ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    because i'm A GIRL [Sehun x Amber]

    ลำดับตอนที่ #4 : cp3 มาแย้วTT

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 273
      0
      4 พ.ย. 56

    ก็ความรู้สึกแบบนี้

    มันไม่ใช่โรคเหมือนที่ยัยทอมนั่นบอกจริงๆ..

    แม้ว่าจะมีสายตานับร้อยนับพันมองว่าสิ่งที่ผมเป็นคือความแตกต่างที่ไม่มีทางจะถูกยอมรับ

    ความรักไม่ใช่แบบนั้น ---แต่ก็คงคล้ายกัน ในเมื่อมันค่อยๆบั่นทอนเราไปเรื่อยๆอย่างทุกข์ทรมาน

     

     

     

     

     

    งั้นช่วยให้ฉันรักผู้หญิง..

    เธอทำได้รึปล่าวละ...

     

    O_Oหา~?........”

     

    “เธอรู้ใช่ไหมมันไม่มีทางน่ะ”

     

    “......ฉันก็ไม่คิดว่านายจะเปลี่ยนได้หรอกน่ะ

    ความรู้สึกคน มันไม่ใช่โรคซักหน่อยที่กินยาแล้วจะหาย.........

    .....ช่างเหอะเลิกพูดไร้สาระได้สะที

    ทีงี้เอาไงต่อ ---ผู้หญิงก็เผ่นแน่บไปโน่นละ ไม่รู้เธอจะว่ายังไงบ้าง..”

     

    “รอแม่ฉันโทรมาวีนมั้ง ไปเหอะ หมดอารมณ์กลับไปนอน

    ชอปปิ้งดีกว่า ชั้นเช็คตารางงานจงอินจากพ่อในโทรศัพท์เมื่อวาน ค่ำๆพวกเขาจะต้องนัดประชุมปลายเดือนกับสปอนเซอร์อย่างโรงแรมฉัน--”

     

    “กะจะไปเสนอหน้ากับพ่อ แต่จริงๆจะไปส่องอิตานั่นอีกเหมือนอีกว่างั้น?

     

    เธอเอ่ยลอยๆก่อนที่ยิ้มจากใบหน้าสีซีดนั่นจะยกขึ้นทีละน้อย

    ทว่า คำโต้ตอบกวนประสาทของโอเซฮุนทำให้เธออารมณ์เสียขึ้นมาตะหงิดๆ

     

    “ในงานมีแต่พวกผู้ชายนะ ....อย่างว่า เธอไม่สนหรอกใช่ปะ”

     

    “ความรู้สึกแย่พอๆกับนายละ-_-

     

    “เห้ย นี่มันฟังดูแปลกๆนะ”

     

    “-3-“

     

     

    เด็กผู้หญิงในร่างสัดทัดเบ้ปากก่อนที่จะฉวยเอาแก้วน้ำที่ร่างสูงกินทิ้งเอาไว้เข้ามือมาดื่มต่ออย่างถือวิสาสะ แน่นอนว่าเธอกำลังหัวเสียนิดหน่อยที่เจ้านายวัยกระเตาะแม้จะเรียนมาสูงบ้านฐานะดีกลับไม่ได้มีประโยชน์ต่อสติปัญญาเลยแม้แต่น้อย คิดว่าคนทุกคนบนโลกนี้มีความคิดความอ่านเหมือนตัวเองหมดรึยังไง

    โอเซฮุนทำท่าว่าจะลืมความโกรธและคำพุดดูถูกโดยไม่ตั้งใจของเธอจนเกือบหมดสิ้น

     

    จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงไม่ล้มเลิกความคิดจะกลับไปพิชิตใจผู้ชายคนเดิม แถมยังคงมั่นใจนักหนาว่ารักแรกที่เฝ้าคอยคำนึงมีหนทางให้หวนกลับคืนมาด้วยแววตาระยิบระยับ จนบางครั้งหลิวอี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคิมจงอินคนพรรค์นั้นมีดีอะไรนักหนาเชียว

    ตัวก็ดำ แถวดูท่าทางจองหองหน่อยๆ-_-

    ศีรษะเล็กไหวไปมาเล็กน้อยเพื่อขับไล่ความคิดทั้งหมดให้ออกไปในเมื่อหลักของการทำงานครั้งนี้ของหลิวอี้มันไม่ใช่เพื่อสงสัยในความรักของโอเซฮุน

    แต่ทั้งหมดมันคือการเป็นตัวช่วยให้กับเขาต่างหากที่ถูกต้อง

    หลังจาก1เดือนต่อจากนี้ก็แค่รับเงินแล้วคอนเวิด เซย์กู้ดบายเจ้าหน้าอ่อนที่น่าเบื่อนี่ไปซะก็จบ-_-

    เก็บเงินเพื่อเรียนต่อหางานที่เป็นชิ้นเป็นอันทำดีๆแล้วบินกลับตามหาญาติภายในครอบครัวที่ยังคงหลงเหลืออยู่

    รองเท้าผ้าย้ำถี่ขึ้นลงกับพื้นเมื่อเซอุนเป็นฝ่ายเดินนำหน้าไปยังริมถนนเพื่อโบกหาแทกซี่ให้จอดเทียบท่า

    ..

