คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :::The Third Wish:::
:::The Third Wish:::
รยออุคเดินกลับไปทำงานต่ออย่างหัวเสียเล็กๆ ไม่ซิ! หัวเสียมากๆเลยก็ว่าได้ คนตัวเล็กก้มมองดูเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่อยู่ก่อนจะเบ้ปากเล็กน้อย
“อุคเสื้อนายหายไปไหนอ่ะ แล้วไปเอาแจ็คเก็ตใครมาใส่”แทยอนถามพลางคลี่ยิ้มบาง
“เมื่อกี้เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ ไปฟัดกับหมามา”รยออุคกัดฟันตอบอย่างเคียดแค้น
“คิดซะว่าฟาดเคราะห์ไปเซ่”แทยอนตบบ่ารยออุคเบาๆก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
เลิกงาน
ดงเฮมารับรยออุคกลับบ้านเพราะรู้ว่ารยออุคยังไม่รู้ทางกลับดีเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นอาจจะหลงได้
“นี่วันหลังถ้านายจะกลับบ้านก็มาขึ้นรถเมล์สาย 411 นะ มันผ่านหน้าปากซอยบ้านเราน่ะ แต่มันจะเลยไปนิดหน่อยก็เดินย้อนกลับมาแล้วกัน”ดงเฮอธิบายขณะพารยออุคขึ้นรถเมล์กลับบ้าน
“อืมๆ เข้าใจแล้ว วันหลังนายไม่ต้องเดือดร้อนมารับฉันหรอก”
“ได้ไงๆ ถ้าฉันทำงานเสร็จฉันจะแวะมาบ่อยๆ”ดงเฮยิ้มกว้าง “ถ้าวันไหนฉันไม่มาเดี๋ยวฉันจะโทรบอก นายก็กลับเอง”
“ว่าแต่นายทำงานไรอ่ะ”
“เป็นครูสอนเต้นน่ะ”
“ไม่น่าเชื่อ!” รยออุคมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นายชมหรือด่าฉันอยู่อ่ะอุค”
“ล้อเล่นน่า”
“ถึงบ้านแล้วๆ”หลังจากขึ้นรถเมล์มาได้ซักพักก็ถึงที่หมาย ดงเฮและรยออุคก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน
ในบ้านซองมินเตรียมอาหารไว้มากมายบนโต๊ะอาหารแต่ทว่าตอนนี้กลับมีอยู่กันแค่สามคน ฮันคยองหายไปไหนก็ไม่รู้
“พี่ฮันไปไหน”อุคถามซองมิน
“งานยังไม่เลิกหรอกรายนั้นน่ะ”ซองมินตอบปัดๆ “มากินข้าวกันดีกว่า”
“อุคนายเจอคนที่ขอพรให้นายรึยัง”ซองมินถามระหว่างทานข้าวเย็นด้วยความสนใจ
“ฉันยังรู้จักใครไม่เท่าไหร่ จะมีได้ยังไงล่ะ จะว่าไปไอ้เกมนี้มันก็บ้าจริงๆ”รยออุคบ่นพลางตักข้าวคำโตเข้าปาก “ฉันว่าจะโยนมันทิ้งๆไปให้แตกๆไป จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย”
“จะบ้าหรอ!”ดงเฮตะโกนลั่น “ถ้านายทำกระจกแตกนายจะซวยไป7ปีเลยนะ ไม่อยากจะบอกหรอก แต่นี่เป็นความเชื่อของคนที่นี่น่ะ”
“อืมๆใช่ นายก็เล่นๆไปเถอะ เดี๋ยวเราสองคนช่วยเอง พรุ่งนี้วันเสาร์คลินิกนายจะเปิดแค่บ่ายโมง เดี๋ยวฉันจะพานายไปท่องโลกกว้าง”ซองมินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะตักกับข้าวบนโต๊ะมาใส่จานแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ถามจริงนายจะพาอุคไปไหน”ดงเฮหรี่ตาถามอย่างจับพิรุธ
“ไปเที่ยวที่โฮมสเตย์ของรุ่นพี่ฉัน ได้ข่าวว่าเสาร์นี้ ตอนเย็นๆเค้ามีงานเลี้ยงกันน่ะ พี่เค้าเลยโทรมาชวนฉันไง ด๊องก็ไปด้วยกันดิ”ซองมินชวน
