คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : โชคคงเข้าข้าง
ระหว่างรอมาสฟ้าเลือกดอกไม้อย่างขะมักเขม้น อู่อี้เทียนคิดว่าถ้ามาสฟ้าอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ เขาไม่มีทางที่จะขึ้นเสียงใส่เธอเหมือนอย่างที่ผู้ชายด้านหลังกำลังทำกับบภรรยาเขาอยู่แน่ๆ ลำพังตอนนี้ที่มาสฟ้าเป็นแค่คนรักของเขา อู่อี้เทียนยังไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะขัดใจเธอ เรื่องทำตัวเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเหมือนที่หมอนั่นทำกับภรรยาของเขา แค่จินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนนั้นอู่อี้เทียนก็ยังนึกภาพไม่ออก
“ทั้งหมด...” พนักงานสาวสรุปราคารวมของช่อดอกไม้ หลังจากที่เพื่อนร่วมงานอีกคนของเธอรับดอกไม้จากมือมาสฟ้าไปเข้าช่อ ก่อนต้องเงยหน้ามองมือที่ยื่นบัตรสีดำมาให้เธอ ตัดหน้าลูกค้าผู้หญิงที่ล้วงหาบัตรอยู่
“อี้เทียน ฉันจ่ายเองค่ะ” มาสฟ้านิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตัดหน้าจ่ายเงินค่าดอกไม้แทนเธอก่อนแล้ว แถมพยังทำให้พนักงานหน้าแดงแจ๋ ต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของเขาหลังจากสบตาได้ไม่ถึงนาที “ฉัน...”
"ผมตามใจคุณเรื่องรถแล้ว เรื่องนี้ผมจะไม่ยอมตามใจคุณ” อี้เทียนไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของพยักงานร้านขายดอกไม้ที่คอยเหลือบมองมาที่เขา ชายหนุ่มยังคงมองหน้ามาสฟ้าไม่ละสายตา ก่อนจะบอกกับพนักงานที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ใช้บัตรนี้ครับ”
“เอ่อ...พี่คะ...”
“เขาอยากจ่ายก็ให้เขาจ่ายไปเถอะจ้ะ” มาสฟ้ายอมแพ้ให้กับชายหนุ่มในครั้งนี้ แต่ก็มิวายค้อนเขาประหลับประเหลือบ แต่คนโดนค้อนกลับไม่สะทกสะท้านเมื่อเห็นว่ามาสฟ้ายอมให้เขาเป็นจ่ายเงิน อู่อี้เทียนก็ยิ้มหน้าบานแล้วยื่นมือไปดึงมาสฟ้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“รักคุณจัง” เสียงทุ้มกระซิบบอกชิดขมับของคนตัวเล็ก ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มงามเร็วๆ อย่างไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ ซึ่งการกระทำนั้นของชายหนุ่มทำให้มาสฟ้าตัวแข็งไปอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะหลับตาลงอย่างจำนนในชะตาของตัวเอง แต่ก็มิวายระบายลมหายใจออกมาแรงๆ หนหนึ่งเพราะความขัดเคือง
“เล่นอะไรของคุณเนี่ย เราอยู่ข้างนอกนะคะ”
“ผมเหมือนคนล้อเล่นเหรอ”
“ไม่เหมือนล้อเล่นหรอกค่ะ แต่เหมือนพวกเจ้าชู้มือปลาหมึก” มาสฟ้าย่นจมูก มองอู่อี้เทียนด้วยสายตากล่าวหา แล้วหวนคิดถึงครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน อู่อี้เทียนก็เป็นพวกปากว่ามือถึงมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะมาห่างหายไปก็ตอนที่เขาคิดว่าเธอเป็นพวกหมอดูช่างหลังก่อนที่เขาจะรถคว่ำนี่แหละ ที่อู่อี้เทียนจะยอมเก็บไม้เก็บมือห่างจากตัวเธอ “กลัวคนไม่รู้ว่าเป็นเสือผู้หญิงเหรอคะ?”
