ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #21 : รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 65


    จ้าวเวยหลงสังเกตสีหน้าของหญิงสาวที่เปลี่ยนเป็นเดี๋ยวดีเเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เดี๋ยวแง่งอนก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นออดอ้อน ก่อนจะเป็นสีหน้าแสดงความโล่งใจและยินดีในตอนท้ายด้วยความรู้สึกสับสน เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนคนหนึ่งจะสามารถรู้สึกหลายแบบในช่วงเวลาสั้นๆ ได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร แต่เหมือนฝันก็ทำให้เขาเห็นแล้วโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าทุกการแสงดออกทางสีหน้าของเจ้าหล่อนนั้นถูกเขาจับตามองตลอดเวลา

    ตั้งแต่เหมือนฝันเผลอหลุดชื่อของอู่อี้เทียนออกมา จ้าวเวยหลงก็รู้ว่าเรื่องนี้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ร่างทรงเจ้าปัญหาคนนั้นคงอยู่กับอู่อี้เทียนเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดไม่น้อยสำหรับจ้าวเวยหลง เมื่อรู้ว่าตัวเองขยับช้าไปกว่าอู่อี้เทียนก้าวหนึ่งจนได้ แต่เมื่อตระหนักได้ว่าเขาเองก็มีไพ่ใบตายอยู่ในมือ ไม่ใช่ว่าเขาตกเป็นรองอู่อี้เทียนเสียทีเดียว จ้าวเวยหลงจึงเกลี้ยกล่อมให้ตัวเองใจเย็นลงได้ไม่ยาก

    เป็นจังหวะเดียวกับหวางเย่ส่งสัญญาณให้เขาแยกตัวออกมาจากเหมือนฝัน แค่ผละออกมาให้ไกล พอที่จะฟังคนแปลกคำพูดของหญิงสาวโดยที่ตัวคนพูดไม่ได้ยิน ผ่านล่ามเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมรักษาความปลอดภัยชาวไทย ที่มาทำงานกับตระกูลจ้าวได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น อีกทั้งอายุเขาก็ยังน้อยดังนั้นเมื่อถูกเรียกตัวมา เด็กหนุ่มจึงวางตัวไม่ถูก กลัวว่าตนจะทำงานผิดพลาดเลยถูกเรียกมาลงโทษ

    “แปล” หวางเย่ ผู้ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวหน้าโดยตรงของเด็กหนุ่มออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ทำให้เด็กหนุ่มใช้เวลาอยู่เกือบนาทีกว่าจะจับต้นชนปลายได้ว่าเขาถูกเรียกตัวขึ้นมาเพื่อทำอะไร และเมื่อเข้าใจ ท่าทางกังวลก่อนหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลงพร้อมกับที่เขาเริ่มแปลถ้อยคำที่ได้ยินจากอีกห้องให้ผู้เป็นเจ้านายฟังอย่างละเอียดทุกคำ ไม่ขาดตกพกพร่องไปแม้แต่คำเดียว

    คำที่เด็กหนุ่มแปลน้ันทำให้หัวคิ้วของจ้าวเวยหลงนั้นขมวดเข้าหากันมุ่นด้วยความไม่สบายใจ เมื่อผสมกับการคาดเดาถึงคำพูดของคนที่อยู่อีกฟากของปลายสาย แล้วเดาได้เลาๆ ว่าอีกฝ่ายนั้น ไม่ได้ทุกข์ร้อนเลยแม้จะรู้ว่าน้องสาวของเธออยู่ในอันตราย เหมือนกับว่าเธอคาดเดาว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว

    และมันทำให้จ้าวเวยหลงอดคิดไม่ได้ว่าหล่อนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ เรื่องที่เกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้จากอู่อี้เทียนอีกต่อหนึ่ง และนั่นยิ่งทำให้จ้าวเวยหลงนึกสงสัยขึ้นมาว่าอู่อี้เทียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่มากน้อยแค่ไหน และรู้อะไรบ้าง...รู้จากใคร มันจะรู้ตัวหรือยังว่าตอนนี้เขาเองก็ได้ส่งคนของตระกูลจ้าวคอยจับตามองดูพวกเขาอยู่ไม่ห่าง แบบเดียวกับที่เขาได้ส่งคนมาสอดแนมตระกูลจ้าวเช่นเดียวกัน

