คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ภารกิจ RNS
ภารกิจ : นักฆ่าจากพาเซีย
รูปนักฆ่า นามว่า "ล๊อซ"
คิดชื่อมั่ว ฮ่ะๆ แปลงๆมาจาก lose = =
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เนื้อหาภารกิจ
เช้าวันนี้ก็เหมือนทุกวัน ข้าตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ข้าก็เหมือนแวมไพร์ตนอื่น ที่ชอบใช้ชีวิตในเวลากลางคืนมากกว่าที่จะตื่นมารับแสงแดดยามเช้าที่สดใสแบบนี้...
“หาววววววว~...” ข้าผลักประตูห้องเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นรวมเห็นคนอื่นๆ กำลังนั่งคุยกันอยู่
“อ้าว... พี่เซตื่นแล้วเหรอ” ฟิลชาร์ทเอ่ยทัก
“อืมมม... หิวจังเลย~” ข้าเริ่มมองหาของกิน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นขนมปังที่วางอยู่บนโต๊ะ มือก็เอื้อมไปคว้าอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น...
น้ำแข็งมาจากไหนไม่รู้ก็โผล่มากั้นระหว่างมือข้ากับขนมปัง!!
“หยุดเลย! พี่เซ ขนมปังข้า...” ไวน์พูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยิบขนมปังไปกินต่อหน้าต่อตา
“โห.... ขนมปังงงง~” ข้าพูดอย่างอาลัยอาวรณ์
“พี่เซ ไปดูภารกิจรึยัง?” ฟิลหันมาถามข้า
“ภารกิจ?... อะไรอ่ะ = =” ข้าถามด้วยหน้าตาเหรอหรา
“ตลอดอ่ะพี่! ภารกิจ... เฮ้อ ไปดูเองแล้วกัน ที่ห้องภารกิจ” ไวน์บ่นก่อนจะกินขนมปังต่อ
“เอาน่า...ยังไม่ชินอีกเหรอ?” ข้าถามไวน์ก่อนจะเดินไปทางห้องภารกิจ
“พี่เซ!! ทางนู้น....” ไวน์กับฟิลพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“อ่ะเหรอ...~ พี่ว่าทางนี้มันคุ้นๆนะ” ข้าชี้นิ้วไปทางที่กำลังจะเดินไป
“แค่โผล่หน้าไปดูเฉยๆ น่า... โฮะๆๆๆ” ข้าเอามือป้องปากหัวเราะกลบเกลื่อนเล็กน้อยแล้วเดินไปทางที่ถูกต้อง
=หนึ่งชั่วโมงผ่านไป=
“ไอ้ร้านขายของภารกิจมันอยู่ไหนวะ ?” ข้าบ่นก่อนจะกางแผนที่ออกมาดู
“เอามานี่เลย เดินตามข้ามาก็พอ” ไวน์หยิบแผนที่ไปจากมือข้า แล้วเดินนำหน้าไปพร้อมกับฟิล
“ชิ!!... ถึงข้าจะห่วยเรื่องทิศทางแต่ค้างคาวข้าเก่งนะเฟร้ยยยย...” พูดด้วยความภาคภูมิใจ โฮะๆๆ ก่อนจะเดินตามเจ้าสองคนนั่นไป
หลังจากที่ซื้อของทำภารกิจ เอ่อ... กระดาษจากพาเซีย อะไรนั่นแล้ว ไวน์กับฟิลก็ขอตัวกลับ รร. ไปก่อน ส่วนข้าก็ไปทำงานที่ร้านอาหารโรยอลต่อ เนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนข้าก็เลยทำงานได้เต็มวัน ก็เพื่อ....
... เงิน! เอามาเติมในกระเป๋าข้าที่มันแห้งเหี่ยวไปตั้งแต่ช่วงงานเทศกาลน่ะสิ!
“เหนื่อวุ้ย!... แต่ก็คุ้ม ฮ่าๆ ได้ของกินมาเพียบ” ข้าเดินยิ้มหน้าบานออกมาจากร้านอาหาร พร้อมกับของกินเต็มไม้เต็มมือ ข้าก็เดินไปกินไปเรื่อยๆ มาตามทางเดินเพื่อกลับโรงเรียน ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เพราะงานที่ร้านกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปสามทุ่มครึ่ง...
