีหน้า" ให้กลับมา
"เผชิญ" หน้ากันให้ได้
"เรื่องของเรา เรื่องของเราอะไรกัน ซีวอน !!!!!
ฉันจำไม่ได้ว่าเคยมีเรื่องของเราที่ไหน นายเข้าใจผิดอะไรไปเองรึเปล่า"
คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเรียบเยือกเย็นดูมีพลังอำนาจใส่คนที่ตัวโต
แต่ดูเหมือนทางด้านจิตใจจะดูเล็กกว่าคนตรงหน้านิดนึง
....ถึงได้ยอม ยอม และ ยอม
ซินเดอเรลล่าประจำวงขนาดนี้
"ฮีชอลอ่า~ ฮีชอลก็รู้ว่าผมระ"
"ยังไม่เลิกอีก! ก็บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง คำไม่เป็นคำ
นายจะมารู้สึกพิศวาสอะไรฉันได้ยังไง ในเมื่อฉันเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกับนาย
ไม่เข้าใจหรือไง!"
"ผู้ชายแล้วรักกันไม่ได้หรือครับ!!"
"ขอโทษที....แต่ฉันไม่นิยมเกย์!!!"
ฮีชอลตวาดเสียงก้องไปทั่วบริเวณ...ก่อนจะผลักตัวชายหนุ่มลงไปกองกับพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี
แล้วกดปิดลิฟท์อย่างอัตโนมัติแทบไม่ทันตั้งตัว
อีกครั้งแล้วสินะ ที่ต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้....
จริงๆมันก็ดูเป็นเรื่องสำหรับเค้าอยู่หรอก...แต่ทว่า สำหรับคนตัวเล็กที่เพื่งผลักเค้าออกจากลิฟท์เมื่อกี้...
กลับมองข้ามความรู้สึกของเค้าตลอดเวลา...ให้ตายสิหน่า~
.......อาจจะเรียกไม่ได้ว่ามองข้ามความรู้สึก...
......แต่คงเป็น...ไม่ยอมรับความรู้สึกเสียมากกว่า......
....ความรักของผม...
..............มันส่งไปไม่ถึงฮีชอลเลยหรือไงครับ........
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เฮ้ออออออ"
เสียงคนตัวโตที่กำลังพิงตู้น้ำอัตโนมัติข้างมินิมาร์ทหน้าที่พักถอนหายใจเสียงดังเฮือกใหญ่ เค้ายังไม่อยากจะขึ้นไปเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กตอนนี้ ....เค้ารู้จักคนตัวเล็กดีพอ...
พอที่จะรู้ว่า....ขึ้นไปง้อตอนนี้ก็คงไม่เกิดประโยชน์.......
....ยังไงก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา.....
"ยังไม่ดีกันอีกหรอ อุตส่าห์ช่วยเกลี้ยกล่อมบนเวทีนะเนี่ย"
เสียงคนอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในตัวคอนโด ตบไหล่คนที่กำลังยืนหน้าเครียดอยู่....จริงๆไม่ต้องถามพี่คนโตที่เดินเข้ามาปลอบใจน้องชายก็รู้แล้วว่าเด็กดื้อประจำวงยังไม่หายงอนผู้ชายตัวโตหน้าหล่อคนนี้ แหงมๆ ....ทึกกี้ได้แต่ถอนหายใจเป็นเพื่อน แล้วบีบไหล่น้องชายแล้วก็ยิ้มบางๆให้
"ครับ ยังไม่ดีกันเลยพี่...เฮ้อ เป็นอย่างนี้ทุกที พูดเรื่องแค่นี้ทำไมต้องโกรธก็ไม่รู้ เค้าก็น่าจะชินได้แล้ว"
ซีวอนไม่ได้สบตาลีทึกตรงๆ กลับมองเหม่อออกไปไกล เหมือนกำลังรำพึงรำพันกับตัวเอง.....ซึ่งอีกใจก็คงอยากให้คนที่กำลังอารมณ์เสียได้ยินเช่นกัน...เผื่อจะตอบเหตุผลที่เค้าอยากรู้ได้....
"นายก็รู้นี่...ว่าเจ้าเด็กดื้อของนายเค้าไม่ชอบให้คนมาว่าเค้าเป็นเกย์ แล้วเค้าก็ไม่เคยยอมรับว่าเค้าเป็นเกย์ด้วย~"
พี่คนโตยิ้มให้บางๆ ก่อนจะพร่ำพรรณานิสัยของฮีชอลที่ซีวอนเองก็รู้ดี....และข้อนี้เองก็ทำให้เค้าทะเลาะกับฮีชอลตั้งแต่เด็กจนมาถึงทุกวันนี้.....
...."ฉันไม่ได้เป็นเกย์!!!"......
คำนี้ได้ยินทุกครั้งจากปากของซินเดอเรลล่าเมื่อเพื่อนๆ หรือ แม้กระทั่งแฟนคลับ หยอกล้อเรื่องความรักระหว่างเค้า กับ ฮีชอล....
