คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :::The Fifth Wish:::
:::The Fifth Wish:::
ทันทีทีแสงสีทองนั้นจางลง รยออุคถูกพากลับมายังชายหาดที่คุ้นเคย งานปาร์ตี้ที่สิ้นสุดลงแต่ทว่ายังไม่ได้เก็บอุปกรณ์ตกแต่งเลยซักนิด ร่างเล็กพยุงร่างของตัวเองขึ้นมาอย่างไร้เรียวแรง ร่างบางอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมที่ก่อนจะไปดินแดนประหลาดนั้น และที่สำคัญกระจกก็อยู่ในกระเป๋าสะพายของเค้าเหมือนเดิมแล้ว
รยออุครีบหยิบกระจกนั้นขึ้นมาทันที ก่อนจะมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ร่างเล็กเดินไปนั่งข้างๆโขดหินใหญ่ แล้วจึงเริ่มบทสนทนากับกระจกอีกครั้ง
“ชินดง ฉันกลับมาแล้ว”รยออุคบอกกระจกนั้น ก่อนที่ซักพัก ชายร่างอ้วนที่คุ้นเคยจะปรากฏออกมาให้เห็น “เยซองไปไหนล่ะ”
“ฉันดีใจนะที่นายกลับมาอย่างปลอดภัย ส่วนเยซอง...”ชินดงลากเสียงไว้ให้คิด
“ทำไมล่ะ แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน นายมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันรึเปล่าชินดง”รยออุคตะคอกใส่กระจกอย่างหัวเสีย
“คือว่า...การขอพรน่ะ มันก็ขอได้อ่ะนะ แต่นี่มันเป็นกระจกมันย่อมสะท้อนเป็นเรื่องธรรมดา เพราะอย่างนั้นแล้วนายขออะไรนายก็จะได้อย่างที่นายขอด้วย และในขณะเดียวกัน นายก็จะโดนสะท้อนเข้าหาตัวด้วย ซึ่งสิ่งนี้ฉันลืมบอกนายไป”ชินดงพูดเบาๆอย่างรู้สึกผิด
“ที่ฉันเกือบตาย นี่เพราะนายแค่ลืมบอกหรอ ห๊า!”รยออุคโวยลั่น “ฉันไม่เท่าไหร่ เยซองซิตอนนี้เขาจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เขาช่วยฉันแล้วตอนนี้เขาก็หายไปไหนก็ไม่รู้ นายยังมีหน้ามาบอกว่าลืมบอกกฎฉันหรอ”
“ฉันขอโทษ...”เป็นครั้งแรงที่ภูตตัวอ้วนในกระจกอย่างชินดงจะไม่กล้าแม้แต่มองตาของรยออุคเลยซักแวบเดียว “ฉันไม่แน่ใจว่าเยซองเค้าจะเป็นยังไง แต่ที่รู้คือนายจะเจอเค้าเองในไม่ช้า”
ทันทีที่ชินดงพูดจบก็หายไปทันที รยออุคเก็บกระจกนั้นใส่กระเป๋าอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ว่าชินดงไปมันก็เท่านั้น ตอนนี้เค้าควรหาทางกลับบ้าน
“อุค” เสียงเรียกจากฮันคยองดังขึ้นทำเอารยออุครู้สึกเหมือนกับรอดตาย ฮันคยองรีบวิ่งเข้ามาหารยออุคด้วยความดีใจ จากนั้นดงเฮ และซองมินก็มาด้วย “หายไปไหนมา” คนเป็นพี่ใหญ่สุดยิงคำถาม
“เอ่อ...คือ ไม่ได้ไปไหนฮะ เดินๆแล้วมันหลงไปน่ะ ผมขอโทษจริงๆที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงผม” ร่างบางโค้งเชิงขอโทษ
“เราดีใจที่เจอนาย”ซองมินยิ้มแก้มปริก่อนจะกอดรยออุคจนแน่น
“มิน เราหายใจไม่ออกแล้ว”รยออุคพูเบาๆ
“กลับบ้านกันดีกว่า ไหนๆก็เจออุคแล้ว คงไม่ต้องเครียดอะไรแล้ว”ดงเฮพูตัดบทก่อนที่ทั้งสี่คนจะเดินไปยังรถของดงเฮที่จอดรออยู่แล้วออกรถกลับบ้าน
“ทุกคนตามหาฉันหรอ”รยออุคถามในระหว่างทางกลับ
“ก็ใช่สิ พี่เป็นห่วงแทบแย่ วันหลังจะไปไหนกับต้องบอกพี่นะรู้รึเปล่า”ฮันคยองเอ็ดใส่ทุกคน
รยออุคอยากถามถึงเยซองจากทุกคน แต่ในเวลานี่เค้ารู้ดีว่าไม่ควรถาม เค้าทำให้ทุกคนเครียดและเสียเวลามามากเกินพอแล้ว ร่างเล็กได้แต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างคนไร้ความรู้สึก มันจำเป็นหรอที่จะให้ใครซักคนมาเสี่ยงชีวิตช่วย...
