ปรุงรัก...เติมรสให้หัวใจ
แล้วคุณจะรู้ ว่าพรแสวง หาได้จากรอบตัวคุณ !!
ผู้เข้าชมรวม
378
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปรุงรัก...เติมรสให้หัวใจ
'ถึงเวลาที่ท่านผู้ชมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ทุก ๆ ค่ำคืนวันศุกร์ ในรายการอาหารจานเด็ด เชปมือทอง
กันแล้วนะครับ นั้นก็คือกิจกรรมสุดฮอตของทางรายการ ในวันนี้พิเศษสุดกว่าทุกค่ำคืน เพราะครบรอบ 9 ปีของทาง
รายการ ทางเราจะค้นหาผู้โชคดีทางบ้าน 9 คนที่สนใจ ด้านการทำอาหาร แม้ว่าท่านจะไม่มีพรสวรรค์ แต่เราจะเป็น
คนจุดพรแสวงให้ท่านเอง ไปดูกติกากัน'
~~กติกา~~
ส่งประวัติมาทางที่อยู่ของทางรายการ หรือ ทางอีเมล์ อาจมีสิทธิ์ลุ้นรับโอกาสที่จะได้พบ 9 เชปมือทอง ขวัญใจ
ท่านผู้ชม ยังไม่หมด ยังมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ 9 เชปดัง เพื่อฝึกทำอาหารกับเหล่าเชป แบบตัวต่อตัว อย่าช้า!!
โอกาสทองอาจเป็นของคุณ
พรึบ' เสียงปิดทีวีดังขึ้นทำให้หนึ่งในสองคนพลอยหงุดหงิด
" ปิดทีวีทำไม ยัยจูน " เสียงพี่ชายฉันเองเราอยู่ด้วยกันสองคนและพี่ชายก็ชอบดูรายการทีวีรายการนี้มาก
เพราะชอบร่วมกิจกรรมอยู่บ่อยๆ แต่ฉันไม่ชอบ! เพราะอะไร น่ะหรอ (จริง ๆ ก็อิจฉาเค้านั่นแหละทำเป็นปากแข็ง) ฉัน
ไม่ชอบคนที่มีพรสวรรค์ อะไรนั่นอยู่แล้ว เห็นแล้วหมั่นไส้ (ก็ตัวเองไม่มีนินา) แถมได้แกล้งพี่ตูนด้วย ฮุฮุฮุ...^O^
" ก็ฉันพอใจอ่ะ "
" ตอบวอนโดนพระบาทของฉันจริง ๆ " พลางขยับเบื้องล่างโชว์ น่ากลัวซะไม่มี
" ฉันจะส่งประวัติแก เข้าไปร่วมฉกโอกาสทองในการมีพรสวรรค์เรื่องการทำอาหาร "
" พี่ก็รู้อยู่ว่าฉันไม่ค่อยชอบทำอาหาร แต่ถ้ามีของล่อ อาจเปลี่ยนใจก็ได้นะ " ทำตาวิ้งๆ *-*
" อืม...คิดออกแล้วว่าจะเอาอะไรล่อ แต่มีข้อแม้ (ทำหน้าเจ้าเล่ห์) หากแกมีโอกาสได้เป็น 1 ใน 9 และสามารถ
เก็บเกี่ยวพรแสวงติดตัวมา และสามารถทำอาหารให้ฉันกินได้ล่ะก็ ฉันจะให้ แต่น แตน แต้น!! โน้ตบุ๊ก กับแก
ข้อเสนอของฉันเจ๋งมั้ย "
" ขอคิดดูก่อน" ทำหน้าครุ่นคิด ของอย่างนี้ไม่มีโอกาสมาให้เอื้อมบ่อย ๆ
" ช้าเดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ..."
" ตกลง อย่าลืมสัญญาล่ะ"
คืนวันนั้นเอง ทั้งพี่และฉันก็ช่วยกัน กรอกประวัติของฉัน โหลดรูปที่คิดว่า (ดู) ดีที่สุด 2-3 รูป ความสนใจ (คำถาม)
ทำไมถึงอยากเข้าร่วมสร้างพรแสวงกับเรา พี่ตูนพูดไปพิมพ์ไปว่า 'หลงรักเชป เอ้ย! หลงรักการทำอาหารอย่างมาก
มาย' (ทั้งๆที่ทำไม่เป็นเนี่ยนะ) นี้แหละพี่ชายฉัน
" โอเค เรียบร้อยแล้ว ไอ้น้องรัก ตรวจสอบหน่อยมั้ย" กอดอก ชื่นชมในผลงานของตัวเอง แล้วหันมาถาม
" ไม่อ่ะ ไม่น่าจะมีปัญญา เอ้ย! ปัญหา"
'คลิก' เร็วปานวอก กดตกลงในทันที รู้ว่าฉันไม่ตรวจสอบอยู่แล้ว (ไม่ละเอียดลออนั่นเอง คุณสมบัติแบบนี้ น่าภูมิใจ
มั้ยเนี่ย)
" เค้าจะประกาศรายชื่อทางเว็บในสัปดาห์หน้า มาเช็คด้วย เดี๋ยวพลาดโอกาสทองไม่รู้ด้วยนะ" แล้วก็หันกลับไปนอน
ภูมิใจในความกระตือรือร้น เรื่องการนอนของพี่ชาย
"ทำไมไม่ส่งประวัติของตัวเองไปแทนล่ะ เรื่องหางานให้เนี่ย ต้องยกให้พี่ชายของฉัน" แล้วฉันก็ปิดคอม และตาม
ไปนอนเช่นกัน เพราะไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไม
อาทิตย์ ต่อมา
ณ เว็บรายการอาหารจานเด็ด เชปมือทอง 'ประกาศรายชื่อผู้โชคดีแบบพิเศษสุด! ทางรายการจะให้เชปเป็นคน
เรียกผู้โชคดีทางบ้าน ผ่านทางรายการ และเราจะติดต่อทันทีเมื่อทราบชื่อ-ที่อยู่ผู้โชคดี เพื่อยืนยันสิทธิ์ที่ได้รับ ขอให้
โชค D '
" ทำไงดีตื่นเต้นจัง กลัวด้วย ดีใจด้วย หรือจะเสียใจดี" (จะเสียใจทำไมเนี่ย)
" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบัลดาลให้ข้าพเจ้า ไม่มีรายชื่อเป็นผู้โชคดีด้วยเถิด แต่เอ๊ะ! ถ้ามีเราก็ได้ลุ้นโน้ตบุ๊ค
จากพี่ตูนอีก อืม...ไม่เอาดีกว่า ขอให้ลูกช้างขอใหม่นะเจ้าค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าขา ขอให้ลูกช้างได้รับเลือกด้วยเถิด
ถ้าได้ละก็จะตั้งใจเรียนรู้และทำอาหารให้สุดความสามารถ แม้จะมีอยู่น้อยนิดก็ตาม สาธุ..."
