ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องหลายเรื่องรวมกัน^__^

    ลำดับตอนที่ #1 : Fic Reborn: The Dark Vongola[new ep.]-->Nikki

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 51


    แต่งโดย: Nikki(nikki_nikko)

    ตรวจโดย:xxลงชื่อเลยจ้าxx

    ตรวจอีกทีโดย:xxxลงชื่อเลยจ้าxx

    ---##เนื่องจากรีบอร์นส่วนมากมีCharacterเป็นผู้ชายและโกะอยากให้มันออกมาเป็นRomance and Adventure เลยขอเพิ่มตัวผู้หญิงหน่อยแล้วกัน-.,-ขออภัยในความน่ารำคาญอย่างยิ่งและขอบคุณ---##

     

    Xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

     

    เลือด

    มันเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็น….

    บัดซบ….

     

     

    สายตาของผมยังพร่าอยู่และหัวของผมเจ็บจนแท้บจะระเบิด

    แต่ผมก็ยังคงฝืนหันไปมองรอบๆกาย

    ขณะที่ตาของผมกำลังปรับให้ชินชา ผมสามารถเห็นรถเก๋งสีแดงที่กำลังทับผมอยู่

    พ่อและแม่ของผมกลับหายตัวไป

    ไม่ไม่ใช้

    ภาพที่ผมเห็นมือของพ่ออยู่ใกล้แค่เอื้อม

    ผมค่อยๆเอือมมือของตัวเองเข้าไปจับ

    …..ไม่จริงใช่มั้ย……

    เฮ้ย ไอหนู=__=ยังอยู่รอดอีกหรอเนี้ย…”

    ดูเหมือนแก๊งยากูซ่าจะมาเหยียบมือผมไว้ เพราะจากน้ำเสียงแล้วน่าจะใช้

    ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ตอนนี้ผมสามารถเห็นอะไรเป็นปกติแล้ว

    ใช้แล้วผู้ชายคนนี้เป็นยากูซ่าแน่นอน

    อะไรว่ะ??-o-^จ้องหน้ายังงี้หาเรื่องรึไงฟร่ะ??!!ทุกคน!!อัดมันเลย!!=__=”

    เดียวสิ=_=ลุงจะทำอะไรนะ??”

    ทุกคนที่ดูเหมือนจะพุ้งมาหาผม หยุดชะงักลงทันที

    ไม่น่าเชื่อว่าเสียงห้าวๆของเด็กคนนั่นจะหยุดแก๊งอันธพาลทั้งแก๊งได้อย่างกะทันหัน..

    มาแล้วหรอ??หึๆๆมาตายชัดๆน่ะไอหนู…”

    ลุงหน้าเหยียมคนนั่นปล่อยมือของผมแล้วจึงค่อยๆเดินไปหาเด็กคนนั่นแทน

    ลุงนี้ไม่ได้เรื่องเลยจิงๆ=__=นอกจากจะไม่ยอมรับว่าแก่แล้วยังพูดอะไรผิดๆอีก=_=รุย เรย์ อัดมันเลย!!”

    รับทราบครับหัวหน้า!!”

    สิ้นเสียงตอบรับอันพร่อมเพรียง เสียงคนอัดกันก็ดังขึ้นมาทันที

    ผมอยากหลุกขึ้นอยากหนีไปจากที่นี้เสียจริงๆ

    เอาฮึบ!!”

    O_O!!

    เหมือนความคิดของผมกลายเป็นจริง

    ตัวของผมถูกยกขึ้นมาภายใต้อ้อมแขนของเด็กอายุพอๆกับผม เค้าวิ่งเร็วมากจนผมรู้สึกว่าผมปลิวไปเลยทีเดียว

    ไม่นานเราก็มาห่างจากที่เกิดเหตุลิบตาเลยทีเดียว

    เด็กคนนั่นวางผมลง และผมก็ต้องหันไปมองหน้าเค้าเป็นครั้งแรก

    ผมสรอยถึงต้นคอสีเงินของเค้าดูนุ่มนวลเสียจริง ดวงหน้าขาวซีดไร้สีเลือดและริมฝีปากชมพูอ่อนๆ คางคม และที่สดุดตาที่สุดคงเป็นดวงตาสีฟ้าใส่นั่น