    แขนขายาวๆลุกลี้ลุกลนอย่างคนใจร้อน ร่างสูงมองจากภายนอกดูแทบไม่ออกเลยว่าเค้าไม่แมนสักเท่าไหร่ สีผมน้ำตาลประกายเริ่มยุ่งเหยิงเมื่อแรงลมจากรถนับสิบคันบนท้องถนนที่วิ่งฉิว โอเซฮุนชักสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเหลือบมองเห็นคนตัวเตี้ยที่ประชิดเข้ามาไกล้

     

    “ฮ่ายย=_=ยืนทำวัชพืชอะไรตรงนั้นเล่า—มาไกล้ๆฉันสิ คนมองตั้งเยอะแยะ เผื่อจะมีคนถ่ายรูปเราสองคนน่ะ”

     

    เสียงกระซิบผ่านไรฟันจากชายหนุ่มที่กำลังหันรีหัวขวาง

     ดูท่าว่าหนุ่มน้อยจะเลือกไม่ได้ระหว่างความกังวลกับรถโดยสารด้านหน้า หรือยัยทอมเตี้ยที่พามาด้วยกำลังละเลยต่อหน้าที่

    แขนยาวเร่งกระตุกปลายเสื้อของเพื่อนคนห้าวให้เข้าหาเป็นเชิงกระตุ้นประสาทการรับรู้ของอีกฝ่ายให้ดีขึ้น

    ใบหน้าไร้วิญญาณของหลิวอี้กำลังกระตุ้นต่อมอาละวาดของโอเซฮุนให้ลุกฮือมาเสียดื้อๆซะแล้ว

    ดูเหมือนในเวลานี้ ยิ่งกะรตุ้นเท่าไหร่กลับยิ่งแย่ลง สองขาของเด็กสาวในคราบผมซอยสั้นราวกับถูกแรงโน้มถ่วงจากโลกทั้งใบยึดตรึงไม่ให้อยู่กับที่ไม่ไปไหน

    ความเหนื่อยทำไมมากขนาดนี้ก็ไม่รู้  เมื่อกี้เราก็แค่นั่งลุ้นเฉยๆ...

    หลิวอี้ได้แต่ท่องในใจซ้ำไปมาถึงเหตุการณสดๆร้อนๆราวกับยายแก่

    ตลอดเวลาที่ผ่าน เซฮุนยอมรับว่าถึงอี้หยุนจะเหมือนผู้ชายขนาดไหนในบางครั้งเขาก้อดนึกไม่ได้ว่าคนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในทุกๆวันตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนยังไง๊ยังไงก็คือผู้หญิงที่เขาไม่ชอบอยู่ดี-_-ไม่ว่าจะเนื้อตัวที่ถึงจะดูคล่องแคล่วมากกว่าเด็กสาวปรกติทั่วไป เจ้าเสื้อผ้าปอนๆที่แลดูจะแมนกว่าเขา หรือจะดวงตาและจมูกโด่งสวย สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ปกปิดเนื้อหนังนุ่มนิ่มหยืดหยึย หรืออารมณ์ขี้บ่น เอกลักษณ์สัญชาติญาณชวนอ้วกของผู้หญิงเลยแม้แต่นิด-_-

    ถ้าหลิวอี้เป็นเด็กผู้ชายจริงๆมันคงจะดี เซฮุนชั่งใจทุกครั้งที่ต้องสัมผัสเนื้อตัวของสหายคนใหม่..

    มันไม่ถนัดเลยน่ะสิ

     

     

    แหง

    สู้จงอินก็ไม่ได้...เขาทั้งแข็งแรงและอบอุ่นขนาดนั้น><

     

    ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด

     

    O_O

     

     

    =_=

     

    -3-

    ร่างสูงพ่นลมหายใจสั้นๆเมื่อเขารับรู้ว่ามือถือในกระเป๋าเริ่มดังเหง่งหง่างขัดจังหวะชายผิวเข้มในจินตนาการให้แตกสลาย

    ยิ่งไปกว่านั้นมันคือเบอร์ของ

     

     

    MOM

     

    เห้อ~-_-กะไว้ไม่มีผิด

     

    “ครับ”

    .....

    “แกอยู่ไหน โอเซฮุน!!??

     

    คำทักทายแรกไม่น่าประทับใจเอาซะเลย

    โอเซฮุนได้แต่เตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ต่อไปอย่างใจจดใจจ่อด้วยวาทะที่จัดจ้านไม่ต่างกัน

     

    -_-แม่จะถามทำไม จะมาหาผมงั้นหรอ ถ้างั้นก็ยากหน่อยนะ”

     

    แล้วมีหรอโอฮาจองจะออมมือให้

     

    “......คิดว่าแม่สนุกมากนักสิ หืม!?.......แม่ไม่ไปหาแกหรอก แต่แม่จะแกให้เป็นฝ่ายกลับบ้านตอนนี้เดี๋ยวนี้ด้วยเข้าใช่ไหม!!

     

    “...เย็นนี้ผมจะไปธุระคุยงานกับพ่อ...ผมคงไม่ว่างนั่งแทกซี่เพื่อกลับไปฟังแม่บ่นหรอก....

