ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : แปลก

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 65


    “เปล่า เป็นข้อสันนิฐานที่ตั้งขึ้นโดยบนพื้นฐานของความโลภ” เหมือนฝันว่าแล้วเม้มปาก เหลือบมองโคมไฟระย้าบนศีรษะของตนเสี้ยววินาทีก่อนเอ่ยต่อ “เรื่องที่ทำให้คนเราเป็นเดือดเป็นร้อนจนต้องพึ่งพาคำทำนายน่ะมีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ อีกอย่างคุณดูไม่เหมือนคนที่เป็นทุกข์ด้วยความรัก สุขภาพภายนอกถ้าดูจากตาก็น่าจะเป็นคนที่แข็งแรง แต่งตัวเหมือนคุณชายบ้านรวย อายุอยู่ในวัยทำงาน...ที่ก็น่าจะเป็นงานที่กดดัน อีกอย่างคุณยังพูดเรื่องปู่ของคุณออกมาอีก คงทำงานกับที่บ้านแน่...ฉันเดาถูกไหมคะ คงไม่พ้นจะปัญหาเรื่องเงินทองแบ่งสมบัติ อะไรเทือกนั้น พอดีฉันอ่านนิยายมาเยอะน่ะค่ะ พวกพี่น้องฆ่ากันแย่งสมบัติอะไรทำนองนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก”

    “ผมไม่ได้จะฆ่าพี่น้องเพื่อแย่งสมบัติ” จ้าวเวยหลงนั่งฟังคำพูดยาวเหยียดของหญิงสาว ยิ่งฟังสีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น

    นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน ทำไมจู่ๆ จากคนไร้มารยาทไม่มีคนคอยสั่งสอน เขาถึงได้กลายเป็นคนโลภที่จะฆ่าพี่น้องเพื่อแย่งสมบัติได้ ยายผู้หญิงประสาท!

    “เดาถูกด้วย ฉันนี่เก่งจริงๆ” เหมือนฝันหัวเราะฮิ พูดชมตัวเองหน้าตาเฉย รู้ได้จากสีหน้าของชายหนุ่มและน้ำเสียงที่เขารีบแย้งเธอ ว่าที่เธอข้อสันนิษฐานทีเ่ธอเพิ่งเดาไปนั้นน่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่โกรธขนาดนี้

    ก็อย่างที่เธอพูดไปนั่นแหละ...พวกคนรวย จะมีเรื่องอะไรนอกเสียจากเรื่องเงินๆ ทองๆ ในครอบครัวที่ตกลงกันไม่ได้

    “และถ้าให้ฉันเดาคุณคงเป็นคนสำคัญในบ้าน แต่น้อยกว่าปู่ของคุณ...พอท่านเชื่อคำทำนายที่ทำให้คุณเสียประโยชน์ คุณก็เลยร้อนรนต้องรีบมาขู่ฉัน ให้ฉันไม่ไปพูดหรือทำนายอะไรให้ปู่ของคุณอีก เอาง่ายๆ เลยก็คือคุณกลัวว่าถ้าปู่ของคุณเชื่อฉันมากไปกว่านี้คุณจะยิ่งเสียประโยชน์”

    แน่นอนว่าประโยคยาวเหยียดที่หญิงสาวพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง แต่ไม่มีทางที่จ้าวเวยหลงจะยอมรับว่าเธอพูดถูก สำหรับเขาแล้วเรื่องที่เป็นปัญหาจริงๆ น่ะไม่ใช่เรื่องนี้

    “ปัญหาจริงๆ ที่ทำให้ผมต้องมาพบคุณในวันนี้ ก็คือคุณหลอกปู่ของผม และผมมาเพื่อขอให้คุณหยุดการกระทำนี้...และผมพร้อมที่จะเสนอค่ายเสียประโยชน์ให้คุณ ผมรู้ว่าปู่ของผมเป็นลูกค้าชั้นดีของคุณ เราตกลงกันได้ ผมไม่ใช่คนไร้เหตุผล...และผมก็ไม่ได้มีความคิดที่จะข่มขู่คุณเลยสักนิดเดียว”

    “การที่คุณมาเจอฉัน ทำตัววางอำนาจต่อหน้าฉัน...แบบนี้” เหมือนฝันยกนิ้วชี้ไปที่เขาพร้อมมองกดชายหนุ่มด้วยสายตารังเกียจ “ในวันที่ฉันอยู่ต่างบ้านต่างเมืองตัวคนเดียว ต่อให้อยากจะพูดว่าไม่ได้ตั้งใจมาขู่ ก็คงพูดไม่ได้เต็มปากหรอกค่ะ” ว่าแล้วเธอก่อนเม้มปาก แสร้งทำเป็นเหมือนหนักอกหนักใจก่อนเอียงศีรษะ มองใบหน้าคมคร้ามด้วยหางตาก่อนคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก่อนที่ฉันจะพูดอะไร ขอถามชื่อคุณหน่อยได้ไหมคะ?”

