ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #26 : ไม่กลัวอะไรเลย

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 65


    “เราคงต้องย้ายที่พักกัน คุณคงไม่มีปัญหาอะไรนะ” จ้าวเวยหลงทำลายความเงียบหลังจากที่พวกเขาขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยและตอนนี้รถของพวกเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปจากลานจอดรถของโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัวของชายหนุ่มเอง ที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกที่นี่ได้แม้แต่จ้าวลี่หยาง ปู่ของเขาก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพักที่นี่ หากไม่นับตัวของเขาเองแล้วเหมือนฝันก็นับว่าเป็นแขกคนแรกของที่นี่เลยก็ว่าได้

    “ถ้าฉันบอกว่ามีปัญหา คุณจะให้ฉันพักที่เดิมหรือไงเล่า” เหมือนฝันเหลือบมองหน้าคนข้างตัว ตามด้วยการกลอกตาขึ้นฟ้าแรงๆ เชิงประชดประชัน ตอนนั้นเองที่หางตาของเธอเหลือบไปเห็นขบวนรถสีดำหลายคัน ที่ขับสวนมาจากอีกฟากฝั่งของถนนในใจเหมือนฝันก็คิดว่าเธอนั้นโชคดีจริงๆ ที่ออกมาจากโรงพยาบาล ก่อนที่จ้าวซ่งเหยี่ยนจะมาถึง “นั่นรถพ่อคุณหรือเปล่า”

    “คงใช่แหละ นอกจากเขาแล้วก็คง ไม่มีใครหรอก” จ้าวเวยหลงมองตามปลายนิ้วชี้ที่จิ้มติดกระจกรถ ค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่าขวบนรถที่ขับสวนมานั้นเป็นคนของจ้าวซ่งเหยียน แม้จะรู้ว่าพวกนั้นคลาดกับเขาและเหมือนฝันแล้วแต่จ้าวเวยหลงก็ยังไม่สบายใจ หันไปสั่งหวางเย่ หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยที่นั่งหน้าเครียดอยู่ตอนหน้าของรถ ด้วยน้ำเสียงที่เข้มจัด “รีบหน่อย อย่าให้พวกนั้นตามทัน”

    “ได้ครับ”

    การออกคำสั่งของแบบพวกมาเฟียในละครหลังข่าวของชายหนุ่มทำให้เหมือนฝันแอบพยักหน้าเบาๆ พร้อมนินทาคนตัวใหญ่ข้างตัวในใจว่าจ้าวเวยหลงนั้นทำตัวเหมือนเจ้าพ่อไม่มีผิด ทำให้เหมือนฝันอดรู้สึกนิดๆ ไม่ได้ว่าตอนนี้เหมือนเธออยู่ในหนังเรื่องผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ อะไรทำนองนั้น

    “มองผมแบบนั้นหมายความว่าไงครับ?” จ้าวเวยหลงเหลือบตาไปยังสายตาที่จ้องเขาก่อนหน้า เมื่อเห็นสายตาของคนข้างตัวชัดๆ ก็อดที่จะขมวดคิ้วกับสายตาของเธอไม่ได้ “อยากพูดอะไรก็พูดออกมาเถอะ ระหว่างเราคงไม่ต้องเกรงใจอะไรกันแล้ว”

    “คุณเหมือนพวกมาเฟียเลยค่ะ” เหมือนฝันก้มหน้าไปกระซิบเสียงค่อย ในเมื่ออีกฝ่ายพูดมาเช่นนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรให้เธอต้องกลัว แต่ปฏิกิริยาที่เธอได้รับจากจ้าวเวยหลงกลับเป็นการที่เขาหลุดหัวเราะพรืดออกมา เหมือนเธอเพิ่งปล่อยมุกตลกชุดใหญ่แทนที่จะเป็นการที่เธอกล่าวหาเขาว่าเป็นมาเฟีย

