ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #14 : การพบกันของมาสฟ้าและจ้าวซ่งเหยี่ยน

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 65


     

    การเผชิญหน้าระหว่างแขกไม่ได้รับเชิญและกลุ่มที่ทำตัวประหนึ่งบอดี้การ์ดของเธอ (ที่คนอื่นส่งมา) นั้นเกิดขึ้นเร็วและประหลาดกว่าที่เหมือนฝันวาดภาพเอาไว้ในหัวจนไม่รู้จะใช้คำพูดไหนมาอธิบาย

    ร่างเล็กที่ถูกห้อมล้อมด้วยหว่างเย่และคนของเขานั้นถูกบังคับให้หยุดกลางทาง เพราะคนอีกกลุ่มที่นำด้วยชายหน้าดุที่มีอายุพอสมควร หากให้เหมือนฝันคาดเดาจากสายตาและประสบการณ์ของเธอ เธอก็ต้องบอกว่าผู้ชายที่น่าจะเป็นเจ้านายหรือไม่ก็หัวโจกนั้นรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอ หรือหากว่าจะเด็กกว่าพ่อก็คงเด็กกว่าพ่อของเธอไม่กี่ปี

    เหมือนฝันเอียงคอสำรวจเขาด้วยสายตาประเมินแบบเดียวที่เขาทำกับเธอ ไม่คิดเกรงใจเรื่องความอาวุโสของอีกฝ่าย ที่สามารถจะเป็นพ่อของเธอได้แต่อย่างใด พูดตามตรงเหมือนฝันไม่รู้สึกระย่อผู้ชายคนนี้สักเท่าไหร่...เขาให้ความรู้สึกเหมือนคนแก่ไร้บารมีที่ชอบวางอำนาจ ที่เหมือนฝันมักจะต้องพบเจออยู่บ่อยครั้ง ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ให้ต้องแปลกใจหรือหวาดกลัวเขา

    สายตาประเมินของเด็กสาวที่มองตอบเขาอย่างตรงไปตรงมาและเด็ดเดี่ยวนั้นทำให้จ้าวซ่งเหยี่ยนรู้สึกไม่พอใจเด็กสาวต่างชาติขึ้นมาทันที ยิ่งเธอจ้องมองเขาอย่างสำรวจคล้ายกำลังเก็บรายระเอียดด้วยสีหน้าเฉยเมย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาให้เขาจับทางได้ จ้าวซ่งเหยี่ยนก็ยิ่งทวีความหงุดหงิดไม่พอใจ

    มีความคิดแวบหนึ่งขึ้นมาในหัวว่าที่ว่าเด็กคนนี้กล้ามองเขาด้วยสายตาแบบนี้คงเพราะคิดว่าตัวเองมีจ้าวเวยหลงหนุนหลัง หรือไม่ก็ถูกจ้าวเวยหลงเสี้ยมสอนอะไรไม่เข้าท่าแน่ หล่อนจึงได้กล้าปฏิบัติต่อเขาอย่างไร้มารยาทและไร้กาลเทศะ ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่แบบนี้

    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับแขกคนสวยของเราเสียหน่อย แกคงไม่ว่าอะไรนะ?”

    นั่นไม่ใช่คำถามเพราะขณะเอ่ยนั้นจ้าวซ่งเหยี่ยนปรี่เข้าไปประชิดตัวเหมือนฝัน เอื้อมมือหวังดึงแขนหญิงสาวออกมาจากวงล้อมของหวางเย่และลูกน้อง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เกรงกลัว แถมยังขยับเข้ามายืนขวางระหว่างจ้าวซ่งเหยี่ยนและหญิงสาวอย่างท้าทายอีกด้วย ยิ่งทำให้จ้าวซ่งเหยี่ยนหนวดกระตุกยิ่งกว่าเดิม สีหน้าของเขาบูดบึ้งเมื่อตวัดสายตาจ้องหน้าคนสนิทของลูกชาย

    “เห็นทีคงจะไม่ได้ครับ” หวางเย่ยังคงพูดน้ำเสียงเย็นชาแต่สุภาพที่เหมือนฝันเคยนึกค่อนขอดอยู่ในใจ แต่คราวนี้เมื่อเขาพูดเธอลับแอบพยักหน้าแล้วชื่นชมเขาอยู่ในใจ อย่างน้อยเขาก็ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเย็นชาเหมือนๆ กัน ไม่ใช่แค่กับเธอซึ่งเรื่องนี้ทำให้เหมือนฝันรู้สึกดีขึ้นมาได้นิดหน่อย “คุณผู้หญิงเป็นแขกของท่านประธาน หากไม่มีคำสั่ง ไม่ว่าใครก็พาเธอไปไม่ได้”

    “แกคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเล่นแกหรือยังไง” จ้าวซ่งเหยี่ยนรีบขึ้นเสียง เมื่อเห็นว่าเรื่องไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เขาวางเอาไว้ เขาจึงเลือกที่จะเล่นบทโมโหร้ายอย่างที่เคยทำมาตลอด “เป็นแค่ลูกน้องอย่าได้เผยอมาสั่งสอนฉัน ถอยไป!”