“ผมเจ้าชู้แค่กับคุณ นับว่าเจ้าชู้ได้ด้วยเหรอ?” อู่อี้เทียนหัวเราะพรืด ตั้งแต่เจอมาสฟ้าเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้อกับผู้หญิงคนอื่นอีก จะเรียกว่าถูกเธอถอดเขี้ยวเล็บก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่าเขาเก็บเล็บเพราะกลัวมาสฟ้าจะไม่เอา แบบนั้นจะถูกต้องกว่า “เดี๋ยวนี้เขาชอบพูดกัน ว่ายังไงนะ...คลั่งรักถูกไหม”
“แบบคุณเรียกว่า ขี้หึงจนเสียสติ จะถูกกว่าค่ะ” มาสฟ้ากลอกตาพร้อมกับโคลงหัวไปมา ขณะแก้คำพูดของอู่อี้เทียนที่ทำให้เจ้าตัวนั้นถึงกับหลุกยิ้มขำ ไม่สะทกสะท้านที่มาสฟ้ากล่าวหาว่าเขาเป็นคนขี้หึง เพราะว่าเขาขี้หึงมากจริงๆ ทั้งหึงและหวงหากว่าเป็นเรื่องของเธอ
“ผมเองก็ได้ข่าวว่าคุณก็ร้ายไม่เบานี่ครับ” อู่อี้เทียนเหลือบยิ้มกริ่ม ซึ่งคำพูดนั้นของเขาทำให้คนตัวเล็กถึงกับเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจ ที่เขารู้ความลับของเธอเข้า “อ้อ แล้วก็ไม่ต้องกลัว เพราะคุณเป็นยังไงผมก็รักคุณอยู่ดี”
“แล้วถ้าฉันร้ายกาจกว่าที่คุณคิดเอาไว้ล่ะคะ?” มาสฟ้าเหลือบมองอี้เทียนด้วยสายตาคมกริบและซับซ้อน คล้ายเธอกำลังค้นหาว่าเขากำลังพูดความจริงกับเธอหรือไม่ “คุณยังจะบอกว่ารักฉันอยู่หรือเปล่า”
“บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่คนโลภ ตราบใดที่คุณอยู่บนเตียงของผมแล้วไม่มองผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็พร้อมปิดหูปิดตาเพื่อคุณอยู่แล้ว”
“อ้อ”
“อีกอย่างผมเองก็ห่างไกลคำว่าคนดี แต่งคนเพียบพร้อมอย่างคุณมาก็เหมาะแล้ว”
“ร้ายกาจกับเพียบพร้อมต่างกันเยอะอยู่นะคะอี้เทียน เผื่อว่าคุณสับสน” มาสฟ้านิ่วหน้า ชะงักตรงคำพูดที่เปลี่ยนไปของเขา เขาเมื่อเห็นว่าสีหน้าของอี้เทียนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยก็มั่นใจว่าเขาพูดถูกแล้ว เขามองความร้ายกาจของเธอเป็นว่าเรื่องดี โรคจิตจริงๆ “แล้วฉันก็ไม่ได้เพียบพร้อม”
“เอาเป็นว่าเราเหมาะสมกัน คุณกับผมเราสองคนเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ เกิดมาเพื่อกันและกันชัดๆ” อี้เทียนสรุปด้วยใบหน้าระรื่น เล่นเอามาสฟ้าได้แต่ข่มฟันเข้าหากันอย่างสะกดอารมณ์ มั่นไส้เขาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จะหยิกเขาให้ช้ำหรือก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ เพราะขนาดรถคว่ำมาหนหนึ่งแล้วก็ยังหยุดเขาให้เลิกคิดที่จะแต่งงานกับเธอไม่ได้ “เพราฉะนั้นแล้วแต่งงานกับผมสักที”
“นั่นฟ้าป่ะ?”