    “อันที่จริงแล้วผมก็เป็นมาเฟียนะ” จ้าวเวยหลงเอ่ยยิ้มๆ สายตาของเขาก็พราวระยับด้วยความขบขัน อย่างไม่อยากเชื่อว่าคนปากร้ายข้างๆ จะมีมุมนี้กับเขาด้วยมากกว่าที่จะนึกขันกับคำพูดไร้เดียงสาของเธอ ซึ่งส่วนตัวแล้วจ้าวเวยหลงนับว่านี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่ดีที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ “แค่อาจจะไม่เหมือนในหนังที่คุณเคยดูเสียทีเดียว สมัยนี้คงไม่มีใครเขายกพวกไปฆ่ากันแบบน้ันอีกแล้วล่ะ...ส่วนรายละเอียดเรื่องอื่นผมว่าคุณไม่อยากรู้หรอก”

    “ค่ะ ไม่อยากรู้” เหมือนฝันพยักหน้าหงึกๆ ชื่นชมจ้าวเวยหลงที่อยู่ในใจที่เขาเดาใจเธอถูก ของอย่างนี้รู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี“แต่ถึงไม่รู้ก็พอเดาได้ค่ะ”

    “คุณนี่ชอบทำให้ผมแปลกใจอยู่เรื่อย” จ้าวเวยหลงเอ่ยชื่นชมเหมือนฝันจากใจจริงๆ ตั้งแต่ที่เธอรับมือกับหายนะต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอตลอดทั้งวันที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เหมือนฝันก็ยังสามารถรับมือหลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นมาเฟีย ด้วยสีหน้าราบเรียบท่าทีของเธอนั้นมั่นคง เหมือนกับว่าเขาเพิ่งบอกเธอว่าเขาชอบทานเผ็ดแทนที่จะบอกว่าเขาเป็นมาเฟีย ถึงมันจะชวนให้สับสนนิดหน่อยแต่เขากลับชอบมันอย่างประหลาด “คุณรู้ว่าผมเป็นมาเฟียก็ยังเฉยอยู่ได้ มันมีอะไรที่ทำให้คุณสติแตกได้ไหม ผมอยากรู้จริงๆ”

    “มีสิ” เหมือนฝันตอบแล้วก็ถอนหายใจ ไม่ว่าเธอจะเก่งแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังเป็นมนุษย์เดินดินอยู่วันยังค่ำ เรื่องบางอย่างเธอก็ยังไม่สามารถปลงได้ “ตอนที่ฉันรู้ว่าพี่สาวฉันมีแฟนไง ไม่สิ...ไอ้หมอนั่นยังไม่ได้เป็นแฟนพี่สาวฉันหรอก แค่เกือบๆ”

    “ที่แค่เกือบได้เป็นแฟน...เพราะคุณหรือเปล่า?”

    “ก็แน่สิ” เหมือนฝันยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ ไม่ละอายรู้สึกละอายใจกับเรื่องที่เธอเป็นต้นเหตุทำให้มาสฟ้าและ (คนที่เกือบเป็น) อดีตคนรักต้องแยกทางกัน อย่างไม่มีโอกาสให้หวนกลับมาคบหากันได้อีก “ระหว่างฉันกับไอ้หมอนั่น พี่สาวฉันก็ต้องเลือกฉันอยู่แล้ว”

    “ไม่ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น” จ้าวเวยหลงสั่นศีรษะ บอกให้เหมือนฝันรู้ว่าเธอเข้าใจคำพูดของเขาผิดไป “ที่ผมหมายถึงน่ะ มันเป็นเพราะคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวคุณไม่ได้คบกับผู้ชายคนนั้น เป็นเพราะคุณขัดขวางพวกเขาหรือเปล่า”

    “ขัดขวาง?” เหมือนฝันขัดหูกับคำพูดนั้นของคนที่เธอเกือบจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพันธมิตรกับตนเองแล้วนิดๆ ถึงแม้ว่าเธอจะขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างมาสฟ้าและยุทธนาจริงก็ตามที แต่อย่างไรเสียที่เรื่องมันกลับกลายเป็นอย่างนี้ก็ไม่ใช่ความผิดองเธอเสียทีเดียว “ทำไมต้องใช้คำพูดร้ายกาจขนาดนั้นด้วย เรียกว่าฉันช่วยให้พี่สาวรอดพ้นจากคนไม่ดีจะถูกกว่านะ”

