คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Cp.4
กลิ่นกาแฟยังคงหอมชวนผ่อนคลาย ..
เสียงเพลงแจ้สเบาๆที่คอยขับกล่อมหนุ่มสาววัยทำงานภายในร้านสีเหลี่ยมเล็กเพื่อละลายความเครียดอย่างละมุนละม่อม
สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยให้หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวยและชายหนุ่มร่างสูงผิวสีแทนอันทรงเสน่ห์คล้อยตามเลยแม้แต่นิด ...
ทั้งสองยังง่วนอยู่กับบางอย่างบนโต้ะเล็กๆตรงหน้าอย่างจริงจังด้วยความคิดที่โลดแล่น
“ฉันแค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูแปลกๆก็เท่านั้น...ย่าห์~นายดูรูปพวกนี้แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง??
หรือฉันคิดไปเองคนเดียว...”
เสียงพูดของเธอยังคงแสดงท่าทีไม่พอใจนัก
“ไหน....”
ฝ่ามือหนาคว้าหมับไปยังภาพถ่าย6-7ใบในมือขาวพร้อมกับซองสีน้ำตาลยับๆมาไว้ครอบครอง
ชายหนุ่มขยับร่างกายที่นอนหราบนเกาอี้ตัวสีดำให้ลุกชันขึ้นพร้อมเพ่งดวงตาไร้อารมณ์กวาดจนทั่วเพื่อหาสิ่งผิดปรกติตามที่ร่างบางด้านข้างเสนอแนะ
รูปหลายใบถูกถ่ายในมุมมองที่ไม่ได้ตั้งใจนัก มันดูสับสนงงงวยด้วยองค์ประกอบเลอะเทอะ จะด้วยสถาณการณ์ในเวลานั้น หรืออะไรก็ตามที แต่ด้วยค่าจ้างที่คิมจงอินจ้างปาปารัซซี่ตามติดชีวิตบริษัทคู่แข่ง เขาเสียเงินไปจำนวนมากเพื่อมัน แน่นอนว่าคราวนี้ถึงเด็กสาวคนในรูปจะน่าสนใจ มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนยังไงก็ช่าง
สำคัญที่สุดก็คือเขามีเรื่องสนุกๆให้ได้โลดแล่นบนหน้าหนังสือพิมพ์กอสซิบปลายสัปดาห์ให้ตระกูลโอปวดหัวเล่นๆแล้วล่ะ
“รอหน่อยนะ คุณลุงจะได้ดังอีกรอบแล้วล่ะ”
# # # #
ไม่ใครรู้ว่าผู้ชายผมสีบลอนด์บนรถเมล์สาย0Xข้างๆฉันนี่มีมรดกเป็นร้อยล้าน และก็ไม่มีทางอีกเหมือนกันที่จะมีคนล่วงรู้ว่าฉันเองหลิวอี้ เด็กเหลือขอที่ทำงานมาค่อนชีวิตแต่กลับมีเงินในบัญชีไม่ถึง1แสนวอน
พอมาอยู่ในที่ๆเดียวกัน อะไรๆก็ดูเหมือนว่าจะกลมกลืนกันไปซะหมด
มันอยู่ที่ทางเลือกรึปล่าวนะ
โฮเซฮุนเลือกได้ว่าจะทำอะไรแบบไหนยังไง เค้ามีสิทธิ์เลือก
แต่ฉันไม่มี’
แน่นอนฉันไม่คิดว่าตัวเองจะเกิดมามีปัญหาไปชี้นำทางเดินให้ใครด้วยสภาพที่เป็นอยู่แบบนี้อย่างแน่นอน
แต่ถ้าสักวันนึงฉันมีโอกาสเลือกเส้นทางให้คนอื่นละ?
....
-_-
อา...ฉันไม่ควรจุดประกายเรื่องชวนปวดหัวขึ้นมาในเวลานี้ ถูกไหม พอละ .....เลิกพูดถึงมันจะดีกว่า
เจ้าเด็กตุ้ดนี้กำลังคุ้มคลั่งอีกรอบแล้วแน่ๆ
“ย่าห~!! เจอจงอินมั้ย เธอเห็นเขามาที่โรงแรมด้วยรึปล่าว เธอไม่ได้ทำให้เค้ารู้ใช่มั้ยว่าเป็นยัยทอมคู่ขาฉันที่เค้าเจอบ่อยๆน่ะ หา!???”
“แหกปากอีกแล้ว ชอบตะโกนนักรึไง-*-
ฉันไม่เจอเว้ย ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วย ....สงสัยจะรู้ว่านายไม่มามั้ง เลยไม่มา ถามซ้ำไปซ้ำมาเป็นเด็กไปได้ -*-”
ฉันหันไปสบถชุดใหญ่ก่อนที่จะกลอกตากลับมายังกระจกรถที่ถูกอ้ากว้าง
“เพ้อเจ้อ!”
“พอกันละน่า~!!”