    นายแฮกๆๆ ทำไมไม่ แฮกๆๆ โอ๊ยเหนื่อยชะมัดวิ่งเอง=__=”

    ผมสะดุ้งทันที เมื่อดวงตาที่ผมกำลังชื่นชมอยู่นั่นหันมาจ้องผมเขม็ง

    “…..ไม่ได้…”

    พูดเร็วๆเซ่!!=[]=”

    เฮือกO_O

    เหมือนถูกแช่แข็งทั้งเป็น ผมได้แต่จ้องมองเค้าอย่างหวาดกลัว

    เหมือนเค้าจะรู้สึกตัวแล้ว เด็กชายข้างหน้าหายใจเข้าออกลึกๆสองสามทีแล้วก็หันมามองผมอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าของเค้านิ่งกว่าเคยหลายเท้า

    ผมรู้สึกได้ถึงน้ำเหลวๆที่ค่อยๆไหลอาบแก้มของตัวเอง เค้ายื้นผ้าเช็ดหน้าวีเหลืองออกมาให้ผม

    เช็ดน้ำตาสะ-_-…ลูกผู้ชายไม่ร้องไห้หรอกน่ะ

    ผมรีบเช็ดน้ำตาหลวกๆทันที แล้วจึงหันไปมองหน้าเด็กชายคนนั่นอีกครั้ง..

    แต่ผมกลับไม่เห็นเค้าอีกแล้ว

    ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ยังคงยืนอยู่ข้างหน้าผมเหมือนเดิม

    ทางเหลียวบนเนินเขายังคงอยู่ข้างหลังผมเหมือนเดิม

    แต่ชีวิตของผมตอนนี้ไม่มีวันกลับเป็นเหมือนเดิม..

     

    …Black Clouds Falling….

     

    …Black Clouds Falling….

     

    ผมไม่มีที่จะไป

    ครอบครัวของผมมาที่นามิโมริในวันหยุด

    วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ทีนี้

    ผมล้มตัวลงนั่งริมถนน สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างจากขอทานเลยสักนิด

    ผมไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้นานขนาดไหน แต่ตอนนี้ก็กำลังจะตกค่ำแล้ว

    โคร้กๆๆๆ

    เสียงท้องผมร้องดังมากจนผมแท้บไม่อยากเชื่อเลยว่ามันคือท้องผม

    ผมตอนนี้ ไม่มีเงิน..จึงได้แต่กุมท้องตัวเองเอาไว้แล้วก้มหน้าก้มตามองผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปต่อไป

    พ่อแม่ของผมไม่มีญาติหรือเพื่อนเลย

    และดูเหมือนว่าผมจะเป็นเหมือนกัน..

    ตายO_Oดูขอทานเด็กคนนั่นสิ น่าสงสาร>o<”

    เอานี้จะหนูT^Tเศษตังค์เล็กๆน้อยๆT^T”

    เอาเงินสกปรกๆของพวกแกออกไปจากหน้าฉํน-_-^”

    อะไรน่ะ??-_-พูดยังงั่นกับผู้ใหญ่มันไม่ดีรู้มั้ย??-_-”

    ผมเงยหน้าขึ้นมาสบถกับดวงเนตรสีฟ้าของเค้าอีกครั้ง

    เด็กชายคนที่ช้วยผมไว้เมื่อเช้า

    เอาเลย์ไป-_-นายไม่มีที่ไปรึไงหือ??”

    ผมรับถุงเลย์มาอย่างว่าง่าย ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกอบอุ่นจากส่วนลึกของใจผมเมื่ออยู่กับเค้าคนนี้

    นี้หรอที่เค้าเรียกว่าเพื่อน….

    คงไม่มีจิงๆสิน่ะ-o-ฮือ~ ลำบากหน่อยละ~”

    เค้าก้มตัวลงมานั่งข้างหน้าผมบนถนนพร้อมกับจับน้ำโค๊กกรอกปาก

    อึกๆๆ

    “….นายบ้านอยู่ไหนละ??”

