ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รถเทียวอันตราย
ปากีสถานคือสถานีต่อไปของขณะเดินทางนี้ตอนนี้โจเซฟย้ายมานั่งด้านหลังเพื่อให้อุรุมิซ้อมมือเทียมให้เขา
"อุรุมิบอกไปแล้วไงคะ...ว่ามันเป็นแค่กอดขอบคุณจริงๆทำไมถึงไม่เชื่อกันเลยคะ..."
โจเซฟยังคงแซวเธอไม่หยุดจนตอนนี้ออกจากอินเดียแล้วเขายังไม่หยุดพูดถึงเรื่องนี้และมันต้องทำให้เธอบอกเขาว่าถ้ายังอยากใช้มือเทียมข้างนี้อยู่เขาต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้แน่นอนเขาหยุดพูดเพราะถ้าจะให้หาของมาเปลี่ยนคงอีกนานกว่าเขาจะได้ของ
"จ๊างงง~ และนี่คือผลงานเสร็จสมบูรณ์ค่ะ!"
"โอ้! ฝีมือใช่เล่นเลยนิอุรุมิจัง"
โจเซฟลูบหัวเธออย่างเอ็นดูทำให้เธอต้องขอบคุณสำหรับคำชมและสัมผัสดีๆที่เขามอบให้เธอแม้โจทาโร่จะชายตามองเธอตลอดแต่อุรุมิไม่ทันได้เห็นเพราะเธอยังไม่กล้ามองเขาหลังจากเรื่องเมื่อวาน
ผงฝุ่นปลิวเข้ามาในรถเกิดจากการที่โปลนาเรฟเปิดกระจกหน้าเอาไว้และรถขันด้านหน้าที่เรียกได้ว่าสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็กนั้นขับเอื่อยๆอยู่ตรงหน้าพวกเขามันยิ่งทำให้ฝุ่นนั้นปลิวกระจายไปทั่วอุรุมิออกความเห็นว่ารถนี้คงไม่มีแรงไปต่อมากกว่านี้และมันจะทำให้เราช้าถ้าไม่แซงและฝุ่นจะเต็มรถเช่นกันเมื่อจบความคิดเห็นโปลนาเรฟไม่รอช้าขับแซงรถโกโรโกโสคันนั้นทันทีจนโดนคะเคียนอินเอ็ดไปเล็กน้อยและโจเซฟก็บอกว่าเขาไม่อยากมีเรื่องเพราะโดนใบประกาศจับอยู่
"อ๊ะ!!"
รถที่ถูกเบรคกระทันหันทำให้ทุกคนที่ไม่ได้ตั้งตัวเอนไปข้างหน้าอุรุมิโอบคอโจทาโร่เอาไว้ไม่น่าเชื่อว่าเขาแทบจะไม่เอนตัวไปด้านหน้าแบบคนอื่นและสาเหตุก็อยู่ตรงหน้าเพราะคนที่ขอติดรถไปด้วยก็คือแอนน์สาวน้อยที่ได้พบตอนออกจากฮ่องกง
"เดียวสิคะ!?จริงๆอุรุมิไม่ได้มีปัญหาอะไรถ้าจะรับหนูแอนน์ขึ้นมาแต่รถจิ๊บคันนี้ไม่มีพื้นที่ด้านหลังนะคะจุคนมากสุดตอนนี้คือ5คนแบบนี้จะไม่เบียดกันแย่หรอคะ?"
"งั้นอุรุมิจังก็ไปนั่งตักโจทาโร่สิ"
"อุรุมิขอปฏิเสธค่ะ!!"
"ไม่มีทางที่ฉันจะให้เกิดขึ้น.."
ทั้งสองต่างปฏิเสธความคิดนี้และแน่นอนโจทาโร่ปฏิเสธที่จะให้แอนน์นั่งตักเช่นกัน
"ถ้าจะขึ้นมานั่งจริงๆอุรุมิคงต้องขึ้นไปนั่งบนหลังคาแล้วละคะ"
ทุกคนภายในรถต่างจ้องมองเธอรวมถึงแอนน์มันทำให้อุรุมิใจคอไม่ดีเอาเสียเลย
.x.