    “สั่งคนของเรา...” จ้าวเวยหลงหันไปออกคำสั่งกับหวางเย่ก่อนจะชะงักไปกลางอากาศ ระหว่างที่ไตร่ตรองคำสั่งของตนเองให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจเอ่ยมันออกมา “อี้เทียนคงรู้แล้วว่าถูกเราสะกดรอยตาม เขาคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่”

    “ผมจะสั่งลงไปครับ” หวางเย่เข้าในสิ่งที่จ้าวเวยหลงต้องการจะสื่อได้ไม่ยาก “แล้วเรื่องพี่สาวของเอ่อ...”

    “ฝัน” เสียงของลาภเฉพาะกิจกระซิบบอก ถึงสายตาคมกริบสองคู่ไปที่เขาก่อนชายหนุ่มจะอ้อมแอ้มอธิบาย “ชื่อของคุณผู้หญิงคนนี้ เธอแทนตัวเองว่าฝันครับ ชื่อของเธอ”

    “ฟ่าน?” จ้าวเวยหลงเลิกคิ้ว พยายามออกเสียงเลียนแบบชื่อของหญิงสาวที่เขาเพิ่งได้ยินสุดความสามารถ ฟ่านที่หมายถึงท้องฟ้านั้นเหมาะกับความสดใส ในใจลึกๆ ของจ้าวเวยหลงก็คิดว่าชื่อของหญิงสาวก็เหมาะกับเจ้าตัวดี แล้วจ้าวเวยหลงจะต้องเลิกคิ้วอีกครั้งเมื่อหนุ่มน้อยทีมรักษาความปลอดภัย อธิบายถึงความหมายที่แท้จริงของชื่อนั้น อธิบายฝห้เขาเข้าใจว่าแม้ชื่อของเธอจะจะออกเสียงคล้ายคำว่าฟ่าน แต่ความหมายของมันกลับต่างกันลิบลับ

    ถึงรู้อย่างนั้นแล้วจ้าวเวยหลงก็ยังมีความคิดว่าชื่อหญิงสาวนั้นสมตัวเจ้าหล่อนอย่างประหลาดอยู่ดี เพียงแต่ความฝันที่เหมาะกับเจ้าหล่อนน่ะคือฝันร้ายนะ

     

    “ส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่าเราจะต้องมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้” อู่อี้เทียนเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขณะเอ่ยเสียงค่อย คิดหาเรื่องคุยกับเธอหวังทำลายความอึดอัดในการพบหน้ากับครั้งแรก “อาจจะช้าไปหน่อยแต่ผม...อี้เทียนครับ”

    “มาสฟ้าค่ะ” มาสฟ้าเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเป็นภาษาจีน ที่ทำให้คนฟังทั้งสองถึงกับหน้าเหวอ ก่อนชายหนุ่มจะรีบปรับสีหน้ากลับมาเป็นนิ่งเฉยให้ได้มากที่สุด แต่กระนั้นคิ้วเข้มของเขาก็ยังขมวดมุ่นเข้าหากันนิดๆ ด้วยความรู้สึกซับซ้อน“ขอโทษด้วยที่นะคะที่ทำให้คุณวุ่นวาย”

    “โอ้ ไม่เลยครับ” แม้ว่าอู่อี้เทียนจจะยังไม่แน่ใจว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่สำหรับความสับสนที่รวมตัวกันอยู่ในสมองของเขาในตอนนี้ คำตอบนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่สมองของเขาจะกลั่นกรองออกมาได้แล้ว “ภาษาจีนของคุณดีมากเลยนะครับพูดชัดแจ๋วเลย”