“จริงสิ!! ภารกิจ” ข้าทำท่าเหมือนนึกอะไรออก แล้วควานหาของบางอย่างในกระเป๋า
“อยู่ไหนนะ...? กระดาษ เซียๆอะไรนั่น” ข้าเริ่มเครียดเพราะหาไม่เจอ
“เวรกรรมแล่ว... !” เหงื่อหยดสิบเม็ด
แล้วสายตาก็สะดุดเข้ากับกระดาษที่ข้าเอามาห่อขนมปังกินไม่ให้มันเปื้อนมือ...
.... เหงื่อหยดอีกสิบเม็ด ....
“อันนี้แน่เลย = = ” ข้ารีบส่งขนมปังเข้าปากก่อนจะเอากระดาษมาสะบัดๆ ออกดู
“นั่นไง! จริงด้วยเกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ” ข้าถอนใจอย่างโล่งอกแล้วพยายามเพ่งสายตาอ่านข้อความในกระดาษ ทั้งๆที่อยู่ท่ามกลางความมืด...
“อืม... แล้วจะไปหามันเจอได้ไงฟร่ะ!!” บ่นเสร็จก็เก็บกระดาษลงกระเป๋า ของกินในมือก็เริ่มหมด ตอนนี้เหลือขนมปังก้อนสุดท้ายที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าใบเดียวกัน
สวบ!!
เสียงอะไรบางอย่างแหวกพุ่มไม้ ข้าชักเริ่มหวั่นๆ ถ้าคนเป็นๆ จะไม่ว่าเลย ขออย่าลอยมาเป็นผีสางเล๊ยยยย..... สาธุ !
สวบๆ !!
เสียงนั่นเริ่มใกล้เข้ามา ข้าก็เริ่มยกมือไหว้พระสวดมนต์ แต่ก็... นึกได้ว่า ข้าเป็นปิศาจนิ จะสวดมนต์ได้ไงฟร่ะเนี่ย?? ข้าหลับตาปี๋ มือกำปืนในกระเป๋าเอาไว้แน่น
“เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน!!” ข้าลืมตาขึ้นมา แต่มือก็ยังกำปืนอยู่ นัยน์ตาสีม่วงๆของข้ามองเห็นภาพชายผมยาวคนหนึ่ง เดินออกมาจากป่าข้างทาง เหมือนกับหนีอะไรบางอย่างมา... เสื้อผ้าเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้ แต่ที่น่าแปลกก็คือ... ร่างกายของชายคนนี้น่ะสิ!!
.... เรียกได้ว่า ‘ไร้รอยขีดข่วน’ คงมีพลังเวทย์รักษาไม่ใช่น้อย ...
ชายคนนั้นเดินสวนกับข้า ในวินาทีนั้น ข้าก็หันไปทักทายตามอัธยาศรัยที่ดี ที่ติดตัวข้ามาตั้งแต่เกิด ฮ่าๆๆๆ....
“มีอะไรให้ข้าช่วยมั้ย ?” ข้าหันไปถามชายคนนั้น ผมยาวๆของเจ้านั่นปลิวตามลมเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาด้วยใบหน้าเรียบสนิท
“ช่วย.... งั้นรึ?”
“หึหึ!!~... อย่างเจ้าจะช่วยอะไรข้าได้” นัยน์ตาสีฟ้าเกือบจะน้ำเงินหันมามองข้าอย่างดูถูก
“โห... คนจะช่วยดีๆ ไม่เห็นต้องว่ากันเลย จะไปไหนก็ไปเลย ชิ!!” ข้าโวยวายไปตามนิสัย ก่อนจะขยับมือไล่ชายคนนั้น
“ข้าไปแน่... ไม่ต้องห่วง!” พูดจบชายคนนั้นก็ทำท่าจะเดินจากปทันที
‘เอ... ผมยาว ตาสีฟ้า.... คุ้นๆ เหมือนอ่านเจอที่ไหน... ’ ข้ายืนคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรออก
จริงสิ!!
“เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป” ข้าหันไปเรียกชายคนนั้นเอาไว้
“ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลย ข้าเป็นคนดีหรอกนะถึงได้เรียกเจ้าไว้เนี่ย” เมื่อชายคนนั้นทำท่าทางสงสัย ข้าจึงอธิบายต่อ...
“ในเมืองน่ะ ร้านอาหารในเมืองมันมีอยู่ร้านเดียว ตอนนี้ปิดแล้วด้วย ท่าทางเจ้าจะหิว เอานี่ไปกินแล้วกัน”
ใช่!! เรื่องที่ข้าคิดออกคือเรื่องนี้นี่แหละ .... ก็นะ จะทำอะไรท้องมันก็ต้องอิ่มไว้ก่อนสิ!
ข้าเอามือล้วงไปในกระเป๋า แล้วหยิบขนมปังก้อนสุดท้ายที่เก็บเอาไว้ ยื่นให้กับชายตรงหน้า ระหว่างนั้นกระดาษอะไรบางอย่างหล่นออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับขนมปังนั่น...
ข้าก้มลงไปหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาอ่าน
“นี่มัน... ผมยาว ตาสีฟ้า.... เฮ้ยยยยยยยยย!!! เจ้าคือนักฆ่าที่หนีมา!” ข้าพูดพร้อมกับหันไปหาเจ้านักฆ่านั่น
แต่...
เจ้านั่นหายไปแล้วน่ะสิ! วินาทีนั้น ข้ารู้สึกถึงอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลัง
“หึหึ!!~ ...ถ้าเจ้าไม่เผลออ่านกระดาษนั่น บางทีอาจจะมีชีวิตรอด...แต่ น่าเสียดาย...” ข้ายังไม่ทันได้ขยับตัว นิ้วของเจ้านั่นคีบไพ่คมกริบเอาไว้ ตอนนี้มันกำลังจ่ออยู่ที่คอของข้า!!
“น่าเสียดายจริงๆ... หึๆ” ไพ่ในมือเจ้านั่นกดลึกลงมาเรื่อยๆ
“แล้วเจอกันชาติหน้า แม่ผมทอง” พูดจบเจ้านักฆ่าก็ยกมือขึ้นสูงหมายจะเอาชีวิตข้า จังหวะนั้นเอง ร่างกายของข้าก็หายไปในพริบตา เจ้านักฆ่านั่นงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองข้าที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันแทน
“แหม... เล่นกับร่างแยกข้าสนุกมั้ยล่ะ?” ข้าถามด้วยรอยยิ้ม
“ร่างแยก? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...”
“ตั้งแต่เจ้าหันหลังให้ข้านั่นล่ะ! คิดว่าข้าความจำเสื่อมขนาดจำไม่ได้เลยเรอะ ว่าอ่านอะไรไป ไม่กี่นาทีก่อนจะเจอเจ้า”
“ข้าคิดเช่นนั้น... หึหึ แต่ก็ไม่เบานี่ แม่สาวน้อย หลอกคนอย่างข้าได้...”
“โฮะๆๆ แน่นอนอยู่แล้นนนน... ” ข้าหัวเราะบ้าคลั่งอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง
“จะเสียก็ตรงนี้แหละ!!” พูดจบไพ่นับสิบใบก็พุ่งตรงมาหาข้า
พรึ่บ!! บาเรียสีแดงถูกกางขึ้นรอบตัวข้าทันทีตามสัญชาติญาณ
“เล่นแบบนี้เลยเรอะ! เจ้านักฆ่า” ข้าสร้างลูกไฟขึ้นที่มือ ก่อนจะเผาไพ่ของมันที่พุ่งมาให้เป็นจุล แต่ก็ยังมีไพ่ที่อยู่ในจุดบอดสายตาพุ่งตรงมา
ฉึบ! ไพ่เฉี่ยวเข้าที่แก้มข้างซ้าย เลือดสีแดงค่อยๆซึมออกมาทีละนิด
ข้าเอามือไปลูบที่แก้มของตัวเองเลือดสีแดงติดมือออกมา!!
“ให้ตายสิ ข้าเกลียดเลือด...” ข้าบ่นเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปทางนักฆ่าที่ทำจมูกฟุตฟิต
“กลิ่นดีนี่... ข้าชักอยากลองแล้วสิ หึๆ!”
