คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Cp10
Chapter 10
เพื่อน’
“ ตั้งแต่ก่อเรื่อง แกไม่คิดจะติดต่อกลับมาหาฉันบ้างเลยรึไง....”
เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะที่หล่อนกำลังยกกระบวยรดน้ำต้นไม้ประดับริมหน้าต่างอย่างเชื่องช้า
โอเซฮุนในชุดเนี้ยบเท่ห์พร้อมกลิ่นน้ำหอมโชยฟุ้งไปทั่ว แสดงถึงการเตรียมพร้อมไปทำงานต่อได้ทันทีหากการพบปะมารดาสิ้นสุดลงตามคำสั่งของฮวางจื่อเทาผ่านKakao talkที่แจ้งตารางงานเอาไว้เมื่อชั่วโมงก่อน
เขาเบื่อที่ต้องทำงานกับพ่อก็จริง..
แต่การได้ทำงาน บางครั้งก็ทำให้ลืมเรื่องราววุ่นๆในสมองไปได้มากกว่าที่คิด
วันนี้ในบ้านหลังโตมีแต่ความเงียบสงบ แม่ของตนยังคงทำกิจกรรจกระจุกกระจิกแก้เบื่อเงียบๆเหมือนเคย และคุณย่าที่เอาแต่นั่งดูทีวีโดยไร้เสียงหัวเราะ ออกจะแปลกไปสักหน่อยทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก กลับดีซะอีกที่เธอไม่หาเรื่องโวยวายทะเลาะเบาะแว้งแบบครั้งก่อนที่เขาได้สร้างปัญหาทิ้งเอาไว้
เขายังคงไม่รู้เรื่องราวถึงข่าวฉาวบนหน้าหนังสือพิมพ์ของพ่อตัวเอง...
“เรียกผมมามีอะไรรึปล่าว ...อย่าบอกนะว่า...”
ชายหนุ่มเริ่มตั้งคำถามหลังจากมาถึงได้ไม่นาน แน่นอนว่ามีหลิวอี้แสตนบายรออยู่ข้างนอกบนรถแทกซี่โดยทีไม่มีใครรู้
เผื่อมีเรื่องฉุกเฉิน โอเซฮุนคงไม่มั่นที่จะก่อเรื่องอีกด้วยตัวคนเดียวแหงๆ
“..ว่าอะไร.........คิดว่าแม่ยอมแพ้แกไปแล้วสินะ......
นี่....ตั๋วบินไปเชจูตอนค่ำ งานมีวันพรุ่งนี้.....บัตรเชิญจากงานเปิดshopอัญมณีที่รีสอร์ททั้งหมดสองใบ
พร้อมตั๋วบินสองที่จริงๆมันสำหรับพ่อและแม่ แต่ว่าแกคงรู้ว่าพ่อแกไม่มีทางไปแน่ๆ ส่วนแม่ก็อยากดูแลคุณย่า ....
อีกอย่าง แม่นัดลูกสาวเจ้าของรีสอร์ทให้แกไปดูตัวด้วย----ไม่ไปไม่ได้..เพราะตกลงเอาไว้แล้ว เสียมารยาท”
ซองปริศนาบนโต้ะไม้ไม่ไกล้กันคือสิ่งที่ถูกกล่าวถึง
เสี้ยวใบหน้าคมกระตุกยิ้มเมื่อสิ่งที่คิดเอาไว้ไม่ได้แต่กต่างจากความจริงสักเท่าไหร่
....
“แม่กลัวผมจะหนีออกมาอีก เลยไล่ให้ผมไปหาคู่ไกลๆงั้นสิ..
แม่อยากให้ผมทำแบบนี้ไปอีกจนถึงเมื่อไหร่” เซฮุนพึมพำราวกระซิบด้วยสีหน้านิ่งเฉย... แม่ไม่เคยมีเรื่องราวที่จะพูดคุยกับเขามากมายนัก ยกเว้นเรื่องการแต่งงาน'
“แล้วแกจะขอบคุณฉัน..ทำตามที่ฉันบอกไปเถอะ เลิกดื้อเสียที”
“แม่บังคับผมได้เปลี่ยนใจผมไม่ได้หรอกรู้เอาไว้..... ตกลงธุระที่ว่ามีแค่นี้..
ผมไปละ ..
