คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : C H A P T E R 2 >> R e s s o n 1
My Boss เจ้านายที่รัก ผมผิดไปแล้ว [KiHae]
C H A P T E R 2 >> R e s s o n 1
๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐ ๐๐
\\\\
>>> การพบปะลูกกับลูกค้า ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิด สิ่งที่คิดว่าจะเป็น คือไอเด็กคนนี้มันต้องทำอะไรให้ตัวเองหน้าแตกบ้าง แต่เปล่า ก่อนไปพบลูกค้า มันกลับพาผมไปนั่งดูมันกินข้าว เน้นครับ นั่งดูมันกินข้าว TOT มันให้ผมนั่งรอในรถ
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า
“ไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยไปที่นัดพบ” ร่างสูงเปิดประตูรถลงไป แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าดงเฮจะเดินตามออกมา เขาก้มหัวลงมาอีกครั้งมองคนที่นั่งนิ่งที่หน้ารถเฉยๆ
“ผมบอกให้คุณลงไปทานข้าว” คิบอมพูดออกมาเสียงเรียบ
“ผมไม่หิวครับ คุณไปทานเถอะ” ไม่มีทีท่าว่าจะชวนหรือออกคำสั่งที่น่าเกรงขามแต่อย่างใด คิบอมปิดประตูรถก่อนจะกดปุ่มล๊อกรถทันที เดินดิ่งห่างออกไปทิ้งให้ดงเฮนั่งร้อนอยู่ในรถเพียงคนเดียว
คิบอมเดินเข้าไปในร้านอาหารที่รอบๆร้านเป็นกระจก เลือกที่นั่งที่ติดริมหน้าต่างที่ทำให้ดงเฮมองเห็นเขาได้
..........หึหึ หยิ่งนักใช่มั๊ย อวดดีนักก็นั่งหิวต่อไปเถอะ ฮ่าๆๆ.............
อาหารแต่ละอย่างที่ตักเข้าไปในปากนั้น สายตาคมจะแอบเหลือบมองคนในรถด้วยความสนุก ก่อนจะแสร้งกินด้วยสีหน้าที่สุดแสนจะอร่อย ทำเอาคนที่นั่งมองอยู่ในรถ ท้องร้องไปตลอดเวลาการมองของเขา
“กินข้าวช้าเป็นบ้าเลย ไอหมอนี่ มันจงใจจะแกล้งกันชัดๆ” ไม่นานนัก เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง คนที่คอยยั่วดงเฮก็กลับมาที่รถ ก่อนจะหิ้วอาหารกล่องมาใส่ไว้หลังรถ
กลิ่นอาหารที่โชยมาทำให้ดงเฮอยากที่จะลิ้มลองรสของอาหารอย่างมาก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคิบอมจะเอ่ยปากยกข้าวกล่องนั้นให้ดงเฮแต่อย่างใด
.........หืยยย ไอคนใจร้าย นาย ไอเด็กบ้า บ้า ๆ ๆ ๆ ที่สุด...................
ดงเฮได้แต่นั่งหันหน้าออกจากคิบอม มองออกไปนอกทางตลอดเวลาเพื่อให้ลืมว่าตอนนี้ตัวเองหิวมากแค่ไหน แต่มองไปตลอดทาง ทำไมร้านอาหารมันเยอะจนเขาแสบไส้
<<< การพบปะลูกค้าเริ่มขึ้นอย่างตรงเวลาและตรงไปตรงมา หมอนี่ดูมีสาระและพูดได้อย่างเป็นทางการจนไม่น่าเชื่อ ผมแทบไม่เชื่อหูที่เห็นหมอนี่พูดภาษาอังกฤษอย่างกับไฟแลบ ให้ตายสิ ทำไมมันไม่นิสัยดีกว่านี้นะ ผมจะได้ไม่รู้สึกว่ามันกำลังยั่วโมโหผมทุกวินาที
การประชุมพบปะลูกค้าทั้งสองงาน จบลงด้วยดีครับ ลูกค้ายิ้มแย้มแจ่มใส ร่วมลงทุกกับทางบริษัทอย่างไม่มีข้อแม้ ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า ไอบอสของผมมันพูดอะไรไปบ้าง ฟังออกบางคำ แต่ไม่สามารถจับใจความได้เลย ให้ตายสิ ข้อนี้ต้องยอมรับ มันเก่งจริงๆ