“อืมๆดี งานเลี้ยงของกินฟรีฉันชอบนักแหละ”ดงเฮยิ้มตาหวาน ก่อนจะกินข้าวต่อ จากนั้นบทสนทนาจิปาถะก็เริ่มต้นขึ้น
เสียงหัวเราะครึกครื้นดังจากภายในบ้านหลังเล็กๆ ที่คนสามคนกำลังกินข้าวอยู่ รยออุครู้แล้วว่าที่ที่เขาเลือกมาใช้ชีวิตอยู่นี้ ไม่ได้ทำให้เค้าคิดว่าตัวเองตัดสินใจผิดเลย
------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------- -------
เยซองเดินกลับเข้าบ้านพักหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย ลมพัดๆเย็นๆพัดผ่านกระทบผิวสีขาวที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อยืดสีขาวที่เขาใส่อยู่
“เย่! นายเป็นพระเอกเอ็มวีรึไงน่ะ”ลีทึกที่กำลังเตรียมงานปาร์ตี้อยู่หันมาถาม
“ยุ่งน่า ว่าแต่นายจะเตรียมปาร์ตี้อีกทำไม”
“ก็เสาร์นี้ครบ 20 ปีของธุรกิจโฮมเสตย์ของพ่อกับแม่น่ะ”ลีทึกคลี่ยิ้มกว้าง ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจเต็มเปี่ยม เยซองได้แค่เพียงยิ้มรับก่อนจะเดินไป
“เย่! พรุ่งนี้นายก็มาปาร์ตี้ดิ” ลีทึกชวนเยซอง
“อืม” ร่างหนาตอบรับสั้นๆ
เยซองเดินขึ้นไปยังห้องอนของตัวเองก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อลงรูปต่างๆที่ถ่ายไว้ลงในคอมไว้ เขานั่งไล่ดูรูปตั้งแต่ต้นจนมาถึงรูปของ คนตัวเล็กๆที่เขาแอบถ่ายมา เยซองยิ้มบางๆอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เข้าใจตัวเองจริงๆว่าจะยิ้มทำไม่ แต่ที่เขารู้คือภาพนี้คือภาพที่สวยและมองแล้วทำให้คนที่ชีวิตจืดชืดอย่างเขามีความสุขได้
ในรูปเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั้งชื่อ (แต่คนคนนั้นต้องซวยมากมายเพราะเยซองเลยจริงๆ) กำลังตักบะหมี่คำโตเข้าปาก ดูก็รู้ว่าหิวแค่ไหน
“กูจะขำหาซากศพอะไรว่ะ ไร้มารยาท”เยซองบ่นอุบอิบกับตัวเอง ก่อนจะปิดโน๊ตบุ๊คแล้วไปอาบน้ำนอน
-------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------
วันเสาร์
รยออุคยังคงทำงานตามปกติ เพราะ คลินิกยังเปิดอยู่ถึงประมาณบ่ายโมง คนไข้ไม่เยอะมากนักสำหรับวันนี้ เลยทำให้เขาค่อนข้างไปทางว่าง รยออุคตรวจดูยาไปพลางๆแก้เซ็ง
“อุค”เสียงทุ้มนุ่มนั้นดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เค้าต้องหันไป
“ไง”รยออุคลิ้มจนตาหยี
“มินบอกว่าวันนี้จะไปปาร์ตี้กันหรอ”คยูถาม
“ก็อืม ทำไมหรอ อยากไปหรอครับ...คุณหมอ”รยออุคแอบเน้นคำว่าคุณหมอเพื่อบอกให้รู้ว่าคยูฮยอนยังต้องมีงานในโรงพยาบาลจะตามติดซองมินตลอดเวลาได้ยังไง
“ไม่เห็นต้องย้ำเลย...”คยูฮยอนตอบปัดๆอย่างรู้ทัน “งั้นขอให้สนุกนะ”คยูฮยอนพูดจบก็เดินจากไป แต่ทว่า
“เดี๋ยวๆ!”รยออุคกลับเรียกไว้ก่อน “เมื่อกี้นายขอพร...ให้ฉันหรอ?!”รยออุคเอานิ้วเล็กๆชี้หน้าตัวเองราวกับเป็นคำถามถามคนตรงหน้า
“คุยกันอยู่สองคน ผมคงอวยพรให้ขวดยาละมั่งครับ”คยูตอบกวนๆเล็กน้อย ก่อนจะหันไปแต่รยออุคกลับรั้งไว้ยังไม่ให้ไป
“นายรอฉันแปบนะ สักครู่...!”
