ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #25 : คลาด

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 65


    เหมือนฝันรู้อยู่แล้วว่าเมื่อไม่มีมาสฟ้าอยู่ข้างๆ โชคร้ายก็เหมือนจะพร้อมใจกันประดังประเดเข้ามาหาเธอไม่หยุด ราวกับนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า แม้จะเตรียมใจสำหรับเรื่องไม่คาดฝันไว้อยู่แล้ว ทว่าเมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ เหมือนฝันก็อดที่จะรู้สึกเซ็งนิดๆ ไม่ได้อยู่ดี

    “จากนี้ต้องระวังนะครับ ทางที่ดีถ้าคุณกลับไปเมื่อไหร่ก็ไปหาหมอที่นั่นอีกครั้ง ตรวจให้ละเอียดจะดีกว่า แต่ระหว่างนี้ก็พยายามงดกิจกรรมที่ต้องออกแรงแล้วก็ใช้ข้อมือหนักๆ ไปก่อน แล้วก็ระวังมากหน่อยนะครับ”

    “ขอบคุณค่ะ” เหมือนฝันยิ้มแหย่ ทำได้แต่พยักหน้ารับคำของหมอ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูสงบปากสงบคำและดุเกินเล็กน้อยในความรู้สึกของเหมือนฝัน คงด้วยอายุอานามที่กะดูจากสายตาน่าจะราวๆ ห้าสิบ ก็เลยไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจกับท่าทางของเขาที่ทั้งเย็นชาและจับผิดเธอที่เป็นคนไข้อยู่พอสมควร แม้ว่านั่นจะทำให้เธอรู้สึกอึดอัดนิดๆ เวลาถูกเขามองแต่เหมือนฝันก็คิดว่าเธอสามารถอดทนกับเขาได้

    ยิ่งบทสนทนาตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรกที่โรงแรม จนพวกเขาออกจากโรงแรมเพื่อมาตรวจข้อมืออย่างละเอียดที่โรงพยาบาล ตลอดทุกขั้นตอนการตรวจจนกระทั่งเข้าเฝือกอ่อนเสร็จสรรพ เธอกับหมอยังคุยกันไม่เกินสิบประโยค แถมแต่ละครั้งก็ยังเป็นประโยคสั้นๆ เรียกว่าถามคำตอบคำก็คงไม่ผิดนัก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เหมือนฝันจะมองข้ามสายตาประเมินของเขา แล้วแอบสรุปเอาเองดื้อๆ ว่าเขาคงไม่พ้นที่จะเป็นคนดุและไม่ใช่ช่างพูด

    “แต่ดีกว่านี้ก็ควรจะมาหาหมอตั้งแต่วันแรกๆ นะ” คราวนี้สายตาดุๆ เชิงตำหนิของชายในชุดกาวน์นั้นตวัดไปมองยังร่างสูงของจ้าวเวยหลง ที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องตรวจที่ฟังทุกอย่างตั้งแต่แรก ท่าทางของคุณหมอทั้งน้ำเสียงและสายตาที่เขาใช้มองจ้าวเวยหลงดึงความสนใจของเหมือนฝันไปจากอาการเจ็บของตัวเอง ยิ่งเขาไม่ยักกลัวจ้าวเวยหลงเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เธอเคยเจอ ก็ยิ่งทำให้คิ้วของเหมือนฝันเลิกสูงเล็กน้อยด้วยความอยากรู้อยากเห็นแกมชื่นชม แผ่นหลังเล็กเหยียดนั่งตรงแหน็ว สายตาก็จับตามองทุกความเคลื่อนไหวในห้องไปด้วย

    “ยิ่งมาช้ามันยิ่งแย่นะ”

    “อย่ามาโทษผม” จ้าวเวยหลงรีบปัดความผิดให้พ้นตัวทันทีที่มันถูกโยนลงมาบนหัวของเขา พร้อมทำปากบุ้ยใบ้ไปทางคนเจ็บ “ผมเป็นคนลากยายตัวแสบนี่มาโรงพยาบาลนะ ถ้าไม่ใช่เพราะผม เจ้าตัวเขาคงนอนเจ็บแขนอยู่โรมแรมโน้น”