คุณย่าสวัสดีครับ”
ร่างสูงหันรีหันขวางไปยังคุณย่าของตนที่ยังคงนั่งอยู่เงียบๆ ก่อนที่แขนยาวจะคว้าเอาเสื้ออคลุมบนเก้าอี้พร้อมกับซองกระดาษสีน้ำตาลที่ถูกปิดผนึกเอาไว้จนสนิทติดตัวมาด้วย
โอฮาจองยังคงแสดงท่าทีเฉยชาด้วยการไม่แม้แต่จะเหลียวมองลูกชายคนเดียวของตัวเองราวกับว่าเธอไม่ได้แยแสกับมารยาทของเขานัก ถ้าหากจะบอกว่านิสัยหยิ่งทะนงของเขานั้นได้มาจากใครคงเดาออกไม่ยาก
เซฮุนตั้งใจเพิกเฉยแม่ของตนเพื่อแสดงอาการไม่พอใจเหมือนเคย
ซึ่งเธอก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร แค่เขายอมมาเหยียบบ้านของตัวเองก็นับว่าเพียงพอมากแล้ว
เสียงย่ำเท้าปึงปังเบาลงและเมื่อเสียงเหวี่ยงประตูอัตโนมัติดังกรึก’
บทสนาทนาระหว่างคนสูงอายุเริ่มต้นขึ้นราวกับนัดหมาย
“หลานฉันคงจะรู้สึกดีใช่ไหมถ้าเขาไม่เห็นของเหล่านั้นอีก ....ฉันมันผิดเองที่เลี้ยงจางอุคไม่ดี
ถึงทำให้เธอกับลูกเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ….ฉันเห็นใบหน้าของเขามันผอมลงไปกว่าเก่าอีกนะฮาจอง…ฉันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ”
น้ำเสียงคนเป็นย่าสั่นเครือเล็กน้อยเพราะความรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้ ไม่ได้แม้กระทั่งติติงลูกชายแท้ๆของตนเพราะรู้แก่ใจดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรนักกับคนหัวแข็งประเภทนั้น
ตั้งแต่เล็กๆโอจางอุคมักจะยึดถือความคิดตนเองเหนือสิ่งอื่นใด
“คุณแม่ไม่ผิดหรอกค่ะอย่าโทษตัวเองเลย---…ฉันชินเสียแล้ว จะมีก็แต่เซฮุนที่ยังต้องห่วง มาเจอเรื่องแบบนี้อีกคงจะกลับไปนึกถึงตอนเด็กๆ....เซฮุนไม่ยอมคุยกับจางอุคตั้งหลายปี
ตอนนี้ลูกโตแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างถ้าเขาเกิดรู้ขึ้นมา แต่โชคยังเข้าข้างที่เค้ายังหาเพื่อนดีๆคบหาพอเป็นหูเป็นตาให้ได้"
โอฮาจองก้าวเดินอย่างเชื่องช้าไปยังหญิงชราที่นั่งทอดสายตาหมดหวัง
ในมือของเธอมีมือถือที่กำเอาไว้แน่น
“เธอหมายถึงเด็กคนที่เซฮุนโกหกเราว่าเป็นผู้ชายนั่นสินะ”
“ค่ะ ฉันได้คุยกับเค้ามาบ้าง ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่ต้องทำ ….แต่หลิวอี้เป็นเด็กผู้หญิง ที่ใจแข็งกว่าเซฮุนเยอะเลย ----
ตลกดี บางเรื่องคนเป็นแม่ยังรู้น้อยกว่าเพื่อนลูกตัวเองด้วยซ้ำ
“มันไม่พอหรอก.....เราคือครอบครัวของเซฮุนนะ ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ หรือที่เซฮุนเป็นอย่างทุกวันนี้เพราะฉันกันแน่ ใช่ไหม เค้าอาจจะเป็น....ชอบอะไรแบบนั้น...อาจจะเพราะฉัน…..ฉันรู้สึกผิดต่อทุกคนจริงๆ ฮาจอง หลานชายของฉันคงไม่สบายใจเอามากๆ …ฉันจะทำยังไงดี”
“อย่าคิดมากเลยนะคะ ฉันจะรีบจัดการพวกข่าวบ้าบอไร้สาระระหว่างลูกไปเชจูโดยเร็วที่สุด การไปครั้งนี้ของเซฮุนต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น คุณแม่สบายใจได้ “
แม้ว่าความรู้สึกประหม่าจะมีมากเหลือเกิน ทว่าคนเป็นแม่ และลูกสะใภ้อย่างเธอกลับไม่สามารถแสดงมันออกมาได้อย่างเต็มที่….ใบหน้าที่สะสวยดูหม่นหมองอีกครั้ง
สองมือที่กำเอาโทรศัพท์จนแน่นยกขึ้นมาแนบหู …เบอร์ติดต่อปลายทางปรากฏเสียงรอสายพักใหญ่
….