เสียงพูดกึ่งเกรงใจนั้นดังมาจากนอกร้านดอกไม้ ทำให้ทั้งมาสฟ้าและอู่อี้เทียนต้องหมุนคอกลับไปมองยังต้นเสียงพร้อมกัน เป็นภาพที่จะว่าน่ารักก็น่ารัก หากจะบอกว่าน่าขนลุกก็ไม่แปลก ยิ่งมาสฟ้าเบิกตาน้อยๆ อย่างประหลาดใจที่เห็นกลุ่มเพื่อนของเธอ ยิ่งเป็นภาพที่หาได้ยากยิ่งแถมข้างกายของเจ้าหล่อนจะมีผู้ชายที่หล่อล่มบ้านล่มเมืองยืนโอบเอวอยู่ กระหนุงกระหนิงกันแบบนี้ถ้าบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันก็ไม่มีใครเชื่อ
“ฟ้าเองนริน” มาสฟ้าพยายามปั้นยิ้มพลางปลอบใจตัวเอง แม้ว่าเหงื่อของเธอจะผุดพรายขึ้นมาเต็มไรผมเพราะถูกเพื่อนจับได้คาหนังคาเขา และพวกเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องที่ออกมากับผู้ชายแปลกหน้าไปง่ายๆ แน่ ยิ่งเพื่อนกลุ่มด้านหลังที่เธอไม่อาจเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปากนั่นอีก ไม่พ้นชั่วโมงนี้ข่าวว่าเธอมีแฟนคงว่อนไปทั่ว “แล้วนี่ก็อี้เทียน แฟนเรา”
“สวัสดีครับ” แฟนป้ายแดงของมาสฟ้ายิ้มแฉ่ง ยื่นมือไปกระชับกับมือเล็กของนริน ท่าทางเป็นมิตรของเขาทำให้นรินผ่อนคลายลงกว่าก่อนนี้ เจ้าหล่อนถึงกับเผยรอยยิ้มกว้างออกมาขณะเหลือบมองหน้าเพื่อน ด้วยสายตากึ่งล้อเลียนกึ่งยินดีที่มาสฟ้าได้แต่กลอกตาไปมา รู้ชะตากรรมตัวเองหลังจากนี้ว่าหากเธออยู่ตามลำพังกับนรินเมื่อไม่ ต้องโดนยายตัวแสบรีดข้อมูลเกี่ยวกับอี้เทียนทุกอย่างแน่ๆ
“นรินค่ะ เพื่อนฟ้า แล้วก็เพื่อนของฝันด้วย” นั่นประไร ยังไม่ทันไรนรินก็เริ่มแผลงฤทธิ์ใส่เธอแล้ว “แต่คุณคงเคยเจอแล้ว ยายฝันเป็นน้องของฟ้า”
“เจอแล้วครับ” อู่อี้เทียนยิ้มพราย รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของคนรักของเขากำลังจะทำอะไร ก่อนเขาจะเล่นตามน้ำไปได้อย่างรื่นไหลจนมาสฟ้าเองยังแปลกใจ “แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ด้วย”
“คุณเจอคุณลุงกบคุณฟ้าด้วยเหรอคะ! ที่ไหน เมื่อไหร แล้ว...”
“วันนี้เจอที่บ้านตอนไปรับมาสฟ้าน่ะครับ” อู่อี้เทียนตอบ
“หมายความว่าเจอบ้านของฟ้าหลายครั้งแล้วเหรอคะ” นรินออกแรงบีบมือของอี้เทียนอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะลนลานปล่อยมือเขาเมื่อหับไปสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเพื่อน “ขอโทษค่ะ ฉันแค่ตกใจ ไม่คิดว่า...”
“ผมเข้าใจครับ ตอนแรกๆ ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน” คำพูดจากอู่อี้เทียนยุติบรรยากาศเยียบเย็นที่มาสฟ้าแบ่ออกมาลงได้ชะงัก “บ้านมาสฟ้าเขาค่อนข้าง...เอ่อ...พิเศษ”
“ฉันเคยบอกแล้วนี่ คุณเองก็น่าจะฟังฉันตั้งแต่ตอนนั้นนะ” มาสฟ้างึมงำในลำคอ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นได้ยินเพราะทุกคน ณ ที่นี้ล้วนรู้จักกิตติศัพท์ของครอบครัวเธอดี ยิ่งถูกอู่อี้เทียนรั้งเอวเธอมายืนประชิดตัวเขาชนิดที่ไม่มีช่องว่าง แค่เสียงกระซิบเบาๆ ก็พอที่จะทำให้อู่อี้เทียนได้ยินทุกคำพูดเธอ
“ผมรักคุณจะตาย จะให้ยอมแพ้ง่ายๆ ได้ไงล่ะครับ”
ทุกคนอ้าปากค้าง นอกจากไม่คิดว่ามาสฟ้าจะออกมาข้างนอกแล้ว ยังมีเรื่องแฟนสุดหล่อของเพื่อนให้แปลกใจอีกอย่าง ตอนนี้พวกเขายังโชว์หวานกันต่อหน้าต่อตาพวกเขาเหมือนเด็กวันรุ่นอีก นี่มันเกินไปแล้ว เกินไปจริงๆ เหมือนฝันจะต้องรู้เรื่องนี้!
