ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #23 : เกื้อกูล

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 65


    อู๋อี้เทียนเพิ่งเคยรู้สึกเหมือนคำว่าอากาศกำลังจะหมดปอดจริงๆ ก็คราวนี้ เขากระทั่งลืมวิธีการหายใจไปครู่หนึ่งเมื่อมาสฟ้าเอ่ยว่าแท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์ที่เขาเห็นว่าเป็นตัวอันตรายนั้น แท้จริงแล้วคือบิดาบังเกิดเกล้าของผู้หญิงที่เขาคิดว่าเธอสวย และวางแผนในใจเงียบๆ คนเดียวว่าถ้าหากหลังจบมื้ออาหารลงแล้วเขายังสนใจเธออยู่เขาก็จะเดินหน้าจีบมาสฟ้าเต็มที่...แต่มาถึงตอนนี้อย่ารีบไปคิดไกลถึงเรื่องจีบเลย ขอแค่ให้เธอไม่เกลียดเขาอู๋อี้เทียนก็ดีใจมากแล้ว

    เขาช็อคขนาดที่ว่ารถของพวกเขาทั้งคู่มาถึงจุดหมาย และก้าวลงจากรถเรียบร้อยแล้ว แต่อู้อี้เทียนก็ยังไม่รู้จะพูดคำไหนหรือต้องทำอะไรเพื่อบรรเทาบรรยากาศแสนกระอักกระอ่วนนี้ให้ดีขึ้น ชายหนุ่มที่เชื่อมาตลอดว่าตนก็ไม่เป็นสองรองใคร แถมสามารถสยบสิงห์เฒ่าบนเกาะแห่งนี้มานักต่อนักก็ยังไม่คะนามือเขา แต่กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ข้างตัวเขาตอนนี้ มาสฟ้ากลับทำให้อู่อี้เทียนรู้สึกพ่ายแพ้หมดรูป เขาจนคำพูดขนาดที่ว่าทำได้แต่เบิกตาโพล่งมองหน้างามหมดจดของมาสฟ้าแล้วอ้าปากงับอากาศเหมือนไอ้เบื้อไร้สมองคนหนึ่ง

    “เอ่อ...ผมไม่...”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องบนโลกนี้สักหน่อย” มาสฟ้าตัดบทด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน คล้ายขี้เกียจจะมาใส่ใจเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ อีกอย่างเธอก็ไม่เห็นประโยชน์ที่จะถือโทษโกรธชายหนุ่ม อย่างไรเสียอีกไม่นานเขาก็จะตายอยู่แล้ว โกรธเขาไปก็เท่านั้น...

    “ผมขอโทษครับ” อู่อี้เทียนเอ่ยด้วยใบหน้ายุ่งยากใจ สำหรับเขาแล้วการเจอกับมาสฟ้าแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่หญิงสาวกลับทำให้เขารู้สึกทั้งอับจนและหมดหนทางแบบที่ใครก็ทำไม่ได้มาก่อน “ผมไม่ควรพูดแบบนั้นเลย ต่อให้ท่านจะไม่ใช่พ่อของคุณ คำพูดของผมก็ยังแย่มากอยู่ดี”

    “ฉันรับคำขอโทษค่ะ” มาสฟ้ายิ้มพราย รอยยิ้มนั้นทำให้อู่อี้เทียนตาพร่าไปอีกรอบ และจนตรอกยิ่งกว่าเดิมเมื่อโดนยิ้มพิฆาตของมาสฟ้าเล่นงานเข้า “เลิกรู้สึกผิดสักทีเถอะค่ะ ตั้งแต่เราเจอกันคุณขอโทษฉันไปตั้งกี่ครั้งแล้วค่ะ”

    “หลายครั้งครับ” อู่อี้เทียนตอบด้วยความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังอย่างแท้จริง เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองสิ้นไร้ไม้ตอกและทำผิดพลาดได้มากขนาดนี้ หากเขาไม่ได้พบกับมาสฟ้า ผู้หญิงคนนี้สวยหมดจดและเร้าใจสุดๆ ก็จริงอยู่หรอก แต่เธอก็เป็นเหมือนดาวพิฆาตของเขาพอๆ กับความสวยของเธอที่เขานึกชื่นชมนั่นแหละ ทั้งสวยและอันตราย ล่อหลวงให้ตกหลุมพรางได้ง่ายๆ แค่เพราะสบเข้ากับสายตาคมซึ้งคู่นั้นเข้า “ขอโทษที ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย จริงๆ นะ สาบานให้ตายเลย”

    “เรื่องนั่นมันของแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ?” มาสฟ้าคลี่ยิ้มพราย เงยหน้าขึ้นมองอู๋อี้เทียนด้วยสายตาเป็นประกายที่แฝงแววเจ้าเล่ห์ คล้ายว่าเธอนั้นรู้ความลับที่เขาไม่มีสิทธิ์ได้รู้

    “ครับ?”