รยออุคหันหลังให้คยูฮยอนที่กำลังยืนงงอยู่ ก่อนจะหยิบกนะจกออกมาแล้วเรียก ไอ้เทวดา หรือ พ่อมด หรือ ปีศาจ อะไรซักอย่างนั้นแหละในกระจก
“ไอ้อ้วนชินดง เฮ้! นายอยู่ไหนฉันเรียกไปไม่ยินหรอ ฉันเจอแล้วคนคนนั้นอ้ะ”คนตัวเล็กกระซิกระทราบกับกระจก
“อุคคุณคุยกับใครอ่ะ”คนที่ยืนรออยู่ถามอย่างงงๆ
“แปบนะ”รยออุคหันมายิ้มแห้งๆ “เฮ้ย! ออกมาไวๆดิ”
“เออมาแล้ว”ทันทีร่างอ้วนๆก็ปรากฏขึ้นบนกระจก “ไหนล่ะๆ รีบๆฉันกำลังยุ่ง”ชินดงเชิ่ดหน้าอย่างไม่ยี่หระ
“เอ่อ คยู นายช่วยพูดว่าขอให้แม่รยออุคฟื้น ใส่ไอ้กระจกต๊อยนี่ได้มะ”
“บ้าหรอ...”คยูขมวดคิ้วเป็นปม
“เออน่า ไม่เห็นเสียหายเลย”รยออุคยังคงรบเร้า...
“ขอให้แม่รยออุคฟื้นนะครับ”คยูฮยอนยิ้มให้กระจกด้วยอย่างสวยงาม ทันใดนั้น
วาบ!
แสงสีทองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในเวลาเดียวกัน ซองมินที่มาถึงพอดีก็
“อุคทำอะไรน่ะ”ซองมินตะโกนถามด้วยความตกใจ ก่อนจะวิ่งไปยืนข้างๆอุค และขณะนั้นแสงสีทองก็หายไป
“อ้าว! คยูหายไปไหนอ่ะ”ซองมินยิงคำถาม
“ไม่รู้”รยออุครีบหยิบกระจกขึ้นมาทันที “ไอ้อ้วน คยูไปไหนอ่ะ”
“เฮอะ! พวกทำไรด้วยความไม่เต็มใจ ตอนแรกแค่กะจะลงโทษฐานะว่าไม่ใช่คนคนนั้น แต่นี่ยังไม่เต็มใจทำอีก คนระเภทนี้ใช้ไม่ได้”ชินดงส่ายหน้าเบา
“นายกล้าดียังไงมาว่าคยูฮะ”ซองมินว่าคนในกระจก
“เอาล่ะ จะบอกกติกาแล้วกันเผื่อนายยังไม่รู้ละเอียด คือถ้านายมั่วคนแล้วคนคนนั้นจะถูกสาปแล้วแต่ว่าฉันอยากให้เป็นอะไร แล้วยิ่งถ้าคนคนนั้นไม่เต็มใจอีกก็จะถูกสาปตามที่ฉันพอใจอีกโอเคนะ แล้วถ้าจะถามว่าเพื่อนนายจะเหมือนเดิมได้ไงล่ะก็...จะบอกว่าจนกว่านายจะหาคนคนนั้นเจอ”
“เฮ่! ถ้าอย่างนี้แล้วฉันจะเจอได้ที่ไหนเล่า”
“ก็บอกแล้วไง ถึงเวลาเดี๋ยวกระจกมันจะบอกนายเองแหละ แค่เอาไปส่องหน้าคนคนนั้นเอง ง่ายจะตาย”พูดจบคนตัวอ้วนก็หายไปในกระจกทันที
“อุค!” ซองมินตะโกนสุดเสียง “คยูทำไมกลายเป็น...”