" พี่กลับมาแล้ว เป็นไงบ้าง เช็ครายชื่อดูรึยัง" วางกระเป๋าคู่กายไว้บนโต๊ะ หันมาถามน้องสาวอย่างกระตือรือร้น
" ดูแล้ว..." ตอบแบบเซ็งสุด ๆ
"เป็นไงบ้าง แกได้รับเลือกชัวร์ป้าบเลยสิ"
" เค้าบอกให้ฟังรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางรายการ คืนนี้ และที่สำคัญ เชปเป็นคนประกาศชื่อผู้โชคดีที่ตนเองเลือกด้วย
อีกอย่างฉันรู้สึก ตุ้มๆ ต่อมๆ ตุ้มๆ ต่อมๆ โอยใจเต้น ตุ้มๆ ต่อมๆ ตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่หยุดเต้น" หัวใจหยุดเต้นก็ตายแล้วน่ะสิ
" รู้สึกอยากร้องเพลงหรอ" พลางทำท่าร้องเพลงล้อฉัน
" ใช่ที่ไหนล่ะ รู้สึกตื่นเต้นต่างหาก" ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่...ก็ไม่พ้นเพลงอีกนั่นแหละ
ตกลงอยากจะมีพรแสวงด้านการทำอาหาร หรือว่าอยากจะร้องเพลงก็ไม่รู้
" อะล้อเล่นน่า ยังไงซะต้องมีคนเลือกแกบ้างแหละ รับรองผ่านชัวร์"
" ผ่านหน้าผ่านตาของฉันไปชัวร์ๆ"
" เฮ้ๆ ท่องไว้ ๆ โน้ตบุ๊ก ๆ ๆ" พร้อมยกแขนทำท่าเหมือนจะไปท้วง (ออกไปๆๆ) ยังไงอย่างงั้น จริงสินะ จะเสียใจ
ไปทำไม มีแต่ได้กับได้ ทั้งพรแสวงและก็โน้ตบุ๊ก (มั่นใจว่าได้ชัวร์...มั้ง)
" งั้นไปซื้อขนมมาฉลอง รอคอยการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ฝีมือของแกกันดีกว่า เย้!!" ดีใจเกินหน้าเกินตาทำอย่าง
กับถูกล้อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 แน่ะ ถ้าไม่ถูกเลือกจะหัวเราะให้ฟันหัก (หัวเราะเยาะตัวเองหรอ บ้าเปล่า)
ที่ร้าน 7eleven
" ซื้อทำไมเยอะแยะ จะกินหมดหรอ" ฉันทักพี่ชาย จอมใช้เงินเป็นประจำบ้าน
" แล้ววันพรุ่งนี้แกจะไม่กินรึไง อีกอย่างฉันมีลางสังหรณ์ ว่าจะได้เงินมาใช้ด้วย ลางสังหรณ์ของพี่แม่นนะไม่เคยพลาด"
" พูดเวอร์ไปมั้ย ทำไมไม่ไปเปิดร้านดูหมอซะล่ะ จะได้ รวยๆ สักที"
" กี่โมงแล้ว ดูนาฬิกาให้หน่อยดิ" ถามน้องสาวแต่ยังเดินดูของที่ต้องการไม่หยุด
" อีกตั้ง 30 นาที เวลาเหลือเฟือซื้อของไปเถอะ"
" หะ! ว่าไงนะ 30 นาที แกไปคิดตังเลยเดี๋ยวไม่ทัน ส่วนฉันจะ สตาร์ทเครื่องรอ"
" จ้า..." ฉันขานรับ และอมยิ้มกับความตื้นเต้นของพี่ชาย ทำอย่างกับน้องสาวหรือไม่ก็ตัวเองจะถูกรับเลือก
อย่างนั้นแหละ
'บรื้น...' เสียงอะไรก็น่าจะรู้ (หรือว่าไม่รู้) เสียงรถนั่นเอง
" จะรีบไปไหนเดี๋ยวได้แวะที่อื่นก่อนหรอก" ฉันเตือนพี่ชายให้ลดความเร็วลง
'เอียด '
'โป๊ก'
"โอ๊ย !"
" เป็นไร แค่นี้สำออย แค่หัวแข็งๆ กระทบกับหมวกกันน็อคนิ่มๆ จิ๊บจ้อยๆ มีเรื่องสำคัญกว่านี้อีกไปเร็ว" ตื่นเต้น หรือ
ประชดกันก็ไม่รู้ จริงๆแล้วหัวของฉันอ่อน เพราะว่านอนสอนง่าย (หรอ) อีกอย่างหมวกกันน็อกมันนิ่ม
ตรงไหนอยากทราบ
" ก็รีบอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีพี่เอารถไปเก็บดิ เดี๋ยวฉันจะรอ"
" ไม่ได้ แกนั่นแหละเก็บรถ เดี๋ยวพี่จะไปเปิดรายการอาหารจานเด็ด เงินๆทองๆ คอย" มันมีที่ไหนชื่อรายการแบบนี้น่ะ
บ้าบอ พูดยังไม่พอ ยังทิ้งรถเอาไว้ให้ฉันเก็บตามคำสั่ง (มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว)
' ถึงเวลาประกาศชื่อผู้โชคดีแล้วนะครับ ตื่นเต้นมั้ยเอ่ย ผมล่ะตื่นเต้นแทนจริงๆ' พิธีกรพูดจบเสียงนี้ก็แทรกทันที
' กรี๊ดดด เย้ๆ' เสียงดังไปทั่วห้องส่ง ทำให้ตื้นเต้นตามไปด้วย
" วันนี้เราจะทราบรายชื่อผู้โชคดี 9 ท่าน ที่จะมาร่วมฝึกประสบการณ์ทำอาหารรสเลิศ กับ 9 เชปชื่อดัง แต่ว่าพิเศษสุด
คือ เชปจะเป็นคนเลือกผู้โชคดีเองด้วย ดีใจมั้ยเอ่ย"
" ฉันนี้มาเฉียดฉิว จริงๆ"
" ยัยจูนมานั่งนี้ เร็วๆเข้าเดี๋ยวฟังไม่ชัด แต่เดี๋ยวก่อน ฉันเพิ่มเสียง TV แปบ"
"โห ดังสนั่นจนพื้นสะเทือน แผ่นดินไหวหมดแล้ว" (พูดเวอร์ซะไม่มี)
" แหะ ๆ กลัวไม่ได้ยิน น่ะ" พลางเกาหัว แกรกๆ
' เริ่มจากเชปคนแรก แนะนำตัวเองด้วยนะครับ'
' ครับชื่อเชปจาง เลือก คุณนก ครับ'
' ครับชื่อเชปลี เลือก คุณนิล ครับ'
' ค่ะชื่อเชปยูโกะ เลือก คุณต่อ ค่ะ'
คนที่ 4 คนที่ 5 คนที่ 6 คนที่ 7 คนที่ 8 ผ่านไป และแล้วก็มาถึงคนสุดท้าย จะมีชื่อของเรามั้ยน้า
" อย่าพึ่งท้อใจไปยังเหลืออีกตั้ง 1 คน อาจจะเป็น..." พูดได้แค่นั้น พิธีกรได้บอกให้ช่วยลุ้นคนสุดท้าย
' ครับคนสุดท้ายแล้ว ขอให้โชคดี'
' ครับผมชื่อเชปบอย ขอปิดท้ายด้วยคนนี้แล้วกัน จูนครับ' แล้วก็โชว์รูปสาวน้อยหน้าแป้น ยิ้มสวย ชูสองนิ้วที่แก้ม
' กรี๊ดดด...'
