ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fanfic)Jojo Brizard Adventure รักเลยอะคนนี้

    ลำดับตอนที่ #10 : ฝันร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 64


    PG-15

      คำเตือน:มีฉากที่อ่อนไหวและรุนแรงไรท์จะพยายามไม่บรรยายฉากนั้นให้ละเอียดเพราะมันอาจสะเทือนใจใครหลายคน มีการกล่าวถึงอาการของโรคฮิทสโตรกและไรท์ได้ทำการเติมแต่งอาการของโรคตามจินตนาการเล็กน้อย หากไม่ถูกใจใครขออภัยไว้ล่วงหน้าคะ


    "โอเคขึ้นไม อุรุมิ"


    "อือ... คะ"


      หลังจากผ่านด่านทะเลทรายร้อนระอุและปราบผู้ใช้สแตนด์ลงได้มันก็ฝากของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กับอุรุมิ


    โรคฮิทสโตรก


      ในตอนที่เธอนอนอยู่บนอูฐนั้นทุกคนก็เป็นห่วงเธอ แต่เธอยืนยันว่าเธอสบายดีแต่หลังจากนั้นทุกคนก็ต้องตามหาเธอจนวุ่นวายเมื่อเธอหมดสติและร่วงลงจากหลังอูฐตอนไหนก็ไม่มีใครทราบ ความกลัวเกาะกินจิตใจทุกคนโจทาโร่ตะโกนเรียกชื่อเธอจนดั้งก้องทั้วทะเลทรายมันแผดเผ่าลำคอเขาทุกครั้งที่ตะโกนแต่ไม่อาจหยุดเขาให้ตะโกนได้ทางเดียวที่ทำได้คือต้องหาเธอให้พบเมื่อโจเซฟพบเธอหายใจถี่ ตัวเธอแดงแม้ในอาการร้อนเธอก็ไม่มีเหงือโจเซฟรีบกล่าวทันทีว่าเธอเป็นฮิทสโตรก


      พวกเขาปฐมพยาบาลเบื่องต้นที่หมู่บ้านเล็กๆห่างไหลจากตัวเมืองที่นั้นไม่มีแม้แต่คลินิกอาการเธอดีขึ้นมานิดหน่อยแต่ความร้อนจากร่างกายราวกับไฟนรกแผดเผายังไม่หายไปแม้จะใช้เวลาถึง2วัน


      โจเซฟซื้อเครื่องบินเล็กเพื่อยนเวลาในการเดินทางเข้าเมืองโปลนาเรฟคอยพยุงอุรุมิเพื่อพาเธอขึ้นเครื่องแต่ทุกอย่างไม่เป็นใจเมื่อจู่ๆเจ้าของเครื่องบินกลับจะใช้เครื่องบินก่อนและขอร้องพวกเขาให้รอก่อนแต่มันสมเหตผลเพราะพวกเขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้ทารกน้อยที่ไม่สบายอยู่ที่นั้นได้มันอันตรายเกินไปแต่โปรนาเรฟก็บอกว่าพวกเขาก็มีผู้ป่วยที่อาการไม่คงที่จนอันตรายเหมือนกันแม้อุรุมิบอกให้พวกเขาทิ้งเธอไว้ที่นี้โปลนาเรฟก็ไม่ยอมเพราะกลัวเธอทรุดอีก


      ในท้ายที่สุดหญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นแม่ของเด็กเสนอให้วางเด็กน้อยไว้กับใครสักคนและคนรับหน้าที่นั้นก็คือคะเคียวอินกับโปลนาเรฟ


    ส่วนอุรุมิคงไม่มีใครปล่อยให้เธออยู่ที่นั้นแน่ๆ


      โจทาโร่ขยับตัวลำบากเพราะเขาไม่ต้องการรบกวนหญิงสาวที่นั่งบนตักเธอเอนหัวพิงที่คอของเขาแต่พอเขาขยับตัวเพราะเมื่อยเธอก็สะลึมสลือขึ้นมาเธอยิ้มอย่างอ่อนล้า


    "ขอโทษนะโจคุง ให้อุรุมิขยับออกไม?"


