ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    because i'm A GIRL [Sehun x Amber]

    ลำดับตอนที่ #7 : Cp.6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 204
      1
      9 ก.พ. 57

    ซื้อข่าวพวกนั้นมาให้หมด ตรวจสอบอย่าให้แพร่งพรายไปที่ไหนเข้าใจมั้ย……

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ว่าไงนะ ?เซฮุนกลับมาทำงานแล้วนะหรอ?



     

    “ค่ะ^^ กลับมาทำตั้งสองสามวันแล้ว อยู่ที่ชั้น32นี่เองเห็นประธานให้เทรนเนอร์คนใหม่ แลดูจะถูกคอกันดี ก็เลยทำงานร่วมกันได้ยาวๆนะค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงอยากจะพบก็ได้นะคะ ฉันจะติดต่อทางพาร์ทเนอร์ของเขาให้”

     

    “หึ เด็กคนนี้ไม่มีเงินคงรีบแจ้นไปหาที่พึ่งมากกว่า ไม่เป็นไร ฉันยังไม่เจอเขาตอนนี้หรอก ขอบใจมากนะจ้ะ อีกอย่างนึงฝากบอกประธานด้วยถ้าเขากลับมาจากเชจู สัปดาห์หน้ากลับมานอนบ้านได้ก็ดี คุณแม่จะไปตรวจสุขภาพ ฉันอยากให้เขาเป็นคนพาท่านไป”

     

    “ได้คะ ฉันจะบอกท่านแล้วเดี๋ยวจะพยายามเคลียร์ตารางให้^^ ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ”

     

    “จ้ะ ตามสบาย”

     

    ฮันเชอี เลขาสาววัยกลางคนที่คุ้นเคยลุกขึ้นเต็มสูงหลังจากจบบทสนทนาอันแสนยืดยาว ทั้งสองคนมักจะมีนัดเพื่อพูดคุยกันเป็นประจำถ้ามีโอกาส ที่โรงแรม ตามร้านอาหารบ้างแล้วแต่โอกาส

     

    นานมาแล้วที่ครอบครัวนี้ต่างฝ่ายต่างแยกกันอยู่

    แรกๆมันก็มีสาเหตุมาจากอาชีพการงานที่วุ่นวายตลอดเวลา อย่างสามีที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริหารโรงแรมชื่อดัง มีประชุมวันละสามหน มีงานกองโตต้องคอยเซ็น มีแขกรับรอง มีหุ้นส่วนที่แวะเวียนเข้ามาเจรจา เสาหลักของบ้านจึงตัดสินใจเปิดห้องสูทรบนชั้นสูงสุดของโรงแรมเป็นที่หลับนอนแทนบ้านหลังเก่าที่พร้อมหน้าไปด้วยภรรยา แม่และลูกชาย

     

    คนที่แข่งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีชิวิตอยู่รอด ยืนยาวและก้าวหน้า

     

    โอจางอุคพยายามสอนให้ลูกชายของเขาเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นผ่านวิธีการของตัวเอง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิดสักเท่าไหร่ ในเมื่อภรรยาของนักธุรกิจสูงอายุกลับมีความคิดที่อยากจะให้ลูกชายหยุดความเรื่อยเปื่อยด้วยการมีครอบครัว เมื่อถึงตอนนั้น โอเซฮุนก็จะเรียนรู้ชีวิตของการเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในฐานะช้างเท้าหน้า ไม่ใช่จากเกมส์ธุรกิจที่มีแต่จะสอนให้เด็กชายเติบโตอย่างอ้างว้างเหมือนเช่นพ่อของตัวเอง

    **********

    *************************

     

     

    “ฮ่ายยยย….ถ้าเคลียร์ stakeholdersโปรเจ็คนี้ของพ่อเสร็จแล้วนายจะกลับเลยรึปล่าว” ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีลายขวางทอดตัวลงบนเก้าอี้หลังจากค้นหาข้อมูลในเอกสารสปอนเซอร์และรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องมาหลายชั่วโมง

    คู่สนทนากระตุกยิ้มบางๆก่อนที่จะเดินอ้อยอิ่งนำกาแฟอุ่นในมือมาวางเอาไว้บนโต้ะรกๆของเจ้านายหนุ่ม

    “คุณจะกลับเลยรึปล่าวล่ะ ประธานให้ผมเอารายชื่อบริษัททางจีนทั้งหมดมาให้คุณแค่นี้เอง นี่ก็ดึกแล้วด้วย หรือเราออกไปหาอะไรกินสักหน่อยมั้ย มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง กาแฟมันทำให้หายง่วงก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้อิ่มท้องนะครับ^^” ฝ่ามือหนาวางลงบนไหล่กว้างที่ลู่ลงเพราะความอ่อนล้า โอเซฮุนปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งพร้อมกับปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยไปกับสัมผัสจากมืออุ่นๆ

     

    จะว่าไปนี่ก็เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่เซฮุนเข้ามาจริงๆจังกับงานในโรงแรมหลังจากมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นเงินและรถที่ผู้เป็นพ่อยกนำคืนกลับมาให้ หลังจากเด็กแสบอย่างเขาสร้างเรื่องหนีการดูตัวเอาไว้จนแม่ฮุบเอาทรัพย์สินทุกอย่างไปจนหมด ถึงจะไม่ชอบใจที่ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของผู้เป็นพ่อแต่ทางเลือกก็ไม่ได้มีมากมายนัก

     

    ชีวิตของเขาเลยผูกติดกับฮวางจื่อเทามากยิ่งขึ้นหลังจากที่พบกันวันนั้นที่คอนโด ความน่าเชื่อถือของชายจีนคนนี้มากขึ้นหลังจากการพบกันตอนแรกดูจะบุ่มบ่ามไปสักหน่อย แต่สายโทรศัพท์จากพ่อมันก็มากพอที่จะยืนยันว่าคนผิวเข้มไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรือลวงโอนเงินในบัญชี

    อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องมีเสียงบ่นกระปอดกระแปดจากแม่เรื่องการไปดูตัวครั้งใหม่ละนะ ใครๆก็รู้ว่าแม่มักจะไม่ก้าวก่ายเวลาที่เซฮุนอยู่กับพ่อนัก