    ผมตัดสินใจถามเค้าขึ้น เค้าวางขวดโค๊กลงแล้วยักคิ้วให้ผมสองสามที

    อยู่แถวๆนี้แหละ-o-ถามทำไม??”

    “….เปล่า-_-…”

    ผมไม่เชื่อหรอกว่าเค้าไม่รู้จิงๆ เด็กชายข้างหน้าหัวเราะขับขันแล้วจึงก้มหน้ามามองผมอย่างสงสัย

    อยากมาอยู่กับฉันก็พูดมาสิ~”

    ฉันอยากอยู่กับนาย

    แต่นายต้องทำงานบ้านนะ^_^”

    ผมชะโงกทันที

    แล้วพ่อแม่นายละ??”

    แต่เค้าก็หลุกขึ้นเสียแล้ว

    บ้านฉันฉันก็อยู่คนเดียวนะสินายชื่ออะไร??”

    ผมหลุกขึ้นตามเค้าไป

    ฮิบาริ เคียวยะ

     

     

    สองปีต่อมา

     

    โลกิ!!=_=ตื่นได้แล้ว~!!”

    ผมสะบัดผ้าคลุมออกจากโลกิอย่างแรง  แต่เจ้าตัวขี้เซาก็ยังไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย

    ตื่นสักทีเซ…”

    หุบปากนา=__=”

    พรึบ

    ….

    ภาพเมื่อตะกี้น่ากลัวชะมัด…O_O

    โลกิที่ผมปรุกเท้าไหร่ก็ไม่ตื่น อยู่ดีๆก็หลุกขึ้นมาคว้าผ้าห่มไปจากมือผมแล้วตะโกนใส่หน้าผมอย่างเกรี้ยวกราด-_-;;…

    เหมือนมัจุราชไม่มีผิด….

    ผมเลยต้องเปลี่ยนเทคนิค

    ผมย่อตัวลงไปกระซิบข้างๆหูของเค้า

    โลกิครับวันนี้มาสอบคาบแรกเลยน่ะครับ…”

    หา?!!ว่าไงน่ะ?!!!O_O”

    ได้ผลทันเห็นจริงๆ-.,-

    โลกิที่เมื่อตะกี้ยังหลับเป็นตายอยู่ กลับหลุกพรวดขึ้นมาแล้วกระโดดออกจากเตียงทันที

    ผมมองเข้าอย่างขับขัน^__^นี้แหละโลกิที่ผมรู้จัก

    ในขณะที่โลกิกำลังอายน้ำอยู่ ผมก็จัดการเก็บห้องของเค้าให้เรียบรอย

    พรึบๆๆ

    ผมเปิดหน้าต่างออกมาเพื่อที่จะได้เห็น ต้นซากูระขนาดใหญ่ข้างหน้าผมปดปังแสงอาทิตย์ที่ควรจะสว่างมาทางผม

    ผมเกลียดแสงอาทิตย์

    เมื่อนึกถึงแสงอาทิตย์ ภาพและเหตุการ์ณเมื่อสองปีก่อนจึงลอยมาหาผมทันที

    ทั้งที่ผมต้องสูญเสียพ่อแม่

    แต่ผมกลับไม่เสียใจเลย

    ผมเดินลงบันไดไปอย่างสบายใจแล้วจึงจัดการกินอาหารเช้าตัวเองก่อน

    โลกิ~ ขนมปังจะไหม้แล้วน่ะ-o-”

    อาๆๆๆO_Oเคียวยะ นายช้วยเป่าผมให้หน่อยสิ

    โลกิวิ่งลงมาหาแล้วจัดการยัดขนมปังทั้งชิ้นเข้าปากตัวเอง

    เสื้อของเค้ายังไม่ใส่กระดุมเลย

    ผมระอาใจกับเค้าจิงๆ แต่ผมก็ยังเดินเข้าไปเป่าผมให้เค้าอยู่ดี

    นายไม่สิ..เธอต้องติดกระดุมก่อนลงมาสิ-_-ฉันเป็นผู้ชายน่ะ เธอควรใส่เสื้อในด้วยรู้มั้ย-_-”