    “เวยหลง” เสียงทุ้มตอบสั้นแต่หนักแน่น

    ซึ่งทำให้เหมือนฝันพยักหน้าเบาๆ ด้วยความพอใจ ชื่อนี้นับว่าไม่แปลกสำหรับเธอ...อย่างที่บอกเธออ่านนิยายจีนมามาก พวกพระเอกในนิยายจีนย้อนยุคก็มักจะชื่อ หลงๆ อะไรเทือกนี้อยู่แล้ว เว้นแต่ว่าอีตาผู้ชายปากจัดคนนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นพระเอกเลยสักนิดในความคิดของเธอ

    “คุณเวยหลง...” เสียงเล็กพึมพำชื่อนั้นเบาๆ ด้วยเหตุผลที่อธิบายไม่ได้ เหมือนฝันรู้เพียงว่าเธออยากลองเรียกชื่อเขาดูสักครั้ง แต่เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปเหมือนฝันก็แอบหยิกแรงๆ ตัวเองในใจ แล้วรีบกลับเข้าเรื่องที่เธอตั้งใจจะพูดกับเขาก่อนหน้านี้ทันที “คุณแบบคุณน่ะฉันเห็นมานักต่อนักแล้วล่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องทำตัวสูงส่งกับฉันหรอก เพราะหลังจากนี้เราคงไม่มีโอกาสที่ได้เจอกันอีกแล้ว...คราวนี้ฉันขอพูดอย่างตรงไปตรงมาบ้างแล้วกันนะคะ”

    “เชิญ”

    “เรื่องที่คุณมาขู่ฉันในวันนี้ต่อให้คุณทำสำเร็จก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี เพราะต่อให้ไม่ใช่มาสฟ้าก็ยังมีหมอดูคนอื่นๆ ที่สามารถสร้างปัญหาให้คุณได้อยู่ดี วันนี้คุณขู่ให้ฉันหยุดข้องเกี่ยวกับปู่ของคุณได้ วันหน้าก็ต้องมีหมอดูคนอื่น ฉันพูดถูกไหมคะ?”

    “เรื่องหมอดูคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องห่วง” ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จ้าวเวยหลงไม่เคยคิดถึง แต่ในเมื่อ ณ วันนี้คนที่มีปัญหาที่สุดคือหญิงสาว เขาก็ต้องจัดการกับเธอก่อนเป็นธรรมดา

    นี่หมายความว่าเขาจะไล่เก็บกวาดหมอดูทุกคนต่อจากมาสฟ้าใช่ไหม?

    เหมือนฝันถามตัวเองในใจ

    “ไม่ได้ห่วงค่ะ เพียงแต่พูดให้คุณเห็นภาพรวมทั้งหมดเท่านั้น” เหมือนฝันเห็นด้วยเรื่องที่ว่าเธอไม่ควรห่วงหมอดูคนอื่น หญิงสาวปิดไอแพดและมือถือของเธอลง ก่อนจะทุ่มความสนใจทั้งหมดของเธอไปที่ชายที่ชื่อว่าเวยหลง ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ “หรือต่อให้คุณพยายามให้ปู่ของคุณเชื่อมั่นในตัวคุณมากกว่าคำทำนายอย่างไร มันก็ไร้ประโยชน์เพราะจริงๆ แล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คำทำนายหรือความงมงายของปู่คุณเลยสักนิด ปัญหามันอยู่ที่ปู่คุณน่ะไม่เชื่อมั่นในตัวคุณและคนอื่นเลย จนต้องไปหาความมั่นใจจากสิ่งที่มองไม่เห็น และทางเดียวที่จะแก้ปัญหาเรื่องนั้นได้ มันก็ไม่ใช่การมาห้ามให้ฉันหรือใครทำนายให้ปู่ของคุณอีก แต่มันอยู่ที่ตัวคุณเองต่างหากว่าจะทำยังไงให้ให้ปู่ของคุณเชื่อมั่นจนไม่ต้องพึ่งพาหมอดู”