“คุณจะกลับมาพาคุณแม่ไปตรวจสุขภาพเมื่อไหร่ ….
…
ฉันแค่จะโทรมาพูดเรื่องของลูกชายเรา…
เลิกให้เขาเป็นทาสสักอาทิตย์ได้ไหม
ถ้ายังไม่สามารถจัดการเรื่องตัวเองกับผู้หญิงในข่าวได้
ฉันให้ลูกไปงานที่เชจูแทน—มีอะไรฝากงานไว้กับพ่อหนุ่มลูกน้องคนสนิทของคุณก็แล้วกัน
แค่นี้นะ”
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
“ไปthe shillaต่อเลยครับ”
เคำสั่งจากชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาฉับๆออกมาจากรั้วบ้านช่างไร้อารมณ์สิ้นดี ในมือขาวซีดยังหอบหิ้วของพะรุงพะรังออกมาด้วยพร้อมๆกับเสื้อคลุมที่ไม่คิดจะสวมทับทำเอาคนที่รออยู่ด้านในรถคิดคำถามไม่ถูก
หลิวอี้รู้ดีช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเธอและเซฮุนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างติดลบ
ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถนั่งนิ่งเฉยเหมือนคนบื้อได้อยู่ดี
“นะ…นี่ ตกลงไม่มีดูตัวใช่รึปล่าว”
“ฉันจะไปทำงานต่อ ---ฉันจะไปเจอคิมจงอิน เธอสนใจอยากมาด้วยไหมละ “ คนตัวโตเน้นย้ำชื่อของใครบางคนในประโยคอย่างชัดเจน ดวงตายาวเหลือบกลับมามองคู่สนทนาพลางเลิกคิ้วอย่างท้าทาย
แต่เด็กสาวหาได้สนใจการประชดประชันทั้งหมด
ในสมองของหลิวอี้เริ่มสวนกลับด้วยคำโต้เถียงเดิมๆ ผ่านอารมณ์ที่พุ่งสูง
“ไปทำไม!!!??? นายยังจะอยากเจอไอ้หมอนั่นอีกหรอ ฉันเตือนนายแล้วนะเว้ย ว่าเค้าไม่ได้ดีอย่างที่นายคิดอะ!!”
เสียงตะโกนห้าวๆของเพื่อนไม่ได้ทำให้เซฮุนคิดได้มากขึ้น บางอย่างทำให้เขาถ่ายทอดมันออกมาเป็นพูดแถมฟังดูแย่เสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆสำหรับหลิวอี้หยุน
แม้แต่ตัวของเขาเองเช่นกัน...
“ฉันไม่เชื่ออะไรเธอง่ายๆแล้วล่ะหลิวอี้..อีกอย่างวันนี้จื่อเทาจะไปกับฉันด้วย
เป็นอีเว้นโรงแรมใหม่ของครอบครัวจงอิน ฉันอาจจะได้เจอเขา แล้วเคลียร์เรื่องเราสองคนซะ รวมถึงการแต่งงานบ้าบออะไรนั่นก็เป็นแค่เรื่องล้อเล่น--- เธอคิดเหมือนกันละสิว่าทำไมเขาถึงยังคงรู้เรื่องราวของฉันเหมือนเดิม
เพราะว่าเขาอาจจะยังชอบฉันอยู่ไงล่ะ..
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขาฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขอรับรู้---ถ้าเธอคิดอยากจะคบหากับคิมจงอิน
เราสองคนก็ไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป…”
โอเซฮุนยังคงเป็นโอเซฮุนจอมยึดติดอยู่วันยังค่ำ...
“เออ…..ได้…ให้ฉันลงข้างหน้านั่นละ !
แล้วนายจะรู้…….