    “ก็คือคุณขัดขวางจริง?” จ้าวเวยหลงไม่ยอมคล้อยตามคำพูดเหมือนฝันโดยง่ายแม้ว่าเธอจะพยายามบอกว่าเป็นการช่วยเหลือ ทำไปเพื่อปกป้องพี่สาวแต่จ้าวเวยหลงก็เชื่อไม่ลงจริงๆ ดูจากนิสัยใจคอของเธอที่เขารู้จักอย่างผิวเผินแล้วจ้าวเวยหลงก็สามารถบอกได้ว่าเหมือนฝันนั้นไม่ใช่คนที่ใจกว้างเท่าไหร่หากเป็นเรื่องพี่สาวของเธอ

    “ให้เรียกว่าช่วยจะถูกกว่า” เหมือนฝันนิ่งไปครู่หนึ่งเพื่อใช้เวลาทบทวนกับตัวเอง เม้มปากแน่นเพราะจนมุมก่อนจะอ้อมแอ้มแก้ตัวจากข้อครหาของจ้าวเวยหลง “ไอ้หมอนั่นมันเป็นคนไม่ดี ฉันปกป้องพี่สาวของฉันก็ถูกต้องแล้ว จริงไหม?”

    “เท่าที่ผมได้ยินมาพี่สาวคุณก็น่าจะพอปกป้องตัวเองได้อยู่นะ” จ้าวเวยหลงยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแย้ง หากอ้างอิงจากข้อมูลของมาสฟ้าที่เขาเคยได้รับมาที่แม้จะเล็กน้อย แต่มีสิ่งหนึ่งที่จ้าวเวยหลงค่อนข้างมั่นใจ นั่นก็คือผู้หญิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนาที่ชื่อว่ามาสฟ้าคนนี้ มีความสามารถมากพอที่จะปกป้องตัวเองหรือหากจะให้พูดกันตามตรงจริงๆ จ้าวเวยหลงเชื่อว่ามาสฟ้านั้นพิษสงไม่น้อยไม่กว่าน้องสาวของเธอเลย ดีไม่ดีอาจจะอันตรายกว่าด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นใครๆ ก็คงไม่พากันหวาดกลัวเจ้าหล่อนจนตัวซีดตัวสั่นหรอก ขนาดปู่ของเขาก็ยังไม่เว้น

    หรืออย่างน้อยๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เก่งพอที่จะทำให้เสืออย่างอู่อี้เทียนกลายเป็นลูกแมว วิ่งไล่งับชายกระโปรงเจ้าหล่อนไปทั่วเมืองอย่างที่ผู้หญิงคนไหนก็ทำไม่ได้มาก่อนก็แล้วกัน มาสฟ้าเก่งขนาดที่ทำให้อู่อี้เทียนยอมศิโรราบได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอหย้ากัน เธอย่อมเป็นคนที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งเลย

    “คุณไม่เคยมีพี่น้องคุณไม่เข้าใจหรอก” เหมือนฝันกระแทกลมหายใจ ขณะเบือนสายตาออกไปนอกหน้าต่างรถ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่สาวนั้นเหมือนฝันไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจได้จึงได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยความเซ็ง “เรื่องบางอย่างก็อธิบายอยาก”

    “เช่นเรื่องที่พี่สาวคุณเป็นหมอดู?”

    “ใช่ เช่นเรื่องที่คุณรับปากลูกน้องคุณไง เรื่องบางเรื่องอธิบายไปก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจได้” เหมือนฝันหันขวับกลับมาเผชิญหน้ากับจ้าวเวยหลง เลิกคิ้วมองหน้าชายหนุ่มอย่างท้าทาย ไม่หลบตาคมกริบเมื่อเอ่ย ไม่สะทกสะท้านแม้ถูกจ้าวเวยหลงจ้องเขม็ง “ทำไมคะ คิดว่าตัวเองมีความลับได้คนเดียว แต่คนอื่นห้ามมีงั้นเหรอ?”