    รถก็ไม่มีให้ใช้-_-เห่อะ”


    เด็กชายเบ้ปากพลางนำพาสติทั้งหมดไปยังปลายเท้าที่คอยเกลี่ยต้นหญ้าเล็กบนฟุตบาทเล่น

    เมื่อเสียงน่ารำคาญบางอย่างทำให้เขาเริ่มหงุดหงิด

    แววตารีจ้องหาต้นสายปลายเหตุที่กำลังทำให้เค้าเสียสมาธิในการโต้แย้งครั้งสำคัญ ก่อนที่จะพบต้นเหตุคลื่นก่อกวน หลิวอี้หยุนจอมจุ้นกำลังวิ่งวนไปรอบๆร่างสูงเหมือนพวกอยากรู้อยากเห็น พลางพล่ามคำถามไม่ได้ศัพท์จนดังเหมือนผึงที่บิน หึ่ง หึ่ง~น่าหงุดหงิด

     มองเผินๆช่างไม่ต่างกับพวกไร้สติกระทั่งคนที่สัญจรไปมาอดไม่ได้ที่จะต้องเหลียวหลังด้วยความสงสัย

    แต่เขาไม่มีเวลาตะโกนด่าอะไรใดๆทั้งสิ้นนอกเหนือจากการใส่ใจหญิงวัยกลางคนปลายสายโทรศัพท์ที่อารมณ์ของหล่อนกำลังระอุปรอทแทบแตก

     

    “นี่...แกฟังแม่อยู่รึปล่าว!!!ไม่ต้องไปไหนทั้งงั้น.....วันนี้ก่อเรื่องอะไรไว้แกคงจะรู้ตัวดี

    แม่จะไม่ทนกับนิสัยแกแบบนี้แล้วเข้าใจไหม กลับมาเดี๋ยวนี้!!

    โฮเซฮุนแม่สั่งให้ลูกกลับบ้าน เดี๋ยวนี้!!ตอนนี้!!!

    -_-

    มือยาวดึงเครื่องมือสื่อสารที่ลั่นไปด้วยเสียงของใครบางคนให้ห่างจากกกหูชั่วขณะเพื่อป้องกันเสถียรภาพทางการได้ยิน ใบหน้าหล่อๆของเซฮุนแสดงอาการเบื่อหน่ายจนบิดเบี้ยวเหยเก

    ดวงตายาวหรี่เล็กลงเมื่อเพ่งพินิจหน้าจอตรงหน้าก่อนที่จะกดตัดสายอย่างมีน้ำโห เครื่องมือสื่อสารสีดำลอยลำลิ่วลับลงไปยังกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการจินตนาการถึงเสียงของแม่เวลาพร่ำบ่นเขาถึงวีรกรรมเดิมๆเมื่อจรดฝ่าเท้าลงสู่ประตูบ้านในอีกไม่กี่ชม.ต่อจากนี้ ซึ่งแม่เองก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าโอเซฮุนไม่ได้ต้องการแต่งงานหรือมีชีวิตคู่


    ใช่...ไม่เคยต้องการเลย...=_=

    อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่วัยที่ยังคงมีเลข2นำหน้า ...


    ชายหนุ่มคิดเสมอว่าเวลาเหล่านี้เขาคงที่จะมีความสุขกับสิ่งรอบๆข้าง  ได้กิน ได้ใช้ชีวิตเตร็ดเตร่ในสิ่งที่รักมากกว่าต้องเอาชีวิตมาผูกติดกับผู้หญิงจอมเสแสร้งหรือการผลิตหลานจำพวกเด็กตัวจ้อยงี่เง่าเสียงดังน่ารำคาญให้แม่และย่าของเขาพาตระเวณออกงานไปทั่วเมือง

    ยิ่งเฝ้ามองใบหน้าคู่หูที่จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงข้างกายพาลให้สมองตื้อตันไปกันใหญ่

    เธอกำลังยกคิ้วเข้มขมวดชิดกันราวกับว่าใคร่รู้ถึงประเด็นที่เขากับแม่แท้ๆถกเถียงกันเมื่อครู่ซะเต็มแก่

    ....

    ทำยังไงนะ

    จะมีหนทางไหนที่จะสามารถขับไล่พันธะเหล่านี้ให้พ้นๆไปเสียที หรือจะต้องเป็นฝ่ายป่าวประกาศซะเองว่าทายาทตระกูลโอผู้มั่งคั่งเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศ----

    ถ้าหากเซฮุนไม่คิดไว้หน้าพ่อของตัวเองแล้วคุณย่าตราบเท่าที่สามัญสำนึกมีอยู่ละก็ ...การเล่นละครบ้าบอพวกนี้ก็ไม่จำเป็นทั้งงั้น...เขาเองจะเป็นคนออกมาบอกให้ชาวโลกรับทราบไปให้หมดเรื่อง..

    เขาเคยคิดว่ามันก็อิแค่เรื่องความชอบของคนๆเดียว....

    นั่นละ เพราะโอเซฮุนไม่ใช่เด็กชายอายุ14อีกต่อไปแล้ว...สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คงมีเพียงแค่สร้างข่าวลือคลุมเครือให้สาวต่างๆไม่กล้าเข้าไกล้ ทิ้งปัญหาและประเด็นทั้งหมดให้สังคมเป็นฝ่ายคาดเดาโดยที่ครอบครัวของเขาก็ยังคงพอมีช่องว่างให้เก็บรักษาหน้าตาทางสังคม วิธีหลีกหนีความเป็นจริงจึงมีเพียงหนทางสิ้นคิดด้วยการจ้างหลิวอี้เด็กสาวกึ่งชายกึ่งหญิงเข้ามาทำงานด้วย....