แต่.....ผมไม่บอกให้มันรู้หรอกว่าผมแอบชมมัน เดี๋ยวมันจะได้ใจ ตกเย็นครับ มันทิ้งผมไว้ที่ป้ายรถสาธารณะ โชคยังดีที่มันไปปุ๊บ พี่ฮีชอลก็ผ่านมาพอดี ผมเลยต้องให้บิ๊กบอสของผม ชดใช้แทนน้องชายตัวดีที่ทำกับผมไว้แสบสีสัน >>>>
“ฮ่าๆๆๆ.....ฉันบอกแล้ว ว่าไอหมอนี่มันร้าย” เสียงหัวเราะลั่นร้านอาหาร ก่อนที่จะถูกปรามด้วยสายตาโหดๆจากดงเฮที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
“พี่ไม่ต้องมาพูดเลย รู้ว่ามันร้ายแล้วโยนมาให้ผมทำไมล่ะครับ...ให้ผมอยู่ตำแหน่งเดิมผมก็พอใจอยู่แล้วน่ะ” ดงเฮตักอาหารเข้าปากคำโต
“เฮ้ ๆ ๆ ค่อยๆกินสิ เดี๋ยวก็ติดคอตายกันพอดีล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นขึ้นมา น้องฉันจะให้ใครช่วยห๊ะ” ฮีชอลแสร้งพูดเล่นๆ ก่อนจะจ้องมองแก้มตุ่ยๆของดงเฮเคี้ยวข้าวต่อไปอย่างไม่สนใจอะไร
“ผมไม่รู้ด้วย วันนี้พี่ต้องชดใช้ให้ผม ที่น้องชายตัวดีของพี่ทำให้ผมอดข้าว” ว่าแล้วก็ตักอาหารกินต่ออย่างไม่สนใจคนรอบข้าง
ไม่นาน ดงเฮก็กลับมาถึงบ้านด้วนรถยนต์ส่วนตัวของฮีชอล ที่ขับมาส่งถึงที่บ้าน เขาจัดการตัวเองเรียบร้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่เตียงนุ่มๆอันเป็นสวรรค์เล็กของเขา
“เห้อ...ให้ตายสิ ฉันอยากลาพักร้อน พรุ่งนี้ต้องไปเจอหมอนั่นอีกแล้ว เห้อ...เหนื่อยใจโคตรๆเลยว่ะ” เสียงถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วนถูกปล่อยออกมา ก่อนจะข่มตาให้หลับลง
1 ชั่วโมงผ่านไป........
“เอ๊ะ..! ทำไมไม่ง่วงเลยว๊ะ” ดงเฮพลิกตัวไปมา หามุมนอนที่เหมาะบนเตียง ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป........
“เห้ออ ทำไมไม่หลับว๊า......” ดงเฮลุกขึ้นนั่งบนเตียงนุ่ม ใช้มือเท้าคางกับเข่าไว้ ก่อนจะพยายามคิดให้ออกว่าเพราะอะไร
“อ๊ะ....กาแฟ หูยยย ถ้าอย่างงี้กี่โมงฉันจะได้นอนเนี้ย.....ให้ตายสิ ฮือๆ” ดงเฮหงายทิ้งตัวลงนอนกับเตียงนุ่ม ยกมือขึ้นปิดตาตัวเอง ก่อนจะพยายามทำให้ตัวเองง่วง และปิดไฟให้มืดที่สุด
ตีสาม.......
“หกร้อยห้าสิบเจ็ด....หก.ร้อ..ย...ห้า..สิบ.แปดดด...หกร้อ..ยห้าสิบ....เก้า คร๊อก....งฟี่.....”
ZZZzzzzzzzzZZZZZzzzzzzZZZZZzzzzz
ติ๊ด ๆๆๆๆ ๆๆๆๆ ๆๆๆๆ ๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุกยามเช้า ทำให้ร่างบางเด้งตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ดวงตายังคงพริ้มหลับไม่สามารถลืมขึ้นได้ ศีรษะที่โอนเอนไปมามันบ่งบอกว่าเขานอนไม่พอจริงๆ
มือขาวกวาดหานาฬิกาที่ดังไม่หยุด ก่อนจะจัดการกดปิดเสียงมันด้วยความเพลีย ขาเรียวก้าวลงจากเตียงช้าๆ เดินดิ่งไปเข้าห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล
จนถึงตอนนี้ เขาใช้เวลากว่าชั่วโมงในการตื่นจากที่นอนจนมายืนที่หน้าป้ายรถสาธารณะ สายตาพยายามเพ่งมองรถโดยสารประจำทางที่วิ่งมาแต่ไกล แต่ความมึนเวียนในศีรษะก็ทำให้เขายากที่จะทรงตัวได้ดี