    “เรียนมาหลายปีน่ะค่ะ ใช้ไม่กี่ครั้งเอง” เรื่องนี้มาสฟ้าไม่ได้โกหก ตั้งแต่ที่เธอเห็นนิมิตอนาคตของเหมือนฝัน เธอกับน้องก็เริ่มเรียนภาษาจีนโดยเธอไม่ได้บอกกับเหมือนฝันว่าทำไมเธอถึงอยากเรียนภาษาจีนขึ้นมา

    โชคดีที่น้องสาวเธอเป็นพวกที่เชื่อพี่สาวหัวปักหัวปำ ไม่ว่าเธอจะพูดจะบอกอะไรเหมือนฝันก็พร้อมจะเชื่อดดยไม่ฉุกใจนึกสงสัย

    “ได้รับคำชมแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยๆ ฉันก็ยังไม่ได้คืนครูไปจนหมด ขอบคุณนะคะ”

    “ภาษาจีนคุณดีมากครับ” อู่อี้เทียนเอ่ยสำทับเสียงหนัก บวกกับสีหน้าของเขาเวลาพูดนั้นจริงจัง จนคนฟังถึงกับเผยอยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่อาจควมคุมตัวเอง

    มาสฟ้าไม่ค่อยได้รับคำชมบ่อยนัก...อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องทักษะภาษาที่เธอทุ่มเทเวลาหลายปีในการเรียน ดังนั้นพอมีคนเอ่ยชมเธออย่างจริงใจแบบนี้จึงอดรู้สึกดีใจไม่ได้

    “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพึมพำแก้เก้อเพราะไม่รู้จะพูดอะไรอย่างอื่น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเองก็เก้อเขินไม่แพ้เธอ ก็นะ...ชมกันขอโทษกัน วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ก็อดกระอักกระอ่วนนิดๆ ไม่ได้อยู่ดี ยิ่งคนที่เพิ่งเคนเจอหน้ากันด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ “นี่เรากำลังจะไปที่ไหนกันคะ”

    “อ้อ ผมจะพาคุณไปที่เดอะ ริซ น่ะครับ ผมรู้จักร้านอาหารที่นั่นหรือว่าคุณอยากไปที่อื่นมากกว่าครับ” เสียงห้าวตอบมาด้วยความลังเล เขาแน่ใจว่าหญิงสาวนั้นต้องเป็นคนสำคัญอย่างมาก จึงเลือกที่จะพาเธอไปทานอาหารร้านดีๆ ที่โรงแรม ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในความรู้สึกของเขาเอง แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาลืมถามความเห็นของอีกฝ่ายก่อนจึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กลัวว่าการที่ตัวเองถือวิสาสะตัดสินใจเลือกร้านอาหารนั้นจะทำให้มาสฟ้าอึดอัด

    “ที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่คนไม่เยอะก็พอ” มาสฟ้าตอบเสียงเบา ก่อนจะหลับตาพร้อมถอนหายใจออกมายาวเหยียด เมื่อนึกว่าเธอต้องเผชิญอะไรบ้างเมื่ออยู่ในที่ที่คนพลุกพล่าน

    “แล้วนี่คุณพักที่ไหนครับ?” แม้จะโล่งใจที่มาสฟ้าจะไม่โกรธเรื่องที่เขาเลือกสถานที่ แต่ว่าก็ยังมีเรื่องสำคัญที่อู่อี้เทียนยังต้องถามเธอ เรื่องนี้เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยล้วนๆ ในความรู้สึกของเขา ชายหนุ่มจึงไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังละลาบละล้วงหรืออยากรู้อยากเห็นจนเกินเหตุ เพราะหากว่าเขาคลาดสายตาจากมาสฟ้าแม้เสี้ยววินาที ก็ไม่แน่ว่าเธอจะโดนคนของจ้าวเวยหลงชิงตัวไปที่เซี่ยงไฮ้ “ผมย้ายโรงแรมให้คุณได้นะครับ ที่นี่อาจจะดูเหมือนปลอดภัยไม่มีอะไรให้กลัว แต่ความจริงแล้วอันตรายมากนะครับ”