    "ไม่.. นอนเถอะ"


      เขาโอบใบหน้าของเธอและให้หัวเธอพิงคอเขาอีกครั้งเธอขยับซุกอีกเล็กน้อย"รักโจคุงที่สุดเลย"


    "ให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่มีแรงจะพูดแล้วยังจะพูดอีก"


      แต่พอนึกได้ว่าสถานการ์ณไม่เหมือนทุกทีเขารีบฟันไปมองเพื่อนร่วมทางทันที


    "ท้องฟ้าวันนี้สดใสจังเน๊อะโจทาโร่~"


      โจเซฟกล่าวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนเขาอยากจะบอกให้เขายิ้มเพราะมันเห็นชัด


    "เอ๋??เด็กน่ารักจังเลยเนอะถ้าผมเป็นสีบลอนทองตาสีฟ้าทะเลนี้ใช้เลย!!"


      เขาอยากจะรวบผมแห่งความภาคภูมิใจของพ่อหนุ่มหัวใจอัศวินแล้วกระชากมันออกจากหนังหัว


      คะเคียวอินที่หลับสนิทเกิดอาการละเมอเท้าเขายันกับหน้าโจเซฟและร่างของเขากดเข้ากับตัวควบคุมเครื่องบินเริ่มเสียหลักและดิ่งพสุธาในที่สุดโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรมากแต่น่าเศร้าที่พวกเขาต้องมาหยุดการเดินทางทีกลางทะเลทรายโจเซฟและโจทาโร่พยายามติดต่อด้วยคลื่นวิทยุขอความช่วยเหลือในเมื่อต้องรอพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะตั้งแคมป์ที่นี


    ____________________x____________________


    'พี่อุรุมิรู้ไมคะ?ไอซิสรักพี่อุรุมิมากๆเลยนะคะ!"


    'ไอซิส...?'


    ที่นี่คือ...


      ตู้เก็บของๆไอซิสเธอมักเก็บตุ๊กตาที่เธอตัวโปรดที่เธอรักมากไว้ในนี้จนมันแทบจะล้นออกมาตอนนี้ร่างของอุรุมิในวัย10ขวบถูกปกคลุมด้วยตุ๊กตาเหล่านั้นน้ำตาเธอไหลอาแก้มเมื่อประตูตู้ปิดลงเธอถูกมัดแขนขาโดยเรฟและถูกพันผ้าปิดปากไว้เธอส่งเสียงครางได้แค่นิดหน่อยแต่เสียงเหล่านั้นถูกตุ๊กตากลืนหายไปหมด


      ประตูห้องเปิดออกเรฟเดินเข้ามาพร้อมกับชายอีก5คนเดินตามเข้ามาริมฝีปากแดงเบ้ลงอย่างเกลียดช่างเมื่อเห็นร่างของหนูน้อย7ขวบอยู่ในห้องคนเดียวแทนที่จะเป็นอุรุมิ


    "นังเด็กเปรตนั้นไปไหนแล้ว"


    "ไอซิสไม่รู้"


    "อย่ามาหน้าด้านตอแ*ล!! ไอซิสฉันรู้ว่าแกช่วยมัน"


      เธอเตะของเล่นในห้องอย่างแรงไอซิสสะดุ้งเฮือกเมื่อเรฟสั่งพวกผู้ชายที่มากับเธอค้นทุกซอกทุกมุมพวกเขาช่วยกันหาเด็กน้อยหวาดระแวงและมองตู้ด้านหลังตลอดเวลาเมื่อพวกเขาเดินเขาใกล้มันหัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวเมื่อเขาเปิดไปตุ๊กตาที่มีมากมายหล่นลงกองกับพื้นอุรุมิอยู่ในระดับสายตาของเขา


    "ไม่เจอเลยครับ ตู้ก็ไม่มีกลไกอะไรด้วย"


      เมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกันและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหาตัวอุรุมิไม่เจอเรฟยิ่งโกรธมากขึ้นหน้าเธอแดงด้วยความโกรธไอซิสหันมายิ้มให้อุรุมิใช้แล้วสแตนด์ของเธอคือซ่อนของบางสิ่งทำให้หายตัวได้


    "เรฟงั้นที่เธอว่าจะขายนังเด็กนั้นให้เราก็ไม่มีแลัวใช่ไม?"