    “ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร” ชายหนุ่มว่าเสียงกระด้าง ไม่เห็นว่าเรื่องที่เหมือนฝันกวนประสาทเขานั้นเป็นเรื่องสนุกตรงไหน

    “ก็เรื่องที่คุณรับปากเขาไว้ไงคะ” เหมือนฝันบอกพลางบุ้ยใบ้ไปทางหวางเย่ ซึ่งอีกฝ่ายจ้องมองพวกเขาผ่านกระจกมองหลังอยู่ก่อนแล้ว เหมือนฝันและหวางเย่จึงสบตากันแม้จะไม่อยาก เมื่อผู้ชายทั้งสองคนต่างจ้องมองหน้าเธอ ท่ามกลางความเงียบครู่ใหญ่ เหมือนฝันก็ยักไหล่เบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็ไม่วายบ่นงุบงิบกับอกของตัวเองเสียงค่อยแค่ให้ได้ยินคนเดียว “ไม่แน่จริงแล้วทำเก่ง แค่นี้ก็กลัวซะละ”

    “ผมไม่ได้กลัว!” จ้าวเวยหลงสบถรอดไรฟัน ไม่รู้ว่าเหมือนฝันกำลังพูดถึงเรื่องไหน แต่ไม่ว่าเธอจะพูดถึงเรื่องอะไรย่อมไม่ใช่เรื่องดีทั้งสิ้น

    “คุณกลัวคนรู้ความลับคุณจะตาย” เหมือนฝันโต้ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย สำหรับเธอนั้นเพิ่งค้นพบเรื่องใหม่คือจ้าวเวยหลงเป็นคนดื้อและไม่ยอมรับความจริงจนน่ารำคาญ “อันที่จริงไม่ใช่แค่คุณหรอก ใครๆ ก็กลัวทั้งนั้นแหละ เว้นแต่ลูกน้องคุณ...คนนี้ไม่กลัวอะไร”

    ว่าแล้วเหมือนฝันก็ยกมือชี้ไปยังหวางเย่ ทำให้ห้องโดยสายของรถคันใหญ่นั้นตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

    เรื่องความบ้าบิ่นของหวางเย่นั้นเป็นที่รู้กันดีตั้งแต่ลูกน้องระดับล่างจากบอดีการ์ดระดับสูงของตระกูลจ้าว จ้าวเวยหลงเองที่มั่นใจให้หวางเย่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าบอดีการ์ดก็เพราะความบ้าบิ่นจนแทบจะเรียกว่าบ้าระห่ำของเขานี่แหละ

    เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเหมือนฝันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะนับตั้งแต่ที่เขาและเธอพบหน้ากันนับจำนวนเวลารวมๆ กันแล้วยังไม่ถึงเจ็ดสิบสองชั่วโมงดีเลย แต่ทำไมหญิงสาวถึงได้รู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ดีไปหมด

    “ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”

    “ฉันไม่ได้คิด” เหมือนฝันส่ายหน้าดิก จ้องจ้าวเวยหลงตาใส “ฉันรู้ เขาไม่กลัวตายแล้วก็ไม่กลัวอะไรเลย”

    “พี่สาวคุณบอกคุณอย่างนั้นเหรอ?” ครั้งนี้เป็นหวางเย่ ผู้ตกเป็นหัวข้อสนทนาครู่ใหญ่ที่ตั้งคำถาม เขาสงสั้นตั้งแต่ตอนที่ไปรับเหมือนฝันจากโรงแรมที่เธอพักอยู่ตอนแรกนั้นแล้ว ถึงจะบอกตัวเองว่าเขาไม่เชื่อเรื่องลี้ลับพวกนี้แต่มันก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ “พี่สาวของคุณรู้ทำนายว่าผมเป็นพวกไม่รูจักกลัวตายเหรอ”

    “เปล่าพี่สาวฉันไม่ได้บอกอะไรหรอก” เหมือนฝันเอนตัวเพื่อที่จะมองหน้าหวางเย่ชัดๆ อีกครั้ง ทว่าสายตาของเธอกลับตรึงอยู่ที่อากาศว่างเปล่าข้างใบหูของหวางเย่แทนที่จะมองหน้าเขา ซึ่งจ้าวเวยหลงที่ถูกศีรษะซบต้นแขนอยู่ก็อดที่จะมองตามไม่ได้เมื่อมองจนแน่ใจว่าเหมือนฝันจ้องอากาศว่างเปล่าจริงๆ คิ้วของจ้าวเวยหลงก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมุ่น “คนอื่นต่างหากบอกนอกจากบอกว่าคุณไม่กลัวตายยังบอกอีกด้วยนะว่าคุณน่ะอยากตาย เพราะแบบนี้หรือเปล่าคุณถึงได้ถามฉัน ว่าพี่สาวของฉันรู้ว่าใครจะตายตอนไหนไหม ที่แท้ก็เพราะคุณอยากตายนี่เอง”