    ใช่ว่าจ้างเธอมาแล้วเรื่องมันจะไปในทิศทางที่ดีไปซะหมดตั้งแต่เมื่อไหร่

    “ตกลงมันเป็นไงกันแน่ เมื่อกี้คุณป้าโทรมาหรอหา!? ฉันถามนายนะเว้ย”

    หลิวอี้ยังคงพ่นประโยคเดิมเหมือนเมื่อครู่ไม่มีผิด ด้วยนิสัยใจร้อน คำถามซ้ำจึงถูกยิงไปอย่างพร่ำเพรื่อเพื่อเฝ้ารอคำตอบจากชายร่างสูงตรงหน้า

     

    “เงียบๆเถอะน่า เธอจะแหกปากให้มันเข้าไปสาย ให้แม่ฉันด่าฉันเพิ่มรึไง !!?? วันนี้ฉันต้องกลับบ้าน

    ไม่ได้ไปซื้อของ! ไม่ได้กลับไปอาบน้ำที่คอนโดอะไรทั้งงั้นแล้วอะ!!เซ็งชิบ!!

     

    OoOเห~คุณป้ารู้เรื่องไวแบบนั้นเลยหรอเนี่ยะ คนอะไรเจ๋งชะมัด..

     

    “เจ๋งบ้า เจ๋งบออะไรกัน เจ้งนะสิ!เธอไม่รู้จักแม่ฉันดีพอ...ที่สำคัญยัยสวยนั่นพอออกจากร้านไปคงรีบแจ้นโทรหาแม่ฉันข้อหาฉันไปหักหน้าเธอกลางที่สาธารณะด้วยการสารภาพบาปถึงรักอันบริสุทธิ์นั่นแน่ๆ=_=

    เซฮุนแค่นเสียงกระซิบกระซาบเมื่อพูดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ คิ้วเรียวขมวดติดกันเป็นโบว์ราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก มือขาวย้อนกลับไปควานหาบางอย่างในเสื้อสูทด้านนอกอีกครั้ง...ไม่นานเจ้าวัตถุเป้าหมายก็ถูกล้วงออกมาพร้อมไฟแช็ครูปร่างเหมือนขวดไวน์อันเล็กๆ

    ทว่าก่อนที่ประกายไฟจะถูกสร้างขึ้น ร่างสูงเป็นอันต้องหยุดลงเมื่อสหายร่างเล็กกลับด้านข้างเอ่ยถามด้วยแววตาวิบวับอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    “นี่นาย...มีให้มั่งสักตัวปะ ---สัมมนาคุณลูกน้องสักวันด้วยของฟรี ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงเพราะบุหรี่มวนนึงใข่มั้ย....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “..........”

     

     

    เสียงถอดถอนลมหายใจ เมื่อจ้องมองบุหรี่มวนเล็กที่ถูกทิ้งคาไว้ในมือ ...มันมอดดับไปแล้วจนกระทั่งเหลือสั้นเพียงไม่ถึง1นิ้วดี เจ้าเก้งเด็กนั่นบอกว่าเขาจะไม่สูบบุหรี่บ่อยตราบใดที่ผลกระทบของนิโคตินทำให้ใบหน้าใสๆอาจจะมีสิวเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องราวยิบย่อยของตัวเองนักโดยเพราะเรื่องใบหน้าหรือผิวพรรณ สำหรับวันหนึ่งวันเรื่องราวทำนองนี้มักจะอยู่ในความสนใจสุดท้ายของฉันเสมอๆ การสูบบุหรี่สักมวนสองมวนตามอารมณ์เลยไม่ใช่ถือเอาผิดอะไรหนักหนาสำหรับผุ้หญิงคนนึงที่ไม่จำเป็นต้องไปเป็นต้นแบบของใคร..


    จะมีก็อีแค่ทนลำบากนิดหน่อยเมื่อต้องกลับคืนสู่สภาพสตรีอย่างที่คนปรกติเขาทำกัน

    ฉันหมายถึงอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นเค้ามักจะเป็นน่ะ

    .......
    -3-ฮู่ว

    ปลายนิ้วที่เย็นเฉียบจิกคาดิแกนสีหวานจนยับยู่ยี่เมื่อรองเท้าส้นสูงนั้นเหมือนจะกำลังประท้วงเท้าบวมๆในเวลาเย็นของฉันอย่างบ้าคลั่งขณะที่ก้าวย่างเข้าสู่โรงแรมของตระกูลโออย่างรีบเร่ง—


    คิงคองถึกในชุดชมพูแหววน่ะสิไม่ว่า....

    ..

    วันหนึ่งวันใครจะไปคิดว่าตัวเองจะได้แปลงร่างไปแปลงร่างมาเหมือนพวกคณะละครสัตว์แบบนี้ ...สมควรชินนับตั้งแต่เข้าข้องแวะอยู๋ในวงวนของเจ้าเกย์เด็ก

     

    “ชุดพวกนั้นใช้แล้วถอดเก็บให้ดี... เธอแค่เอาเอกสารงานจากพ่อฉันก็พอฉันขอรับมือกับแม่ก่อน มีอะไรโทรหาฉัน! รีบกลับมานะ!! อ้อ!ถ้าเห็นคิมจงอินห้ามสบตาเขาด้วยเข้าใจ๋~!!