    โดยเฉพาะกับคนที่มาเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้อู๋อี้เทียนไม่ได้บอกแก่หญิงสาว หรือต่อให้เขาอยากจะบอกเธอว่าตอนนี้อันตรายกำลังไล่ตามเธอและพุ่งเป้ามาที่เธอแค่เพราะเธอมาเจอกับเขา เขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี คงเป็นเรื่องประหลาดและดูปัญญาอ่อนพิลึกที่จะบอกใครสักคนว่า ‘คุณตกอยู่ในอันตรายแค่เพราะมาเกี่ยวข้องกับผม’ และที่สำคัญ เขาไม่ได้อยากถูกเธอมองว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อนด้วย

    “ฉันอยู่ที่โฟร์ซี่ซั่นค่ะ พักแค่ไม่กี่คืนไม่ต้องย้ายโรงแรมหรอกค่ะ”

    “ดีเลยครับ” ถึงอู๋อี้เทียนจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดเมื่อครู่ของมาสฟ้า แต่เขาก็ยังไม่อยากเอ่ยขัดเธอ เขาและเธอเพิ่งเจอหน้ากัน รักษาการให้เกียรติกันและกันอย่างผิวเผินนี้ไว้ก่อนจะดีกว่า อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าเธอเป็นใครและมีควาามสำคัญอย่างไร ทำไมจ้าวเวยหลงต้องส่งคนของเขามาสะกดรอยตามเธอเป็นพรวนอย่างนี้ “ผมอาจจะเสียมารยาทที่ถามคุณแบบนี้ แต่ผมมีเรื่องสงสัยนิดหน่อย...”

    “เรื่องด็อกเตอร์คมกฤษหรือคะ?”

    “ครับ” อู๋อี้เทียนนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะอึ้งที่หญิงสาวคาดเดาความคิดของเขาได้ถูกต้อง ถึงจะอยากรู้ว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าเขากำลังจะถามเธอเรื่องนี้ แต่อู๋อี้เทียนก็ไม่โง่ เขาไม่มีทางทิ้งโอกาสที่จะได้รู้เรื่องความสัมพันธ์ของหญิงสาว กับนักธุรกิจชาวไทยที่เขาจับตาดูมาตลอดหลายปีนี้คนนั้นหรอก “ผมพยายามติดต่อขอพบ...เอ่อ...ผมไม่คิดว่ามันเป็นคำเรียกที่เหมาะสมเท่าไหร่ แต่ใครๆ ก็เรียก เอ่อ มือขวาของเขาว่าแม่มด”

    “ฉันไม่ใช่มือขวาของเขาหรอกค่ะ” มาสฟ้าหลุดหัวเราะ พอจะได้ยินผ่านหูมาบ้างจึงรู้ว่าตนนั้นถูกเรียกสมญานามนี้จากใครหลายคนแต่คิดไม่ถึงจริงว่าอู่อี้เทียนเองก็จะเป็นหนึ่งในนั้น แต่นี่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ถูกเรียกขานว่าเธอเป็นแม่มดซึ่งหน้า พอมาได้ยินกับหูตัวเองมาสฟ้าก็ต้องยอมรับว่ามันรู้สึกจักจี้แปลกๆ หญิงสาวโคลงหัวไปมาอย่างไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกอย่างไรกับคำเรียกขานนั้นดี “ฉันว่าคำเรียกนั้นมันเวอร์เกินไปหน่อย แม่มดมีจริงที่ไหน ถูกไหมคะ?”

    “ผมคิดอยู่แล้ว” อู่อี้เทียนโคลงศีรษะตามหญิงสาวโดยสัญชาตญาน มากกว่าจะเป็นการตั้งใจเลียนแบบ พร้อมพยายามซ่อนความผิดหวังกึ่งโล่งใจของตนไว้ไม้ให้แสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถซ่อนมันจากสายตาคมกริบของมาสฟ้าอยู่ดี

