ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #30 : สรุปว่ารักเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 66


    “ลูกน้องของคุณเขาเป็นพวกเดนตาย ต่อให้ฉันร่ายมนต์ดำใส่เขา  มันก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ  เขามีความเป็นอาวุธสังหารชั้นดีมากกความเป็นคนเสียอีก”

    “ผมไม่เคยได้ยินใครพูดถึงหวางเย่แบบน้ันมาก่อน”  จ้าวเวยหลงเม้มปาก  ค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินเช่นนั้น หวางเย่ใกล้เคียงกับคำว่าอาวุธสังหารมากกว่าคนก็จริงอยู่ แต่เหมือนฝันก็ไม่ควรจะรู้เรื่องนั้นไม่ใช่หรือไง หรือว่าการสนทนาของเธอและหวางเย่จะยืดยาวหรือมีอะไรมากกว่าที่เขาคิดอย่างน้ันหรือ  “คุณ...ดูสนิทกับเขานะ ดูรู้จักเขาดี”

    “รู้จักแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีหรอกค่ะ” มุมปากของเหมือนฝันขยับยกสูง เมื่อคิดว่าทุกเรื่องที่เธอรู้เกี่ยวกับหวางเย่นั้นเธอรู้ผ่านดวงวิญญาณคนรักเขาทั้งสิ้น การคุยกับผีทั้งวันจะเป็นเรื่องดีได้ไงเล่า  “แล้วนี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ไหนคุณว่าจะไปนอนแล้วไง ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้”

    คำถามนั้นของหญิงสาวทำให้จ้าวเวยหลงลืมเรื่องความสนิทสนมระหว่างหญิงกับคนของเขา ที่ชวนหงุดหงิดหัวใจไปแล้วระลึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินมาหาเธอแทนที่จะเข้านอน

    สายตาคมที่หลุบมองดวงหน้างามของเหมือนฝันนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ที่ทำให้คิ้วของคนตัวเล็กขยับเข้าหากันมากขึ้นกว่าเดิม ในใจก็นึกกังวลขึ้นมา กระทั่งจ้าวเวยหลงถอนหายใจแรงเหมือนฝันก็พลอยถอนหายใจแบบเดียวกันออกมาโดยไม่รู้ตัว

    “ปู่ของผมเพิ่งโทร.มาเมื่อกี้ ท่านเจอพี่สาวคุณแล้ว”

    “แล้ว?” เหมือนฝันไม่เข้าใจว่านั่นน่ากังวบยังไง ปู่ของขาเจอกับพมาสฟ้าก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง

    “แล้วท่านก็บอกว่าท่านจะกลับมาที่นี่พร้อมกับพี่สาวคุณ เร็วสุดคือคืนนี้ ช้าสุดคือพรุ่งนี้ตอนบ่าย”

    “แล้วมันไม่ดีหรือคะ” เหมือนฝันจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดว่าจากที่ฟังจ้าวเวยหลงควรจะยินดีไม่ใช่หรือไง การที่ปู่ของเขากลับมาที่นี่เร็วกว่าแผนการที่วางไว้ แถมยังกลับมาพร้อมกับมาสฟ้าอีกด้วย แต่ทำไมสีหน้าของเขาถึงได้เหมือนกับถูกใครบังคับคับกรอกยาพิษอยู่อีกล่ะ  “หรือว่าพี่สาวฉันเป็นอะไรอย่างนั้นเหรอ”

    “เปล่าๆ พี่สาวของคุณปลอดภัยดี” จ้าวเวยหลงตอบเสียงหนัก ไม่อยากให้เหมือนฝันตีโพยตีพาย เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามาสฟ้านั้นปลอดภัยดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้าที่จะเจอกับจ้าวลี่หยาง ลำพังแค่อู่อี้เทียนก็สามารถปกป้องมาสฟ้าให้ปลอดภัยได้ ยิ่งตอนนี้มาสฟ้ามีทั้งอู่อี้เทียนและปู่ของเขา...เรื่องความปลอดภัยของมาสฟ้าจึงไม่ต้องพูดถึง  “ผมมั่นใจว่าพี่สาวไม่มีทางจะเป็นอะไรไปหรอก”

    “แล้วทำไมคุณถึงทำหน้าแบนั้นล่ะค่ะ” หญิงสาวเอียงคอ มองจ้าวเวยหลงอย่างค้นหา...หากว่าไม่มีอะไรให้เธอต้องกังวลแล้วอะไรที่ทำให้เขามีสีหน้ายุ่งยากใจแบบนั้นด้วย “คุณทะเลาะกับปู่ของคุณอย่างนั้นเหรอ”