มือกร้านเสยผมหน้าม้าที่ถูกซอยเอาไว้ลวกๆ ให้ลมเย็นสัมผัสถูกใบหน้าได้เต็มที่ …ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวมืดไปหมดแล้ว เวลาสี่ทุ่มที่ท้องฟ้าปิดไม่มีแม้แต่ดวงจันทร์สวยให้ชื่นใจ..วันทั้งวันผ่านไปอย่างเหลือเชื่อ
เจ้าคนประสาทเสียก็เหลือเชื่อไม่แพ้เช่นกัน
เขาเสียสติยืนสวมแว่นกันแดดราวกับพวกพระเอกหนังไซไฟอยู่หน้าร้านเช่าชุดเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพียงเพราะคิดว่าจะเจอฉันที่อาจจะต้องมาคืนชุดที่ร้านนี่หลังจากทำภาระกิจทั้งหมดเสร็จ แน่นอนว่าเราไม่ได้นัดกันอาไว้ก่อนหน้า บางทีฉันคิดว่าเซฮุนอาจจะค้างที่บ้านสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ แต่คงเป็นเพราะคุณแม่จอมจุ้นทำให้เกย์หนุ่มตัดสินใจแผ่นแน่บออกมาจากบ้านทั้งที่ยังไม่ได้ทานมื้อเย็นสุดหรู
บทสรุปของวันนี้ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก ....โอเซฮุนยังไม่ได้กุญแจรถคืนอย่างถาวรหลังจากกลับไปมีปากมีเสียงกับแม่ยกใหญ่ตามอย่างที่คาดเดาเอาไว้ เหมือนว่าการปฎิเสธการดูตัวด้วยวิธีแผลงๆจะให้ครอบครัวเศรษฐีขายหน้าอยู่ไม่น้อย ซ้ำร้าย เงินและบัตรเครดิตที่ติดตัวทั้งหมดก็ถูกทางบ้านยึดเอาเป็นทรัพย์สินกองกลาง เขาบ่นตลอดทางว่ามารดาตัวเองโหดเหี้ยมทารุณกระทั่งบัตรสะสมชานมไข่มุกก็ริบเอาไปด้วยจนไม่เหลือซาก บุหรี่สักมวนให้ชวนผ่อนคลายก็ไม่มี ยกเว้นฉันเท่านั้นที่ยังพอมีเงินเหลือนิดหน่อยสำหรับนำพาให้เราสองคนกลับไปที่คอนโดเพื่อตั้งหลักสำหรับวันใหม่
เจ้าตุ้ดสัญญาว่าจะโอนเงินให้ฉันก้อนแรกอีกไม่กี่วันตามที่ตกลง ดูก็รู้ว่าเขายังทำมันไม่ได้แน่ๆนอกเสียจากว่าจะกลับไปตามใจคุณป้ามารดาบังเกิดเกล้าในเวลานี้ซะ
คนอย่างเซฮุนไม่ยอมง่ายๆหรอก อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะตังค์หมดแล้วเราก็จนหนทางจริงๆนั่นละ-_-
ดูหน้าซีดๆตอนนี้น่าจะรู้ดี หัวเหอของเขายุ่งเหยิงไร้รัศมีเป็นบ้า น่าขำชะมัด..
“..นิ เธอมองฉันบ่อย—ฉันรู้ตัวนะ...อย่ามาทำสายตาพิศวาสฉันไม่ชอบ-_-”
-_-
พระเจ้า
หมอนี่มันเอาอีกแล้ว
“-_-คิดว่าฉันพิศวาสหน้ายาวเป็นมะเขือแบบนี้งั้นหรอ!!? ฉันกำลังมองนายแล้วใช้สมองหรอก เลิกหลงตัวเองสักที”
ฉันตวาดเสียงดังพอที่ผู้โดยสารระดับคุณป้าเบาะหลังจะสะดุ้งหันมามองด้วยสายตาจับผิด แน่นอนว่าเวลานี้ฉันเปลี่ยนเจ้าชุดหวานแหววคืนร้านไปหมดแล้วแถมยังกลับมาผมสั้น และสวมกางเกงสามส่วนกับรองเท้าผ้าใบ ยังไงซะมันก็คงเหมือนเด็กผู้ชายสองคนกำลังจะชกต่อยกันสินะ
แต่ด้วยประเด็นที่ว่าเรากำลังถกเถียงเรื่องใครแอบมองใครก่อนมากกว่า ---สีหน้าของคุณป้าคนนั้นที่มองมาเลยไม่สู้ดีสักเท่าไหร่-_-
เซฮุนดูจะไม่พอใจนักที่ถูกรียกว่าหน้ามะเขือยาว
แหง... เค้ามักจะภูมิใจกับใบหน้าที่ไม่ต้องศัลยกรรมอะไรเหมือนคนอื่นๆในยุคนี้ เกิดมาดีไปซะหมด
ยกเว้น..
..
จะให้สารภาพตามจริงมั้ยละ ยังไงเค้าคงไม่มีทางรู้แบบนั้นใช่ไหม
จริงอย่างที่เจ้าตุ้ดบอก ฉันแอบมองหน้ามะเขือทุเรศๆของเขานั่นละถูกต้องแล้ว
เพราะเขาเป็นคนที่แปลกประหลาดคนนึงที่ฉันรู้จักมาเลยก็ว่าได้
ดวงตาเรียวของบนใบหน้าเรียบเฉยสะท้อนแสงไฟข้างทาง... และมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆราวกับคนไม่มีจิตวิญญาณนัก บางทีเซฮุนอาจจะกำลังเหนื่อยถึงยอมเถียงแพ้ฉันไปแบบนี้
คนรวยมักมีแง่มุมที่คนจนไม่เข้าใจเสมอนั่นล่ะ ฉันเรียนรู้มาแบบนั้น
“นี่ –หิวข้าวรึปล่าว!?” กระทุ้งสีข้างเบาๆ ความรู้สึกของฉันมันเร่งเร้าให้ถามคำถามสั้นๆออกไป สงสัยท้องของฉันจะร้อง มันเลยอยากหาเพื่อนร่วมหิวจนได้
เจ้าตุ้ดหันข้างพลางหรี่ดวงตาให้เล็กลง เหมือนเค้าส่งกระแสจิตมาตอบโต้ฉันมากกว่า
“ฉันรอเธอจนฉันลืมหิวละ—อยากกลับถึงคอนโดไวมากกว่าๆ ตาจะปิด หน้าฉันจะโทรมถ้านอนน้อยมากไปกว่านี้เข้าใจนะ
“ย่าห~! ....อดข้าวกับนอนน้อยมันก็โทรมเหมือนกันละน่า---ไม่กินอะไรสักหน่อยพรุ่งนี้สมองเราจะไม่มีอะไรให้ดูดซึมนะ ฉันไม่ฉลาดพอที่จะวางแผนเพื่อกู้โลกสีม่วงของนายคนเดียวได้หรอกรู้ไว้ด้วย”
“...-*-...โทษตัวเองจะดีมากแม่หนุ่มจีน –ก็ เพราะ-ฉัน...รอ...เธอ!! ฉันเลยต้องอดข้าว กรุณาเลิกบ่นสักที ...เซ้าซี้เป็นยายแก่ไปได้น่ะ : (.”