    “นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องมาห่วงเหมือนกัน” จ้าวเวยหลงเอ่ยลอดไรฟัน คราวนี้เธอล้ำเส้นเกินไปจริงๆ ต่อให้เธอจะปากดียังไงแต่มันก็ต้องรู้จักมีขอบเขตแต่จ้าวเวยหลงก็ทำเพียงขบฟันเข้าหากันแล้วรีบตัดบทก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ “ในเมื่อคุณเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้ก็ดี อย่างนั้นคุณต้องการเงินเท่าไหร่...สำหรับความเสียหายที่ต้องเลิกติดต่อกับปู่ของผม”

    “คุณไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนหรือคะว่ามาสฟ้าไม่รับเงินค่าทำนาย” เหมือนฝันแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วโน้มตัวลงไปหาชายหนุ่มที่ยังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ความห่างระหว่างพวกเขาลดลงจนจ้าวเวยหลงสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมจากต้นคอระหง “แล้วถ้าอยากให้ฉันเลิกติดต่อกับปู่ของคุณก็ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ เพราะตลอดมาคนที่ดิ้นรนมาขอคำทำนายน่ะน่าจะเป็นคนของคุณมากกว่านะคะ แค่คุณห้ามปู่ของคุณได้ฉันรับรองเลยค่ะว่าฝั่งของฉันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณอีกแน่”

    “เลิกเล่นลิ้นสักทีเถอะ ตกลงว่าคุณต้องการเท่าไหร่กันแน่”

    “เปล่าเล่นลิ้นนะคะ ฉันพูดจริงๆ” เหมือนฝันปรับสีหน้าให้จริงจังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง “ทางนี้ไม่มีปัญหาเลยค่ะที่จะเลิกทำนาย เงินก็ไม่เคยได้อยู่แล้ว เรื่องอะไรพวกฉันต้องหาเรื่องใส่ตัว ดูอย่างตอนนี้สิคะ...ฉันมาเที่ยวแท้ๆ แต่ก็กลับต้องมาโดนลูกคนรวยขู่ เพราะครอบครัวเคลีร์ยกันไม่ลงตัวซะอย่างนั้น เรื่องแบบนี้เกิดกับฉันครั้งเดียวก็พอค่ะ ไม่ขอเจอรอบที่สอง”

    “สรุปก็คือคุณหมายความว่าคุณจะหยุดหลอกปู่ของผมใช่ไหม?” ลูกคนรวยใกล้จะเป้นบ้าเพราะผู้หญิงคนนี้แล้วจริงๆ จึงได้โพล่งถามออกไปแบบนั้น ถ้าใครมาเป็นเขาตอนนี้อดทนได้ครึ่งเขาทำมา จ้าวเวยหลงคุกเข่าขอคารวะเลย “จะเลิกเป็นนักต้มตุ๋น หากินกับความทุกข์ของคนอื่นจริงๆ หรือเปล่า”

    “จะเรียกว่าหากินได้ยังไงในเมื่อไม่เคยได้เงินน่ะ” เหมือนฝันชักสีหน้า เธอเองก็หงุดหงิดไม่น้อยกว่าเขาหรอก ที่ต้องพูดเรื่องเดิมๆ วกไปวนมาอย่างนี้น่ะ “ก็บอกปู่ของคุณให้หยุด เท่านี้เรื่องก็จบแล้ว บอกแล้วไงว่าทางฉันไม่ได้เดือดร้อนเลย ถามจริงๆ นะคุณ...เท่าที่ดูคุณก็ดูเป็นคนที่น่าเชื่อถือ ไม่น่าจะโง่ ก่อนจะทำอะไรก็น่าจะศึกษาข้อมูลมาก่อนไม่น้อยใช่ไหมล่ะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าครอบครัวของฉันไม่เดือดร้อนเรื่องเงินกัน ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าครอบครัวของคุณร่ำรวยขนาดไหนแต่มีอย่างหนึ่งที่ฉันบอกคุณได้เลยตรงนี้” เธอหยุดเพื่อจิ้มนิ้มไปที่โต๊ะตรงหน้า “ก็คือครอบครัวฉันเองก็มีเงิน...อย่างน้อยก็มีมากพอที่จะให้ฉันเกิดแล้วตายอีกสิบชาติ ล้างผลาญโดยไม่เดือดร้อนใคร เพราะฉะนั้นแล้วเศษเงินของครอบครัวคุณน่ะไม่ได้มีความหมายอะไรกับพวกเราเลยสักนิด”