ปากงามที่มีแค่ลิบปาล์มเคลือบอยู่นั้นเม้มเข้ากันแน่นระหว่างที่เหลือบตามองมาสฟ้า สลับกับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน ปาริชาติมั่นใจว่าหลังจากแต่งงานแล้วเธอจะห่างหายไปจากกลุ่มเพื่อน แต่ก็ไม่นานที่เธอจะพลาดเรื่องของมาสฟ้าไปได้ ถึงเจ้าตัวจะคิดว่าการซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ที่มีการป้องกันจนเหมือนปราการชั้นหนึ่งจะทำให้เธอปลอดภัย แต่นั่นกลับทำให้ความสนใจที่คนอื่นๆ มีต่อตัวเธอทวีเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า แล้วไหนจะเหมือนฝันที่ตามพี่สาวเป็นเงาคนนั้นอีก ไม่ว่าจะคิดยังไงการที่จู่ๆ มาสฟ้าจะมีแฟนมันก็เชื่อได้ยากจริงๆ
“ขอโทษที่จู่ๆ ก็โผล่มานะพราว ที่บ้านวุ่นๆ เพิ่งจะมาว่างก็วันนี้แหละ” มาสฟ้ามองเพื่อนของตนด้วยสายตาขอลุโทษหลังจากที่วางดอกไม้ของพวกเธอลงบนโต๊ะอาหารด้านนอก รวมกับดอกไม้ที่คนอื่นๆ ที่ซื้อมาเยี่ยมคุณแม่มือใหม่ก่อนหน้าเธอ “แล้วนี่ก็อี้เทียน แฟนเรา”
“อ้อ” เมื่อได้รับการยืนยันถึงฐานะของหนุ่มหล่อข้างกายของเพื่อน ปาริชาตก็ร้องหลุดเสียงร้องออกมา พยายามจะไม่แสดงความแปลกใจให้มาสฟ้าและคนรักของเจ้าหล่อนเห็น แต่สีหน้าของคนที่อยุ่ในชุดผู้ป่วยก็เพียงพอที่จะทำให้สองหนุ่มสาวเหลือบมองหน้ากัน จู่ๆ สายตาของปาริชาตก็ทำพวกเขากระอักกระอ่วนแปลกๆ “โอ้ย ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ฉันไม่ได้คิดอะไรแปลกๆ แต่คิดถึงไม่ว่ามาสฟ้าจะพาแฟนมาเจอ...”
“ยินดีด้วยนะครับ” อี้เทียนเดินมาจับมือทักทายปาริชาตบนเตียงพร้อมกับร้อยยิ้ม ตอนนี้เขาอารมณ์ดีสุดๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ทำให้เขาหงุดหงิดไม่ได้ “ผมเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันครับ มาสฟ้าเขาชอบเซอร์ไพรซ์”
“พราวค่ะ” ปาริชาตแนะนำตัว เหลือบมองหน้ามาสฟ้าเชิงขออนุญาตก่อนจะยืนมือไปสัมผัสกับอี้เทียนแล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว ปากก็พูดคุยกับชายหนุ่มอย่าเป็นกันเอง “แฟนคุณเพอร์เฟ็คค่ะ”
“ปกติผมไม่ชอบให้ใครมีความเห็นเกี่ยวกับแฟนผม ไม่ว่าจะทางดีหรือทางลบแต่วันนี้เราเจอกันครั้งแรก ผมจะปล่อยคุณไปก่อนนะครับ” อี้เทียนพูดยิ้มๆ แต่ไม่เชิงเป็นการพูดเล่นเสียทีเดียว และนั่นก็ทำให้ปาริชาติถึงกับหน้าเสีย “ยังไงเด็กก็ยังต้องการแม่ ใช่ไหมครับ?”