คำว่ารอ’ดูเหมือนว่าจะเป็นคำที่ถูกเน้นเอาไว้ตัวโตๆบนหน้าของฉันอย่างช่วยไม่ได้..
แขนยาวๆยกขึ้นมากอดอกก่อนที่จะค่อยๆก้มลงเพื่องีบสั้นๆ ...โอเซฮุนสูดหายใจเฮืกใหญ่กอนที่จะปล่อยออกมายืดยาว ..ไม่ถึง1นาทีดีทุกอย่างก็เงียบลงเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่า มีแค่ฉันคนเดียวที่ยังคงนั่งอยู่
อากาศข้างนอกไม่ได้หนาวจนทรมานนัก ..มันสดชื่นจนนึกเสียดายถ้าหากฉันจะต้องกลับไปอุดอู้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมๆอย่างคอนโดผีสิงในเวลานี้ สมองของฉันเริ่มประมวลผลอย่างหนักไปพร้อมกับการซุกมือลงไปยังกระเป๋ากางเกงที่มีแบงค์และเหรียญวอนมากมายเต็มไปหมด...
“,เห้ยมะเขือ.....ถ้างั้น...เราไปดื่มกันสักหน่อย...
...ดีมั้ย”
# # # # #
“ยาห!!! นี่มันร้านแบบไหนกันแน่เนี่ยะ ฉันนึกว่าจะมีเงินพอที่พาไปนั่งกัน อย่างน้อยก็บาร์น่ะ ที่นั่งที่มันมีหลังคาของมิดชอดไม่ใช่ผ้าใบแบบนี้ ฮื่อออออออ=_= อะไรกัน โต้ะแบบนี้คืออะไรกัน=3=;;”
“มีเงินอยู่หยิบมือนึง ฉันพามาเลี้ยงร้านข้างทางได้ก็บุญแล้วล่ะน่า หุบปากแล้วรีบๆกินเถอะ โซจูมีจำกัดนะบอกไว้ก่อน ฉันกินไวและคอแข็งมาก หัดเปลี่ยนบรรยากาศจากห้องอับๆมืดๆได้ละ ฉันแค่นึกอยากจะอ้วก”
00.23น
เสียงเอะอะของเซฮุนทวีความน่ารำคาญมากขึ้นหลังจากละอองน้ำบนผ้าใบเหนือที่นั่งของเราหยดติ๋งลงมาโดนแขนเขาแหม่ะที่2 เจ้าเด็กโง่นี่ถึงขั้นเอาชายเสื้อโค้ดที่พกตัวยกถูบนผิวที่เปรอะเปรื้อนไปมาจนขึ้นจ้ำราวกับว่าน้ำบริสุทธินั่นเป็นน้ำลายที่ถูกถ่มหรือไม่ก็อึเหลวจากก้นแมว
สาบานได้ว่าเซฮุนกินอาหารข้างทางครั้งแรก และเงินจากกระเป๋าของคนอื่นครั้งแรก
ฉันมองส่ายหัวอย่างคนระอาพลางชูมือขึ้นสูงเพื่อเรียกคุณป้าให้หยิบโซจูเพิ่มอีกขวด รวมที่โต้ะก็เป็น4
ไม่ใช่ว่าใจดีอะไรนักแต่อย่างว่านั่นละ ยังไงซะฉันก็จะได้เงินเดือนจากเซฮุนอยู่แล้ว ค่าเซจูสามสี่ขวดไว้ทบยอดวันหลังได้ไม่ใช่ปัญหา
เรื่องของเรื่องคือฉันเองที่อยากจะดื่มในวันอากาศปลอดโปร่งแบบนี้ด้วย
ไหนๆ พรุ่งนี้และวันถัดไปฉันก็คงจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีก เรื่องราวของผู้ชายคนข้างๆอาจจะทำให้ฉันพลอยติดร่างแหไปกับความซวยในแผนการบ้าๆของเขาในสักวันหนึ่ง
ขอแค่ฉันมีเงินก้อนแรกก่อนทุกอย่างก็จะง่ายดาย
พอมองเห็นช่องทางการกลับจีน กลับไปยังสถานกำพร้า ตอบแทนบุญคุณที่ซุกหัวนอนแห่งแรกของชีวิตอย่างที่แห่งนั้นบ้าง
“ฉันแพ้ปลาหมึก ไม่ต้องสั่งปลาหมึกมานะ”
“รู้แล้วละน่ะ”
“.......'-' “
“ก็ปรกติไม่เคยสั่งของทะเลเลยเวลาไปข้างนอกไม่ใช่หรอ=_= ฉันก็มีสมองฉลาดช่างจดจำเหมือนกัน อย่ามาทำสายตาเหมือนเด็ก5ขวบขอเงินหน่อยเลยน่า ---นี่ แนนำเมนูพิเศษ ทักบัล!!! รับรองเจ๋ง!!>O<”
เจ้าตุ้ดเด็กทำสายตาพิลึกพิลั่นเมื่อฉันแสดง่ท่าที่รู้ว่เขาแพ้อะไรออกไป มันน่าอึดอัดเล็กน้อยกับบรรยากาศแบบนั้น...เชื่อเลยว่าบ่นจะเงียบเค้าก็เงียบจนขนลุก ฉันเลยได้แต่ก้มหน้าลงเขี่ยทักบัล(ตีนไก่ย่างทรงเครื่อง)ในจานเล็กๆที่สั่งมากินแค่คนเดียวในตอนแรกให้เขาไปข้างนึงเพื่อแก้สถาณการณ์แปลกๆก่อนหน้านี้ไป
-_-
ฟิ้ววว~~
ทันทีที่ตีนไก่รสแซ่บแลนดิ้งถึงที่...