    “หมายถึงเรื่องตายน่ะค่ะ” มาสฟ้ากระซิบเสียงเบาด้วยท่าทางทะเล้น เมื่อเห็นสีหน้าของอู่อี้เทียนสลดวูบพร้อมกับสายตาของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นครุ่นคิดอย่างหนัก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หญิงสาวนั้นถือวิสาสะ สอดท่อนแขนเสลาของตัวเข้าไปคล้องกับท่อนแขนแกร็งของอู๋อี้เทียน สัมผัสอบอุ่นที่เกิดขึ้นกระทันหันนั้นทำให้หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นของชายหนุ่มคลายลงในบัดดล พร้อมกับที่เขาชักนำสายตาเหมือนจะไถ่ถามขึ้นมองมาสฟ้า ผู้หญิงที่เป็นปริศนาอันชวนให้ปวดหัวแต่ก็ดึงดูดเขาเข้าหาเธอ ด้วยแรงดึงดูดที่หากไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง อู๋อี้เทียนไม่มีทางเชื่อเลยว่าแรงดึงดูดประเภทนี้จะมีอยู่จริง “ยังไงคนเราทุกคนก็ต้องตายกันหมดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ? หรือว่าคุณเป็นแมงกระพรุน?”

    “ผมว่าผมหล่อกว่าแมงกะพรุนเยอะนะครับ” อู่อี้เทียนหลุดขำ ไม่ทันตั้งตัวกับคำถามทีเล่นที่จริงของคนที่คล้องแขนกับเขาอยู่เท่าไหร่ แต่เมื่อคิดถึงเจ้าสิ่งมีชีวิตโปร่งใสที่ลอยไปลอยมาอยู่ในมหาสมุทร อู่อี้เทียนก็ได้แต่นิ่วหน้า “อาจจะเหมือนกันแค่ตรงที่มีพิษสงนิดหน่อย แต่นอกเหนือจากเรื่องนั้นแล้วผมว่าผมไม่มีอะไรเหมือนแมงกะพรุนเลย”

    “มันเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในโลกที่ใกล้เคียงกับคำว่าเป็นอำมตะที่สุดเลยนะคะ” มาสฟ้าเอียงคอ คิดถึงเรื่องของแมงกะพรุนในความทรงจำที่เคยอ่านมา ไม่รู้เลยว่าสีหน้าของเธอกำลังหมกมุ่นเรื่องเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์นั่น จะทำให้หัวใจของผู้ชมอย่างอู๋อี้เทียนเต้นผิดจังหวะไปแค่ไหน “เว้นแต่มันจะถูกเต่าทะเลกิน หรือถูกจับไปยำ...เอาเข้าจริงมันอร่อยมากนะคะแมงกะพรุนน่ะ”

    “ชักจะอยากเป็นแมงกะพรุนขึ้นมานิดๆ แล้วสิ” อู๋อี้เทียนบ่นงึมงำ ไม่รู้หรอกว่าอาหารที่มีแมงกระพรุนที่มาสฟ้าพูดถึงนั้นคืออะไร แต่พอรู้ว่าเธอชอบกินมันหัวใจของอู๋อี้เทียนก็คันยุบยิบเหมือนมีอะไรตะกุยจากด้านใน

    “ไหนเมื่อกี้บอกว่าคุณหล่อกว่าแมงกะพรุน ไหงอยากเป็นแมงกระพรุนขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างนั้นล่ะคะ”

    พอคุยกันถึงตรงนี้ก็พอดีกับพวกเดินมาประตูทางเข้าของโรงแรมพอดี บทสนทนาเลยต้องยุติลงไปทั้งอย่างนั้น ด้วยเชือกผูกรองเท้าเจ้าปัญหาของมาสฟ้าดันหลุดอีกแล้ว อู๋อี้เทียนจึงคุกเข่าลงไปผูกเชือกรองเท้าให้มาสฟ้าก่อนที่เธอจะทันได้ขยับตัวเหตุการณ์ตรงหน้านั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนมาสฟ้าไม่ทันตั้งตัว และเป็นสิ่งที่มาสฟ้าคิดว่าเธอจะได้เห็นแค่ไหนละครเท่านั้นแต่พอมันเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ หญิงสาวก็ถึงกับหน้าเหลอโชคดีที่อี้เทียนผูกเชือกรองเท้าให้เธอเสร็จด้วยความเร็วเร็วไม่ได้อ้อยอิ่งเหมือนอย่างที่เคยดูในละคร อีกทั้งเขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอเหมือนอย่างที่บรรดาเหล่าพระเอกทำ เขาวางเฉยเหมือนกับว่าเขาไม่ได้เพิ่งคุกเข่าเพื่อผูกเชือกรองเท้าให้เธอ เหมือนที่เขาช่วยเหลือเธอเมื่อกี้นั้นทำไปเพราะจิตใต้สำนึกหรือสันชาตญาณ มากกว่าที่จะคิดเรื่องโรแมนติกไม่เข้าท่าอย่างที่มาสฟ้านึกกลัว

    มันตั้งแต่เปิดประตูรถและยื่นมือมาช่วยเธอลงจากรถแล้ว อู๋อี้เทียนทำทุกอย่างด้วยกริยาของสุภาพบุรุษที่หลุดออกมาจากนิยายย้อนยุค มันชวนให้มาสฟ้าอดที่จะหาข้อสรุปกับตัวเองไม่ได้ว่า ท่าทางเป็นธรรมชาติเมื่อครู่นี้ก็เพราะว่าเขาทำเช่นนี้บ่อยจนมันกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว ทั้งที่ความจริงนั้นตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง...