    มาสฟ้ารู้สึกได้ว่าอู่อี้เทียนผิดหวังที่เธอไม่ใช่คนที่เขาคิด แต่ขณะเดียวกันก็โล่งใจ สำหรับเขาแล้ว มันคงน่าเสียดายที่ผู้หญิงสวยมากๆ คนหนึ่งในสายตาของเขานั้น แท้จริงแล้วเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนธุรกิจอันสมบูรณ์จนน่าสยดสยองตลอดหลายปีที่ผ่านมาของด็อกเตอร์คมกฤษ ทีแรกเขาก็นึกว่าเธอข้องเกี่ยวกับคมกฤษไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยิ่งบวกกับเค้าหน้าของเธอที่บังเอิญไปเหมือนผู้ชายคนนั้น เขาจึงพานเข้าใจไปว่าที่คมกฤษและภรรยาของเขาโกรธเป็นฝืนเป็นไฟวันนั้น เพราะว่าเขาไปยุ่งย่ามกับลูกสาวของพวกเขา...หากเรื่องมันเป็นแค่เขาที่เข้าใจผิด เอาเรื่องนั้นมาผูกกับเรื่องนี้เองอู่อี้เทียนก็เบาใจ

    เพราะหากมีมีผู้หญิงแบบนั้นอยู่จริงๆ อู๋อี้เทียนคงไปไหนไม่รอด ยิ่งหากสวยเหมือนร่วงหล่นลงมาจากฟ้าแบบเดียวกับผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาตอนนี้ เขาคงกลายเป็นไอ้โง่ไร้ประโยชน์ ยอมกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเธอเพียงแค่เธอปรายตามองเขา ที่ในอนาคตอาจจะมีญาติฝ่ายเมียหมายหัวเขาเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่ทันรับเข้าเป็นเขน ซึ่งหากมันเป็นอย่างนั้นชะตาชีวิตของเขาคงบัดซบหน้าดู

    “อันที่จริงผมก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว” อู่อี้เทียนถอนหายใจ พยายามยิ้มให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด แต่มาสฟ้าก็มิวายเห็นประกายความผิดหวังจากแววตาของเขา “คุณดูไม่เหมือนคนที่จะรู้จักกับผู้ชายแบบนั้นเท่าไหร่”

    “ผู้ชายแบบนั้น?” มาสฟ้าเลิกคิ้ว ฉับผลันสายตาของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นคมกริบขึ้นอย่างอันตราย พร้อมกับน้ำเสียงที่พูดก็กระด้างขึ้นด้วยความไม่พอใจ “คุณหมายความว่ายังไงคะ โทษที ฉันค่อนข้างหัวช้า ไม่เข้าใจที่หมายถึง”

    “ผมหมายความว่าเขาเป็นคนอันตรายแล้วก็เจ้าแผนการมากน่ะครับ คุณไม่รู้จักเขาก็ไม่แปลกหรอก ด็อกเตอร์คมกฤษน่ะ”

    “ฉันไม่เคยพูดว่าไม่รู้จักเขานะคะ” มาสฟ้าแก้ ทำให้อู่อี้เทียนหันขวับ เปลี่ยนมานั่งหลังตรงแหน่วโดยฉับผลันในเสี้ยววินาทีจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองเหยียบเข้ากับกับดักเต็มเท้าก่อนที่จะสังเกตุเห็นว่ามันเป็นหลุมพรางที่มาสฟ้าบรรจงขุดสำหรับดักเขาโดยเฉพา “ฉันเป็นลูกสาวของท่านค่ะ ไม่ใช่มือขวา...”

    “…”

    “ไอ้คนอันตรายแล้วก็เจ้าแผนการที่คุณพูดถึงน่ะ พ่อของฉันเองค่ะ”

     

     

    ความจริงเลยนะคะ คือศรีน่ะไม่ได้หัวเราะอี้เทียนคนดีเลยสักนิด ไม่ได้หัวเราะจริงๆค่ะ เพียงหลุดยิ้มขันนิดหน่อยประสาตัวแม่เท่านั้น ก็แหมมมม...ผู้ชายของเรามันน่าเอ็นดูทั้งนั้นนี่เนาะ คริๆๆๆ // กลั้น

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×