“เอ่อ...”อุคไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยืนนิ่ง
“โอ้ว! ฉันตาฝาดหรอ”ดงเฮที่เดินเข้ามาพอดีก็ต้ออึ้งเหมือนกัน
คยูฮยอนที่เคยตัวสูงโปร่ง ตอนนี้กลายเป็นเพียงคนตัวกระเปี๊ยก ตัวสูงแค่ฝ่ามือของซองมินเท่านั้น!
“เฮ้ย!นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย”คยูฮยอนตกใจจนพูดไม่ถูก “ทำไมฉันตัวแค่เนี่ยอ่ะ”
“ใจเย็นๆดิ เอาเป็นว่าฉันจะช่วยนายให้เป็นเหมือนเดิม”ซองมินยกร่างกระเปี๊ยกขึ้นมาตรงหน้า แล้วมองอย่าเซ็งๆและสงสาร
“ฉันต้องขอโทษนายด้วยนะคยู”อุคพูดอย่างสำนึก
“แล้วจะทำไงต่อ”ดงเฮที่เหมือนจะได้สติแล้วถาม
“ก็คงต้องเป็นอย่างนี้ไปก่อน”รยออุคตอบเรียบๆ
“เฮ้แล้วงานผมล่ะ”คยูถาม
“ให้คนอื่นทำไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวฉันจะไปลาให้”ซองมินตัดบท “ตัวตัวเองเล็กแต่นี้ยังคิดห่วงงาน น่าจะห่วงตัวเอง ห่วงว่าจะอยู่ยังไงมากกว่าตาเบื๊อก”ซองมินเอ็ดใส่คนที่อยู่บนฝ่ามือตัวเอง
“เชอะ แล้วจะเอาไงล่ะว่ามาดิ”คยูนั่งขัดสมาธิลงบนฝ่ามือของซองมินพลางเท้าคาง
“ทำมาเชิ่ดใส่จะบอกให้นายมันยิ่งกว่าลูกไก่ในกำมือนะตอนนี่อ่ะ ฉันกำนายก็ตายแล้ว” ซองมินท้าคนตัวจิ๋ว
“เอาล่ะๆ ฉันว่านายดูแลไปเลยแล้วกันนะมิน”ดงเฮตัดบท
“ได้ไง!”ซองมินตะโกนลั่น
“ก็จะได้ไงล่ะ นายเป็นแฟนกันนะ”ดงเฮตอบกลับสั้นๆ
“แต่ฉันกับคยูกำลังจะเลิกกัน”
“ไร้สาระน่ามิน นายก็รักคยูอยู่ใครๆก็รู้นายก็ช่วยๆเค้าหน่อยแล้วกัน ดีซะอีก คยูตัวเล็กอย่างนี้จะได้ไม่เที่ยวหาจีบสาวมั่วไง ไม่ดีหรอกหรอ”รยออุคพยายามโน้มน้าวใจ
“เออๆก็ได้ๆ ว่าแต่งานปาร์ตี้กันเหอะ”
“ปาร์ตี้อะไรจัดตั้งแต่บ่าย”ดงเฮถามกลับ
“บ้านี่มันจะสี่โมงอยู่แล้วนะ วันนี้คลินิกนายมันปิดช้ากว่าเวลาปกติด้วย แล้วฉันก็มาสาย”ซองมินอธิบาย
“งั้นก็ไปกันเถอะเดี๋ยวพี่ทึกรอนาน เมื่อเช้าพี่แกยังโทรมาชวนฉันอยู่เลยอ่ะ ย้ำนักย้ำหนาว่าต้องไป นี่ถ้าสายแย่แน่เลย”ดงเฮนำทุคนไปยังรถของตัวเองก่อนจะขับออกไป โดยซองมินกับรยออุคนั่งทางด้านหลังคนขับ และยังมีคยูที่นั่งเท้าคางอย่างซักกะตายอยู่บนบ่าของซองมิน พลางบ่นอะไรอุบอิบไปเรื่อย
“เออๆ อุคแจ็คเก็ตนายอ่ะฉันเห็นมันอยู่ที่บ้านเลยเอามาให้เห็นสวยดีนายน่าจะใส่”ดงเฮว่าพลางหยิบส่งให้ รยออุคยิ้มบางๆก่อนจะรับมา แต่ยิ่งเห็นแจ๊คเก็ตตัวนี้ยิ่งทำให้อุคยิ่งแค้นเมื่อนึกถึงเรื่องวันนั้น
ปั่ก!
