ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #9 : แบบไหน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 66


    เมื่อผ่านพ้นช่วงเช้าที่ต้องตระเตรียมอาหารให้ทุกคนในบ้านแล้ว ตารางชีวิตของมาสฟ้าก็ไม่ถือว่ายุ่งแล้ว ปกติหากว่าไม่มีแขก หญิงสาวก็มักจะออกไปยังร้านอาหารของครอบครัว ที่ได้รับสืบทอดมาจากรุ่นคุณทวดและคุณย่าจนตอนนี้เป็นเธอเองที่รับหน้าที่ดูแลร้านบุหลัน หรือหากไม่ได้ออกไปดูร้านมาสฟ้าก็จะใช้เวลาดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน ตารางชีวิตของเธอนับว่าน่าเบื่อสำหรับคนอายุยี่สิบเจ็ด

    แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมาสฟ้า การที่เธอออกไปข้างนอกและต้องรับรู้นิมิตทั้งหลายแหล่ ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคนรอบตัวของเธอมาสฟ้าต้องรับรู้ทั้งสิ้น มันเป็นการผลาญพลังงานชีวิตเกินไป และเธอก็มักจะรู้สึกเหนื่อยเหมือนถูกสูบพลังงานจำนวนมากออกไปจากจิตวิญญาณเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ไหว อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากเหนื่อยเจียนตายทุกวันดังนั้นการซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตัวเอง โดยที่มีคนแค่ไม่กี่คนอยู่ล้อมรอบแบบนี้ ถึงจะน่าเบื่อไปนิดแต่ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย ยิ่งมีอินเตอร์เน็ตและแอพลิเคชั่นต่างๆ ที่เธอสามารถช้อปปิ้งพ่วงการจัดส่งถึงหน้าบ้าน วันวันหนึ่งของมาสฟ้าก็ผ่านไปรวดเร็วจนความน่าเบื่อกลับกลายเป็นเคยชิน

    “ฉันไม่ได้บอกพ่อเธอเรื่องที่เธอจูบกับผู้ชายเมื่อคืนนี้หรอกนะ”

    มาสฟ้าหน้าเหวอ รู้สึกเหมือนถูกกระชากออกจากภวังค์ความคิดเพราะคำพูดที่คาดไม่ถึงจากผู้เป็นแม่ หญิงสาวหันขวับมองหน้าผู้ให้กำเนิดของเธอ มองท่านด้วยสายตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ รู้อยู่แล้วว่าสาเหตุของเสียงโครมที่เกิดเมื่อคืนที่ดึงเธอมาจากภวังค์จูบของอู่อี้เทียนนั้นคือแม่ของเธอ หรือจะพูดให้ถูกคือมือถือที่ท่านปาใส่รถของอู่อี้เทียน เพียงแต่มาสฟ้าไม่คิดจริงๆ ว่าท่านจะพูดเรื่องนี้ออกมาหน้าตาเฉย

    “เอ่อ....คือว่าฟ้าไม่ได้...” มาสฟ้าอึกอัก สมองคล้ายหยุดทำงานชั่วขณะ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เธอจึงไม่รู้ว่าต้องรับมือย่างไร แต่โชคดีที่เชอลีนนั้นเพียงโบกมืออย่างไม่ใส่แล้วเปลี่ยนเรื่อง ทำให้มาสฟ้าพลอยหายใจโล่งขึ้นมาบ้าง

    “เรื่องที่ลูกจะจูบกับใครไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่อย่าให้พ่อของลูกเห็นก็พอ”

    “ทำไมคะ” มาสฟ้าไม่คิดว่าพ่อเธอจะเป็นพวกหัวโบราณ อันที่จริงคมกฤษค่อนข้างหัวสมัยใหม่เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาพ่อของเพื่อนเธอด้วยซ้ำไป “แม่คิดว่าพ่อจะโกรธเหรอ”

    “พ่อเขาต้องโกรธอยู่แล้วสิ ก็ใครไม่รู้มาจูบลูกเขา” เชอลีนว่าพลางย่นจมูก ก่อนยกมือบีบจมูกโด่งของมาสฟ้าด้วยความหมั่นเขี้ยวมากกว่าที่จะนึกโกรธจริงจัง “แถมยังทำหน้าบ้านเขาอีกต่างหาก เหมือนกำลังลูบคมเขา ไม่รู้ว่าหมอนั่นอยากจะกินลูกปืนหรือเปล่า”