    “หมายความว่าคุณหยุดใช่ไหม?” จ้าวเวยหลงเลิกคิ้วสูง ต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากหญิงสาวไม่อย่างนั้นเขาจะไม่วางใจ ต่อให้น้ำเสียงและคำพูดที่เธอพูดมานั้นจะน่าเชื่อถือมาก แต่เขาก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย และรู้ว่าบางครั้งคนเราก็กลับคำพูดได้ง่ายๆ “กล้าสาบานหรือเปล่า?”

    “ไม่ต้องมาสาบานให้เสียเวลาหรอก ฉันประกาศกับคุณตรงนี้เลยแล้วกันว่าฉันจะไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” เหมือนฝันตอบง่ายๆ สำหรับเธอแล้วการที่มาสฟ้าแอบไปทำนายให้คนลับหลังเธอนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ตลอดมาเธอยอมหลับตาข้างหนึ่งเพราะเธอเชื่อในการตัดสินใจของผู้เป็นพี่สาวเสมอ ทว่าหลังจากนี้เห็นทีว่าเธอจะต้องกลับไปคุยกับมาสฟ้าให้รู้เรื่องอีกครั้ง เหมือนฝันมั่นใจว่าหากมาสฟ้ารู้ว่าการที่หล่อนช่วยเหลือคน จะเพราะความสงสารหรืออะไรก็ตามแต่มันไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไป ยิ่งถ้าหากช่วยเหลือคนเหล่านั้นชักนำอันตรายมาสู่ตัวของมาสฟ้าเอง สำหรับเหมือนฝันแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำมันต่อไป

    ยิ่งถ้าถามคนเห็นแก่ตัวมาอย่างเธอแล้วล่ะก็ เหมือนฝันไม่มีความลังเลอยู่ในหัวสมองเลย สำหรับเธอมาสฟ้าย่อมมีความสำคัญมากกว่าความเป็นความตายของคนอื่น

    “หลังจากนี้คุณจะไม่ข้องเกี่ยวกับปู่ของผมอีก ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม...เราเข้าใจตรงกันใช่ไหม?”

    แม้จะแปลกใจที่การ ‘ตกลงกัน’ นั้นจะได้ข้อสรุปเร็วจนหน้าแปลกใจ แต่ในความแปลกใจนั้นก็มีความรู้สึกยินดีซ่อนอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ยิ่งจบเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อตัวเขาและสกุลจ้าวที่สุด

    “อือฮึ”

    เหมือนฝันพยักหน้ารับอย่างขอไปที เธอเองก็อยากจะไปจากตรงนี้เร็วๆ เหมือนฝัน ในความรู้สึกของหญิงสาวนั้น ยิ่งเธออยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวของเธอมากเท่านั้น แม้ว่าเหมือนฝันจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงรู้สึกเช่นนั้นแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเธอก็มีไม่น้อยไปกว่าคนอื่นและหลายครั้งต่อหลายครั้งที่สัญชาตญาณของเธอนั้นมักจะถูก

    ในเมื่อตอนนี้มันกรีดร้องบอกให้เธอรีบหนีไปจากตรงนี้ เธอก็ควรจะเชื่อมันและรีบลุกออกไปจากโต๊ะนี้สักที

    “มีเรื่องที่จะพูดเท่านี้ใช่ไหม ถ้าพูดจบแล้วฉันไปล่ะ พอดีมีเรื่องที่ต้องทำอีก” ว่าแล้วเหมือนฝันก็ไม่รอให้จ้าวเวยหลงได้พูดอะไร ร่างระหงเหยียดตัวตรงเต็มความสูง กอดไอแพดและมือถือของตัวเองแนบอกขณะหมุนตัวหันหลังให้เขกไม่ได้รับเชิญอย่างเขา ตั้งใจที่จะมุ่งหน้ากลับไปยังห้องพักของตัวเองแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เหมือนฝันก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับสีหน้ายุ่งยากใจ ที่ทำให้คิ้วเข้มของจ้าวเวยหลงเลิกสูงด้วยความแปลกใจระคนขบขัน

    คาดไม่ถึงว่าภายใต้ท่าทางดุดันที่เธอพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับเขาแล้ว หญิงสาวซ่อนความน่าเอ็นดูที่เผลอแสดงออกเช่นนี้อยู่ด้วย น่าเอ็นดูแปลกๆ นะผู้หญิงคนนี้

    “คุณสกุลอะไรนะ?”