-------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------
ลีทึกเดินไปเดินมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับร่างคนตรงหน้า แม้จะพาหมอมาตรวจแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้พบอะไรผิดปกติ แน่นอนที่สุดหมอบอกว่าเยซองแค่หลับไปเพราะความอ่อนเพลียของร่างกาย แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือเพราะเวลาล่วงเลยมาแล้วถึงสองวัน ใครจะนอนหลับไม่ฟื้นขนาดนั้น
“แกจะให้ฉันทำยังไง ฉันควรโทรไปบอกคุณหญิงแม่ของแกมั๊ยเย่...”ลีทึกเขย่าแขนคนนอนหลับอย่างจนปัญญา “หรือฉันควรโทรบอกไอ้ชอลดีอ่ะ แกจะให้ฉันทำยังไง”
“...”
“ถ้าฉันโทรหาแม่แก แม่แกจะไม่มายึดกิจการฉันเลยหรอ โทษฐานทำให้แกไม่ปลอดภัยอ่ะ โทรหาชอล ให้ตายซิ! เรื่องมันถึงแม่นายอยู่ดี แกจะให้ฉันทำยังไง”ลีทึกว่าพลางเอาหัวตัวเองไปโขกกับกำแพงห้องอย่างแรงเผื่อจะคิดอะไรดีๆออกแต่ที่ได้มากลับไม่ใช่ความคิดดีๆ แต่กลับเป็นเลือด ใช่ลีทึกหัวแตกเลยล่ะ
“ซวยจริงๆ แง~”ลีทึกโวยลั่นก่อนจะเดินออกจากห้องเยซองไปแล้วขับรถออกไปยังคลินิกใกล้ๆโฮมเสตย์
คลินิก
รยออุคมาทำงานตามปกติ วันนี้เป็นวันจันทร์แล้ว และแน่นอนเค้าขาดงานไป 1 วันเต็มๆคือวันอาทิตย์ หรือวันที่เค้ากลับจากดินแดนประหลาดนั้น ที่แย่ที่สุดคือเค้าถูกตัดเงินเดือนด้วยโทษฐานหายไปไม่มีลา
“เมื่อวานไปไหนมา”ยุนอาถามเรียบๆ “สีหน้านายไม่ค่อยสู้ดีนะ ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย” ยุนอาเดินเข้ามาใกล้ๆรยออุคก่อนจะเอามือแตะที่หน้าผากเบาๆ
“เปล่าๆไม่เป็นไร”รยออุคปัดมือยุนอาออกเบาๆ “เมื่อวานเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะเลยไม่ได้มาทำงานยังไงฉันต้องขอโทษด้วย”
“ไร้สาระน่า นายจะมาขอโทษทำไม ดูก็รู้ว่านายไม่สบาย ฉันว่าความจริงวันนี้นายน่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ หรือไม่นายควรหยุดพักครึ่งวันไปเลย”ยุนอาเสนอด้วยความเป็นห่วงเพื่อนร่วมงาน
“ขอบใจนะ แต่ถ้าขนาดนั้นแล้วฉันก็ไม่มีเงินกินเลยซิ แค่เมื่อวานหยุดยังถูกตัดเงินเลย ฉันไม่อยากไม่มีเงินกินหรอนะ”รยออุคพูติดตลก
“ถ้านายไม่สบาย หรือ ไม่ไหวจริงๆบอกฉันแล้วกัน เดี๋ยวจัดการให้แล้วนายจะไม่ถูกตัดเงินหรอก เชื่อดิ”ยุนอาตอบเพื่อให้อีกคนสบายใจก่อนจะเดินไปทำงานต่อ
....