    “ไม่ใช่นะคะ” มาสฟ้ารีบตะครุบมือของแม่ ก่อนเปลี่ยนมากุมมือเล็กของท่านไว้ หวังอ้อนวอนให้ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมพ่ออีกแรง เผื่อว่าวันหนึ่งท่านนึกอุตริอยากจะแจกกระสุนให้อู่อี้เทียนกินแทนมื้อเที่ยง “ฟ้าไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่เมื่อคืนนี้มันแค่...ผิดแผนไปหน่อย เลยไม่รู้จะพาเขามาแนะนำยังไง อีกอย่างฟ้ากับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย”

    “นี่ลูกจูบกับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอ” เชอลีนแกล้งทำเป็นตาโตแสร้งตกใจอย่างสมบทบาท ทำเป็นคาดไม่ถึงว่าลูกสาวของเธอของเธอจะเป็นสาวหัวสมัยใหม่ ขนาดที่กล้าแลกจูบกับผู้ชายที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน “อู้หู้ ขืนพ่อเราเขารู้เข้ามีหวังอกแตกตาย”

    “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่” มาสฟ้าโอดครวญ คิดว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ก็เพราะแม่ของเธอเอาแต่ทึกทักเอาเองนี่แหละ “เรื่องมันซับซ้อนน่ะค่ะ ฟ้าเองก็ยังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

    ทันใดเชอลีนก็หรี่ตาลงอย่างจับผิด ด้วยไม่แน่ใจกับคำพูดนั้นของมาสฟ้า แล้วเงียบไปเพราะกำลังครุ่นคิดกับตัวเองอยู่อึดใจหนึ่งก่อนถาม

    “เขาแต่งงานแล้วเหรอ?”

    “เปล่าค่ะ” มาสฟ้าถอนหายใจแรง

    “เขามีแฟนแล้ว? หรือเลิกกันยังไม่ขาด”

    “ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงหนัก เริ่มท้อแท้กับแม่ตัวเองขึ้นมารำไร

    “หรือว่าลูกยังไม่ลืมแฟนเก่า?”

    “เขาไม่ใช่แฟนเก่าของหนูสักหน่อยค่ะ” มาสฟ้าแอบกลอกตา เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอและยุทธนาเองก็ควรจบไปนานแล้ว “บอกแล้วไงคะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ยายฝันตีโพยตีพายเกินจริงไปเท่านั้นเอง”

    “ช่วยไม่ได้นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เกือบได้เป็นคนที่หนูรักไม่ใช่เหรอ”

    “ค่ะ แต่ก็แค่เกือบ”

    “ถ้าแบบนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ ลูกเองก็น่าจะชอบเขามากนี่นา อย่างน้อยก็ชอบเขามากพอที่จะจูบเขาตอบ ใช่ไหมล่ะ?”

    “หนูชอบเขาค่ะ” มาสฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นปราศจากความลังเล ที่ทำให้ผู้เป็นแม่ตาโตอย่างคาดไม่ถึงกับคำตอบนั้นของลูกสาวคนโต หนนี้เชอลีนแปลกใจจริงๆ กับคำตอบของมาสฟ้า “ชอบมากจริงๆ นั่นแหละ”

    “แล้วปัญหามันคืออะไรล่ะ” ฟังคำถามเดิมๆ จากแม่แล้วมาสฟ้าก็เม้มปาก ไม่แน่ใจว่าเธอควรพูดเรื่องนี้ออกไปดีหรือไม่ แต่เมื่อคิดว่าหากเธอกลัวที่จะพูดเรื่องนี้กับแม่ เธอจะพูดเรื่องนี้กับใครได้อีก มาสฟ้าก็ตัดสินใจได้ในทันที

    “แม่ขา นิมิตของฟ้าเคยไม่เป็นจริงบ้างหรือเปล่าคะ”

    “ยังไงนะลูก?”

    “แบบว่า...ฟ้าเห็นบอกแม่ว่าฟ้าเห็นอะไร แล้วมันไม่เกิดขึ้นน่ะค่ะ” มาสฟ้าอ้อมแอ้มถาม เธอเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน เพราะตั้งแต่จำความได้มาสฟ้าก็ไม่เคยนึกกังขากับสิ่งที่เธอเห็นในนิมิตเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง....กระทั่งได้เจอกับอู่อี้เทียนเมื่อคืนนี้และได้รับการยืนยันด้วยจูบของเขา ว่าเขาเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมาเอง “ฟ้าจำไม่ได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นหรือเปล่า”

    “ที่หนูจำไม่ได้เพราะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นน่ะสิลูก” เชอลีนบอกเสียงแหลมขึ้นจมูก พร้อมกลอกตาขึ้นฟ้าเพราะคำถามไม่เข้าท่าของมาสฟ้า เสียงแหลมแสบแก้วหูของคุณผู้หญิงบ้านเศวตรฐานั้นดังจนคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในห้องรับรองพร้อมใจกันมองมาทางพวกเธอเป็นตาเดียว โดยเฉพาะคมกฤษนั้นทันทีที่เขาได้ยินเสียงของภรรยา ร่างสูงตระหง่านก็ผุดลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินดุ่มๆ ตรงมาหาเชอลีนและมาสฟ้าด้วยสีหน้าบึ้งตึงที่เกิดขึ้นเพราะความเป็นห่วงภรรยา

    “มีอะไรหรือเปล่าครับหนูเชอลีน?”