“ทำได้ก็เอาเลย ฮ่ะๆ” ข้าหัวเราะ เอ่อ... ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหัวเราะทำไม ก่อนจะเรียกฝูงค้างคาวออกมาล้อมเจ้านั่นเอาไว้...
“ผู้ใช้ค้างคาว... งั้นรึ!! ชักสนุกแล้วสิ” นักฆ่ายิ้มน้อยๆ ข้าก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่ายิ้มรึเปล่า แต่ก็เอาเถอะ!
“มาสิ.. มาเล่นกัน แม่สาวน้อย... ” เจ้านักฆ่าพูดทีเล่นทีจริง จากนั้นก็หลับตาลงกระโดดขึ้นไปท่ามกลางฝูงค้างคาวของข้าอย่างไม่เกรงกลัว ปากเจ้านั่นพรึมพรำอะไรที่จับความไม่ได้ เพียงเท่านั้น แสงสีฟ้าอมขาวสว่างวาบ ทำเอาค้างคาวสุดที่รักของข้าบินหนีไปคนละทิศคนละทาง...
“ทีนี้เจ้าก็ไม่มีค้างคาวแล้ว จะทำยังไงล่ะ หึๆ...”
“ดูถูกค้างคาวข้ามากเกินไป” ข้ามองตาสีฟ้าของมันแบบไม่หลบสายตา ปากก็พรึมพรำเรียกค้างคาวทั้งฝูงมารวมกันใหม่ ค้างคาวบินโฉบไปมา ก่อนจะส่งสายตาสะกดจิตให้เจ้านั่นหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่ นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววตระหนก และตกใจมากขึ้นเมื่อได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสจากฝูงค้างคาวแวมไพร์นับร้อย
ข้าแยกร่างออกเป็นสี่ร่างด้วยภาพมายา ทำให้มันไม่รู้ว่าตัวจริงข้าอยู่ไหน แล้วโจมตีเข้าไปพร้อมกันในจังหวะนั้น
“อ๊ากกกกกก.... !!” ข้าไม่รอช้ายิงลูกไฟซ้ำเข้าไปอีกหลายลูก แต่ครั้งหลังมันหลบได้ ถึงอย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของข้าได้ผล เจ้านั่นเคลื่อนไหวช้าลง...
คิดได้เพียงเท่านั้นไพ่อีกนับสิบใบก็พุ่งตรงมาอีกระรอก คราวนี้มาพร้อมประกายไฟแปล๊บๆ
“ธันเดอร์!!” สายฟ้าฟาดเปรี้ยง มาเป็นสายตามไพ่ที่พุ่งตรงมา ข้าหยิบปืนคู่ของตัวเองมาจากด้านหลัง แล้วยิงไปที่ไพ่พวกนั้นอย่างรวดเร็ว มือไขว้กันไปมายิงบนบ้าง ล่างบ้าง
ปัง!! ปังๆๆ....
“เจ้าพลาดแล้ว... แม่สาวน้อย” เจ้านักฆ่าพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม พร้อมกับไพ่ที่พุ่งมา ข้าก็ไม่รู้ว่ามันปามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ให้ตายสิ! ไหนบอกไพ่มันเหลือครึ่งเดียว มันไปเอามาจากไหนเยอะแยะ...
ข้าคิดอะไรไม่ทัน อัดพลังไฟใส่ปืนแล้วยิงลงพื้น ส่งให้ตัวเองลอยสูงขึ้นไป ปืนคู่ในมือถูกโยนขึ้นบนฟ้า ก่อนที่ข้าจะใช้มือเปล่าปล่อยลูกไฟยักษ์ ออกมาเพื่อจัดการกับไพ่พวกนั้น แล้วเอื้อมมือไปรับปืนอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะตกลงพื้น
เจ้านักฆ่าจ้องมองข้าที่ยืนอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วพูดออกมาเบาๆ
“ปืนสีทอง... เจ้า?... สืบเชื้อสายมาจากท่านเคานท์แดร็กคูล่า แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์...”
