ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wishes in the mirror [YeRyeo ft.sj]

    ลำดับตอนที่ #1 : :::The First Wish:::

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 53


    :::The first wish:::

               

                แสงแฟลชสาดส่องเข้ายังภาพนางแบบและนายแบบทั้งหลายที่ยืนโพสท่าเป็นหุ่นอยู่ ภาพเหล่านั้นถูกสะท้อนกลับเข้ายังแผ่นฟิล์มของผู้เป็นช่างภาพ เขามีหน้าที่สั่งว่าให้คนเหล่านั้นทำท่าไหนที่จะสวยและดูดีเมื่อถ่ายรูป แม้ว่าเขาจะดุเหมือนเป็นคนควบคุมแทบทุกอย่างในกองถ่ายแฟชั่นแห่งนี้ หากถามว่าเหนื่อยไหม ใช่! เขาเหนื่อยแน่นอน แต่ก็เท่านั้น...เพราะคนที่ดังมีชื่อเสียงใช่คนที่เหนื่อยที่สุดอย่างเขาเสียเมื่อไหร่ กลับเป็นคนที่อยู่ในเฟรมของเขาเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะงานนี้คืองานที่เขาเลือกและเขาก็ชอบมันนี่

                เย่ค่ะ วันนี้พาซินดี้ไปทานข้าวเที่ยงได้มั๊ยค่ะ นางแบบหน้าใหม่ที่เพิ่งได้พักจากการถ่ายภาพเมื่อกี้ เข้ามาเกาะแกะเขา

                ไม่ดีกว่า งานผมยุ่งพอที่จะไม่ว่างพาใครไปเลี้ยงข้าวให้เสียเวลาเล่นหรอครับเยซองฉีกยิ้มสวยให้ซินดี้ ถึงแม้คำพูดเหล่านี้จะลงท้ายด้วยครับ มันสุภาพมาก แต่หากมองดูดีแล้วจะเห็นความแรงในคำพูดนี้อยู่ไม่น้อย

                โถ่! งานๆ อะไรก็งาน ซินดี้แค่อยากไปทานข้าวเท่านั้นเอง

                ไปชวนเขาซิ คนที่พร้อมจะไปกับคุณน่ะครับ อย่ามาชวนผม เยซองปรายตาไปยังนายแบบหุ่นล่ำที่คนทั้งกองรู้ดีว่ายัยซินดี้แอบมีอะไรๆไปถึงขั้นไหนๆแล้ว ก่อนจะเดินหนีแม่นางแบบจอมตื้อไปตรวจดูภาพที่ถ่ายไปในทุกเซตของวันนี้

                แรงได้อีกว่ะเย่ที่แกพูดกับน้องซินดี้เมื่อกี้ ฮีชอลเดินมาตบบ่าเพื่อนตัวเองเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อช่วยตรวจดูภาพเซตนี้

                เฮ้อ!”เยซองพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ใครๆก็รู้ว่ายัยนี่ต้องการอะไร แค่อยากให้ฉันเป็นสะพานเกาะให้ตัวเองดังไปก็เท่านั้นน่ะ ไร้สาระสิ้นดี! แล้วอีกอย่างใครๆก็รู้ว่ายัยนี่อยากเกาะฉันรวย

               

                คนเป็นเพื่อนอย่างฮีชอลยิ้มบางๆให้คนเป็นเพื่อนอย่างเยซอง ก่อนจะสนใจงานของตัวเองต่อ แต่ให้ตายเถอะ! เสียงบรรดานางแบบที่ปั้นหน้าสวยตอบคำถามหรูๆให้กับนักข่าวช่างดังได้ใจดีแท้ และแน่นอนคนอย่างฮีชอลก็ไม่ได้จะมีความอดทนสูงเท่าไหร่หรอก!