     

    ข้อความสุดท้ายก่อนที่แสงไฟบนหน้าจอจะดับวูบลงไปเหลือแต่ความมืดสนิท

    รีบกลับมานะงั้นหรอ พูดมาได้...อยากให้ฉันเล่าเรื่องของชายหนุ่มอดีตรักชื่นมื่นให้ฟังละสิไม่ว่า-_-

    วันนี้เขาใส่สูทรสีอะไร เขาเอายัยคนสวยมาด้วยไหม เค้าหล่อกระแทกใจชะนีนางไหนในโต้ะประชุมมั่งป่าว บลาบลา บลา ...

    ถุย-3-

    เอาล่ะมันไม่ใช่เรื่องตลกต่ออีกต่อไปในเมื่อฉันกำลังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนงี่เง่าที่เห็นแก่เงินจนหน้ามือดตามัวไปซะหมด

    ตอนเช้าเป็นผู้ชาย ตกค่ำเป็นผู้หญิง...-_- ทำให้ตัวเองวุ่นวายไปหมดทั้งๆที่ก็ไม่รู้เพราะอะไร..

    -_-

    คำสุดท้ายที่ตกลงกันก่อนที่ร่างชะลูดนั่นจะขึ้นแทกซี่วิ่งฉิวไปคือการตกลงให้ฉันเปลี่ยนร่างเป็นชะนีเพื่อนของเขาที่ชื่อดาอึนอะไรนั่น...ค่ารถที่แถมมาด้วยนั่นก็ไม่ใช่ทิปเพิ่มสำหรับภารกิจนี้แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะฉันต้องไปเอาชุดผู้หญิงจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์นึงย่านอับกูจอง เซฮุนบอกเล่าสั้นๆว่าบรรดาเก้งกวางในโซลทั้งหลายจะมีแหล่งแปลงร่างสำหรับปาร์ตี้สุดสัปดาห์ ถึงแม้ว่าตัวเขายังไม่เคยเข้าร่วมสมาพันธ์แก้งเที่ยวแบบนั้นอย่างเต็มตัว แต่เพื่อนๆของเขาที่รู้จักก็มักจะพาไปมาหาสู่เพื่อซื้อเสื้อผ้าที่ช่อปนั่นอยู่เนืองๆ

    แน่นอนว่าเมเนเจอร์ร้านพอเอ่ยถึงชื่อเซฮุนก็ถึงกับยิ่มกรุ่มกริ่มและทักทายฉันอย่างคุ้นเคยก่อนที่จะเอ่ยสั้นๆ

     

    “แฟนเซฮุนหรอจ้ะ....ยาห์~~นิสัยไม่ดีเลยให้นายมาคนเดียว ตัวจริงๆหล่อกว่ารูปตามหน้าปกหนังสือกอสซิบอีกนะเนี่ยะ คิคิ>< วันนี้ปาร์ตี้กันสินะ ---ไม่นึกว่าเขาจะชอบให้คู่ขาแต่งหญิงเวลา..

     

    “วะ....เวลาอะไรหรอครับ?

    สาบานว่าตอนนั้นที่ฉันถามย้อนกลับไปคือไม่รู้จริงๆ

    1.คือไม่รู้ว่าความหมายคืออะไร

    2.คือหลังจากหล่อนพูดออกมาแล้วฉันก็ยังคงงงอยู่ดีว่าคำพูดพิลึกพวกนั้นมันหมายความว่าอะไรกันแน่

     

    “ก็เวลา......พวกนาย .....ฮึ้บ><...กันไงจ้ะ.......แหมใสซื่อจังเด็กน้อย อิอิอิ”

     

     

    ฮึ้บ!??-_-

    คำพูดแสนสั้นนั่นล่องลอยอยู่ในหัวจนเต็มไปหมด..เขาไปพูดอะไรกับเจ้าของร้านซึ่งในสมองเศษหนึ่งส่วนสี่ของฉันไม่ได้คิดด้านบวกเอาไว้แม้แต่นิด เซฮุน ........โอเซฮุน..... ตุ้ดเด็กผู้เลื่องชื่องั้นสินะ

    เห่อะ

    เจ๋งชะมัดฉายาวงการแบบนี้-_-

     

    และเพราะเซฮุนต้องกลับไปที่บ้านหลังใหญ่อย่างเร่งด่วน วันนี้ที่โรงแรมจึงมีฉันเพียงคนเดียวที่ต้องแอบเข้ามาสังเกตการณ์ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำไป

    แต่ในเมื่อคนให้เงินว่าจ้างต้องการนัก

    ฉันก็ต้องทำแบบนั้นตามประสงค์-_- แม้บางในความคิดจะรู้สึกถึงความงี่เง่าเสียเต็มประดา

     

     

    kingHUN :นี่ รอที่ลอบบี้รึยัง!?ฉันโทรบอกพ่อแล้วว่าดาอึนจะมาเอาเอกสาร

    kingHUN :ห้ามกระโชกโฮกฮากกับพ่อฉันนะขอเตือนไม่งั้นพ่อไม่เชื่อแน่--ฉันไม่อยากมาซวยตอนหลัง

    kingHUN:-3-เธออ่านข้อความฉันแต่ไม่ตอบมันหมายความว่าไง!?