ตุ่บ'
o_o
=_=
โอเซฮุนชักสีหน้าซีดๆอย่างเห็นได้ชัด..รอยเลือกฝาดบนแก้มขาวหายไปทีละน้อย ทีละน้อย ก่อนที่เด็กชายจะเริ่มแผดเสียงดังลั่นเมื่อเห็นวัตถุประหลาดบนจานเปล่าๆของตัวเอง มือไม้ยาวเก้งก้างนั้นแทบคีบตะเกียบผิด.ถูกเลยทีเดียวทันทีที่เขาเริ่มกำจัดมันอย่างบ้าคลั่ง
“นี่ นี นี่!! เอาออกไปจากจานฉันเดี๋ยวนี้!!!!! อะไรกัน เท้าไก่สับประหลาดนี่น่ะหา!?! กินไปคนเดียวไป!=[]=:: ฉันกินโซจูก็พอแล้วน่า แหหย่ะจะอ้วก+_+”
เชื่อเลยเจ้าตุ้ดนี่
“------สำออย----แบบนี้เรียกสำออย!! หึ-_,- ฉันจะคิดค่าโซจูย้อนหลังให้อ่วมเลยบอกไว้ก่อน –คนบ้าอะไรทักบัลก็ไม่รู้จัก จึๆๆ เกิดมาเสียทีจริงๆ บ้านไม่เคยสั่งสอนให้เคารพของอร่อยๆแบนี้เลยรึไงกัน .......ฮ่ายยย เอามานี่ๆๆ “
สั่งสอนคนเด็กกว่าหวังว่าจะรู้สำนึก ทว่ากลับทำให้คนตัวซีดเบ้ปาก หยักคิ้วเจ้าเลห์พร้อมคำพูดชวนหมั่นไส้กลับมา
“เออฉันสั่งไก่หน้าอกเท่านั้นจากร้านที่มีบริการส่งถึงห้องอย่างเดียวด้วยรู้เอาไว้ ของแบบนี้ เนื้อก็ไม่มีจะให้กินส่วนไหน เอาไปเลย!!”
“แล้วจะเสียใจ!!”
ฉันค่อยประคับประคองตีนไก่สุดอร่อยนั่นกลับมาคืนที่ด้วยความระมัดระวัง ...พวกคนรวยนี่ยิ่งกว่าเด็กเหลือขอ เหลือขอจริงๆ ของแบบนี้ ค่อยๆแทะพร้อมน้ำซอสเผ็ดกับข้าวร้อนๆ โซจูสักขวด ก็อยู่ได้เป็นวันล่ะน่า
...
ทั้งหมดทั้งมวลฉันก็ทำได้แค่บ่นในใจเหมือนเดิม ต้องท่องเอาไว้ว่าเงินก้อนใหญ่ยังมาไม่ถึงมือต้องสงบปากสงบคำเอาไว้ในระดับที่พอดี ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายที่ทำตัวประหนึ่งมีประจำเดือนมาเดือนละ10ครั้งอย่างโอเซฮุนแบบนี้
ฉันถึงต้องปล่อยให้เขากินโซจูจนหมดทุกขวด...เขาเริ่มมีสีหน้าเรียบเฉยและถอดหายใจอยู่อย่างนั้นเมื่อแก้มซีดๆขึ้นจ้ำแดงแสดงให้รู้ว่าเขาเริ่มมีอาการเมาระดับนึง แต่ถึงอย่างนั้นเซฮุนก็ไม่ได้แสดงท่าทีเสียสติหรืออะไรอย่างแต่ใด มันคงแปลกถ้าเจ้าเด็กติดเที่ยวอย่างเขาจะคออ่อนใช่มั้ยล่ะ
อากาศที่หนาวมากขึ้นและบรรยากาศที่ผู้คนเริ่มบางตาทำให้ฉันเริ่มหงุดหงิด ฉันไม่ชอบสักเท่าไหร่ที่เหมือนกับว่าตัวเองมานั่งอยู่คนเดียวอย่างนี้
“เมารึยัง...
ฉันถามอะไรหน่อยดิ”
ฉันตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยความคิดอะไรบางอย่างที่มันตกตะกอนอยู่ในหัวมาทั้งวัน ฉันไม่รู้จะอาศัยช่วงเวลาไหน คงเป้นตอนนี้ละเหมาะที่สุด!
คนผมสีบลอนด์ดูท่าจะพอมีสติรับรู้อยู่บ้าง เขาค่อยๆเงยหน้าออกมาจากแก้วใสอย่างเชื้องช้าด้วยแววตาชวนหาเรื่อง
“ฉันดูหลับรึยัง ถ้ายังก็แสดงว่าไม่
ห้ามถามเรื่องแผนการวันต่อไปนะ เพราะฉันยังคิดอะไรไม่ออกทั้งงั้นอะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกน่า...แค่.....