    “ก็ผมลักพาตัวคุณมานี่นา ท่านก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา” จ้าวเวยหลงหลุดหัวเราะ ทว่ารอยยิ้มของเขากลับเลยไปไม่ถึงดวงตา ยิ่งหวนคิดถึงบทสนทนา...หรือจะพูดว่าการที่เขาเพิ่งเคยโดนจ้าวลี่หยางตะโกนใส่อยู่ฝ่ายเดียว

    ซึ่งจ้าวเวยหลงไม่โทษใครเลย เขารู้อยู่แล้วหากว่าจ้าวลี่หยางรู้ว่าเขาเข้าไปยุ่งเรื่องของมาสฟ้า หรือตอนนี้มีเหมือนฝันน้องสาวของเธอพ่วงเข้ามาด้วย เขาต้องโดนปู่ของเขาตำหนิอย่างหนักแน่ และก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เพียงแต่มันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่จ้าวเวยหลงคาดเอาไว้มาก...อีกครั้งคำต่อว่าอย่างรุนแรงที่ปู่ของเขาใช้นั้นทำให้จ้าวเวยหลงรู้สึกตปใจนิดๆ ด้วยไม่คิดว่าปู่ของเขาจะโกรธจัดถึงขั้นด่ากราดเขาฝ่ายทางโทรศัพท์เช่นนี้ แค่เพราะว่าเขาไปยุ่งกับหมอดูของท่าน

    “คุณบอกปู่ของคุณอย่างนั้นเหรอคะ”

    “ที่ว่าลักพาตัวคุณมาน่ะเหรอ เปล่าหรอกไม่ใช่ผม” จ้าวเวยหลงสั่นศีรษะ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนตัว พิงไหล่กับกรอบประตูห้องนอนของเหมือนฝัน “แต่ไม่สำคัญหรอกว่าท่านรู้เรื่องนี้มาจากใคร เพราะตอนนี้ท่านหมายหัวผมไว้เรียบร้อยแล้ว”

    “ฉันต้องกังวลไหมคะ?” เหมือนฝันไม่แน่ใจว่าเธอต้องรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ เธอกล่าวหาเขาว่าเป็นโจรลักพาตัวก็จริง แต่ตอนนี้เธอก็นับตัวเองเป็นพันธมิตรชั่วคราวกับจ้าวเวยหลงแล้ว จะให้ยินดีที่รู้ว่าเขาโดนผู้ใหญ่ดำหนิก็ยังไงอยู่ แต่จะให้รู้สึกยินดีก็คงไม่ใช่เรื่อง

    “ไม่ต้องหรอก ผมแค่อยากมาบอกคุณ” ชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาเพราะคำถามนั้นของคนตัวเล็ก เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนี้ปู่ของเขากลับมาพร้อมกับมาสฟ้าอย่างที่เขาต้องการแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกพะว้าพะวงแปลกอยู่ไม่หาย “ว่าพี่สาวของคุณจะกลับมาแล้วก็เท่านั้น บางทีข้อตกลงการเป็นพันธมิตรของเราอาจจะจบลงเร็วกว่าที่คิดก็ได้”

    “คุณคิดอย่างนั้นเหรอคะ ทำไมฉันรู้สึกว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายแบบที่คุณพูดยังไงไม่รู้”

    “ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นล่ะ”

    “ไม่รู้สิคะ ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกลไม่รู้” เหมือนฝันพึมพำ ไม่ยักรู้สึกดีกับข่าวที่จ้าวเวยหลงบอกเธอแม้แต่นิด  “เหมือนกับว่าไม่อยากดีใจเร็วไป เดี๋ยวจะผิดหวัง”

    “ผมไม่คิดว่าปู่ของผมจะโกหกหรอก...ถ้าท่านบอกว่าจะกลับมาท่านก็มานั่นแหละ”

    “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ แต่มัน...” เหมือนฝันเม้มปากแน่น ทำท่าคิดหนักอย่างไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาจำกัดความความรู้สึกตอนนี้ของเธอดี  “มันแบบแปลกๆ ยังไง อธิบายไม่ถูก”

    “งั้นเหรอ?”