    kingHUN:แม่ทำฉันหูไกล้ตึงละ: (  : (

    kingHUN: ไม่ต้องโทรมานะ ฉันหูตึงอยู่(-_-)/
    kingHun : เห้เห้!เธอ อ่านแล้วทำไมไม่ตอบมั่งเล่า!!!>[]<


    =_=

     

    หน้าจอมือถือขึ้นไฟวูบวาบไปหมดเมื่อข้อความในคาเคาของฉันเด้งขึ้นไม่ขาดสาย เป็นอย่างที่เขาบอกไม่มีผิดเพราะ3นาทีหลังจากนั้น..ผู้ชายที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลโอก็เดินอาดๆออกมาจากทางเดินยาว ดูท่าเขาจะมีผู้ติดตามรายล้อมจนแน่นไปหมด เสียงเอะอะพูดคุยถึงธุรกิจดังไปทั่วทว่ากลับแลดูเป็นเรื่องปรกติ หรือไม่ก็เพราะไม่มีพนักงานคนไหนสามารถใครโต้แย้งคนมีอำนาจอย่างโอจางอุคได้

    แหง ตาลุงนี่ไม่ใช่พ่อของเพื่อนข้างบ้านของฉันสักหน่อย

    แค่เสียงฝีเท้ากรุบกรั่บที่ไกล้เข้ามา ก็พาลให้เหงื่อออกจนชุ่มมือ

    ดวงตาที่สั่นระริกของฉันใช้ชั่วเสี้ยววินาทีรีบกราดมองผู้คนติดตามด้านหลังของชายสูงวัยแบบลวกๆกระทั่งรับรู้ได้ว่า คิมจงอินไม่ได้มาด้วย เหตุการณ์จึงเริ่มดำเนินไปตามแผนที่ตั้งเอาไว้ –


    พระเจ้า ตาลุงนั่นจ้องหน้าฉันเขม็ง=_=

     

    “อะ...เดี๋ยวคะเดี๋ยว!!” ฉันลุกพรวดก่อนที่พ่อของเจ้าตุ้ดเด็กจะเดินผ่านฉันไปซะก่อนที่จะไม่ได้แนะนำตัวและรับของสำคัญมา ฉันไม่รีรอที่จะดพล่งคำแนนำตัยวสั้นๆออกไป “สวัสดีค่ะ ฉันจองดาอึน ดาอึน เพื่อนเซฮุน...เอ่อ เพื่อนโอเซฮุน...ค่ะ!!!

     

    แววตาสีขุ่นของชายสูงอายุที่ละม้ายคล้ายเซฮุนแทบทุกกระเบียดนิ้วเฝ้ามองฉันที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มด้วยความเย็นชา ผู้ชายและสมาชิกที่คาดว่าเป็นชาวแก้งค์ของตาลุงด้านหลังก็ไม่มีทีท่าว่าจะแสดงสีหน้าอะไรใดๆเหมือนพวกอมความทุกข์มาแล้วสักสิบปี ความอึดอัดค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละน้อย

     

    “จองดาอึน...เพื่อนของเจ้าเด็กไม่เอาไหนโอเซฮุน...----เธอ...คงไม่ได้ต่างอะไรไปจากเขาใช่ไหม..”

    เสียงของโอจางอุคบุพการีผู้ให้กำเนิดเจ้าตุ้ดเด็กกำลังทำให้ใบหน้าของฉันชานิดหน่อย อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ ตอนดัดขนตาเมื่อครู่ก่อนมาที่นี่ ถึงจะทำให้ขนตาแนหลุดไปสี่ห้าเส้นได้แต่พนันได้เลยว่าความชาที่แล่นวาบไปทั่วตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันลืบลับ --- ฉันกำลังคิดว่าเค้าด่าฉันหน่อยๆน่ะ=_=

     

    “ฉันดีกว่าเจ้าหมอ!!.....อะ...-0-..ไม่สิ หนูคิดเราทั้งสองคนโอเคดีค่ะ แล้ววันนี้เซฮุนก็กลัวจะไม่ได้เอาเอกสารจากคุณลุงกลับไปทำงานด้วยเลยให้หนูมาเอาแทน พอดีเห็นแฟนของลุงโทรเรียกเซฮุนกลับไปที่บ้าน อันที่จริงเซฮุนก็จะมาที่นี่-....“

     

    ยังไม่ทันที่ฉันจะอธิบายอะไรได้จบ คนแก่ตรงหน้าก็ตัดบทขึ้นซะงั้น-_-แถมคำพูดคำจาโอจางอุคผู้บริหารระดับสูงกลับยิ่งทำให้ฉันรู้สึกพิศวงในครอบครัวนี้เข้าไปใหญ่

     

    “เขาจะกลับบ้านหรือไม่กลับก็ไม่ใช่เรื่องของฉันที่ต้องรับรู้..

    นึกว่าจะไปกกผู้ชายที่ไหน...เอาล่ะ คุณฮวังเอาเอกสารให้แม่หนูคนนี้แล้วไปเอารถมารับฉันที่หน้าตึกด้วยเลยก็แล้วกัน”

     

    กกผู้ชาย---

    อา....

    ถ้าสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับหญิงสาวคงไม่แปลก..