“พอทีเถอะค่ะอี้เทียน ไม่มีใครตลกกับมุกฝืดๆ ของคุณหรอก” มาสฟ้าที่เห็นสีหน้าของเพื่อนก็รู้ว่าปาริชาตเริ่มลำบากใจกับการรับมือแฟนป้ายแดงของตัวเอง ดังนั้นคนกลางอย่างเธอจึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วย “อี้เทียนเขาล้อเล่นน่ะพราว โทษที หน้าเขาไม่ค่อยชวนเชื่อว่าจะพูดเรื่องตลก”
“ไม่เป็นไรเลยฟ้า เราโอเค” แล้วปาริชาตจะพูดอะไรอย่างอื่นได้อีก จะให้บอกเพื่อนว่าเธอรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่อี้เทียนเข้าใกล้ หรือกระมั่งมองเธอท้องไส้ของเธอก็ส่งเสียงครืดคราดเพราะความประหม่า “เราแค่เพิ่งเจอกัน แล้วอีกอย่าง...เราก็ไม่เจอแฟนมาสฟ้าด้วย”
“ตอนนี้ก็เจอแล้วไง” มาสฟ้ายิ้ม ไม่แปลคำพูดเมื่อครู่นี้ของเพื่อนให้อู่อี้เทียนฟัง แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเธอสักนิด
“ทำไมครับ ผมทำให้คุณอึดอัดเหรอ”
“เปล่าค่ะเปล่า” ชายหนุ่มกลับมายิ้มกว้างหันมองปาริชาตเต็มตาอีกครั้ง “ฉันแค่แปลกใจค่ะ คิดไม่ถึงว่าแฟนฟ้าจะหล่อขนาดนี้”
“ผมเป็นแฟนของมาสที่คุณเคยเจอสินะครับ” เขาเดา ซึ่งคาดหวังคำตอบว่าใช่เพราะหากเป็นอย่างอื่น เขาคงหงุดหงิดน่าดู
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง” ปาริชาติก้มหน้างุด รู้สึกผิดที่แสดงออกชัดจนอี้เทียนจับได้ “ฉันไม่ได้คิดว่าฟ้าเขาไม่ดีนะคะ แต่ฝันเขา...”
“อ้อ เรื่องความสามารถของฝันผมรู้ดีกว่าใครเชียว” ชายหนุ่มนิ่งหน้า เหลือบมองมาสฟ้าที่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย “แค่ช่วงนี้เขาคงกำลังยุ่งๆ โชคคงเข้าข้างผมน่ะครับ เลยฉกมาสฟ้ามาได้”
แบบนั้นก็ไม่แปลกใจแล้ว ทั้งปาริชาตและคนที่กำลังวนเวียนอยู่ข้องรับแขกพยายามเงี่ยหูฟังบทสนนทนาของคนในห้องอย่างพร้อมเพรียงกัน เงียบจนได้ยินแค่เสียงเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งมาสฟ้าและปาริชาติคาดเดาได้อยู่แล้วว่ายังไงการพูดคุยขอพวกเขาก็ไม่พ้นที่จะถูกแอบฟัง โดยบรรดาเพื่อนๆ ที่ช่างสอดรู้สอดเห็น รับรองได้เลยว่าไม่เกินสามสิบนาที่ทุกคนที่พวกเธอและมาสฟ้าเกี่ยวข้องจะรู้ถึงการมีอยู่ของอู่อี้เทียน แฟนคนแรกของมาสฟ้าอย่างแน่นอน
“เหมือนฝันเขา...เป็นห่วงฟ้าเกินไปหน่อยค่ะ” ปาริชาติเงยหน้ามองอู่อี้เทียน ยิ้มกว้างอย่างขบขันเมื่อคิดถึงเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปสบตากับมาสฟ้าอย่างถามความเห็น “ฟ้าเองก็ไม่เคยว่าอะไรฝันด้วย”