    “ก็ฉันมาเที่ยว ใครมันจะอยากมาโรงบาล” เหมือนฝันถลึงตาจ้องจ้าวเวยหลงคืน หากไม่ติดว่ามีบุคคลที่สามอยู่ในห้องด้วยและจ้าวเวยหลงเป็นคนจัดการเรื่องการรักษาข้อมือของเธอทุกขั้นทุกตอนเหมือนฝันคงทำมากกว่านี้ เธอคงลงไม้ลงมือกับเขาไปแล้วโทษฐานที่เขากล้าแฉเธอ

    แต่เธอก็ไม่ทำเพราะต่อให้จะไร้สำนึกแค่ไหน แต่เหมือนฝันก็ยังฉลาดพอที่จะคิดได้ว่าตอนนี้เธอไม่ควรมีเรื่องกับจ้าวเวยหลงดีที่สุด เธอจึงเถียงให้พอไม่เสียหน้าก่อนเลือกที่จะสงบปากสงบคำไว้แค่นั้น บอกตัวเองว่าวันนี้เธอจะปล่อยเขาไปก่อน แต่ถ้าพรุ่งนี้หากเขายังทำตัวปากร้ายใส่เธอก็ค่อยว่ากันอีกที

    “อย่างนั้นผมจัดจะจัดยาแก้ปวดไปให้นะครับ” สุดท้ายแล้วคนที่ทำให้เหมือนฝันต้องละความสนใจจากจ้าวเวยหลงก็ยังเป็นคุณหมอตรงหน้า ใจหนึ่งเหมือนฝันคิดว่ามันน่าเสียดายนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าจะได้ดูอะไรสนุกๆ มากกว่านี้ “ไม่แพ้ยาอะไรนะครับ?”

    “ไม่ค่ะ” เหมือนฝันส่ายหน้าเบาๆ ท่าทางว่าง่ายของหญิงสาวทำให้จ้าวเวยหลงรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย คิดเปรียบเทียบว่าเวลาที่เธออยู่กับเขาไม่เห็นว่าง่ายแบบนี้ เถียงเขาคำไม่ตกฟาก ชวนให้จ้าวเวยหลงอดคิดไม่ได้ว่าหากว่าเหมือนฝันทำตัวว่าง่ายได้ครึ่งหนึ่งแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขาคงไม่ต้องเปลืองแรงสู้รบปรบมือจนเกือบจะเสียสติแบบก่อนหน้านี้หรอก

    เห็นชัดๆ ว่าแม่ตัวแสบนี่หากอยากจะทำตัวดีๆ ก็ทำได้ แค่เวลาอยู่กับเขานั้นเธอตั้งใจจะกวนประสาทเขาเฉยๆ

    “ถ้ามีเวลาว่าพาเพื่อนมาหาหมอ ก็น่าจะพาพ่อมาบ้างนะเวยหลง” ณ ตอนนี้เหมือนฝันค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าคุณหมอท่านนี้คงจะสนิทสนมกับครอบครัวของจ้าวเวยหลงไม่น้อย เพราะคงไม่มีใครโง่หรือเสียสติมากพอที่จะพูดกับจ้าวเวยหลงด้วยคำพูดและน้ำเสียงแบบนี้แน่นอน

    คนเจ็บที่ฟังทุกอย่างมาครู่ใหญ่ได้ครุ่นคิดกับตัวเองในใจ ขณะที่เก็บข้อมูลทุกอย่างและประมวลผลในหัวไประหว่างที่รอให้คุณหมอเขียนใบสั่งยา สายตาของเหมือนฝันเหลือบมองจ้าวเวยหลงที่มีสีหน้าเรียบสนิทคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ สลับกับคุณหมอที่รักษาตัวเองซึ่งท่านก็มีสีหน้าเรียบเฉยไม่แพ้กัน ยิ่งทำให้คนดูข้างสนามเหมือนฝันนั้นตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ สำหรับเธอนั้นเหมือนฝันประเมินว่าสองคนนี้นับเป็นมวยที่พอฟัดพอเหวี่ยง ไม่มีใครเป็นรองใครเลย

    น่าสนใจสุดๆ...