    ……

    แทบเล็ตค่อยๆหรี่ไฟลงจนมืดสนิทพร้อมกับนิ้วยาวที่ปล่อยปากกาให้แน่นิ่งลงกับโต๊ะ

     

    “ดูคุณเหนื่อยมากแล้ว ไปกันเถอะครับ ถ้าเบื่ออาหารที่เล้าจ์ออกไปกินร้านดีๆข้างนอกก็ได้นี่นา มีภัตตาคารอาหารจีนอร่อยๆแนะนำอยู่นะ ^^

     

    “พ่อสั่งให้นายมาสอนงานฉันหรือมาเป็นลูกน้องฉันกันแน่ ฉันก็มีเงินน่า ทำไมชอบพูดว่าจะเลี้ยงจะเลี้ยงเรื่อย ฉันได้บัตรแล้ว ฉันจะจ่ายเอง แค่แนะนำร้านมาก็พอ”

    เซฮุนเด้งตัวเองขึ้นจากเก้าอี้หมุนนุ่มนิ่ม เขาเริ่มเสยผมยุ่งๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นรองเกินไปด้วยการเอาใจของจื่อเทาที่ดูจะทำให้เขาเสียศักดิ์ศักศรีนิดหน่อย คนตัวถูกสูงผลุดลุกผลุดนั่งเปิดเอากระเป๋าเงินที่เก็บเอาพกติดตัวไปด้วย เพราะอย่างที่จื่อเทาบอกนั่นละ หิวทีไร สมองมันก็เริ่มจะไม่ไหลลื่นเอาเสียดื้อๆ

     

    21:29pm

     

    หน้าจอมือถือบอกเอาไว้แบบนั้น ไม่มีเบอร์โทรคั่งค้างมาสักพักหลังจากอะไรๆเริ่มกลับมาเป็นปรกติ เขาไม่ได้เตร็ดเตร่เที่ยวเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ไปบาร์เมาหัวราน้ำเพื่อลืมผู้ชายเฮงซวยคนนั้น แน่นอนว่าเซฮุนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องของการประชุมของโรงแรมอีก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งฟังเคียงข้างพ่อเหมือนเช่นแต่ก่อนเพื่อการศึกษางานแม้ว่าตลอดมาเซฮุนยอมรับว่าเขาเข้าไปจ้องหน้าและแอบแชทคาเคากับลูกชายเจ้าของบริษัทโต้ะตรงข้าม
    อย่างคิมจงอินมากกว่าฟังเนื้อหางานอย่างตั้งใจ

     

    ในเมื่อตอนนี้เขาต้องศึกษาธุรกิจของพ่ออย่างจริงจังเพื่อแลกกับเงินและการไม่แต่งงานแล้ว

    คิมจงอินสมควรจะอยู่ในที่ที่ไม่สามารถออกมารบกวนหัวใจของเขาได้อีก



     

    “เซฮุน

     

     

     “…..


     

     “โอเซฮุน..!?

     

     

     “………? มีอะไรรึปล่าว …..


     

    “หิวมากแล้วแน่ๆใช่ไหมเนี่ยะ ผมเรียกคุณตั้งนานไม่เห็นตอบกลับเลย เอาแต่จ้องมือถือ---ไปรถผมนะ^^ ท่านประธานให้เกียรติออกค่าน้ำมันตอนไปส่งท่านที่สนามบิน ผมไม่อยากเอาไปขับเล่นให้เสียประโยชน์น่ะ”

    คนผิวเข้มฉีกยิ้มกว้างๆ ใบหน้าคมๆนั่นเวลามีอารมณ์สนุกสนานมักจะดูแตกต่างจากเวลาที่เรียบเฉยอย่างสิ้นเชิง ดวงตาที่ดุร้ายมีรอยตีนกาเล็กน้อยชวนให้ขำ
    จากประวัติที่เขารับรู้คร่าวๆ ฮวางจื่อเทามาทำให้พ่อตั้งแต่เพิ่งจบใหม่ในหน้าดิวงานระหว่างประเทศ
    ด้วยความที่เขาเป็นคนจีนโดยกำเนิดที่มาเรียนต่อที่เกาหลีจึงไม่ใช่แค่พูดเกาหลีได้คล่องเพียงอย่างเดียวแน่นอนว่าการที่เพื่อนใหม่รู้หลากหลายภาษาทำให้โอเซฮุนอิจฉาเล็กน้อย

     

     

    ,,,,,รถของชาวบ้านถึงแม้จะไม่สบายเท่ารถตัวเองแต่ก็นะ…..

     

     

    แสงไฟยามค่ำคืนวูบวาบเปลี่ยนไปมาเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเกร็งคอขับเองให้ปวดหัวละน่า

     

    ไม่ทันที่จะได้พักสายตาดี ภัตตาคารอาหารหรูในย่านบงกึนซาโร กังนัม
    “ชีหง”
    ป้ายไฟแสดงชื่อร้านตัวเบ้อเริ่มตรงหน้าทำเอาคนท้องว่างตาลายไปชัวขณะหนึ่ง เส้นทางเข้าตัวเมืองที่ไม่ไกล้ไม่ไกลจากโรมแรมทำให้เซฮุนไม่แปลกใจนัก การตกแต่งที่หราก็นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเซฮุนสักเท่าไหร่ จะมีก็เมนูอาหารที่จื่อเทาอาสาจะเป็นคนแนะนำให้ลิ้มลองก็เท่านั้นเอง

     

    ห้องสูทรสำหรับสี่ที่ถูกเปิดออกไว้ให้เขาสองคนเข้าไปนั่งอย่างสบายๆด้วยอาหารที่ถูกเสิร์ฟวางเอาไว้แล้ว
    เจ้าหมูตัวสีน้ำตาลเข้มขนาดกลางถูกย่างจนหอมกรุ่นถูกพนักงานเปิดฝาโชว์ตรงหน้าอย่างยิ้มแย้ม

     

    “ฉันยังไม่ได้สั่งอะไรเลยนะ ทำไม่มีของกินตั้งสามสี่อย่างมาเสิร์ฟแล้วล่ะ O_O

     