....พ่อนายรู้เรื่องที่นายเป็นแบบนี้ดีใช่ไหม”
สิ่งที่ฉันคาใจมันคือความรู้สึกกระอักกระอ่วนแล้วก็คำพูดแย่ๆของคนเป็นพ่อที่ทำทีเหมือนประจานลูกตัวเองตลอดเวลาในที่สาธารณะแบบนั้น ---ฉันไม่เคยมีพ่อมีแม่ ฉันไม่รู้ว่าถ้าฉันมีแล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไหม... ที่แน่ๆความรู้สึกแย่ๆเริ่มเกาะกินหัวใจฉันอย่างเชื่องช้า--บางทีเซฮุนอาจจะไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองรู้สึกยังไง หรือเค้าอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าพ่อแท้ๆกำลังรังเกียจในสิ่งที่เขาเป็นขนาดไหน
เซฮุนยกแก้วขึ้นทั้งๆที่ไม่มีเซจูเหลืออยู่ คำตอบองเขาแลดูจะเบาไปสักหน่อย
แค่ไม่มีปฎิกริยาจตอบโต้คำถามที่แลดูจะตรงของฉันก็ถือว่าดีมากพอแล้วในตอนนี้
“ฉันให้เธอแค่ไปเอาของเท่านั้น เธอไปคุยกับพ่อฉันทำไม...
ฉันไม่ชอบผู้หญิง แล้วก็จะไม่มีทางชอบด้วย... ไปบอกเค้าซะ ถ้าพ่อฉันจ้างเธอด้วยเงินที่มากกว่าที่ฉันให้ เชิญ...
ฉันเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ความลับรู้เอาไว้ ดี ฉันก็อยากให้ทุกคนรู้ ฉันจะทำให้พ่อกับแม่ฉันขายหน้าตายกันไปข้างนึง”
“..........”
สาบานว่าคำพูดที่ดูรุนแรงเหล่านั้นดูขี้ขลาดสิ้นดี...
แววตาเย่อหยิ่งนั่นสั่นไหวทีละน้อย ทีละน้อยกับคำตอบที่ฉันได้ยิน
เซฮุนพูดออกมายืดยาวราวกับคนร้อนตัว ทั้งๆที่ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยปากอธิบายอะไรสักอย่างเลยด้วยซ้ำไป
ฉันมีเวลาพูดคุยกับพ่อของเขาเป็นวันๆอย่างงั้นหรอ ..
ฉันต้องทนนั่งรถมากับพ่อของเขาแบบนั้นเพราะคำปฎิเสธถูกบอกปัด
ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้สึกเต็มใจเลยแม้แต่นิดแบบนั้นนะสิ..
ความจริงแล้วคือฉันไม่ได้พูดอะไรแม้แต่อย่างเดียว ฉันไม่ได้บอกเซฮุนแม้แต่อย่างเดียวว่าอะไรคือเรื่องราวที่ฉันได้ไปรับรู้มาหรือพ่อจอมโหดพูดอะไรไว้ก่อนหน้านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเจ้าตุ้ดเด็กพล่ามออกมาเองโดยทั้งสิ้น
รับฟังแค่นี้ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดของครอบครัวเศรษฐีระดับ6มันดูย่ำแย่สุดๆ
เวลาที่เหลือเลยก็คงทำได้เพียงปล่อยให้เจ้าตุ้ดพล่ามออกมาเรื่อยๆด้วยฤทธิ์แอลกอล์ฮอล
“ฉันรักจงอิน ...เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันทำทั้งหมดเพื่อเขา.....
เขาเคยรักฉันมากนะ---พวกเราเคยรักกัน ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ชาย แล้วเค้าเองก็เป็นผู้ชาย—
แต่พ่อ...
ไม่เคยแม้แต่จะรักฉัน.......
เพราะฉะนั้นฉันกับพ่อไม่ว่าจะเธอจะได้ยินอะไรมา...ไม่ว่าเชาจะเรียกเธอให้ไปฟังเรื่องราวแบบไหน..รู้เอาไว้ ฉันอยู่เพื่อตอบแทนเขาด้วยการทำงานเท่านั้น
ฉันทำหน้าที่ลูกแค่นั้น
...
ฉันจะทำมันแค่นั้น...”
ทันทีที่ริมฝีปากบางหหยุดทำงาน..เซฮุนนั่งนิ่งอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดคำพูดสุดท้าย เราไม่เคยได้กินโซจูด้วยกันแม้แต่ครั้งเดียวตั้งฉันทำงานให้เขามา แหงล่ะ...ถ้าวันนี้เราไม่หมดตัวแบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มาทางมานั่งกินร้านข้างทางกระจอกๆแบบนี้ ซึ่งฉันเองก็ไม่มีทางมีปัญญากินไวน์ราคาแพง หรือเหล้าหมักระดับ5ดาวเช่นกัน
จุดอ่อนของเจ้าหมอนี่ไม่ใช่จงอินเลย..
เขาไม่รู้ตัวว่ามันคือเรื่องของครอบครัวต่างหาก
ฉันเคยอิจฉาเขามาตลอดที่มีทั้งพ่อทั้งแม่ เข้าออกบริษัทเพื่อติดตามทำงานภายใต้ดรงแรมหรูหรา ออกดินเนอร์แทนครอบครัวบ่อยครั้งด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มจนน่าหมั่นไส้
คนรวยมีบางอย่างที่ไม่อาจซื้อได้...ฉันก็ว่าคำพูดนั้นคงจะเป็นความจริง
“บ่นจบยัง---นายเมาละเซฮุน
กลับบ้านไหม ....นายอยากกลับคอนโดนิ นี่ก็ดึกแล้วจริงๆด้วย ...วู้วว ...วันนี้หมดตัวแหงฉัน”
ฉันลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจด้วยน้ำเสียงร่าเริงหวังว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศอึมครึมให้เจือจางลงก่อนจะกลับไปพักผ่อน ...คำถามเจาะใจนั่นคงส่งผลกระทบต่อเซฮุนมากไป-_- ฮ่ายย...ฉันคงเลือกเวลาถามไม่เหมาะ โอเซฮุนขดตัวนิ่งเป็นก้อนอึกลมๆ—เขาขยุกขยิกเล็กน้อยก่อนที่จะโพล่บางอย่างออกมา
“บอกรักฉันหน่อยสิ”
...