...
..
.
“โอ๊ย~”คนไข้รายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร้องอย่างเจ็บปวด หน้าที่มีรอบเลือดเปื้อนเป็นทาง คนคนนั้นทำได้เพียงแค่เอามือปิดบาดแผลไว้
รยออุครีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที เพราะวันนี้คนไข้ค่อนข้างไปทางเยอะมาก พยาบาลเลยไม่ว่างกันซักเท่าไหร่
“พี่ทึก”ร่างเล็กอุทานลั่น ก่อนจะรีบพาลีทึกลัดคิวเข้าไปรักษาก่อน
ไม่นานนักลีทึกก็ออกมารับยา รยออุคจ่ายอยาตามหน้าที่ แล้วลีทึกก็เดินออกไปทิ้งไว้เพียงแค่รอยยิ้มบางๆ แต่เหมือนซักพักรยออุคจะคิดอะไรบางอย่างได้
“ยุนอาฉันขอลางานครึ่งวันนะ”รยออุคบอกเพื่อนร่วมงานก่อนจะเดินออกจาร้านไป โชคดีที่ลีทึยังไม่ได้ออกรถ รยออุคจึงเดินไปเคาะกระจกเบาๆ
“ว่าไงอุค มีอะไรหรอจ้ะ”คนในรถคลี่ยิ้มบางๆ
“พี่เจอเยซองรึเปล่าฮะ””
“เอ่อ เจอซิ!”
“เค้าอยู่ที่ไหน”
“โฮมเสตย์ของเค้าไง”ลีทึกตอบอย่างงงๆ
“ผมขอไปหาเค้าได้มั๊ย”
“ได้ซิ”
ลีทึกได้แต่งงๆกับท่าทางรีบร้อนและอาการเป็นห่วงเยซองของรยออุคมาก ก็เพราะทั้งคู่ไม่ค่อยจะถูกกันซักเท่าไหร่ ในครั้งแรกที่เจอในงานปาร์ตี้ แต่ทว่าวันนี้กลับดูร้อนใจเป็นห่วงกันจนออกนอกหน้า แต่ก็ได้แค่สงสัยเพราะลีทึกเองก็ไม่รู้จะถามอะไร
ทันทีที่มาถึงโฮมเสตย์ลีทึกขอตัวไปพักก่อน ส่วนรยออุคก็อยู่เฝ้าเยซองเพราะลีทึกสั่งพอดี
“เฮ้! นายหลับอยู่หรอ”ร่างเล็กนั่งลงข้างๆเตียงนอนก่อนจะพูดกับคนที่นอนหลับอยู่ “พี่ทึกบอกว่านายหลับมา 2 วันแล้วหรอ เพราะฉันแน่ๆเลยใช่มั๊ยนายถึงเป็นแบบนี้ ขอโทษ”
“หรอ...”คำตอบที่มาจากคนนอนอหลับอยู่ดังขึ้นทำเอารยออุคยิ้มได้ทันที
“นายตื้นแล้ว”รยออุคเผลอกอดร่างนั้นอย่างดีใจ
“แต่ถ้าคุณไม่เลิกกอดผม ผมก็คงจะหลับต่อ” เยซองพูดติดตลก
“ขอโทษๆ”รยออุครีบดันตัวเองขึ้นมาทันทีอย่างอายๆ “นายฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อกี้ตอนคุณมา”เยซองพูดพลางดันตัวเองขึ้นมานั่ง
“เป็นอะไรมากมั๊ย”
“มาก เพราะคุณนั้นแหละ”
“นายจะมาโทษกันอย่างนี้ไม่ได้นะ ใครใช้ให้นายทำตัวเป็นพระเอกไปรับแสงนั่น โต้งๆอย่างนั้นล่ะ ไร้สาระสิ้นดี” รยออุคเชิ่ดใส่อีกคน
