ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Love not bad] ฝากร้ายคืนรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : เอารัก (เก่า) ไปลอยทะเล [3] ตัด NC

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.82K
      116
      16 ก.พ. 63

    “นี่!”

    ฉันกำลังจะถามว่าเขามีอะไรกับฉันหรือเปล่าแต่โซ่ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาไม่ปล่อยให้ฉันพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น รีบดึงฉันไปประกบปากจูบอย่างดูดดื่มด้วยตัวที่สั่นเทา ฉันที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงกับเซไปข้างหลัง แต่ก็ถูกแขนล่ำของโซ่รัดเอวคอดเอาไว้แน่นจนหน้าอกของฉันแนบชิดกับหน้าอกกำยำแน่นๆ ของโซ่แทบไม่มีช่องเว้นว่าง

    มือของฉันทั้งทุบและดันหน้าอกของโซ่เอาไว้เพื่อไม่ให้เขาได้จู่โจมฉันไปมากกว่านี้

    ฉันจำได้ว่าเขามีแฟนแล้วนี่ แฟนเขาชื่อคุกกี้ เธอยังมาขอกุ้งจากฉันเมื่อตอนหัวค่ำอยู่เลย

    ไม่นะฉันจะไม่ทำอะไรแบบนี้ ฉันเคยถูกหักหลังมาแล้ว ฉันจะไม่หักหลังคนอื่นเด็ดขาด!

    ฉันดิ้นขลุกในอ้อมกอดของโซ่แรงขึ้นเมื่อเริ่มมีสติ เขาผลักฉันนอนลงที่เบาะม้านั่งยาวซึ่งฉันนั่งก่อนหน้า เมื่อฉันทำท่าจะลุกหนีและขัดขืนเขาก็กางมือฉันออกจนติดเบาะใหญ่

    “นี่นายอย่ามาทำอะไรบ้าๆ ตรงนี้นะ”

    ตรงที่ฉันอยู่กับโซ่ห่างจากตัวบ้านนิดเดียว ไม่รู้ว่าเขาคิดบ้าอะไรถึงได้หื่นกามเวลานี้ แถมยังที่โล่งแจ้งอีกต่างหาก

    “อยากทำตรงไหน”

    “จะบ้าเหรอ!?ฉันไม่อยากทำ ปล่อยนะ!! ก่อนที่ฉันจะตะโกนเรียกคนในบ้านให้ออกมาช่วย”

    โซ่แค่รอให้ฉันพูดจบประโยคแค่นั้น เขาไม่สนใจในความหมายที่ฉันพูดด้วยซ้ำ ริมฝีปากร้อนชื้นของโซ่บดขยี้ที่ปากฉันอย่างไม่ปราณี มือฉันถูกล็อกเอาไว้ด้วยมือหนาของเขาและร่างกายที่ถูกกดไว้ทำให้ฉันดิ้นไปไหนไม่ได้

    จูบที่ร้อนแรงและเนิ่นนานนั้นทำให้ฉันอ่อนยวบลงทันที ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็รู้สึกขยะแขยงและขนลุกไปทั้งตัว พร้อมขัดขืนทุกครั้งที่ถูกจู่โจม

    กลิ่นกายโซ่ทำไมมันเย้ายวนนักนะ ไม่มีแม้แต่กลิ่นเหม็นของบุหรี่เลยสักนิด ตรงกันข้ามกับหอมหวานเย็นๆ แปลกๆ

    ในความมืดฉันเห็นแววตายะเยือกที่หยาดเยิ้มจากคนที่ดูเย็นชาและหน้าเรียบขรึมจ้องมองฉันอย่างไม่ลดสายตาจนเป็นฉันเองที่หลับตาเพื่อหลบสายตาคู่นั้น ดูเหมือนฉันจะยอมจำนนท์กับโซ่ไปเสียดื้อๆ เหมือนคนใจง่ายไปเสียแล้ว เมื่อรู้สึกว่าการจูบกับเขามันก็ไม่ได้แย่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็ขัดขืนดิ้นเหมือนปลาติดบ่วงจะเป็นจะตาย

    อาจจะเพราะจูบที่ดูดดื่ม หน้าหล่อๆ กลิ่นน้ำหอมที่หวานๆ ด้วยมั้งที่ทำให้เคลิ้มได้ขนาดนี้

    น่าแปลกที่ผู้ชายเขาใช้น้ำหอมกลิ่นวานิลลาแต่ก็ช่างเถอะ! ฉันเองก็เหนื่อยจากการว่ายน้ำมาก่อนหน้าด้วยแหละ ทำให้ไม่มีแรงต่อต้านกับอารมณ์ร้อนแรงของโซ่ที่ปะทะใส่ในตอนนี้และถูกส่งมอบมายังร่างกายฉันจนฉันก็กลายเป็นฝ่ายที่ยินยอมไปเองโดยสัญชาตญาณ

    บ้าจริงฉันกำลังเคลิ้มกับอะไรอยู่เนี่ย!?ให้ตายเถอะยัยข้าวปุ้น

    "นายแน่ใจเหรอว่าจะมีอะไรกับฉันตรงนี้"