แอนน์เริ่มกล่าวขอโทษกับทุกคนที่เธอโกหกโดยเธอให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากเที่ยวรอบโลกตอนแก่ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครที่ยอมคุยกับเธอเพี่ยงเพื่อให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันผิดคะเคียวอินมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับหลุดขำเล็กน้อย
"อุรุมิจังข้างบนลมเย็นดีไม??"คะเคียวอินเปิดกระจกถามเธอด้วยน้ำเสียงหยอกเล่น
แต่คนที่นั่งบนหลังคาอย่างเธอไม่สนุกด้วยเธอนั่งทับขาแบบชาวญี่ปุ่นพร้อมได้ไฮเอโรแฟนต์ กรีนมาคอยรัดเธอไว้ไม่ให้ปลิวตกจากรถ"ค่าาาา อุรุมิรู้สึกดีมากเลยคะที่ได้นั่งบนหลังคารถแบบนี้ลมเย็นๆพร้อมก้อนกรวดเล็กๆกระแทกหน้าสนุกมากเลยค่าา!"
เมื่อคะเคียวอินปิดกระจกทุกคนในรถต่างหัวเราะออกเธอรู้ว่ากำลังถูกหัวเราะอยู่เธอได้จดบัญชีแค้นไว้แล้วรอแก้แค้นพวกเขาตอนถึงปากีสถานก็ยังไม่สาย
รถคันก่อนตามมาในระดับความเร็วที่น่าตกใจสำหรับเธอที่อยู่บนหลังคารถเธอไม่คิดว่าเจ้ารถเศษเหล็กคันนั้นจะยังมีแรงขับตามมาในระยะประชิดขนาดนี้ทั้งๆที่ก่อนหน้ามันเอื่อยอย่างกับเต่าโปลนาเรฟจึงสงสัญญาณให้รถด้านหลังแซงไปพอแซงไปได้ก็กวนประสาทขับเอื่อยแบบครั้งแรก
ความอดทนที่มีอยู่น้อยของเธอทำให้เธออยากเห็นหน้าเจ้าตัวกวนประสาทในรถเธอใช้สแตนด์ของเธอพยายามเพ่งไปในรถแต่เห็นสัญญาณมือที่ให้แซงไปทำให้เธอพอมีความรู้สึกที่โอเคอยู่บางถ้าไม่ติดว่าเธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นบรรทุกที่อยู่ข้างหน้า
"กี๊!!!คุณโปลนาเรฟอันตราย!!"
รถจิ๊บประสานงาเขากับรถสิบล้อถ้าไม่มีไฮเอโรแฟนต์ กรีนของคะเคียวอินกับสตาร์แพล็ตตินั่มของโจทาโร่เธอคงคอหักไปแล้ว
"แย่แล้ว?!!อุรุมิเธอตายรึยัง!!"
โอ้? นั้นเป็นคำถามด้วยความเป็นห่วงจริงๆเธออยากตะโกนบอกกับโปลนาเรฟไปเหลือเกินว่าทำไมไม่ปล่อยให้เธอคอหักก่อนแล้วค่อยถาม
พวกเขาเดินทางต่อและหวังว่าจะไม่พบกับรถคันนั้นอีกพวกเขาตัดสินใจว่าจะพักดื่มชากันสักพักเมื่อจอดรถเสร็จคะเคียวอินออกมารอรับอุรุมิที่จะลงมาจากหลังคารถแต่เธอเบนไปทางอื่นพร้อมกับบอกว่าเธอไม่อยากให้เขาช่วย
เมื่อพวกเขาเข้าไปในร้านหวังจะดื่มชาและพักผ่อนจากการเดินทางแต่กลับพบว่าเจ้ารถโกโรโกโสนั้นอยู่ด้านหลังในรถไม่มีใครอยู่เลยนั้นทำให้พวกเขาตัดสินใจเค้นถามลูกค้าทั้ง3ในร้านด้วยกำลังทั้งอุรุมิและคะเคียวอินพยายามห้ามพวกเขาแต่เสียงปิดประตูรถเรียกให้ทุกคนหันกลับไปมองและมันเคลื่อนตัวออกไปราวกับเย้ยหยันพวกเขาว่าเป็นไอ้งั่งทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
โปโรนาเรฟตั้งปนิธานมั่นว่าจะจับเจ้าคนกวนประสาทนั้นให้จงได้เมื่อทุกคนขึ้นรถโจทาโร่ได้รู้สึกถึงบางอย่างที่วางลงที่ตักของเขา
"GO GO!!อุรุมิอยากซัดหน้าคนที่อยู่ในรถนั้นใจจะขาดแล้วคะ!!"เธอเกาะเบาะหน้าพร้อมกับชี้ไปข้างหน้าเป็นสัญญาณว่าเธอพร้อมไปต่อแล้ว
"อุรุมิไม่ขึ้นไปนั่งบนหลังคาแล้วหรอ?"