รยออุคทุบเสื้อที่อยู่บนตักอย่างแรง
“เป็นไร”ซองมินทักด้วยความตกใจ
“เปล่าๆ ฉันแค่นึกถึงบางอย่างน่ะ อย่าสนใจเลย สนใจคนบนบ่าดีกว่ามั่ง”รยออุคแหย่คนเป็นเพื่อนกลับ พลางยิ้มเล็กๆให้
------------------------------------------------- ------------------------------------ --------------------------------
ปาร์ตี้
นี่แค่สี่โมงยังเป็นเวลาไม่เริ่มงานดีเท่าไหร่คนยังมาเยอะแยะเต็มชายหาดด้านหน้าบริษัทโฮมเสตย์ของลีทึกแล้ว ถ้าเปิดงานจริงๆจะขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่มางาน นักการเมือง นักธุระกิจ หรือคนที่ลีทึกเชิญมาเองเช่นพวก ดงเฮ เป็นต้น
“ไฮ! คุณชายเย่ไม่คิดว่านายจะเสด็จลงมานะ”ลีทึกวิ่งโร่เข้าไปทักเยซองที่เดินลงมาพร้อมกับเสื้อกล้ามสีขาวที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั่นสีขาวไม่ติดกระดุมซักเม็ดและกางเกงขาสั้นประมาณเข่าสีน้ำตาลอ่อน และผมสีดำที่ฟูนิด
“ไม่ต้องตื้นเต้นขนาดนั้นหรอก ฉันแค่ไม่มีอะไรทำเลยลงมา เผื่อเจออะไรดีๆ”เยซองตอบปัดๆ เขาไม่ได้วางฟอร์ม แต่อยู่แค่ในห้องมันไม่มีอะไรทำจริงๆนี่นา...
“จ้ะๆ ลงมาก็ดีแล้ว วันนี้นายดูเป็นผู้เป็นคนดีนะ”ลีทึกแซวเล่น
“ทุกวันฉันเป็นอะไรล่ะ”เยซองหรี่ตาลงเพื่อถามคนตรงหน้า “ไม่ใช่คนหรอ”
“เออจริงๆ!”เสียงคำตอบนั้นไม่ได้มาจากลีทึกแน่นอน เยซองมองไปหายังต้นเสียง ชายร่างบางที่ดูคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาพร้อมกับเสื้อที่เขาดูคุ้นตาดี ใช่! นั้นมันคนที่เขาเจอที่ร้านก๋วยเตี๋ยว
“สะ...”ดงเฮยังไม่ทันได้ทักทายกับลีทึกเจ้าของงาน เยซองก็เกิดอารมณ์ขึ้นกระชากข้อมือของรยออุคแล้วมองด้วยตาขวาง ทำเอาลีทึก ซองมิน ดงเฮ และคยู(ที่ไม่มีคนห็น)งงไปตามๆกัน
“นายกล้าดียังไงมาว่าฉัน”เยซองตะโกนดังลั่น
“บ้าปะเนี่ย ฉันคุยกับเพื่อนฉันมา นายมันบ้า”รยออุคสะบัดมือออกจากเยซองทันที ก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตปาใส่หน้าเยซอง อย่างโกรธแค้น “นายมันไร้สาระมากเลยอ่ะ แล้วของนายก็เอาคืนไปด้วย ฉันซักให้แล้ว ไอ้บ้าเอ๊ย!”