    เรฟพ้นลมหายสงบสติอารมณ์"มียืนอยู่ในห้องคนนึง"


      อุรุมิเบิกตากว้างส่งเสียงร้องให้ไอซิสหนีไปแต่พลังนั้นนอกจากจะทำให้วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตหายไปได้แล้วมันก็จะทำให้เสียงของสิ่งเหล่านั้นหายไปด้วยแม้จะตะโกนจนหลอดเสียงแตก


      ภาพตรงหน้านั้นโหดร้ายชายทั้งหาคนรุมย่ำยีไอซิสเธอแม้เธอจะขอให้พวกเขาหยุดทำร้ายเธอแต่ไม่เป็นผลสิ่งที่เด็กน้อยพยายามคือเธอจะไม่ให้ตัวเองหมดสติเพราะถ้าเป็นแบบนั้นอุรุมิจะถูกเจอตัวดวงตาสีฟ้าครามหมนหมองลงเธอยังคงท่องคำเดิมๆวนซ้ำๆว่าอย่าหลับอย่าหลับอุรุมิร้องไห้จนตาบวมถ้าตอนนี้เธอมี่เสียงเสียงเธอจะแหบแห้งน่าสงสารพวกเขาทิ้งไอซิสไว้ในห้องและลงไปตกลงส่วนแบ่งกันด้านล่างไอซิสพยายามคลานมาหาอุรุมิอีกนิดเดียวเธอจะเอื้อมถึงพี่สาวของเธอเพื่อเช็ดน้ำตาอยางที่เธอทำทุกครั้งแต่ในที่สุดร่างของเธอถูกลากออกไปกับพื้นอย่างรุนแรงประตูถูกปิดลงตรงหน้าเธอคำสุดท้ายที่เธอได้ยินจากไอซิสมันบีบรัดหัวใจเธอ


    'พี่ไม่ผิด หนูรักพี่นะ'


    ____________________x____________________




      ฝ่ามืออุ่นโอบประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงสาวเธอพยายามลืมตาขึ้นมามองบุคคลที่เช็ดน้ำตาให้เธอ


    "โจคุง..."


    "ฉันทำให้ตื่นหรอ?"


    "ไม่หรอก..."


      เธอเอนเข้าหาสัมผัสอุ่นมันอบอุ่นเหมือนไอซิสเธอพยายามหายใจให้ปกติอีกครั้งโจทาโร่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้เธอใบหน้าทรมาณจากความเจ็บป่วยและฝันร้ายของเธอทำให้เขาอดสงสารเธอไม่ได้


      วันที่พวกเขาพักกันที่ปากีสถานอุรุมิมาพูดกับเขาเรื่องขณะเดินทางว่าเธอจะไปต่อกับพวกเขาเพราะ
    เธออยากจะจัดการกับเรฟคนที่พรากทุกอย่างไปจากเธอดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่นเขาหลงรักดวงตาที่งดงามนั้น


    "เป็นไงบ้างโจทาโร่"


    เสียงของโจเซฟเรียกเขาให้หลุดจากพะวง


    "ไม่ดีขึ้นเลยเหมือนไข้จะขึ้นอีกแล้ว"


    "ถ้าเข้าเมืองแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง"


    "นั้นสินะ"




    ____________________x____________________





      เธอรู้สึกกระหายน้ำและรู้สึกแย่กว่าแต่ก่อนเธอหายใจไม่สะดวกและรู้สึกว่าตัวเองร้อนเหมือนถูกไฟเผาระบบต่างๆของร่างกายเริ่มทรยศเธอของเหลวพร้อมเม็ดข้าวไหลย้อนกลับจากกระเพาะเธอขึ้นมาเธอไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้ในเวลานี้ทุกคนควรจะตื่นเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนของหญิงสาวแต่ไม่...