     

    แต่สาบานได้เลยว่านั่นเป็นคำพูดของผู้เป็นพ่อแท้ๆของเซฮุน....

    กลิ่นบุหรี่จัดเลียบผ่านปลายจมูกของฉันไปอย่างรวดเร็วเมื่อสิ้นสุดประโยคสุดท้าย—ถ้าหากหูฉันไม่ฝาดและดวงตาฉันยังใช้การได้ดี---สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือคำดูถูกดูแคลนตั้งแต่ต้นยันจบ แม้ว่าเหยื่อคำสบประหม่าของเขาคือลูกชายแท้ๆของตัวเอง..ไม่ทันที่ฉันจะได้โต้ตอบอะไรกลับไป บรรยากาศรอบๆก็ดูเหมือนว่าจะโหดร้ายลงเรื่อยๆ

    อาจจะเป็นลูกน้องอะไรสักอย่างสำหรับชายในชุดสูทรลำลองสะอาดสะอ้าน พวกเขาทยอยเดินตามกันมาเป็นกระพรวนแต่กลับไม่แสดงสีหน้ายิ้มแย้มเลยแม้แต่นิด ใบหน้าเต้าหู้ลืมโลกเหล่านั้นต่างแต่งแต้มไปด้วยความเรียบเฉย


    โอย..

    อึดอัดเป็นบ้า..

    ไม่รู้เครื่องสำอางค์ราคาแพงบนใบหน้าจะพอมีสรรพคุณปกปิดความซ่อมซ่ออันเป็นเนื้อแท้ของหลิวอี้หยุนได้ดีสักแค่ไหน..

    แหง  ถึงฉันจะผ่านชีวิตมาหลากหลาย แต่ความรู้สึกแบบนี้น้อยครั้งที่ฉันจะสัมผัสถึง

    บางสิ่งบางอย่างกำลังทำให้ฉันรู้สึกว่าโลกที่ดูน่าอิจฉาของเซฮุนไม่ได้ต่างไปจากฉันนัก

    แน่นอนว่าเค้าหน้าตาดี มองทีก็อิจฉาทั้งเงินเป็นฟ่อน คอนโดหรู อาชีพที่มีมรดกตกทอดกินจนวันตายก็ไม่หมด ทว่าตลอดหลายวัน หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเล่าเรื่องราวอย่างอื่นนอกเสียจากว่า


    ฉันเบื่อที่จะต้องแต่งงาน

    ฉันเบื่อแม่ที่คอนจัดการชีวิตของฉันอยู่เรื่อย

     

    ดูเหมือนสิ่งที่ฉันรับรู้ในเวลานี้มีอะไรมากกว่าที่รู้สึกซะแล้วสิ---

    ..

     

    เสียงฝีเท้าตึกตาย่ำผ่านหน้าไปด้วยการโค้งคำนับพอเป็นมารยาทอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ  เพื่อรอเลขาหนุ่มส่วนตัวผู้ได้รับคำสั่งจากนายให้วิ่งเต้นเอาของสำคัญมาส่งแก่ฉันที่ตัดสินใจหันหลังกลับไปรอเอกสารที่ว่ายังที่นั่งเดิมเหมือนเช่นตอนแรก

    ฉันควรแจ้งเจ้าตุ้ดเด็กว่าทุกอย่างมันกำลังจะจบลงแล้วสำหรับภารกิจอันน่าตื่นเต้นครั้งนี้...

     

    KAKAO TALK

    Amber Liu : mission complete

     

    ปลายนิ้วโน้มลงสำผัสปุ่มกดส่งข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อสังเกตเห็นเลขาหนุ่มที่ถูกโอจางอุคไหว้วานให้ไปหยิบเอกสารของเซฮุนเมื่อครู่เดินดุ่มๆกลับมาหาพร้อมซองสีน้ำตาล เค้าวิ่งไปวิ่งมาเหมือนบินได้เลยล่ะจะพูดแบบนั้นก็ไม่แปลก อันที่จริงฉันยังไม่ทันได้นั่งพักหายใจหายคอเลยด้วยซ้ำ เพียงช่วงเวลาสั้นๆขณะเดียวกันคุณลุงจอมโหดก็จ้ำอ้าวแยกไปอีกทางได้ไกลลิบ

    ก่อนที่ของจะถึงมือ ฉันสาบานได้ว่าเหมือนเห็นรอยยิ้มพิลึกพิลั่นที่สุดในโลกจากคนตรงหน้า แววตาเรียวชี้แสนเจ้าเล่ห์หรี่ลงก่อนที่ริมฝีปากหยักบางจะเริ่มคำพูดเล็กน้อยหลังจากนั้น ..


     “บ้านคุณดาอึนอยู่ที่ไหนครับ ...เมื่อครู่คนขับรถวอมากบอกผมว่าคุณท่านต้องการให้ผมไปส่งคุณด้วยกัน..คุณท่านตัดสินใจหยุดรออยู่ตรงลอบบี้ตรงนู้นน่ะครับ “


    คำพูดจานุ่มหูเอ่ยขึ้นด้วยการยกยิ้มตบท้าย ทว่าคำเชื้อเชิญสวยหรูไม่ได้เซอไพร้ฉันเลยแม้แต่นิดเดียว แน่นอนว่าโอจางอุคไม่แสดงท่าทีเมตตาฉันโดยตรงตั้งแต่แรกตามลักษณะของผู้มีอำนาจ แต่ถึงแม้เขาจะไหว้วานอิตาเลขานี่มาบอกแทนความรู้สึกมันก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่


    ว่าจะไปให้พ้นซะแล้วเชียวนะ!!