>>> โชคดีครับ ที่บนรถมีที่ว่างมากมาย ผมจึงเลือกที่นั่งที่ว่างที่สุด เพื่อการพักสายตาที่สบายที่สุด แต่กว่าจะตื่น ผมก็เกือบเลยป้ายที่จะลง ทำเอาใจหายใจคว่ำครับ ผมเดินลงจากรถอย่างโซซัดโซเซ การนอนน้อยแบบนี้ ผมไม่เคยเป็นเลยตั้งแต่เรียนจบ และผมก็ต้องเผชิญกับมันอีกจนได้
ระหว่างที่ผมจะเดินเข้าไปในตัวตึกบริษัท ไอบอสบ้ามันก็โผล่มาอีกแล้วครับ ท่าทางการเดินที่มาดมั่นของมัน ทำให้ผมหมันไส้ และแล้วสายตามันก็จ้องมาที่ผมทันที ก่อนจะดิ่งมาทางผม โอ้ยยยให้ตายสิ ขอเวลาตั้งตัวซักพักไม่ได้หรอวะ <<<
ดงเฮพยายามตั้งตัวเองให้ตรง เดินอย่างปกติที่สุด เร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนแทบจะวิ่งด้วยซ้ำไป เขารีบกดลิฟต์ปิดไปด้วยความรวดเร็วเพราะเกรงว่าคิบอมอาจจะมาทันก็เป็นได้
คิบอมมองตามคนที่กำลังเร่งฝีเท้าหนีเขายิ้มๆ ก่อนจะส่ายหัวไปมากับท่าทางที่เดินยังไงก็ดูโซเซอยู่ดี ทำให้เขาปล่อยให้คนดังกล่าว เดินดิ่งไปก่อน เพราะยังไงซะ เขาก็ตามทันอยู่แล้ว แน่นอน
ติ๊ง!
ลิฟต์เปิดออกมาช้าๆ ดงเฮแอบมองซ้ายขวา ก่อนจะตั้งตัวตรงและเดินดิ่งไปที่ห้องทำงานอย่างมั่นอกมั่นใจว่าดูดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว
มือขาวเปิดประตูห้องออกเร็วๆเพื่อหลบสายใจผู้คน ในใจแอบกระหยิ่มยิ้มย่องว่าตัวเองคือผู้ชนะในเกมส์เดินแข่งกับบอสของเขา แต่พลาด
กระเป๋าที่ถือมาร่วงลงกับพื้นทันทีที่ตัวทั้งตัวเข้ามาอยู่ในห้องทำงาน
“อ้าว คุณลี มาแล้วหรอครับ”
>>>>> อ๊า.....ผมอยากจะตะโกนดังๆ นี่มันจะเป็นไปได้ไง ผมรู้ว่าลิฟต์ที่บริษัทเราไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่ยังไงซะ ไอหมอนี่ก็ขึ้นลิฟต์หลังผมด้วยซ้ำ แต่ทำไม ทำไมมันถึงมาถึงห้องทำงานก่อนผมได้ล่ะ
ดูท่ามันยิ้มสิครับ มันเยาะเย้ยผมชัดๆ แต่ผม...ผมไม่มีแรงที่จะโต้เถียงกับมันเลยด้วยซ้ำ ไอเด็กนี่ มันเล่นงานผมภายในวันเดียว วันนี้ ผมต้องตายแน่เลย<<<<<
คิบอมเดินดิ่งเข้ามาพร้อมแฟ้มงานของวันนี้ ก่อนจะวางมันลงที่โต๊ะทำงานของดงเฮ จ้องมองชายสีหน้าซีดเผือดนั้นด้วยรอยยิ้ม...ก่อนจะเดินมาหยุดที่ข้างๆดงเฮที่หน้าประตูห้อง
“ผมให้เวลาคุณ 10 นาที ในการอ่านแฟ้มเล่มนั้น ถ้าผมกลับมา คุณไม่พร้อมอธิบายล่ะก็ หึ...ทุกอย่างมันจะแย่กว่าเมื่อวานแน่นอน” ว่าแล้วร่างสูงก็กำลังจะเดินออกไป แต่จู่ๆ เขาก็ก้าวกลับเข้ามาในห้องหยุดที่ข้างๆดงเฮตามเดิม
“อ้อ...กระเป๋าคุณ หลุดมือแล้วนะครับ” คิบอมก้มลงเก็บกระเป๋าขึ้นมาใส่ที่มือของดงเฮที่ยืนนิ่งเป็นก้อนหิน ก่อนจะยิ้มกว้างๆแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป แต่ก่อนจะปิดประตู ก็ไม่ลืมหยอดคำพูดที่ทำให้ดงเฮต้องตกใจ
“ผ่านไป...3นาทีแล้วนะครับ”
>>> Writer Talk >>> เม้นหน่อยสิคะ นักอ่าน คนเข้าอ่านเยอะน๊า แต่ ยอดเม้นน้อยจัง
ถ้าเม้นน้อยขนาดนี้....ยกเลิกเรื่องนี้จะดีกว่ามั๊ย T~T เศร้า
ความคิดเห็น