คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ของดูต่างหน้า (1)
“เฮ่อ เช้าอีกแล้วหรือนี่” ความคิดแรกของผมในวันนี้ เสียงนาฬิกาปลุกเรือนเก่า ๆ ดังก้อง เมื่อคืนผมนอนเสียดึกดื่น เพราะมัวแต่ทำชุดให้ลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตคนทำงานก็เป็นแบบนี้
ที่จริงแล้ววันนี้เป็นวันหยุดของผมล่ะ แต่ชีวิตตีนถีบปากกัดอย่างผมหากไม่ทำงานด้วยในวันหยุดก็คงไม่มีเงินไปใช้เพื่องานอดิเรกที่ผมชอบได้ เฮ่อ
งานของผมในวันนี้คือโชว์หน้ากากมดที่ห้างแห่งหนึ่งแถวสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ผมเดินไปยังห้องน้ำเล็ก ๆ จัดการตัวเองยามเช้าตามปกติ ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว ท้องไส้ก็ปั่นป่วน ร้องลั่นไปหมด
เช้า ๆ อย่างนี้ที่ฝากท้องของผมก็คือที่นี่เลย ถ้าคุณยังจำอาแป๊ะเจ้าของร้านหนังสือพิมพ์ได้ ผมก็อยากจะบอกให้พวกคุณทราบเพิ่มว่า อาแป๊ะแกขายหนังสือพิมพ์อยู่หน้าตลาดสดใกล้ ๆ สวนสนุกที่ผมทำงานอยู่ละ
“อ้อ ลื้อเอาโจ๊กไม่ใส่หมูเอาโจ๊กเยอะ ๆ ใช่ไหมหา อั๊วจำล่าย”
“โธ่ ซิ่ม ความจำยอดเยี่ยมเลย แต่ไม่ต้องประกาศลั่นตลาดก็ได้” ผมค่อนขอดกลับไป
ซิ่มเป็นภรรยาอาแป๊ะ ที่แกยอมให้ผมอ่านอยู่ทุกวันนี่คงเป็นเพราะผมอุดหนุนภรรยาแกทุกวันก็เป็นได้ หรือคิดในทางกลับกัน ที่แกไล่ผมทุกวันนี่อาจเป็นไปได้ว่าแกหึงผม หึหึ ผมหัวเราะขำตัวเองในใจ รอยยิ้มฉาบอยู่บนหน้า
ผมไม่เคยมีแฟน แต่เคยมีคนที่ชอบนะ เฮ่อ คนหาเช้ากินค่ำอย่างผม แม้อยากจะมี แต่ทุนทรัพย์ก็ไม่พอเลี้ยงใคร ได้แต่รักนะ แต่ไม่แสดงออก
วันนี้อาซิ่มใจดีเป็นพิเศษ ใส่หมูมาให้ผมด้วย แกมองผมอย่างรู้กัน
“เอาเถอะ ลื้อเป็นคนขยัน ไม่เคยทำตัวเสียหาย มีน้ำใจกับคนอื่น อั๊วชอบ” แย่แล้ว ถ้าอาแป๊ะได้ยินผมคงอดอ่านหนังสือพิมพ์ แต่แป๊ะแกจาหึงไปทำไมหว่า ผมนี่รุ่นหลานของแกทั้งสองคนเลยนะ
ท้องอิ่ม ชีวิตก็เริ่มมีสีสัน หน้าเดิน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ผมมองนาฬิกาพกเรือนเก่า ๆ ในกระเป๋าเสื้อ มันชี้ว่าเจ็ดโมงเช้าแล้ว ยังอีกกว่าหกชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาทำงาน แต่การไปทำงานแต่เช้าสำหรับผมกลับเป็นความเคยชิน เอาน่าอย่างไรก็ไปดูที่ดูทางไว้ก่อน
ชุดที่ผมจะใส่แสดงในวันนี้คือ แอ่น แอน แอ้น ไอ้มดเขียว V3 ด้วยความเก๋า และอภิสิทธิ์จากการเป็นเจ้าของชุด ทำให้ผมได้เป็นพระเอกในวันนี้ ชุดอยู่ในเป้ใบใหม่ที่ผมนำกำไรจาการขายชุดโดราเอมอนไปซื้อมา พร้อมกับเทปเพลงไอ้มดแดงที่ผมเตรียมเอาไว้เปิดประกอบการแสดง
“สงสัยมาเช้าไป เวทียังไม่ตั้งเลย เหอเหอ” ผมดคิดเมื่อเห็นสถานที่แสดงที่ยังเป็นแค่โครงเหล็ก
“อ้าว เอก มาแต่เช้าเลยเรอะ” ผมไม่ต้องหันไปก็รู้ว่ามันเป็นใคร ไอ้กิ๊ฟ เพื่อนสมัยเรียนประถม แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าที่เจ้าของห้างไปเสียแล้ว