    คราวนี้คิ้วที่เลิกสูงด้วยความขบขันของจ้าวเวยหลงขมวดมุ่นเพราะคำถามเหนือความคาดหมายของหญิงสาว ชายหนุ่มใช้เวลากระพริบตาปริบๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ คลายหัวคิ้วที่ชนกันอยู่ออก

    “จะรู้ไปเพื่ออะไรหรือ ไหนว่าเราจะไม่เจอกันอีกแล้ว”

    “รู้ได้เพื่อที่จะได้ระวังตัว ไม่เข้าใกล้คุณอีกยังไงล่ะ” เหมือนฝันกลอกตาใส่ชายหนุ่ม พร้อมกับค่อนแคะเขาในใจว่าช่างระแวงเรื่องไม่เป็นเรื่อง

    ทำอย่างกับว่าเธอรู้นามสกุลเขาแล้วเธอจะไปทำคุณไสยใส่อย่างนั้นแหละ...ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นความคิดที่เข้าท่าแต่เหมือนฝันก็ขี้เกียจเกินไปสำหรับเรื่องพวกนี้

    หญิงสาวถอนหายใจแรกก่อนบอกเหตุผลที่เธออยากรู้ว่าเขามาจากสกุลไหน

    “ถ้าไม่รู้สกุลคุณ ฉันจะเลี่ยงคุณได้ยังไง”

    “ผมจะเลี่ยงคุณเอง” จ้าวเวยหลงประกาศ น้ำเสียงของเขามั่นคงและหนักแน่นจนเหมือนฝันเผลอพยักหน้ายอมรับ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพยักหน้าคล้ายพอใจกับคำตอบของเขาและทำท่าจะยอมจบเพียงเท่านี้ กลับเป็นจ้าวเวยหลงกลับรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถบอกได้ และก่อนที่เขาจะรู้ตัวชายหนุ่มก็ตอบคำถามของเธอออกไปแล้ว “ผมสกุลจ้าว...จ้าวเวยหลง”

    “อ่า...” เหมือนฝันฟังแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง รู้สึกคุ้นกับชื่อของชายหนุ่มแปลกๆ ...จ้าวเวยหลง เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ?

    “มีอะไรหรือเปล่า?”

    “ไม่มีค่ะ” เหมือนฝันยักไหล่ บอกตัวเองว่าชื่อของเขาคงไปซ้ำกับพระเอกนิยายจีนที่เธอเคยอ่านสักเรื่องนั่นแหละ เธอถึงได้รู้สึกคลับคล้ายคลับครากับชื่อของเขาแปลกๆ จากนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องชื่อของชายหนุ่มอีก หญิงสาวหลับตาลง...สูดหายใจลึกเพื่อทำสมาธิก่อนจะลืมตา

    สายตาที่เหมือนฝันใช้มองจ้าวเวยหลงครั้งนี้แตกต่างออกไป ไม่มีความเย่อหยิ่งหรือเกลียดชังเหมือนก่อนหน้านี้...

    สายตาของเธอนั้นสงบนิ่งทว่าเยือกเย็นไม่เหมือนกำลังมองคน มันเลื่อนลอยปนะหลากจนจ้าวเวยลงแอบขมวดคิ้วเพราะความสงสัย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามก็เป็นหญิงสาวที่ทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่ชวนให้ขนลุกประหลาด

    “อะไรที่มันเป็นของคุณอย่างไรมันก็ต้องเป็นของคุณ...แต่ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ ต่อให้คุณจะดิ้นรนยังไงสุดท้ายมันก็ไม่ใช่ของคุณอยู่ดี”

    *******

    สวัสดีปีใหม่ไทยอย่างเป็นทางการค่ะทูนหัวคนดีของศรี แม้ว่าจะช้าไปสักหน่อยก็ตาม 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×