“ใช่! ข้านี่แหละแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ ส่วนเรื่องสายเลือด... ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ข้าไม่ใช้พวกมนุษย์ที่โดนกัดแน่นอน!! ”
“มิน่าล่ะ... เลือดเจ้าถึงได้กลิ่นน่าสนใจขนาดนั้น... หึๆ!!~”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งทีได้สู้กับเจ้า... เรียกข้าว่าล๊อซแล้วกัน แม่สาวเลือดบริสุทธิ์ ” พูดจบ นักฆ่านามล๊อซโค้งตัวเล็กน้อย
ด้วยความรวดเร็วล๊อซเคลื่อนที่มาประชิดตัวข้าทันที ข้าย่อตัวลง เตะไปที่ขาของมัน ต่อสู้กันพันลวัน และแล้ว... มันแย่งปืนไปจากมือข้า!!
ล๊อซกระโดดถอยหลังเว้นระยะห่างประมาณสองสามก้าว ใบหน้าแสยะยิ้ม ก่อนจะควงปืนในมือเล่น... สภาพร่างกายของมันค่อยข้างสะบักสะบอม ไม่ต่างจากข้าที่เสื้อผ้าขาดวิ่น รอยแผลเต็มตัว
“คงสนุกนะ... ถ้าแวมไพร์อย่างเจ้าจะตายด้วยปืนของตัวเอง” เจ้านักฆ่าพูดพร้อมกับเล็งปืนมาทางข้า ก่อนจะเหนี่ยวไก...
กึก!!
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น.... ข้าหันไปยิ้มก่อนจะพูด
“เสียใจด้วยล๊อซ ปืนข้าน่ะมันค่อนข้างพิเศษ เจ้าใช้ไม่ได้หรอก”
“นั่นสินะ” มันพูดเบาๆ
ในจังหวะนั้นมันมองปืนข้าแบบไม่ระวังตัว ข้าสั่งฝูงค้างคาวโจมตีทันทีเพราะร่างกายเริ่มจะไม่ไหว เจ้านั่นกระโดดหลบ ปาไพ่ เตะ ต่อย ค้างคาวน้อยๆของข้า ก่อนที่มันจะคิดได้เปลี่ยนเป้าหมายมาจัดการข้าแทน มันพุ่งมาด้วยความเร็ว ส่งหมัดเข้าที่ใบหน้าของข้า ข้าเอี้ยวตัวหลบพ้นแบบเฉียดฉิว ต่อยกลับไปที่ท้องน้อยของมันทันที แล้วซ้ำอีกด้วยหมัดไฟ มันก็รับหมัดข้าด้วยหมัดสายฟ้า ข้าต่อยหน้ามันเต็มแรง ล๊อซกระโดดถอยหลังก่อนจะปาไพ่มาอีก....
เจ้านั่นหลับตาลงแล้วเริ่มพรึมพรำร่ายเวทย์ ข้ามองหาปืนพกที่ถูกมันโยนออกไปไกลจากระยะการต่อสู้พอควร จะให้วิ่งไปหยิบก็คงไม่ทัน ข้ากัดฟันใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าไปหามันตรงๆอย่างรวดเร็วพร้อมกับฝูงค้างคาวที่เหลือ สร้างบาเรียสีแดงรอบตัวเองทันที เขี้ยวในปากยาวขึ้น มือเกาะไปที่ลำตัวของมัน ก่อนที่จะกัดเต็มแรงไปที่ลำคอนั่น!!
ฉึก! เลือดสีแดงสดกระจายเต็มหน้า ข้ากระเด็นออกมา ส่วนเข้าล๊อซล้มลงกองอยู่กับพื้นอย่างหมดแรง....
มือของเจ้านั่นกำแน่นที่ลำคอ พยายามร่ายเวทย์รักษา ข้าหมดแรงเกินกว่าที่จะกระโจนเข้าไปซ้ำ มันก็คงเหมือนข้า หมดแรงเหมือนกันเพราะมันใช้พลังรักษาตัวเองแทนที่จะมาจัดการกับข้า นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววโกรธจัด จ้องมองมาทางข้าก่อนจะยันตัวลุกขึ้นแล้วเริ่มร่ายเวทย์โจมตีอีกครั้งหลังจากที่มันรักษาตัวเองเสร็จ ข้ารู้สึกได้ด้วยสัญชาติญาณว่าสายฟ้าชุดใหญ่กำลังจะถูกส่งมา จะหลบคงไม่พ้น ต้องทำอะไรซักอย่างให้มันร่ายเวทย์ไม่จบ!!