    โชคดีที่อี้เทียนไม่รู้ว่ามาสฟ้าคิดอะไรอยู่ เพราะถ้าเขารู้ชายหนุ่มคงหลุดหัวเราะออกมาเพราะความคิดของมาสฟ้านั้นขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างชนิดที่เรียกว่าไกลกันคนละโยชน์ก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก ไม่ต้องไปถามใครให้ยากเลยอี้เทียนเองก็รู้ตัวดีว่าเขานั้นไม่ใช่คนอ่อนโยนอะไรมากมาย ไม่ต้องพูดถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่อยู่ไกลตัวจนเขาเกือบลืมไปแล้วว่ามีคำนี้บัญญัติไว้บนโลกใบนี้ด้วย

    เมื่ออู่อี้เทียนเหยียดตัวยืนเต็มความสูง เขายื่นท่อนแขนให้มาสฟ้าเกาะตามเดิม ซึ่งที่เขาทำเช่นนั้นเพราะอยากให้เธอแตะต้องตัวเขาเทานั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ด้วยการถูกเธอเกาะแขนตอนที่เดินมาจากรถด้วยกันนั้นมันรู้สึกดีเป็นบ้า ดีมาสฟ้าเองก็บ้าจี้ยอมทำตามโดยไม่ตั้งคำถามอะไร แม้ว่าหญิงสาวจะไม่เห็นความจำเป็นที่จะทำเช่นนั้นเลยสักนิด อีกทั้งบทสนทนาที่เธอคิดว่าจบไปแล้วก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งอย่างเหนือความคาดหมาย

    “ก็คุณชอบมันนี่นา แมงกะพรุนน่ะ” อู่อี้เทียนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบมั่นคงแบบเดียวกับสีหน้า แต่สายตาที่เขามองมาสฟ้ากลับฉายแววพราวระยับแต่มุ่งมั่นอย่างคนเจ้าเล่ห์ ทำให้คนฟังที่ชะงักไปเสี้ยววินาทีด้วยเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเกี้ยวอย่างไม่ทันตั้งตัวได้แต่หรี่ตา มาสฟ้ามองตอบสายตาเจ้าชู้นั้นอย่างรู้เท่าทันและจับผิด

    แต่มาสฟ้าก็ใช้เวลาเพียงเสี้ยวอึดใจเพื่อตั้งสติ กระพริบตาไม่กี่ครั้ง สายตางงงวยก่อนหน้านี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและดุดัน แบบที่ทำให้ขนด้านหลังต้นคอของอู๋อี้เทียนงลุกชัน พร้อมกับความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขาอย่างกะทันหัน

    นั่นก็คือความคิดที่ว่า...คืนนี้เขาจะอยากนอนกับเธอ

    “ฉันก็ถูกจีบมาเยอะนะคะ แต่เคยมีใครเสนอตัวเป็นแมงกะพรุนมาก่อนเลย” มาสฟ้าดักคอ ท่าทางใจดีของเธอค่อยเปลี่ยนเป็นปฏิปักษ์กับชายหนุ่มอย่างชัดเจนเมื่ออีกฝ่ายออกตัวว่าชัดว่ากำลังจะจีบเธอ

    “แล้วพวกนั้นจีบคุณติดไหมล่ะครับ” อู่อี้เทียนเลิกคิ้ว เหล่มองมาสฟ้าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ท้าทายเธอด้วยแววตาที่มาสฟ้ารู้สึกไม่ปลอดภัยชอบกล แต่กระนั้นหญิงสาวก็ยังตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา ด้วยรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหกคนตาพราวระยับตรงหน้า

    “ไม่ค่ะ”

    “ดีครับ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มพรายอย่างพอใจกับคำตอบนั้น เขาถึงกับพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ เลยด้วยซ้ำ “คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าแมงกะพรุนของผมจะได้ผลไหม”

     

     กรี๊ดดดดดดดดด ผู้ชายตระกูลนี้มันทำไมมันเป็นแบบนี้กันหมดดดดดดด ทำไมต้องทำให้หัวใจเมียบ่าวอย่างศรีเต้นตึกตักผิดจังหวะกันจังคะ /// หมอนอุดหน้ากรี๊ดอย่างต่อเนื่องข่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×