    คนตัวผอมกวาดสายตาอย่างลวกๆไปรอบโต้ะที่ดึงดูดน้ำย่อยตรงหน้า

    ไม่นานนักคำตอบจากหนุ่มเชื้อสายจีนก็ถูกเปิดเผยออกมาด้วยแววตาที่เป็นประกาย

     

    “ผมสั่งทางโทรศัพท์เอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะออกมา เห็นคุณดูจะหิวมาก เลยไม่อยากให้รอ นั่งสิ ผมดึงเก้าอี้ให้ ไม่ต้องกังวลหรอก ถอดเสื้อโค้ทก่อนดีกว่า ในนี่อุ่นมากนะ^^

     

    ……อืม

     

    จะบอกว่าชอบแบบนี้ก็ไม่ถูกนัก หรือไม่ชอบก็เลยก็ออกคงไม่ใช่อีกอยู่ดี

    เซฮุนไม่ชอบให้ใครมาเทคแคร์ หรือรู้ดีเกี่ยวกับตัวเขามากเกินไปถ้าหากเขาไม่อยากให้รู้

    เพราะถ้าทำแบบนั้นก็คงเหมือนกับที่คิมจงอินเคยทำ

    เขาเองก็อาจจะเผลอทำเหมือนที่เคยทำอีก

    ความรู้สึกและหัวใจของเซฮุนจะสั่นไหวอีกรึปล่าว….

     

     

     

    “ไม่นึกว่าคุณจะชอบถ่ายของกินก่อนจะลงมือเหมือนพวกเด็กๆด้วยนะ ฮ่าๆ ติดผมไปในรูปต้องตลกแหงๆ^^ ขอบตาผมคล้ำมากแน่ๆเลยTT

     

    อาหารจานแล้วจานเล่าว่างลงอย่างไม่รู้หมดสิ้น จื่อเทาก็ยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริการไม่เลิกแถมยังชวนคุยตลอดเวลาการพักผ่อน ทั้งแนะนำชื่ออาหาร และเล่าเรื่องราวเรื่อยเปื่อยระหว่างที่เซฮุนเอาแต่ถ่ายรูปจานอาหารใหญ่ๆไม่เลิก

    …………..

     

     

     

     

     

     

     

     

    อืดดดด---

     

     

     

     

    O*O

     

     

     

     

     

    Prince*OHse -send you a photo

    Prince*OHse -send you a photo

    Prince*OHse-send you a photo

    Prince*OHse -send you a photo

     

     

    =_=

     



    “ยังไม่ตายจริงๆด้วยไอ้ตุ้ดนี่-*-………


    =_=^



    ….

    คิดว่าถ่ายอิหมูย่างผักรวมๆผัด เหล้าหรูๆแล้วฉันจะอิจฉาสินะ --- ไม่มีมิตรสหายในธุรกิจจริงให้ตายดิ

    เด็กสาวในชุดกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อกันหนาวตัวโคร่งบ่นเอื่อยอ่ายระหว่างเลื่อนนิ้วผ่านหน้าจอ
    มันแย่นิดหน่อยที่ถึงจะเกือบสี่ทุ่มแล้วกลับต้องมานั่งแช่หน้าร้านสะดวกซื้อพร้อมกับเบียร์กระป๋องสองสามใบที่ยับยู่ยี่

    มือถือที่หยุดสั่นไปหลายวัน หลังกลับมาแจ้งเตือนอีกครั้งดูท่าจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักเท่าไหร่

    ……

    -_-;;

    =_=

    ถึงปากจะบอกว่ารูปแบบที่ถูกส่งมาจะน่าขยะแขยงยังไง แต่น้ำย่อยในกระเพาะดันไหลออกมาไม่หยุดหย่อน

    บะหมี่สำเร็จรูปที่กินติดต่อกันมาสี่ห้าวันทำเอาเลี่ยนเอียนจนรู้สึกเข็ดขยาด เพียงแค่จ้องมองกระป๋องก็จินตนาการออกว่าแบบไหนรสอะไรโดยที่ไม่ต้องเสียเงินจ่ายและเติมน้ำร้อน ต่อให้เห็นมันวางขายเป็นแถวยาวล่อตาล่อใจอยู่บนชั้นวางในร้านสะดวกซื้อก็ไม่มีฟีลลิ่งโหยหาอะไรใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าเซฮุนจะได้ทำการโอนเงินค่าจ้างงวดใหญ่ตามที่ให้สัญญาไว้แล้วก็ตามที แถมนี่ยังเป็นเงินก้อนโตก้อนแรกที่เคยได้ในชีวิต หลิวอี้ยิ่งไม่มั่นใจที่จะเอามันไปจับจ่ายเรื่อยเปื่อยโดยใช่เหตุ

     

    และพรุ่งนี้เด็กสาวจะกลับไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กที่คยองกีด้วยตั๋วที่เพิ่งจองได้

     

    สัปดาห์อันแสนว่างปล่าวคงเหมาะสุดแล้วที่จะกลับไปตอบแทนที่ซุกหัวนอนที่แรกของตัวเองบ้าง ความตั้งใจยังคงเหมือนเดิมอย่างเช่นที่เคยคิดเอาไว้ตั้งแต่ตัดสินใจทำงานกับโอเซฮุน ต่อให้ค่าจ้างจะได้ช้าหรือเร็วต้องไม่มีทางลืมหัวนอนปลายเท้าเด็ดขาด ติดที่หลายปีก่อนหน้านี้ ต่อให้หลิวอี้ทำงานพิเศษมากมายขนาดไหน ยอดเงินที่สะสมกลับมีเพียงพอแค่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น

     

     

    สำคัญที่สุดคืออาชีพที่เธอทำอยู่ไม่ได้มีความมั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

    เซฮุนเริ่มไปๆกลับระหว่างคอนโดและที่โรงแรมอยู่บ่อยครั้งโดยที่ทิ้งการ์ดสำรองอีกใบไว้ให้พอใช้สอยพื้นที่ห้องส่วนหนึ่งสำหรับหลับนอน อันที่จริงเธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรนัก ด้วยความชินชาที่ต้องกลับบ้านดึกๆดื่นๆ

    ใช้เวลาสิงตามหน้าร้านซุปเปอร์ ไม่ก็ริมแม่น้ำฮันด้วยแอร์ธรรมชาติบ้าง ยังไงซะตอนนี้หลิวอี้เองก็พอจะเห็นเค้าลางของอนาคตข้างหน้าแล้ว

    ไกล้เวลาที่จะต้องปล่อยภารกิจในมือชิ้นนี้ในไม่ช้า...