“ฉันมีเงินติดตัวอยู่แต่6มะ.............O_O...หา!!!??”
อยู่กับคนเสียสติมักจะมีเรื่องให้ขบคิดและปวดหัวทุกวี่วัน...ฉันบอกตัวเองให้สู้แบบนั้นเมื่อครั้งมาทำงานเป็นแฟนบ้าบอให้ไอ้หมอนี่ช่วงแรกๆ
วันนี้มันเริ่มขึ้นอีกครั้ง
มือชื้นเหงื่อของเจ้าตุ้ดเด็กยกขึ้นกระตุกข้อแขนของฉันที่ลุกขึ้นยืนเต็มตวามสูงให้กลับลงไปนั่งด้วยสีหน้าที่ดูไม่สู้ดี เขามีเหงื่อออกจนเต็มกรอบใบหน้าซีดๆ คิ้วเรียวนั่นยู่ยี่ราวกับใช้ความคิด ..ชั่ววูบนึงแววตาดุดันค่อยๆผ่อนคลายลงก่อนที่จะหลุบลงต่ำไปพร้อมๆกับความรู้สึกเจ็บหนึบที่แขน
เซฮุนดูจะไม่ได้สนใจเสียงตะโกนย้ำเลยแม้แต่นิด
เขาเริ่มที่จะเงยหน้าขึ้นสบตาที่เบิ่งกว้างของฉันอีกครั้งด้วยคำพูดเดิมๆ...
“ฉันบอกให้บอกรักฉันหน่อย...”
“กะ....กวนตีน!!....ฉันว่านี่มันชักจะมากไปแล้วล่ะ!!” ฉันแผดเสียงด้วยความรู้สึกประหม่า
พระเจ้า ฉันรู้สึกไม่ดีกับบรรยากาศแบบนี้ให้ตาย....-_-;;
..
“ไม่เห็นเหมือนวันนั้นเลย...”
“เหมือนอะไร ปล่อยแขนฉัน ไม่งั้นจะให้นายนั่งรอแม่ที่บ้านมาจ่ายค่าโซจูให้แล้วนะ!!ปล่อยสิวะ!!”
“งั้นเราจูบกันอีกรอบ ....”
“ไอ้มะเขือ!!!!!!!!!!-*-”
“จูบกันแล้ว..จงอินก็จะมา....เหมือนวันนั้น ทีเราเจอกันครั้งแรก...ฉันเห็นจงอินในตัวเธอไง หลิวอี้..
จูบฉันอีกครั้งได้ไหม ฉันคิดถึงเขา ฮรึกTT”
เซฮุนพูดจาอย่างคนไกล้เสียสติเต็มทน แววตาของเขาเหมือนคนไม่มีพิษสงอะไรซะแล้ว ฉันมองไม่เห้นเจ้าตุ้ดเด็กจอมเย่อหยิ่งคนนั้นในตัวของผู้ชายคนนี้ ในเวลานี้อีกต่อไป ฝ่ามือหนาที่กำข้อแขนของฉันเอาไว้จนแน่นตั้งแต่แรกค่อยผ่อนแรงลงทีละน้อย
พระเจ้า.. ถ้าลูกสามารถขอพรให้ตายชั่วคราวได้ก็คงดี....
...ไอ้เบื้อกนั่นมันเป็นบรรพบุรษตระกุลโอหรือยังไงกันแน่นะ ไอ้คนตัวดำนั่นมันให้ทุนเป็นหุ้นครึ่งนึงของตระกูลโอใช่ไหม ทำไมวันๆฉันถึงจะต้องได้ยินแต่ชื่อไอ้บ้านี่ด้วย...ทำไมเซฮุนจะพฃต้องพูดถึงแต่ไอ้หมอนี่ด้วย ชื่อของเจ้าบ้าชักจะทำให้ฉันโมโหดขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะไอ้บ้านี่คนเดียวทำให้ฉันพลอยมีแต่เรื่องซวยไปด้วย!
“คำจงอิน สองคำก็จงอิน นี่ไง คิมจงอินรักโอเซฮุน ฮ่าๆๆ!! หน้าฉันเป็นไอ้ดำนั่นรึยัง!!
...==.ฉันอยากจะบ้า..นี่นายทั้งขอความรัก ขอ.....-*-นั้นละอะไรก็ช่าง ....นายขอสิ่งแบบนี้กับคนแปลกหน้าแค่เวลาสั้นๆแบบนี้ได้ยังไงวะหา !!!”
ฉันพูดตามคำขอออกไปแบบนั้นด้วยประโยคเสียดสีคนฟัง
เวลาดึกแบบนี้เหมือนครั้งที่ฉันกับเขาเจอกันครั้งแรก...
สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันก็มักจะกลับไปจบที่คิมจงอินเสมอ’ไอ้ผู้ชายที่ติดอยู่ในหัวของเซฮุนเหมือนไมโครชิพ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันอยากจะแกะมันออกมาให้รู้แร้วรู้รอดแล้วเปลี่ยนทกอย่างซะใหม่
เหมือนเวลาที่เราคุยกันก่อนจะนอนหลับทุกคืน...ฉันนอนในห้องที่มีเครื่องดูดฝุ่นห้อยอยู่เหนือหัว
เขานอนอยู่ในห้องนอนใหญ่โตที่มีแอร์เย็นสบาย...เซฮุนอนุญาติให้ฉันเปิดประตูห้องเพื่อที่ว่าแอร์ของเขาจะได้เข้าไปถึงที่นอนของฉันไปพร้อมๆกัน
และเราก็มักจะคุยถึงแผนการของวันใหม่ด้วยระยะห่างของห้องเพียง3เมตร
และ..มันก็จะจบด้วยชื่อของคิมจงอิน’ทุกครั้ง
แม้ว่าตื่นเช้ามาฉันก็จะได้ยินคิมจงอินอยู่เหมือนเดิม
แปรงฟัน แต่งตัว ทำงาน โอเซฮุน คิดเพียงแค่ว่าจะเจอเจ้าผู้ชายคนนั้นหรือไม่ เขาจะชอบไหมวันละพันๆรอบ
มันน่าตลกดีกับคนประเภทนี้ ความงี่เง่าที่เกิดขึ้นเร่งเร้าให้หลายต่อหลายครั้งฉันแทบอยากจะตั้นหน้าหล่อๆนั่นสักสองสามทีแล้วบอกว่าให้หยุด ...อยากจะสั่งสอนในฐานะที่ไม่ใช่เจ้านายหรือลูกจ้าง แต่เป็นรูปแบบที่พี่คนนึงหรือเพื่อนคนนึงพอจะทำได้..
ตลกดี...เมื่อสุดท้ายฉันก็ปฎิเสธความเป็นจริงไม่ได้อยู่ดีแม้พยายามทำความเข้าใจมันแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังต้องใช้เวลาอีกมาก..
ฉันมาเพื่อช่วยเขา ....แลกกับเงินซึ่งเป็นสิ่งตอบแทน
แต่ก็คงไม่ใช่ตลอดไป...
ถ้าหากฉันมีโอกาสเลือกเป็นฝ่ายกำหนดชีวิตของเขาบ้าง
--ถ้ามีทางเลือกแบบนั้นละ..
4ชัวโมงก่อนหน้านี้...
...
บรรยากาศแอร์เย็นยะเยือกยังคงสัมผัสได้ที่ปลายนิ้ว กลิ่นควันบุหรี่เจือจางอ่อนภายในห้องโดยสารรถคันหรู พื้นที่นั่งที่ฉันได้รับคือซ้ายมือคนขับด้านหลัง เบานิ่มๆกว้างขวางดี เมื่อมองไปยังอีกฝั่งก็จะพบร่างยาวๆของเลขาฮวังคนเดิมที่กำลังนั่งจ้องจอมือถือราวกับต้องมนต์สะกด ฉันเองก็พยายามดึงตัวเองให้จมดิ่งลงภวังค์อยู่หลายต่อหลายครั้ง
แต่มันก็ทำไม่ได้
“ฉันขอบคุณที่แกกลับมาที่นี่...รู้แล้วใช่ไหมว่าครอบครัวฉันตอนนี้กำลังเป็นยังไง..”
หนึ่งในหลายบทสนทนาของลุงแก่ด้านหน้า...และนายฮวัง’...ยังคงก้องอยู่ในหัว
“ครับ ---พอได้อ่านตามเว็บไซต์อยู่บ้าง”
“รู้ใช่ไหมว่าลุงเธอกับฉันมีโปรเจคใหญ่ขนาดไหน..”
“—“
ฉันเหลือบดวงตากลมไปยังคุณลุงแซ่โอที่อนุญาติให้ฉันติดรถมาด้วยแว่บนึงก่อนที่จะหันรีหันขวางอย่างร้อนรนทันทีที่เจ้าเลขาฮวังเลือกที่จะเงยหน้าขึ้นมาพลางใช้ดวงตาเรียวนั่นสอดส่องไปรอบๆราวกับคนจับผิด
โอจางอุคค่อยๆพูดขึ้นราวกระซิบ
“ถ้าลูกชายฉัน เหมือนคนทั่วไปก็คงดี....ฉันก็คงไม่ต้องใช้วิธีนี้...
แกรู้ใช้ไหมยังไงอนาคตเกาหลีกับจีนจะกลายมาเป็นมหาอำนาจที่เคียงตู่กัน ยังไงซะซักวันแกก็ต้องเจอเซฮุนอยู่ดีในฐานะประธานรุ่นที่5..”
เสียงแหบแค่นแคะออกมาผ่านอากาศแห้งๆ
แรกเริ่มฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องพูดจาอะไรให้มันดูมีลับลมคมในกับคนที่เป็นเพียงเลขาขนาดนั้น....จนกระทั่งฉันสามารถบังคับร่างกายได้ดีพอและหยุดนิ่งอยู่กับที่..สิ่งที่แอบฟังก็ค่อยๆสะสมมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
พฤติกรรมของฉันเริ่มดูผิดแปลกออกไปเรื่อยๆ มือยาวยกขึ้นเกลี่ยวิกผมให้ลงมาปรกใบหน้าเพิ่มเติมหวังเพียงเพื่อใช้หลบสายตาคนในรัศมีครึ่งเมตรข้างๆ ทุกอย่างจับใจความได้ว่านายฮวัง(เลขาในความคิดฉันคนเดียว)หน้าคมนี่ไม่ใช่ลูกน้อง ไม่ใช่แม้กระทั่งเลขาหน้าม้าอะไรใดๆทั้งสิ้น
เขาเป็นหลานชายเจ้าของอะไรสักแห่งที่มีความสำคัญต่อโรงแรมของเซฮุนมาก พวกเขาดูท่าว่าจะเนรมิตรถคันงามให้กลายเป็นห้องประชุมเล็กๆไปโดยปริยาย ทั้งๆที่มีฉันนั่งหัวโด่อยู่ด้วยและคนขับรถที่ทำท่าราวกับคนใบ้อีกหนึ่งคน
“ฉันจะให้แกรู้จักกับเซฮุนมากกว่านี้ “ โอจางอุควางแท็บแบลตที่หน้าจอขึ้นกราฟหุ้นหรือไม่ก็ตารางแสดงผลอะไรบางอย่างลงบนตัก เขาเริ่มอธิบายข้อตกลงต่ออย่างใจเย็น
“ถ้าทำให้ลูกชายฉันเสนอหน้ามารับตำแหน่งประธานบรัทได้ ---ฉันจะยอมตกลงลงทุนกับบริษัทของฮวังต้ากรุ้ปทั้งหมด
..คงคิดว่ามันดูไร้สาระสินะ...