" หนวกหูจัง ก็แค่คนที่ชื่อจูน ชูสองนิ้วที่แก้ม แค่นั้นเอง ไม่ใช่ฉันสักหน่อย แต่เอ๊ะ !ชื่ออะไรนะพี่ตูน"
" ชื่อจูน ก็แกยังไงล่ะ แกจำไม่ได้หรอว่าแกเป็นคนเลือกรูปนี้เองกับมือ สุดยอด!! เย้ยย เราทำได้ๆ"
" อืม ฉันก็ว่าอย่างงั้นแหละ" ฉันได้แต่หัวเราะแหะๆ กับความโชคดีที่ไม่น่าเป็นไปได้ในครั้งนี้ ฟลุคจริงๆ
' เจ้าหน้าที่ครับติดต่อ ผู้โชคดีทุกคนเลยนะครับ เผื่อว่ามีใครจะขอสละสิทธิ์'
~ ~ ใครกันที่ทำให้ฉันรัก ใครกันที่มาอยู่ในความฝัน คนที่ฉันคิดถึงอยู่ทุกวัน ก็ใครคนนั้นฉันเรียกว่าเธอ ~ ~
ฉันตกใจจนมือไม้สั่น จนพี่ตูนต้องช่วยหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋วขึ้นมา เพราะกลัวว่ามันจะหล่นเสียก่อน
และก็ลุ้นว่าใครโทรมา
' สวัสดีครับใช่คุณจูนรึเปล่าเอ่ย' เจ้าหน้าที่นี้ไวจริงๆ บอกให้โทรปุ๊บก็ดังปั๊บ
" เออ...ใช่ค่ะ ฉันกำลังดูรายการคุณอยู่ค่ะ" โอยตื่นเต้นชะมัดเลย พูดออกทีวีด้วย แต่เสียงฉันแปร่งๆจัง
' ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยบอกพวกเราหน่อยได้มั้ย ว่าคุณจะสละสิทธิ์รึเปล่า' ถามได้ ฉันจะปฏิเสธทำไม ในเมื่อฉันมันได้กับ
ได้(เกิดอาการงกขึ้นสมอง)
"อ๋อ ไม่หรอกค่ะ โอกาสมาหาทั้งทีก็ต้องคว้าเป็นธรรมดา อีกอย่างฉันก็อยากมีพรแสวง กับเชปบอย ด้วยเหมือนกัน
จะพลาดได้ไง"
'ชัดเจนแล้วนะครับ กับคำตอบของผู้โชคดีทุกคน แล้วเราจะนัดผู้โชคดีผ่านทางรายการในสัปดาห์ต่อไป อย่าลืม
ติดตามชมนะครับ สำหรับวันนี้หมดเวลาแล้ว ลาไปก่อนพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ'
" เป็นไงบ้าง แกดีใจล่ะซิ ฉันเองดีใจยังกับว่าตัวเองได้รับเลือกแน่ะ ยิ้มจนปวดกรามหมดแล้ว"
" ก็แหงล่ะ อีกอย่างได้ใกล้ชิดกับเชปบอย (ตาระยิบระยับ) แล้วล่ะก็ เค้าอาจจะตกหลุมรักฉันก็ได้
(มั่นใจในหน้าตาอย่างมากมาย)"
" ฉันว่าแกซะมากกว่าที่ตกหลุมรักเค้า แทนที่จะไปตักตวงพรแสวงกลับมาฝากพี่ ที่ไหนได้จะเอาน้องเขยมาฝาก"
รู้ได้ไงว่าคิดอะไรอยู่ มองการไกลนะ พี่น่ะ
" ล้อเล่นน่า เค้าไม่มาสนใจฉันหรอก (มั้ง) แค่มองเพลินๆ ก็ชื่นอุรา 555+"
" ไปนอนได้แล้วแกน่ะ พรุ่งนี้มีเรียนชดเชยไม่ใช่หรอ"
" พี่เองก็มีงานแต่เช้า ไม่ใช่หรอเห็นบ่นๆอยู่"
"เออ...ใช่ พรุ่งนี้มีงาน 8 โมง ตายแน่ๆ" ตึง ๆ ๆ วิ่งซะบันไดจะหัก
"เดินเบา ๆ สิพี่ เดี๋ยวฉันก็ไม่มีบันได ขึ้นไปชั้นบนหรอก" ว่าแต่เค้าให้รีบนอนไม่ดู (หันไปดูนาฬิกา) 23.30 แล้ว
ตายดับเบิล ล่ะคราวนี้จะตื่นทันไปขึ้นรถมั้ยเนี่ย
ตึง ๆ ๆ ว่าแต่พี่ไม่ดูตัวเองเลย เฮ้อ...
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่โรงเรียนแห่งหนี่ง
จูนๆๆ... เสียงยัยเพื่อนสนิทของฉันเอง เสียงของมันทำซะหูหนวกไปชั่วขณะ
"ว่าไง ทำยังกับฉันหูหนวกอย่างนั้นแหละ"
"แหงล่ะ ฉันเรียกเป็นสิบๆ รอบแล้ว หูดีซะที่ไหนแกน่ะ"
"เออๆ มีเรื่องอะไรล่ะ ฉันว่าจะไปหลับสักหน่อย เมื่อวานนอนดึกไปนิดนึง"
"ก็สำคัญสำหรับแกและฉันดัวย คืองี้ เมื่อวาน ดูอาหารจานเด็ดเชปมือทองเปล่า ฉันก็ส่งไปนะ แต่ไม่ได้รับเลือกเลย
เสียใจจัง แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่ากับคนสุดท้ายที่เชปบอยเรียก ฉันว่ามันชื่อคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน
เธอรู้จักมั่งป่ะ แถมหน้ายังคล้าย ๆเธออีก ยังสงสัยไม่หายน่าจะเป็นฉันมากกว่า ฉันน่ะอยากได้รับเลือกจะตาย เหตุผล
ที่ฉันเสียดาย เพราะต้องการทำอาหารกับเชปบอย แค่นี้แหละที่อยากจะบอก สำคัญมั้ย"
"..."