“โห! พูดจาแมวๆอย่างนี่ ผมล่ะอยากย้อนเวลาจริงๆ น่าจะล่อยให้คุณตายๆไปซะ ไม่น่าช่วยเลย ทำคุณบูชาโทษ โปรดจิ้งจกได้ตุ๊กแกชัดๆ”เยซองลุกออกจากเตียงไปทันที
“เฮ้! ตื่นมาแล้วปากก็เน่าเลยหรอ”ร่างเล็กว่าพลางปาหมอนไปใส่หลังอีกคนอย่างจัง “เท่าที่จำได้ฉันก็ไม่ได้ขอให้นายช่วยนะเว่ย”
“นี่คุณ...จะปาหมอนมาทำไมเนี่ย ผมเจ็บไปหมดแล้ว”เยซองตะโกนเสียงดังก่อนจะเดินไปยืนกอดอกบนเตียงอย่างผู้ชนะ “จำไว้ว่าผมเหนือกว่าคุณโอเคนะ คุณติดหนี้ผมอยู่ เพราะฉะนั้น ถ้าผมต้องการอะไรคุณต้องหามาให้ผม”
“นายนี่มัน...”รยออุคกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น
“ทำไม”เยซองขึ้นเสียงสูง “ผมช่วยชีวิตคุณไว้นะ บุญคุณครั้งนี้จะหาที่ไหนมาทดแทน”
“นายมัน
”
“ผมมันทำไม มันอยู่นั้นแหละ ผมเป็นคนนะไม่ใช่มัน หน้าตาไม่น่าไม่ฉลาดนะ แต่กลับไม่ฉลาด”เยซองเห็นรยออุคยิ่งโกรธก็ยิ่งยั่วโมโห บางทีเยซองเองก็เริ่มคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตรึเปล่าชอบทำให้รยออุคอารมณ์เสีย
“เลวที่สุเลย!” รยออุคตะโกนลั่น
“ผมเบื่อที่จะคุยกับคุณเต็มทน เอาเป็นว่าถือซะว่าเป็นการตอบแทนอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์นายทำงานเสร็จแล้วต้องมารับใช้ฉันที่บ้านทุกวัน แล้วอีกอย่างถ้าคุณจะมาพรุ่งนี้ฝากซื้อบะหมี่ร้านเดิมมาด้วยนะ ส่วนเรื่องเงินนายออกไปก่อนแล้วกัน”เยซองได้ที
“ฝากไว้ก่อนเหอะ อย่าให้ถึงตาฉันบ้างแล้วกัน ลาก่อนนะไอ้บวม!”พูดจบรยออุคก็เดินออกไปทันทีอย่างหัวเสีย
“เจอกันพรุ่งนี้นะ ถ้าคุณไม่มาผมจะเห็นว่าคุณมันไร้สามัญสำนึก”เยซองเน้นคำสุดท้ายชัดเจน
---------------------------------- --------------------------------------------- --------------------------------------
ที่บ้าน
ระหว่างทานอาหาร สมาชิกร่วมโต๊ะก็มีเพียงสามคนเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มมาอีกหนึ่งมนุษย์จิ๋วบนบ่าซองมินก็ได้
“เป็นอะไรอุคหน้าตาดูไม่สดใสเลย”ดงเฮถามอย่างผิดสังเกต
“เอ่อคือ...”