    “ฉันจะโทรหาพี่ฟ้า คุณอยากเข้ามาก่อนไหมคะ?” เหมือนฝันตัดสินใจทำแบบเดียวกับทุกครั้งที่เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้ นั่นก็คือการโทร.หาพี่สาวของเธอเพื่อขอคำแนะนำ ครั้งนี้เธอตั้งใจจะโทรไปหามาสฟ้าเพื่อขอคำยืนยันกับสิ่งที่จ้าวเวยหลงเพิ่งบอกเธอ  “ปู่คุณบอกหรือเปล่าคะว่าทำอะไรอยู่ ถ้าฉันโทรหาพี่สาวฉันตอนนี้พี่ฉันจะรับหรือเปล่า”

    “ไม่ได้บอกครับ ท่านด่าผมอย่างเดียวไม่ได้พูดอะไรเลย” จ้าวเวยหลงยอมเดินเข้ามาในห้องนอนแขก ที่รองรับเหมือนฝันเป็นแขกครั้งแรกตั้งแต่ที่เขาซื้อและปรับปรุงที่นี่เสร็จ ปิดประตูตามหลังก่อนจะเดินไปนั่งที่ชุดโซฟา ที่เขาใช้เวลาเลือกนานหลายเดือนกว่าจะตัดสินใจเลือกได้

    โดยที่เหมือนฝันน้ันเดินย้อมกลับไปยังโต๊ะข้างหัวเตียงที่เธอชาร์จแบตมือถือวางเอาไว้ ไม่นานหญิงสาวร่างบอบบางก็เดินกลับมาทรุดนั่งที่ขอบโซฟาคนละฟากกับจ้าวเวยหลง

    “ไม่รู้ว่าพี่ฟ้าจะรับไหม ที่นั่นน่าจะดึกแล้วด้วย”

    “ก็...น่าจะอย่างนั้น”

    “ทำไมคุณถึงว่าง่ายแปลกๆ เนี่ย” เหมือนฝันเหล่มองจ้าวเวยหลง หลังฉุกใจคิดได้ว่าตั้งแต่เขาเข้ามาในห้องนี่ เขาก็ยอมเออออตามเธออย่างง่ายดาย ผิดกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็พร้อมจะขัดคอเธอไปเสียทุกเรื่องจนน่ารำคาญแต่บทที่เขาจะยอมลดให้เธอก่อนก็ยอมเสียง่ายๆ จนน่าขนลุก “หรือว่าโดนด่าจนเสียศูนย์ไปแล้ว ไม่เป็นไรนะคะ ฉันก็โดนที่บ้านด่าแบบนี้ประจำแหละ”

    “ขอบคุณนะ ช่วยได้มากเลย” ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ได้เสียศูนย์เพราะโดนด่า หากแต่ก็ยอมคล้อยตามหญิงสาวโดยง่ายด้วยไม่อยากผิดใจกับเธอ ทำได้แต่ยิ้มแห้งๆ กับคำปลอบโยนของเหมือนฝัน ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขานั้นคิดถูกหรือคิดผิดที่ตกลงเป็นพันธมิตรกับเธอ ผู้ที่มีความเป็นมิตรต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดคนหนึ่งที่เขาเคยพบเจอมา “แต่ไม่ต้องปลอบใจผมแล้วแหละ โทรหาพี่สาวคุณเถอะ ช้ากว่านี้เดี๋ยวจะยิ่งดึกเข้าไปใหญ่”

    “ถูกของคุณ” เหมือนฝันวกกลับไปหมกมุ่นกับมือถือของเธอ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าของบ้าน เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใหม่เรียบร้อยแล้วโดยสามารถเข้าใช้สื่อออนไลน์เหมือนกับตอนที่อยู่เมืองไทยทุกอย่าง แม้จะไม่รู้ว่าจ้าวเวยหลงทำอย่างไรแต่เหมือนฝันก็รู้สึกขอบคุณเขามาก เพราะการเข้าถึงสื่อออนไลน์อย่างไม่จำกัดแบบนี้ ทำให้เหมือนฝันรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    โดยที่เธอนั้นเริ่มจากการเปิดกล่องข้อความ ที่เธอส่งไปหาพี่สาวเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนขึ้นมาเป็นอย่างแรก แต่เมื่อเห็นว่าข้อความนั้นได้รับการอ่านแล้วแต่กลับไม่มีข้อความตอบกลับจากมาสฟ้า เหมือนฝันก็ตัดสินใจกดโทรออก...ยกมือถือแนบหู ระหว่างรอสายก็เหมือบมองคนที่นั่งอยู่อีกฟากของโซฟาไปด้วย

    “คุณอย่าพูดอะไรนะ ให้ฉันคุยกับพี่ฉันก่อน ตกลงไหม?”