    “คุณไม่ใช่เจ้านายของผม” หวางเย่ยังคงปักหลัก เผชิญหน้ากับจ้าวซ่งเหยียนด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ ไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของชายตรงหน้าสักนิดเดียว “และผมจะพูดอย่างสุภาพเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว รบกวนคุณเหยี่ยนกับคนของของคุณถอยไปด้วยครับ ท่านประธานกำลังรอสุภาพสตรีท่านนี้อยู่ ถ้าเราไปสายคงไม่ใช่เรื่องดีนัก...หากว่าท่านประธานโมโหขึ้นมาต่อให้เป็นคุณเหยี่ยนคงรับผิดชอบไม่ไหว”

    “แกคิดว่าตัวเองเป็นใครมาขู่ฉัน” จ้าวซ่งเหยียนแยกเขี้ยว รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรคนของลูกชายก็ไม่มีทางฟังคำสั่งเขา อย่างนั้นเขาถึงได้พาคนมาด้วยยังไงล่ะ “แล้วก็ไม่ต้องเสแสร้งทำมาเป็นมีมารยาท แกมาจากไหนก็รู้ๆ กันอยู่ สันดานอย่างแกพยายามไปก็เป็นได้แค่เศษสวะที่เวยหลงมันเก็บมาเลี้ยงเท่านั้นแหละ”

    “เรื่องที่ผมมาจากไหนผมรู้ดีกว่าใครอยู่แล้วครับ” หวางเย่ตอบโต้ ไม่ได้เดือนร้อนที่จ้าวซ่งเหยี่ยนขุดอดีตของตนออกมาเพื่อเล่นงาน “แล้วคุณเหยี่ยนล่ะครับ เมื่อไหร่จะจำได้ว่าตอนนี้ผู้นำตระกูลจ้าวคือคุณเวยหลง ไม่ใช่คุณ เมื่อไหร่จะเลิกวางอำนาจเหมือนตัวเองเป็นผู้นำตระกูลจ้าวสักที”

    “ไอ้ห่_!”

    “ผมมันเศษสวะ ไม่อายหรอกนะครับที่จะใช้คำพูดอย่างหญิงโฉดชายชั่วไร้พ่อแม่สั่งสอนเขาใช้กัน แต่คุณชายตระกูลจ้าวอย่างคุณเหยี่ยนไปเรียนคำพูดต่ำๆ พวกนี้มาจากไหนครับ...จากพวกโสเพณีที่คุณชอบใช้บริการหรือเปล่า”

    คำพูดเผ็ดร้อนนั้นนับว่าเจ็บแสบมากจนเหมือนฟังที่ยืนฟังอยู่ อดไม่ได้ที่จะจ้องมองแผ่นหลังของผู้พูดด้วยสายตาอัศจรรย์ใจ พลางขบคิดกับตัวเองว่าหวางเย่เติบโตมาในที่แบบไหนกันถึงได้สามารถพูดคำพวกนี้ออกมาได้อย่างไม่กระดากปาก ถึงเธอจะชอบเขาแบบนี้มากกว่าคนเย็นชาก่อนหน้านี้...แต่เมื่อคิดว่าคนที่โดนหวางเย่ด่ากราดอยู่ตอนนี้เป็นตัวเธอเองแล้ว เหมือนฝันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขนผอง ก่อนรีบเตือนบอกตัวเองว่าอย่าเผลอได้ไปมีเรื่องกับหวางเย่เด็ดขาด เพราะขืนทำเขาโกรธขึ้นมาต่อให้เป็นเธอคงเถียงสู้ไม่ไหว ผู้ชายอะไรปากจัดเหลือเกิน

    “ไอ้...”

    “ถอยออกไปเถอะครับคุณเหยี่ยน เรื่องคาวๆ พวกนี้ไม่เหมาะที่เราจะมาพูดต่อหน้าแขกคนสำคัญของท่านประธาน” หวางเย่ตัดบท กลับมาวางมาดคนพูดน้อยแสนเย็นชาอีกครั้ง จนเหมือนฝันอดที่จะรู้สึกเสียดายไม่ได้ เธอคิดว่าเธอจะได้ดูอะไรสนุกๆ นานกว่านี้เสียอีก “ขืนเราเผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรออกมาแล้วเกิดทำให้คุณผู้หญิงท่านนี้รู้สึกไม่สบาย แล้วบังเอิญว่าเรื่องมันลอยไปถึงหูของคุณลี่หยางเข้า ผมไม่รับรองนะครับว่าคุณเหยี่ยนจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า”

    “…”

    คิดทบทวนคำพูดของหวางเย่แล้วจ้าวซ่งเหยี่ยนจำใจต้องถอยและหลีกทางให้หวางเย่และคนของเขาอย่างไม่มีทางเลือก กลัวจ้าวเวยหลงไหมก็กลัวแต่เขากลัวคำขู่ของหวางเย่มากกว่า ที่เขามาวันนี้ก็เพราะว่ารู้ถึงความสำคัญของหญิงสาวคนนี้และอิทธิพลของเธอที่มีต่อจ้าวลี่หยางอย่างไรเล่า ไม่อย่างนั้นเขาจะยอมเสี่ยงแม้จะรู้ว่านี่จะที่ทำให้จ้าวเวยลงโกรธหรือ แต่เมื่อคิดทบทวนดูแล้วว่าการชิงตัวเธอไปจากหวางเย่นั้น คงได้ไม่คุ้มเสียจ้าวซ่งเหยี่ยนจึงต้องยอมถอย

    “ขอบคุณมากครับคุณเหยี่ยน ผมจะบอกท่านประธานถึงความใจกว้างของคุณและเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กับท่านประธานอย่างละเอียด ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×