    หนวกหูนา-o-ผู้ชาย ผู้หญิงมันก็เหมือนกันหมดแหละ ฉันยังไม่มีหนองโพ ไม่ต้องใส่ก็ได้ แล้วอีกอย่างฉันใส่ชุดนักเรียนชายอยู่น่ะ-_-”

    ผมถอนหายใจอีกครั้ง

    ใช้แล้ว เธอเป็นผู้หญิง

    ตอนแรกผมก็ไม่เชื้อหูตัวเองเหมือนกัน และเมื่ออยู่กับเธอต่อไปผมก็เริ่มกลับมาคิดว่าเธอเป็นผู้ชายขึ้นทุกวัน

    ผมนายเริ่มยาวแล้วน่ะ..”

    โลกิย้อมผมตัวเองให้กลายเป็นสีทองอ่อนๆเมื่อปีที่แล้ว

    ความจริงผมชอบผมทรงนี้มากกว่าเพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เธอดูเหมือนผู้หญิงมากขึ้น

    ผมใช้นิ้วยกเส้นผมบางส่วนขึ่นมา ตอนนี้ผมเธอยาวถึงคางแล้ว

    โลกิยังคงใส่ถุงท้าวต่อไป

    ไม่นานนัก เราทั้งสองก็เริ่มไปโรงเรียนกัน

    กริ้งๆๆ

    ผมที่นั่งซ่อนท้ายเธออยู่หันไปโบกมือให้เพื่อนๆที่ต่างก็เดินทางไปโรงเรียนเหมือนกัน

    ผมยิ้มรับฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง ต้นซากูระตามทางเดินนั่นบานสะพรั่งเสียจนผมยิ่มออก

    ความจริงผมไม่รู้ว่าผมยิ้มเรื่องอะไรกันแน่….

    หัวหน้าครับ!!อารุณสวัดครับ!!>o<”

    รุยกับเรย์ที่ปั่นจักรยานตามมาข้างๆผมพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะหันมาหาผม

    หวัดดีเคียว^_^สบายดีน่ะ

    ผมยิ้มตอบก่อนจะหันไปมองโลกิ

    เธอใส่หมวกแก๊บสีแดงปิดผมที่เริ่มยาวของเธอ แผ่นหลังของเธอยังขยับไปขยับมาตามแรงปั่น

    เคียวยะ=_=นายก็พูดเองเซ่ มาให้ฉันพูดให้ทำไม??”

    เอาเถอะนาหัวหน้า^_^ก็เคียวเค้าไม่ชอบพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช้หัวหน้านี้นา~ เน๊อะ

    ผมพยักหน้าหงึกๆให้พวกเค้า

    ไม่ใช้ว่าผมไม่อยากพูดหรอก แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรตังหาก

    ไม่ว่าจะตอบว่า.. ‘หวัดดีหรือ โย่วๆเป็นไง

    แต่โลกิก็รู้เสมอว่าผมควรพูดอะไร....

    เออๆ เป็นไง?=_=”

    กรี๊ดๆๆๆ>o<ฮาจิบาระกับฮิบาริคุงมาแล้วๆๆ>o<”

    ผมหันไปมองเสียงกรีดต้อนรับของผู้หญิงที่โลกิเรียกว่า ชะนี

    ฮาจิยาระ โลกิกรอกตามองพวกเค้าแค่แวบเดียวก็หันไปบอกลารุยกับเรย์ที่อยู่อีกโรงเรียนหนึง

    แค่นี้ละ-o-ต้องไปแล้ว

    ดูแลเคียวยะให้ดีๆละครับหัวหน้า>o<”

    พวกเค้าดูไม่เหมือนลูกน้องในอดุมคติของผมเลย เหมือนเพื่อนสะด้วยซ้ำ

    แต่ถึงยังงั่น ผมก็จะตามรอยโลกิอยู่ดี^_^เพราะเค้าเป็นทุกๆอย่างของผมนี้นา

    เคียว เดียวฉันไปส่งนายหลังโรงเรียนน่ะ-__-^ฉันจะล่อพวกชะนีไปอีกทางก่อน โอเคน่ะ?”