เธอมองโจเซฟด้วยหางตา"อยากให้อุรุมิคอหักหรอคะ?"
และนั้นทำให้เขาไม่กล้าแกล้งเธออีก
.x.
มันเป็นการไล่ล่าที่ลำบากอยากเย็นจนกระทั้งได้รู้ว่ารถคันนั้นคือสแตนด์มันก็ยากที่จะรับมือการโจมตีที่มองไม่เห็นมันยิ่งชวนลำบากใจมาก
โจทาโร่พยุ่งร่างที่โอนเอนของอุรุมิขึ้นมาด้วยเธอบาดเจ็บจากการพยายามเขาใกล้รถคันนั้นเพื่อหวังจะจัดการคนที่อยู่ด้านใน
"อีกนิดเดียวแท้ๆโธ่เอ้ย!!!"เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"พยายามได้ดีแล้ว..."
อุรุมิยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นแม้เขาจะปลอบเธอแล้วก็ตาม
เดียวนะ...
เขาปลอบฉัน!?
คิดได้ดังนั้นหน้าเธอก็ร้อนฉ่าขึ้นมาในทันที
แม้จะหนีขึ้นมาข้างบนแล้วมันก็ตามพวกเธอขึ้นมาอีกโจทาโร่ตัดสินใจจะต่อยที่ท้องรถแต่เขาพลาดถูกโจมตีอีกครั้ง
"นี้พวกแกไม่ได้กลิ่นที่ออกมาจากตัวกันเลยสินะ"
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง น้ำมัน ใช่แล้วมันคือกลิ่นน้ำมันที่มาจากตัวพวกเขาไม่ว่าเปล่าร่างต้นของสแตนด์วีล ออฟ ฟอร์จูนทำการจูนสายไฟใส่กันทำให้เกิดประกายไฟโจทาโร่ที่อยู่ในระยะใกล้ที่สุดถูกไฟลุกท่วมตัว
"โจโจ้!!"
เสียงกรีดร้องจากแอนน์ทำให้อุรุมิสติหลุดลอยมากกว่าเดิมโจทาโร่ร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดนัยน์ตาสีทับทิมสะท้อนภาพตรงหน้าอย่างสั่นเครือเธอลืมไปเลยว่าร่างกายของเธอถูกละเลงไปด้วยน้ำมันนับว่าโชคยังช่วยที่โปลนาเรฟรีบคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน
"ไม่ได้นะอุรุมิ!ถ้าเธอเข้าไปละก็ถูกเผาไปด้วยแน่!!"
"ปล่อยอุรุมิสิ!!อุรุมิจะไปช่วยโจคุง!!โจคุง!!ปล่อยอุรุมิสิ!!"
เธอพยายามดิ้นทั้งทุบตีทั้งเตะโปลนาเรฟเพื่อให้เขาปล่อยเธอๆทนไม่ได้ที่ต้องเห็นโจทาโร่ถูกย่างสดต่อหน้าน้ำตาไหลอาบแก้มนุ่มของเธอทุกอย่างแย่ลงเมื่อร่างของโจทาโร่ล้มลงไปกับพื้น
ความรู้สึกบางอย่างในอกพังทะลาย
มันจุกจนไม่สามารถร้องออกมาได้
"โจทาโร่คุง!!!!ไม่นะ!! อย่าตายนะ! ไม่!!!"
อุรุมิทรุดเขาลงกับพื้นเธอแทบจะไม่รู้สึกอะไรอีกเธอช่วยเขาไม่ได้มันยิ่งปวดใจมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อร่างต้นของวีล ออฟ ฟอร์จูนหัวเราะและกล่าวถึงจุดจบของโจทาโร่น้ำตานั้นไหลไม่หยุดราวกับน้ำตกที่ไม่สิ้นสุดเปลวไฟตรงหน้ายังคงลุกโชนทำให้เธอแทบจะกรีดร้อง
"แล้วใครจะมารับบทตัวเอกอย่างคูโจ โจทาโร่ละ..."
"โจโจ้!!"
ทุกคนกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นร่างของโจทาโร่พุดขึ้นมาจากดินเขาใช้สตาร์แพล็ตตินั่มขุดดินหนีและไฟที่ไหม้อยู่นั้นเป็นเพียงแค่เสื้อกักคุรันของเขาและทุกอย่างจบลงที่ร่างต้นของสแตนด์วีล ออฟ ฟอร์จูนถูกอัดจนเละและได้รู้ว่าเขามีแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแต่ร่างกายเขากลับไม่สมส่วนกับแขนเลยและเจ้าตัวก็ขอร้องว่าอย่าฆ่าเขาทำให้ทุกคนหัวเราะด้วยความน่าสมเพช
"........."