"นี้ !จูน ยัยจูน" เรียกเพื่อนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์
"แหะๆ ถึงไหนแล้วอ่ะ อ้อเธอถามว่า ฉันรู้จักคนชื่อจูนรึเปล่า เพราะหน้าตา คุ้น ๆ ใช่มั้ย" กำลังเคลิม ได้ยินแค่นี้แหละ
ทำหน้าครุ่นคิด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นตัวเอง
"อ้อ ! รู้แล้ว ล่ะ คนๆนั้นก็คือ...เธอก็รู้จักนะ จะว่าไป... รู้จักเป็นอย่างดีเสียด้วย เฉลย เค้าคนนั้นก็คือ...ฉันเอง
surprise! เป็นไง ตื่นเต้นมั้ย ยัยหวาน"
"หรอ ถึงว่า หน้าตางั้น ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอ ฉันไม่ทันสังเกตแหะ ไม่นึกว่าจะเป็นคนใกล้ตัว"
"หรอ หลอกด่าเลยนะ แม่คนหน้าตานางสาวไทย"
'ออด--'
"ไปเข้าเรียนกัน" ฉันชวนยัยหวาน ให้มันละสายตาจากการวิเคราะห์หน้าตาของฉัน สงสัยจะคิดว่าหน้าตางั้น ๆ
อย่างฉัน มันไปเตะปลายคางเชปบอยได้ไง อย่างว่าแหละของอย่างนี้ มันดูถูกกันได้ซะที่ไหน
"ฮะ! เออไปก็ไป" หวานยังคงไม่เลิกมองหน้าฉัน
"นี่ ! จะมองไปถึงไหน มองมา 3 ปี ไม่เบื่อรึไง"
"เออ หน้าตา แกก็ไม่เลว นะพอไปวัดไปวากับเค้าได้" ยัยหวานพูดหลังจากวิเคราะห์หน้าตาฉันนานพอควร
"มันแน่อยู่แล้ว ของอย่างนี้ต้องดูนาน ๆ" 555+ อยู่ ๆ ก็ขำขึ้นมาพร้อมกันซะอย่างนั้น
ณ ห้องเรียน
"นักเรียนทุกคน เมื่อวานใครได้ดู รายการอาหารจานเด็ดเชปมือทองกันมั่ง"
'พรึบ'ยกกัน ห้า หกคนจาก สามสิบคน
"ทำไมไม่ค่อยดูกันจ๊ะ รายการนี้สอนทำอาหาร ทำให้เพิ่มความรู้เกี่ยวกับอาหารที่แปลกใหม่" เมื่อครูพูดจบ
นักเรียนยกมือแล้วพูดขึ้น
"พวกเราไม่ดูหรอกค่ะ ดึกจะตาย และอาหารที่ทำก็คงงั้น ๆ มั้งค่ะ"
"ใช่จ๊ะ ถึงดึกแต่เราได้เคล็ดลับดี ๆ กลับมาใช้ในชีวิตประจำวันได้นะ แต่เมื่อคืนนี้พิเศษสุด มีเพื่อนของเรา
ได้เป็นผู้โชคดีด้วยล่ะ"คุณครูพูดจบ จากนั้นนักเรียนที่ไม่สนใจในตอนแรก เริ่มกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
"ใครครับ/ค่ะครู"เพื่อน ๆ ต่างมองหาแต่ไม่เห็นใครจะเข้าตา ที่จะได้ออกทีวีเลยสักคน
"เงียบ ๆ หน่อยจ๊ะ เดี๋ยวเพื่อนคนนั้นจะไม่ได้ยิน เค้าจะไม่มาโชว์ตัวให้เราเห็นนะ อะแอ้ม! จูนลุกมาหน้าห้องหน่อย"
คุณครูพูดจบทุกคนหันมองจูนเป็นตาเดียว
"นี่! ยัยจูนคุณครูเรียกน่ะ" ยัยหวานกระซิบ
"หะ--หาค่ะ ๆ" สะดุ้งทันที คุณครูยิ้มให้ไม่ถือโทษที่จูนหลับในห้องเรียน เพราะเป็นผู้โชคดี
"มาหน้าห้องหน่อยซิจ๊ะ ให้เพื่อนเห็นรัศมีราศีจับหน่อย" คุณครูพูดจบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น ทำให้หายจากความง่วง
นอนได้บ้าง
"คะ" เดินอย่างไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร
"บอกเพื่อนซิว่าเรื่องราวที่หน้าตื่นเต้นนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร"
"คะ คืองี้ พี่ชายฉัน บลาๆๆๆ"
เช้าวันหยุด
"ฮัลโหล ฉันเองนะ วันนี้แกว่างเปล่า" ฉันโทรหายัยหวาน
"ว่างทั้งวันเลย ทำไมหรอ" ยัยหวานถามแบบอยากรู้มาก ๆ
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะให้แกไปซื้อเสื้อผ้ากับฉันหน่อย ได้มั้ย ฉันขอรบกวนแกวันเดียวเอง"ฉันอ้อน
ยันหวานมันแพ้ลูกอ้อนฉันค่ะ
"ได้สิ เพื่อเพื่อนแล้วฉันทำได้เสมอ และอีกอย่างมันสำคัญขนาดให้ฉันต้องไปช่วยแกซื้อเลยหรอ"
"ก็ไม่เท่าไรหรอก แค่ฉันจะใส่ไปออกรายการอาหารจานเด็ดเชปมือทอง เท่านั้นเอง" ฉันแกล้งบอก
เหมือนมันไม่สำคัญเท่าไหร่
"จริงดิ ! ฉันจะแนะนำอย่างสุดความสามารถเลย แล้วเจอกันกี่โมง ที่ไหน" ยัยหวานถามแบบอยากรู้
"เจ็ดโมง ที่ร้านเดิมของแกนั่นแหละเสื้อผ้าสวยดี แนวสุด ๆ แล้วเจอกันนะ บาย"
"บายจ๊ะ"
ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
"ขอโทษนะครับ เสื้อลายแบบนี้มีหลายสีมั้ยครับ" ชายสวมแว่นหนาเตอะ ที่อยู่ก่อนพวกเราถามเจ้าของร้าน
"อืม ขอดูก่อนนะคะ อ้อมี 5 สีค่ะ"
"ขอบคุณครับ" ชายสวมแว่นหนาเตอะกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปรอบ ๆ ร้าน เพื่อมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ
"นี่!ยัยจูน เธอต้องการเสื้อแบบไหนหรอ"