    “หมอบอกพ่อแล้วพ่อเขามาไหมล่ะครับ” จ้าวเวยหลงเองก็เหมือนไม่ได้มีแผนการที่จะล่าถอยให้กับคนที่อาวุโสกว่า สายตาคมกริบของเขายังคงเย็นชาและดุดันน่ากลัวจนเหมือนฝันเองก็ยังขนลุกเกรียว คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นตรงหน้านี้แน่ๆ ไว้ค่อยสืบหาหลังจากนี้ก็แล้วกัน ยังไงเธอก็ยังคงติดแหง็กกับจ้าวเวยหลงไปอีกหลายวัน อย่างน้อยก็มีเรื่องให้ทำฆ่าเวลา ไอ้การสาระแนเรื่องชาวบ้านนี่เธอนับว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่ง ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

    “ก็ไม่มาน่ะสิ หมอก็เลยต้องมาพูดกับคุณแทน”

    “พอถึงเวลาเดี๋ยวเขาก็คงมาหาหมอเองนั่นแหละครับ” จ้าวเวยหลงกระตุกยิ้ม มั่นใจว่าหากจ้าวซ่งเหยียนช็อกอีกครั้ง เดี๋ยวก็ถูกหามได้มาที่โรงพยาบาลเอง เหมือนหนทีแล้วนั่นแหละ ไม่เห็นต้องไปบังคับหรือลากตาเฒ่านั้นมาโรงบาลฯให้วุ่นวายเสียเวลาปวดหัวเสียเปล่าๆ “หมอไม่ต้องห่วงหรอก อายุขนาดนั้นยังไงเขาก็ต้องมาโรงบาลฯอยู่ดี ผมไม่ว่างลากตาเฒ่านั่นมาหาหมอหรอก”

    “เท่าที่ดูก็ไม่ได้ยุ่งเท่าไหร่นี้” คุณหมอที่รักษาทุกคนในตระกูลจ้าวมาตั้งแต่สมัยเรียนจบหมอใหม่ๆ จนอายุปูนนี้ ก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมจ้าวเวยหลง เขาหยุดพูดเพียงเพื่อมองหน้าเหมือนฝันเชิงจับผิด “ว่างขนาดพาเพื่อนมาหาหมอได้ ก็น่าจะพาพ่อมาได้นะ”

    มาถึงตรงนี้ ‘เพื่อน’ เฉพาะกิจอย่างเหมือนฝันทำได้แต่นั่งหลังตรงแหน็ว เม้มปากแน่นขณะก้มหน้ามองเท้าตัวเองเพื่อเลี่ยงสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ มันกระอักกระอ่วนจนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี จะพูดแทรกก็ดูจะผิดกาลเทศะไปสักหน่อย กลัวว่ายิ่งพูดไปก็จะยิ่งทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากโดยไม่รู้ตัว หากพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไปเธอก็จะพลอยถูกเกลียดยิ่งกว่าเดิมเหมือนฝันจึงตัดสินใจที่จะเงียบแล้วฟังอย่างเดียว

    “ไม่ใช่เพื่อนหรอกครับ นี่แขกของคุณปู่” จ้าวเวยหลงแก้ความเข้าใจผิดของคุณหมอที่ดูแลเขามาตั้งแต่จำความได้ ความสามารถในการโกหกหน้าตายของชายหนุ่มนั้นเหมือนฝันยังนึกชื่นชมอยู่ในใจ “แขกคนสำคัญเสียด้วย ต่อให้ผมไม่อยากสนใจใยดีก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไปคนที่ซวยก็ไม่พ้นเป็นผมเอง”