“ก็ไม่มีอะไรให้ต้องว่าฝันเขานี่นา” มาสฟ้านั้นก็เป็นคนที่หวงน้องสาวไม่แพ้กัน แค่เธอไม่แสดงออกด้วยการบุกไปฉีกอกบรรดาหนุ่มๆ ของเหมือนฝัน แต่จะรอคอยจังหวะเหมาะในการกำจัดคนพวกนั้นออกไปจากชีวิตของน้องสาว คนจึงเข้าใจว่าที่เรื่องมันกลายมาเป็นแบบนี้เพราะว่าเธอตามใจเหมือนฝันมากเกินไป ซึ่งพูดตามตรงพวกเขาก็คิดถูกแล้ว “กับอี้เทียนเองฝันเองก็เล่นงานเขาหนักอยู่ แค่ว่าเขาดื้อด้าน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เท่านั้นเอง”
“ฟ้ามีความสุขก็ดีแล้ว” ปาริชาติยิ้มกว้าง ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอไม่เคยเห็นมาสฟ้าสดใสเท่าวันนี้ ทั้งสีหน้าและแววตาของหญิงสาวเปล่งประกาย ฉายแววแห่งความสุขออกมาอย่างชัดเจน
“เรามีความสุขมากจ้ะ” มาสฟ้าตอบเพื่อน พลางล่วงของในกระเป๋าถือใบน้อยของตนออกมา เป็นกล่องสีแดงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ให้กับคุณแม่ลูกอ่อนที่กำลังมองเธออย่างสับสนจนมาสฟ้าต้องอธิบาย “ของรับขวัญหลานไง ถึงเราจะมากะทันหันแต่ก็ไม่มามือเปล่าหรอกนะ”
“ไม่เห็นต้องซื้อมาเลย” ปาริชาติเหงื่อตกเมื่อเห็นว่าในกล่องใบหน้ายนั้นทองคำแห่งขนาดเขื่อง ที่สลักชื่อลูกของเธอเอาไว้เสร็จสรรพ ชื่อที่เธอยังไม่ได้บอกใครแม้แต่กับพ่อแม่ของเธอเอง ปาริชาตเงยหน้าขึ้นมองมาสฟ้ามันควันอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาเป็นเพียงรอยยิ้มกว้างของฟ้า
“เราถือวิสาสะ ให้ร้านน้ามลเขาเขียนชื่อให้หลานเลย พราวไม่โกรธเรานะ”
“ไม่โกรธหรอก กักษากรนี่แหละเพราะที่สุดแล้ว” ปาริชาตเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตาที่มองมาสฟ้าก็เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา “เราชอบชื่อนี้ที่สุด ขอบคุณมากนะฟ้า”
“นี่ครับ ของผม” อู่อี้เทียนปลดสร้อยหยกในคอมาส่งให้ปาริชาต การกระทำนั้นของเขาทำให้ทั้งมาสฟ้าและปาริชาตถึงกับเบิกตาโผล่งอย่างแตกตื่น โดยเพราะฝ่ายหลังนั้นรีบยกมือโบกปัดพลวัลปากก็เอ่ยปฏิเสธไปพร้อมกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหยกแต่ปาริชาตกพอจะรู้ว่าหยกที่อู่อี้เทียนห้องติดคอไว้นั้นต้องเป็นของที่มีราคา คนเพิ่งเจอกันจะให้รับของมีค่ามาเลยเห็นทีจะไม่เหมาะ
“ไม่เอาหรอกค่ะ ฟ้าให้มาแล้วจะให้ฉันรับจากคุณอีกได้ยังไง”
“ของมาสฟ้าก็เป็นส่วนของมาสฟ้าสิครับ จะเอามารวมกันได้ยังไง” อู่อี้เทียนไม่ใช่คนที่ยึดติดกับสิ่งของ จี้หยกนี้เป็นหยกอายุยืนที่แม่เขาได้มาจากวัดดัง ท่านมอบให้เขาหลังจากที่ฟื้นจากอาการโคม่าแม้ว่าเขาจะบอกท่านแล้วว่าเขาไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ ในเมื่อเขาไม่ได้อินังขังขอบกับความสำคัญของจี้เล็กจ้อยนี้ “จี้หยกนี้ไม่ใช่ของมีราคาอะไรหรอกครับ แต่เป็นหยกอายุยืน ให้ลูกของคุณแขวนไว้เขาจะไม่เจ็บป่วย”
“แต่ว่า...”