    อืมม^_^ขอบใจ

    แล้วผมก็กระโดดลงมาท้ามกลางเสียงกรีดที่ดังสนั่น ชะนีพวกนั่นรีบวิ่งเข้ามาหาผมทันที

    แต่ผมก็ฝึกมาจนชินแล้ว ผมรีบโกยของวิ่งเข้าประตูหลังโรงเรียนทันที

    ….ผมมาเจอโลกิอีกทีในห้องเรียนคาบที่สาม^_^….

    ปัง!!

    ประตูห้องเรียนเราถูกเปิดเมื่อเวลา9:33พอดีเปาะตามเคย โลกิที่ไม่เคยใส่ชุดนักเรียนถูกระเบียบเลยสักครั้ง ก็ยังคงไม่ถูกระเบียบตามเคย สีหน้าของเค้าบอกเลยว่าบุญไม่รับจิงๆ

    ผมยิ้มให้เค้าแล้วจึงหันไปมองนอกหน้าต่างอย่างสบายใจ โลกิเองก็ถอนหายใจแล้วเดินมานั่งข้างๆผมตามเคย

    อาจาร์ณทุกคนเอง ต่างก็กลัวโลกิ ด้วยท่าทีห้าวๆและนิสัยโหดๆของเธอ ทำให้พวกเค้าไม่เคยว่าอะไรเธอเลย

    แล้วอีกอย่างเธอก็สอบได้ท๊อปของห้องจริงๆน่ะแหละ^___^

    ผมชื่นชมเธอจิงๆ

    ผมอยากเป็นเหมือนเธอ

    ผมเชื่อว่า….เธอคือทุกๆอย่างของผมจริงๆ….

    กริ้งๆๆๆๆๆ

    เสียงกระดิ่งบอกเวลาเที่ยงเหมือนเคย เด็กหญิงหลายคนรีบวิ่งเข้ามาหาโลกิทันที และไม่นานเด็กผู้ชายบางคนก็เดินเข้ามาหาเธอ

    เฮ้ยโลกิ^___^วันนี้กินข้าวกับพวกเรามั้ย??”

    แน่นอน ว่าพวกนี้เองก็หลงเสนห์โลกิเหมือนกัน

    เธอเหมือนจะทำให้ทั้งสองเพศชอบเธอได้

    แต่ผมรู้ว่าถึงยังไงเธอก็ชอบผู้ชาย เพราะผมเคยถามเธอดู

    ตอนนี้ผมเอาแขนมากอดคอโลกิไว้แนน พวกผู้ชายพวกนั่นเลยหัวเราะกันแล้วพูดว่า

    ล้อเล่นนาเคียว^_^รู้หรอกว่าแกต้องทำแบบนี้

    แต่ผมไม่ล้อเล่น

    ผมชอบโลกิจริงๆ

    ไม่ได้ชอบแบบแค่เพื่อน แต่ชอบแบบที่ผู้ชายจะชอบผู้หญิงตังหาก

    แต่ถึงจะพูดยังไง ….โลกิก็คงไม่มีวันเข้าใจหรอก

    เออ-o-ปล่อยได้แล้วนาเคียว วันนี้มีอะไรกิน??”

    เราทั้งสองเดินไปยังห้องประชุมใหญ่ ไม่มีใครได้ใช้งานมาหลายปีแล้ว จนพวกเราก็ยึดมาใช้เองในที่สุด

    เบนโตะกับโคกเกะนะ^__^ของโปรดฉันเลย

    เออ-o-วันหลังนายหัดทำของที่ฉันชอบบ้างสิ-.,-”

    แต่นายก็เห็นกินหมดทุกครั้งนี้นา-o-ถึงจะบ่นเยอะไปหน่อยก็เถอะ

    พวกเราเดินมานั่งบนโซฟาแล้วจัดอาหารกินกัน โลกิเดินไปเปิดหน้าต่างให้ผมพร้อมกับลมเย็นๆที่เป่าผัดมา

    ผมมีความสุขจัง^___^

    ตี๊ดดด ๆๆ

    เสียงโทรศัพของโลกิดังขึ้น ทำให้ผมหุบยิ้มทันที

    ….งานอีกแน่ๆ..