     

    โอเซฮุนและคิมจงอินไอ้เบื้อกตัวดำที่เธอเคยสาปแช่งให้หายไปจากจักรวาลทางช้างเผือกกำลังจะค่อยๆสูญหายไปจากโลกของหลิวอี้จริงๆอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

    ตั้งแต่เขาได้เงินคืนจากพ่อ กลับไปทำงานกับฮวางจื่อเทาคนน่าสงสัยในวันนั้น อะไรรอบๆตัวก็ค่อยๆกลับมาสุขสงบ ไม่มีภารกิจงี่เง่าหรือต้องแต่งตัวแต่เช้าเพื่อออกไปไหนต่อไหนด้วยกัน การเจอหน้ากันกลายเป็นเรื่องยากเพราะเจ้าเด็กทายาทเศรษฐีกลับกลายไปพักอยู่ที่โรงแรมเป็นที่หลักด้วยงานที่มากขึ้นหลังจากได้บัตรเครดิตคืน
    โอเซฮุนคงหวาดกลัวชีวิตที่ขาดเงินมากกว่าอะไรดี

    มากกว่าศักดิ์ศรีดิ์ที่มีต่อพ่อตัวเองเสียอีก เหลือเชื่อสุดๆ

     
     

    แต่ถึงจะบอกว่ามันสงบรูหูสบายหัวใจดีก็เถอะ

     หลายวันมานี้ นอกจากเบอร์สถานรับเลี้ยงเด็กคยองกีที่เหมือนว่าจะติดต่อไม่ได้ สิ่งที่น่าหงุดหงิดใจยิ่งกว่ากลับเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วของโอเซฮุนแล้วฮวางจื่อเทามากว่า

     

     

    “ไอ้ลุงนั่นวางแผนอะไรกับลูกตัวเองกันแน่ วันนั้นก็เสือกไล้เราลงก่อนซะได้ อดฟังต่อเลย=3=” กระป๋องเบียร์ปล่าวในมือถูกขยำจนเสียทรงเมื่อคนมือหนักเริ่มอารมณ์เสียอีกครั้ง

     

    “ถ้าฉลาดกว่าคนปรกติสักหน่อยก็คงไม่น่าห่วงแบบนี้นั่นละ หมอนั่นยังสั่งอาหารข้างทางไม่เป็นด้วยซ้ำปัดโธ่=o=

    …..

    “ ฮึ่ยยยย คิดไปคิดมาก็สมเพช โคตรหมดประโชน์เลยวะหลิวอี้เอ้ย ---พอได้ผู้ชายใหม่ๆมาคิมจงอินไม่เห็นจะมีอิทธิพลอะไรแล้วเลย ทำมาเป็นรักร้อนซ่อนลึกอยู่ได้ตั้งนานสงนาน ถ้าลืมง่ายแบบนี้นะ ฉันไม่ต้องมาปลอมตัวเป็นผู้ชายแกก็ลืมไอ้กร๊วกนั่นได้โว้ย ก็แค่หใครสักคนมาดามใจน่ะ! โง่ชิบ”

    …..

    ถ้อยคำสบถต่างๆนาๆพรั่งพรูอย่างไม่รู้จบสิ้น เสียงแจ้งเตือนรูปภาพใบสุดท้ายก็หมดลงพอดี

     

    ……..



    Prince*OHse -send you a photo




    ……….

    O*O


    22รูป!!

     

    =_=

    “กินหรือเปิดโรงเจ ไอ้เจ้กนี่ก็รวยมาจากไหนกันวะเนี่ยะ---เดี๋ยวน้องตุ้ดก็หลงโงหัวไม่ขึ้นหรอก=3= สู้เบียร์ฉันก็ไม่ได้”

     

     

    อีกฝากของถนนกว้าง รถคันสีดำที่กำลังขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วค่อยๆผ่อนความไวลงช้าๆ คล้ายกับว่าคนภายในนั้นมีความต้องการบางอย่างในร้านสะดวกซื้อธรรมดาๆข้างทาง

    หญิงสูงวัยในเบาะด้านหลังคอยใช้สายตามองลอดผ่านกระจกที่ลดร่นลงเมื่อสังเกตเห็นใครบางคนที่คุ้นเคยกับกระป๋องเครื่องดื่มบางอย่างสามสี่ใบบนโต้ะพับด้านนอก เธอจัดแจงบอกกับคนขับให้วนเข้ามาไกล้มากขึ้นเมื่อความอยากรู้เป็นสาเหตุ และไม่ผิดจากที่คาดเดา

    คนร่างเล็กก้าวลงจากพาหนะของตัวเองราวกับย่องเบา แน่นอนว่าคนเป็นเด็กที่เอาแต่จิ้มมือถือไม่ได้รู้สึกรู้สากับสิ่งรอบๆตัวนัก

    ...

    “นั่งด้วยได้มั้ยจ้ะ...พอดีโต้ะตรงนั้นมันเปรอะน่ะ^^

     

    “อืม เอาดิ“

     

    “.......”

    ได้แต่เลิกคิ้วสูงให้กับคำตอบรับคำตอบรับห้วนๆของเด็กรุ่นราวคราวลูกตรงหน้า เธอยังคงเป็นฝ่ายเอ่ยคุยต่อไปพร้อมกับพยักเพยิดเป็นเชิงให้คนขับรถดับเครื่องรอไปก่อน

     

    “กินเบียร์คนเดียวจะไปอร่อยอะไร ---ให้ฉันกินเป็นเพื่อนมั้ยหลิวอี้??

     

    “....เห~~!!??O_O” เสียงเรียกชื่ออย่างกันเองทำเอาคนได้ยินถึงกับเสดวงตาโตขึ้นมาจ้องมองด้วยเสียงสบถชุดใหญ่

    “อะ...คะ คุณป้า!!!!