“ก็มาดูที่ดูทางไว้ จะได้เลือกมุมเท่ถูก” ผมหันไปหาชายหนุ่มแต่งตัวโก้ ต่างกับผมลิบลับ มันสวมสูทมีชื่อ สวมรองเท้าหนังมันแผลบมียี่ห้อ แต่ผมล่ะ เสื้อแถมจากการซื้อสี กางเกงยีนตูดขาด ปะด้วยผ้าสีแดงสด และรองเท้าถูก ๆ ไม่ทราบยี่ห้อ
“นึกถึงตอนประถมนะ ตอนนั้นนายก็บ้าไอ้มดแดง แถมยังบอกว่าเราเป็นสัตว์ประหลาด ไล่กระโดดไรเดอร์คิก จนเราหกล้มหัวปูด จำได้ไหมครูปราณีตีนายใหญ่เลย”
“โห ยังจำได้อีกเหรอ” ผมหน้าแดงเมื่อมันระลึกชาติ ไม่สิ ระลึกความหลังให้ฟัง
“วันนี้เอาให้เต็มที่เลยนะ เหมือนทุกที”
“ได้เลย” ผมรับคำทันที ถ้าไม่ได้หมอนี่ผมคงลำบากกว่านี้เป็นแน่ กิ๊ฟเองแม้จะคิดช่วยผมด้วยการให้เงินหรือสิ่งของ แต่ผมก็ไม่เคยรับน้ำใจจากมัน คนที่ควรได้คือคนที่ทำงาน เพราะเรามีอะไรไปแลกเปลี่ยนจากเขา กิ๊ฟเลยตัดสินใจทุ่มงบจัดการแสดงนี้ให้ผม ในวันเดียวกันก็ยังจัดแข่งจรวดน้ำ และการแสดงโชว์ต่าง ๆ อีกมากมาย
“นายจำได้ไหมตอนเด็ก ๆ ที่เราบอกนายว่า”
“ว่าอยากเป็นครูที่ดีเหมือนครูปราณี”
“บ๊ะมาขัดคอกัน แต่ก็ถะ ถะ ถะ ถูกต้องนะโว้ยครับ”
“แต่พ่อนายก็ไม่ให้เป็นนี่”
“นั่นน่ะสิ พ่ออยากให้เรารับช่วงธุรกิจนี้ต่อ ตอนแรกเราก็เสียใจ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าการให้การศึกษานั้น มีหลายทาง เราเลยจัดงานนี้ให้เด็ก ๆ ได้สนุกและเรียนรู้” กิ๊ฟยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“เราดีใจที่นายยังคงเป็นนาย เราดีใจ ที่มีเพื่อนที่เป็นคนดีอย่างนาย” ผมมองกิ๊ฟอย่างชื่นชม
“เอาละ เราไปละนะ เดี๋ยวห้างคงจะเปิดแล้ว เอ จะไปนั่งรอที่ห้องทำงานเราก่อนไหม”
“ไม่ละ เราไม่ค่อยชอบแอร์ โชคดีนะ” ผมโบกมือให้เพื่อนรัก
ห้างเปิดแล้วจริง ๆ ตอนนี้ห่างจากเวลาแสดงอีกราวสามชั่วโมง แดดเริ่มแรงขึ้น เวทีหน้าห้างก็เสร็จแล้ว ผมเดินเข้าไปทางด้านหลังที่จัดไว้สำหรับนักแสดง ทีมงานก็มากันเกือบครบ ผมเองกะว่า จะซักซ้อมสักทีสองทีเวลาแสดงจะได้ไม่เคอะเขิน แต่แล้ว
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย โจรวิ่งราว” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนก้อง ผมมองตามต้นเสียง ผู้หญิงคนนั้นผมรู้จัก
“นั่นพรนี่ เลขาของกิ๊ฟ เอ๋ นั่น ไอ้กิ๊ฟมันลงไปนอนที่พื้นทำไมนี่ เฮ้ย เลือด ๆ ออกจากหัวมัน”
ไอ้โจรนั่นวิ่งอย่างรวดเร็วไปทางสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ในมือมันมีวัตถุสีทองส่องประกาย สร้อยพระเลี่ยมทองของดูต่างหน้าปู่ของเพื่อนผมนี่ ก่อนที่จะคิดอะไรเพิ่ม ผมก็ออกวิ่งเสียแล้ว ผมในชุดไอ้มดเขียว V3 วิ่งไปทั้ง ๆ ที่ในมือยังถือเทปเพลงที่กะจะเอาไปเปิดเพื่อกะจังหวะในการแสดง และเป้ที่ฉวยมาอย่างรีบเร่ง ติดตามมันไปอย่างกระชั้นชิด
ความคิดเห็น