“รับไปเถอะครับ ถือว่าเป็นของขวัญในการเจอกันครั้งแรกของเราด้วย” อู่อี้เทียนยืนยันเสียงหนัก จากนั้นก็เหลือบมองไปทางมาสฟ้าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม “หรือถ้าลำบากใจ รอรับขวัญลูกของผมกับมาสฟ้าก็ได้นะครับ”
คำนั้นของอู่อี้เทียนไม่ได้ช่วยให้ปราริชาตรู้สึกดีขึ้น กลับกันมันทำให้เธอรู้สึกเก้อกระดากยิ่งกว่าเดิม จนต้องเหลือบมองมาสฟ้าอย่างขอความช่วยเหลือ ด้วยจนปัญญาที่จะรับมือกับรักคนของเพื่อนอย่างไรดี ทั้งเพิ่งเจอกันครั้งแรกและเขาก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเรนมิตรเท่าไหร่นัก ทว่าเมื่อหันไปมองเพื่อนของคนครั้งแล้วครั้งเล่า มาสฟ้าก็ยังคงพยักหน้ายืนหยันเหมือนจะเห็นด้วยกับอู่อี้เทียน ทั้งยังไม่ได้เอ่ยแทรกเพื่อช่วยเธอบอกปัดสร้อยหยกสีขาวนวลที่แฟนของเจ้าตัวยัดเยียดให้เธอ ปาริชาติก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเอื้อมมือออกไปรับสร้อยเจ้าปัญหามาแล้วว่า
“รับขวัญลูกของคุณกับฟ้าฉันจะคืนให้นะคะ”
“ได้อยู่แล้วครับ” อู่อี้เทียนยิ้มพรายพร้อมกับหลิ่วตามองมาสฟ้าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ซึ่งก็เพียงพอให้ปาริชาติและตัวมาสฟ้านั้นต้องมองหน้ากันเลิกลัก “แต่ว่าผมคงต้องทำให้มาสฟ้ายอมแต่งงานกับผมให้ได้ก่อน”
“เราคุยกันเรื่องนี้แล้วไม่ใช่เหรอคะ” มาสฟ้ากลอกจา ยอมเล่นตามไปด้วยเข้าใจว่าอู่อี้เทียนเย้าเธอเพื่อต้องการให้ปาริชาติผ่อนคลาย
“บางทีผมก็ไม่แน่ใจว่าระหว่างมาสฟ้ากับน้องสาว ผมต้องกลัวใครมากกว่ากัน”
“ฉันคงช่วยคุณไม่ได้มากหรอกค่ะ คุณเป็นแฟนคนแรกของมาสฟ้า...ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยคุณยังไง”
“แค่พูดแบบนี้ก็ช่วยผมได้มากแล้วครับ” อู่อี้เทียนยิ้มแฉ่ง ยิ่งได้ยินว่าตนเป็นคนรักคนแรกของมาสฟ้าบ่อยแค่ไหนเขาก็ยิ่งรู้สึกดีเท่านั้น “การที่เราผมได้มาเจอคุณวันนี้ก็คงจะเป็นโชคชะตา จริงไหมครับ”
“จริงค่ะ” แม่ลูกอ่อนหัวเราะร่วน เธอเองก็รู้สึกว่าคนรักของมาสฟ้านี้แม้ว่าครั้งแรกที่เห็นหน้าจะน่ากลัวอยู่ไม่หยอก แต่พอได้คุยเขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่ดีอะไร...ออกจะเข้ากับคนง่ายด้วยซ้ำ ถึงว่ามาสฟ้าจึงได้สบายใจที่พาเขาไปเจอกับเพื่อนๆ เหมือนฝันองก็ไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรด้วย ไม่แน่ว่าอู่อี้เทียนคนนี้จะเป็นสามีในอนาคตของเพื่อนเธอก็ได้
ปาริชาติครุ่นคิดกับตัวเองเงียบๆ คนเดียว ยังไม่กล้าบอกความคิดของเธอกับใคร รอให้วันแต่งงานของมาสฟ้ามาถึงแล้วอู่อีเทียนเป็นเจ้าบ่าวเมื่อไหร่ ตอนนั้นเธอค่อยบอกพวกเขาทั้งคู่ก็ยังไม่สาย
บางทีผู้ชายก็มีความม่ั่นหน้าเกินไปหน่อย กล้าดียังไงมาเคลมคุณฟ้าคนงามของอิชั้น แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ฮ้าาาา // ต่อสายเตียมโทรไปเป่าหูคุณฝัน
ความคิดเห็น