ว่าเขาพูดถึงนายว่ายังไงบ้าง โอเซฮุน แล้วนายจะรู้เอง
แล้วมีสติครบตอนไหนช่วยบอกด้วย จะเลิกจ้างฉันเมื่อไหร่ จะได้จบๆไปซักที
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้เงินทองเยอะแยะไปอีกทำไมแล้วเหมือนกัน ไม่มีอะไรต้องใช่จ่ายอีก
ฉันหมดความทรงจำกับทุกๆที่ในประเทศนี้แล้ว เข้าใจนะ
ลุงๆ อย่าเพิ่งขับเลยสิ จอดตรงนี้ละๆ “
หลังจากเอ่ยบอกโชเฟอร์ปิดท้าย สองมือก็รีบกุลีกุจอผลักประตูรถแทกซี่โดยสารออกด้วยความไวแสงโดยที่ไม่หันกลับมามองอีก วันนี้คงเป็นอีกวันที่เธอจะใช้ชีวิตอยู่นอกคอนโดตลอดคืนและทบทวนเรื่องที่อยากจะพูดออกไปเมื่อเช้า
รถแทกซี่คันสีเทาค่อยๆเคลื่อนตัวทิ้งไปพร้อมๆกับเบื้องหลังของโอเซฮุนที่สามารถมองทะลุผ่านจากกระจกหลัง
เขายังคงจ้องมองไปด้านหน้าอย่างนิ่งเฉย
หลิวอี้อยากจะเลิกทำหน้าที่อะไรแบบนี้แล้ว
อยากลาออกจากงานบ้าๆและไปหาอะไรที่ทำเพื่อตัวเอง บ้านเด็กกำพร้าก็คงใม่ต้องการเงินของเธออีกในเมื่อการขายที่ทิ้งให้กับการสร้างโรงแรมละแวกนั้นก็คงได้ทรัพย์สินมากมายพอให้ตั้งตัว
“ทำไมฉันต้องมาสนใจกับไอ้ตุ้ดเด็กเห็นแก่ตัวอย่างนายทำไมวะ หา ไอ้เฮงซวย!!!!!”
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
บรรยากาศภายในโรงแรมเปิดใหม่ของตระกูลคิมกำลังคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายในวงการธุรกิจที่เฝ้าจับตามองพัฒนาการขององค์กรมาตั้งแต่ต้น ถึงแม้การทำโรงแรมที่พักจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับพวกเขา หากแต่ด้านธุรกิจต่างๆไม่ว่าในส่วนของเอนเตอร์เทรนหรือการท่องเที่ยวกลับเป็นที่รู้จักอย่างดีในวงกว้าง
“จากนิตยสารxxx ครับ สองคน”
เสียงของฮวางจื่อเทามักจะมีเสน่ห์เสมอสำหรับเซฮุนเวลาที่กำลังจริงจัง โดยเฉพาะในยามทำงานแบบเช่นตอนนี้
เสน่ห์ผ่านรูปลักษณ์ภายนอกที่แตกต่างสามารถดึงดูดพนักงานสาวประจำเคาว์เตอร์ลงทะเบียนได้เป็นอย่างดี โดยคำซุบซิบทั้งหมดต่างพูดถึงความไม่น่าเป็นไปได้ของนิตยสารเศรษฐกิจธรรมดาๆที่กลับมีนักข่าวหน้าตาราวกับดารามาร่วมทำงาน
พวกเขามาถึงสถานที่ในเวลาที่พอดิบพอดีในขณะที่งานกำลังเริ่มต้นขึ้น
คำแถลงบนโพเดียมสะกดทุกสายตาด้วยผู้บริหารระดับสูงซึ่งหมายถึงคุณลุงของคิมจงอิน เขามีรูปร่างทีไม่สูงนักและผิวที่ขาวเหลืองแตกต่างจากหลานชาย
ที่นั่งด้านหน้าหลงเหลือกระจัดกระจาย จื่อเทาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องนั่งแยกกับชายหนุ่มที่ติดตามมาด้วยอย่างช่วยไม่ได้
“อย่าลืมจดจำรายละเอียดโครงการด้วยนะครับ บางทีงานหรือโปรเจ็คของเขาอาจจะเป็นสิ่งที่จะต่อยอดให้กับโรงแรมของเราได้ถ้าหากเราเอาไว้ขัดเกลาอีกที…ผมจะไปนั่งฝั่งโน้น ส่วนคุณก็นั่งฝั่งนี้ ถ้าจบงานเมื่อไหร่เราค่อยมาเจอกันตรงทางออก”
“อืม ไปเถอะ ฉันจะโน้ตเอาไว้ในมือถือเท่าที่ทำได้ ไว้คุยกันอีกที “