    “คนอื่น? ใคร?” จ้าวเวยหลงแทรก ตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องอื่นแล้ว

    “ก็...” เหมือนฝันอ้ำอึ้ง ชะงักคำพูดของตนไว้เพียงเท่านั้นหลังรู้ตัวว่าเธอนั้นพูดมากเกินไปแล้ว อีกอย่างที่ทำให้เหมือนฝันต้องเงียบก็เพราะร่างโปร่งบางที่ลอยอยู่ข้างใบหูหวางเย่ ที่ยกมือขึ้นแตกริมฝีปากของตัวเองบอกใบ้ให้เธอเงียบ...ตั้งแต่เหมือนฝันเจอหน้าหวางเย่ เธอก็เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างตัวเขาตลอดเวลา ถึงจะสงสัยอยากรู้ว่าเจ้าหล่อนเป็นใครแต่เหมือนฝันก็ไม่อยากเสียแรงพูดคุยกับดวงวิญญาณ ถึงแม้จากเท่าที่ดูผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นวิญญาณที่ดีและตามติดหวางเย่ด้วยความรักและเป็นห่วงมากกว่าอาฆาตแค้นก็เถอะ

    “ก็อะไร...” จ้าวเวยหลงกระตุ้น มองเหมือนฝันที่นิ่งเงียบไปสลับกับหวางเย่ที่ก็นิ่งขึงไปไม่ต่างกัน สำหรับบอดีการ์ดของตัวเองนั้นจ้าวเวยหลงพอจะเดาได้ว่าอะไรที่ทำให้เขานิ่งไป แต่กับหญิงสาวข้างกายนั้นเขาไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไป “ฝันคุณเป็นอะไรไป คุณเห็นอะไร”

    “เปล่า” เหมือนฝันสะดุ้งเบาๆ เมื่อถูกมือสากระคายของจ้าวเวยหลงแตะลงที่ท่อนแขน หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อย่างสุดท้ายที่เธอทำก็คือกะพริบตาปริบๆ เมื่อร่างโปร่งใสของหญิงสาวที่เธอเคยเห็นก่อนหน้าค่อยๆ เลือนไป เหมือนฝันก็กลับมาอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง “ฉันแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย คงเพราะเหนื่อยไปหน่อย คุณอย่าใส่ใจเลย”

    “แต่คุณไม่...”

    “ฉันเหนื่อยจริงๆ คุณ ขอร้องนะ” เหมือนฝันหลับตา ถอนหายใจออกมายาวเหยียด ท่าทางของเธอนั้นสมจริง จนจ้าวเวยหลงยอมที่จะหยุดการซักไซ้ของเขาไว้เพียงเท่านั้น แม้ว่าจะยังไม่คลายความสงสัยของเขาก็ตาม “ขอฉันกินอะไรก่อนแล้วพักสักหน่อยได้ไหม หลังจากนั้นจะเอายังไงก็ค่อยว่ากัน”

    “ได้” ชายหนุ่มตกปากรับคำไม่มีอิดออด เพราะเขาเองก็เพลียไม่ต่างจากคนตัวเล็ก “หลังจากนี้ค่อยว่ากัน”


     


     

    หัวจิตหัวใจของบ่าวคนนี้มันอยู่บ่ได้ มันอยู่บ่ไหวแล้ววววว คุณฝันคนดีของศรีกำลังจะบอกว่าอะไรหรือคะ ได้โปรดพูดออกมา ประกาศให้ศรีได้หายข้องใจศรีจะได้นอนหลับ ไม่อย่างนั้นแล้วศรีคงกินไม่ได้นอนไม่หลับไปอีกนาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×