"อะไร?มองอะไรของเธอ?"
"ทำไมโจคุงถึงไม่ตาย!! โจคุงบ้า บ้า! บ้า!!บ้าที่สุด!!"เธอกล่าวพร้อมกับเอากำปั้นทุบอกเขานั้นทำให้โจทาโร่สับสนเป็นอย่างมากเขาไม่เข้าใจว่าเธอโกรธอะไรเขา
"นี่เธอร้องไห้?"
"อุรุมิร้องเพราะอุรุมิเจ็บแผลต่างหาก!!!"
ด้วยส่วนสูงของเธอทำให้เธออยู่ตรงอกของโจทาโร่พอดีเธอฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของเขามันรู้สึกอุ่นใจที่ยังได้ยินมันแต่เธอก็ไม่ยอมเอาหน้าออกจากอกเขาเลยแม้โจทาโร่พยายามดึงเธอและถามเธอว่าเธอเป็นอะไรเธอยังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอแค่เจ็บแผล
"ไม่น้าาาโจทาโร่คุงงง อย่าตายน้าาา!!"โปลนาเรฟพยายาทำเสียงสูงเลียนแบบน้ำเสียงเธอ
"..."
โปลนาเรฟแอนน์คะเคียวอินกลั่นขำอุรุมิมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปกระบองเหล็กที่ไม่ได้ใช้การมานานถูกนำออกมาใช้เธอพุ่งตรงไปหาโปลนาเรฟและฟาดกระบองเหล็กใส่เขาไม่ยั้งเขาที่พอมีสกิลหลบหลีกทำให้เขารอดตัวได้และพยายามจะวิ่งหนีเธอ
"อุรุมิ!!ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง 'ล้อเล่นขำๆ'อะเธอเขาใจไม!!'
"หนวกหูอุรุมิไม่ฟังอะไรทั้งนั้นอุรุมิจะเคาะหัวทุกคนให้หมดเลย!!"
เธอเริ่มกระโจใส่พวกเขาอีกครั้งทำให้พวกเขาต้องรีบวิ่งหนีตามโปโรนาเรฟไปแต่ใบหน้าของพวกเขาก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างจากความสุข
.x.
แม่เฒ่าเอ็นย่ากำลังร้องไห้คร่ำครวญกับการที่เธอส่งผู้ใช้สแตนด์ไปและไม่สามารถกำจัดโจสตาร์ได้เธอสาปแช่งเหล่าขณะเดินทางโจสตาร์ว่าทำให้เธอไม่สามารถกลับไปหาดิโอและเธอจะฆ่าพวกเขาให้หมดด้วยสแตนด์ของเธอ
"น่าสมเพชซะจริงแม่เฒ่า.."
เอนย่ามองไปที่โต๊ะมุมมืดกลิ่นยาสูบลอยออกจากริมฝีปากแดงสวยแม่เฒ่าไม่ค่อยปลื่มที่ได้เห็นหล่อน
"เรฟ?เจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือเจ้าคิดจะมาจัดการข้าเรอะ?"หมอกควัญรอบตัวหน้าขึ้นแต่เรฟไม่มีท่าทีกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นยิ่งทำให้แม่เฒ่าไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก"เจ้าคิดจะกำจัดข้าเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับท่านดิโอแทนข้าสินะ!!"
"ใจเย็นก่อนสิแม่เฒ่า..ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังหัวเสียที่ฆ่าพวกแมลงสาปนั้นไม่ได้สักทียัยเด็กบ้าอุรุมิเองสแตนด์ของมันก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ"
เรฟกล่าวพร้มรอยยิ้มกว้างทำให้แม้เฒ่าเอนย่าเสียวสันหลังวาบ"แต่ถ้าจะฆ่าพวกมันที่นี่คงไม่ใช่เรื่องยากเพราะที่นี่มี...ส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ยัยอุรุมิอยากฆ่าพวกมันขึ้นมาก็ได้"
นัยน์ตาสีแดงสะท้อนภาพความมืดภายนอกที่มีเพียงแต่หลุมศพรอยยิ้มที่ชั่วร้ายประดับบนใบหน้าของเธอพร้อมเสียงหัวเราะที่น่าขนลุก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น