                นี่กองถ่ายไม่ใช่ป่า ถ้ายังไม่เลิกนิสัยเดิมๆก็เชิญกลับป่าไปซะคนทั้งกองเงียบลงทันที บ้างก็ย้ายกันออกไปสัมภาษณ์กันข้างนอก ช่วยไม่ได้จริงๆ เสียงดังอยู่ได้

    --------------------------------------------- -------------------------------------------------------------- ----------

                บรรยากาศเงียบมากจนได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น คนตัวเล็กนั่งอยู่บนโต๊ะเพื่อทำข้อสอบไฟนอล ข้อสอบชี้ชะตาว่าจะจบหรือไม่จบของตัวเอง รยออุคนั่งตรวจแล้วตรวจอีกเกี่ยวกับคำตอบของตัวเองว่าพลาดตรงไหน หรือ ตกหล่นอะไรรึเปล่า ผลคือไม่มี ข้อสอบครั้งนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆสำหรับคนอย่างรยออุค ที่ค่อนข้างจะเป็นคนเรียนรู้ช้า เข้าใจช้า แต่ในทางกลับกัน ความพยายามของรยออุคนั้นไม่เคยด้อยกล่าใคร และที่สำคัญที่สุดรยออุคเห็นจุดมุ่งหมายในชีวิตของตัวเองไม่ช้ากว่าใคร

                รยออุคฝันไว้ว่าตัวเองจะเปิดร้านขายยาเล็กๆ อยู่ที่ที่มันไกลๆจากผู้คน อย่างเช่นตามต่างจังหวัด นั้นแหละคือความฝันของเขา รยออุคยิ้มบางๆให้กับข้อสอบก่อนจะเดินไปส่งให้อาจารย์ที่นั่งรอเก็บข้อสอบอยู่หน้าห้อง และไม่นาสัญญาณบอกว่าหมดเวลาการสอบก็ดังขึ้น

                อุคข้อสอบเป็นไงฮยอกแจเพื่อนต่างคณะของรยออุคเดิมาถามหน้าตาระรื่น

                ก็ยากนะ แต่น่าจะทำได้มั่งรยออุคหัวเราะแห้งๆ

                เห็นพูดงี้ตลอด แล้วคะแนนก็ท็อปตลอด

                ก็ใครจะไปเก่งเท่าว่าที่คุณหมออย่างนายกับซีวอนเล่ารยออุคประชดเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวแล้วปลีกตัวออกมา แล้วกลับบ้านของตัวเอง

     

                ที่บ้านของรยออุค

                แม่ครับ ผมกลับมาแล้วร่างเล็กร้องเรียกคนเป็นแม่

                .....

                ...

                ..

                .

                ความเงียบเท่านั้นคือคำตอบ เสียงตอบของแม่หายไป รยออุคเดินไปเรื่อยๆมองตามห้องต่างๆเพื่อหาแม่ของตัวเอง แต่สิ่งที่พบก็มีแค่ความว่างเปล่า แม่หายไปไหน?

                รยออุคทิ้งตัวลงที่โซฟาในห้องรับแขก ก่อนจะมองซ้ายมองขาวจนไปพบกับซองจดหมายสีขาวที่ถูกเสียบไว้กับแจกัน รยออุคหยิบมันขึ้นมาอ่าน ด้วยความอยากรู้

                ถึงลูกของแม่...

    ลูกสอบมาเป็นยังไงบ้าง แม่อยากยืนกอดลูกนะ อยากกอดลูกเหมือนทุกครั้ง แต่แม่ขอโทษที่แม่ทำไม่ได้ แม่จากอุคไปโดยไม่ได้บอกลาอุคเลย แม่ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย

    ลูกอย่าลืมทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงนะ ความฝันของแม่ด้วย ตั้งใจเปิดร้านขายยาให้ได้นะ เงินทุนแม่พอมีเก็บไว้ ลูกก็ไปถอนมาได้เลย

                                                                                        รักลูกของแม่ที่สุด...

                รยออุคยิ้มให้กับจดหมายของตัวเองบางๆ เค้ายังไม่ชินกับการจากไปของแม่เท่านั้น แม่ของรยออุคจากไปด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเมื่อ 3 เดือนก่อน จนตอนนี้จะว่าไปมันก็นานมากแล้ว แต่เค้าก็ยังไม่ชินและทำใจไม่ได้อยู่ดี จนตอนนี้ทำให้รยออุคดูเหมือนคนเก็บเนื้อกับตัวและโลกส่วนตัวสูง ไร้ซึ่งความสดใสในตัวเองเหมือนเมื่อก่อนถึงแม้ในบางครั้งทุกคนจะมองว่าเค้าสดใสก็ตาม แต่หากมองดีๆแล้วเค้าคือคนที่มีความอ่อนไหวมากคนหนึ่ง 