    ร่างสูงที่เพิ่งจะรู้สึกตัวทำเอาผลุดนั่งไม่เป็นท่า สันหลังยืดยาวที่แตะกับเก้าอี้คล้ายกับคนใกล้หลับเต็มทน
    ไม่รวมขาแข้งที่เลื้อยขนานไปกับพื้นฟุตบาท มองให้ตายยังไงมันช่างเป็นบุคลิกที่ดูไม่ได้เป็นคนเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างนั้นเสียงละล่ำลำลักทักทายผู้ใหญ่ที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวออกจะน่าขันระคนน่าเอ็นดูสำหรับโอฮาจองเสียมากกว่า

    “ขอโทษครับ พอดี---พอดีไม่ได้มองว่าจะเป็นคุณป้า ....อะ สวัสดีนะฮะ!!” หลิวอี้ลุกเต็มความสูงเพิ่อโค้งทำความเคารพอย่างเป็นทางการอีกครั้ง กรอบหน้าซีดและหัวยุ่งๆดูจะมีเหงื่อซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว

     

    “ตามสบายจ้ะ โอ้ะโฮ้ะ^^----เด็กที่ไหนนะ สอนฉันกินเยื่อไผ่เพื่อสุขภาพซะดิบดีแต่ลับหลังตัวเองกลับมากินเบียร์เอาซะเยอะแยะเป็นอยู่อย่างนี้...ดูสิ”

     

    “แห่ๆ^O^;;

     

    “อกหักละสิ เซฮุนเค้าทิ้งเธอแล้วใช่มั้ยล่ะ”

     

    “เหหหหหห~~~O[]O....ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณป้า –ความจริงที่เซฮุนพูดไป เราเป็นแค่เพื่อน—ผมหมายถึงเพื่อนรู้จักกันเท่านั้นเอง โธ่ คุณป้าก็TT

    หลิวอี้หยุนกำลังสำผัสได้ถึงบทสนทนาที่แลดูเหมือนะรรมดาแต่กลับไม่ธรรมดา ใบหน้ายิ้มๆทำให้ไม่สามารถเดาอารมณ์อะไรได้ถูกนักถ้าดูเผินๆจากภายนอก ถึงจะอยู่นอกเวลางาน ไม่มีเซฮุนคอยดึงเรื่องข้างๆ อย่างๆน้อยๆก็ต้องทำให้รู้ไม่ได้ว่าเธอเป็นผู้หญิง!

     

    “----^^ แค่เห็นว่าเซฮุนอยู่กับเธอตลอดเลยพูดไปแบบนั้นเอง--- ฉันรู้เรื่องแล้วล่ะนะ ที่เซฮุนไปอยู่กับพาร์ทเนอร์เขาที่โรงแรม..คงไม่อยากให้ฉันจัดการชีวิตเขาอีก” แววตาที่เป็นประกายสู้แสงไฟวิบวับยามค่ำคืนรอบๆตัวหลุบต่ำเล็กน้อยเมื่อคำพูดสุดท้ายจบลง

    ดอกไม้สวยงามเหี่ยวเฉาได้ไม่นานนัก รอยยิ้มเล็กๆกับริ้วรอยบนใบหน้าของโอฮาจองกลับมาอย่างรวดเร็วผ่านเสียงสดใสอีกครั้งราวกับเล่นละคร

     

    “ถึงจะบอกเป็นแค่เพื่อนกันก็เถอะ แต่เธอดูไม่ดีเท่าไหร่เลยนี่นา... ร่างกายคนหนุ่มสาวแข็งแรงยังไง แต่ข้างในใจคนเรามันก็เหงาได้ง่ายๆเสมอนั่นล่ะ จริงรึปล่าวจ้ะ^^

     

    นิ้วมือภายใต้เสื้อโค้ทตัวสวยยกขึ้นจิ้มกลางหน้าอกของเด็กชาย(?)ที่นั่งตรงกันข้าม ไหล่แคบหุบลงอัตโนมัติราวกับว่าจะถูกไขความจริงในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้ายังไงอย่างนั้น

     

    เพราะเสื้อกันหนาวมันตัวโตก็เลยไม่ได้รัดหน้าอกมายังไงเล่าโธ่เอ้ยTT

     

    หลิวอี้ยิ้มแห้งๆเป็นการตอบรับพลางใช้มือกวาดเศษซากกระป๋องเบียร์รอบๆโต้ะให้กองรวมอยู่ตรงกลาง มีขยะขวางหูขวางตูระหว่างพูดคุยแบบนั้นคงพิลึกแย่ แถมดูจากท่าทางแม่ของเซฮุนที่เธอกลัวนักกลัวหนาก็ยังคงพูดอะไรเรื่อยเปื่อยออกมาเรื่อยๆด้วยสายตาที่ทอดยาว

     

    “ฉันเองก็เคยแอบกินเหล้าคนเดียวเหมือนกันเวลาที่เหงาๆ ---เวลาที่มองไปรอบๆแล้วไม่เห็นใครอยู่รอบข้าง....บางทีก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้นะ....ฉันทำอะไรผิดนะ.....แต่ก็บอกช่างมันไปเรื่อยๆแบบนั้น ...อย่างน้อยๆของพวกนี้ก็ช่วยจอบคำถามได้ดี แปปๆก็ง่วงๆ แปปๆก็หลับแล้วค่อยตื่นมาคิดเรื่องทำวันใหม่ๆกันอีกรอบนึง.....”

    เวลาที่คนเราจะเปิดเผยความจริงใจที่สุดก็คงเป็นเวลาที่เราได้พูดถึงตัวเองไปเรื่อยๆแบบนั้นละมั้ง..