"แต่เค้ารักผมนี่นา!!! พี่ก็รู้"
คนตัวโตตระโกนตอบ ราวกับว่ากำลังเถียงเหตุผลกับคนที่เค้ารัก หากแต่ คนตรงหน้าไม่ใช่ฮีชอล...เพราะฮีชอลไม่มีวันจะมารับรู้ประโยคนี้...หากได้ยิน ซีวอนอาจมีตายได้~
T T
"เค้าเคยบอกนายหรือไง"
ทึกกี้ยังพูดอย่างสงบ...หากแต่คำถามที่ยิงไปจะดูแทงใจซีวอนเหลือเกิน.....เสียงเรียบและน่าเกรงขาม บวกทั้งคำถามทำให้คนที่กำลังอารมณ์ไม่ดีเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ลงสักนิดนึง......
"ก็..ก็ผมรู้นี่....ผมรู้...ผมรู้ว่าเค้ารักผม......ผมสัมผัสความรักของเค้าได้นะพี่..."
คนตัวโตจอมดื้ออีกคนเริ่มเสียงอ่อนลง....หากแต่ก็ยังไม่วายงัดหาเหตุผลที่ดูแสนจะเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ไร้ซึ่งหลักฐาน มาอ้างเป็นเหตุผลต่อไป....
"เค้าอาจจะดูเหมือนรักนายเพราะว่าเค้าผูกพันกับนายต้องแต่เด็กก็ได้นี่นา...เค้าก็เลยดูแลนายดีเป็นพิเศษ"
ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วทึกกี้จะมั่นใจว่าฮีชอลไม่ได้คิดกับซีวอนแค่ คำว่าผูกพันแน่ๆ ....หากแต่การที่จะทำให้คนดื้อแสนดื้ออย่างฮีชอลมายอมรับว่าตัวเองรักผู้ชายด้วยกันนั้น ดูจะเป็นการยากซะจนน่ากลัวว่าจะไม่มีวันนั้นให้ซีวอนได้ชื่นใจ...พี่ใหญ่ก็เลยได้แต่โกหกคำโตไปเพื่อให้น้องทำใจไว้ก่อน....ก่อนที่จะเจ็บไปมากกว่านี้....
"......"
คนตัวโตไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่คิ้วเรียวเริ่มขมวด หน้าหล่อเริ่มก้มลงมองกับพื้น หัวสมองดูเหมือนกำลังครุ่นคิดกับสิ่งที่ได้ฟัง.....ก่อนที่.....
...น้ำตาหยาดเล็กจะรื้นริมขอบตาและ....ไหลออกมาเป็นสาย.....
"พี่ทึกกี้โกหก ฮึก..ฮึก"
คนตัวโต ร้องไห้ราวกับเด็กๆอย่างไม่เข้ากับหน้า ก่อนคนขี้แยจะเดินไปโดยไร้ซึ่งการร่ำลา ...ดูเหมือนจะยังรับไม่ได้กับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเขากับฮีชอลจากพี่ใหญ่..
ภายนอกแล้วซีวอนอาจจะดูสภาพเป็นเหมือนสุภาพบุรุษแสนดีที่ทุกคนนับถือ หากใครจะรู้...หลังไมค์ก็ไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆที่ถูกเลี้ยงดูอุ้มชูราวกับไข่ในหินคนหนึ่ง....ดูไปดูไป ซีวอนจะเป็นบุรุษที่อ่อนไหวง่ายกว่าคนอื่นเสียอีกด้วยมั้ง......
และเรื่องที่ดูจะอ่อนไหวเกินงามก็คงจะหนีไม่พ้น......
เรื่องทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนหน้าสวยอารมณ์รุนแรงบนห้องนั้นล่ะมั้ง.....
อีทึกเห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้า....
"เฮ้อออออ....เด็กทั้งคู่...."
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตึง !!!!
เสียงปิดประตูห้องอย่างแรง ทำเอาลูกลิงแถวนั้นสะดุ้งเกรียวกันเป็นแถวราวกับโดมิโน....ชายหนุ่มชาวจีนของวงที่แสนซื่อ ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องรู้ราวที่เกิดขึ้น ทำหน้างงๆ ให้กับสมาชิกคนอื่นๆหลังจากมองไปที่ประตูเจ้ากรรมนั้น...ก่อนจะเอ่ยปากถามเสียงเบาๆว่า
"เจ๊ใหญ่เป็นอะไรไปอีกแล้วน่ะ ก่อนขึ้นคอนฯยังเห็นดีๆอยู่เลยนี่นา"
เมื่อเพื่อนรักอารมณ์เสีย เค้าเองก็ควรไปปลอบ หากแต่เค้ารู้นิสัยฮีชอลดี....ขืนเข้าไปตอนนี้มีหวัง ไม่ว่าหน้าจีน หน้าไทย หน้าเกาหลีที่ไหน มีหวังถูกกินหัวเละเป็นแน่แท้~
"คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้พี่...."
TO BE CON แบบโคตรค้าง (รึเปล่า) ฮ่าฮ่า
--------------------------------------------------------------------------------------
ฟิกเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมากจากหลายอย่าง ฮ่าฮ่า
เป็นชอร์ทฟิก คาดว่า อีกตอนสองตอนก็คงจบแล้ว แต่จะต่อเร็ว ต่อช้า ขึ้นอยู่กับว่า คนอ่านชอบมากแค่ไหน ฮี่ฮี่
สุดท้ายนี้
อย่าลืมเม้นน้าค้า
ขอบคุณค่า~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น