“เล่ามาเถอะเราเป็นเพื่อน และ พี่น้องกันนะ ห้ามมีความลับ”ซองมินเน้นชัดเจน
รยออุคเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทั้งสองคนและหนึ่งมนุษย์จิ๋วฟังทุกคนดูตั้งใจฟังมาก แต่ก็ไม่ได้มีใครค้านว่าไม่เชื่อ จนเล่าถึงข้อตกลงล่าสุดที่เยซองสั่งไว้
“ก็ไม่ต้องทำเซ่!”คยูฮยอนเสนอ
“มันจะได้ยังไงล่ะคยู ฉันไม่ใช่คนไม่รับผิดชอบนะ”รยออุคค้าน
“ใครจะไปไร้ความรับผิดชอบอย่างนายล่ะ”ซองมินเหน็บแนม “กินไปข้าวน่ะ แล้วนายจะทำไงต่อล่ะอุค”
“ฉันว่านะนายก็ทำๆไปก่อนแล้วกันอาทิตย์เดียวคนไม่นานนักหรอก แล้วอีกอย่างนะนายก็จะได้ถือโอกาสหาคนคนนนั้นไปด้วยไง”ดงเฮเสนอความคิด
“จะหายังไงล่ะด๊อง”ซองมินถาม
“โฮมเสตย์เลยนะมิน คนมันก็ต้องเยอะซิ”
“จริงด้วยๆ”
“ว่าแต่ที่รักแกดูตัวเล็กลงรึเปล่า”รยออุคแหย่ซองมิน
“เหอะ อย่าได้สนใจรังแค”ซองมินยักไหล่เบาๆ ก่อนจะตักข้าวคำโตเข้าปาก
“ซองมินนายกล้าว่าฉันหรอ ฉันเป็นแฟนนายนะ”
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่! เราเลิกกันไปแล้วนะ!”ซองมินพูดชัดเจน
“ว่าแต่ไปหาของจิ๋วๆพวกนี้มาจากไหนล่ะเนี่ย”ดงเฮถามซองมินที่กำลังกินข้าวอย่างสบายอารมณ์
“ร้านของเด็กเล่นไงแพงชะมัดยากเลย”
จากนั้นบทสนทนาก็ครึกครื้นอีกครั้ง โดยมักจะเป็นเรื่องล้อซองมินกับคยูซะส่วนใหญ่ รยออุครู้เพียงว่าตอนนี้ควรเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เค้าคงต้องผจญกับปีศาจในคราบคน เยซองนั้นเอง...
--------------------------------------------------------------------------- -----------------------------------------
วันอังคาร
รยออุคมาทำงานที่คลินิกตามปกติ จนเลิกงานรยออุครู้สึกว่าเวลาของการทำงานที่คลินิกในวันนี้ทำไมมันเร็วกว่าทุกวัน เค้าไม่ได้ตื้นเต้น ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่รู้สึกขี้เกียจที่จะต้องไปปะทะคารมกับคนไม่เต็มบาท
ทันทีที่เลิกงาน รยออุคเดินช้าๆไปซื้อบะหมี่ก่อนจะไปรอรถเมล์เพื่อขึ้นไปยังโฮมเสตย์ เมื่อไปถึงผู้เป็นเจ้านาย เยซอง กำลังนึ่งฟังเพลงจากไอพอตอย่างสบายอารมณ์บนโซฟาสีน้ำตาลเข้ม
“นายจะให้ฉันทำอะไรไม่ทราบ”รยออุคว่าพลางวางถุงบะหมี่ที่ซื้อมาไว้ตรงหน้าเยซอง
“...”คนที่ถูกถามปรายตามมามองรยออุคเล็กน้อยก่อนจะไปสนใจกับเพลงต่อ
“นี่!”รยออุคกระชากหูฟังออกจากหูเยซองทันที “จะให้ทำอะไร”
“จะให้ฉันกินในถุงรึยังไงล่ะ ถามอะไรไม่รู้เรื่อง ไปเทมาเซ่”เยซองตะหวาดลั่นก่อนจะใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงต่ออย่างสบายใจ
รยออุคเดินไปเทบะหมี่ใส่จานแล้วเอามาเสิร์ฟให้กับคุณชายเยซอง อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะดึงหูฟังเยซองออกแล้วถามต่อ
“มีอะไรให้ทำรึเปล่า ถ้าไม่มี ฉันกลับ!”รยออุคเน้นคำสุดท้ายชัดเจน
“คุณกล้าทำอย่างนี้กับผู้มีพระคุณหรอ”เยซองถามแนวเสียดสีเล็กๆ “ก็ได้ คุณจะกลับก็ได้ ผมจะได้รู้ว่าการที่ฉันเสี่ยงชีวิตช่วยใครซักคนจนตัวเองเจ็บปางตาย มันไม่คุ้มเลย ชีวิตนี้ฉันคงไม่ช่วยใครอีกแล้วแหละ”
“เออๆ พอซักที นายจะใช้อะไร”รยออุคถามอย่างเหลืออด