    “แขกของคุณลี่หยางหรือ?” คราวนี้สายตาของหมอที่ใช้มองเหมือนฝันเปลี่ยนไปชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลังมือ จากสายตาดูแคลนและประเมินก่อนหน้านี้ กลายเป็นจับผิดและอยากรู้อยากเห็น ทำให้เหมือนฝันรู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ ในช่องท้อง ไม่ชอบที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนี้เลยสักนิด

    มันเป็นสายตาแบบเดียวกับที่เธอได้รับมาตลอดชีวิต เวลาที่คนแปลกหน้ารู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของมาสฟ้า...หญิงสาวที่เห็นอนาคต สายตาสำรวจเหมือนตั้งใจจะมองทะลุตัวของเธอเข้าไป เพื่อหาว่าเธอซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง มันเป็นสายตาที่เหมือนฝันเกลียดที่สุด

    “ใบสั่งยาเสร็จแล้วใช่ไหมครับ อย่างนั้นผมขอตัวนะ” จ้าวเวยหลงไม่รอคำตอบ ร่างสูงก้าวเข้ามาประชิดตัวของเหมือนฝันดังหญิงสาวใหลุกขึ้นส่วนอีกมือนั้นเอื้อมมาดังใบสั่งยาในมือของหมอไปหน้าตาเฉย ไม่รอให้คนตัวเล็กได้เอ่ยขอบคุณ จ้าวเวยหลงก็ดันเธอออกมาจากห้องตรวจ

    ทันทีที่ทั้งคู่เดินออกมาพวกเขาก็ถูกห้อมล้อมโดยทีมบอดี้การ์ดของจ้าวเวยหลง ซึ่งนำทีมโดยหวางเย่ หัวหน้าทีมหน้าตายที่เหมือนฝันเคยปะทะฝีปากด้วยครั้งหนึ่ง

    “คุณซ่งเหยี่ยนกำลังตรงมาที่นี่ครับ เขาให้คนเฝ้าเซฟเฮ้าส์ไว้คิดว่าคงรู้ตั้งแต่เราออกมา” หวางเย่เอ่ยรายงานเจ้านายของเขาทันที ที่จ้าวเวยหลงจูงหมือนฝันออกมาจากห้องตรวจ “ผมสั่งให้คนเก็บของของคุณฝันแล้ว ตอนนี้พวกเขาคงจัดเตรียมทุกอย่างไปบ้านริมน้ำแล้วครับ”

    “อย่าให้โดนตามได้อีกล่ะ” จ้าวเวยหลงไม่ได้แปลกใจอะไรกับข้อมูลที่หวางเย่รายงาน อันที่จริงเขาเดาไว้แล้วว่าพ่อของเขาคงไม่ยอมรามือจากเหมือนฝันง่ายๆ ชายหนุ่มถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิดก่อนหันมามองเหมือนฝัน หญิงสาวคนเดียวที่ถูกห้องล้อมโดยชายฉกรรจ์ “ไปรับยาของคุณแล้วรีบออกจากที่นี่กันเถอะ”

    “ค่ะ” เหมือนฝันพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายให้กับจ้าวเวยหลงเป็นครั้งแรก ทำให้เขาแปลกใจกระทั่งเลิกคิ้วสูงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะให้เขาเอ่ยอะไรออกมา ชายหนุ่มเพียงปล่อยมือที่จับท่อนแขนของเหมือนฝัน เปลี่ยนมาเป็นประคองหลังของหญิงสาว นำเธอไปยังห้องจ่ายยา

    เหมือนฝันยอมเดินตามจ้าวเวยหลงราวกับว่าเธอเป็นเด็กห้าขวบ ตาก็สอดสายสายตามองโน้นมองนี่รอบตัวไปพร้อมกัน ในใจก็นึกกลัวว่าเธอกับจ้าวเวยหลงจะออกจากที่นี่ได้เร็วพอหรือว่าจะต้องเจอกับจ้าวซ่งเหยี่ยนก่อนกัน ซึ่งหากอ้างอิงจากประสบการณ์การเจอกันของเธอและจ้าวซ่งเหยี่ยนครั้งก่อน เหมือนฝันไม่คิดว่าเธออยากจะเจอเขาอีกเร็วๆ นี้