    อย่างน้อยๆก็ผู้หญิงสูงวัยที่มีเงินทองล้นฟ้าคนนี้ที่กำลังขลุกอยู่กับเด็กกระจอกข้างทางในเวลาดึกดื่นแบบนี้

     

    “ถ้างั้น........คุณป้าเอาเบียร์หน่อยมั้ยละฮะ ผมมีอีกในถุงบนพื้น ถ้า......ถ้าไม่รังเกียจว่ามันราคาถูกน่ะ แห่ะๆ^^::

     

    “---ย่าห~~ คิดว่าฉันเป็นสาวราชวงศ์รึไงกัน......ฮ่าฮ่า...ถ้างั้นไม่ขอเกรงใจนะจ้ะ^^

    เสียงหัวเราะเล็กๆช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ ดูท่าว่าความสัมพันธ์ดูเหมือนจะดีขึ้นมากกว่าตอนที่อยู่ในบ้านหรูหราหลังนั้นเสียอีก ถนนฟุตบาทที่มีแสงไฟจากร้านสะดวกซื้อเล็กๆก็ไม่เลวนักเมื่อเทียบกับความอึดอัดใจที่เคยมี บางอย่างที่จุกแน่นค่อยๆถูกกำจัดออกไปแล้วจนเกือบหมด ครอบครัวของเซฮุนคงไม่ได้มีความสุขอย่างที่ใครๆเข้าใจ หรือบางทีพวกเขาแค่ทำให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเองก็เท่านั้น

     

    เบียร์กระป๋องเล็กถูกจิบอย่างเชื่องช้าราวกับว่ามันได้กลายเป็นไวน์ราคาแพงไปแล้วเรียบร้อย

     

    “......คุณป้า......คุณป้ารู้จักคนที่ชื่อจื่อเทาเหมือนกันใช่ไหมครับ....” ประโยคคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวหลุดออกมา คงไม่มีใครที่จะอธิบายเรื่องพวกนี้ได้อีกแล้ว นอกเสียจากคนในครอบครัวของเซฮุนเอง

     

    “.....อืม....ไม่หรอกจ้ะ---ยังไม่เคยเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ วันนี้ฉันก็แวะไปที่โรงแรม แต่ก็ไม่ได้ไปหาพวกเค้าหรอก...เดี๋ยวจะพาลอารมณ์เสียไปกันอีก......มีอะไรรึปล่าว?

     

    “ปล่าวฮะ...แค่รู้สึก—........“

     

    “ฉันฝากเธอดูแลเซฮุนด้วยนะ”

     

    “ฮะ!!??O_O

     

    “ถึงจะเป็นแม่ แต่ดูเหมือนเค้ายังจะอยากเจอเธอมากกว่าฉันด้วยซ้ำไป –-ปรกติเซฮุนก็ไม่เคยพาเพื่อนมาให้ที่บ้านรู้จัก มีแค่เธอคนเดียวที่ฉันพอจะพูดคุยได้....ยังไงถ้าได้เจอกันก็ฝากดูแลเซฮุนด้วยนะจ้ะ ....ฉันเองก็แค่อยากให้เขาโตขึ้นกว่านี้ มีครอบครัวที่อุบอุ่นน่ารัก มีความสุขกับชีวิตในอนาคต จะได้ไม่เหมือนประธานโอ รวมถึงฉันด้วย---“

     

    “.............”

     

    “ไม่แปลกหรอกที่เธอจะกลัวฉัน ใครๆก็กลัวโอฮาจองทั้งนั้น..ที่ฉันต้องทำดุด่าเคี่ยวเข็ญให้เซฮุนดูตัวบ่อยๆก็แค่เข้าใจดีว่าการมีครอบครัวที่อบอุ่นครอบครัวที่มีความสุขในอนาคตมันดีแค่ไหน ตอนนี้เซฮุนคงจะเริ่มเดินตามเส้นทางที่พ่อเค้าอยากให้เป็น ทำงาน ทำงานแล้วก็ทำงาน งานที่ทำให้สุดท้ายรอบๆตัวเราจะไม่เหลือใคร.......ฉันพูดในฐานะที่เลี้ยงเขามา เซฮุนไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเห็นหรอกนะจ้ะ......เธอเข้าใจใช่มั้ยหลิวอี้”

     

    “ฮะ...”

     

    “ขอบใจมากนะจ้ะ”

    รอยยิ้มที่เกิดขึ้นแล้วจบลงของโอฮาจองรวนเรอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ คำพูดที่เหมือนว่ากำลังจะมอบปัญหาของโลกทั้งใบให้เด็กยาจกคนนึงแบกรับเอาไว้ทำให้หลิวอี้เริ่มสับสนกับสิ่งที่ต้องทำในวันข้างหน้า ฝ่ามือสีขาวซีดยกขึ้นลูบศีรษะของเด็กสาวอย่างเอ็นดูก่อนที่คนสูงวัยจะค่อยลุกขึ้นพร้อมกับกระดกเบียร์อึกสุดท้ายจนหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ดูให้ตายก็คงไม่มีใครเชื่อว่าจะได้เห็นกริยาห่ามๆจากคนที่แต่งเนื้อแต่งตัวด้วยของราคาแพงแบบนี้

     

    อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าคนบ้านนี้ไม่ได้โหดร้ายไปซะหมด

     

    “ฮ่ายยย>o< นี่นามบัตรฉัน  มีปัญหาอะไรติดต่อฉันมาได้ -----ยกเว้นชวนกินเจ้านี้นะ ^^ ไว้เจอกันจ้ะ”

    กระป๋องเบียร์ในมือของโอฮาจองแกว่งไกวไปมาเมื่อเธอพูดถึงมัน แน่นอนคงจะไม่มีครั้งต่อไปอีกที่คนมีเงินจะมาทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++

     

     

    “น้ำหนักฉันขึ้นแหง....ฮ้า^^ ฉัน...ขอตัวไปด้านนอกแปปนึงนะ”

    เซฮุนลุกขึ้นหลังจากมือดึกดำเนินไปด้วยดีกว่าชั่วโมง—ถึงแม้ว่าท้องจะเร่มหนักอึ้งแต่บางอย่างเริ่มรบกวนความคิดของเขานิดหน่อย และร่างสูงหวังว่าอากาศด้านนอกคงจะช่วยให้ดีขึ้น หรือไม่เขาอาจจะลงทุนจุดบุหรี่สักตัวขึ้นมาสูบระหว่างนั้น


    --ถึงขั้นยอมผิวพรรณเสียสัก5นาที =_=


    ฮวางจื่อเทายังคงใช้รอยยิ้มแทนคำตกลง –เพราะเขาเองก็มีเรื่องที่ต้องทำนอกเหนือช่วงเวลาที่ไม่มีเซฮุนอยู่ข้างๆเช่นกัน

     

    -ประธานโอ-theshilla-

     calling..........
    .......
    .......