    ----------------------------------------- --------------------------------------------- -------------------------------

                เยซองนั่งปรับแต่งรูปภาพ แสงและสี ให้สวยและดูเป็นธรรมชาติก่อนจะส่งไปยังสำนักพิมพ์ เยซองนั่งมองผลงานของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา ความจริงเขาก็ทำงานเยอะใช่ย่อย บางทีเขาควรจะพักซะบ้าง หยุดถ่ายแบบให้นิตยสารความสวยความงาม แฟชั่นยุคใหม่ไปซักพัก แล้วไปพักผ่อนถ่ายรูปธรรมชาติสวยๆที่ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการนั่งรีทัชภาพมากมายแบบนี้

                ร่างหนาหยิบสมุดบัญชีธนาคารของตัวเองออกมามองก่อนจะยิ้มบางๆราวกับได้รางวัลให้กับชีวิต เขามีเงินพอที่จะไปเที่ยวพักผ่อนได้

                ชอล

                หือ?ฮีชอลถามเบาๆ แต่สายตายังคงไม่ละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

                กูว่ากูจะหยุดไปเที่ยวพักผ่อนใจว่ะมึงว่าไง

                อืมดีๆ อยู่ที่นี่อ่ะปวดหัว ว่าแต่จะไปนานเท่าไหร่ย่ะ

                3 เดือนได้ เยซองพูดอย่างไม่ยี่หระ

                3 เดือน!!!! บอสไม่ฆ่าตายหรอฮีชอลละสายตาจากคอมพิวเตอร์ออกมาทันที

                กูเบื่อนางแบบพวกนี้เต็มทน

                ฮะฮ่า เออ ไปเหอะ บอสไม่ด่าแกหรอก แกมันช่างภาพชื่อดังใครๆก็อยากได้ตัวกันทั้งนั้น ว่าแต่จะไปไหน แล้วไปวันไหน ฮีชอลปรายตามองเล็กน้อย แล้วหันไปสนใจคอมพิวเตอร์ของตัวเองต่อ

                เชจูว่ะ สวยดีกูชอบ มันดูสดชื่น น่าจะไปอีกสองอาทิตย์ เคลียร์งานให้หมดก่อนน่ะ

                มีที่พักแล้วหรอ

                ยังเยซองส่ายหัวเบาๆ

                อืม... นี่ๆฮีชอลคุ้ยๆบางอย่างในกระเป๋าตัวเองก่อนจะส่งให้อีกคน เยซองรับซองบางอย่างมาจากฮีชอล นี่เป็นบ้านพักโฮมเสตย์ ของเพื่อนฉันเองแหละ ไม่ซิๆ ของเพื่อนเก่าเราอ่ะ

                ใคร? เยซองเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย

                ทึกไง มันถามถึงแกบ่อยๆฮีชอลยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าคนเป็นเพื่อนยังงงๆอยู่ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันโทรไปบอกมันให้ พอถึงวันแกก็ไป เดี๋ยวให้ทึกไปรับ

                เออ ขอบใจๆ กูกลับบ้านก่อนแล้วกันจะไปเคลียร์งาน เยซองของตัวออกมาทันที แต่แปลกทำไมเขาถึงรู้สึกว่าการพักผ่อนครั้งนี้จะไม่ธรรมดา...

    --------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ---------

                วันประกาศผลสอบ

                เย่!” เสียงดีใจดังลั่นจากคนตัวเล็กๆ ฮยอกฉันสอบผ่านอ่ะ อาทิตย์หน้าฉันจะได้รับ ปริญญาแล้ว

                ดีใจด้วยๆ ว่าแต่ความฝันของนายอ่ะว่าไง เริ่มมันเลยมั๊ย ได้ข่าวแอบไปขอใบอนุญาตมาแล้วนี่ฮยอกยิ้มกว้างให้คนเป็นเพื่อน