โอเซฮุนตอบรับพลางชูมือถือขึ้นแสดงถึงอุปกรณ์ที่นำมาช่วยบันทึกระหว่างการทำงาน ความรู้สึกของเขาเหมือนตัวเองกำลังมาสอดแนมบางอย่างทั้งๆที่ความจริงแล้ว เซฮุนแค่อยากหาโอกาสเจอจงอินสักครั้งเพื่อจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด หรือไม่ก็อยากฟังคำอธิบายของจงอินเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อคืนก่อน
เด็กชายมั่นใจว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความทุกข์ที่กำลังทวีเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ
บางอย่างที่ต้องการคำอธิบาย บางอย่างที่ลึกๆแล้วเด็กชายหวังว่าจะได้ยินคำตอบว่าหลิวอี้ไม่ได้เกี่ยวข้อง
ถึงแม้คำอธิบายจากเด็กสาวจะบอกปฎิเสธก็ตามที แต่แค่เซฮุนเห็นหน้าหลิวอี้เขากลับโมโหมากกว่าปรกติ
เหตุผลสารพัดที่ค่อยๆถูกถ่ายทอดออกจึงไม่มีความหมายอะไรนัก
………….
การบรรยายโครงการเริ่มต้นด้วยการร่ายประวัติของกลุ่มธุรกิจไปเรื่อยเปื่อย
พอมาตั้งใจฟังแล้วรู้สึกว่าครอบครัวของจงอินมีการพัฒนาที่ก้าวกระโดดจนน่าทึ่ง
“หลังจากนี้จะเป็นการเปิดตัวโปรเจ็คใหญ่ภายใต้โครงการที่เพิ่งดำเนินการอย่างสดร้อนๆ Beautiful Life Beautiful Place ซึ่งกลุ่มธุรกิจเครือข่ายKกรุ้ปได้วางแผนดำเนินงานมาได้หนึ่งปีพร้อมให้เปิดหุ้นและร่วมลงทุนทันที
ในส่วนนี้ขอเรียนเชิญประธานบริหารฝ่ายการตลาด คิมจงอินขึ้มาชี้แจ้งถึงรายละเอียดรวมถึงหน้าตาของโครงการใหม่ของเราด้วยค่ะ”
สิ้นเสียงฝ่ายพีอาร์ของบริษัทไฟทั้งห้องก็ค่อยๆหรี่ลงเผยให้เห็นจอมอนิเตอร์ที่ปรากฏภาพ3Dในวีทีอาร์สั้นๆ
เสียงลั่นของชัตเตอร์เริ่มดั้งขึ้นเมื่อบุคคลที่ถูกเชิญเดินก้าวขึ้นยังเวที ใบหน้าของจงอินในวันนี้สดใสมากเหลือเกิน
……
ความประหม่ากำลังเข้าครอบงำความรู้สึกของชายหนุ่มทีละเล็กทีละน้อยเมื่อสายตาจ้องมองไปยังดวงตาสีนิลอันยากอธิบาย
ทว่าเสียงดนตรีและถ้อยคำเปิดหัวของโครงการใหม่ล่าสุดทำเอาเด็กชายได้สติและเริ่มหันเหความสนใจไปยังภาพบนจอตรงหน้า เมื่อเริ่มฟังพร้อมกับคำแนะนำของจงอินไปพร้อมๆกัน ชาร์ทและภาพสิ่งก่อสร้างเสมือนจริงทั้งหมดแลดูคุ้นตามากเหลือเกินถ้าไม่นับชื่อที่ถูกเรียกให้แตกต่างออกไปแค่นั้น…
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดสรร ดีไซน์ การออกแบบผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเกาหลีและตะวันตก ซึ่งหากเป็นคนภายในจะรู้ได้ทันทีว่านั่นคือเอกลักษณ์ของThe shilla และนักท่องเที่ยวมากมายมักให้ความสนใจเสมอๆ
ไม่ว่าจะเปิดสาขาที่ไหนก็ตาม การนำวัฒนธรรมของสถานที่นั้นๆหรือประเทศนั้นๆมาเป็นส่วนประกอบด้วยนับว่าเป็นจุดเด่นของโรงแรมที่พ่อของเซฮุนพูดยึดถือมาโดยตลอด