"อืม--เอาแบบใส่ไปได้ทุกที่น่ะ ไม่ต้องเวอร์เกินไป แบบว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่"ฉันบอกมันเสร็จ พลางดูเสื้อผ้า
ไปพลาง
"ตัวนี้เป็นไง" ยัยหวานชูเสื้อผ้าแนวหวานให้ดู"
"ก็ดีนะ แต่มันจืดไปหน่อย เอาแบบมีสีสันหน่อยดีกว่า แต่ไม่ฉูดฉาดมากนะ"
"เสื้อยืดสีดำ แบบนี้เป็นไงบ้าง เท่ห์ดีนะว่าไง" ยัยหวานยังไม่หมดกำลังใจจะเลือกเสื้อให้ถูกใจเพื่อนให้ได้
"อืม--ก็ดีนะ" พูดไม่ทันจบก็ได้กางเกงยืนเซอร์ ๆ พลางชูให้หวานดู
"เป็นไงบ้าง"ฉันถามความเห็นของหวาน หวานมองดูก็พยักหน้า
"ก็ดีนะ ใส่เสื้อยืดตัวที่ฉันเลือกให้ กับกางเกงยีนของเธอ ไปได้ทุกที่จริง ๆ ไปลองใส่ให้ฉันดูหน่อย"
"อืม รอแปบนึงนะ" พูดเสร็จก็เข้าห้องลองชุดทันที
10 นาทีต่อมา
"หวานเป็นไงบ้าง" ฉันถามความเห็นหวานอีกรอบของวันนี้ หวานยังไม่ตอบแต่ยื่นโทรศัพท์ให้ฉัน
"พี่ตูนโทรมา บอกให้เธอโทรกลับด้วย"พูดเสร็จก็รอฉันโทรกลับหาพี่ก่อน ค่อยแสดงความคิดเห็นทีหลัง
"อืม ขอบใจนะ" พูดเสร็จฉันก็โทรหาพี่ตูนทันที
"มีอะไรหรอพี่ตูน" ฉันถามพลางเดินดูเสื้อสไตล์อื่น
"พี่จะบอกว่าวันนี้พี่จะกลับบ้านช้ากว่าเดิมหน่อยนะ พอดีทางร้านคอมที่พี่ทำงานอยู่มีปัญหานิดหน่อย เฝ้าบ้านด้วย
เดี๋ยวซื้อขนมไปฝาก แค่นี้แหละ บายนะ" พี่ตูนพูดซะเป็นชุดเลย กลัวฉันเสียค่าโทรศัพท์มากรึไงนะ
"จ้า..." เสร็จธุระกับพี่ตูนก็เดินไปหายัยหวานที่เดินไปเลือกรองเท้าอยู่
"เป็นไงหวาน เร็วสิ ถ้าไม่เหมาะจะได้เปลี่ยนใหม่" หวานพิจารณาดู
"ไหนลองหมุนรอบตัวให้ดูหน่อยสิ"
"ได้สิ ฉันน่ะภูมิใจนำเสนอชุดนี้สุดๆเลย"
"..."
"อุ้ย"
"โอ๊ย"
"ตุบๆ" ยังไม่ทันที่จะหมุนตัวแค่กำลังจะหมุนก็ชนกับใครคนหนึ่งเข้า แถมโทรศัพท์ที่พี่ชายซื้อให้เมื่อวันเกิด
ดันหล่นจากมือ จะพังมั้ยเนี่ย
"ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" พูดเสร็จพลางพิจารณาว่าโทรศัพท์ 2 เครื่องที่เหมือนกันเปี๊ยบทั้งสี ทั้งยี่ห้ออันไหน
เป็นของฉันกันแน่เนี่ย ฉันลังเลสักพัก หยิบเครื่องที่ใกล้ตัวมากที่สุด
"ต้องขอโทษคุณเหมือนกันครับ ผมไม่ทันระวัง และไม่คิดว่าจะมีใครมาหมุนแถวนี้" เริ่มบทสนทนาแรกก็กวนซะแล้ว
พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่เหลือ พร้อมเงยหน้ามองคนที่เป็นคู่กรณี
"อ่ะ หน้าของคุณคุ้น ๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน"จะใครล่ะที่ชนกับฉันก็ผู้ชายที่สวมแว่นหนาเตอะคนนั้นแหละ
"อ้อ เคยสิ ก็ที่นี่ไง" ฉันตอบแบบกวน ๆ ผู้ชายเจี๋ยมเจี้ยมอย่างนี้ไม่หน้าขี้หลีเลย
"..."
"จะจีบฉันก็บอกมาเหอะ ตั้งแต่ชนกันแล้วรึเปล่า เนี่ย" พูดแบบมั่นใจในหน้าตาของตัวเองอย่างสูง
"เออ...เปล่าครับสงสัยจะเข้าใจผิดอะไรนิดหน่อย ผมไม่เคยพิศวาสคุณสักนิดก็ว่าได้ และต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลา"
พูดจบก็เดินไปคิดเงินไม่เคยสนใจเลยว่าคนที่สนทนากับเขาเมื่อกี้จะรู้สึกอย่างไร
"หน้าตาเฉย ๆ อย่างนี้ไม่น่าพูดจาตัดความมั่นใจของคนอื่นแบบนี้เลย" ชักจะเสียอารมณ์กับผู้ชายที่จากไปเมื่อครู่นี้
"ใครน่ะ" ยัยหวานถาม
"โรคจิตล่ะมั่ง หาว่าฉันหน้าตาโหล หรือว่าฉันหน้าตาเหมือนดารา" พูดจบยัยหวานก็
"555" ขำแบบไม่กลัวเสียภาพพจน์
"ขำไร หน้าตาฉันออกจะอินเตอร์" พูดจบก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ณ ห้างสรรพสินค้า แห่งหนึ่ง เวลา 12.30 น.
"ออกจากร้านลืมดูนาฬิกา ว่ากี่โมงแล้ว ฉันถึงได้หิวมากมายขนาดนี้" ยัยหวานบ่น
"ไม่ได้ใส่นาฬิกามาเหมือนกันแหละ"
"ดูที่มือถือดิ" หวานออกความคิด
"เออใช่" พูดจบ ปลดล็อคปุ่มกด ก็รู้ทันที่ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ไม่ใช่ของตัวเอง เลยแต่อึ้งไปนาน
"นี่!ยัยจูนให้ดูเวลานะไม่ใช่ให้อึ้ง" หวานเตือนให้เพื่อนรีบดูเวลาเพราะตนหิวข้าวมากแล้ว
"อ๋อ 12.35 แล้ว แต่ฉันจะบอกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้มันไม่ใช่..."
~~จะมีมั้ยสักคนที่ห่วงใยชีวิตฉัน ที่จะรักจริงไม่ทอดทิ้งกัน อยากจะรู้~~
เสียงเครื่องมือสื่อสารขนาดจิ๋วดังขัดจังหวะ
"OoO"
"อ่าว ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะ"
"ฉันจะบอกว่ามัน..."
"เออรับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยพูดต่อ เผื่อมีธุระสำคัญแกจะพลาดเอานะ" หวานพูด ในใจก็อยากรู้ว่าใครโทรมา
"อืม ก็ได้ ฮัลโหล ใครค่ะ" พูดจบปลายสายก็ถามที่อยู่
"คุณอยู่ที่ไหน จำผมได้มั้ย"
"จำใครได้ แล้วคุณเป็นใครกัน จะมาให้ฉันจำ"
"ก็..ผมเป็นคนที่ชนกับคุณ แล้วโทรศัพท์เครื่องที่คุณถืออยู่ก็เป็นของผม" ฉันรู้อยู่แล้วน่ะ ว่าสิ่งที่ฉันถือเนี่ยมันไม่ใช่
ของฉัน
"รอแป็บนะ" พูดเสร็จก็ดูหมายเลขที่โทรเข้า มันเป็นเบอร์ของฉันเอง
"อ้อ คุณเองหรอ ที่ใส่แว่นหนา ๆ ใช่มั้ย" รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครอื่นนอกจากนาย แค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้น
"ใช่ แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหน ทำอะไรอยู่เดี๋ยวผมไปหา" ฟังปลายสายพูดจบก็มองรอบ ๆ ว่าสถานที่ใดที่ตนยืนอยู่
"อ๋อ ฉันกำลังจะไปกินข้าว แต่อยู่หน้า KFC น่ะ"
"ดีจังที่คุณอยู่ที่เดียวกับผม อ่ะ เห็นแล้วรอผมแป็บนึง แค่นี้ก่อนนะเงินคุณจะหมดแล้ว" นายบังอาจมากเลยนะ ที่ใช้
เงินของฉันเกือบหมด มันจะเหลือสักกี่บาทเนี่ย T^T
"โห เล่นคุยเกือบหมดเลยนะ ฉันอุตส่าห์เหลือไว้ เพื่อตื้ด โดยเฉพาะ"
"ขอโทษครับ ในฐานะที่ผมโทรเงินของคุณเกือบหมด ผมจะขอเลี้ยงข้าวพวกคุณเอง โอเค มั้ยครับ"
"โอเคอยู่แล้ว" พูดแบบไม่ต้องคิดอะไร
"แค่นี้นะครับ ผมกำลังจะไปถึงคุณ" ปลายสายพูดจบ ทำให้หญิงสาวต้องหันไปมอง เค้าเดินมาถึงเราสองคนพอดี
"ผมขอแนะนำร้านอาหารให้นะครับ ผมรู้จักดี"
"ตามสบายเลยค่ะ คุณเป็นคนเลี้ยงเราสองคนนี่นา" ยัยหวานมีบทพูดเสียที แถมทำตาลุกวาว ถ้าพูดถึงของฟรี
และตาของยัยหวานต้องโตขึ้นอีกเป็นสองเท่าเมื่อได้เห็นร้าน
"นี่ครับ ต้องร้านนี้เลยผมมาบ่อย"
"โอ้โห...หรูจังเลย" ฉันกับหวานพูดเกือบพร้อมกัน
"นายคงเงินเยอะน่าดู ไม่น่ามาเสียตังเพราะพวกเราเลย" ยัยหวานพูดไปอย่างงั้นเอง มันเองก็อยากกินของฟรีจากเขา
เหมือนกันใช่มั้ยล่ะ
"ไม่ได้หรอกครับ ผมใช้เงินคุณ...เอ่อคุณชื่ออะไรครับ" ชายหนุ่มในกลุ่มหันมองหน้าหญิงสาวที่ชื่อจูน เพื่อถามชื่อ
ของเธอ
"ฉันชื่อจูน"
"ส่วนฉันชื่อหวานค่ะ แล้วคุณล่ะชื่ออะไรค่ะ" รู้สึกว่ายัยหวานจะไม่ค่อยอยากรู้จักชื่อนายคนนี้สักเท่าไหร่
"ผมชื่อบอยครับ มาที่นี่บ่อยเลยเป็นกันเองกับที่นี่ เพราะเค้าชอบให้ส่วนลดกับผมบ่อย ๆ
(ประโยคหลังพูดแบบกระซิบ)" พูดจบก็หันไปขยิบตาให้บริกร บริกรได้แต่ยิ้ม
"สั่งอะไรดีครับ" บริกรคนเดิมถามพลางยื่นเมนูให้ทั้งสาม
"มีเมนูอะไรจะแนะนำพวกเราสองคนมั้ยคะ แบบว่าเลือกไม่ถูกเลยอ่ะ"
"อ๋อ ร้านเราเมนูนี้ขึ้นชื่อครับ" พลางเปิดไปหน้าแรก ๆ ซึ่งเป็นเมนูแนะนำให้หวานดู
"อืมก็น่ากินเหมือนกัน งั้นเอาแบบนี้ สองที่ค่ะ แล้วขอไอศกรีมสองที่ด้วย ขอบคุณค่ะ"
"ครับ แล้วคุณบอยจะสั่งแบบเดิมรึเปล่าครับ" บริกรถามอย่างรู้ใจชายหนุ่ม
"ขอผมเหมือนเดิมและขอไอศกรีมช็อกโกแลตด้วย ขอบคุณครับ"
"ครับ" บริกรพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป
หลังจากที่รับประทานกันเสร็จเรียบร้อย ต่างคนต่างแลกโทรศัพท์ที่สับเปลี่ยนจากเหตุการณ์ตอนนั้นให้กลับมาอยู่กับ
เจ้าของที่แท้จริง
ณ บ้านของจูน
"เมื่อไหร่พี่ตูนจะมาสักทีนะ สี่ทุ่มแล้วนะ" ปากพูด แต่มือไม่ได้อยู่เฉย กลับกดช่องของโทรทัศน์ให้ตรงกับรายการ
ที่รอคอยนั่นก็คือ อาหารจานเด็ดเชปมือทองนั่นเอง
"อีกครึ่งชั่วโมงนะ พี่ตูนเมื่อไหร่จะมา โทรไปหาดีกว่า ถึงไหนแล้วก็ไม่รู้" พูดจบก็กดไปหมายเลขปลายทางทันที
"ฮัลโหล พี่ตูนถึงไหนแล้ว"
"อยู่ ที่ 7-eleven แล้ว กำลังเลือกขนมไปฝากแกอยู่ อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"
"อืมขอพิซซ่า หนึ่งถาด แล้วก็ สปาเก็ตตี้ หนึ่งกล่อง แค่นี้แหล่ะ รีบกลับมานะ จะสี่ทุ่มครึ่งแล้ว"
"อืม พี่จะรีบไปทันที"
"ไม่ต้องรีบมากล่ะ ขับรถระวังด้วยนะ บาย" ยังไม่วายเป็นห่วงพี่ชาย
"อืม บาย"
15 นาที ต่อมา
'ปรื้น ๆ'
"แป็บนะ เดี๋ยวเปิดประตูให้"
"มาแล้ว ๆ แค่นี้ต้องโทรตาม อ่ะของที่ต้องการ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"