    หากต้องเจอกับจ้าวซ่งเหยี่ยนแล้วถูกลักพาตัวไปอีก เหมือนฝันขอเลือกที่จะอยู่กับจ้าวเวยหลงต่อไปจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจ้าวเวยหลงจะปากร้ายและชอบจับตามองเธอทุกฝีก้าวไม่ให้คลาดสายตา แต่เขาก็ยังพอมีน้ำใจพาเธอมาหาหมอรักษาตัวแถมยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เธอด้วย ถึงเขาจะบอกว่าทำไปเพราะไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อนก็เถอะ...แต่มันก็ยังนับว่านั้นเป็นน้ำใจของจ้าวเวยหลงอยู่ดี เพราะเขาไม่จำเป็นต้องทำก็ได้แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะช่วยเหลือเธอ ผู้ซึ่งตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขานิดๆ ตั้งแต่เจอหน้ากัน พอคิดถึงตรงนี้แล้วเหมือนฝันก็อดที่จะรู้สึกละอายใจขึ้นมานิดๆ ไม่ได้

    แต่สำหรับจ้าวซ่งเหยียนจะมีน้ำใจเหมือนจ้าวเวยหลงไหมนั้นเหมือนฝันไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะถ้าให้เธอคาดเดานิสัยของเขา โดยอ้างอิงจากคำพูดที่ฟังคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที จ้าวซ่งเหยียนไม่น่าจะเป็นคนดีสักเท่าไหร่ รวมทั้งจากที่สังเกตุอาการและสีหน้าของจ้าวเวยหลงยามที่เขาพูดถึงพ่อของตัวเอง หรือเวลาที่มีชื่อของจ้าวซ่งเหยียนในบทสนทนา ตัวของจ้าวเวยหลงเองก็แสดงออกชัดเจน จนเหมือนฝันแอบสรุปความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไปแล้วว่า พ่อลูกคู่นี้ต้องไม่น่าจะลงรอยกันสักเท่าไหร่

    ถ้าเวลานี้เหมือนฝันมีมาสฟ้าคอยคุ้มกะลาหัวเธอ หญิงสาวคงยังสามารถปากดีและพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นจ้าวเวยหลงหรือจ้าวซ่งเหยี่ยน แต่เวลานี้เธอหัวเดียวกระเทียมลีบ แถมอยู่ท่ามกลางดงของศัตรูที่จ้องจะฉกตัวเธอ ใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรองกับมาสฟ้า (อย่างที่จ้าวเวยหลงบอก) เหมือนฝันก็ต้องขอเลือกที่จะเกาะติดกับจ้าวเวยหลงอย่างนี้ต่อไป เพราะนี่ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอ ณ ตอนนี้ อย่างน้อยก็กว่ามาสฟ้าจะมาพาเธอกลับบ้าน จ้าวเวยหลงนอกจากปากเก่งแล้วชอบวางอำนาจกับเธอแล้ว เขาก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินจะรับไหว

    อย่างน้อยๆ เหมือนฝันก็มั่นใจเขาก็คงไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปจนกว่าที่มาสฟ้าจะมาที่นี่

    ฝันจ๋าาาา ลูกแม่คนดีของมัมหมี หนูก็มัวแต่รักษาตัวอยู่ถึงไม่รู้ว่าตอนนี้น่ะมีแมวขโมยตัวเขืองจ้องจะง้าบคุณมาสคนงามของพวกเราไปแทะ ตั้งแต่หัวจรดหางไม่ให้เหลือซาก คนดีของแม่หนูต้องรู้ได้แล้วนะจ้ะคนดี หนูต้องหยุดยั้งอ้ายคนชั่วคนนั้นนนนน // กำหมัด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×