“ครับ…. โครงการโรงแรมขนาดกลางที่วางแพลนเปิดตัวในมกราคมปีหน้า ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้ชานเมืองซึ่งมีบรรยากาศที่ดี และอาหารแห้งของชาวบ้านนั้นได้มีโอกาสได้ส่งออกสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยที่การท่องเที่ยวไม่ได้จำกัดเฉพาะโซลเสมอไป จุดเด่นคือการที่ผมจะทำให้ห้องพักแต่ละห้องมีการตกแต่งตามวัฒธรรมท้องถิ่นของเราในแต่ละยุคลงไปด้วย แน่นอนว่าผมคิดว่านักท่องเที่ยวจะต้องชื่นชอบ
โครงการนี้ผมทั้งคิดและวางแผนด้วยตนเองอยู่นานมากเพื่อให้ทั้งหมดออกมาอย่างสมบูรณ์ และหวังว่าKกรุ้ปของเราจะได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของการเผยแพร่วัฒนธรรมของเกาหลีสู่โลกตามคำแนะนำของรัฐบาลที่อยากให้กลุ่มธุรกิจมีการส่งเสริมด้านท่องเที่ยว……..”
เซฮุนแทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือสิ่งที่คิมจงอินสร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งหมดด้วยตนเองอย่างที่ปากของเขพร่ำบอกออกมาไม่หยุด
ทั้งรอยยิ้ม และท่าทีที่แสดงถึงความมั่นอกมั่นใจ
นั่นมันแผนงานของพ่อเขาชัดๆ – มันคือแผนของการปรับปรุงโรงแรมในจีนแห่งหนึ่งที่พ่อได้เทคโอเวอร์เอาไว้เมื่อหลายปีก่อนเพื่อตกแต่งและสร้างใหม่ให้กลายเป็นอีกสาขาที่คาดว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดี
ภาพจำลองสถานที่ที่เสร็จสมบูรณ์ของคิมจงอินยิ่งทำให้เขาเห็นภาพมากขึ้นเข้าไปอีก สิ่งเหล่านั้นทำให้เซฮุนนึกหวนกลับไปนึกถึงเมื่อครั้งที่ยังคบหากับคนผิวเข้ม เซฮุนไม่เคยปิดบังเรื่องอะไรเกี่ยวกับตนเองเลยแม้แต่เรื่องเดียวเพราะชายหนุ่มมักจะคิดเสมอว่าจงอินเป็นคนรักที่เข้าใจตนมากที่สุด มากกว่าคนในครอบครัวด้วยซ้ำที่เอาแต่จับผิด
ไม้เว้นแม่แต่เรื่องงานที่พ่อมักจะบังคับให้เด็กชายเข้าประชุมด้วย หรือทำงานร่วมด้วยมาโดยตลอด
ซึ่งนั่นหมายถึงแผนงานต่างๆที่เขามักจะหยิบเอามาทำระหว่างที่นัดกินข้าวกับคิมจงอินราวกับคนโง่
ใบหน้าที่เริ่มชาและภาพที่เคลื่อนไหวสะท้อนบนม่านตาสีดำสนิท…
พ่ออาจรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ถึงให้เขามาทำงานบ้าๆนี่ๆกับฮวางจื่อเทา--- พ่อกำลังฆ่าเขาทั้งเป็นด้วยความจริง
“นายรู้มั้ยว่าโรงแรมพ่อกำลังได้ทำโฆษณาร่วมกับรัฐเพื่อนรณรงค์การท่องเที่ยวของประเทศ นายเห็นที่ฉันเอามาให้ดูใช่ไหม มีส่วนเจ๋งๆหลายที่เลย ฉันอยากจะเป็นคนช่วยออกแบบนะ แต่อย่างว่าละ พ่อคงไม่ไว้ใจ”
“อื้ม…..ฉันก็อยากช่วยครอบครัวทำงานเหมือนกัน นายเอางานมาให้ฉันดูสิ ฉันว่าถ้าเราช่วยกันคิดแบบที่ให้พ่อนายไม่รู้ บางทีออกมาเจ๋งก็ได้นะเซฮุน^^”
“นี่ไง ฉันถ่ายมา เห็นแล้วนายจะอึ้ง …ที่ฉันคิดเอาไว้นะด้านนอกตกแต่งดีไซน์ให้เป็นแบบจีนผสมตะวันตก ส่วนด้านในเราทำห้องพักให้เป็นไสตล์เกาหลี เพราะพ่อฉันคุยเอาไว้เห็นว่าจะเอาไปใช้ตกแต่งที่จีนนู่น พวกชาวจีนจะต้องทึ่ง แล้วก็ชื่นชอบในศิลปะเกาหลีของฉันชัวร์ๆ ^O^”
เห่อะ….