จังหวะนั้นมือข้าก็คว้าไปโดนอะไรบางอย่างที่พกติดตัวไว้
... ปืนพกสีทองของท่านไมเออร์...
ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ข้าหยิบปืนออกมาบรรจุลูกกระสุนทันที
“กระสุนอะไรว่ะเนี่ย... ไอ้นี่ท่าจะใช้ได้!!” ข้ายิงออกไปทันทีที่บรรจุกระสุนเสร็จ
ปัง!!
กระสุนนั่นเจาะเข้าไปที่แขนของมัน
...ได้ผล !
เสียงร่ายเวทย์ชะงักลง ร่างของมันกองลงกับพื้น คงหมดแรงพอกัน ข้าใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิด ยันตัวเองให้ลุกขึ้น เดินเข้าไปหาเจ้านักฆ่านามล๊อซนั่น แล้วถือปืนจ่อมันเอาไว้
“ร่ายเวทย์นานขนาดนั้นคิดจะฆ่าตัวตายรึไง?” เหนื่อยแค่ไหนข้าก็ยังเอ่ยปากถาม ดูจากสภาพแล้ว ทั้งข้าทั้งมันไล่ตบยุง ยุงยังไม่ตาย - -* สภาพย่ำแย่ทั้งคู่...
“ข้าไม่คิดว่า... เจ้าจะมีปืนอีก...” ล๊อซตอบด้วยเสียงเอื่อยๆปนหอบ ขณะที่นอนแผ่หราอยู่ที่พื้น
“ข้าเพิ่งได้มาน่ะ... ยังไม่รู้เลยว่ามันทำอะไรได้บ้าง เจ้าเป็นคนแรกที่โดนเลยนะ ล๊อซ!”
“ข้าประมาทไปหน่อย...” ล๊อซพูด
“ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย... เจ้าไม่รู้?” ข้าถามแต่ปืนก็ยังจ่อไปที่มัน
“หึหึ!!~... นั่นสินะ คำสอนของนักบวช ข้าเพิ่งฆ่าไปไม่นาน... ไม่น่าลืม” ล๊อซพูดเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง
ปัง! ข้ายิงกระสุนอีกนัดนึงให้ฝังเข้าไปในร่างชายตรงหน้า แล้วหยิบกระดาษจากพาเซียออกมาอีกครั้ง
“เอ... เจ้าตายไม่ได้สินะ” พูดเหมือนเพิ่งนึกออก บนกระดาษเขียนไว้ว่า
‘ขอย้ำด้วย ว่า ต้องการตัวนักฆ่าแบบเป็นๆ ขอจับเป็น’
“เฮ้อ.... ก็ดี ข้าไม่อยากฆ่าใคร ข้าน่ะคนดี โฮะๆๆๆ~” ข้าพูดแล้วยิ้มน้อยๆ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“กระสุนยาสลบ ใช้งานได้ดีจริงๆ”ข้าจัดการเก็บกระสุนที่เหลือเข้ากระเป๋าไป พลางมองสำรวจตัวเอง เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน ขาดบ้าง มีเลือดซึมบ้าง ไม่รู้เลือดข้าหรือเลือดมัน...
“ให้ตายสิ!!~ ข้าเกลียดเลือด” พูดจบก็สั่งค้างคาวให้หิ้วปีกเจ้าล๊อซที่สลบไม่ได้สติกลับ รร. เพื่อไปส่งภารกิจ
...เฮ้อ~ วันนี้มันเหนื่อยจริงๆ ของที่กินมาก็ใช้ไปหมดแล้วสิ ไปหาอะไรกินต่อที่โรงเรียนดีกว่า โฮะๆๆ โซฟาที่รักจ๋า ข้ามาแล้ววว~ ...
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::[จบ อย่างเหน็ดเหนื่อย = =*]::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ความคิดเห็น