แต่ความหวังของฉันกับกิจการที่สร้างมาทั้งหมดนี้ก็คือเซฮุน ถ้าแกทำไม่ได้... ที่นี่ก็จะไม่มีผู้บริหารที่ดีในอนาคต จนตอนนั้น ถึงฮวังต้ากรุ้ปลงทุนอะไรกับเราไปก็มีแต่จะย่อยยับ”
ขนแขนของฉันแสตนอัพโดยที่ไม่ได้นัดหมาย ฉันซ่อนใบหน้าที่ตกตื่นเอาไว้เมื่อได้ยินการเจรจาธุรกิจทีมีชื่อเซฮุนอยู่ในนั้น ฉันรับรู้ได้ทันที่ว่าความหมายของโอจางอุคกำลังแอบแฝงไปด้วยบางสิ่งบางอย่าง
เขาอาจจะกำลังหาวิธีที่ทำให้เซฮุนโตขึ้นก็ได้’
ฉันยกนิ้วโป้งขึ้นมากัดราวกับเด็ก58ขวบอย่างเผลอไผลเมื่อสมองถูกใช้การและประมวลผลอย่างหนัก
หัวใจของฉันเต้นตุ้บๆเมื่อกำลังรับรู้ได้ว่าเฝ้ารอประโยคต่อไปหลังจากนั้น
ทว่า โชคไม่เข้าข้างเท่าไหร่นัก
“เธอบอกว่าจะลงตรงนี้.. แต่พอถึงที่กลับไม่ยอมลงหมายความว่ายังไง”
อิตาลุงโหดนั่นใช้ดวงตาสี่ขุ่นมองสะท้อนมาหาฉันด้านหลังด้วยกระจกหน้าบานเล็ก
กระชากสติสัมปชัญญะทั้งหมดของฉันให้ประกอบเป็นรูปเป็นร่างเพียงเสี้ยวนาที
สายตาไม่เชิงขับไล่ทำให้เริ่มรู้ได้ว่าไม่ควรรอช้ามากกว่านี้อีก ถึงแม้เค้าอาจจะประเมิณค่าของฉันเอาไว้ว่าเป็นแค่เพื่อนเพื่อนของลูกชายก็ตาม ถึงอย่างนั้นฉันก็กำลังร้อนตัวเหมือนวัวสันหลังหวะที่ต้องการจะรีบไปให้พ้นๆจากที่ตรงนี้ซะจนราวกับว่ามีความผิดใหญ่หลวงติดตัวมา แขนขาเก้งก้างเร่งกวาดเอาเอกสารซองสีน้ำตาลจากเบาะข้างตัวขึ้นมาแนบอกแล้วเอ่ยขอบคุณอย่างซ้ำๆ พลางจัดแจงเปิดประตู้ก้าวขาออกไปอย่างไม่รีรอ...ยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณและปิดประตู เสียงทุ้มๆที่น่ากลัวก็กลับดังขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าเธอคิดว่าเป็นเพื่อนที่ดีกับเซฮุน ก็บอกอย่าบอกเขา ...แต่จงรู้ไว้ว่าฉันต้องการอะไร
จื่อเทา ปิดประตูซะ ฉันกับแกยังมีเรื่องให้ต้องคุยกันอีกเยอะ
รีบกลับละ เป็นผู้หญิง พ่อแม่เธอจะเป็นห่วง—ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่ห่วงลูกหรอก จริงมั้ย”
ปึง’
กลิ่นควันสำเทาจากท่อไอเสีย จนถึงตอนนี้ก็ยังคงคั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกเมื่อนึกถึง อาการแสบคอเหมือนคนบ้ายิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองจดจำบรรยากาศและความอึดอัดบนรถคันสีดำนั้นได้ดีระดับไหน
....
รู้อย่างนี้ฉันถึงได้แต่แอบจ้องมองใบหน้ายาวแล้วครุ่นคิดมาตลอดทาง
ฉันจะเป็นฝ่ายกำหนดชีวิตของโฮเซฮุน
หรือฉันสมควรจะปล่อยไปอย่างที่ควรจะเป็นกันแน่..
tbc
+++++
จั้นนนนนนนน
งง งงละสิ!!ไรต์ก็งง 555555555555555 รีบมาต่อแล้วยาวระดับนึงด้วยเนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย แล้วจื่อเทามาทำอัลไลล5555
คือจะบอกว่ามันเกี่ยวโยงกับตอนต่อไปค่ะพี่ดูงงๆ เพราะเนื้อหามันมีอยู่ในตอนต่อไปซึ่งยังหาเวลาแต่งไม่ได้
สำหรับติ่งชาวเราที่มีรสนิยมแปลกๆเหมือนไรต์ขอบคุรที่มาเม้นนะคะ ขอบคุณนุ้งหมอด้วยที่ยังตามอ่านฟิคเราหลายๆเรื่องรวมถึงเรื่องนอกระแสแบบนี้ ขอบคุณคอมเม้นที่เม้นให้ยืดยาวอ่านแล้วชื่นใจตลอดเลยT^T ซาบซึ่งนะเนี่ยะ
ไว้จะหาเวลาจากการทำงานมาอัพนะคะ
ชอบอัพดึกๆทุกทีเลย ไปนอนก่อนน้ะก้ะ ติชมได้เนอะ เราก็ยังใหม่ๆ ฮี่ๆ^^
จอกันตอนหน้าจ้ะ
ความคิดเห็น