น่าขยะแขยงนัก ความรักที่ด้อยค่า…
…..
นายพูดมาได้ยังไงว่าคิดเอง ทั้งๆที่สิ่งที่พูดออกมามันเป็นความคิดของฉันล้วนๆ
แถมแผนผังทั้งหมดก็เป็นของพ่อฉัน คิมจงอิน…….
ลมหายใจเข้าออกถี่ขึ้นราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาสดร้อนๆ เพราะความโกรธของเขาเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่ามันมาถึงจุดไหน
รู้ตัวอีกทีก็ไม่ได้สนใจจดบันทึกสิ่งที่ได้ยินอีกต่อไป กระทั่งวีทีอาร์และไสลด์บรรยายจบลง ไฟทุกดวงกลับมาเปิดสว่างอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับคำถามจากผู้สื่อข่าวด้านข้าง
“เอ้ะ,….คุณคือลูกชายของประธานThe shillaรึปล่าวครับ??....
ใช่สิ คุณคงพอจะทราบข่าวของคุณพ่อ…..”
.....
“เซฮุน กลับกันได้แล้ว ขอโทษนะครับ ผมกับเขาต้องขอตัว “
ภาษาเกาหลีแปร่งๆของฮวางจื่อเทาดังขึ้นสวนกลับอย่างทันท่วงที ชายวัยกลางคนที่ห้อยป้ายคนนี้อาจจะตั้งใจมาเขียนข่าวการเปิดตัวโครงการของจงอิน ทว่ากลับมาพบเจอเซฮุนโผล่มานั่งข้างๆเสียก่อน
เจ้าตัวลืมนึกไปว่าตัวเองโด่งดังไม่ต่างไปจากพ่อนัก
แค่มีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ถึงอย่างนั้นร่างสูงที่ถูกดึงออกจากกองทัพนักข่าวที่กำลังเริ่มผลุดลุกผลุดนั่งจากเก้าอี้กลับรู้สึกอยากรู้คำถามที่ยังฟังไม่จบ
…..
……
“ข่าวพ่อยังไม่จบดี ลูกชายก็แอบมาให้กำลังใจแฟนเก่าอย่างคิมจงอิน เล่นได้ไม่รู้เบื่อจริงให้ตาย พวกประเด็นรักร่วมเพศเนี่ยะ ”
แน่นอนว่านักข่าวยุคใหม่มีความสามารถเพียงแค่นี้เท่านั้น…
“จะหาอะไรกินรึปล่าว ผมไม่เห็นคุณกินอะไรเลยนะ หาอะไรง่ายๆกินไหม”
ฮวางจื่อเทายังคงเหมือนเคย ถามไถ่และดูแลเขาเสมอ ….
ถึงจะบอกว่าเพราะจากคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปซะทั้งหมด
.......