    ฉันถามย้ำอีกครั้งเพื่อหวังให้เขาเปลี่ยนใจ พอเขาไม่ตอบ ฉันเลยปล่อยให้เขาทำเต็มที่ไปเลย

    ด้วยความที่ฉันอยากประชดชีวิตตัวเองแบบความคิดโง่ๆ ของคนไม่มีสมอง เจอผู้ชายคนไหนในเวลาใจเปลี่ยวก็ยินดีปล่อยกายให้เขาเชยชมอย่างง่ายๆ ทั้งที่เมื่อก่อนฉันเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว คงเพราะคิดว่าซื่อสัตย์ไปก็มีไม่มีประโยชน์เลยทำให้จิตที่ต่ำตมนั้นสูงกว่าเหตุผลที่เคยมีทั้งหมดจนถึงขั้นยอมมีอะไรกับใครก็ได้ในอารมณ์ชั่ววูบ

    "งั้นไปหลังรถ"

    "ฮ๊ะ!"

    คำพูดของโซ่ที่เปิดปากพูดขึ้นหลังจากเงียบมานานทำให้ฉันตกใจจนเผลอเสียงดังออกมา เขาไม่ได้พูดเปล่าแต่จับต้นแขนฉันให้ลุกขึ้นยืน ฉันรีบดึงเสื้อว่ายน้ำลงมาปิดหน้าอกตัวเอง และพยายามสะบัดแขนออกจากการจับกุมของโซ่แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย

    พอฉันทำท่าจะตะโกนเรียกปุยฝ้ายและมาร์ค เขาก็เอามือมาปิดปากฉันเอาไว้ทำท่าจะลากฉันไปยังที่รถกระบะจอดอยู่

    บ้าจริง! นี่ฉันเหมือนกำลังจะโดนพาไปข่มขืนหรือเปล่าวะเนี่ย งงไปหมดแล้ว แต่ฉันก็เหมือนจะยอมทำเรื่องโง่ๆ นี่

    บังเอิญว่ามีเพื่อนคนหนึ่งเดินออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกบ้าน โซ่จึงจับต้นแขนฉันเลี่ยงเดินไปยังเบาะริมทะเลที่พวกเพื่อนๆ แก๊งผู้ชายนั่งฟังเพลงช่วงบ่ายแทน เขาจับฉันไปจูบแทบจะทันทีที่พ้นหลังต้นไม้โดยไม่ให้ฉันได้มีโอกาสปริปากพูดอะไรออกมาเลยสักนิด

    "อื้อ...ไอ้อ้า อ่อย!"

    "อยากร้องเสียงดังให้คนอื่นเห็นหรือไง" โซ่พูดเหมือนว่าเรากำลังจะแอบเอากันและมีความผิดอยู่แบบนั้นแหละ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนลากฉันและเปิดเกมก่อนไม่ใช่เหรอ

    "แต่นายเป็นคนเริ่มนะ"

    "ใครใช้ให้มาอ่อย"

    "อ่อยบ้าอะไรฮ๊ะ นายไม่ใช่เห..."

    ฉันจะบอกว่า นายไม่ใช่เหรอที่เป็นคนลากฉันมาจูบน่ะ แต่พูดไม่ทันจบประโยคโซ่ก็จับฉันกดลงที่เบาะริมชายหาดและคร่อมทับตัวฉันไว้ แรงผู้ชายขนาดนี้คนอย่างฉันที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กกว่าจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ได้ละเนี่ย

    โซ่โน้มตัวลงมาจูบฉันอย่างบ้าคลั่ง มือไม้ก็ไม่อยู่สุข ลูบไล้สัมผัสร่างกายฉันไปมาแทบทุกสัดส่วน

    นี่เขากะขอหวยฉันหรือไงฮ๊ะถึงได้ลูบไล้ขนาดนี้ เจ้ไม่ให้หวยใครง่ายๆ หรอกนะเว้ย ซื้อเองยังโดนแดก ยิ่งบอกเลขคนอื่นก็ยิ่งเคลื่อน

    “ไอ้บ้า! ปล่อยนะ ถ้าไม่ปล่อย ฉันจะตะโกนเรียกเพื่อนจริงๆ ด้วย”

    ฉันพูดพร้อมกับเตะขาไปมากลางอากาศซึ่งก็เตะได้เพียงน้อยนิดมากๆ เพราะร่างของโซ่ทับกดไว้อยู่ กำมือเป็นกำปั้นทุบที่อกเขาเท่าที่จะทำได้ทั้งๆ ที่ข้อศอกก็พับติดหน้าอกโซ่ ดูเหมือนว่าโซ่จะไม่ไหวติงกับฉันเลยสักนิด แถมยังทำหน้านิ่งๆ เย็นชาใส่ฉันพร้อมกับประกบปากจูบฉันเสียดื้อๆ

    “อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวดีเอง” โซ่พูดสั้นๆ เมื่อถอนริมฝีปากออกจากปากฉัน

    เขาหอบหายใจอุ่นๆ แต่ก็แอบมีกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งนิดๆ รดที่ข้างพวงแก้มราวกับหอมแก้มฉันอยู่เบาๆ ฉันจึงย่นคอหดหนีเพราะรู้สึกจั๊กจี้ ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับเลือกที่จะนิ่งตามที่โซ่บอกแทน