    โลกิยกขึ้นรับสายแล้วเดินออกไปจากห้อง

    ทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว….

    ผมเกลียดงานของโลกิ

    แม้ว่ามันจะมาแค่อาทิตย์ละครั้ง และโลกิก็มักจะปลอดภัยกลับมาทุกครั้ง

    แต่มันทำให้โลกิไม่สบายใจ...

    มันทำให้โลกิของผมไม่ใช้โลกิอีกต่อไป

    ผมมองข้าวกล่องตัวเองอย่างหงอยเหงาแล้วจึงค่อยๆเทลงไปนอกหน้าต่าง

    ผมมองดูก้อนเมฆสีเทาบนท้องฟ้าเลื่อนลอยต่อไป

    ครีด

    โลกิเดินเข้ามานั่งที่โซฟาอีกครั่งก่อนจะเริ่มกินข้าวของตัวเอง

    “….งานอีกแล้วหรอ??....”

    “……อืมม….”

    นานมั้ย??”

    นายกินเสร็จแล้วหรอ??”

    นาน….นานมาก

    โลกิไม่ตอบแปลว่านาน….

    ไม่น่ะผมไม่อยากอยู่คนเดียว….

    โลกิ…”

    วันนี้รุยจะมารับนายไปส่งบ้าน ฉันต้องไปทำงาน…”

    โลกิ….นายอย่าไปเลยได้มั้ย??”

    ผมกระซิบอย่างแผ่วเบา น้ำเย็นๆเริ่มไหลอาบแก้มของผมจนผมเริ่มสั่นทึมไปทั้งตัว

    แต่ถึงผมจะพูดยังไงเค้าก็ต้องไปอยู่ดีสินะ

    ครีด

    ฉันขอโทษเคียวยะ

    โลกิ!!O_O”

    ผมหันไปมองโลกิ แต่ประตูก็ปิดไปเสียแล้ว

    ไม่น่ะ ไม่น่ะ ไม่

    หัวใจของผมส่งเสียงเหมือนจะแตกออกมา ผมรีบเปิดประตูแล้ววิ่งไปตามแผ่นหลังของโลกิที่ผมเห็นแว้วๆ

    ซ่าๆๆๆๆ

    ฝนตกหนัก

    ผมมาถึงหน้าโรงเรียน ทันพอดีที่ได้เห็นหลังของโลกิวิ่งไปท้ามกลางสายฝน

    ผมไม่คิดจะเอาอะไรปังตัวเอง หรืออาศัยไฟไดๆ ถ้ารถจะชนผม ก็ชนไปเลย

    ถ้าผมจะตาย ก็ขอแค่ให้โลกิไปงานศพผม

    ….โลกิ โลกิ โลกิ โลกิ

    ในหัวผมมีแต่คำนี้ ผมวิ่งตามหลังนั่น ที่ดูเหมือนจะห่างผมไปเรื่อยๆ

    ไม่น่ะ อย่าไป….

    โลกิไม่พูดอำลาผมเลยสักคำ

    ในที่สุด ผมก็ไล่ตามแผ่นหลังของเค้าไม่ทันจนได้

    ผมหยุดและทรุดตัวลงนั่งกลางถนน ตัวของผมเปียกโชกไปด้วยน้ำฝนและน้ำตา ผมปล่อยให้น้ำตาของผมไหลไปเรื่อยๆโดยไม่คิดว่าใครจะมามองผม

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

    เสียงเมสเสจเรียกข้าวของผมดังขึ้น แต่ผมก็ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะดู

    ผมยังคงนั่งอยู่ตรงนั่น

    ตรงที่ๆโลกิมารับผมอีกครั้งเมื่อสองปีก่อน

    เค้าได้ให้ทุกๆอย่างกับผม

    และตอนนี้….ผมก็สูญเสียทุกๆอย่างของผมไปแล้ว…..

    Xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

     

    Nikki Talk

     

    ฮิบาริเมื่อก่อนไม่เหมือนตอนนี้เลยใช้มั้ยละ??^___^แต่เอาเถอะ มันมีเหตุผล

    ขอฝากไว้ในเมื่อของทุกคนด้วยน่ะค่า~>o<

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×