"อีก 10 นาทีนะ เดียวมาดูพร้อมกัน เดี๋ยวจูนไปอุ่นของกินก่อน"
15 นาทีพอดีเป๊ะ
"มาแล้วจะทันมั้ยเนี่ย รายการที่พี่คอยน่ะมารึยัง" ถามจูนที่ตอนนี้กำลังกินสปาเก็ตตี้ด้วยความอร่อย
"กำลังเล่นแต่ยังไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญ อ่ะอีกนิดนึง อ่ะถึงแล้ว เร็ว ๆ เข้าพี่ตูนมานั่งตรงนี้"
ขนาดพูดยังไม่วายละมือจากของกิน
'ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยกันแล้วนะครับ วันนี้เราจะบอกกติกาให้ผู้โชคดีทางบ้านทราบนะครับ ไปดูกติกากัน'
~~กติกา~~
เราจะให้เชปและผู้โชคดีที่เชปเป็นคนเลือก หาสถานที่ฝึกซ้อมฝีมือของผู้โชคดี จากผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์ให้มีพรแสวงให้
ได้ ภายใน 2 อาทิตย์ ทางเราจะตั้งโจทย์ให้ผู้โชคดีแต่ละท่านโชว์ฝีมือ ให้ถูกใจคณะกรรมการ หากท่านเป็นผู้ที่มีฝีมือ
โดนใจกรรมการของเราที่สุด รับไปเลยเงินรางวัล 15,000 บาท ที่สำคัญอาหารต้องมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง
แปลกใหม่ รสชาติอร่อย ถึงจะมีสิทธิ์ลุ้นเงินรางวัลของเรา
'ครับ จากกติกาที่ท่านผู้ชมทราบคงจะไม่ยากเกินความสามารถของพวกท่านนะครับ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้โชคดี
และบรรดาเชปทุกท่าน ให้ผ่านลุ้นรับเงินรางวัลทุกคนนะครับ สำหรับวันนี้หมดเวลาแล้วลาไปก่อน สวัสดีครับ'
"อ่ะ! ก็เริ่มพรุ่งนี้แล้วสินะ แถมได้ลุ้นรางวัลตั้ง 15,000 บาทแน่ะ มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าชนะฉันจะให้แกเลี้ยงค่าไป
เที่ยวเพื่อฉลองกัน...ดีมั้ย" พี่ตูนดีใจยกใหญ่ เอ่ยถามความเห็นของน้องสาว
"แหม ทำอย่างกับฉันจะชนะอย่างไงอย่างนั้น ฉันไม่มีความสามารถสักอย่าง อีกอย่างฉันจะทำได้รึเปล่าไม่รู้"
"อืม มันก็จริงอยู่ แต่แกต้องมั่นใจในตัวเองสิ ถึงแกจะไม่เอาไหนก็ตาม ไม่เป็นไรทำให้เต็มที่ก็พอ" พี่ชายให้กำลังใจ
น้องสาว
"ตกลงจะให้กำลังใจ หรือจะว่าที่ฉันไม่ได้เรื่องกันแน่เนี่ย"
"ก็ให้กำลังใจสิ ใครจะกล้าว่าน้องสาวสุดที่รักของพี่ได้ลงคอ"ประจบกันเห็น ๆ >.<
"เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน ฉันจะทำให้สุด ๆ ไปเลย...สู้เว้ย!!"
เวลา 6.00 น. ที่บ้านของฉัน
~~ใครกันที่ทำให้ฉันรัก ใครกันที่มาอยู่ในความฝัน คนที่ฉันคิดถึงอยู่ทุกวัน ก็ใครคนนั้นฉันเรียกว่าเธอ~~
ควานหาเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋วที่ส่งเสียงแจ๋วแต่เช้า กรอกเสียงด้วยอาการงัวเงีย
"สวัสดีค่ะ "
"สวัสดีครับ ขอโทษที่รบกวนการนอนของคุณ"
"คุณเป็นใครอ่ะ เบอร์ไม่คุ้นเลย มีอะไรรึเปล่า โทรมาแต่เช้าเชียว"
"ผมเชปบอย เชปคู่หูของคุณไง จะถามคุณว่าวันนี้ว่างมั้ย จะชวนคุณออกไปฝึกพรแสวงหน่อยน่ะ"
"อืม...แปปนะ (พูดเสียงยานคาง) ว่างสิคุณคือเชปบอยหรอ ฉันหูไม่ฝาดใช่มั้ย เชปบอยจริงๆหรอคะ" พูดแบบตื่นเต้น
อย่างกับเค้าจะชวนออกเดทแน่ะ =(^O^)=
"ครับ ผมเอง ว่างรึเปล่าล่ะ"
"ต้องว่างสิ เชปเป็นโค้ชฉันนิ ที่ไหน กี่โมงค่ะ" หายงัวเงียในบัดดล
"อืม ที่ร้านอาหารที่ผมเคยพาคุณไปเลี้ยงข้าว ดีมั้ยครับ ตอน 8.00 ได้มั้ยครับ"
"ร้านที่เคยพาฉันไปเลี้ยงข้าว คุณเคยพาไปตอนไหน เอ้...จะมีก็แต่คนที่ชื่อบอยเหมือนกัน เค้าใส่แว่นหนา ๆ แต่คุณไม่
ได้ใส่ คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอมั่ง ใช่มั้ยคะ"
"เดี๋ยวคุณก็รู้ รีบมาล่ะ แต่อย่าให้เพื่อนคุณรู้ล่ะ เป็นความลับของทางรายการ"
"ได้ค่ะ ด้วยเกียรติของเนตรนารี ว่าคน ๆ นี้จะไม่บอกยัยหวานเป็นอันขาด หวานคงไม่น้อยใจหรอก ถ้าฉันจะเก็บเรื่องนี้
เป็นความลับ"
"งั้น แค่นี้นะครับ เชิญหลับต่อให้สบาย บายนะครับ"
"บาย ค่ะ" พูดจบก็หลับต่อทันที ไม่ได้ว่านอนสอนง่ายอย่างที่นายนั่นสั่งให้ทำหรอกนะ แต่ฉันขัดขวางความง่วง
ในตอนนี้ไม่ได้ต่างหาก แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะว่าลืมตั้งนาฬิกาปลุก ให้ปลุก 7.30 แล้วก็ปฏิบัติภารกิจที่ตั้งใจไว้ต่อ
...นอน...
เวลา 7.40 น.