    “ผมไม่พูดหรอก” จ้าวเวยหลงพยักหน้ารับ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบพูดแทรกเวลาที่คนอื่นพูดสายอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่รู้จะขัดจังหวะที่เหมือนฝันพูดสายกับพี่สาวของเธอไปเพื่ออะไร ที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ ที่นี่ก็เพราะเหมือนฝันเอ่ยปากชวนและบอกว่าเธอจะโทรไปยืนยัน เรื่องกำหนดการการเดินทางของมาสฟ้าและจ้าวลี่หยาง

    เขาไม่ได้อยากอยู่ที่นี่เพราะอยากขัดจังหวะเธอหรืออยู่ใกล้เธอสักหน่อย ถึงแม้ว่าเหมือนฝันจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใสและมีชีวิตชีวา ที่หลายครั้งต่อหลายครั้งเขาก็รู้สึกหงุดหงิดและรำคาญมาก เพราะยิ่งเข้าอยู่ใกล้เธอจ้าวเวยหลงก็ยิ่งรู้สึกอยากอยู่ใกล้หญิงสาวให้นานมากกว่าเดิม เหมือนฝันให้ความรู้สึกเหมือนยาเสพติดในความรู้สึกของจ้าวเวยหลง รู้อยู่เต็มอกนั่นแหละว่าอันตรายแต่ก็ยังอยากลิ้มลอง รู้ว่าคงจะถอนตัวยากแต่การได้อยู่ใกล้ๆ โดยมีกลิ่นกุหลาบจากครีมอาบน้ำห้อมล้อมตัวแบบนี้มันให้ความรู้สึกดีเหลือเกิน

    การที่ได้มองดวงหน้างามที่ปราศจากเครื่องสำอาง ต่างจากก่อนหน้านี้ทำให้หัวใจของจ้าวเวยหลงเต้นผิดจังหวะเล็กน้อยตั้งแต่ครั้งแรกที่สายตาของเขามองเห็นใบหน้าของเธอในครรลองสายตาตรงโถงทางเดิน จ้าวเวยหลงก็รู้ได้ว่าเหมือนฝันเป็นหายนะของเขา

    เธอเป็นจุดอ่อนที่จ้าวเวยหลงรู้ว่าเขาต้องคอยระมัดระวังตัว ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองหลงตัวไปตกหลุมรักเธอเอาง่ายๆ ทว่าเธอกลับทำให้เขาตกหลงพลางที่ว่าได้โดยไม่รู้ตัว จะรู้ตัวเอาตอนนี้มันก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว

    ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาชอบเธอเข้าเต็มเปาเลย

    “คุณเป็นไรไหม ทำไม...ทำหน้าแบบนั้น”

    “เปล่า ไม่มีอะไร” เสียงห้าวนั้นแกว่งไกวนิดๆ เพราะความประหม่า และพยายามรักษาสีหน้าของตนไม่ให้เผยพิรุจ ว่าเขากำลังคิดบ้าอะไรอยู่
     

    ตกหลุมรักงั้นเหรอไม่มีทาง เขาไม่ไม่ได้อยากอยู่ใกล้เธอสักหน่อย กลิ่มครีมอาบน้ำที่หอมจางเข้าจมูกเข้าตั้งแต่เข้าใกล้เธอนั้นก็แค่ชวนให้ใจสั่นนิดๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไอ้ความรู้สึกผิดเมื่อครู่ก็เพราะเขาไม่ได้อยู่ใกล้ผู้หญิงมานานเกินไป การได้ใช้เวลาร่วมกับเหมือนฝันเกินสี่สิบแปดชั่วโมงเลยทำให้เขาสับสนก็เท่านั้น เขาน่ะไม่ได้สนใจอะไรเหมือนฝันเป็นพิเศษ...เธอก็แค่ยิ้มสวย ตาสวย สวยจนชวนหัวใจสั่น สวยหมดจดทั้งเนื้อทั้งตัวกระทั่งตอนที่ใบหน้าเปลือยเปล่าแบบนี้ เหมือนฝันก็ยังสวยไร้ที่ติ
     

    มันเลยพลอยทำให้เขาตกหลุมรักเธอเข้าง่ายๆ ทั้งที่ไม่อยากรักใครแบบนี้ไง

     

    ฮู้เร้ๆ สุขสันต์วันแห่งฟามรักแกทูนหัวทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะมีคูาหรือไม่มีคู่ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะคะ หลังจากนี้ศรีจะพาคุณคนงามทั้งสองมาหาบ่อยๆ เพราะว่าหนังสือใกล้ออกแล้ว ฮิๆๆ

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×