    จิตสำนึกที่ดีนั้นหายไปหมดแล้ว ลืมไปเสียสนิทว่าโซ่พาแฟนมาด้วยและเธอเองก็อยู่ในบ้าน ตอนนี้ฉันกลับกลายเป็นคนที่ฉันเกลียดต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก เผลอตัวไปมีอะไรกับผู้ชายที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างสมยอม ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขามีเจ้าของ

    แล้วใครบังคับล่ะ?ทำตัวเองทั้งนั้นเลย รู้สึกแย่นะ แต่ก็ยอมให้อารมณ์เหนือเหตุผลทุกอย่าง

    ถือว่าฉันยินยอมอย่างคนใจง่ายก็แล้วกันนะ

    ในขณะที่โซ่สวมใส่กางเกงแล้วก็สวมเสื้อติดกระดุมอยู่นั้น ฉันจึงเอ่ยถามเขาไปอย่างอดสงสัยไม่ได้

    “ทำแบบนี้เพื่ออะไร?”

    “เธออ่อย!”

    “ฉันเนี่ยนะอ่อย ตอนไหนไม่ทราบ” ฉันถามพร้อมกับใส่เสื้อและกางเกงว่ายน้ำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

    เราสองคนนี่ก็บ้าบอกันทั้งคู่เลยแฮะ บทจะทำก็ทำไม่อายผีสาง บทจะพูดก็พูดห่างเหินกันเหลือเกิน

    “คิดว่าตอนไหน?”

    “ฉันถามนายอยู่ ไม่ใช่ให้นายมาถามฉัน”

    “หึ! ไปนะ” โซ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว จากนั้นก็หันหลังและยกมือโบกขึ้น อีกข้างล้วงไปที่กางเกงสีดำตัวเดิมที่ฉันเจอตอนช่วงเย็นๆ หรือบ่ายๆ นี่แหละ จำไม่ได้

    “เดี๋ยว!”

    ฉันเดินไปจับข้อแขนโซ่เพื่อรั้งเอาไว้ก่อนจะไปยืนประชันหน้าร่างสูง “ทำไมไม่ทำกับแฟน มาทำกับฉันทำไม แล้วนี่ปล่อยในด้วย...แล้วฉันเออ... ท้องมาทำไง” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก่อนหลังจึงยิงคำถามที่อยู่ในหัวปล่อยออกไปอย่างสับสนไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดแต่ก็พ่นออกไปแล้ว

    “กินยาคุมสิ พอดีตอนนั้นเอาออกไม่ทัน”

    “อะไรนะ?เอาออกไม่ทัน พูดง่ายเนอะ เห็นแก่ตัวชะมัด"

    "ตอนนั้นก็ดูเคลิ้มดีนี่" โซ่ยิ้มเยาะ

    "นายเห็นผู้หญิงเป็นที่ระบายอารมณ์หรือไง ถึงได้ลากฉันให้ทำร้ายผู้หญิงถึงสองคนในเวลาพร้อมกันไปกับนายไม่พอ ยังไร้จิตสำนึกปล่อยในอีก ไม่สิต้องบอกว่าเพราะไร้จิตสำนึกถึงทำอะไรแบบนี้”

    “ใครใช้ให้เธอมาว่ายน้ำและแต่งตัวไม่มิดชิดในเวลากลางคืนแบบนี้ฮ๊ะ ไม่รู้หรือไงว่าทริปนี้มีผู้ชายมาด้วย”

    คนตัวสูงที่มีสายตาเย็นชาจ้องฉันเขม็งเหมือนจะไม่พอใจที่ฉันพูดแทงใจดำ เขาจึงพ่นไฟและทำเสียงดูถูกฉันบ้าง จนฉันเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายหันหลังให้โดยไม่คิดจะเถียงกลับและวิ่งเข้าบ้านไปก่อน

    อะไรกันจู่ๆ ก็มาด่าฉันเฉยเลย ทั้งๆ เขาเป็นคนผิด จริงอยู่ที่ฉันผิดเพราะเคลิ้มและควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็ผิดด้วยไม่ใช่เหรอที่จู่ๆ ก็ลากฉันไปจูบจนปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรเกินเลยไปแบบนี้

    เจ็บร่างกายไม่เท่าเจ็บใจหรอกนะ!

    ความจริงไม่ใช่โซ่หรอกที่ทำร้ายผู้หญิงน่ารักแบบแฟนเขาเพียงคนเดียว ฉันเองก็ทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเหมือนกัน

    ชีวิตช่วงนี้เป็นอะไรวะเนี่ย แฟนทิ้งไม่พอ ยังโดนพรากความบริสุทธิ์ไปด้วยความยินยอมของฉันอีก แถมอีผู้ชายบ้านั่นก็ปากร้ายฉิบหาย กลับไปถึงกรุงเทพเมื่อไหร่เห็นทีว่าฉันต้องเข้าวัดทำบุญสักร้อยวัดพันวัดเสียแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×