“เอ่อ...ไม่ทราบว่าสองคนรู้จักกันด้วยหรอ”ลีทึกถามแทรกขึ้นอย่างกบ้าๆกลัวๆท่ามกลางสถานการณ์อึมครึม
“ไม่รู้จัก และไม่อยากรู้จัก”ทั้งสองพูดพร้อมกันก่อนจะเชิ่ดใส่กัน
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวด๊องจะแนะนำให้แค่พี่ทึกรู้จักแล้วกัน นี่ชื่อรยออุคนะ”ดงเฮบอกทึก ก่อนที่อุคจะหันมายิ้มให้ทึกก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความอ่อนน้อม
“ชื่อเหมือนหมาเน๊อะ”เยซองพูดออกมาลอยๆ
“นี่...”รยออุคยังไม่ทันได้เถียงกลับ ทึกก็แทรกขึ้นมาก่อน
“อย่าไปสนเลย มันก็ปากสุนัขขี้เรื้อนอย่างนี่แหละ มันชื่อเยซองนะ”
“ชื่อเหมือนคนบ้าแถวบ้านเลย”รยออุคได้ที่เอาบ้าง
“นายต้องการอะไรเนี่ย ห๊า!”เยซองถามด้วยความโกรธจัด
“แสดงความคิดเห็นไม่ได้รึไง”รยออุคยักไหล่ให้เยซองอย่างไม่สนใจ “เอ่อ ขอโทษนะครับพี่ทึกห้องน้ำไปทางไหนอ่ะครับ พอดีเห็นหน้าบางคนแล้วมันทำให้อยากอวกนะครับ”
“เอ่อตรงไปในออฟฟิสเลยจ้ะ แล้วจะเจอโต๊ะประชาสัมพันธ์ให้เลี้ยวไปทางซ้ายตรงไปก็จะเจอจ้ะ อย่าไปทางขวานะ”ลีทึกคลี่ยิ้มกว้าง รยออุคไม่ได้ว่าอะไรก็เดินไปทันที
“นายจะไปไหน”ลีทึกรั้งเยซองไว้
“ปวดอี้ โอเคมะ”ว่าจบก็เดินตามรยออคเข้าห้องน้ำไปทันที
“นี่นายจะตามฉันไปถึงไหนไม่ทราบ”รยออุคตะโกนก่อนจะหันหลังไปข้างหลัง แต่ทว่าไม่เห็นมีคนตามมาเลยซักคน แถมทางมันยังมืดผิดปกติซะด้วย พูดตามตรงตอนนี้รยออุคโคตรกลัวเลยทีเดียว รยออุคตัดสินใจเดินต่อไป
“เฮ้! ใครน่ะ”รยออุคหันไปถามอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเหมือนเดิน รยออุคจึงรีบเดินอย่างเร็ว แต่ซักพักก็มีมีของใครบางคนมาแตะที่บ่า
“เฮ้ย!” รยออุคตะโกนลั่น และสั่นด้วยความตกใจ
“บ้าปะเนี่ย รีบไปไหนของนาย”เสียงกวนๆของเยซองทำให้เขาหลุดออกจาภวังค์
“นายสะกดรอยตามฉันทำไม”รยออุคถามอย่างโกรธๆ เพราะมันทำให้เค้ากลัวมากๆ “นายไม่ควรเล่นนอย่างนี้เข้าใจมั๊ย ถ้าฉันตกใจฆ่านายขึ้นมา...”
“หยุดบ่นได้มั๊ย?!”เยซองตะโกนลั่นเพื่อตัดบท “โอเค ผมอยากแกล้งคุณก็จริงแต่ผมไม่ได้อยากให้คุณตกใจ แล้วอีกอยาก ฟังให้ดีๆว่าผมไม่ได้สะกดรอยตามคุณโอเคนะ เมื่อกี้ผมจะไปเข้าห้องน้ำแต่เห็นคุณเดินไปผิดทางผมก็แค่กะจะมาบอกคุณ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือผมเห็นมีใครซักคนเดินตามคุณเข้ามาก่อนผม ผมเลยรีบวิ่งมากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า”
รยออุคหยุดมองเยซองสักพัก คนตรงหน้ารยออุคตอนนี้ดูก็รู้ว่าวิ่งตามมาเพราะเขามีทั้งเหงื่อ และ อาการหายใจถี่ๆ
“งั้นก็ขอบใจนายแล้วกันที่ตามมา ว่าแต่ใครเดินเข้ามากับฉันล่ะ”
“ก็ถ้าผมรู้จัก ผมจะตามมามั๊ยครับ”เยซองเกาหัวตัวเองอย่างเซ็งๆ
“นายนี่...”