โอเซฮุนในชุดสูทรที่ดูสง่าผ่าเผยไม่ปรากฎคำตอบรับใดๆ แขนยาวยกขึ้นเท้าเอาไว้ระหว่างกระจก
ถนนข้างทางที่ไหลผ่านสายตาไปเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่หยุดนิ่ง
ราวกับคนหูหนวกที่จมอยู่ในวังวน ขอบตาที่ร้อนผ่าวไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ถึงเขาจะเป็นตุ้ด เป็นเกย์ เป็นอะไรก็ตาม ใช่ว่าโอเซฮุนจะชอบแสดงด้านที่ออนแอเสมอไป
แม้ความรู้สึกที่มีได้พังทลายเป็นเสี่ยงเรียบร้อย
“จื่อเทา จอดร้านสะดวกซื้อข้างหน้านี่ละ ฉันว่าจะกลับคอนโด เย็นนี้ฉันมีธุระของแม่ที่ต้องทำ
ยังไม่รู้กำหนดแน่นอน ส่วนพวกรายละเอียดทั้งหมดวันนี้ฉันจะส่งเมลล์ให้พ่อที่หลังเอง ”
เซฮุนเอ่ยแจงถึงธุระที่กลายเป็นสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในเวลานี้
แม้ว่าตอนแรกมันคือสิ่งที่อยากจะทำให้พังพินาศก็ตาม
ไปไหนก็ได้ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ลำบากใจ …สูดอากาศบริสุทธิ์กับทะเลดูสักครั้ง…
“คุณจะหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อแค่นั้นน่ะหรอ จะไปหาร้านดีกินก็ได้นี่”
คนขับเบนดวงตาคมมายังเจ้านายที่แลดูมีสภาพไม่ดีนัก ก่อนที่คนตัวขาวจะเริ่มโต้ตอบ
“ไม่อะ ฉันมีธุระเย็นนี้ อาจจะยาวๆ พ่อคงรู้ นายไม่ต้องถามมากหรอก
พ่อให้นายมาดูแลเรื่องการทำงาน ไม่ใช่ดูแลชีวิตฉัน “
สิ้นประโยคสุดท้าย ได้ผลสำหรับจื่อเทา ความเงียบจึงได้ชัยชนะอีกครั้ง เซฮุนอาจจะปากร้ายกว่าเดิมสิบเท่าหรือยี่สิบเท่าตราบใดที่เขายังไม่ได้ปลดปล่อย
นั่นเป็นสิ่งที่ผู้คนรอบตัวชายหนุ่มจำเป็นต้องชินชา การทำให้เซฮุนเหมือนได้ใช้ชีวิตคนเดียวบนโลกสักชั่วโมงสองชั่วโมงไม่ใช่เรื่องร้ายอะไรนัก ทว่านั่นหมายถึงการทำให้เขาเริ่มเย็นลงอย่างช้าๆโดยที่ไม่มีใครเดือดร้อน
ร้านสะดวกซื้อตรงหน้ากำลังทำให้เขานึกถึงกลิ่นโซจูธรรมดาสักขวด และ เพื่อน'
ทันทีที่ปลายเท้าแตะกับฟุตบาทพร้อมอากาศบริสุทธิ์ภายนอก
ไม่มีฮวางจื่อเทา….. ไม่มีใครอีก…. ใบหน้าที่ร้อนระอุและขอบตาที่ร้อนไปหมดเริ่มต้นอีกครั้ง
ตั้งแต่เด็กแล้วที่การร้องไห้มักจะทำให้โดนล้อเสมอ…. เพราะผิวที่ขาวมักจะทำให้เบ้าตาเป็นจ้ำแดงอยู่อย่างนั้นเป็นวันๆ..
โอเซฮุนไม่ชอบเลยเวลาที่เขารู้สึกด้อยค่าหรือกำลังดูย่ำแย่ต่อโลกภายนอก มือซีดข้างหนึ่งยกขึ้นปิดใบหน้าเอาไว้ราวกับว่าไม่อยากให้ใครเห็นความหล่อเหลาที่เคยภูมิใจกับค่อยๆสลายไปกับความรู้สึกที่ค่อยๆระเบิดออก
วันนี้มันแย่มากจริงๆ….
เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ชอบมันเท่าไหร่ถูกกดโทรออกไปอีกครั้ง
.......
....
“เธออยู่ไหน...
มาทำงาน…….
ฉันหมายถึง …มาทำงานชิ้นสุดท้ายให้ฉันหน่อย...
ฉันรอหน้าร้านสะดวกซื้อซุกซองนะ”
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
TBC
รีบปั่นตอนนี้มาลง ฮี่ๆ^^หลังจากนี้คงต้องทิ้งระยะไปทำงานสักพัก
#ร่ำไห้ TOTฝากด้วยนะคะ ขอบคุณรีดเกอร์เจ้าเก่าทุกคนเลย ตอนนี้เห็นคอมเม้นก็รู้แล้วว่ามีใครบ้าง ฮ่าๆๆ^O^
รวมถึงรีดเดอร์ใหม่ที่่หลงเข้ามานะคะ ขอบคุณมาก
ไว้เจอกันตอนต่อไปที่เกาะเชจูน้าา ฮ่าๆๆ^O^
ความคิดเห็น