     

    “ครับผมฮวางจื่อเทา.........”


    “.........”


    “อยู่ที่ชีหง-----ครับ.....เรียบร้อยดี.........เรื่องที่เราตกลงกันเอาไว้ ผมว่าอีกไม่นานโรงแรมสาขาที่จีน เซฮุนพร้อมที่จะไปอยู่บริหารที่นั่นแล้วละ---ผมแค่จะมาย้ำเรื่องผลประโยชน์ของครอบครัวผมต่างหาก”


    "......".

     

     

     

     

    ....

    ......

    ......

    ด้านนอกร้านไม่ถือกับเลวร้ายนัก แต่ก็ถือว่าพอจะมีเวลาให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย

    จื่อเทา...จื่อเทา.....ฮวางจื่อเทา...

    ร่างสูงเรียกชื่อคนใบหน้าคมเมื่อครู่ในหัวกลับไปกลับมาซ้ำๆก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ที่ไม่คิดว่าจะเรียกโทรออกไปเวลานี้ด้วยซ้ำ หน้าจอและการแจ้งเตือนยังคงสงบนิ่งอยู่เหมือนเคย มีเพียงแจ้งคอมเม้นในkakao storyไม่กี่อันก็เท่านั้น..

     

    “หนอย.....กล้ามากที่ไม่เปิดดูรูปของกินฉันเลย ไอเบื้อก-*-“

     


    บางทีเซฮุนก็รู้สึกไม่เข้าใจตัวเองในบางครั้งเหมือนกัน 
    ทำไมถึงต้องรู้สึกว่าทุกอย่างมันน่าอึดอัดไปซะหมด ยกเว้นกับไอ้หมอนี่...


    >>ลูกน้อง<<

    Calling…………..

    ...

    ...

    ...

    ...

     

    -มีไร!!??-

     ...
    -3-

     

    “ย่าห!!! นี่ ได้เงินแล้วพูดจาแบบนี้กับฉันแล้วรึไง หา!

     

    -ฉันกำลังยุ่งมากๆ-*- ละนายไม่กินของถวายจินซีฮ่องเต้แล้วไง!?-

     

    “อ้าาา -_,-...แสดงว่าเธอเห็นรูปของกินของฉันแต่คงหิวจนไม่กล้าเปิดดูละสินะ...ก็ว่า...ทำเป็นหยิ่งไม่เปิดดูเลยสักอันเดียว...หึหึ-_,- เอาน่ะๆ ฉันใจดี วันหลังจะซื้อของแห้งไปเก็บไว้ที่คอนโดให้ก็แล้วกัน


    -ฮึ่ยยยยย...ถ้าไม่มีธุระอะไรมากกว่านี้ฉันวางละนะ..-*-

     

    เห้ยเดี๋ยวๆๆดิ....ฉัน—ว่าจะฝากเช็คเอกสารของห้องด้วย ถ้าไงถ้าที่ตู้ด้านล่างไม่มีก็ลองถามพนักงาน ฉันสั่งซื้อโปรตีนไว้---ถ้าเค้ามาส่งเก็บไว้ให้ด้วยก็แล้วกัน =3=  

     

    -แล้วอิส่งของพวกนี้จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วนะ ฉันไม่มีเงินติดตัวหรอกนะเว้ย-

     

    “.........”

     

    -นี่ อยู่รึปล่าว.....เซฮุน!-

     


    “คะ...คิมจงอิน.....”

     


    -ฉัน!ถาม!เรื่อง!ค่าสั่งของ!ต่างหาก!!

     

    เสียงร้องตะโกนของปลายสายดูจะแหบพร่าไปชั่วขณะหนึ่งทันทีที่ร่างสูงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาที่เบิกโพลง ชายหนุ่มผิวสีแทนที่เพิ่งก้าวออกจากประตูด้วยชุดสูทรลำลองดูน่าภูมิฐานกำลังเป็นตัวปัญหาใหญ่ของโอเซฮุนโดยที่ไม่สามรถเรียกหาตัวช่วยอะไรได้เลยในเวลานี้

     

    เด็กชายกลืนน้ำลายที่แห้งผากทั้งๆที่ปากยังคงเรียกชื่อคิมจงอินวนไปวนมาใส่หูโทรศัพท์ด้วยความลืมตัว

    มันคงนานมากๆแล้วที่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับแฟนเก่าของตัวเองอย่างจริงจัง ไม่สิ...ไม่ได้คุยเลยตั้งแต่วันที่ถูกบอกเลิกต่างหาก

     

    “มาหาอะไรกินหรอเซฮุน....” ประโยคคำถามถูกจู่โจ่มในขณะที่จงอินโค้งน้อยๆให้กับเหล่าสหายของเขาที่ทยอยโบกมืออำลาอยู่เบื้องหลัง “ฉันมาคุยงานที่นี่นิดหน่อย บังเอิญจังเลยนะ...”

     

    “...อืม”

     

    “ฉันเห็นนายตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว----แฟนใหม่ละสิท่า...เด็กนั่นที่นายเคยควงไปไหนต่ออย่าบอกว่าเบื่อแล้วเลิกราไปแล้ว ใช่ไหมละ?

     

    “......”

    แน่นอนว่าเซฮุนเคยอยากให้จงอินหึงเขากับหลิวอี้ นั่นเป็นเหตุผลนึงที่เขาเริ่มทำเรื่องบ้าๆที่ผ่านมาทั้งหมดออกไป หาเรื่องจ้างผู้หญิงแปลกหน้าให้มาเดทกับตัวเองทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่อง ดูเหมือนว่ามุกตลกฝืดแบบนั้นจะดูได้ผลไม่มากก็น้อย ที่แน่ๆคือจงอินก็คงตามข่าวคราวของเขาอยู่บ้างถึงได้เข้าใจว่าตอนนี้เขากำลังพูดคุยกับใครอยู่...