“อย่ามัวทะเลาะกันเลยออกจากที่นี่เถอะ ผมว่ามันวังเวงพิกลนะ”เยซองตัดบทก่อนจะจับมือรยออุคไว้
“นายจะไปยังไง”รยออุคถามเบาๆ อย่างกลัวๆ
“เดินซิครับ”เยซองว่าพลางหันหลังให้รยออุคทำท่าว่าจะเดินตรงไปแต่ทว่า “ทำไมมันมืดอย่างนี้อ่ะ”
“ก็ใช่ดิ ฉันถึงว่าไงว่านายจะไปยังไง”รยออุคถามเสียงสั่นด้วยความกลัว
“งั้นจับมือผมแน่นๆแล้วกัน ผมจะลองคลำๆทางดู”เยซองเดินตรงไปเรื่อยๆ
“เอ่อฉันขอพูดอะไรกับนายแก้ความกลัวได้ปะ”รยออุคถามคนตรงหน้า
“ว่ามา”เยซองไม่ได้รำคาญเสียงนั้นเลย เพราะว่าเขาเองก็อยากให้มีเสียงอะไรบ้างเหมือนกัน เพราะมันทั้งเงียบ ทั้งมืด และวังเวงเกินไป ถ้าหากมีเสียงอย่าน้อยก็จะได้รู้ว่าอีคนยังอยู่
“ถ้าตอนนี้นายขอพรได้นายจะขออะไร”
“ถามอะไรอย่างนั้น”เยซองถามกลับอย่างงงๆ เพราะแทนที่รยออุคจะถามกวนประสาทหรืออะไรก็ตาม แต่กลับถามคำถามนี้
“ขอให้เราไปจากไอ้ที่บ้าๆนี่ซักที”เยซองตอบตามจริง และสิ่งที่เขาขอก็กำลังเป็นจริง
“นายนี่พูดตรงดีนะ ฉันเห็นด้วย”รยออุคคล้อยตามก่อนจะถามต่อ “แล้วนายจะไปไหนอ่ะ”
“ไปไหนก็ได้แต่ขอให้กลับไปที่เดิมได้อ่ะ หมายถึงงานปาร์ตี้อ่ะนะ”
“แล้วจะไปทางไหน”
“คุณบ้าหรอ ผมจะรู้ได้ไง ก็คุณเป็นคนให้ฉันขอพรอ่ะ”เยซองโวยลั่น
“เออๆ ขอโทษๆ”
รยออุคเดินตามเยซองมาซักพัก เยซองก็หยุดชะงักรยออุคก็ด้วยเพราะ....
วาบ!
ไม่ใช่แสงสีทองที่คุ้นเคย แต่กลับเป็นแสงสีออกเทาคล้ายควันด้วยซ้ำก็สว่างขึ้นและจากนั้นเขาทั้งสองก็....
*****************************************************************************************************
ปล.ขอโทษจริงๆนะค่ะลงนานมากมาย ไม่ได้ตั้งใจดองเเต่พอดีหลายๆอย่างเลยทำให้ไรท์เตอร์ต้องร้างจากจรไกลจากคอมไปTT แต่เอาเป็นว่าเอามาลงให้เเล้วก็ช่วยอ่านเเล้วเม้นๆกันนิสนึงนะค่ะ555+
ปล.ช่วงนี้ปิดเทอมกันเเล้วใช่มั๊ยค่ะ ว่างๆก็มาอ่านฟิคเรื่องนี้บ่อยๆก็ดีนะค่ะ เพราะไรท์เตอร์จะจะลงให้บ่อยๆเช่นกัน
ปล.รักนักอ่านทุกคนนะคร้า555+ ตอนนี้คงจบไม่ค้างเน๊อะ! (หรอ?)- -*
ความคิดเห็น