    โธ่เว้ย TT ถึงระยะทางจากลานเครื่องดื่มตรงนี้ไปถึงลอบบี้ปากทางออกจะอยู่ในระยะทางที่ไกลระดับหนึ่ง แสงสีทองเรืองรองราวกับรัศมีบางอย่างจากตัวคุณท่านตระกูลโอเริ่มแผ่ส่งมาถึงฉันเปรียบได้กับสารปรมานูโคบอล60ที่อาจจะทำให้ร่างกายพิกลกิการได้ซะตอนนั้นหากไม่ยินยอมติดรถไปด้วยตามคำเชื้อเชิญ

     

    บ้าไปแล้ว –หนังหัวข้างในวิกผมหนาๆนี่ก็เริ่มคันยุบยิบแล้วด้วย ทำไมซวยแบบนี้วะ!!!

    มืออีกข้างเร่งเหวี่ยงมือถือลงกระเป่าก่อนที่จะจัดแจงเส้นผมปลอมเงาวับบนหัวให้เข้าที่

     

     

     

     

    ถ้าจำไม่ผิดก่อนที่ฉันจะสินใจเดินดิ่งไปยังกลุ่มคนหน้ารถสุดหรูแสงบางอย่างก็สาดแว่บขึ้นมาจนหน้ามืดไปหมด

    ...

     

    “พี่ชาย ถ้าฉันไม่ไปด้วย เจ้านายพี่จะทำอะไรฉันไหม” ฉันพูดตรงๆออกไปแบบนั้นหวังว่าเขาจะเข้าใจแววตาหดหู่อย่างแรงกล้าที่พยายามส่งไปถึง

    แน่นอนว่าเขารับเงินเดือนตาลุงโอจางอุคนั่น คำตอบที่ได้มาเลยไม่เกิดคาดสักเท่าไหร่

     

    “คุณดาอึนกรุณาไปบอกท่านด้วยตัวเองตรงนู้นเถอะครับ---เดี๋ยวท่านจะหาว่าผมไม่มีประสิทธิภาพในการเชื้อเชิญคุณ เชิญเถอะครับ พวกเราไม่ได้ลำบากอะไร”

    ...

    ความสงสัยที่2ของฉันในวันนี้คือ การปฎิเสธที่กลับบ้านเส้นทางเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องไร้ประสิทธิภาพของคนตระกูลโอ..”

     

    ความจริงถ้ามันเมื่อยนัก ฉันว่าลุงทำหน้าบึ้งๆแบบเดิมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย-*-

    คำชักชวนเหล่านั้นดูไม่ดีเลยบอกก่อน ไหนจะสายตาที่กดดัน ไหนจะคนสูงอายุจอมโหดที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ไกลลิบๆตรงนู้นอีก ใครกลับด้วยก็บ้าแล้ว

    คิดให้ดีละเดินไปบอกตาลุงแซ่โฮนั่นไปซะว่าฉันมีขาเดินกลับเองได้ ไม่จำเป็นต้องบากหน้าไปอาศัยรถราคาแพงนั่งให้น้ำยาขัดเบาะมันเปรื้อนชุดกลับบ้านยังจะดีกว่า

    ต้องทำได้สิ เอาใจช่วยฉันด้วยนะ!!=_=

    ......

    แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ

    ฉันจะทำอย่างไรTT

    .....

    เสียวนาทีที่สองขาของฉันก้าวประชิดรถคันงามเข้ามาเรื่อยๆ

    บางสิ่งทำให้ดวงตาของฉันต้องหรี่เล็กลงชั่วขณะ..

    แสงไฟแว่บนึงกลับกระตุกวาบขึ้นอีกครั้งอย่างน่าประหลาดราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน..

     

     

     

     

     

     

     

    #  #  #  #

     

     

     

     

    “คิดยังไงกับคนแก่รุ่นเฉียดโลงอย่างโอจางอุคที่ต้องมีข่าวกับเด็กสาวเอ๊าะๆไม่เว้นวัน...”

     

    ก็โอเคดีนี่ –เจ้าคนพรรค์นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ดีกว่าอยู่เฉยๆเพื่อครองตำแหน่งเศรษฐีมีเงินอันดับ6ของเกาหลีไม่ใช่หรอ เธอจะสนอะไร”

     

    “ฉันหมายถึง...แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูแปลกๆก็เท่านั้น...ย่าห์~นายดูรูปพวกนี้แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง??

    หรือ...
    ฉันคิดไปเองคนเดียว...”


    tbc









    --talk--

    แง แง แง รอเค้านานไหม เดี๋ยวจะเอาอีกตอนมาลง ตอนนี้งานชุมมากเลย T^T แต่แต่งเอาไว้ในคอมจะทยอยเอามาลงให้นะคะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่านคู่แปลกของเรา เรามือใหม่บังไงก็ฝากตื้อฝากตามด้วยนะคะ ถึงจะน่าเบื่อไปหน่อยก็เถอะ
    ขอบคุณนะคะ 
    #ก้มกราบกราน ฮืออ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×