                ก็นะ คนมันตื่นเต้นอ่ะ เข้าใจมะๆ วางแผนว่าจะไปเชจูอ่ะ อีก2อาทิตย์

                มีร้านแล้วหรอฮยอกเลิกคิ้วถามคนเป็นเพื่อนอย่างเป็นห่วง

                ให้ฉันช่วยมั๊ยซีวอนที่แอบฟังอยู่เสนอตัว

                ไม่ๆ พอดีฉันมีญาติอยู่ที่นั้นน่ะ แล้วอีกอย่างบ้านแม่ที่นั้นก็ยังไม่ได้ขาย ตอนนี้ก็ให้ญาติฉันจัดการอยู่รยออุคยิ้มอย่างภูมิใจ

                โชคดีแล้วกัน แต่วันนั้นฉันอาจไปส่งไม่ได้อ่ะไม่ว่ากันนะ

                ไม่ๆ ฉันรู้พวกนายมีสอบอย่างห่วงเลย

                อย่างนี้ดิค่อยเหมือนรยออุคคนเดิมที่สดใสหน่อยซีวอนตบบ่ารยออุคเบาๆก่อนเดินจากไปฮยอกก็ด้วย

                รยออุคยิ้มบางๆกับผลสอบของตัวเอง และอาทิตย์หน้าก็จะคือวันรับปริญญา วันที่เค้ารอคอยมาตั้งนาน แต่เอาเถอะ แม้แม่จะไม่ได้เห็นความสำเร็จก็ตามแต่รยออุครู้ดีว่าแม่ต้องรู้ ความฝันของเขาเสร็จไปอีกขั้น

    ------------------------------------- --------------------------------------------- -----------------------------------

                2 อาทิตย์ต่อมา

                ที่สนามบิน ผู้คนขวักไขว่มาก ทั้งเตรียมตัวจะออกบ้าง ทั้งเครื่องเพิ่งลงบ้าง บ้างเครื่องจอดพักบ้าง เยซองถูกห้อมล้อมด้วยบรรดาญาติที่เดินทางตามมาส่ง และบรรดานางแบบที่เพิ่งรู้ข่าว ว่าเยซองจะไปเชจู เยซองใส่แว่นตาดำพรางใบหน้าเนียนของตัวเองไม่ให้พวกนักข่าวเห็นเพราะเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่

                แม่ครับ ผมโตพอแล้วนะ แม่ไม่ต้องไปส่งหรอกเยซองบอกแม่ที่ยังคงตามไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง เยซองรู้ดีว่าแม่ตัวเองเป็นโรคหอบหืด คนเยอะๆแบบนี้อาจเป็นลมได้

                ได้ยังไงล่ะคนเป็นแม่หยิกเบาๆที่ต้นแขนลูก แกน่ะหรอโต ยังเป็นเด็กๆอยู่เหมือนเดิมแหละ ไม่ได้ๆ แม่ต้องไปส่ง

                แต่แม่...เยซองหยุดเล็กน้อย แม่จะตามมาคนเดียวได้มั๊ยครับ ไอ้ขบวนสิงโตแล้วพวกนางแบบพวกนี่เอาออกไปก่อนได้มั๊ยครับ

                ไม่ได้ๆแม่ขึ้นเสียงสูง แม่ฉลองเราอยู่นะ ฉลองที่เราโตแล้วเรากำลังจะไปผจญโลกคนเดียว ฮือว่าแล้วคนเป็นแม่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง

                แม่! ใจเย็นๆครับเยซองกอดแม่ก่อนจะพูด แม่ครับไม่เป็นไรหรอ ผมไปพักผ่อนนะ ไม่ได้ไปรบ

                กรี๊ด!”บรรดานางแบบนำโดยซินดี้กรี๊ดลั่นเมื่อได้ยินประโยคที่เยซองพูด เยซองไม่ได้ไปรบ

                เยซองส่ายหน้าเบาๆ ก็บอกแต่ต้นแล้วว่าไปพักผ่อนไม่ได้ไปรบไม่รู้จะเวอร์ไปไหน พูดตามตรงเลยว่า เหนื่อยใจ! - -

                ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับแม่ เครื่องจะออกแล้ว เยซองปลีกตัวจากแม่แล้วบรรดานางแบบและกองเชิดสิงโต- - มาเข้าห้องน้ำ เขารู้สึกว่าบรรยากาศในห้องน้ำสวรรค์กว่าข้างนอกเยอะ (หมายถึงเรื่องความเงียบ)

                หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อย เยซองก็ล้างมือตามปกติ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป รยออุคที่ยืนทำภารกิจเพิ่งเสร็จก็เดินมาล้างมือเหมือนกัน แต่ก็ต้องงงเมื่อเจอพาสปอร์ต!