“ซักผ้าในตะกร้าตรงนั้น ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน เช็ดชั้นหนังสือ ทำให้เสร็จก่อนสองทุ่มล่ะ เพราะฉันจะนอน ถ้าดึกกว่านั้นเดี๋ยวจะไม่ไหวน่ะ”รยออุคมองหน้าคนตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“มองหน้าทำไมล่ะ มีงานก็ไปทำดิ”เยซองพูดเสียงสูง
รยออุคไปทำงานบ้านเริ่มจากซักผ้าก่อน จากนั้น ล้างจาน เก็บและเช็ดชั้นหนังสือ ส่วนผู้มีพระคุณเยซองก็กินขนมอย่างสบายใจ ระหว่างที่รยออุคกวาดบ้าน เยซองก็โยนเศษขนมลงมาเรื่อยๆ
“นี่ช่วยทิ้งใส่ขยะได้มั๊ย ถังขยะก็อยู่ข้างๆตัวทิ้งไม่ได้หรอ”รยออคพูดอย่างเหลืออด “ช่วยก็ไม่ช่วยทิ้งอยู่ได้”
“คุณพูดกับผู้มีพระคุณอย่างนี้หรอ...”เยซองเลิกคิ้วถามอย่างกวนประสาท “อ้อแล้วอีกอย่างแม้ถังขยะจะอยู่ใกล้มือก็ตาม แต่นายไม่เห็นหรอฉันโยนไม่ลงอ่ะ”
เยซองว่าพลางแกล้งทำเป็นโยนเศษขยะ(เหมือนจะ)ลงถัง แต่มันก็ไม่ลง “เห็นปะ มันไม่ลงอ่ะ อย่าบ่นเลยนายมีหน้าที่กวาดก็กวาดไป นี่หนึ่งทุ่มแล้วนะ”
รยออุคต้องทำมันอย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ จนเมื่อทำงานเสร็จทุกอย่างรยออุคก็ขอตัวกลับบ้านทันที
“ฉันกลับ”
“พรุ่งนี้เจอกัน อ้อ!แล้วนายก็ช่วยไปซื้อพิซซ่ามาให้ด้วย”เยซองสั่ง
“ทำไมนายไม่โทรสั่ง”
“ถ้าจะสั่งเองแล้วจะให้คุณมารับใช้ทำไมล่ะ”เยซองยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวอย่างน่าหมั่นไส้
“ฉันจะไม่มา”
“ก็เอาดิ... ถ้าคุณอยากให้ชีวิตไม่สงบสุขน่ะ”เยซองท้า
“นายจะทำอะไร”รยออุคถาม
“เดี๋ยวก็รู้ เอาเป็นว่าญาติๆคุณ อาจอยู่ไม่สุขได้น่ะ แต่ถ้าคุณมาทุกวันจนถึงอังคารหน้าก็คงไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก เลือกเอานะครับ” เยซองยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีกคน รยออุคได้แต่ยืนแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ได้แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” รยออุคกลั่นใจตอบกลับก่อนจะเดินออกจากบ้านไปทันทีรยออุครู้ดีว่าการมาทำงานให้เยซองเปรียบเหมือนกับตกนรกทั้งเป็นแต่ทว่ามันก็เลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ
หลังจากที่รยออุคออกไปได้ซักพัก เยซองกเดินสำรวจโฮมเสตย์ตัวเอง มันดูสะอาดผิดหูผิดตาพิลึก เขารู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองได้เปรียบมาก เพราะฉะนั้นต้องใช้จังหวะนี้แกล้งรยออุคให้ถึงที่สุด เพื่อความสะใจ
“ถ้าผมขอได้นะ ผมอยากขอให้รยออุคมาทำงานให้ผมมากกว่าหนึ่งอาทิตย์” เยซองพูดออกมาลอยๆอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
*****************************************************************************************************
ปล.หวังว่าจะสนุกกันนะค่ะ คงไม่งง555+
ปล.อ่านเเล้วอย่าลืมเม้นบ้างอะไรบ้างก็จะดีมากๆนะค่ะ เพราะไรท์เตอร์จะได้รู้ว่าอะไรยังไง ชอบหรือไม่ชอบ
ปล.จะพยายามหาเวลาเเต่งเรื่อยๆ เพราะช่วงนี้ไรท์เตอร์ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับคอมเท่าไหร่555+^^
ปล.เอาเป็นว่าฝากเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ><Y
ความคิดเห็น