    “ก็...”

    “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แม่แค่ถามเรื่องเพื่อนของฟ้าที่มาส่งเมื่อคืน” มาสฟ้าชิงตัดหน้าตอบคำถามนั้นแทนแม่ของเธอ ซึ่งทำให้เชอลีนได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าลูกสาวคนโตของเธอตามปริบๆ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมมาสฟ้าจึงโกหกผู้เป็นพ่อแต่ก็ไม่อยากจะแฉลูกสาว โดยเฉพาะตอนนี้พวกเขามีแขกคอยชะเง้อคอ จับตามองอยู่ไม่หากคุณผู้หญิงจึงได้แต่เล่นบทเออออแล้วปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน

    “อย่างนั้นเหรอครับ” คมกฤษแม้จะไม่เชื่อทำบอกนั้นของลูกสาว แต่เมื่อหันมองหน้าภรรยาของตนแล้วเชอลีนไม่ได้เอ่ยแย้ง จะให้เขาออกหน้าเค้นความจริงจากมาสฟ้าก็ไม่ใช่เรื่อง

    “ค่ะ หนูเชอลีนแค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร”

    “คุณกฤษว่าเรื่องนี้เอาไว้ทีหลังเถอะ คุณกฤษว่าหนูเชอลีนมาช่วยคุณกฤษดีกว่า ลูกสาวอีกคนของหนูเชอลีนทำคุณกฤษปวดหัวไม่หยุด เถียงคำไม่ตกฟาก”

    “ก็ลูกสาวคุณกฤษครึ่งหนึ่งเหมือนกันนั่นแหละค่ะ” แม่ของเหมือนฝันได้แต่มองค้อนสามี ที่ไม่ว่าตอนไหนที่เหมือนฝันสร้างเรื่อง เขาก็มักจะโยนยายตัวแสบมาให้เป็นลูกของเธอคนเดียว “ลูกของหนูเชอลีนก็ลูกของคุณกฤษเหมือนกัน”

    “อย่างนั้นก็มาช่วยกันรับผิดชอบดีไหมครับ?” คมกฤษยิ้มกว้าง รู้ว่าถ้าทีขึงขังของภรรยาที่เห็นนั้นเธอไม่ได้ถือโกรธจริงจัง จึงยืนมือไปรับร่างบอบบางของภรรยากระทั่งเชอลีนยอมวางมือเล็กลงในมือของเขา แล้วเดินตามแรงจูงแต่โดยดีสีหน้าของคมกฤษจึงอ่อนโยนขึ้น แต่ก็ไม่ลืมลูกสาวคนโตของตนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ด้านนอกห้องรับรอง ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

    “หนูจะไม่เข้ามาใช่ไหมฟ้า?”

    “ไม่ค่ะ ฟ้ารออยู่ด้านนอกดีกว่า” มาสฟ้ายืนยันพร้อมกับส่งยิ้มให้พ่อ มั่นใจว่าท่านไม่มีทางระแคะระคายหรือสงสัยเรื่องที่เธอเพิ่งคุยกับแม่ไป แต่ที่เธอดลือกจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ไว้ใจพ่อ เพียงแต่มาสฟ้าไม่รู้ว่าเธอจะเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่านอย่างไรดีต่างหาก จึงตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน รอให้เธอแน่ใจไม่ก็หาคำตอบที่ชัดเจนได้มากกว่านี้เมื่อไหร่ เธอต้องบอกเรื่องนิมิตที่เป็นเป็นจริงกับท่านแน่

    ขอเวลาเธอหาคำตอบอีกหน่อย ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับอู่อี้เทียนมันคืออะไรกันแน่ และทำไมนิมิตที่เธอมีเกี่ยวกับเขาจึงไม่เกิดขึ้นเหมือนกับทุกครั้ง เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นอะไรหรือเล่ห์กลแบบไหนกับเธอ

     

    ศรีเองก็อยากรู้เหมือนกันค่ะคุณมาส ว่าอี้เทียนมันมีอะไรดี ถึงมีวาสนาได้คุณมาสคนงามของศรีไปครอบครอง ศรีเองก็อยากจะรู้ // เท้าเอว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×