    ไม่มีใครตื่น


      การรับมือกับสแตนด์ในความฝันนั้นยากเกินความสามารถในการรับมือ พวกเขาตกอยู่ใต้อำนาจของสแตนด์โดยสมบูรณ์


      อุรุมิพยายามที่จะตั้งสติอย่างน้อยใครสักคนก็ได้ที่จะช่วยเธอแต่พอเธอเห็นทารกคนนั้นกำลังกินอาหารเด็กนั้นด้วยตัวเองและมีเขี้ยวหญองสาวตัดสินใจในทันทีเด็กคนนั้นคือผู้ใช้สแตนด์


      เธอพยายามพยุงตัวเองให้เดินไปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำร้ายเด็กคนนี้แต่ร่างกายนั้นขัดคำสั่งเธอทุกอย่างราวกับว่าจะปิดระบบตัวเองให้ได้ในที่สุดร่างของเธอล้มลงนอนราบกับพื้นทรายร่างกายหนักอึ้งเกินต้านทานเด็กทารกหัวเราะร่าให้กับความน่าสมเพชกับร่างกายของหญิงสาว



    "ฮ่าฮ่า!! ไม่ต้องลงมืออะไรมากยัยอุรุมิก็จะตายซะแล้ว!!"


      นัยต์ตาสีฟ้าทะเลเบิกกว้างกับสิ่งที่เดธ เธอร์-ทีนกล่าวมาเท่ากับว่าตอนนี้เธออาการทรุดแย่ลงกว่าเดิม"หล่อนคิดจะฆ่าข้าเพื่อช่วยชีวิตที่น่าสังเวชของพวกแกจนตอนนี้ลมลงนอนแน่นิ่งกินทรายไปเลยวะ!!"


    "โจทาโร่!!!"


    "อึก!!"


    ยอมรับเลยว่าแทงที่หน้าเจ็บกว่านี้


      โลหิตสีแดงฉานหยดสู่พืนดินของสวนสนุกหัวของปากกาที่เขาพกไว้ในกระเป๋าฝังลงไปในมือของเขาแต่ความเจ็บนั้นไม่อาจทำให้เขาตื่นจากความฝันได้


    "หยุดนะโจทาโร่ต่อให้ใช้มีดแทงก็ไม่ตื่นหรอก!!"


    "หนวกหู!!!"


    ถ้าเขาไม่ตื่นเธอจะต้องตาย


    ถ้าเขาไม่ตื่นเขาจะไม่ได้ช่วยเธอไม่ได้


    อุรุมิรักโจคุงนะ..


      เขาไม่มั่นใจที่เธอพูดแบบนั้นกับเขามันเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกกับเขาจริงๆหรือแค่ที่พึ่งเพราะน้องสาวของเธอตายหรือเป็นความคลั่งไคล้แบบที่ผู้หญิงคนอื่นแต่เขายอมรับว่าเธอทำตัวน่ารำคาญอยู่บ้างแต่เขาสบายใจที่มีเธออยู่ข้างๆเขา


    เขาแค่ยังไม่ยอมรับตัวเองว่าเขาก็มีใจให้เธอเหมือนกัน
















    ____________________x____________________



    (***สแตนด์โดยส่วนใญ่ที่อุรุมิเจอจะหายไปได้ต่อเมื่อร่างต้นหมดสติหรือตายนั้นจึงเป็นความเชื่อที่อุรุมิจะใช้เพราะเธอไม่รู้ว่าสามารถปลุกพวกโจทาโร่ได้ถ้าเธอรู้เธอจะเลือกที่จะปลุกพวกเขาและบอกพวกเขา****)



    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันคะเราจะพยายามฝึกเขียนนิยายให้ดีกว่านี้คะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×