                ร่างเล็กหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาดูก่อนจะมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเกาหัวอย่างสงสัย ในห้องน้ำก็ไม่มีใคร

                หรือจะเป็นคนเมื่อกี้ว่ะรยออุคอุทานเบาๆ

               

                รยออุคเดินเอาพาสปอร์ตไปยื่นให้ประชาสัมพันธ์ไว้ แล้วฝากข้อความสั้นๆบางอย่างถึงเจ้าของพาสปอร์ต ก่อนจะเดินออกมาสวนกับขบวนเชิดสิงโตของเยซอง รยออุคทำเพียงปรายตามองอย่างอนิจจาเท่านั้นกับทั้งขบวนเชิดสิงโต และเหล่าบรรดาคนสวยๆราวนางแบบที่มายืนกรี๊ดกร๊าด

                ท่าจะบ้ารยออุคยิ้มบางๆกับภาพที่เห็นแล้วเดินผ่านไปขึ้นเครื่อง

               

                ฝ่ายเยซองหลังออกจากห้องน้ำ ก็ออกมาล่ำลาแม่ แฟนคลับ(นางแบบ) และขบวนเชิดสิงโต แต่พอจะไปขึ้นเครื่องเท่านั้น

                แม่ๆเยซองจับดูกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเดินทาง ทุกกระเป๋า ก่อนจะรู้ตัวว่า แม่พาสปอร์ตหาย!”

                หา!”แม่ของเยซองอุทานลั่น

                ตุ้งแฉ่! เสียงขบวนเชิดสิงโตหยุดลงอย่างอึ้งๆ และ

                กรี๊ด!”เสียงจากบรรดานางแบบที่ไม่เต็มบาทกรี๊ดกร๊าด

                เห็นมั๊ยแม่บอกแล้ว ว่าเราน่ะมันไม่รู้จักโต แล้วอย่างนี้จะห่างแม่ได้มั๊ยเนี่ย คนเป็นแม่พูดอย่างเป็นห่วง ยืนเซ่อทำไมล่ะ ไปช่วยกันหาพาสปอร์ตเซ่ เครื่องลูกฉันจะขึ้นแล้ว

                ค่ะ!” บรรดาแฟนคลับนางแบบหายวับไปทันที (ความจริงเขาน่าจะบอกว่าอะไรซักอย่างหายไปตั้งแต่แรกนะ พวกนี่จะได้หายๆไปซักที- - เยซองคิดอย่างนั้น)

                ไปหาซิเย่!”คนเป็นแม่ลากแขนลูกชายไปยังประชาสัมพันธ์เป็นที่แรก

                มีอะไรให้รับใช้ค่ะคุณนายโอปเรเตอร์สาวสวยยิ้มพร้อมถาม

                คือพอมีคนเก็บพาสปอร์ตได้มั๊ยครับเยซองถามอย่างร้อนรน

                มีค่ะโอปเรเตอร์สาว ค้นหาอยู่ซักพักก่อนจะหยิบพาสปอร์ตมายื่นให้เยซอง แล้วก็โพสอิทที่ติดอยู่นั้นจากคนที่เก็บได้ถึงคุณค่ะ

                ขอบคุณนะครับ

               

                เยซองเดินออกจากประชาสัมพันธ์แล้วตรงไปขึ้นเครื่องบิน แต่ก่อนจะขึ้นเครื่อง แต่กว่าจะล่ำลาแม่และบรรดาแฟนคลับได้ก็ปาไปเครื่องเกือบออก แต่ยังดีที่เขาขึ้นทัน เยซองนั่งที่นั่งวีไอพี ต่างกับรยออุคที่นั่งแค่ชั้นธรรมดา

                ระหว่างเดินทางเยซองหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาดูอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าโพสอิทนั้น เขียนด้วยหมึกสีดำตัวโตๆว่า

                ‘STUPID’

              เยซองขย้ำโพสอิทนั้นแน่น ใครหน้าไหนกล้าดียังไงมาว่าคนอย่างเขาทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน

                เหอะ! ขอให้ฉันได้เจอคนที่เขียนไอ้โพสอิทนี่ด้วยเถอะ กล้ามากที่เขียนด่าฉัน นี่คือความปรารถนา(ปนความแค้น)ของเยซองที่หลุดปากพูดออกมาลอยๆ

     

                รยออุคนั่งนิ่งๆไประหว่างทาง โดยมีชายอ้วนๆท่าทางลึกลับนั่งมาข้างๆ แม้จะรู้สึกแปลกๆแต่ก็รู้สึกเฉยๆคิดซะว่าถ้าเราไม่ยุ่งกับเขา เขาคงไม่ทำอะไรเราหรอก

                คุณกำลังเจอคนบางคน คำขอของเขาจะเป็นผลชายอ้วนข้างๆพูดออกมาลอยๆ

                พูดกับผมหรอครับรยออุคหันไปหาชายอ้วนอย่างกล้าๆกลัว ผมของชายอ้วนยาวปรกหน้าจนมองไม่เห็นลูกตา ชายอ้วนตอบกลับมาเพียงแค่การพยักหน้าเบาๆ ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด

                ที่ผมพูดคือสิ่งที่คุณกำลังจะเจอ นี่คือของคุณชายอ้วนหยิบกระจกแบบด้ามถือกรอบสีเงินให้แก่รยออุค รยออุครับมันมาอย่างงงๆและแปลกใจตัวเองไม่น้อยว่าทำไมอยู่ดีๆตัวเองก็ไปรับของแบบนี้มา

                มันจะช่วยอะไร

                เมื่อคุณเจอคนคนนั้น คำขอพรของเค้าจะส่งผลสัมฤทธิ์ต่อคุณ กระจกบานนี้จะคอยนำทางให้คุณไปพบกันโดยไม่รู้ตัว และคุณต้องค้นให้พบว่าใครคือคนขอพรเหล่านั้น และเมื่อคุณพบสิ่งมหัศจรรย์ก็จะเกิดกับตัวคุณ และสิ่งที่คุณขอจะเป็นจริง

                เป็นไปได้ไง

                ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง มันไม่เสียหายไม่ใช่หรอที่จะเสี่ยง

                แล้วผมจะเจอได้ไงรยออุคถาม แล้วถ้าผมหาไม่เจอล่ะ

                คุณมีเวลาแค่ 3 เดือน เพราะเขาคนนั้นก็มีเวลาแค่ 3 เดือน ถ้าหลังจากนั้นคำขอของคุณจะไม่มีผลอะไรเลย ผมบอกคุณหมดทุกอย่างแล้ว โชคดี

                รยออุคมองกระจกตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆอีกครั้ง และสิ่งที่พบก็คือความว่างเปล่า เขาหายไปไหนล่ะ! ผีหลอกกลางวันหรอ ความจริงเค้านั่งคนเดียวมาตลอดเลย

                กระจกเนี่ยหรอ ถ้ามีแน่จริงอ่ะนะ ฉันขอให้แม่ฉันฟื้นขึ้นมา ทำได้มั๊ยล่ะรยออุคขอพรปนท้า แต่ทันไดกระจกก็สว่างวาบขึ้นมาเป็นแสงสีขาว ก่อนจะหายไป ตอนนี้เหงื่อเค้าตกไปหมดแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น!

     

                แล้วรยออุคจะรู้มั๊ยว่าคนที่ตามหาก็อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน ส่วนเยซองจะรู้มั๊ยว่าคนที่กล้าด่าเขาว่าโง่ก็นั่งอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน

    *****************************************************************************************************

    ปล.เรื่องนี้ลองแต่งเเนวที่แปลกจาเรื่องเดิมดูค่ะ คือต่างเยอะมากยั่งไงก็ฝากด้วยนะค่ะ^^

    ปล.อ่านเเล้วอย่าลืมเม้น ติ ชม ด่า หรืออะไรก็ได้นะค่ะ อย่างน้อยจะได้เอาไว้ปรับปรุงเเก้ไข

    ปล.เรื่องนี้จะเเต่งให้สนุกๆ พยายามจะไม่เครียดนะค่ะ^^ ที่สำคัญจะพยายามหาเวลามาเเต่งเเล้วอัพเรื่อยๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×