"ใส่ตัวไหนดีนะ ตัวนี้ก็ดี ตัวนี้ก็เหมาะ เลือกไม่ถูกเลยแหะ อะเจอแล้วใส่ตัวนี้ไปก่อนแล้วกัน" จะตัวไหนอีกล่ะก็ตัวที่ฉัน
ซื้อกับยัยหวานน่ะสิ ได้เวลาออกโรงแล้ว
ณ ร้านอาหาร
เชปบอยมาอยู่ก่อนนานแล้ว ซึ่งมีใครมารุมล้อมหน้าล้อมหลังมากมายซึ่งก็มีแต่สาว ๆ ทั้งนั้น 'กรี้ด กร้าด' นึกว่าเจอ
นักร้องมากินเกาเหลา เอ้ย นักร้องเกาหลีหลงมาซะอีก เชปบอยขอตัวออกมาจากกลุ่มสาว ๆ ยกข้อมือเพื่อดูเวลา
เลยรู้ว่า 8.35 แล้ว จึงรู้ว่าตนเองเลยเวลานัดมา 5 นาทีแล้ว พอเงยหน้าก็เจอคนที่ตนเองรอ มายืนอยู่ตรงหน้า
พร้อมหายใจอย่างคนที่เพิ่งเสร็จจากการออกกำลังกายมา หมาด ๆ
"คุ...(หยุดหายใจ) คุณบอยไม่ทราบว่า คุณบอยเห็นเชปบอย...(หยุดหายใจ) แถวนี้บ้างมั้ยค่ะ"
"ค่อย ๆ พูดก็ได้ครับ เดี๋ยวหายใจไม่ทัน แต่บังเอิญจังเลยนะครับที่เราเจอกันที่นี่ ไม่ทราบว่าคุณจูนมาทานอาหารกับ
เชปบอยหรือครับ"
"เปล่าหรอกค่ะ พอดีเค้าให้ฉันมาฝึกทำอาหารที่นี่น่ะค่ะ"
"อันที่จริงผมก็รู้จักและก็เห็นว่าเชปบอยอยู่ที่ไหน ส่วนคุณก็เห็นเค้าแล้วด้วย"
"ไหนคะ (พร้อมหันซ้ายหันขวา)"
"ก็...อยู่นี่ไงครับ (พร้อมถอดแว่นตาหนาเตอะออก) surprise!"
"...(อึ้ง) อย่าบอกนะที่เลี้ยงพวกเราตอนนั้นก็เพราะคุณเป็นเชปของที่นี่ใช่รึเปล่าค่ะ คุณทำไมไม่บอกกันมั่ง "
"โอ๋ ๆ อย่างอนเลยนะลูกศิษย์ตัวน้อย ๆ ของอาจารย์"
"ฉันจะได้สั่งไม่ยั้ง จะสั่งให้กระเป๋าฉีกเลย และอีกอย่างมันเป็นสิทธิของคุณอยู่แล้วว่าจะบอกหรือเปล่า ฉันน่าจะรู้
ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ว่าทำไมสาว ๆ ถึงมองคุณตาเป็นมัน >.< "
"อุตส่าห์ใส่แว่นหนา ๆ แล้วนะ สาว ๆ ยังจำได้อีกแหะ อย่างนี้เค้าเรียกว่ารักกันจริง อีกอย่างคนมันหล่อนี่น่า"
"แหวะ หล่อตายละ -*-"
"คุณหึงผม...(หน้าฉันแดง =*o*=) คุณชอบผมใช่ป่ะ ถึงว่าชอบแอบมองผมบ่อย ๆ คนอะไรเกิดมาเพื่อเป็นที่ดึงดูด
สาว ๆ จริง ๆ ลำบากใจจัง ^o^ "
"บ้ารึเปล่า... ใครจะไปชอบคนอย่างนาย (เริ่มเปลี่ยนคำสรรพนาม) ฉันว่าแล้วนายต้องเป็นพวกขี้เก๊ก หลีสาว เจ้าชู้
ตั้งแต่แรกที่เราพบกันแล้ว ใช่มั้ย"
"เอาล่ะ ดูเหมือนว่าผมจะเป็นฝ่ายผิด ที่ผมหล่อเกินไป ผมจะไถ่โทษโดยการทำอาหารที่คุณอยากทานมา
1 อย่างก่อน ค่อยลงมือฝึกทำอาหารกัน ตกลงป่ะ"
"...(ทำหน้าครุ่นคิด *.*) อืม...ตกลงก็ได้"
"จะกินอะไรล่ะ ผมมีฝีมือเป็นเลิศ แถมพกเสน่ห์เป็นลิตรอีกด้วย ไม่ทราบว่าพร้อมที่จะรับหัวใจของผมมาทานเล่น
รึยังครับ"
"อย่าบอกนะ... ว่าที่นายพูดเมื่อกี้ นายจะจีบฉันใช่มั้ย"
"ก็ทำนองนั้นแหละ แล้วเธอว่าไง ถ้าฉันจะขอเธอเป็นแฟน"
"หา! ว่าไงนะทำไมนายถึง" พูดได้แค่นั้นอีกฝ่ายก็รู้ทันที่ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาตอบ
"ก็เพราะว่าเธอเตะปลายคาง เอ้ย เตะตาของฉัน"
"ตั้งแต่ตอนไหน ที่นายคิดว่าฉันเตะตา"
"ก็ตั้งแต่เห็นรูป เห็นวีรกรรมเธอในชีวประวัติ และจากประสบการณ์โดยตรงของฉัน ในวันที่เราแลกโทรศัพท์กัน
เธอมี อะไรที่เหมือนฉัน เธอน่าสนใจ และเหตุผลสุดท้าย...เธอน่ารักฉันก็เลย...รักเธอ ( เขิน=*-*= )" บิดไปบิดมา
ตกลงมันเป็นผู้ชายรึเปล่าเนี่ย -*-
"โธ่เอ้ย บอกแต่ทีแรกว่าชอบฉัน ก็หมดเรื่อง เฮ้อ...คนมันสวยช่วยไม่ได้ (หลงตัวเองฉิบ) งั้นเสริฟเมนู
ของคนที่ปิ๊งกันใหม่ ๆเค้าชอบกินกัน มา 1 ที่ เพราะนายกับฉันต้องกินด้วยกัน ส่วนฝึกทำอาหารน่ะ เรามีเวลาเหลือเฟือ
อยู่แล้วว่ามั้ย...
(หันไปถามอีกฝ่ายแต่ก็พบความว่างเปล่า) อ้าวแล้วจะทำถูกใจมั้ยเนี่ย นายเชปคนนี้บอกให้ทำอะไรไม่เคยฟังให้จบ
เลยจริง ๆ แฮะ"
~ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เริ่มภารกิจกับการแสวงหาพรสวรรค์จากการมีพรแสวงก็ตาม แต่ฉันก็ได้เชปตัวเป็น ๆ มาทำ
อาหาร ให้พี่ตูนแล้วนะ อย่าลืมสัญญาที่ให้กับฉันล่ะ ส่วนฉันก็จะเก็บเกี่ยวความรู้เรื่องทำอาหาร และเรื่องหัวใจกับนาย
คนนี้ให้สำเร็จคอยดูสิ !!~
จบแล้วค่ะ...อย่าลืมแสดงความเห็นน้า...
ผลงานอื่นๆ ของ เกร็ดน้ำ...ละอองดาว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เกร็ดน้ำ...ละอองดาว
ความคิดเห็น