    แววตาที่เย็นชาคู่นั้นราวกับจะกรีดแทงลงไปในหัวใจของเซฮุนอย่างเนิบนาบ ทว่าแสนเจ็บปวดทรมาน

    ทั้งๆที่เป็นการพูดคุยครั้งแรกระหว่างเขาทั้งสองคน แต่คำถามทั้งหมดที่หลุดออกมากลับไม่ได้แสดงถึงความห่วงใย ถามไถ่สุขทุกข์ของกันและกันเลยแม้แต่นิดเดียว..


    ทำให้ใครสักคนกลับมารัก ทำไมมันช่างยากเหลือเกิน..

    เขาสมควรจะเดินหันหลังกลับเข้าไปและบอกจื่อเทาว่าฉันอิ่มแล้ว พวกเรากลับกันเถอะนะ

     หรือจะอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พูดคุย ตอบคำถามอะไรก็ได้อย่างที่จงอินต้องการ ....

    คงจะไม่ทางทำมันได้อีกถ้าสักวันแฟนสาวของเขาอยู่เคียงข้าง ไม่มีวันที่คิมจงอินจะยอมบื้อเพื่อแนะนำแม่สาวคนสวยอย่างเต็มปากว่าโอเซฮุนนี่ไง ...แฟนเก่าของผม ผู้ชายคนนี้ไง คนที่ผมเคยคบ

     

    ตลกสิ้นดี....

     

    -เซฮุน!!ตอบฉัน เจอจงอินหรอวะ ....ไอบ้า ตอบฉันดิ นายอยู่ไหนเนี่ยะ!!-

    สายในโทรศัพท์ได้แต่แผดเสียงลั่นอยู่อย่างนั้น...

     

    “..........”

     

     

    แล้วถ้าจื่อเทารู้ว่าเค้าเป็นแบบนี้---จะมีใครรับเขาได้ไหม....

    จื่อเทาเองคงไม่ได้มีรสนิยมทางนี้หรอก หรือเค้าพอจะเข้าใจในสิ่งที่เซฮุนเป็นมากกว่าที่จงอินรับรู้

     

    “ฉัน....ฉันอยากกลับบ้าน”

    ............

    .......

    ...

    ....

    .......

    .............

    ...............................

     

     

     




    ฉัน....ฉันอยากกลับบ้าน

     



    ------------- Liuyi 's point of view-----------------



     

    ถ้าการรับโทรศัพท์มันจะทำให้รู้สึกยากเย็นแบบนี้ละก็....ฉันอยากจะเลิกใช้มันไปตลอดชีวิตซะจริง

     

     

     

    “ไอ้เบื้อก!! ไอ้โง่ ! ก็แค่ตอบมาว่าอยู่ไหนมันยากอะไรนักหนาวะ!! เซฮุน รอฉันอยู่ตรงนั้นนะเว้ย ไม่ต้องไปไหน ยืนอยู่กับมันตรงนั้นละ!!!


    ฉันจำได้แค่ว่ากำลังนั่งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อที่เดิม ล่ำลาคุณนายโอ และก็ได้ยินเสียงจากเซฮุน..

    ตะโกนแหกปากอยู่อย่างนั้นนานสองนาน

    เขาโทรมาหาเรื่องหลังจากหายไปทำงานอยู่หลายวัน ไอ่การกวนประสาทมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก ทว่าวันนี้มันไม่ได้เหมือนเช่นเดิมสักเท่าไหร่

     

     

     

    “ย่าห!!จื่อเทาอะไรนั่นมันก็ทิ้งนายเอาไว้หรือวะ แม่งเอ้ย นี่ พูดจาให้รู้เรื่องมากกว่านี้หน่อยเซ่!

     

     

    ฉันได้ยินเสียงพูดคุยของอีกฝ่ายในสายโทรศัพท์เป็นระยะ ไม่รู้ว่าเซฮุนจะหลอกหรืออะไรก็ตามที แต่ดูท่าจะไม่ใช่เวลาที่จะมาทำแบบนั้น ถ้าหากมุกตลกหรือเพราะความว่างมากหลังอาหารของเซฮุนทำได้ขนาดนี้ละก็ ถ้าฉันเจอเขาเมื่อไหร่ฉันจะเลาะฟันของเขาออกมาทำสร้อยคอจนหมดปากแน่ๆ ติดอยู่ตรงที่เวลานี้คงไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาทำอะไรแบบนั้น

     

    แน่นอนว่าเสียงของคิมจงอินชัดเจนมากขึ้น ...มากขึ้น ...
    ราวกับว่าไอ้คนตัวดำได้คว้าโทรศัพท์ของเซฮุนไปแล้วกำลังพูดสายกับฉันอยู่ซะเอง
    ไอ้ตุ้ดงี่เง่าไม่โต้ตอบอะไรฉันออกมาเลยซึ่งนั่นมันชวนให้หงุดหงิดโคตรๆ

    สมองอันน้อยนิดสั่งให้ฉันตัดสายของเขาทิ้งไปซะพร้อมกับเปิดสื่อโซเชียลทั้งหมดที่มี
    kakao storyของเซฮุนเวลานี้ไม่ได้อัพรูปของอาหารใดๆทั้งสิ้น
    ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรู้การเคลื่อนไหวของตัวเองเลยตลอดระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ความลนลานทำให้ฉันตัดสินใจเลิกหา
    check-inในถาดรูปของเขาแล้วกลับมาพุ่งเป้าหมายไปยังKakao talkในถาดแชทล่าสุด
    เจ้าเด็กสติแตกนั่นเอาแต่ส่งรูปอาหารเอาไว้จนตาลาย ยังดีที่โชคเข้าข้างให้หนึ่งใน22รูป ภาพของบะหมี่หยกหน้าตาปราณีตที่คนตัวสูงจงใจจะเอามาอวดถูกวางทับบนกระดาษทิชชู่ของภัตตาคารที่มีตัวอักษรจีนบ่งบอกชื่อร้านเอาไว้

     

    “ภัตตาคารชีหง”

     

     

     

    ไอ้ตุ้ดเด็ก นายรอพี่ชายก่อนนะ!!





    -*-*-*-*-*-*-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×